เรื่องของการถอดจิตมั้ย แล้วจริงมั้ยจิตเราจะแฝงควบคุมคนอื่นได้

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Molzy, 7 พฤศจิกายน 2020.

  1. Molzy

    Molzy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    คือเรื่องมีอยู่ว่า(ยาวหน่อยนะคะเพราะเรื่องมันกินเวลาต่อเนื่องมาเป็นปีแต่หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้) เหตุการณ์มันมีประมาณ 3 เรื่องที่ต่อเนื่องกันค่ะ

    1. คือมลทำงานอยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง จนมีวันนึงประสบปัญหาเกิดขึ้น จากการไม่เข้าใจกันในระหว่างเพื่อนร่วมงาน เคลียดบ้าง อยู่ๆก็ร้องไห้ในเวลาทำงานโดยจิตเราฟุ้งซ่านบ้างรู้สึกว่าเพื่อนในห้องแปลกไปจากเดิม ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น โดยรับรู้และสัมผัสได้จากความรู้สึกส่วนตัวของตัวเอง แต่ไม่ใช่ในทิศทางที่เลวร้ายนะคะ (ออกจะห่วงใยเรามากเกินไป จนเรารู้สึกเหมือนเพื่อนคอยจับจ้องเรา คอยสอดส่องห่วงใยเราอ่ะค่ะ เหมือกลังเราจะทำร้ายตัวเองอะไรแบบนั้นอ่ะคะ) จนคล้ายจะมีภาวะเป็นโรคซึมเศร้า แล้วก้อมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นกับเราหลายๆเหตุการณ์ จนเรารู้สึกหงุดหงิดกับเหตุการณ์ที่เจอจึงพูดออกไปกับเพื่อนๆ “ต่อให้เอานักจิตวิทยามาประเมินเรายังบอกได้เลยว่าเราไม่ได้เป็นไร” จากนั้นเราก็มีสติเลยค่ะ คิดย้อนถึงเหตุการณ์แปลกที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่าใช่อย่างที่คิดหรือป่าว (ซึ่งส่วนใหญ่คือได้ยินเพื่อนในห้องอ่านข้อความทางไลน์ซึ่งเป็นเรื่องของเรา) เช่น เรื่องที่เราระบายปรับทุกข์กับแฟนเกี่ยวกับปัญหาที่ทำงานทางไลน์ หรือคุยโทรศัพท์กับแฟนในรถ,
    เรื่องที่เราคุยกับน้อง 2 คนในรถตอนวันหยุด , หรือแม้กระทั่งบรรยายบักษระพฤติกรรมการนอนของเรา เป็นต้น มลเลยคิดว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาและไม่น่าจะเป็นแค่เรื่องที่เกิดภายในที่ทำงานอย่างเดียวแล้ว เพราะน่าจะเป็นการถูกแฮ็กไลน์และถูกดักฟังทางโทรศัพท์รวมถึงถูกจ้องมองผ่านทางกระแสไฟฟ้า (ซึ่งท่ามานั่งวิเคราะห์แล้วคนธรรมดาไม่น่าจะทำได้ขนาดนี้ต้องเป็นพวกตำรวจแล้วล่ะถึงมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทำได้ขนาดนี้) เลยคิดว่าที่บริษัทเชิญจิตแพทย์ของทางตำรวจมาวิเคราะห์และประเมินสภาพจิตใจเราค่ะ จึงได้มีการเริ่มเปิดใจและเริ่มพูดกับจิตแพทย์ผ่านจอคอมบ้าง เครื่องปั่นเงินบ้าง
    จนมีเหตุการ์หนึ่งดันรุ้สึกได้ยินเสียงในหัวเหมือนว่าหมอจิตแพทย์คุยโต้ตอบกับเราเลย เพราะได้ยินเสียงหมอตอนเราแต่งตัวก่อนไปทำงาน แล้วก้อได้ยินเสียงเขาพุดถึงวิจารณ์เรื่องสิวเราตอนเราทำงานอยู่ เลยได้คุยโต้ตอบกันบ้าง (ซึ่งในที่นี้เข้าใจและคิดว่าเป็นหมอแอร์ หมอจิตแพทย์ของสำนักงานตำรวจค่ะ) และก้อได้ยินเสียงในหัวเป็นเสียงของประธานบริษัทพูดถึงเราเกี่ยวกับเรื่องที่เรารู้แค่ 2 คนกับน้อง ประมานนั้นค่ะ (มีหลายเหตุการณ์เลย) ซึ่งพอเบ็จเสร็จได้ยินหมอสรุปให้ประธานฟังว่าเรามีเซ้นต์รับรุ้ความรุ้สึก ซึ่งเปิดขึ้นเองแล้วเดี๋ยวมันก็ปิดเองประมานนั้น แล้วก็จบ (หมอกลับกรุงเทพไปค่ะ)


    2.เป็นเหตุการณ์ที่ต่อจากเรื่องแรก
    พอหมอกลับไป เรายังคงได้ยินเสียงแว่วในหัวบ้าง และจับสังเกตได้จากไลน์กลุ่มเฉพาะ เหมือนหมอคุยว่ามีลูกน้องหรือลูกศิษย์ที่เป็นคนจังหวัดเดียวกับเรา เลยเปิดข้อมูลให้คนๆนั้นดู (เปิดเฟสบุก) ก่อนที่เซ้นเราจะปิดไป
    แล้วก็จุดใต้ต่อค่ะ เราดันเป็นเพื่อนกับคนนั้น เขาเลยให้เราทายว่าเพื่อนคนนนั้นไปใคร พอเราทายถูก เราได้ยินเสียงเพื่อนผู้ชายคนนั้นในหัวค่ะ ว่า “ยินดีด้วยคุณได้ไปต่อ” แล้วเรื่องราวที่แปลกประหลาดก็เกิดขึ้นหลังจากนี้ค่ะ
    (จากความรู้สึกเรา ได้ยินเสียงในหัว แรกๆ เสียงในหัวมีการถกเถียงกันว่าต้องฝึก กับไม่ต้องฝึก) มันเหมือนมีกลุ่มคน กลุ่มนึงใช้จิตแฝงอยู่กับจิตเพื่อนๆ ที่ทำงานเรา บวกกับการที่ได้ยินเสียงพวกเขาในหัวบ้าง (เพราะว่าคำพูดเราในใจในจิต ดันตรงกับคำพูดของเพื่อนๆในห้องเลยคิดว่าเพื่อนๆโดนจิตแฝง) พวกเขาคอยมาฝึกมาสอนให้เราพูดโต้ตอบกับเสียงในหัว ผ่านเสียงในใจโดยไม่ต้องพูดออกมาข้างนอกให้คนทั่วไปคิดว่าเราบ้า และมาคอยวิเคราะห์และประเมินความคิดเรา ซึ่งเรามีแนวคิดไปทางจิตวิทยาอยู่แล้ว เลยหลงเข้าใจว่าเป็นการทดสอบและประเมินเพื่อคัดเลือกเข้าทำงานราชการหน่วยพิเศษ ซึ่งต้องใช้เซ้นและจิตพิเศษในการทำงาน เลยมาสอนให้เราฝึกจิต และถอดจิตได้ (ซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกถึงจิตเราที่อยู่นอกตัวค่ะ เช่น เราฟังเพลงอยู่ เขาให้เราเต้นไปตามจังหวะเพลง แต่ให้ใช้จิตเราเต้นนะ เราก้อรู้สึกคล้ายแบบนั้นจริง หรือมีบางเรื่องบางเหตุการณ์ ทำให้เราคิดและรู้สึกว่าพวกเขาเห็นจิตเราเป็นลักษณะเห็นตับ ไต ไส้พุง ประมานนั้นอ่ะ หรือเรานึกคิดภาพพวกเขาเป็นการดูเราผ่านห้องโสตหรือห้องประชุมค่ะ)
    จนมามีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเรา (ซึ่งมลจำได้ไม่ครบ จำได้เป็นช้อตๆตอนๆ) จำได้ว่าเราสนุกและเพลินไปกับการฝึกของเขายันเช้า แล้วเสียงพี่ๆในหัวก็พูดทำให้เราคิดว่าเราเป็นพระนิพพานที่มาจุดติหรือป่าว จนทำให้เราตื่นตระหนกตกใจ กลัว จิตตะเหลิด จนหมอแอร์ในจิตใาคุยถามว่ารุ้สึกยังงัย กลัวอะรัย เราก้อบอกไปว่าเรากลัวนอนแล้วไม่ตื่น (เพราะหลับแล้วนิพพานไปเลย ซึ่งเรายังไม่พร้อมและไม่อยากตาย) แล้วจำได้ว่าเราตื่นตะหนกเรียกคนที่บ้านว่าจะไปหาหมอ เพราะรุ้สึกอึดอัดหายใจติดขัด (บอกผ่านจิตให้คนในจิตมาช่วยเรา มาหาเราที่บ้าน) ตัวเราหลุดคิดประมานเหมือนโลกในจิตเราจะสลายหายค่อยๆหายไปทีละส่วน คนในจิตเริ่มจำไม่ได้ เราเลยช่วยภายนอกกายโดยอ่านบทสวดมนต์ ขยับร่างกายเหมือนทำท่าขับรถ คอยบอกคนในจิตว่าเราเห็นอะไรบ้าง เพื่อนำพาคนในจิตมาหาเราที่บ้านจริงๆ แล้วอีกหลายๆอย่าง จนเราหลับไป พอตื่นก็ได้ยินเสียงในหัวบอกว่าลงมาได้แล้ว ฝึกเสร็จแล้ว (ซึ่งเราเข้าใจว่าเข้าจะมารับเราไปฝึกอย่างเต็มรูปแบบ) แต่ปรากฎว่าไม่มีค่ะ และในความเป็นจริงคือ พ่อแม่เราพาเราไปพบจิตแพทย์ค่ะ.(ซึ่งแพทย์ก็วินิฉัยตามอาการทั่วไปและบอกว่าเราเป็นอาการทางเคมีในสมองทำงานผิกปกติ) แต่ตัวเรารุ้ดีว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นซึ่งอธิบายทางวืทยาศาสตร์ไม่ได้ เพราะมันมีเหตุการ์หลายเหตุการณ์ ที่เราไม่สารมารถเอามาหักล้างได้เลยว่ามันเป็นเพียงแค่จิตเราเองที่คิดปรุงแต่งเรื่องราวทั้งหมดเอง


    3.เหตุการณ์เหล่านี้ก้อหายจากเราไปพักนึงค่ะ ส่วนนึงน่าจะเป็นเพราะว่าเราได้รับการทานยาจากจิตแพทย์ แต่เรายังคงคิดย้อนดูภาพในอดีตของเราเสมอว่าอะไรที่เกิดขึ้นกับเราเป็นแบบนั้นได้ยังงัย แล้วเสียงในหัวก็กลับมาค่ะ มาในขณะที่เราทานยาค่ะ เราเลยลองหยุดยา และเรื่องราวก็เกิดขึ้นคล้ายๆ เดิม (คล้ายกับเหตุการณ์ที่2 ค่ะ) เพียงแต่ครั้งนี้เพิ่มเติมคือพวกเขามาในความฝันค่ะ และก็มีได้ยินเสียงในตอนกลางวันบ้างเป็นบางที ซึ่งเราไม่คิดแล้วว่าเขามาฝึกเพื่อรับเราเข้าทำงานราชการ แต่ไม่รุ้ที่มาที่ไปของพวกเขาว่ามาฝึกทำไม เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงเขาไม่บอกอะไรเราเลย หมอแอร์ก้อปฏิเสธ ส่วนเพื่อนคนนั้นก็บล็อกเราทุกทางเลยไม่ว่าจะเป็นเฟส โทร ไลน์ เราเลยลองพิสูจน์อีกครั้งนึง โดยบอกว่าเราจะไปหาหมอจิตแพทย์นะ เพราะมันน่าจะเป็นอาการหูแว่ว (มั้ง 555) แต่ที่น่าแปลกคือ พอเราหาหมอปุ๊ป ยังไม่ทันจะทานยาเลยค่ะ เสียงเหล่านั้นหายไปเลย แต่เรายังคงฝันอยู่นะ

    จากเรื่องทั้งหมดที่เล่าไป เราเลยอยากรุ้ว่ามันพอจะเป็นเรื่องของการถอดจิตมั้ย แล้วจริงมั้ยจิตเราจะแฝงควบคุมคนอื่นได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...