ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็นข่าว New Normal ต้องมา!!! การระบาดของ COVID-19 ได้เปลี่ยนวิถีการทำงานของชาวอเมริกันไปมากมาย และ 'ความปกติใหม่' ได้เปลี่ยนรูปโฉมของสำนักงานในอเมริกาให้พึ่งระบบไร้การสัมผัสและการรักษาระยะห่างในที่ทำงานมากขึ้น เพื่อพร้อมให้พนักงานกลับไปเริ่มงานในอาคารได้ในอนาคตอันใกล้ โดยจุดเปลี่ยนที่เห็นได้ชัดคือ ห้องพักเบรกของพนักงานที่จะเข้าไปชงกาแฟหรือสนทนาเรื่องทั่วไปช่วงพักเบรกจากการทำงานในแต่ละวัน บริษัทด้านอาหารและเครื่องดื่มจึงได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้

    ** ตลาดกาแฟและเครื่องชงกาแฟในอาคารสำนักงานในอเมริกาเป็นธุรกิจใหญ่จากมูลค่าตลาด 5,700 ล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อน แต่จากการระบาดของ COVID-19 ได้ทำให้พนักงานอเมริกันต้องทำงานจากบ้านเป็นส่วนใหญ่ซึ่งกระทบกับธุรกิจส่วนนี้อย่างมาก ดังนั้น ตอนนี้หลายบริษัทอย่าง Nestle จึงได้ผลิตเครื่องชงกาแฟแบบไร้สัมผัส เพียงแค่จ่อนิ้วไปใกล้ๆ หน้าจอเท่านั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ส่วน Lavazza ผลิตเครื่องชงกาแฟให้สั่งเครื่องดื่มผ่านแอพพลิเคชันได้ หรือบริษัท Bunn สร้างระบบสั่งกาแฟผ่าน QR code ให้สั่งกาแฟผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้ชงกาแฟถ้วยโปรดด้วยเครื่องที่ออฟฟิศข้างๆ ตัวเราได้เอง

    ** ในส่วนของรูปแบบในออฟฟิศก็เปลี่ยนไปเช่นกัน โดย Tom Vecchione เจ้าหน้าที่จากบริษัทสถาปนิก Vocon ในมหานครนิวยอร์ก เผยว่า บริษัทตัดสินใจนำประตูและฉากกั้นต่างๆ ออก เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการรักษาระยะห่างภายในพื้นที่ส่วนกลางของที่ทำงานให้มากขึ้น และเปลี่ยนเก้าอี้ทำงานเดิมให้เป็นเก้าอี้ไร้พนักพิงเพื่อกระตุ้นไม่ให้พนักงานนั่งอยู่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งนานเกินจำเป็น

    การศึกษาของบริษัทวิจัย GoodFirms ในกรุงวอชิงตัน ที่ศึกษาข้อมูลจาก 168 บริษัททั่วโลกพบว่า ราว 1 ใน 3 ของพนักงานจะต้องกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศ โดยราว 60% ของพนักงานทั่วโลกอยากกลับเข้ามาทำงาน แต่กว่าครึ่งหนึ่งในนั้นกังวลเรื่องความปลอดภัยเมื่อกลับไปทำงานตามปกติ.

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #มอร์มูฟเป็๋นข่าว ไปให้สุด-หยุดที่จักรวาล!!!! บริษัทเทคโนโลยี โนเกีย (Nokia) ของฟินแลนด์ ได้รับเลือกจาก องค์การอวกาศสหรัฐฯ หรือ นาซ่า (NASA) ให้ติดตั้งเครือข่ายโทรศัพท์มือถือบนดวงจันทร์เป็นครั้งแรก โดยโนเกียระบุว่า จะเริ่มก่อสร้างและติดตั้งระบบสื่อสารบรอดแบนด์แบบไร้สายชุดแรกในอวกาศบนพื้นผิวของดวงจันทร์ภายในปี ค.ศ. 2022

    เครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือบนดวงจันทร์เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาร์เตมิสของนาซ่าที่มีเป้าหมายส่งมนุษย์ขึ้นไปบนดวงจันทร์อีกครั้งภายในปี ค.ศ. 2024 รวมทั้งการสร้างอาณานิคมของมนุษย์บนดวงจันทร์ในระยะยาว โดยโนเกียจะจับมือกับบริษัทออกแบบยานอวกาศเอกชน Intuitive Machines ในรัฐเท็กซัส เพื่อจัดส่งอุปกรณ์สำหรับติดตั้งเครือข่ายการสื่อสารไปยังดวงจันทร์ จากนั้นเครือข่ายดังกล่าวจะประมวลผลด้วยตัวเองเพื่อติดตั้งระบบการสื่อสารแบบ LTE บนดวงจันทร์

    ** บริษัทโนเกียระบุว่า เครือข่ายการสื่อสารชุดแรกบนดวงจันทร์นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับภารกิจสำรวจดวงจันทร์ในอนาคต เช่น การสื่อสารและส่งข้อมูลกลับมายังโลก การควบคุมและสั่งการจากระยะไกล ตลอนจนการควบคุมการทำงานของยานพาหนะสำรวจพื้นผิวดวงจันทร์ และการถ่ายทอดวิดีโอสตรีมมิ่งแบบความคมชัดสูงจากดวงจันทร์ด้วย.

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นครราชสีมา: เขื่อนลำตะคอง เริ่มระบายวันนี้ พื้นที่ท้ายเขื่อน อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน ตัวเมืองนครราชสีมา เตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบ และติดตามข้อมูล

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    PSX_20201026_134038.jpg PSX_20201026_134100.jpg PSX_20201026_134121.jpg PSX_20201026_134137.jpg PSX_20201026_134205.jpg PSX_20201026_135309.jpg PSX_20201026_135327.jpg
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    30 บาทรักษาทุกที่
    เมื่อทำแค่ 10
    แต่โฆษณาไป 100


    วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทีมงานทำเนียบรัฐบาล พยายามจะขายเต็มที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคุณูปการกับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามาก ถึงขนาด “ไฟเขียว” ให้ใช้บัตรทอง หรือใช้โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ได้ทุกโรงพยาบาล โดยให้ อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล ออกมายืนยันความสำเร็จของโครงการ

    ทั้งที่ในความเป็นจริง โครงการนี้ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพิ่งจะอนุมัติให้คนไข้บัตรทองในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถใช้บริการ “ปฐมภูมิ” ในหน่วยบริการไหนในกรุงเทพฯ ก็ได้ อันเป็นผลพวงมาจากการ “ปราบโกง” ครั้งใหญ่ ที่เล่นเอาคลินิกชุมชนอบอุ่นในกรุงเทพฯ หายเรียบ 200 กว่าแห่ง และทำให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ต้องเร่งหาหน่วยบริการทดแทนคลินิกที่ถูกสั่งผิด จนต้องมอบให้หน่วยบริการปฐมภูมิที่ยังเหลือ ต้องทำหน้าที่ “คัดกรอง” ผู้ป่วย ไปก่อน

    ไม่ใช่ผลงานใหม่ แต่คือการแก้ปัญหาของเดิม ที่อีรุงตุงนังจากการเร่งปิดคลินิก จนทำให้คนไข้บัตรทองจำนวนมาก ขาดหน่วยบริการปฐมภูมิ บางคนต้องถูกย้ายไปรักษาในหน่วยบริการไกลบ้าน บางคน ถูกย้ายไปยังสถานพยาบาลที่แออัดอยู่แล้ว สปสช.เลยจัดการ “ปล่อยผี” ให้คนไข้ ใช่หน่วยบริการไหนก็ได้

    พอออกข่าวไปแบบคน “ไม่รู้เรื่อง” แบบนี้ก็วุ่นไปทั้งระบบ คนไข้จำนวนหนึ่งเดินไปโรงพยาบาลจุฬาฯ เดินไปโรงพยาบาลรามาธิบดี บอกว่ารัฐบาลให้รักษาได้ “ทุกที่” แล้ว ทำให้โรงพยาบาล บรรดาหมอ-พยาบาลต้องรีบชี้แจงว่า “ไม่จริง” ไม่ได้มีนโยบายแบบนี้ และหากจะต้องใช้ขั้นตอนของ “โรงเรียนแพทย์” ก็ต้องมีการ “ส่งตัว” ตามลำดับขั้นเท่านั้น

    อันที่จริง เรื่อง 30 บาทรักษาทุกที่นั้น “มั่ว” หลักการมาตั้งแต่แรก กล่าวคือจนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครรู้เหตุผลว่าทำไม อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ถึงได้ผุดไอเดียนี้ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ว่าประชาชนบัตรทองสามารถรักษาที่โรงพยาบาลไหนก็ได้ ทั้งที่ระบบงบประมาณ ระบบบริหารจัดการเดิม ถูกเซ็ตมาเพื่อให้ผู้ใช้บัตรทอง ต้องอยู่กับหน่วยบริการของตัวเองเท่านั้น

    เป็นต้นว่า เงินเหมาจ่ายรายหัว ตั้งขึ้นโดยสมมติฐานว่าคนไข้ จะต้องอยู่กับหน่วยบริการนี้ และเงิน ก็ต้องลงไปยังหน่วยบริการนี้โดยตรง เพื่อเลี้ยงหน่วยบริการนี้ให้ได้ หากจะมีการเกลี่ย ก็สามารถเกลี่ยกับหน่วยบริการข้างเคียงในเขตสุขภาพเดียวกัน แต่เวลารักษา ในมุมของคนไข้ ก็ต้องเริ่มต้นรักษา จากหน่วยบริการจำพวกโรงพยาบาลอำเภอ ที่ตัวเองขึ้นทะเบียนไว้อยู่ดี

    ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะไม่ให้เกิดความแออัดในโรงพยาบาลใหญ่อย่างที่เป็นอยู่ และให้โรงพยาบาลใหญ่ สามารถรักษาโรคที่ซับซ้อน โรคที่ต้องอาศัยการผ่าตัดได้เต็มที่ ไม่ใช่เปิดประตูต้อนรับทุกคน

    อย่างไรก็ตาม เมื่อประกาศไปแล้วว่าจะ “เริ่มต้น” บรรดาคนใน สปสช. และในกระทรวงหมอ ที่ไม่ได้เห็นด้วยนัก และยังคงหาเหตุผลไม่เจอ ก็จำต้องเดินต่อ นอกจากรักษาในปฐมภูมิทุกที่ใน กทม.ที่จะเริ่ม 1 พ.ย. นี้ แล้วยังมีผู้ป่วยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นที่ 4 จังหวัดฐานเสียงภูมิใจไทย ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ชัยภูมิ และนครราชสีมา โดยกรณีที่ต้องถูกส่งตัวมารักษายังหน่วยบริการในระดับสูงขึ้นเนื่องจากเกินศักยภาพของหน่วยบริการประจำนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ “ใบส่งตัว” เหมือนเดิม

    ในแง่หนึ่งก็ดี เพราะที่แน่ๆ คนไข้ที่ป่วยด้วยโรคซับซ้อนหน่อย ก็จะสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเดินไปหน่วยบริการปฐมภูมิใกล้บ้านเพื่อขอใบส่งตัว ก่อนจะไปรักษาที่โรงพยาบาลใหญ่ แต่ในอีกแง่หนึ่ง ก็ต้องกลับมาที่คำถามเดิมว่าโรงพยาบาลเหล่านี้มีฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงหรือยัง

    เป็นที่รู้กันว่า โรงพยาบาลจังหวัดของทั้ง 4 จังหวัดนั้น “ล้น” อยู่แล้ว มีการกางเตนท์บนทางเดินเพื่อเฝ้าญาติ วอร์ดคนไข้ที่มีก็ไม่พอ คำถามก็คือ การให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโดยไม่มีใบส่งตัว ในวันที่ระบบยังไม่พร้อม 100% และยังคงมีปัญหาอื่นๆ รุมเร้าอยู่อีกมากนั้น จะส่ง “ผลดี” อย่างไร ต่อระบบสาธารณสุขของจังหวัดนั้นๆ

    อย่างที่บอกแต่แรก เรื่องนี้ เป็นการ “ข้ามขั้น” ทางที่ดี 30 บาทรักษาทุกที่ ควรเริ่มจากการปรับระบบไอที ให้มีการเชื่อมข้อมูลในโรงพยาบาลทั่วประเทศ คนไข้ไม่ควรต้องหอบเวชระเบียนไปไหนมาไหนเอง และหากจะเปลี่ยนโรงพยาบาลตามสิทธิ์บัตรทอง ก็ควรทำได้ทันที ด้วยการลงทะเบียนออนไลน์ รวมถึงทราบผลการย้ายได้รวดเร็ว ซึ่งต้องเกิดจากการมีข้อมูลแบบ Real Time ว่าหน่วยบริการไหน มีคนไข้เท่าไหร่ ยังรับได้อีกเท่าไหร่ รวมถึงระบบ “ต้นทาง” เองก็ต้องยืดหยุ่นเรื่องระบบบริหารจัดการ เรื่องระบบงบประมาณเป็นอย่างมาก เพียงพอที่จะรองรับ

    แต่ทั้งหมด ยังต้องเกิดภายใต้สมมติฐานเดิม นั่นคือคนไข้บัตรทอง ต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยบริการประจำ หน่วยบริการขนาดใหญ่ จำพวกโรงพยาบาลจังหวัด ต้องสามารถคุมจำนวนคนไข้ได้แล้ว ให้เป็นคนไข้ที่ป่วยหนัก หรือมีโรคซับซ้อนจริงๆ และโรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ ต้องมีจำนวนเตียงคนไข้ มีจำนวนแพทย์ พยาบาล และบุคลากรเพียงพอ ไม่ใช่ยัง “เตี้ยอุ้มค่อม” แบบนี้

    หาก 30 บาทรักษาทุกที่ นำไปสู่การปรับระบบไอที ดึงเงินเข้ามาในระบบบัตรทองเพิ่ม สามารถแก้ปัญหาการจัดการงบประมาณ – จัดสรรกำลังคนภาครัฐ รวมถึงแก้ปัญหาระบบราชการที่ซับซ้อน – ยุ่งเหยิงได้ ผู้คนก็จะ “สรรเสริญ” รัฐมนตรีอนุทิน แต่หากเป็นไปในทางตรงกันข้าม คือไปสร้างปัญหาใหม่ ไปสร้างภาระให้กับโรงพยาบาล และทำให้ปัญหาเดิมที่มีอยู่แล้ว หนักหนาขึ้นอีก วุ่นวายขึ้นอีก เหมือนในช่วงที่ผ่านมา

    คงไม่ต้องบอกว่าเสียงตอบรับของโครงการนี้จะเป็นอย่างไร..

    #บัตรทอง #30บาทรักษาทุกที่ #30บาทรักษาทุกโรค #อนุทินชาญวีรกูล #ประยุทธ์จันทร์โอชา

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นายกฯ มาเลเซียเผชิญกระแสเรียกร้องให้ลาออก
    .
    กัวลาลัมเปอร์ 26 ต.ค. – นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเผชิญกระแสเรียกร้องให้ลาออก หลังจากประสบความล้มเหลวในการขอให้ประกาศภาวะฉุกเฉิน
    .
    นายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซีย กำลังเผชิญกระแสเรียกร้องให้ลาออก เมื่อเกิดคำถามเรื่องการสนับสนุน หลังจากกษัตริย์มาเลเซียทรงปฏิเสธคำร้องขอของนายกรัฐมนตรีที่ให้ประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
    .
    การปฏิเสธของสมเด็จพระราชาธิบดีอัล-สุลต่าน อับดุลลาห์ ถูกมองว่ายิ่งเป็นการสั่นคลอนอำนาจของ นายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน หลังจากเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้ นายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านประกาศว่า ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงบรรดาผู้ที่แปรพักตร์จากรัฐบาลชุดปัจจุบันให้จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
    .
    นายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ได้ร้องขอให้ประกาศภาวะฉุกเฉินในช่วงที่มาเลเซียมีโควิดระบาดมากขึ้น แต่นักวิจารณ์กล่าวหาว่า เขาเพียงต้องการพยายามยื้ออำนาจ โดยผู้นำพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นๆ
    .
    และฝ่ายค้าน ต่างวิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของเขาว่า เป็นการแสวงหาอำนาจฉุกเฉิน และเรียกร้องให้เขาก้าวลงจากตำแหน่ง หลังจากการร้องขอให้ประกาศภาวะฉุกเฉินประสบความล้มเหลว.

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พายุไต้ฝุ่นโมลาเบพัดถล่มฟิลิปปินส์สูญหาย 12 คน
    .
    มะนิลา 26 ต.ค. – พายุไต้ฝุ่นโมลาเบพัดถล่มพื้นที่ตอนใต้ของเกาะลูซอนในฟิลิปปินส์เมื่อคืนนี้ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก เสาไฟฟ้าหักโค่น และมีชาวประมงสูญหายอย่างน้อย 12 คน
    .
    พายุไต้ฝุ่นโมลาเบที่มีความเร็วลม 125 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรงสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ทางการฟิลิปปินส์ต้องสั่งอพยพประชาชนหลายหมื่นคนออกจากพื้นที่
    .
    ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่มีชาวประมงอย่างน้อย 12 คนที่ออกเรือไปหาปลาในทะเล แต่ไม่สามารถนำเรือกลับเข้าฝั่งในจังหวัดคาตันดัวเนสได้
    .
    เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของฟิลิปปินส์กล่าวว่า ชาวประมงกลุ่มดังกล่าวสูญหายไปเป็นเวลา 24 ชั่วโมงแล้ว พวกเขาควรจะต้องกลับถึงบ้านก่อนช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ และว่า ทางการจะระดมกำลังเจ้าหน้าที่ในการค้นหาและช่วยชีวิตพวกเขาต่อไป
    .
    ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอัลไบเผยว่า ทางการท้องถิ่นอนุญาตให้ผู้ประสบภัย 15,000 คนกลับที่พักอาศัยได้แล้ว แต่มีพื้นที่หลายแห่งที่ยังคงมีน้ำท่วมขังและประสบปัญหาไฟฟ้าดับ ทั้งนี้ พายุโมลาเบจะเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ในเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาท้องถิ่นและมุ่งหน้าสู่เวียดนามต่อไป
    .
    ด้านนายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุก ของเวียดนามออกประกาศเตือนภัยพายุโมลาเบในจังหวัดและเมืองต่าง ๆ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบแล้ว
    .
    พายุไต้ฝุ่นโมลาเบเป็นพายุลำดับที่ 17 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ หลังจากพายุโซนร้อนโซเดลพัดถล่มจังหวัดเกซอนในเขตคาลาบาร์ซอนทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมะนิลา และส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้างเมื่อสัปดาห์ก่อน.

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ญี่ปุ่นตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2593
    .
    โตเกียว 26 ต.ค. – นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นประกาศวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 และมุ่งสู่การเป็นสังคมคาร์บอนสมดุล
    .
    นายซูงะ แถลงนโยบายแรกต่อรัฐสภาญี่ปุ่นหลังเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือนที่แล้วว่า การดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกต่อไป
    .
    ทุกคนต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ว่า การดำเนินมาตรการอย่างเหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจก็จะกลับมาเติบโตอย่างยิ่งใหญ่
    .
    ผู้นำญี่ปุ่นยังระบุเพิ่มเติมว่า ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ญี่ปุ่นบรรลุเป้าหมายดังกล่าวก็คือ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์และการนำคาร์บอนกลับมาใช้ใหม่
    .
    นอกจากนี้ ญี่ปุ่นจะต้องมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาแนวทางดังกล่าวควบคู่ไปกับการก้าวสู่สังคมดิจิทัล ซึ่งเป็นนโยบายที่เขาให้ความสำคัญหลังเข้ารับตำแหน่งต่อจากนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
    .
    ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก และกำลังเดินหน้าเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน รวมถึงการวางแผนเปิดตัวโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ ทั้งนี้ การตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 ของญี่ปุ่นสอดคล้องกับนโยบายของสหภาพยุโรปที่ประกาศตั้งเป้าหมายไว้ในปีเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว.

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สถานทูตสหรัฐฯ ยินดีเวียดนามปล่อยตัวนักโทษอเมริกัน หลังโดนคุกข้อหาโค่นล้มรัฐบาล
    .
    รอยเตอร์ 26 ต.ค.- พลเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกศาลเวียดนามตัดสินจำคุกเป็นเวลา 12 ปี ในข้อหาพยายามโค่นล้มรัฐ ได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับบ้านในแคลิฟอร์เนียแล้ว ตามที่โฆษกของครอบครัวได้เปิดเผยกับรอยเตอร์วันนี้ (26)
    .
    ไมเคิล เหวียน ที่เกิดในเวียดนามในปี 2507 และอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ตั้งแต่เด็ก ถูกควบคุมตัวในเดือน ก.ค.2561 ด้วยต้องสงสัยว่าดำเนินกิจกรรมต่อต้านรัฐบาล รวมถึงการยั่วยุปลุกปั่นผู้ชุมนุมประท้วงให้โจมตีหน่วยงานรัฐด้วยระเบิดขวดและหนังสติ๊ก ตามการรายงานของสื่อในเวลานั้น
    .
    “เขาเดินทางถึงบ้านที่แคลิฟอร์เนียเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา” มาร์ค โรเบิร์ต โฆษกของครอบครัว กล่าว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นเพิ่มเติม
    .
    ด้านสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงฮานอยออกคำแถลงยืนยันว่า ไมเคิล เหวียน เดินทางออกจากเวียดนามในวันที่ 21 ต.ค.
    .
    “เรายินดีกับการปล่อยตัวเขาด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม” โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ระบุ
    .
    ฟิล โรเบิร์ตสัน จากฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า วอชิงตันได้ยกประเด็นการควบคุมตัวไมเคิล เหวียน กับรัฐบาลเวียดนามอยู่เป็นประจำ และว่าการปล่อยตัวที่เกิดขึ้นมาจากแรงกดดันจากภาครัฐและเอกชนต่อรัฐบาลเวียดนาม เนื่องจากผู้เห็นต่างไม่ควรถูกจับหรือถูกจำคุกตั้งแต่แรก
    .
    แม้เวียดนามจะดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างกว้างขวางและเพิ่มการเปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม แต่พรรคคอมมิวนิสต์ที่บริหารประเทศยังคงควบคุมสื่ออย่างเข้มงวดและไม่อดทนยินยอมต่อการวิพากษ์วิจารณ์
    .
    การปล่อยตัวเหวียนไม่มีการรายงานในสื่อทางการของเวียดนาม และยังไม่แน่ชัดว่าชาวเวียดนามอีก 2 คน ที่ถูกควบคุมตัวพร้อมกันได้รับการปล่อยตัวหรือไม่.

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผลการสำรวจใหม่ชี้ว่ามีคนเพียงไม่มากในญี่ปุ่นที่ได้รับประโยชน์ในด้านความปลอดภัยจากการทำงานที่บ้าน โดยพบว่ามีคนทำงานผ่านการสื่อสารทางไกลไม่ถึงร้อยละ 20 แม้จะมีเสียงเรียกร้องในเรื่องนี้เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

    ศูนย์เพิ่มผลิตภาพแห่งญี่ปุ่นซึ่งเป็นภาคเอกชนได้ทำการสำรวจพนักงานบริษัทเมื่อช่วงก่อนหน้าในเดือนนี้

    ผลการสำรวจพบว่าจนถึงเดือนตุลาคม มีเพียงร้อยละ 18 ของผู้ตอบการสำรวจ 1,100 คนที่ทำงานผ่านการสื่อสารทางไกลอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์

    เจ้าหน้าที่ศูนย์กล่าวว่าบริษัทในเมืองท้องถิ่นและบริษัทที่มีขนาดเล็กกว่าอาจไม่มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่จำเป็นต่อการทำงานผ่านการสื่อสารทางไกล

    คนที่ทำงานจากบ้านมีมุมมองเรื่องประสิทธิภาพของการทำงานผ่านการสื่อสารทางไกลต่างกันในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ร้อยละ 50 กล่าวว่าประสิทธิภาพของพวกตนดีขึ้น ขณะที่ร้อยละ 49 กล่าวว่าแย่ลง

    ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
    https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    26.10.20

    ถ้ายังจำเหตุการณ์อุบัติเหตุครั้งร้ายแรง ที่เกิดขึ้นในถ้ำเมืองออสโล หรือ ที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า "ปาร์ตี้ในถ้ำปิดตาย" NRK ได้ติดตาม ชีวิต ของ Magnus วัย 22 ปี หนึ่งใน ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากอุบัติเหตุในครั้งนั้นว่า เป็นอย่างไรบ้าง (บทความยาวหน่อย แต่เนื้อหาดีมากๆค่ะ)
    .
    อ่าน อุบัติเหตุร้ายแรงในถ้ำปิดตาย

    อ่าน บทสรุปของ ปาร์ตี้ในถ้ำปิดตาย

    .
    1.Magnus วัย 22 ปี ย้ายออกจากบ้านเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองออสโล หลังจากผ่านการ ทำงานในโรงเรียนอนุบาล และ งานที่ร้าน Rema 1000 Magnus มีความฝันอยากเป็น สถาปนิก เขารอคอยที่จะเริ่มเรียนต่อ และ เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆในชีวิตเมื่อย้ายมาอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้

    2.ย้อนกลับไปเมื่อคืน วันที่ 30 สิงหาคม Magnus และ เพื่อนร่วมงานของเขาได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ที่เรียกว่า "Rave Cave" ที่แอบจัดขึ้นใน หลุมหลบภัยเก่า ที่ถูกปิดตาย ในย่านถนน St. Hanshaugen เมืองออสโล ห้องโถงที่จัดงานซ่อนอยู่หลังช่องเปิดในกำแพงหิน ที่มีทางเข้าขนาดประมาณ 1 x 1 เมตร

    3.Magnus คลานผ่านเข้าไปในช่องเล็กๆ ด้านหน้า จนมาถึงด้านใน ที่กลายเป็นห้องโถงบนภูเขา เสียงเพลงดังขึ้นเรื่อยๆ แสงไฟหลากสีโลดแล่นอยู่บนกำแพง มีคนแออัดอยู่ในถ้ำราว 200 คน บรรยากาศสนุกสนาน ทุกคนกำลังเต้นรำ และ มีความสุข

    4.ขณะที่ทุกคนกำลังสนุกกันอยู่นั้น ไม่มีใครคาดคิดว่า จะมีอุบัติเหตุจาก พิษของคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่มีต้นกำเนิดมาจากเครื่องยนต์ดีเซล ที่ให้ พลังงานแก่ เครื่องดนตรี และ ระบบแสงสว่าง ในงานฉบับพลันทุกสิ่งทุกอย่างก็มืดลง เมื่อกล่าวถึงตอนนี้ Magnus ไม่รู้ว่าเรื่องราวหลังจากนี้เป็นความทรงจำของเขาเองจริงๆ หรือ เป็นภาพที่สร้างขึ้นจากสิ่งที่เขาได้ยินคำบอกเล่าในภายหลังกันแน่ ในวันนั้น มี ผู้คนที่ได้รับพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ รวม 28 ราย ผู้ป่วย 2 รายได้รับพิษร้ายแรง Magnus เป็นหนึ่งในนั้น หลายคนได้รับการวินิจฉัยว่าสมองถูกทำลายหลังจากงานปาร์ตี้

    5.พิษของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ทำลายส่วนลึกของสมอง และ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ความทรงจำ รวมถึง การรับรู้ ในช่วงสัปดาห์แรกเขาจำอะไรไม่ได้เลย ที่ โรงพยาบาล Ullevål เขาได้รับ ออกซิเจน นอกจากนี้เขายังได้รับการรักษาในห้องความดัน เพื่อให้ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ออกจากร่างกายโดยเร็วที่สุด และเพื่อรับมือกับอาการบาดเจ็บทางระบบประสาท

    6.หลังจากอยู่ในโรงพยาบาลมาราว 3 สัปดาห์ เมื่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว Magnus ที่อยู่ในช่วงพักฟื้น ก็ได้เรียนรู้เทคนิคการจำ และ ฝึกกายภาพบำบัด เขาได้รับการติดตามผลการรักษาจาก นักกิจกรรมบำบัด สัปดาห์ละหลายครั้ง โดยที่เขากล่าวว่า "รู้สึกเหมือนกลับไปเป็น เด็กประถม อีกครั้งหนึ่งเลยทีเดียว"

    7.เป็นเวลา 2 เดือนให้หลังจาก งานปาร์ตี้ ที่ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลงไป เขายังคงต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากผู้อื่นอีกมาก เขาต้องเรียนรู้วิธีการจดจำ การนัดหมาย , จำรายการสิ่งของจำเป็นที่ต้องซื้อในร้าน หรือ อย่าลืมนำพิซซ่าออกจากเตาอบ เป็นต้น

    8.แม่ของ Magnus เป็นอีกผู้หนึ่งที่ช่วยเหลือเขาอย่างมาก เธอช่วยเขาขับรถ เนื่องจากเขาไม่สามารถขับรถได้ แม่ของ Magnus กล่าวว่า เพื่อนของลูกชายโทรมาแจ้งเรื่องที่เขาต้องเข้าโรงพยาบาล จากนั้นเธอก็รู้สึกราวกับว่าทั้งชีวิตของเธอได้พังทลายลงแล้ว เธอกลัวมาก ในครั้งแรกที่เธอได้คุยโทรศัพท์กับลูกชาย เขาบอกว่าเขาจำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้ยังไง และ อยากกลับบ้าน

    9.ในช่วงแรก สถานการณ์ของ Magnus ร้ายแรงมากจนมีการบอกว่าเขาต้องการ ผู้พิทักษ์ หมอวินิจฉัยว่า เขาอาจจะจำอะไรไม่ได้อีกแล้ว และ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคทางสมองตั้งแต่อายุยังน้อย มันไม่ใช่เรื่องสนุกที่จะได้ยินเลย เหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวของคนที่ได้รับบาดเจ็บ เดิมที Magnus ฝันอยากเป็น สถาปนิก เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทุกอย่างต้องหยุดลงชั่วคราว และไม่รู้ว่าจะใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ เขาจึงจะกลับไปเดินตามฝันได้อีกครั้ง

    10.Magnus รู้สึกดีใจที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาเลือกที่จะเปิดเผยเรื่องนี้เพื่อเป็นอุธาหรณ์ให้แก่ คนอื่นๆ แต่เขาเลือกที่จะไม่เปิดเผยหน้าตา เนื่องจากคำวิจารณ์มากมายที่เขาได้รับ บน Internet อย่างใดก็ตามที่ไม่ใช่คำชม เขารู้สึกละอายใจ ที่ไป งานปาร์ตี้ และไม่คาดคิดว่ามันจะมีผลกระทบมากมายเช่นนี้ ถึงกระนั้นเขาก็รู้สึกขอบคุณ ทีมกู้ภัย ที่พาเขาออกจากถ้ำ เพื่อให้เขาได้มีชีวิตรอด อย่างทันท่วงที นอกจากนี้เขายังขอบคุณ บริการด้านสุขภาพ ที่ติดตาม อาการของเขา,เพื่อนที่ดี และ ครอบครัวที่ดี

    11.ทางด้าน Dag Jacobsen เป็นหัวหน้าแผนกของภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยออสโล กล่าวว่า เขาติดตามอาการของ Magnus ตั้งแต่เข้ารับการรักษาที่นั่น เมื่อ NRK สอบถามว่า มีความหวังว่าเขาจะหายดี เป็นปรกติอีกครั้งหรือไม่? Jacobsen ตอบว่า

    "เรามีความหวังอยู่เสมอ เขาก้าวหน้าอย่างมากในขณะที่เข้ารับการรักษาในหน่วยติดตามผลของเรา และ ขณะนี้เราสามารถพูดคุยสื่อสารกับเขาได้บ้างแล้ว เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะจดจำกับ "ตัวตนในอดีต" ของเขาได้ไม่มากก็น้อย"

    12.ทางด้านแม่ของ Magnus ฝากคำเตือนว่า "เหตุการณ์บางอย่างไม่ใช่เรื่องล้อเล่น หรือ คิดจะเอาแต่ความสนุกสนาน คุณต้องคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกที่จะทำอะไรบางอย่างในชีวิต"
    .
    อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
    http://norgetiltak.blogspot.com/

    อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
    https://www.blockdit.com/norwaystyle

    #นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
    .
    แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

    ผู้ทำข่าวต้นฉบับ :
    Jens Christian Sundby : Journalist

    ข่าวต้นฉบับ NRK :
    https://www.nrk.no/osloogviken/magn...orgiftet-etter-bunkerfesten-i-oslo-1.15205984

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ฟิลิปปินส์อ่วม “ไต้ฝุ่นโมลาเบ” ขึ้นฝั่ง ปชช.ไร้ที่อยู่ทันทีไม่ต่ำกว่า 25,000 ชาวประมงสูญหาย 13
    .
    .
    .เอพี/รอยเตอร์ – ฟิลิปปินส์ได้รับผลกระทบหลังพายุไต้ฝุ่นโมลาเบ(Molave)ที่พัดเข้าทางใต้ของเกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะหลักในชั่วข้ามคืน ทำให้เกิดฝนตกหนัก สายไฟขาด น้ำท่วมฉับพลัน และประชาชนไม่ต่ำกว่า 25,000 คนต้องย้ายที่อยู่ พบมีชาวประมงสูญหาย 13 คน
    .
    เอพีรายงานวันนี้(26 ต.ค)ว่า ไต้ฝุ่นโมลาเบ(Molave)ที่เคลื่อนที่เร็วกำลังมุ่งหน้าออกจากฟิลิปปินส์ในวันจันทร์(26) หลังจากทำให้มีผู้สูญหายไม่ต่ำกว่า 13 คน และทำให้ชาวบ้านอีกไม่ต่ำกว่า 25,000 คนต้องอพยพออกมา เจ้าหน้าที่ภัยพิบัติฟิลิปปินส์กล่าว
    .
    ในจำนวนผู้สูญหายจากพายุทั้งหมดรวมไปถึงชาวประมงจำนวน 12 คนที่ออกไปหาปลาในช่วงสุดสัปดาห์ถึงแม้จะไม่มีการเตือนการจำการเดินเรือเนื่องมาจากคลื่นแรง และในเวลานี้ยังไม่มีรายงานการสูญเสียออกมา
    .
    ไต้ฝุ่นโมลาเบเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตกมุ่งหน้าสู่ทะเลจีนใต้ด้วยกำลังลมคงที่ 125 ก.ม/ช.ม และลมกรรโชกสูงสุดที่ 150 ก.ม/ช.ม โดยในช่วงข้ามคืนพบว่าไต้ฝุ่นพัดผ่านจังหวัดต่างๆบนเกาะที่อยู่ทางใต้ของกรุงมะนิลาที่ได้รับผลกระทบจากลมพัดแรงจัดแต่สามารถหลบเลี่ยงจากความเสียหายใหญ่ได้
    .
    มีประชาชนไม่ต่ำกว่า 25,000 คนต้องพลัดถิ่นผลมาจากพายุ ซึ่งมีราว 20,000 คนต้องพักอยู่ในโรงเรียนและสำนักงานรัฐบาลที่ถูกดัดแปลงให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนฟิลิปปินส์กล่าว แต่ชี้ว่า มีบางส่วนเดินทางกลับบ้านหลังพื้นที่ในจุดนั้นมีสภาพอากาศที่ดีขึ้น
    .
    “ชาวบ้านในเวลานี้ต่างร้องขอให้ช่วยออกมาเนื่องมาจากลมได้จู่ก็พัดหลังคาบ้านพวกเขาไป” ฮูเมอลิโต โดเลอร์( Humerlito Dolor) ผู้ว่าการราชการจังหวัด โอเรียนทอล มินโดโร (Oriental Mindoro)ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ DZMM
    .
    และเสริมต่อว่า ฝนที่ตกหนักในช่วงข้ามคืนทำให้ทั้งหมู่บ้านจมน้ำภายในจังหวัด ลมกรรโชกยังทำให้ต้นไม้ล้มรวมไปถึงเสาไฟฟ้าในเวลาเช้าวันจันทร์(26) ส่งผลทำให้เกิดไฟฟ้าดับ เจ้าหน้าที่กำลังทำการเปิดถนนที่มีต้นไม้ล้มและเศษซากหักพักตกกระจายในบางเมืองที่ไต้ฝุ่นโมลาเบผ่าน
    .
    ที่จังหวัดคาตันดัวเนส(Catanduanes)ทางตะวันออกมีรายงานชาวประมง 12 รายสูญหายหลังจากที่คนเหล่านี้ไม่ได้เดินทางกลับบ้านจากการออกไปจับปลาในช่วงวันสุดสัปดาห์ เจ้าหน้าที่กล่าว
    .
    เรือยอร์ชล่มที่นอกฝั่งจังหวัดบาตังกัส(Batangas)ทางใต้ของกรุงมะนิลา และหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์แถลงว่า สามารถช่วยชีวิตลูกเรือไว้ได้ 7 คนแต่ยังคงออกค้นหาลูกเรือที่ยังสูญหายต่อ
    .
    นอกจากนี้มีรายงานว่าเรือโดยสารและบรรทุกสินค้าเกิดเกยตื้นที่เกาะโบนิโต(Bonito island) จากที่ในภูมิภาคเกิดลมแรงจัดและฝนตกหนักในเช้านี้(26) หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ชี้ว่า เจ้าหน้าที่ยามฝั่งกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังเกาะเพื่อรับลูกเรือ 5 คนและลากเรือกลับเข้าฝั่ง
    .
    และที่ท่าเรือต่างมีผู้โดยสาร แรงงาน และคนขับรถบรรทุกขนส่งสินค้าราว 1,800 คนต้องติดค้างหลังเรือเฟอร์รีและเรือต่างๆไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากท่า

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ชมไฮไลท์สำคัญในการอภิปรายประชันวิสัยทัศน์รอบสุดท้ายระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และอดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก่อนถึงวันเลือกตั้งผู้นำโลกเสรี ในวันที่ 3 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นนท.พิเศษ (STV) จากจีน ชุดที่ 2 จำนวน 145 ราย ถึงไทยแล้ว จนท.ตรวจคัดกรอง #โควิด ก่อนนำเข้ากักตัว 14 วัน #ไทยรัฐออนไลน์

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มาอีกลูก! #อีสานเตรียมรับมือ
    #พายุไต้ฝุ่นโมลาเบ ยืนยัน..เข้าไทย 28-30 ต.ค. นี้ อีสานโดนทั้งภาค ระวังฝนหนัก-ลมเเรง

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นี่คือจิตวิญญาณความเป็นครู... ชื่นชมครูถือธงพานักเรียน 200 คน หนีตาย นาทีท่อแก๊สบางบ่อระเบิด

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นายกฯมาเลเซีย “มูห์ยิดดิน ยัสซิน” ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ภาวะฉุกเฉิน พรรคร่วมกดดันให้ลาออก
    .
    .
    .รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(25 ต.ค)สุลต่านแห่งมาเลเซียไม่พระราชทานพระบรมราชานุญาตตามคำขอของนายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน ให้ประกาศใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉินสำหรับวิกฤตโควิด-19 แถมโดนนักวิจารณ์เซ็งแซ่ ยัสซินต้องการฉวยโอกาสใช้เพื่อประชับอำนาจ พรรคร่วมกดดันเรียกร้องให้นายกฯแดนเสือเหลืองลาออก
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้26 ต.ค)ว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มูห์ยิดดิน ยัสซิน ได้ยื่นขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตต่อสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลละฮ์ ชะฮ์แห่งมาเลเซียให้ประกาศใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉินในวิกฤตโรคโควิด-19ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจประเทศ
    .
    แต่ทว่าในวันอาทิตย์(25)พบว่ายังดีเปอร์ตวนอากงไม่ทรงพระราชทานตามคำขอโดยทรงชี้ว่า ยังไม่เห็นถึงความจำเป็น
    .
    การออกมาเคลื่อนไหวล่าสุดของยัสซินทำให้บรรดานักวิจารณ์ต่างวิจารณ์เสียงเซ็งแซ่ว่าเขาต้องการใช้เพื่อเป็นข้ออ้างในการทำให้รัฐสภาหยุดการทำงานชั่วคราว ซึ่งการที่เขาถูกปฎิเสธในคำขอกลายเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่าอำนาจของเขากำลังถูกกัดกร่อน เกิดขึ้น 1 เดือนหลังจาก อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านมาเลเซีย ออกมาประกาศว่าเขามีเสียงข้างมากในมือเพื่อสนับสนุนให้ขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่แทนยัสซิน
    .
    นอกเหนือจากที่พระองค์จะทรงปฎิเสธการสั่งบังคับกฎหมายภาวะฉุกเฉินแล้ว สุลต่านแห่งมาเลเซียยังขอให้บรรดานักการเมืองหยุดการกระทำใดๆทางการเมืองที่อาจส่งผลกระต่อเสถียรภาพรัฐบาล โดยพระองค์ตรัสชื่นชมว่ารัฐบาลมาเลเซียของยัสซินสามารถจัดการวิกฤตโควิด-19ได้เป็นอย่างดี
    .
    แต่บรรดาผู้นำพรรคอื่นๆในรัฐบาลผสมของเขาและจากพรรคฝ่ายค้านได้วิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของยัสซินและเรียกร้องให้ยัสซินลาออกจากตำแหน่ง
    .
    โดยอาห์หมัด พูอัด ซาร์คาชี ( Ahmad Puad Zarkashi) แกนนำอาวุโสของพรรคอัมโนซึ่งเป็นพรรคที่ใหญ่สุดในรัฐบาลผสมของยัสซินกล่าวว่า “ช่างโชคดีที่ยังดีเปอร์ตวนอากงทรงไม่คล้อยตามไปตามเกมส์การเมืองที่อาจนำประเทศเข้าสู่วิกฤตที่ร้ายแรงมากขึ้น”
    .
    และเขากล่าวว่า “ความอยู่ดีมีสุขของประชาชนนั้นมีความสำคัญมากกว่า และเพื่อความถูกต้อง มูห์ยิดดินสมควรต้องลาออก”
    .
    ด้านนักการเมืองพรรคฝ่ายค้านมาเลเซีย หว่อง เฉิน(Wong Chen)แสดงความคิดว่า “คำขอของมูห์ยิดดินนั้นมีความมุ่งร้ายมีความชอบธรรมแล้วที่องค์สุลต่านจะทรงไม่พระราชทานบรมราชานุญาต และนายกรัฐมนตรีสมควรที่ต้องลาออกหรือสั่งปลดรัฐมนตรีที่เสนอให้ใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉิน”
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า ยัสซินจะประชุมคณะรัฐมนตรีในวันจันทร์(26)ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลา 11.30 น. โดยในการประชุมจะทำการพิจารณาถึงการไม่พระราชทานบรมราชานุญาตขององค์สุลต่าน

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รัฐบาลเกาหลีใต้เรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดซ้ำเติมปัญหาโควิด-19 ขณะที่ชาวแดนกิมจิต่างหวาดผวาหลังมีข่าวว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่บางคนเสียชีวิต
    .
    จนถึงวันเสาร์ (24 ต.ค.) มีชาวเกาหลีใต้เสียชีวิตหลังรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วทั้งสิ้น 48 ราย และเมื่อเดือนที่แล้วทางการต้องตัดสินใจทิ้งวัคซีนประมาณ 5 ล้านโดส เนื่องจากไม่ได้ถูกเก็บภายใต้อุณหภูมิที่เหมาะสม
    .
    รัฐบาลโสมขาวยืนยันว่า “ไม่พบความเชื่อมโยงโดยตรง” ระหว่างวัคซีนกับการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น และขอให้ชาวเกาหลีใต้เชื่อมั่นในความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคที่คร่าชีวิตประชากรไปไม่น้อยกว่า 3,000 คนเมื่อปีที่แล้ว
    .
    “การฉีดวัคซีนจะให้ประโยชน์มากกว่าผลข้างเคียง ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) และผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ในต่างประเทศก็เห็นพ้องกันในเรื่องนี้” พัค นึงฮู รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้แถลงเมื่อวานนี้ (25)
    .
    ปีที่แล้วมีผู้สูงอายุชาวเกาหลีใต้มากกว่า 1,500 คนที่เสียชีวิตภายใน 7 วันหลังฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แต่ทว่ารัฐบาลไม่ยอมรับว่าการเสียชีวิตดังกล่าวเกี่ยวต้องโดยตรงกับวัคซีน
    .
    ในขณะที่เกาหลีใต้ยังคงเดินหน้าแจกวัคซีนต่อไป ล่าสุด “สิงคโปร์” ได้กลายเป็นประเทศแรกๆ ที่ประกาศระงับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2 ตัวในสัปดาห์นี้เพื่อป้องกันไว้ก่อน แม้จะยังไม่มีรายงานการเสียชีวิตจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่เลยก็ตาม
    .
    รัฐบาลเกาหลีใต้สั่งซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น 20% ในปีนี้ เพื่อสกัด “โรคระบาดซ้ำซ้อน” (twindemic) ซึ่งหมายถึงการระบาดพร้อมๆ กันของโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง

    เกาหลีใต้แจกวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้แก่พลเมืองไปแล้วกว่า 9.4 ล้านรายตั้งแต่เดือน ก.ย. โดยมีผู้รับวัคซีนอย่างน้อย 1,154 รายที่เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์
    .
    ที่มา: รอยเตอร์
    .
    https://mgronline.com/around/detail/9630000109742

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หน่วยงานสาธารณสุขจีนรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ (asymptomatic) รวมทั้งสิ้น 161 รายเมื่อวันอาทิตย์ (25 ต.ค.) ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือน หลังเกิดการแพร่เชื้อเป็นกลุ่มก้อนโดยไม่ทราบที่มาที่ไปในเขตปกครองตนเองซินเจียง
    .
    หน่วยงานสาธารณสุขซินเจียงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่แสดงอาการรวมทั้งสิ้น 137 รายเมื่อวันอาทิตย์ (25 ต.ค.) โดยทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกับโรงงานสิ่งทอแห่งหนึ่ง
    .
    ทางการได้สั่งตรวจเชื้อประชากรทั้งหมด 4.75 ล้านคนในเมืองคัชการ์ (Kashgar) หลังมีรายงานเมื่อวันเสาร์ (24) ว่าลูกจ้างหญิงวัย 17 ปีของโรงงานสิ่งทอแห่งหนึ่งติดโควิดแบบไม่แสดงอาการ ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังระบุไม่ได้ว่าหญิงคนดังกล่าวรับเชื้อมาจากไหน
    .
    เจ้าหน้าที่จีนเปิดเผยว่า เคสของหญิงรายนี้ถูกพบระหว่างการตรวจหาเชื้อตามวงรอบปกติ แต่ไม่ได้ชี้แจงว่าเพราะเหตุใดเธอจึงโดนตรวจตั้งแต่ต้น
    .
    รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามแกะรอยเพื่อหาต้นตอของการระบาดครั้งนี้
    .
    คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 20 คน และผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการอีก 161 คนทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ในวันที่ 25 ต.ค. ซึ่งตัวเลขผู้ป่วยไม่แสดงอาการ 161 คนนี้ถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่จีนเริ่มแถลงยอดผู้ติดเชื้อรายวันในวันที่ 31 มี.ค. เป็นต้นมา
    .
    จนถึงบ่ายวันอาทิตย์ (25) มีประชาชนในเมืองคัชการ์เข้ารับการตรวจโควิด-19 ไปแล้วกว่า 2.84 ล้านคน และคาดว่าจะตรวจประชากรทั้งเมืองเสร็จสิ้นภายในวันอังคาร (27) ซึ่งความรวดเร็วในการตรวจหาเชื้อถือว่าพอๆ กับเมื่อครั้งที่จีนพบโควิด-19 ระบาดในเมืองชิงเต่าเมื่อต้นเดือนนี้
    .
    แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในจีนจะลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงพีคสุดในเดือน ก.พ. แต่รัฐบาลปักกิ่งยังคงไว้ซึ่งศักยภาพในการตรวจหาเชื้อประชากรจำนวนมากๆ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากเกรงจะต้องเผชิญการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ในฤดูหนาวนี้
    .
    จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในจีนล่าสุดอยู่ที่ 85,810 คน ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตคงอยู่ที่ 4,634 คนเท่าเดิม
    .
    ที่มา: รอยเตอร์
    .

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อย่าหาทำ! สาวจีนลองใจหนุ่ม เดทแรกขนญาติไป 23 คน เจอบิล 9.6 หมื่น สุดท้ายโดนชิ่ง!
    .
    เดทครั้งแรกของสาวจีนคนหนึ่งพังไม่เป็นท่า หลังจากที่เธอขนเอาญาติกว่า 20 คนไปร่วมวงรับประทานอาหารเพื่อลองใจหนุ่มว่าพร้อมจะทุ่มให้กับเธอหรือไม่
    .
    สื่อท้องถิ่นรายงานว่า สาวคนนี้พาสมาชิกในครอบครัว 23 คนไปปรากฏตัวโดยไม่ได้บอกให้ฝ่ายชายทราบก่อน ทำให้ดินเนอร์ใต้แสงเทียนครั้งแรกกลายเป็นงานรวมญาติสุดหรรษาไปซะงั้น
    .
    สุดท้ายเรื่องราวกลับโกลาหล เมื่อฝ่ายชายฉวยโอกาสเดินหนีออกจากร้านไปเงียบๆ และปล่อยให้เธอรับผิดชอบบิลค่าอาหารที่ญาติของเธอสั่งมากินแบบไม่ยั้ง รวมสนนราคา 19,800 หยวน หรือประมาณ 96,000 บาท
    .
    หนังสือพิมพ์ Taizhou Evening News รายงานว่า หญิงสาวผู้ไม่ประสงค์ออกนามได้นัดเดตกับหนุ่มแซ่ หลิว จากมณฑลเจ้อเจียง โดยแม่ของ หลิว เป็นคนจัดแจงหาคู่ครองให้กับลูกชายวัย 29 ปี ซึ่งโสดมาสักระยะหนึ่งแล้ว
    .
    ก่อนที่จะพบหน้ากัน หลิว ได้บอกกับฝ่ายหญิงว่าเขาจะเป็นคนเลี้ยง โดยเข้าใจว่ามันจะเป็นการดินเนอร์แบบโรแมนติกสองต่อสอง
    .
    อย่างไรก็ตาม เจ้าหนุ่มถึงกับไปไม่เป็นเมื่อหญิงสาวขนญาติกว่า 20 ชีวิตมาด้วย โดยไม่บอกกันล่วงหน้า
    .
    สาวรายนี้ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีนว่า เธอแค่อยากจะทดสอบดูเท่านั้นว่า หลิว ใจกว้างพอหรือไม่ แต่เขากลับหนีออกจากร้านไปดื้อๆ แถมยังปิดโทรศัพท์ด้วย
    .
    เมื่อติดต่อได้ในภายหลัง หลิว ยอมที่จะช่วยจ่ายค่าอาหารเพียง 4,398 หยวนสำหรับ 2 โต๊ะ ส่วนที่เหลืออีก 15,402 หยวนฝ่ายหญิงยังต้องจ่ายเอง
    .
    เว็บไซต์จีนหลายแห่งได้ตีแผ่เรื่องราวโอละพ่อนี้จนกลายเป็นไวรัลในสื่อสังคมออนไลน์ และชาวเน็ตจีนต่างถกเถียงกันว่าใครควรเป็นคนจ่ายเงินกันแน่ ในกรณีแบบนี้
    .
    ชาวเน็ตคนหนึ่งบอกว่า “โดยมารยาทแล้วผู้ชายควรจ่าย แต่การที่ฝ่ายหญิงพาญาติมาตั้ง 23 คนก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง” ขณะที่อีกคนบอกว่า “ถ้าหลังจากออกเดตแล้วทั้งสองคนชอบพอกัน ฝ่ายชายก็ควรจะจ่าย”
    .
    อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตบางคนแย้งว่า “ปกติแล้วผู้หญิงอาจจะพาเพื่อนสนิทไป 1-2 คนเพื่อแก้เขิน และเราในฐานะสุภาพบุรุษควรจะเป็นฝ่ายเลี้ยงพวกเธอ แต่ถ้าผู้หญิงพาคนมาด้วย 7-8 คน คุณก็ควรเดินหนีออกมาตั้งแต่แรก เพราะเธอไม่จริงใจอยู่แล้ว”
    .
    ที่มา : Daily Mail, whatsonweibo

     

แชร์หน้านี้

Loading...