ติดตามสถานะการณ์

26/10/2563/9.00 น. แรงขึ้น "พายุไต้ฝุ่น “โมลาเบ"ลงทะเลจีนใต้ตอนกลางแล้ว มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 139 กม./ซ.ม.

ที่มาข้อมูล jtwc, windy, tsr storm

 

เตือนพายุไต้ฝุ่นโมลาเบ
Typhoon Molabe Bão Molabe ພາຍຸໄຕ້ຝຸ່ນ Molabe
#เข้าเขตประเทศไทยช่วงแรกจะเป็นระดับโซนร้อน
อัพเดทความรุนแรงของพายุไต้ฝุ่นโมลาเบ
(เข้าไทย 28ถึง29ตุลาคม2563ความรุนแรงบริเวณใกล้จุดศูนย์กลาง)
ลมคงที่ 83-101 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลมกระโชก111ถึง129 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จังหวัดที่อยู่ใกล้บริเวณจุดศูนย์กลาง อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ศรีสะเกษ, มุกดาหาร กาฬสินธุ์
บริเวณนี้ต้องระมัดระวังเรื่องของลมกระโชกแรง สิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง บ้านเรือนที่ไม่มั่นคงแข็งแรง ป้ายโฆษณาใหญ่ เสาไฟฟ้า ต้นไม้ใหญ่ ให้อยู่ในที่ที่มั่นคงแข็งแรง อย่างเช่นตึกพาณิชย์เป็นต้น ชาร์จแบตให้เต็มเพราะอาจเกิดปัญหาไฟดับได้ (บริเวณที่ต่ำที่ลุ่มให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก) สิ่งของมีค่าเก็บขึ้นที่สูงบริเวณพื้นที่เบาะบาง จอดรถในที่สูง ข้าวสารอาหารแห้งเตรียม สิ่งของที่จำเป็นเตรียม ยา ผ้าอนามัย น้ำดื่ม เพราะเมื่อเวลาน้ำท่วมอาจถูกตัดขาด

รัศมีของพายุ ปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน กลุ่มฝนตกหนักจะเน้นบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางและตอนล่าง

สปปลาว พายุเข้า 28 ตุลาคม 2563 ลาวใต้ สาละวัน เซกอง จำปาสัก อัตตะปือ ปากเซ (จะเป็นระดับโซนร้อนกำลังแรง) ลมคงที่ 101 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลมกระโชก 129 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้ระมัดระวังจากลมกระโชกอย่างแรง บ้านเรือนที่ไม่มั่นคงแข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา ให้อยู่ในตึกพาณิชย์หรือในที่ที่มั่นคงแข็งแรง เก็บของมีค่าขึ้นที่สูง

เวียดนาม ช่วงที่เขาเวียดนามแรกจะเป็นระดับไต้ฝุ่น ลมคงที่ 157 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลมกระโชก 194 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าเวียดนามตอนกลาง

อัพเดทล่าสุดเมื่อ 26 ตุลาคม 2563
ติดตามการอัพเดทต่อเนื่องจนกว่าพายุจะขึ้นฝั่ง
#เพจเตือนภัยพิบัติวาตภัยฝนฟ้าพายุ

 

หลังจากพายุโซนร้อนโมลาเบ ผ่านพ้นไปทิ้งไว้แต่ความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ฟิลิปปินส์ หลายๆจังหวัดหลายๆเมือง ที่บริเวณใกล้จุดศูนย์กลางเมื่อพายุวิ่งผ่าน บางพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก26/10/2563

 

ความรุนแรงของพายุโซนร้อนโมลาเบ ลมคงที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลมกระโชก 148 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บริเวณใกล้จุดศูนย์กลาง กำลังเกิดขึ้นในจังหวัดเกาะ Catanduanes ฟิลิปปินส์25/10/2563

Go Catanduanes

 

รัชวิภาไฟไหม้สายสื่อสาร ขวางทุกช่องทาง รถติดหนึบถึงฝั่งธน

 

นักวิทย์คิดเจ๋งผุด "สีขาวซูเปอร์ไวท์!" ใช้ทาบ้าน อาคาร ตึก สะท้อนแสงแดด 95.5% ทำให้ภายในอาคารเย็นแม้กลางวันแดดจัด หวังทดแทนแอร์ ประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อน
•
เมื่อปี 2019 มีการเปิดตัวสีดำที่มืดที่สุดในโลก สามารถดูดกลืนแสงได้มากกว่า 99.995% ทำลายสถิติสี "แวนตาแบล็ก" (Vantablack) ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้ผุดขั้วสีของสีดำนี้อย่างสี “ซูเปอร์ไวท์” (Super White) ที่ทำหน้าที่ตรงกันข้าม มันสามารถสะท้อนแสงออกไปได้ 95.5% และสามารถใช้ทาบ้านเพื่อจะช่วยให้บ้านเย็น โดยอนาคตอาจช่วยลดการใช้แอร์ได้
•
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จาก Perdue University เป็นผู้พัฒนามาสี Super White นี้ให้อยู่ในรูปแบบของสีอะครีลิค เมื่อนำสีนี้ไปทาที่วัสดุหรือฝาผนัง วัสดุหรือฝานั้นจะเย็นกว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบทั้งในตอนกลางวัน และตอนกลางคืน หรือแม้กระทั่งกลางแดดจ้า ดังนั้นมันจะสามารถช่วยควบคุมอุณหภูมิของตึกไม่ให้ร้อนเกินไป และประหยัดพลังงานภายในตึกได้
•
โดยส่วนประกอบหลักของสีคือสารเติมแคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate Fillers) ที่อนุภาคของสีมีความเข้มข้นสูงและมีหลายขนาด มันมีความสามารถในการกระจายความยาวคลื่นทั้งหมดของสเปกตรัมของแสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถสะท้อนความร้อนออกไปได้เร็วกว่าสีอื่น ๆ และลดจำนวนแสงอัลตราไวโอเลตที่สีดูดซับ
•
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ผู้วิจัยได้ทดลองการทำงานของสีโดยนำสีขาวนี้ไปวางไว้ในที่ที่สภาพภูมิอากาศที่แตกต่างออกไปสองวันเพื่อทดสอบความสามารถในการระบายความร้อน หลังจากการทดลอง เขาพบว่าสีซูเปอร์ไวท์สามารถกระจายแสงแดดออกไปได้ 95.5% ทำให้พื้นผิวที่ทดลองมีอุณหภูมิต่ำกว่าอากาศภายนอกในเวลากลางคืน 10 องศาเซลเซียส และต่ำกว่าอากาศภายนอกในตอนเที่ยงอย่างน้อย 1.7 องศาเซลเซียส
•
และเมื่อเทียบกับพื้นผิวที่ทาด้วยสีขาวสีอื่นที่มีความหนาเท่ากันและถูกเคลมไว้ว่าสามารถสะท้อนความร้อนได้ สีอื่นสามารถสะท้อนความร้อนออกไปแค่ 80 - 90% เท่านั้น
•
มากไปกว่านั้น ถ้าสังเกตจากภาพอินฟราเรดพื้นผิวที่ทาด้วยสีขาวของแคลเซียมคาร์บอเนตจะรักษาอุณหภูมิของพื้นผิวให้ต่ำกว่ามาก
•
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เผยว่าสีนี้จะมีส่วนช่วยลดสาเหตุที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ อย่างเช่นการลดการใช้เครื่องปรับอากาศ และเทคโนโลยีทำความเย็นอื่น ๆ เพราะสีนี้จะทำให้ตึกเย็นได้ เปรียบเหมือนตู้เย็นเลย แต่แค่ไม่ต้องอาศัยพลังงานใด ๆ
•
ส่วนพลังงานความร้อนที่สีสะท้อนออกมานั้นจะไม่ใช่แค่ถ่ายเทออกมานอกพื้นผิวแถวนั้นเท่านั้น เหล่าวิจัยเผยว่า มันจะถ่ายความร้อนออกไปยังอวกาศเลย ด้วยเหตุนี้ โลกของเราจะไม่กักเก็บความร้อนไว้ข้างในอีก
•
“สีนี้อาจใช้เพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้ เนื่องจากมันสามารถสะท้อนแสงแดดออกไปและแผ่ความร้อนออกสู่อวกาศ” Xiulin Ruan ศาสตราจารย์จาก Purdue's School of Mechanical Engineering หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ผู้วิจัยสีแคลเซียมคาร์บอเนตกล่าวในแถลงการณ์
•
ตอนนี้ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ผู้วิจัยก็หวังเช่นกันว่า ถ้ามันสามารถพัฒนาไปอยู่ ๆ ในทุกพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นถนน หลังคารถ หลังคาบ้านทั่วโลก เราคงก็สามารถดับร้อนให้โลกของเราได้แน่
•
อย่างไรก็ตาม สีนี้ทนต่อการขัดถู กันน้ำ และทนต่อสภาพอากาศกลางแจ้งต่าง ๆ ได้แค่ 3 อาทิตย์เท่านั้นพวกเขากำลังพัฒนาเพื่อให้มันทนต่อสภาพอากาศ สารเคมี ฝุ่นและการสึกหรอต่าง ๆ ได้นานมากขึ้น
•
ที่มา
https://www.purdue.edu/newsroom/rel...eeping-surfaces-cooler-than-surroundings.html

https://www.sciencealert.com/you-ve-heard-of-vantablack-this-is-what-super-white-paint-can-do

https://www.dailymail.co.uk/science...light-buildings-replace-air-conditioners.html
•
ณิชากร บัวทรัพย์
Environman

 

"อาเซียนคือเป้าหมายหลักของเยอรมันในอนาคต"

นี่คือสิ่งที่ถูกกำหนดเอาไว้เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของเยอรมันใน ศตวรรษที่ 21 ที่นับจากนี้ที่

"เยอรมนีจะมีบทบาทมากขึ้นในด้านต่างๆ ของ Indo-pacific โดยเฉพาะกับประเทศในแถบอาเซียน"

จนถึงกับรัฐบาลเยอรมันออก Guideline เพื่อเป็นแนวทางและแนวปฏิบัติที่จะเดินหน้าร่วมกันกับประเทศต่างๆ ในอาเซียน ซึ่งสาเหตุที่เยอรมันมีความต้องการที่จะเข้ามามีบทบาทในประเทศแถบนี้มากขึ้น

เพราะเนื่องจากทำเลของประเทศต่างๆ ในอาเซียนนั้นอยู่ใจกลางของเขต Indo-Pacific ซึ่งมีจำนวนประชากรรวมกันสูงถึง 560 ล้านคน และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงมากจนไม่สามารถประมาทได้เลยทีเดียว

ซึ่งนโยบายที่เยอรมนีจะเข้าไปดำเนินการในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นก็คือ

1. การเสริมสร้างพหุภาคี
2. การสร้างความร่วมมือด้าน Climate change
3. เสริมสร้างความปลอดภัยและเสถียรภาพ
4. การส่งเสริมด้านสิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรม
5. การเข้าไปพัฒนาการค้าเสรีและการค้าอย่างยั่งยืน
5. สนับสนุนการสร้างเครือข่ายและในด้าน Digital Tranformation
6. เสริมสร้างและแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม, การศึกษา และด้านวิทยาศาสตร์

ยกตัวอย่างเช่น

- ในด้านการค้าเสรี
การดำเนินการในบางส่วนเช่นในด้านของการค้า ในมิติของ FTA ที่มีการเซ็นสัญญาไปแล้วเรียบร้อยกับสิงค์โปร์และเวียดนาม, ทางเยอรมันและ EU ก็คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญากับอิโดนีเซียเสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้ และหาโอกาสที่จะได้กลับมาเจรจากับไทยและมาเลเซียอีกครั้งนึง

- ด้านความมั่นคงและความปลอดภัย
จะมีการดำเนินการเพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเลและความปลอดภัยจากภัยก่อการร้ายมากขึ้นกับ 5 ประเทศนำร่อง คือ อินเดีย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

- ด้าน Digital Tranformation
จะเพิ่มความร่วมมือในด้านที่เกี่ยวข้องกับ Industries 4.0 มากยิ่งขึ้น

ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเป็นอย่างมากที่เยอรมันและ EU ให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะความสัมพันธ์กับอาเซียนในอนาคต

ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เห็นประเทศไทยสามารถใช้โอกาสนี้กระชับความสัมพันธ์กับเยอรมันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคตในทุกๆ ด้านอย่างแน่นอน

#พ่อบ้านเยอรมัน #เยอรมัน #เยอรมนี #Germany #German #Asean #Thailand

ที่มาของข้อมูล:
German Policy guidelines for the Indo-Pacific

https://www.auswaertiges-amt.de/en/...rnment-policy-guidelines-indo-pacific/2380510

บทสัมภาษณ์: “The EU and ASEAN are predestined for a close partnership”

https://www.deutschland.de/en/topic/politics/indo-pacific-german-guidelines-for-future-policy

 

#พยากรณ์อากาศ ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 11 พายุดีเปรสชัน "โซเดล" (พายุระดับ 2) ส่งผลทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนกับมีลมแรงบริเวณจังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
news1005fm

 

ระเบิดสีชมพูอีกครั้ง "อธิบายไม่ได้" เพิ่มพลังงาน
สัญญาณของการเพิ่มอิเล็กตรอนและการเร่งการสูญเสียสนามแม่เหล็ก

ถ่ายโดย Markus Varik เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2020 @ Tromsø Norway

"สีชมพูที่ดูจริงจังยังคงไปทั่วนอร์เวย์ตอนเหนือทุกคนต่างหวาดกลัว ซึ่งฉันรวมอยู่ด้วย" Markus Varik ช่างภาพแสงออโรร่ารุ่นเก๋ากล่าว
___________________

สีชมพูมีความสำคัญ หมายความว่าอนุภาคจากอวกาศลดระดับลงต่ำกว่าปกติในชั้นบรรยากาศของโลก

ออโรร่าส่วนใหญ่เป็นสีเขียวซึ่งเป็นสีของอะตอมของออกซิเจนที่ถูกอิเล็กตรอนชนโดยอิเล็กตรอน 100 กม. ถึง 300 กม.

สีชมพูจะปรากฏขึ้นเมื่ออิเล็กตรอนขุดเจาะลึกลงไปและโดนโมเลกุลไนโตรเจนที่ระดับ 100 กม. และต่ำกว่า
___________________

การเพิ่มพลังงานที่ "ไม่สามารถอธิบายได้" ได้รับการกล่าวถึงในวันนี้โดยบล็อกเกอร์วิทยาศาสตร์ ดูเหมือนว่าอัตราการเกิดการตกตะกอนของอิเล็กตรอนแบบแมกนีโตสเฟียร์มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงทศวรรษที่ 1990-2000 ที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถอธิบายได้

ตั้งแต่ปี 1859 ถึง 2000 มีการสูญเสีย 10% ของสนามแม่เหล็กโลก

ตั้งแต่ปี 2000 ถึง 2010 มีการสูญเสียสนามแม่เหล็กโลก 5%

ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบันมีการสูญเสีย 1% ของสนามแม่เหล็กโลกต่อปี

สีชมพูไม่ใช่สัญญาณที่ดี

จุดจบของโลกคือ ... จะสวยงาม

 

1 > นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่ามีการค้นพบแมวน้ำขนสีน้ำตาล หรือแมวน้ำขนเคป (Cape fur seal) ประมาณ 7,000 ตัวตายอย่างเป็นปริศนาในนิคมที่พวกแมวน้ำใช้เป็นพื้นที่ขยายพันธุ์ในภาคกลางของประเทศนามิเบีย

2 > สำนักข่าว AFP รายงานว่า นอด เดรเยอร์ นักอนุรักษ์จากองค์กรด้านการอนุรักษ์ทะเล Ocean Conservation Namibia เผยว่า เริ่มสังเกตเห็นแมวน้ำตายเกลื่อนหาดทรายของนิคมแมวน้ำ Pelican Point ใกล้เมืองวัลวิสเบย์ในเดือนกันยายนโดยไม่ทราบสาเหตุ

3 > จากนั้นในสองสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมเขาก็พบตัวอ่อนแมวน้ำล้มตายลงจำนวนมากที่นิคมแห่งนี้ ในขณะที่ ดร.เทสส์ กริดลีย์ จากโครงการอนุรักษ์ Namibian Dolphin บอกกับ AFP ทางโทรศัพท์ว่าน่าจะมีแมวน้ำเพศเมียระหว่าง 5,000 ถึง 7,000 ตัวแท้งลูกตั้งแต่ยังเล็กและยังพบอีกมาก

4 > ตามปกติแล้วแมวน้ำขนมักจะคลอดลูกระหว่างกลางเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนธันวาคม แต่ตอนนี้สถานการณ์ผิดปกติมากจนผู้เชี่ยวชาญทางทะเลไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีลูกแมวน้ำเกิดใหม่ในปีนี้หรือไม่

5 > พวกเขาจึงต้องแข่งกับเวลาเพื่อพยายามทำความเข้าใจว่าเหตุใดลูกแมวน้ำถึงตายก่อนวัยอันควร เบื้องต้นนักวิทยาศาสตร์สงสัยว่าสาเหตุอาจจะเป็นได้ทั้งจากมลพิษหรือการติดเชื้อแบคทีเรีย ไปจนถึงการขาดสารอาหาร

6 > สาเหตุหลังมีความเป็นไปได้มากในทัศนะของ ดร.กริดลีย์โดยเขากล่าวว่าแมวน้ำเพศเมียที่เสียชีวิตบางส่วนมีลักษณะผอมแห้งมีไขมันสะสมน้อยมาก

7 > ย้อนกลับในปี 2537 มีแมวน้ำ 10,000 ตัวเสียชีวิตและตัวอ่อน 15,000 ตัวแท้งตายที่นิคมแมวน้ำ Cape Cross ซึ่งเชื่อมโยงกับภาวะความอดอยาก คาดว่าเป็นผลมาจากการขาดแคลนปลาและจากการติดเชื้อแบคทีเรีย

8 > ถึงแม้ว่าแมวน้ำขนสีน้ำตาลจะเป็นมิตรกับมนุษย์มากๆ แต่พวกมันยังคงถูกล่าในนามิเบีย มีการออกใบอนุญาตสำหรับการฆ่าลูกแมวน้ำเพื่อนำขนเฟอร์มาทำเครื่องแต่งกายที่หรูหรา

9 > นอกจากนี้ยังมีการล่าตัวผู้ที่โตเต็มวัยเพื่อเอาอวัยวะเพศมาเป็นยาโป๊เพราะในบางประเทศเชื่อในสรรพคุณ นอกจากนี้นามิเบียยังปล่อยให้ล่าแมวน้ำ อ้างว่าแมวน้ำที่มีจำนวนมากเกินไปมีผลต่อการทำประมงของประเทศ เพราะมันแย่งปลาจากคน (หรือคนแย่งปลาจากแมวน้ำกันแน่?) แต่การวิจัยโดยกลุ่มสิ่งแวดล้อมโต้แย้งเรื่องนี้

ข้อมูลจาก
"Thousands of seals found dead in Namibia". Phys.org. (23 October 2020).
"Namibians mystified by thousands of seal pup deaths". AT (23 October 2020).
ภาพ Robur.q /wikipedia

 

เปิดขั้นตอนการขอลี้ภัยในประเทศเยอรมนี

- ถ้าคุณถูกคุกคามจนอาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิต
- ถ้าคุณมีเหตุจำเป็นที่ต้องออก หรือไม่สามารถกลับไปประเทศบ้านเกิดได้

ด้วยเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับ เชื้อชาติ, ศาสนา, สีผิว หรือเหตุผลอันเกิดจากด้านการเมืองคุณก็มีสิทธิในการยื่นทำเรื่องเป็น

"ผู้ลี้ภัย"

ในประเทศต่างๆ ได้ โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งไม่เว้นแม้แต่เยอรมนีก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เปิดรับผู้ลี้ภัยในด้านต่างๆ ถ้าคุณมีเหตุจำเป็นที่สามารถพิสูจน์ว่าไม่สามารถกลับไปอาศัยในประเทศบ้านเกิดได้

*ขั้นตอนการขอเป็นผู้ลี้ภัยในเยอรมนี*

1. คุณจะต้องมาที่ประเทศเยอรมนีให้ได้ เสียก่อนเพราะการขอยื่นลี้ภัยนั้นไม่สามารถยื่นผ่านตัวแทน, มอบอำนาจ หรือให้หน่วยงานใดๆ ทำเรื่องให้ได้เพราะคุณต้องยื่นเรื่องด้วยตัวเองเท่านั้น

2. เมื่อคุณยื่นเรื่องทำการขอลี้ภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (คุณยังจะไม่ได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัย) แต่คุณจะได้รับความคุ้มครองในเบื้องต้นก่อน เช่นการให้ที่อยู่อาศัย, น้ำ, อาหาร การรักษาพยาบาล และอื่นๆ และคุณจะได้รับเอกสารที่เรียกว่า Ankunftsnachweis (Arrival certificate) เพื่อใช้เป็นหลักฐานในเบื้องต้นที่คุณได้มาถึงเยอรมนี

3. คุณจะต้องยื่นเรื่องการขอลี้ภัยกับหน่วยงานของเยอรมันกับหน่วยงานที่ชื่อว่า BAMF (Bundesamt für Migration und Flüchtlinge) เพราะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในด้านดังกล่าวโดยตรง โดยคุณจะต้องทำเรื่องเพื่อขอการพิจารณากับหน่วยงานของเยอรมัน ทั้งในรูปแบบของการยื่นเอกสาร และสัมภาษณ์ ซึ่งทุกขั้นตอนนั้นจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดดังนั้นข้อมูลทุกอย่างที่คุณแจ้งต่อเจ้าหน้าที่จะต้องเป็นความจริง 100%

4. โดยในระหว่างการพิจารณากับหน่วยงานของเยอรมันนั้นคุณจะได้รับสิทธิพำนักชั่วคราว และมีสถานะเป็น "ผู้ยื่นขอการลี้ภัย" จนกว่าทางการจะพิจารณาและอนุญมัติให้คุณกลายเป็นผู้ลี้ภัยอย่างเป็นทางการและสามารถพำนักอยู่ในเยอรมนีได้

** ความรู้เบื้องต้นของการลี้ภัย **
- ผู้ลี้ภัยในเยอรมนีนั้นจะต้องเป็นเหตุผลในข้างต้นที่พ่อบ้านบอกเอาไว้แล้วเท่านั้น ถ้าคุณขอลี้ภัยด้วยเหตุผลเช่น ด้านธุรกิจ, การทุจริต หรืออื่นๆ จะไม่สามารถขอได้

- ผู้ลี้ภัยในเยอรมนีในปี 2019 จากผู้ขอยื่นลี้ภัยจำนวน 165,938 รายนั้น มีผู้ถูกปฏิเสธการขอลี้ภัยสูงถึง 43.4% และในปัจจุบันก็มีจำนวนผู้ขอยื่นลี้ภัยลดน้อยลงเรื่อยๆ

- เยอรมนีจะมี List รายชื่อ Safe States/Safe Countries หรือประเทศที่ปลอดภัย ซึ่งผู้เดินทางมาจากประเทศดังกล่าวจะมีโอกาสขอลี้ภัยได้น้อยมากๆ (ต้องพิสูจน์กันจริงจัง) โดยรายชื่อจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี

- ขั้นตอนการลี้ภัย เจ้าหน้าที่จะพิจารณาดำเนินเรื่องให้กับผู้ขอลี้ภัยที่เป็นคนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ก่อน เช่น เด็ก, คนพิการ หรือคนชรา ก่อน

- การได้รับสถานะผู้ลี้ภัยแล้วไม่ใช่จะถือว่าจะได้รับสิทธิพำนักอยู่ในเยอรมนีตลอดไป หากแต่ว่าจะต้องทำเรื่องต่ออีกหลายขั้นตอน

- บทความด้านบนเป็นขั้นตอนและความรู้ในเบื้องต้น เพราะว่าการยื่นเอกสารจริงนั้นจะต้องมีอีกหลายขั้นตอนและการสัมภาษณ์อีกหลายครั้ง โดยจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางการเยอรมนี

- การขอลี้ภัยเป็นข้อตกลงร่วม และเป็นกฎหมายระหว่างประเทศในหลายๆ ประเทศ และมีหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยอีกเป็นจำนวนมาก เช่น UNHCR, Amnesty และอื่นๆ เป็นต้น

*** บทความนี้เขียนขึ้นมามีเจตนาเพื่อเป็นความรู้พื้นฐานโดยทั่วไปในด้านการขอลี้ภัยในเยอรมนี ถ้าเป็นไปได้ขอให้แสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพนะครับ ***
#พ่อบ้านเยอรมัน #เยอรมัน #เยอรมนี #Germany #German #Refugee #Procedure

ที่มาของข้อมูล

https://www.bamf.de/EN/Themen/AsylFluechtlingsschutz/asylfluechtlingsschutz-node.html

https://www.asylumineurope.org/reports/country/germany/statistics

https://www.berlin.de/willkommensze... application,you must first register yourself.

https://www.bmi.bund.de/EN/topics/m...olicy-germany/asylum-refugee-policy-node.html

https://www.thairath.co.th/news/foreign/1300444

 

(Oct 26) เศรษฐกิจไทย…อะไรดี ? ความเชื่อมั่นภูมิคุ้มกันประเทศ : ในอดีตเศรษฐกิจโลกได้ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจมาหลายครั้ง และต้องเผชิญกับสภาวะถดถอย หรือ recession มาหลายครา ไม่ว่าจะเป็นสภาวะถดถอยที่เกิดจากภัยทางธรรมชาติ ภัยจากสงคราม ปัญหาการบริหาiเศรษฐกิจมหภาคที่ล้มเหลวหรือวิกฤตการเงินระหว่างประเทศ

แต่สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น เปรียบเสมือนการนำผลกระทบที่แย่ที่สุดจากทุกวิกฤตเศรษฐกิจในอดีตมามัดรวมกันจนทำให้เกิดการหดตัวฝั่งอุปสงค์(demand) และอุปทาน (supply) อย่างฉับพลันทั้งภายในประเทศ ภายในภูมิภาค และส่งผลกระทบไปทั่วโลก อีกทั้งยังนำไปสู่การเกิดความไม่แน่นอน และผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจแทบทุกอุตสาหกรรม โดยธนาคารโลกหรือ World Bank เรียกผลกระทบจากโรคโควิด-19 นี้ว่าเป็น “การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงที่สุดในรอบร้อยปี” (The Most Adverse Peacetime Shock in Over a Century) (ตาราง 1 : World Uncertainty Index)

จากการที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับสภาวะถดถอย ก็ได้ส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวและส่งออกของไทย อันเป็นเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจไทยโดยภาพรวมของเศรษฐกิจไทยเองได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไตรมาส 2 ปี 2563 เศรษฐกิจไทยหดตัวอย่างรุนแรงถึงร้อยละ 12.2

สำหรับการจัดการปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ด้วยการออกมาตรการ lockdown

จนสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ให้ต่ำได้มาเป็นเวลาหลายเดือน และต่อมารัฐบาลก็ได้ผ่อนคลายมาตรการ lockdown จนกระทั่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างเป็นปกติ

แต่ยังห้ามการเดินทางเข้าประเทศเพื่อควบคุมการระบาด ส่งผลให้หลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก ก็ยังคงได้รับผลกระทบ จึงกล่าวได้ว่าถึงแม้ประเทศไทยจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี แต่เศรษฐกิจไทยยังคงต้องประสบปัญหาการว่างงาน ปัญหาการขาดสภาพคล่องและความสามารถในการชำระหนี้ลดลง และการบริโภคที่ซบเซา

ทั้งนี้ การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยปี 2563 และระยะต่อไปการใช้จ่ายภาครัฐถือว่ามีบทบาทสำคัญ ซึ่งประเทศไทยนับเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ในโลกที่มีการออกมาตรการการคลังและมาตรการเยียวยาหรือช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19

หากกล่าวถึงความเข้มแข็งทางภาคการคลัง ประเทศไทยยังคงมีเงินคงคลังในระดับที่เข้มแข็งเพียงพอเพื่อรองรับการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐ นอกจากนี้ รัฐบาลยังคงมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีอากรหรือรายได้อื่น ๆ เพื่อนำมาใช้จ่ายในการบริหารประเทศได้ตามปกติ และดำเนินนโยบายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป

โดยบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (credit rating) อย่าง Moody’s S & P และ Fitch Ratings ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือประเทศไทยไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ไทยยังมีความพร้อม มีความสามารถรองรับหนี้เสียได้พอสมควร ในขณะที่หลายประเทศถูกปรับลดมุมมองต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจ (negative outlook) (ตาราง 2 :ประเทศไทยยังมีอันดับความน่าเชื่อถือระดับคงที่ (stable outlook))

ปัจจุบันมาตรการต่าง ๆ จากศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจฯ หรือ ศบศ. ที่ทยอยออกมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3ปี 2563 สามารถสรุปความช่วยเหลือออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่

1.การจ้างงาน เช่น การจัดงาน Job Expo 2020 เป้าหมายจ้างงาน 1 ล้านอัตรา หรือมาตรการการร่วมจ่าย (copay) เพื่อจ้างงานเด็กจบใหม่

2.การปรับโครงสร้างหนี้ประชาชนและผู้ประกอบการ เช่น โครงการชะลอการชำระหนี้และสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำโดยธนาคารออมสิน และโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS Soft Loan พลัส วงเงิน 57,000 ล้านบาท โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม

3.การท่องเที่ยว เช่น เราเที่ยวด้วยกันสำหรับกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ หรือ special tourist Visa สำหรับการเตรียมความพร้อมรับชาวต่างชาติ

และ 4.การกระตุ้นการบริโภค ด้วยโครงการเพิ่มกําลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการคนละครึ่ง และมาตรการด้านภาษีอย่างช้อปดีมีคืน เพื่อซื้อสินค้าและบริการใช้ลดหย่อนภาษีได้

หากมองไปข้างหน้าเมื่อมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว โลกก็จะสามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ ดังนั้นในระหว่างที่รอการค้นคว้าวิจัยวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจไทย อย่างการท่องเที่ยวและการส่งออกก็ยังคงไม่สามารถกลับมาเติบโตได้ดีเท่ากับปีก่อนหน้า อีกทั้งความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่ยังเข้ามาอยู่เป็นระยะ ๆ

จังหวะนี้เราคนไทยคงต้อง “รวมไทยสร้างชาติ” เท่านั้น ที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยอยู่รอดได้ ไม่งั้น “เศรษฐกิจไทย ก็ยังคง อะไรจะดี” เพราะถึงแม้การบริหารเศรษฐกิจให้ดีคงยังไม่เพียงพอแต่ยังต้องมีการบริหารด้านสังคม และสร้างความเชื่อมั่นไปพร้อม ๆ กัน

คอลัมน์ ช่วยกันคิด
ดร.ปภาภรณ์ ชุณหชัชราชัย
จิรภัทร พุกกะคุปต์

Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.prachachat.net/columns/news-543017

 

(Oct 25) การโต้วาทีครั้งสุดท้ายระหว่างประธานาธิบดี Trump และอดีตรองประธานาธิบดี Biden จบลงในคืนวานนี้โดยที่มิได้ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อผล poll, betting odd และการเคลื่อนไหวของตลาดการเงิน

การโต้วาทีครั้งสุดท้ายระหว่างประธานาธิบดี Trump และอดีตรองประธานาธิบดี Biden จบลงเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมาโดยที่มิได้ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อผล poll, betting odd และการเคลื่อนไหวของตลาดการเงิน แต่ด้วยรูปแบบการโต้วาทีที่เข้มงวดขึ้นเรื่องการแบ่งเวลาที่เท่าเทียมกันได้ทำให้เห็นความแตกต่างด้านวิสัยทัศน์ อุดมการณ์ และแนวนโยบายของผู้สมัครทั้งสองมากกว่าในการโต้วาทีครั้งแรก โดยเฉพาะในประเด็นที่มีความสำคัญต่อการตัดสินใจลงคะแนนอย่างเรื่อง มาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 นโยบายสาธารณสุข ความเหลื่อมล้ำจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ แนวคิดต่อนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ

นอกจากนี้ ผู้สมัครทั้งสองยังได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการบริหารประเทศในภาพใหญ่อย่างเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การค้าระหว่างประเทศ และนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งแนวนโยบายยังคงสอดคล้องกับที่ทั้งคู่ได้เคยหาเสียงมาโดยตลอด แนวนโยบายของนาย Biden ยังคงเน้นบทบาทของรัฐในการจัดการปัญหาต่าง ๆ มากกว่าเมื่อเทียบกับของประธานาธิบดี Trump

1. นโยบายด้านสาธารณสุข: นาย Biden ยังเห็นต่างจากประธานาธิบดี Trump ในประเด็นเรื่องการรับมือกับ COVID-19 โดยมองว่าการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการด้วยการ “เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน” แต่ต้องมีมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคมและการรณรงค์ให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด ทั้งยังต้องอาศัยเงินสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อให้สถานศึกษาและสถานประกอบการสามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างปลอดภัย มิเช่นนั้นอาจจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้

ส่วนประเด็นเรื่องนโยบายสาธารณสุขในระยะยาว ประธานาธิบดี Trump ยังคงยืนกรานว่าระบบ private insurance นั้นมีประสิทธิภาพมากเพียงพอและหากได้รับเลือกตั้งในสมัยหน้าก็จะเดินหน้าผลักดันการลดค่าเบี้ยประกันและราคายา ส่วนนาย Biden เน้นว่าการได้รับรักษาพยาบาลเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างทั่วถึง โดยจะรักษา Affordable Care Act ไว้และจะผลักดัน “Bidencare Public Option” ซึ่งจะรองรับการรักษาพยาบาลคนที่ไม่สามารถลงทะเบียนใน Medicaid ในรัฐที่เป็น non-expansive state ได้

ขณะที่ expansive state จะได้สิทธิในการโยกพลเมืองส่วนที่เพิ่มขึ้นเข้ามาอยู่ใต้โครงการ Bidencare Public Option นี้ได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้มีระบบที่รับประกันว่าทุกคนจะเข้าถึงประกันสุขภาพได้ทั่วถึงกว่าในปัจจุบัน แต่ประธานาธิบดี Trump มองว่าแนวนโยบายดังกล่าวไม่ต่างจากแนวคิดแบบสังคมนิยม และพยายามโจมตีนโยบายของนาย Biden ว่าเอียงซ้ายมากเกินไป

2. นโยบายการต่างประเทศ เศรษฐกิจ และพลังงาน: แม้ว่าประธานาธิบดี Trump จะพยายามชูผลงานการระงับการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือและความสำเร็จในการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ แต่นาย Biden กลับมองว่าปัญหาที่แท้จริงจะยังไม่ได้รับการแก้ไข หากเกาหลีเหนือยังไม่ยุติการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ในประเทศ ประกอบกับมองว่าการดำเนินนโยบายการต่างประเทศควรเสริมสร้างสัมพันธ์อันดีกับประเทศพันธมิตรมากกว่า

นอกจากนี้ นาย Biden มองว่าการขึ้นภาษีไม่ใช่ทางแก้ที่เหมาะเนื่องจากจะทำให้เกิดการผลักภาระในการจ่ายภาษีไปยังผู้บริโภคในประเทศเอง อย่างไรก็ดี การสนับสนุนการเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตในประเทศให้พึ่งพาอุตสาหกรรมน้ำมันลดลงที่นาย Biden เสนอในส่วนหนึ่งของการแสดงวิสัยทัศน์ในประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมนั้น อาจทำให้นาย Biden สุ่มเสี่ยงที่จะเสียคะแนนในรัฐที่พึ่งพาการผลิตน้ำมันและเป็น swing states อย่าง Texas, Pennsylvania และ Ohio

ทั้งนี้ ในการโต้วาทีครั้งนี้นับว่านาย Biden สามารถแสดงวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศได้เต็มที่มากกว่าเมื่อเทียบกับประธานาธิบดี Trump ซึ่งเน้นที่การโจมตีที่ตัวนาย Biden เป็นหลักและทำให้ไม่ได้ใช้เวลาในการแจกแจงรายละเอียดนโยบายด้านต่าง ๆ ของตนเองเท่าที่ควร แต่ก็นับว่าประธานาธิบดี Trump มีการเตรียมตัวเรื่องข้อมูลสถิติมาดีกว่าในการโต้วาทีครั้งแรก

ผลการสำรวจความเห็น และ betting odd ภายหลังการโต้วาทีไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหลังจากนี้จะมีเวลาเหลือเพียง 10 วันจนถึงวันเลือกตั้ง ( 3 พ.ย.) โดยในขณะนี้มีผู้ลงคะแนนทางไปรษณีย์แล้วกว่า 50 ล้านคน จากจำนวนผู้มีสิทธิใช้เสียงกว่า 257 ล้านคน

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าการนับคะแนนบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์จำนวนมากอาจมีผลต่อคะแนนที่ขึ้นนำหรือตามของผู้สมัครแต่ละรายในช่วงแรก และทำให้ไม่สามารถฟันธงได้แน่ชัดในช่วงแรกว่าใครเป็นผู้ชนะหรือที่เรียกว่า Red-Blue Mirage โดย swing state ที่คาดว่าจะมีการนับคะแนนจากการลงคะแนนทางไปรษณีย์ได้เร็ว ได้แก่ Pennsylvania ซึ่งให้ส่งกลับบัตรเลือกตั้งเร็วกว่ารัฐอื่น รวมทั้งยังมีรัฐ Florida และ North Carolina ที่ให้มีการเริ่มนับคะแนนมาแล้วเป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนหน้าวันเลือกตั้งใหญ่

นอกจากนี้ยังมี Pennsylvania, Michigan และ Wisconsin ที่เพิ่งจะให้เริ่มมีการนับคะแนนทางไปรษณีย์ก่อนหน้าวันเลือกตั้งใหญ่ โดยอ้างอิงจากผลสำรวจคะแนนนิยมใน swing states ในตอนนี้ก็อาจทำให้เห็นว่านาย Biden มีคะแนนขึ้นนำในชั่วโมงแรกๆ หลังปิดหีบ และอาจจะเริ่มเห็นคะแนนของประธานาธิบดี Trump ตีตื้นขึ้นมา ก่อนที่จะเห็นคะแนนของนาย Biden เพิ่มขึ้นตามการทยอยนับคะแนนในรัฐ swing states อื่น ๆ

Source: BOTSS

เพิ่มเติม
- Presidential debate: How our columnists rated the last Trump-Biden battle — as it happened https://www.ft.com/content/f1e1b2b5-4619-39f1-9509-5b2a98ec987b

- In pictures: The final Biden-Trump debate
https://edition.cnn.com/2020/10/22/...ump-final-2020-presidential-debate/index.html

- ทรัมป์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว เผยโหวตให้ตัวเอง : https://www.ryt9.com/s/iq37/3169491

- เงินบาทอ่อนค่า จับตาประชุมสภาสมัยวิสามัญ-โค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐ : https://www.prachachat.net/finance/news-543732

- ทรัมป์ตระเวนหาเสียง 3 รัฐภายในวันเดียว: https://www.dailynews.co.th/foreign/803043

- มาดูกัน “ไบเดน-ทรัมป์” คนไหนชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ ผลต่อเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร: https://www.prachachat.net/finance/news-543002

 

มีผู้ศึกษากลยุทธ์ซุนวู ตีความไว้ว่า บรรดากลยุทธฯ ปิดฟ้าข้ามทะเล ล้อมเว่ยช่วยจ้าว ยืมดาบฆ่าคน รอซ้ำยามเปลี้ย ตีชิงตามไฟ ส่งเสียงบูรพาตีฝ่าประจิม ... จะมากน้อย มีมิติของโลจิสติกส์ ทั้งสิ้น (โม้ป่าวเนี่ย)

ไชน่าเดลี (26 ต.ค.) - หลี่ เสี่ยวเผิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ต.ค.) ว่า เป้าหมายด้านการขนส่งของจีนที่กำหนดไว้ในแผนห้าปีฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2559-2563) คาดว่าจะบรรลุผลเป็นที่น่าพอใจ

หลี่ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2559 ถึงสิ้นปีนี้ จีนคาดว่าจะมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรด้านการขนส่งถึง 16 ล้านล้านหยวน

เครือข่ายรถไฟทั้งหมดยาวถึง 146,000 กิโลเมตรเชื่อมต่อ 99 เปอร์เซ็นต์ของเมืองที่มีประชากรมากกว่า 200,000 คน เครือข่ายรถไฟความเร็วสูงเพียงแห่งเดียวมีความยาวถึง 38,000 กิโลเมตรเชื่อมต่อ 95 เปอร์เซ็นต์ของเมืองที่มีประชากรมากกว่า 1 ล้านคนซึ่งเป็นสถิติของโลก

รถไฟความเร็วสูงให้บริการผู้โดยสาร ในสัดส่วน 70 เปอร์เซ็นต์ของรถไฟทั้งหมด

ประเทศจีนมีเส้นทางคมนาคมทางน้ำภายในยาว 16,100 กิโลเมตรและมีท่าเทียบเรือระดับ 10,000 ตันขึ้นไป 2,530 แห่งที่ท่าเรือชายฝั่ง

จีนจำนวนสนามบินมากถึง 241 แห่ง ครอบคลุม 92 เปอร์เซ็นต์ของเมืองในประเทศจีน

มีเส้นทางบินในประเทศ 4,568 เส้นทางที่เชื่อมต่อกับ 234 เมืองของจีนและ 953 เส้นทางระหว่างประเทศที่เชื่อมต่อ 167 เมืองใน 65 ประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น จีนได้ลงนามในข้อตกลงการบริการทางอากาศทวิภาคีกับ 127 ประเทศ รวมถึง 96 ประเทศและภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง

อัตราการบินพลเรือนเพิ่มขึ้นจาก 67 เปอร์เซ็นต์ในปี 2558 เป็น 81.65 เปอร์เซ็นต์ในปี 2562

ในช่วงปี 2558-2562 ขนาดการขนส่งการบินพลเรือนของประเทศยังคงเป็นอันดับสองของโลกเป็นเวลา 15 ปีติดต่อกัน

ในแผน 5 ปี ที่บรรลุนั้น รวมถึงสร้างสะพานฮ่องกง - จูไห่ - มาเก๊า สนามบินนานาชาติปักกิ่งต้าซิง รถไฟความเร็วสูงปักกิ่ง - จางเจียโข่ว เทคโนโลยีใหม่และรูปแบบธุรกิจใหม่ในอุตสาหกรรมการขนส่งกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีในการสร้างสะพานข้ามมหาสมุทร อุโมงค์ข้ามมหาสมุทรร่องน้ำลึก และรถไฟความเร็วสูงที่เป็นผู้นำของโลก

รายได้ของอุตสาหกรรมขนส่งเพิ่มขึ้นจาก 4.039 แสนล้านหยวนในปี 2558 เป็น 1.1 ล้านล้านหยวนในปี 2562 โดยมีการเติบโตต่อปีถึง 22 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณการจัดส่งเพิ่มขึ้นจาก 2.07 หมื่นล้านในปี 2558 เป็น 8 หมื่นล้านในปีนี้ ซึ่งมีส่วนทำให้ตลาดขนส่งด่วนและพัสดุภัณฑ์ของโลกเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์

ปริมาณการส่งมอบการเติบโตเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ในช่วงแผนห้าปีที่ 13 (2559-2563) ต้นทุนโลจิสติกส์ทั้งหมดลดลงมากกว่า 4.5 แสนล้านหยวน

หลี่ เสี่ยวเผิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังกล่าวว่า เครื่องบินโดยสารรุ่น C919 ที่ผลิตในจีนเสร็จสิ้นการบินครั้งแรกระบบสัญญาณนำทางดาวเทียมเป่ยโต่ว (Beidou Navigation Satellite System) ซึงเป็นระบบที่จะมีการใช้งานอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ รูปแบบธุรกิจของรถโดยสารออนไลน์และรถบัสเกิดขึ้นใหม่ มีการกระจายอาคารผู้โดยสารด่วนอัจฉริยะ รถยนต์ไร้คนขับและคลังสินค้าไร้คนขับเริ่มนำร่องใช้ในอุตสาหกรรมการจัดส่ง

เหล่านี้คือภาพรวมความสำเร็จของการพัฒนาระบบขนส่งของประเทศจีน ที่คาดว่าจะบรรลุผลเป็นที่น่าพอใจทุกด้าน ตามเป้าหมายด้านการขนส่งของจีนที่กำหนดไว้ในแผนห้าปีฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2559-2563)

ข่าว / ภาพ - http://www.chinadaily.com.cn/a/202010/26/WS5f95fec0a31024ad0ba80c2d_1.html

 

หลากมุมมองและเสียงสะท้อนที่แตกต่างของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเชื้อสายไทยในสหรัฐฯที่มีต่อการเลือกตั้งสหรัฐฯที่กำลังจะมาถึงในไม่กี่วันข้างหน้า ติดตามจากรายงานพิเศษ เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 #VOATHAI #VOANEWS #USElection2020

 

เวียดนาม : ภาคกลาง เกือบทั้งภาคเสียหายหนัก ตอนนี้อยู่ระหว่างฟื้นฟู ยอดเสียชีวิต 117 คน สูญหาย 21 คน
พื้นที่เพาะปลูก ฟาร์ม เสียหายจำนวนมาก ตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือน มีพายุที่จะขึ้นฝั่งเวียดนามอีก 2ลูก

 

เวียดนาม : ใช้เครนมายก ควาย ลงจากชั้นลอยน้องควายหนีน้ำท่วมสูงติดบนชั้นลอย 2 ตัว

 

26 ตุลาคม 2563 / เวลา 10.30 น.
ยอดติดเชื้อโควิดทั่วโลก 43,323,453 ราย เสียชีวิต 1,158,810 ราย
ประเทศไทยมี +5 รายใหม่ เสียชีวิตรวม 59 คน สะสม 3,736 คน
#ชายแดนติดกับไทยยอดติดเชื้อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
พม่า+ 986 รายใหม่ เสียชีวิตรวม 1,095 คน สะสม 44,774 คน
มาเลเซีย +823 รายใหม่ เสียชีวิตรวม 229 คน สะสม 26,565 คน
ฝรั่งเศส อังกฤษ สเปน อิตาลี มียอดติดเชื้อรายวันสูงขึ้น

 

รวบหัวขโมย งัดร้านของชำกลางดึก ได้แกงจืดฟักแค่ 1 ถุง

 

โลกร้อน น้ำทะเลร้อนหนุนสูงปลุกแบคทีเรียกินเนื้อเน่าที่อยู่ในน้ำทะเล และแม่น้ำบุกระบาดชายฝั่งสหรัฐฯ ผู้คนมักติดเชื้อจากการเล่นน้ำ กินซีฟู๊ด มีพิษอันตรายติดเชื้อ 8 แสนต่อปี+
•
CDC ประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อแบคทีเรีย vibrio ที่มีความเป็นพิษมากถึง 80,000 รายในทุก ๆ ปี แต่มีเพียง 1,200 - 2,000 เคสเท่านั้นที่ัได้รับการคอนเฟิร์ม เนื่องจากมักถูกวินิจฉัยผิด ซึ่งตัวเลขของยอดผู้เสียชีวิตจาก CDC ประเมินนั้นสูงกว่าในปี 2007 เป็นเท่าตัวเลยทีเดียว
•
รัฐ North Carolina และ South Carolina เป็นที่ที่เผชิญกับความเสี่ยงค่อนข้างมาก โดยพบว่ามี vibrio ในแหล่งน้ำต่าง ๆ ทั้งแม่น้ำ สระ และลำห้วย ซึ่งมันเป็นผลกระทบมาจากสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง
•
เมื่อโลกร้อนขึ้นส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและพายุก็มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งสองอย่างทำให้เกิดการแพร่กระจายของน้ำทะเลและแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในนั้น ซึ่ง vibrio เป็นแบคทีเรียที่มีความอันตรายมากขึ้นเมื่ออยู่ในน้ำที่อุ่น
•
เราสามารถติดเชื้อแบคทีเรียชนิดได้จากการว่ายน้ำไปจนถึงการสัมผัสกับอาหารทะเล ปัจจุบันรัฐ South Carolina พบเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้มากเป็น 3 เท่า และ North Carolina พบเป็น 2 เท่าของปี 2007
•
การพบแบคทีเรียชนิดนี้ในแหล่งน้ำมากขึ้นส่งผลให้เกิดความกังวลในเรื่องของสุขภาพ vibrio สามารถตรวจพบได้ยาก และมักจะต้องได้รับการรักษาอย่างทันที ก่อนที่ขนาดจะใหญ่และลุกลามไปมากขึ้น
•
เคสผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากแบคทีเรีย vibrio มีทั้งเสียชีวิต และต้องสูญเสียอวัยวะอย่างขา ในปี 2017 Billy Bailey ปูกัดที่ Big Bay Creek หลังจากนั้นมีอาการหนาวสั่น ปวดท้องและเดินลำบากก่อนที่จะเสียชีวิตในโรงพยาบาล
•
https://www.cdc.gov/vibrio/index.html

https://www.dailymail.co.uk/news/article-8864325/Flesh-eating-bacteria-killing-people-Carolinas.html

http://www.foodnetworksolution.com/...อาการของโรคที่เกิดจาก-vibrio-parahaemolyticus

https://www.thestate.com/news/local/environment/article246018110.html