พระเครื่องบ้านๆ ราคาเบาๆครับ ภาค 3 ส่งฟรีทุกรายการ (สารบัญพระอยู่หน้าแรกนะครับ)

รายการที่ 823 (คุณ wangbao บูชาแล้วครับ)
พระสมเด็จข้าวก้นบาตรพิมพ์ใหญ่
รุ่นร่มเย็น เป็นสุข รวย รวย รวย พ.ศ.2553
หลวงปู่คำบุ คุตฺตจิตฺโต วัดกุดชมภู จ.อุบลราชธานี




"หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต" เป็นพระสงฆ์ที่เล่าขานกันว่าทรงคุณพุทธาคมเข้มขลัง แห่งวัดกุดชมภู ต.กุดชมภู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ท่านเป็นศิษย์สายตรงของพระครูวิโรจน์รัตโนมล (หลวงปู่รอด นันตโร) แห่งวัดทุ่งศรีเมือง และอดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี พระเกจิอาจารย์ผู้มีความเข้มขลังมีพลังจิตสูง พระภิกษุคำบุได้ศึกษาศาสตร์วิชาต่างๆ จากตำราจนมีความชำนาญแตกฉาน จึงออกเดินจารึกธุดงค์เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ ได้มีโอกาสร่ำเรียนสายวิชาวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาคมต่างๆ ในสายของท่านสำเร็จลุน แห่งวัดเวิ่นไชย เมืองปาเซ นครจำปาสัก พระผู้ทรงอภิญญา นอกจากการศึกษาวิชาทางด้านวิปัสสนากรรมฐานแล้ว สรรพวิชาอาคมทุกแขนง หลวงปู่คำบุท่านก็มีความชำนาญและได้หมั่นศึกษาฝึกฝนอยู่เป็นประจำ ตามคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ ปัจจุบัน หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต วัดกุดชมภู มีอายุถึง 86 ปี แต่ยังคงให้ความเมตตาศิษยานุศิษย์อย่างสม่ำเสมอ ในทุกวันอังคาร เสาร์ และอาทิตย์ ท่านจะประกอบพิธีลงเหล็กจารอักขระธรรมอักษรลาว ลงบนแผ่นหลังของบรรดาลูกศิษย์ที่เดินทางมาจากสถานที่ต่างๆ ด้วยความเมตตา

พระครูพิบูลนวกิจ หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต วัดกุดชมภู มรภาพด้วยอาการสงบ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา14:51 นาที ณ.โรงพยาบาลศิริราช สิริอายุได้91ปี คณะศิษยานุศิษย์จะเคลื่อนสรีระสังขารหลวงปู่ออกจากโรงพยาบาลศิริราชในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09.00 น. ไปยังวัดวิหารเจดีย์ศรีชมพู (วัดกุดชมภู) อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

ด้านหลังมีโค๊ต + หมายเลขประจำองค์พระ หรือโค้ด กก. (กรรมการ) ฝั่งหัวนะ โรยมวลสาร สายสินญ์จีวรสายไหม จำนวนการสร้าง ๒,๕๕๒ องค์ พระสภาพสวยมาก กล่องเดิมๆ

มวลสารพระผงสมเด็จ :
- ข้าวก้นบาตรหลวงปู่คำบุเสก
- ผงเขียนลบตามสูตรโบราณ ( หลวงปู่เขียนเอง )
- ผงดินจากปูชนียสถานสี่แห่ง
- ผงดินหน้าโบถ์วัดกุดชมภู
- ผงพัทสีมาวัดกุดชมภู
- ผงมหาว่าน ๑๐๘
- ผงไม้มงคล ๙ อย่าง
- ผงดอกไม้ธูปเทียนที่หลวงปู่บูชาพระพุทธ
- ชานหมาก
- จีวร
- เกศา
- เล็บมือเล็บเท้าหลวงปู่
- เทียนชัย
- สีผึ้ง
- ผงสมเด็จพระบางขุนพรหม ๐๙
- ผงจูงนาง
- ผงหางช้างเผือก
- ผงนิลเก่า
- ไม้รักตายพันธ์
- ผงปัทมัง
- ผงกระเบื้องหลังคาโบถ์
- ผงรังนกสาลิกา
- เม็ดพระธาตุสีวลี
- เม็ดข้าวสารหินพันปี
หลวงปู่ได้ผูกยันต์ ด้านหลังสมเด็จด้วยตัวท่านเอง ให้ใช้ยันต์ที่ท่านเขียนนำมาไว้ที่ด้านหลังสมเด็จและจารแผ่นทองแผ่นเงินแผ่นทองแดง ทำเป็นตะกรุดฝั่งที่ด้านหลังสมเด็จและก็ยังกดพิมพ์เองอีก



สรรพคุณ พระสมเด็จ หลวงปู่บอกว่าใช้ดี ในด้านโชคลาภเป็นหลัก มีกินมีใช้ อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข เหมาะกับสถานะการเมืองเมืองในตอนนี้ ซึ่งบ้านเมืองในตอนนี้ทุกคนลำบากมากทำอะไรก็ติดขัด เงินทองหายากมาก หลวงปู่ท่านก็เลยทำของดีมาให้ใช้ โดยการนำข้าวก้นบาตรที่หลวงปู่เสกมาผสมกับเนื้อพระสมเด็จในครั้งนี้นั้น หลวงปู่บอกว่า ข้าวก็คือความหมายของความอุดมสมบูณ์ มี กินมีใช้ ร่ำรวยเงินทอง และมวลสารอื่น ๆ ที่นำมาผสมในครั้งนี้ก็เป็นสิ่งของที่เป็นมงคลอยู่ในตัวเองอยู่แล้วเมื่อนำ มาเสกอีกที่โดยหลวงปู่ก็จะเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์เข้าไปอีก
จึงทำให้มีอนุ ภาพเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ที่นำพระผงสมเด็จไปใช้นั้น ก็จะทำให้มีกิน มีใช้ มีโชคมีลาภ แคล้วคลาดปลอดภัยไม่มีโรคภัยไขเจ็บ ร่างกายแข็งแรง คิดการสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข แต่หลวง ปู่ยังบอกอีกว่าการที่จะใช้ของให้ดีนั้น เราต้องศรัทธาก่อนและต้องเป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดี ของจึงจะใช้ได้ดีตามที่ใจเราศรัทธาด้วย แล้วก็ยิ้ม

ออฟชั่นด้านหลังจัดเต็ม
แบ่งบูชา 149 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ

 

รายการที่ 824 (ปิดรายการ)
พระสิวลีหลังพระสังกัจจายน์ พ.ศ.2560 (องค์ที่ 3)
เนื้อผงพุทธคุณ ผสมผงพระเก่าหลวงพ่อกวย
รุ่นแรงครู ครบรอบชาตะกาล หลวงพ่อกวย 112 ปี




วาระที่ 1 วันที่2พฤศจิกายน 2560 พิธีบวงสรวงบอกกล่าว หลวงพ่อกวย พร้อมทั้งนำบล็อคทุกพิมพ์เข้าพิธีนี้ รวมทั้งได้มีการหล่อนำฤกษ์รวมถึงปั๊มพระผงนำฤกษ์และเจิมบล็อคทุกบล็อค ณ ลานพิธีกลางลาน วัดโฆสิตาราม(ข้างโบสถ์) จ.ชัยนาท โดยมีพราหมณ์บวงสรวงบอกกล่าวอย่างถูกต้อง และมีพระเถราจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิตสี่รูป รวมถึงท่านผู้ว่าราชการจังหวัด จ.ชัยนาท มาเป็นประธานฝ่ายฆราวาส เจ้าคณะภาค 3 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และบรรดาผู้คร่ำหวอดในวงการพระเครื่องสายหลวงพ่อกวยเข้าร่วมพิธีกับประชาชนต่างๆด้วย และมีการสวดมนต์พระคาถาต่างๆระหว่างประกอบพิธีด้วยครับ

วาระที่ 2 พิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2560 ณ มณฑปหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม โดยพระเถราจารย์ผู้เรืองเวทย์วิทยาคมหลากหลายสายวิชาแห่งยุคปัจจุบันร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกอย่างเข้มขลัง อาทิ

๑.หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ จังหวัดชัยนาท (ศิษย์หลวงพ่อกวยโดยตรง)
๒.หลวงพ่อวิชา วัดศรีมณีวรรณ จังหวัดชัยนาท (สายวิชาหลวงพ่อทบ วัดชนแดน/หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน)
๓.หลวงพ่อมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ จังหวัดสมุทรสงคราม (สายวิชาหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว)
๔.หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน จังหวัดกาญจนบุรี (สายวิชาหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค)
๕.ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จังหวัดลำพูน (สายวิชาครูบาศรีวิชัย วัดบ้านปาง)
๖.หลวงพ่อปืน วัดลาดชะโด จังหวัดอยุธยา (สายวิชาหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติฯ)
๗.หลวงพ่อชุบ วัดวังกระแจะ (สายวิชาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า)
๘.หลวงพ่อสุชาติ วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม (สายวิชาหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี)
๙.พระอาจารย์สำราญ วัดสง่างาม จังหวัดอยุธยา (สายวิชาหลวงปู่จง วัดหน้าต่างนอก)
๑๐.หลวงพ่อเหลือ วัดขอนชะโงก จังหวัดสระบุรี (สายวิชาวัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา)
๑๑.หลวงพ่ออุดมโชค วัดเวฬุวัน จังหวัดศรีษะเกษ (สายวิชาหลวงปู่ละมัย สำนักสงฆ์สวนป่าสมุนไพร)
๑๒.หลวงพ่อปัญญา วัดใหม่บำเพ็ญบุญ จังหวัดชัยนาท (สายวิชาหลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ)
๑๓.หลวงพ่อสำอางค์ วัดบางพระ จังหวัดนครปฐม (สายวิชาหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ)
๑๔.หลวงพ่อสาน วัดกลางบางแก้ว จังหวัดนครปฐม (สายวิชาหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว)
๑๕.หลวงพ่อติ๋ว วัดมณีชลขันธ์ จังหวัดลพบุรี (สายวิชาหลวงปู่ดู่/หลวงปู่สี วัดสะแก)
๑๖.หลวงพ่อสมศักดิ์ วัดสระเปรียญ จังหวัดชัยนาท (สายวิชาหลวงพ่อเย็น วัดสระเปรียญ)
๑๗.หลวงปู่ฤาษีตาไฟ วัดเทพหิรัญย์ จังหวัดชัยนาท
๑๘.หลวงพ่อกำจัด วัดป่าสัก จังหวัดชัยนาท ฯลฯ

หลังเสร็จพิธีพุทธาภิเษก พระเถรานุเถระทุกรูปต่างกล่าวเหมือนกันหมดว่า "หลวงพ่อกวยท่านได้มาร่วมเสกวัตถุมงคลของท่านด้วยองค์ท่านเอง" และ "พระชุดนี้มีพุทธานุภาพครบทุกด้าน ครอบจักรวาล ดั่งวัตถุมงคลรุ่นเก่าของหลวงพ่อกวย" หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน เมตตาเป็นประธานดับเทียนชัยวัตถุมงคล รุ่น"แรงครู" เป็นครั้งประวัติศาสตร์.



**********************************

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของพระรุ่นนี้โดย หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน

ถาม : วัตถุมงคลหลวงพ่อกวยรุ่นแรงครูที่พระอาจารย์ไปร่วมพุทธาภิเษก มีข้อห้ามเช่นเดียวกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อกวยด้วยหรือไม่ครับ หากละเมิดข้อห้ามแล้ว ต้องอาราธนาใหม่หรือไม่และอย่างไรครับ?
ตอบ : วัตถุมงคลของหลวงพ่อกวยมาด้านไสยศาสตร์ ปกติแล้วห้ามลอดที่ต่ำ แต่ของหลวงพ่อกวยท่านห้ามด่าแม่อย่างเดียว เพราะท่านรู้ว่าลูกศิษย์ของท่านไม่ค่อยจะฟังใครหรอก ด่าไปหมด เพราะฉะนั้น...โกรธคนอื่นเท่าไรก็ห้ามด่าแม่

ถาม : วัตถุมงคลหลวงพ่อกวยรุ่นแรงครูที่พระอาจารย์ไปร่วมพุทธาภิเษก มีข้อห้ามเช่นเดียวกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อกวยด้วยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ต้องไปถามหลวงพ่อเจ้าคุณพระสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะเจ้าจังหวัดชัยนาท เพราะว่าท่านเป็นต้นเรื่องในการสร้าง เพียงแต่ว่าสิ่งที่สร้างตั้งเอาหลวงพ่อกวยเป็นใหญ่ เราก็ถือเอาข้อห้ามของท่านเป็นหลักตามไปด้วยก็แล้วกัน

ถาม : หากละเมิดข้อห้ามแล้ว ต้องอาราธนาใหม่หรือไม่และอย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าละเมิดข้อห้าม ท่านก็เลิกคุ้มครองตอนนั้น รักษากำลังใจได้ใหม่ก็คุ้มครองใหม่

แบ่งบูชา 249 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ

 

หลังไมค์มาจอง ขอบคุณมากครับผม

 

17/10/2563
รายการจัดส่งวันนี้

- คุณ ชัจจ์ชนันต์ ED287752222TH

ขอบคุณครับผม

 

รายการที่ 825 (คุณ songsakth บูชาแล้วครับ)
พระนางพญากวักเนื้อชนวน
หลวงพ่อขันติ ขันติธโร วัดพระเจ้าศรีสัมฤทธิ์ จ.เชียงราย




พระนางพญากวัก เนื้อชนวน หล่อนำฤกษ์(ก่อน) สี่หูห้าตา พระอินทร์แปลง หลังยันต์นะนางกวัก หน้าก็กวัก หลังก็กวัก เข้าพิธีพุทธาภิเษกเทวาสมโภช 2 ครั้งใหญ่

ครั้งที่ 1 ณ วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน วันที่ 7 กพ พ.ศ.2563มีท่านครูบากฤษดา สุเมโธ, หลวงปู่บุญส่ง และหลวงพ่อขันติ ร่วมกันอธิษฐานจิต



ครั้งที่ 2 ณ วัดพระเจ้าศรีสัมฤทธิ์ เมื่อวันที่ 8 กพ พ.ศ.2563 ในพิธีมีวัตถุมงคล พระเจ้าแผ่นดินเย็น-พระเจ้าเพ็ชร-พระกริ่งศรีเชียงราย-พระนางพญากวัก-พระอินทร์แปลงสี่หูห้าตา ฯลฯ อย่างเข้มขลัง ตามแบบวิชาเทียนพิธีพุทธาภิเษก เอกลักษณ์แบบตำราหลวงพ่อขันติ



หลังเสร็จพิธีหลวงพ่อนำมาเสกปิดอีกครั้งในวันวิสาขบูชา 2563 ที่ผ่านมา เป็นอันครบถ้วนเสร็จสมบูรณ์

จำนวนจัดสร้างรวม 1,500 องค์
แบ่งบูชา 249 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ

 

รายการที่ 826 (ปิดรายการ)
เหรียญพญาเต่าเรือน รุ่นรวยทันใจ (เหรียญที่ 2)
เนื้อทองแดงผิวรุ้ง โค๊ดหมายเลข ๙๙๖
หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์




หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม วัดห้วยด้วน (ธารทหาร)
อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์
ผู้สืบทอดพุทธาคมจาก...
หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล (เป็นเหลนแท้ๆ)
ผ่านหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
หลวงพ่ออิน วัดหางน้ำสาคร
หลวงพ่อหมึก วัดสระทะเล (เป็นหลาน)
หลวงพ่อโหมด วัดโคกเดื่อ



คำทำนายของหลวงพ่อเทศ..
หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล ท่านเป็นพระวิปัสสนากรรมฐานมีอภิญญาญาณแก่กล้า มีหูทิพย์ตาทิพย์ หยั่งรู้อดีตกาลและอนาคต วิชาอาคมแก่กล้าเป็นที่เลื่องลือมาช้านาน เป็นพระอาจารย์ใหญ่แห่งเมืองปากน้ำโพที่มีลูกศิษย์ลูกหามีชื่อเสียงโด่งดังมากมาย เช่น หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่ออิน วัดหางน้ำสาคร หลวงพ่อโหมด วัดโคกเดื่อ หลวงพ่อหมึกวัดสระทะเล เป็นต้น..
มีเรื่องเล่าขาลถึงตอนกอนที่หลวงพ่อเทศจะมรณภาพว่า หลวงพ่อเทศได้สั่งให้หลวงพ่อเดิม หลวงพ่ออินและหลวงพ่อหมึกว่า.. ในปีจอถัดไปจะมีลูกหลานของท่านมาเกิด มาเพื่อรับใช้พระพุทธศาสนาไปจนตลอดอายุขัย ลูกหลานคนนี้จะมาสืบทอดกรรมฐานและพุทธาคมที่ท่านได้ถ่ายทอดเอาไว้ ขอให้ลูกศิษย์ทุกคนช่วยกันอบรมสั่งสอนถ่ายทอดวิชากรรมฐานและพุทธาคมให้ด้วย..เมื่อลูกศิษย์ทั้งหลายได้ฟังก็ตั้งตารอคอยว่าจะมีเด็กคนใดในตระกูลของหลวงพ่อเทศเกิดขึ้นมาตามที่หลวงพ่อเทศได้ทำนายไว้บ้าง

กำเนิดเด็กชายพัฒน์...
กระทั่งวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2465 ครอบครัวหลานหลวงพ่อเทศที่ชื่อ นายพุฒ ก้อนจันเทศ และนางแก้ว นามสกุลเดิม(ฟุ้งสุข) ซึ่งอยู่ที่หมู่ 7 บ้านสระทะเล ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ได้คลอดบุตรคนหนึ่งออกมาและได้ตั้งชื่อให้ว่าเด็กชายพัฒน์.. เจ้าอาวาสวัดสระทะเล(ต่อจากหลวงปู่เทศ)ผู้เป็นลุงได้ทราบข่าวจึงรู้ได้ทันทีว่าหลานชายคนนี้คือลูกหลานคนที่หลวงพ่อเทศได้สั่งไว้ เพราะเกิดในปีจอตามที่หลวงพ่อเทศบอก จึงรีบส่งข่าวไปยังหลวงพ่ออิน หลวงพ่อเดิม ทันที..!!! เมื่อพระเกจิทั้งสามรูปได้ทราบข่าวแล้วก็ได้แต่เฝ้ารอเวลาที่เหมาะสมจะปฏิบัติตามคำสั่งเสียของหลวงพ่อเทศผู้เป็นอาจารย์ โดยตกลงกันว่า หลวงพ่อหมึก วัดสระทะเลผู้เป็นหลวงลุงแท้ๆของเด็กชายพัฒน์และหลวงพ่ออินซึ่งสนิดสนมกับครอบครัวของเด็กชายพัฒน์ (ครอบครัวของเด็กชายพัฒน์เป็นคนส่งปิ่นโตถวายให้หลวงพ่ออินระหว่างที่หลวงพ่ออินมาเรียนกรรมฐานและวิชาอาคมกับหลวงพ่อเทศ) จะเป็นผู้สอนกรรมฐานและวิชาอาคมพื้นฐานให้ ส่วนหลวงพ่อเดิมจะเป็นผู้ถ่ายทอดพุทธาคมชั้นสูงรวมถึงวิชามีดหมออันโด่งดังให้กับเด็กชายพัฒน์ด้วยตนเอง...

เรียนวิชาภาษาไทย-ขอม วิปัสสนากรรมฐานและอาคมเบื้องต้น..
ต่อมาเมื่อเด็กชายพัฒน์เติบโตขึ้นจนอายุได้ 5 ขวบ ขณะนั้นทางบ้านสระทะเลได้เกิดภัยแล้งขึ้น ทำให้ครอบครัวของเด็กชายพัฒน์ ต้องอพยพไปทำนาที่บ้านหนองเนิน อ.ท่าตะโก ซึ่งชาวบ้านแทบทั้งหมดเป็นไทยทรงดำ ครอบครัวของเด็กชายพัฒทำนาอยู่ที่นั่นได้เพียง 3 ปี อยู่ๆไม่รู้นายพุฒ(บิดาของเด็กชายพัฒน์)คิดอย่างไรจึงย้ายมาทำนาที่บ้านหนองหลวง ..หรือเป็นเพราะชะตาฟ้าลิขิต..!!! ให้เป็นดังคำกลาวของหลวงพ่อเทศ เนื่องจากในเวลานั้นหลวงพ่อเดิมและหลวงพ่ออินได้นำช้างทั้งเจ้าคูณและนางบัวบานมาร่วมกันสร้างเสนาสนะให้วัดหนองหลวงอยู่พอดี เมื่อหลวงพ่อเดิมรู้ว่าเด็กชายพัฒน์มาอยู่ที่บ้านหนองหลวงจึงขอให้หลวงพ่ออิน(หลวงพ่ออินเป็นศิษย์ผู้น้องหลวงพ่อเดิม) ซึ่งสนิทกับครอบครัวของเด็กชายพัฒน์ ไปขอเด็กชายพัฒน์มาเป็นลูกศิษย์อยู่ที่วัดหนองหลวง เหตุนี้เองที่ทำให้เด็กชายพัฒน์ได้ใกล่ชิดกับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ โดยหลวงพ่อเดิมมักจะเรียกเด็กชายพัฒน์ไปบีบนวดและสอนคาถาสั้นๆให้ท่องจำเสมอๆจนคุ้นเคยกัน...กระทั่งศาลาวัดหนองหลวงเสร็จหลวงพ่อเดิมจึงกลับไปยังวัดหนองโพ ปล่อยให้หลวงพ่ออินอยู่สร้างวัดหนองหลวงต่ออีกหลายปีจนเสร็จ.. ระหว่างนี้เด็กชายพัฒน์ได้ร่ำเรียนเขียนอ่านภาษาไทยและภาษาขอมกับหลวงอาน้อยและหัดนั่งสมาธิกับหลวงพ่ออิน เมื่อหลวงพ่ออินสร้างวัดหนองหลวงเสร็จแล้วท่านก็ได้กลับไปอยู่ที่วัดหางน้ำสาคร ส่วนครอบครัวของเด็กชายพัฒน์ได้กลับมาอยู่ที่บ้านสระทะเลตามเดิม ขณะนั้นเด็กชายพัฒน์อายุได้ 12 ปี จึงได้ย้ายกลับมาเรียนหนัวสือที่โรงเรียนวัดสระทะเลจนจบประถมชั้นประถม 4 ก่อนที่พ่อและแม่จะให้ออกมาช่วยทำนา แต่ถึงกระนั้นด้วยความที่ฟ้าได้ลิขิตมาให้เด็กชายพัฒน์ต้องเติบโตขึ้นมาเป็นครูบาอาจารย์ผู้สืบทอดวิชากรรมฐานและพุทธาคมของหลวงพ่อเทศ จึงทำให้เด็กชายพัฒน์มีความชื่นชอบในทางพระ ฝักใฝ่ในกรรมฐานและพุทธาคมอยู่เสมอ พอมีเวลาว่างจากการช่วยพ่อแม่ทำไรทำนา เด็กชายพัฒน์ก็มักชอบไปอยู่กับหลวงลุงหมึกเพื่อเรียนกรรมฐานและวิชาอาคมทุกครั้งไป..ทั้งๆที่เด็กหนุ่มๆในวัยนั้นทุกคนมักจะสนใจแต่สาวๆ แต่เด็กหนุมอย่างนายพัฒน์กลับคิดอยากจะบวชเป็นพระ ในขณะที่หลวงลุงหมึกได้ลาศิกขาจากพระมาเป็นอาจารย์ฆราวาส..
รับใช้ชาติ พออายุครบเกณฑ์ทหารนายพัฒน์ได้ถูกคัดเลือกเข้าไปเป็นทหาร แต่ขณะที่จะหมดวาระปลดจากทหารเกณฑ์กลับเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา (สงครามโลกครั้งที่2) ขึ้นเสียก่อน จึงทำให้นายพัฒน์ต้องเป็นทหารต่อไปจนอายุได้ 24 ปี ระหว่างที่เป็นทหารอยู่นั้น..
พลทหารพัฒน์ได้ใช้วิชาอาคมที่ร่ำเรียนมาคุ้มครองป้องกันตัวอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้พลทหารพัฒน์รอดพ้นจากภัยสงครามมาอย่างปรอดภัยครบ32ประการอย่างน่าพิศวง ในขณะที่เพื่อนๆทหารหลายคนที่ออกรบด้วยกัน ต่างพิการบ้าง เสียชีวิตก็เยอะ แต่พลทหารพัฒน์กลับรอดพ้นภัยมาได้ทุกครั้งไปอย่างน่าอัศจรรย์ ..

อุปสมบทเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์..
เมื่อนายพัฒน์ปลดประจำการจากทหารออกมาในต้นปี พ.ศ.2489 นายพัฒน์ได้ขออนุญาตพ่อแม่ว่าอยากไปบวชเป็นพระ พ่อแม่ก็เห็นด้วยจึงให้ทำการอุปสมบท ณ อุโบสถวัดสระทะเล ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี โดยมีพระธรรมไตรโลกาจารย์(หลวงพ่อยอด ศิษย์หลวงพ่อเทศอีกหนึ่งรูป )วัดเขาแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงกัน วัดเขาแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการชั๊ว วัดสระทะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อบวชแล้วพระพัฒน์ก็ได้เริ่มเรียนนักธรรมตรีและโทไปได้สักระยะ โดยระหว่างนั้นหลวงพ่อเดิมได้ไปสร้างเสนาสนะและโบสถ์อยู่ที่วัดอินทราราม (วัดของหลวงพ่อแก้ว พระอุปัชฌาของหลวงพ่อเดิม อยู่ติดกับวัดเขาแก้วโดยมีเพียงถนนกั้น) เมื่อหลวงพ่อเดิมรู้ว่านายพัฒน์บวชเป็นพระพัฒน์แล้ว หลวงพ่อเดิมจึงให้คนมาตามพระพัฒน์ไปเรียนพุทธาคมกับท่าน เมื่อพระพัฒน์ไปพบกับหลวงพ่อเดิมที่วัดอินทรารามหลวงพ่อเดิมก็เริ่มถ่ายทอดกรรมฐานและพุทธาคมให้พระพัฒน์โดยให้พระพัฒน์ไปจำวัดอยู่ที่วัดเขาแก้วกับหลวงพ่อกัน เพราะขณะนั้นวัดอินทรารามกำลังซ่อมสร้างเสนาสนะอยู่จึงไม่สะดวกในการพัก ในช่วงเวลานี้เองที่พระพัฒน์ต้องเดินไปๆมาๆระหว่างวัดเขาแก้วกับวัดอินทรารามโดยไปเช้าเย็นกลับเพื่อไปเรียนกับหลวงพ่อเดิม บางครั้งก็พักค้างแรมกับหลวงพ่อเดิมที่วัดอินทรารามเป็นเวลาหลายๆวันก็มี จนเวลาร่วงเลยไปเกือบสองพรรษาพระพัฒจึงเรียนวิชากับหลวงพ่อเดิมจนจบ..
หลังจากหลวงพ่อเดิมได้สร้างเสนาสนะให้วัดอินทรารามเสร็จแล้ว ท่านก็กลับไปยังวัดหนองโพได้ไม่นาน หลวงพ่อเดิมก็ถึงแก่มรณภาพ ในวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2494 …

ออกเดินธุดงค์แสวงหาสัจธรรม..
เมื่อพระพัฒน์ได้ร่ำเรียนวิชาของหลวงพ่อเทศผ่านหลวงพ่อเดิมแล้ว ก็ได้ฝึกฝนท่องบ่นภาวนาจนช่ำชองจนปฏิบัติได้เห็นผลจริงแล้ว ก็ได้ออกเดินธุดงค์เสาะแสวงหาสถานที่สงบเพื่อฝึกฝนวิชากรรมฐานฝึกญาณสมาธิให้แก่กล้า ไปยังที่ต่างๆนาๆ ทั้งดินเดนอันลีลับอัศจรรย์ เช่นเมืองลับแล เมืองตาชูชก และอื่นๆ ขณะที่หลวงพ่อพัฒน์เดินธุดงค์ไปยังเมืองลับแล ท่านได้ไปพักกับหลวงพ่อชุบ เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จ.อุตรดิตถ์ และหลวงพ่อชุบ ยังได้ถ่ายทอดวิชาทางเมตตามหานิยมให้หลวงพ่อพัฒน์ และขอให้ท่านเป็นพระคู่เทศน์ ปุจฉา วิสัชนา คู่กับท่าน
เป็นระยะเวลาอีก 3 ปี ขณะที่หลวงพ่อพัฒน์อยู่ที่วัดบรมธาตุทุ่งยังนั้นท่านได้สนใจค้นคว้าค้นหาบ่อน้ำทิพย์เมืองลับแลที่มีกล่าวไว้ในตำราตีมีดของสำนักวัดเขาแก้ว และในที่สุดหลวงพ่อพัฒก็ได้ค้นพบบ่อน้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์นั้นและความลี้ลับต่างๆมากมาย.. เมื่อถึงเวลาอันสมควรหลวงพ่อพัฒน์จึงได้ขอลาหลวงพ่อชุบกลับวัดสระทะเล แต่หลวงพ่อชุบกลับขอให้ท่านอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งแทนท่านอีก 3 ปี เพราะหลวงพ่อชุบท่านจะย้ายไปพัฒนาวัดพระยืนพุทธบาทยุคคลก่อน พลวงพ่อพัฒน์จึงต้องอยู่ดูแลวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งต่อไปอีก 3 ปี รวมเป็น 6 ปี จึงได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสระทะเลอีก 9 พรรษา ขณะนั้นโยมพ่อโยมแม่ของท่านได้พาครอบครัวย้ายมาซื้อที่ดินทำนาอยู่แถวบ้านห้วยด้วน(ธารทหาร) ต.ธารทหาร อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เมื่อกำนันผล กำนันตำบลธารทหารทราบเรื่องจึงขอให้โยมพ่อโยมแม่ของพระอาจารย์พัฒน์ช่วยกันอารธนาพระอาจารย์พัฒน์ มาอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดธารทหาร เพื่อสร้างพระอุโบสถให้แล้วเสร็จ เพราะทราบกันดีว่าหลวงพ่อพัฒน์เป็นผู้สืบทอดกรรมฐานและวิชาอาคมของหลวงพ่อเทศ หลวงพ่อเดิม จึงหวังพึ่งบารมีของท่านให้มาช่วยพัฒนาวัด เมื่อกำนันผลและโยมพ่อโยมแม่ของหลวงพ่อพัฒน์ตลอดจนถึงชาวบ้านเดินทางมาอารธนาท่านแล้ว หลวงพ่อพัฒน์ก็ตอบตกลง และย้ายมาพัฒนาวัดธารทหาร(ห้วยด้วน) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 เป็นต้นมา จากนั้นท่านก็ไม่ได้ย้ายไปอยู่วัดอื่นอีกเลย ตราบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้..



ขณะนี้ หลวงปู่พัฒน์ ปุญญกาโม ศิริอายุได้ 96 ปี 73 พรรษา ปัจจุบันนี้สุขภาพร่างกายท่านยังคงแข็งแรง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ชาวหนองบัวและชาวบ้านใกล้เคียงตลอดมา

เนื้อนี้สร้างน้อยเพียง 999 เหรียญ หลวงพ่อกำลังมาแรง
แบ่งบูชา 199 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ

 

รายการจัดส่งวันนี้ครับ
18/10/2563

- คุณ พัฒนา RI114334165TH
- คุณ ณรงศักดิ์ RI114334179TH

ขอบคุณมากครับผม

 

หลังไมค์มาจองแล้ว ขอบคุณครับผม

 

รายการที่ 827 (คุณ lookpras บูชาแล้วครับ)
เบี้ยแก้ตะกรุดเงิน รุ่นแรกและรุ่นเดียว (ตัวที่ 6)
รุ่นสุริยุปราคา 24 ต.ค. 2538
หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง




วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2538 เกิดสุริยุปราคาเต็มดวง คณะกรรมการและศิษย์ยานุศิษย์เห็นว่าเป็นวันสำคัญยิ่ง จึงได้ปรึกษาหลวงพ่อเกษมว่าควรจัดสร้างวัตถุมงคล ( เครื่องราง ) ขึ้น ซึ่งหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ได้เมตตาอนุญาต อธิฐานจิตปลุกเสกให้ในวันที่ 24 ตุลาคม 2538 ฤกษ์มหาอำนาจ เวลา 09.09.53 น. ณ สุสานไตรลักษณ์ประตูม้า นับเป็นเครื่องรางอันทรงคุณค่ายิ่ง และเป็นการจัดสร้างในวาระพิเศษครั้งแรกและครั้งเดียวโดยสุดยอดเกจิชั้นนำของเมืองไทย เพื่อป้องกันการถูกกระทำด้วยสิ่งที่ไม่ดีทางไสยศาสตร์ และใช้บูชาคุ้มครองหนุนดวง



หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระสายวิปัสสนากรรมฐาน ไม่ยึดติดแม้แต่สถานที่ ท่านได้ปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ตลอดชนชีพ เป็นพระที่เป็นที่เคารพสักการะของคนในจังหวัดลำปางและทั่วประเทศ ท่านปฏิบัติศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยไม่ ติดยึดในกิเลสทั้งปวง หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้ถึงแก่พิราลัย ณ ห้องไอซียู โรงพยาบาลลำปาง จังหวัดลำปาง เมื่อเวลา 19.40 น. ของวันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2539 ซึ่งตรงกับวันแรม 11 ค่ำ เดือน 2 ยังความอาลัยเศร้าโศกเสียใจมายังหมู่สานุศิษย์ทั่วประเทศ แต่ธรรมะและวัตถุมงคลของท่านยังเชื่อถือและเล่นหากันอย่างต่อเนื่อง คุ้มครองตัวได้ครับ

สภาพสวย ปรอทวิ่งดีครับ
แบ่งบูชา 349 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ

 

รายการที่ 828 (ปิดรายการ)
เหรียญทำน้ำมนต์รุ่นสอง พิมพ์สมเด็จองค์ปฐมเนื้อทองแดง (พิมพ์เล็ก) (องค์ที่ 6)
หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด




หลวงปู่ศรี มหาวีโร พระผู้มีบารมีมาก แห่งภาคอีสาน ท่านเป็นพระอริยเจ้าระดับสูงอีกรูปหนึ่ง วัตถุมงคลของท่านมีอานุภาพสามารถทำน้ำมนต์รักษาโรค แก้และกันสิ่งไม่ดีได้ชะงัด ประสบการณ์ของพระเครื่องของท่านมีมากมาย ปัจจุบันแม้ท่านจะมรณภาพไปแล้วแต่ชื่อเสียงคุณธรรมของท่านไม่ได้หายไปเลย มีแต่พระเครื่องของท่านที่จะมีมูลค่าแพงมากขึ้นเรื่อยๆ พระเครื่องของหลวงปู่ศรี เป็นอีกหนึ่งพระเครื่องที่ผมเลือกอาราธนาขึ้นคอเพราะประสบการณ์ดีจริงๆ เมตตา แคล้วคลาด โชคลาภ เยี่ยมมากครับ

รุ่นทำน้ำมนต์จัดสร้างและอธิษฐานจิตสองครั้ง และอธิษฐานจิตโดย หลวงปู่ศรี มหาวีโร ทั้งหมด โดยคณะผู้จัดสร้างได้นำเหรียญทำน้ำมนต์ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วางไว้ด้านบนคล้ายเป็นหัวเชื้อพลังงาน และขอความเมตตาหลวงปู่ศรีท่านได้อธิษฐานจิตถ่ายโอนพลังงานของเหรียญทำน้ำมนต์หลวงพ่อฤาษีลิงดำมาสู่เหรียญนี้ทั้งหมด

จัดสร้างครั้งแรก เดือนมีนาคม 2552 เป็นเหรียญพิมพ์สิกขี เนื้อทองแดงอย่างเดียว 1 แสนเหรียญ และเนื้อผงพิมพ์สิกขาด้านหลังฝังพระธาตุข้าวบิณฑ์ และพระธาตุสีแดง รวมกันประมาณ 1 แสนองค์

ครั้งที่สอง เดือนพฤศจิกายน 2552 เป็นเหรียญทำน้ำมนต์พิมพ์สิกขีองค์เล็กรูปไข่ มีเหรียญเนื้อเงิน 200 เหรียญ เนื้อเหล็กน้ำพี้ 100 เหรียญ เนื้อทองแดงมีห่วง 50,000 เหรียญ และเนื้อทองแดงหมดห่วงประมาณ 150,000 เหรียญ



เคยมีเพื่อนสมาชิกนำเหรียญรุ่นนี้ไปถ่ายด้วยกล้องจับพลังออร่าผลปรากฎว่า "พลังซ้อนพลัง เหลือง กลายเป็น เหลือง เหลืองอมเขียว เหลืองอมส้ม เหลืองอมแดง เหลืองอมขาวพลังงานคลุมเต็มพื้นที่ เอาอะไรก็อธิษฐานเอา ทั้งกันและแก้ อีกทั้งลาภ"

แถมภาพถ่ายขนาด 1 นิ้ว 1 ใบครับ (ทันหลวงปู่เสก)
แบ่งบูชา 249 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียน

 

หลังไมค์มาจอง ขอบคุณครับผม

 

รายการจัดส่งพระวันนี้
26/10/2563

- คุณ พัฒนา ED287764662TH

ขอบคุณครับผม

 

รายการที่ 829 (ปิดรายการ)
ตะกรุดนะผ่านตลอด ขนาด 6.5 ซม จารมือ (ดอกที่ 3)
หลวงพ่อกันภัย วัดดอนศาลา จ.พัทลุง




หลวงพ่อกันภัย ทายาทพระอาจารย์นำและพระอาจารย์ศรีเงิน แห่งวัดดอนศาลา จ.พัทลุง ท่านดังเงียบๆในพื้นที่ มีลูกศิษย์ลูกหาจากต่างประเทศเช่นมาเลเซีย ฮ่องกง ขึ้นกับท่านมากครับ

วัดดอนศาลา ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 3 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง อยู่ห่างจากตัวอำเภอไปตามถนนสายควนขนุน-ทะเลน้อย ประมาณ 4 ก.ม. มีทางแยกเข้าวัดประมาณ 2 ก.ม. เป็นวัดโบราณคู่กับวัดเขาอ้อ ห่างกันเพียงแค่ 3 ก.ม. ในปีนี้ วัดดอนศาลา ซึ่งเป็นสำนักตักศิลาร่วมสายของสำนักวัดเขาอ้อ จ.พัทลุง



ในบรรดาอักขระเลขยันต์ ของเหล่าเกจิอาจารย์ ทั้งอดีตและปัจจุบัน ยันต์ "นะ" ถือว่ามีการเขียนในรูปแบบต่างๆ มีชื่อและมีพุทธคุณต่างกันมากที่สุด อาจกล่าวได้ว่า "ยันต์นะ เป็นยันต์ตัวเดียวที่มีพุทธคุณดีทุกด้าน หรือมีพุทธคุณครอบจักรวาล" นั่นเอง โดยเฉพาะ นะ ๑๐๘ นอกจากนี้แล้ว ยันต์นะ ๑๐๘ ปถมัง ๑๔ นะ เกจิอาจารย์ และนักสร้างพระยุคปัจจุบัน ยังใช้จารแผ่นโลหะ เป็นส่วนผสมในการหล่อพระอีกด้วย จึงอยากแนะนำพระสงฆ์ที่มีความสนใจเรื่องอักขระเลขยันต์ ไม่ต้องศึกษายันต์อื่นๆ ให้ศึกษาและหัดเขียนเฉพาะยันต์นะทั้งหมด ก็สามารถนำไปสร้างวัตถุมงคลแจกจ่ายลูกศิษย์ได้

แบ่งบูชา 99 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ

 

รายการที่ 830 (คุณ สักการะ บูชาครับผม)
เหรียญพญาครุฑ เนื้อกะไหล่ทอง
ที่ระลึกกฐินพระราชทาน พ.ศ.2563
หลวงพ่อวราห์ วัดโพธิ์ทอง กรุงเทพฯ



ตามตำนานองค์พญาครุฑ เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ ปราบไตรจักร มีกายสิทธิ์ไม่มีผู้ใดสามารถฆ่าให้ตายได้ อีกทั้งยังมีอำนาจบารมีสูงล้ำด้วยสติปัญญา มีทรัพย์สินเงินทอง และบริวารมากมายก่ายกอง จนเกิดการสร้างเครื่องรางของขลังขึ้นด้วยอำนาจพญาครุฑ โดยจำแนกมหาอำนาจหลักได้ถึง 8 ประการ อันได้แก่ เป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่... สามารถลบล้างอาถรรพณ์...นำความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตและหน้าที่การงาน...ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน...เมตตามหานิยม หลวงพ่อวราห์ ปุญฺญวโร หรือ พระครูวิสิษฎ์พิทยาคม พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดโพธิทอง ย่านบางมด “ราชาแห่งครุฑ” ที่ลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศตั้งสมญานามให้

ท่านเกิดในครอบครัวบิดาเป็นชาวไทยมุสลิม และมารดาเป็นชาวไทยพุทธ ในวัยเยาว์จึงนับถือทั้ง 2 ศาสนา กระทั่งอายุได้ 23 ปี ได้ตั้งจิตอธิษฐานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ครอบครัวพ้นภัยพิบัติ ซึ่งเมื่อประสบผลสำเร็จตามที่ให้สัญญาไว้ จึงเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2528 ณ พัทธสีมาวัดโพธิทอง หลังบวชเรียน ได้ออกธุดงค์ไปเหนือสุดจดใต้สุด เพื่อศึกษาวิชาทางธรรม และร่ำเรียนวิชาอาคมจากเกจิอาจารย์หลายสำนัก อาทิ หลวงปู่มุจลินทร์ ที่มาสอนวิชาทางนิมิต...หลวงปู่เขียน วัดตะคล้อ จ.นครสวรรค์...หลวงปู่ใหญ่ เกจิชื่อดังแห่งภาคอีสาน ร่ำเรียนวิชาจนอาคมกล้าแกร่ง จึงกลับมาอยู่วัดโพธิทอง เพื่อสงเคราะห์ญาติโยมที่เดินทางมาพึ่งบารมี...



ต่อมาปี 2535 ได้นิมิตว่า มีพญาครุฑ 2 องค์ มาบอกว่าอยู่ที่วัดโพธิทองมานาน เป็นรูปพญาครุฑเนื้อไม้แกะสลัก ถูกเก็บไว้โดยไม่มีใครสนใจ องค์แรกชื่อ “พญาครุฑเวสชัยยัน” องค์ที่สองชื่อ “พญาครุฑพระยาสุบรรณ” ขอให้สร้างองค์พญาครุฑ ให้ลูกศิษย์ลูกหาบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล และสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่วัดโพธิทอง...จากภาพนิมิตที่ยังติดตา หลวงพ่อวราห์ ได้ศึกษารูปแบบพญาครุฑทั้ง 2 องค์ จึงได้ขอพระบรมราชานุญาต จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2537 มี 2 รูปแบบ คือ พญาครุฑ “รุ่นล้างอาถรรพณ์” และพญาครุฑ “รุ่นโคตรรวย”

ปัจจุบันพญาครุฑทั้งสองรูปแบบ ถือเป็นพญาครุฑรุ่นแรก ที่ได้รับความนิยมในหมู่ลูกศิษย์สายตรง และกลายเป็นวัตถุมงคลหายาก ราคาสูงลิบลิ่ว ขนาดมีเงินมากองเป็นตั้งยังเสาะหาไม่ได้ ส่วนใหญ่ถูกเก็บเข้ารัง (เซียน) จนหมดสิ้น และมีการสร้างพญาครุฑอีกหลายรุ่น ให้ญาติโยมไว้บูชา

สำหรับผู้เคารพนับถือบูชาองค์พญาครุฑ ไม่มีข้อห้ามใดๆ และไม่ว่าจะเกิดปีอะไร นักษัตรใด ขอเพียงนับถือท่านอย่างจริงใจ กตัญญูต่อบิดามารดา ครูบาอาจารย์ จะประสบความสำเร็จในกิจการงาน ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง มีบุญบารมี และเป็นที่รักของผู้ใกล้ชิด ทั้งยังดีทางด้านค้าขาย เพิ่มพูนเงินทอง แคล้วคลาดจากภยันตราย ป้องกันคุณไสย สัตว์ร้าย ภูตผีปีศาจ

แบ่งบูชา 199 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ

 

รับทราบการจอง ขอบคุณครับผม

 

รายการที่ 831 (ปิดรายการ)
ล็อกเก็ตพลังอมตะ ฉากเหลือง พ.ศ.2555
หลังรอยจารหมึกสีทอง เกศาเยอะมาก
ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน





จัดสร้างปี พ.ศ. 2555 โดยครูบาท่านได้เมตตาตั้งชื่ออันเป็นมงคลว่า ล็อกเก็ตรุ่น "พลังอมตะ" โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อมอบให้กับผู้ร่วมทำบุญ เพื่อเป็นทานบารมี ท่านครูบาได้อธิฐานจิตล็อกเก็ตรุ่นนี้ เป็นเวลามากกว่า 1 ปี ก่อนที่จะนำออกมาแจกให้กับผู้ร่วมบุญ แบบล็อกเก็ตด้านหน้าเป็นรูปครูบากฤษดา สวดมนต์โดยยกมือขวา และถือสร้อยประคำ มีอักขระบทสวดมนต์หล่อฮั้น (พุทโธ สว่างใส เบิกบานดั่งดอกบัว) เป็นฉากหลังดั่งรัศมีล้อมปกป้องและแผ่ออก ส่วนด้านหลังล็อกเก็ตบรรจุด้วยผงวิเศษว่านยาและเส้นเกษาครูบากฤษดา มีทั้งแบบมีตระกรุดและไม่มีตระกรุด ด้านหลังปั๊มโค๊ดรูปกงจักร

เป็นล็อกเก็ตอีกรุ่นยอดนิยม อุดมวลสารมงคล และผสมเกศาท่านครูบาเพียบ ท่านเคยพูดไว้ว่าเกศาท่านไม่จำเป็นต้องเสกแค่นึกถึงท่านก็มีอานุภาพครับ ฉากเหลืองจำนวนจัดสร้าง 400 องค์



พร้อมกล่องเดิม หายากมาก ไม่เคยผ่านการใช้งาน
แบ่งบูชา 4,999 บาท
ส่งฟรีแบบ EMS ครับ

 

รายการที่ 832 (คุณ สักการะ บูชาแล้วครับ)
เหรียญพระเจ้าแผ่นดินเย็น เนื้อทองแดง พ.ศ.2563
หลวงพ่อขันติ ขันติธโร วัดพระเจ้าศรีสัมฤทธิ์ จ.เชียงราย




อธิฐานจิตไตรมาส 63 เพื่อการก่อสร้าง 2 วัด วัดหนองแรดใต้ อ.เทิง และ วัดพระเจ้าศรีสัมฤทธิ์ เป็นเหรียญที่หลวงพ่อดำหริให้แกะบล็อคด้วยมือด้านหน้าแบบโบราณ หลวงพ่อขันติท่านบอกว่าเหรียญอาจไม่สวยปิ๊ง ขอให้ขลังเถอะเป็นใช้ได้ ยันต์ด้านหลังเป็นเอกลักษณ์สายวิชาของหลวงพ่อเป็นยันต์องค์สุบรรณ (พญาครุฑ)

หลวงพ่อขันติอธิษฐานจิตในพรรษา 3 เดือน หลังจากนั้นท่านครูบากฤษดาปลุกเสกปิดท้ายให้ก่อนวันงานกฐิน เมื่อ 9 ตค 2563 ที่ผ่านมาครับ

จำนวนจัดสร้าง 3,000 เหรียญ
แบ่งบูชา 99 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียน

 

รายการที่ 833 (คุณ seaown บูชาแล้วครับ)
เม็ดหยกกันมะเร็ง ขนาด 1 ซม (เม็ดที่ 9)
หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย




หลวงพ่อวิชัยท่านเป็นพระผู้ทรงสุปฏิปันโน ผู้ทรงละแล้วซึ่งทางโลก ในสายหลวงปู่มั่น ท่านสำเร็จวิชาเสกหยกกันมะเร็งจากครูบาอาจารย์ที่มาสอนท่านในสมาธิ ทำให้ท่านเองมีวิชาทำแหวนและกำไลใส่กันมะเร็งได้ ท่านยังกล่าวยืนยันและยอมรับว่า หยกของท่านที่ผ่านการปลุกเสกแล้วสามารถช่วยปรับธาตุในร่างกายให้แข็งแรง ดูดสารพิษ ดูดโรคภัยในร่างกายได้ โดยเฉพาะโรคมะเร็งที่ท่านได้กล่าวยืนยันว่าสามารถป้องกันได้จริงหากสวมใส่อยู่ตลอดเวลา โดยมีเคล็ดว่าต้องให้หินหยกติดแนบเนื้อผิวหนังอยู่ตลอด

หินหยกเสกของท่านมีประสบการณ์มากมาย เช่น หลวงพ่อวิชัยท่านเล่าว่า ครั้งหนึ่งท่านได้นิมนต์ไปประเทศเยอรมันนี ที่เมืองลูเบค ระหว่างนั้นท่านได้พบกับหญิงชาวเยอรมันนีผู้หนึ่งป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย หมอบอกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึงเดือน มีร่างกายซูบผอมมากเดินไม่ได้ ท่านเห็นแล้วจึงเกิดความสงสาร ด้วยความเมตตาท่านจึงมอบกำไลหยกเสกกันมะเร็งไปให้หญิงฝรั่งที่ป่วยนั้นไว้ติดตัว จากนั้นท่านก็กลับมาประเทศไทย ต่อมาเวลาผ่านไปหนึ่งปี ท่านได้มีนิมนต์ไปประเทศเยอรมันนีอีกครั้งหนึ่ง และมีโอกาสกลับไปที่เมืองเดิม ท่านก็ไปพบหญิงฝรั่งคนเดิมที่เคยป่วยหนัก คราวนี้มายืนต้อนรับท่านด้วยความปลื้มปิติแทบร่ำไห้ ด้วยร่างกายที่สดใส อ้วนท้วนแข็งแรง เช่นคนปกติ เธอได้กล่าวว่า ด้วยกำไลหยกเสกที่หลวงพ่อวิชัยท่านเมตตามอบให้เธอเมื่อปีก่อนนั้นทำให้เธอหายจากโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เธอมีความปลื้มปิติและศรัทธาในพระคุณหลวงพ่อวิชัยเป็นอย่างมาก เธอกล่าวว่าท่านเหมือนพระเจ้าที่ได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเธอ ถึงกับเรียกหลวงพ่อวิชัยว่า ปาป๊า เลยทีเดียว



อีกเรื่องหนึ่งหลวงพ่อท่านได้เมตตาเล่าอีกว่า มีญาติโยมที่ศรัทธาหลวงพ่อได้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และ เขาได้นำหยกเสกกันมะเร็งของหลวงพ่อไปแช่น้ำแล้วดื่มกินปรากฎว่าไม่นานโรคมะเร็งกลับหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ ขนาดเม็ดหยกประมาณ 1ซม จากตู้วัตถุมงคลของวัด สำหรับนำไปใช้ทำหัวแหวน หรือร้อยใส่ข้อมือให้หยกแนบกายไว้ตลอดนะครับ

เม็ดนี้มีรูสำหรับคล้องได้ครับ
แบ่งบูชา 109 บาท
ส่งฟรีแบบลงทะเบียนครับ