ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

กลุ่มฑีตาทอผ้าย้อมครามธรรมชาติ บ้านนาดี​

เผยแพร่เมื่อ 21 ต.ค. 2014​

กรณีศึกษา SMEs ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการธุรกิ­จ งานพัฒนาศูนย์ข้อมูล SMEs Knowledge Center ปี 2557

 

อนุรักษ์...ย้อมผ้าคราม​

​

อนุรักษ์...ย้อมผ้าคราม ภูมิปัญญาท้องถิ่นมิตรสิ่งแวดล้อม : โดย...นักข่าวชาวบ้าน

ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ โดยเฉพาะการย้อมผ้าฝ้ายด้วยสีครามซึ่งเป็นสีจากธรรมชาติ ซึ่งฝ้ายเป็นเส้นใยธรรมชาติที่เก่าแก่ในโลกที่สามารถเล่าเรื่องราวของพัฒนาการเครื่องนุ่งห่มที่มนุษย์เป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้นมาและใช้เป็นเครื่องแต่งกายที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของชาติพันธุ์มนุษย์ได้อย่างดีโดยเส้นใยธรรมชาติปัจจุบันเริ่มเป็นที่ต้องการของสังคมอีกครั้งและราคาค่อนข้างสูง เพราะกระบวนการผลิตที่ยุ่งยากหาผู้ที่ทำยากขึ้น แต่ยังมีหลายคนและหมู่บ้านที่สืบทอดกระบวนการผลิตผ้าฝ้ายและย้อมด้วยสีธรรมชาติจากภูมิปัญญาดั้งเดิม ซึ่งถือเป็นผู้เชื่อมต่อระหว่างวัฒนธรรมที่กำลังจะสูญหายกับวัฒนธรรมจากโลกยุคใหม่ให้สามารถอยู่ได้ด้วยกันอย่างลงตัว

อย่างเช่นชาวชุมชนบ้านโนนเรือ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร โดยเฉพาะครอบครัวของ นางรำพึง จำเริญพูล ที่ไม่ยอมละทิ้งภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษในการย้อมผ้าครามที่เข็นด้วยมือ ทั้งกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยังไม่ทำลายสุขภาพของผู้ทำการผลิตอีกด้วย ซึ่งขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยากกว่าจะได้เส้นฝ้ายตามธรรมชาติก่อนนำไปถักทอ

"รำพึง จำเริญพูล" เล่าว่า การย้อมผ้าฝ้ายสีธรรมชาติจะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น สีเขียวจากใบยูคาลิปตัส สีดำจากผลมะเกลือ สีน้ำตาลจากไม้ประดู่เป็นต้นและสีน้ำเงินครามจากต้นคราม ต้นไม้ที่ไม่เพียงแต่ให้สีจากธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังให้คุณสมบัติทางสมุนไพรที่มีอย่างมากมายและใช้กันอย่างต่อเนื่องจากบรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากคราม มีคุณสมบัติทางสมุนไพรที่เชื่อกันว่าช่วยดูดความร้อนออกจากร่างกาย ดูดพิษร้อนจากผู้ที่มีอาการเป็นไข้ปวดศีรษะและยังช่วยป้องกันรังสียูวีได้อีกด้วยจิตวิญญาณแห่งหม้อคราม

การก่อหม้อครามนั้นจะต้องเอาใจใส่ดูแล ต้องคอยเติมน้ำด่าง น้ำมะขามและเนื้อครามเป็นประจำไม่ให้ขาด หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งหม้อครามจะไม่สมบูรณ์ ทำให้ได้สีไม่สวย อากาศชื้นหรือแห้งก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สีของการย้อมแตกต่างกัน ในการย้อมสีแต่ละครั้ง สีเข้มของครามอาจต้องย้อมถึง 7 ครั้ง การย้อมสีอ่อนอาจใช้การย้อม 3-4 ครั้งซึ่งเรียกว่า "สีมุ้ย"

นอกจากนั้นยังมีความเชื่อในการปฏิบัติตัวในระหว่างการย้อมคราม เช่น ไม่ทาแป้งหรือใส่น้ำหอม เพราะจะทำให้เกิดการผิดกลิ่น สีออกมาจะไม่สวย เนื่องจากครามจะมีกลิ่นหอมธรรมชาติเฉพาะตัว หรือผู้ที่จะย้อมครามหลังกลับจากงานศพ จะต้องทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำส้มป่อยก่อนลงมือย้อมผ้า เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและทำให้ร่างกายสะอาด คนโบราณกลัวหม้อครามจะตายคือใช้ไม่ได้จะต้องก่อหม้อครามใหม่

"บางบ้านหากมีการขอแบ่งน้ำจากหม้อครามจะต้องมีดอกไม้ ธูปเทียน มาขอกัน เป็นความหมายว่า สิ่งที่ขอเป็นสิ่งที่มีค่า เอาไปแล้วต้องดูแลรักษาเอาใจใส่ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีที่คนรุ่นหลังควรปรับและนำไปปฏิบัติ อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าของทุกอย่างมีค่าในตัวของมันเอง แล้วแต่ใครจะมองเห็นคุณค่าและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์" นางรำพึง กล่าว

ปัจจุบันผ้าฝ้ายย้อมครามได้รับความนิยมอย่างสูงจากชาวต่างชาติ ที่เห็นประโยชน์ของฝ้ายธรรมชาติ "ดุษฎี สุทธิเลิศ" ผู้นำกลุ่มกลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อมและภูมิปัญญาไทย "กรรบาสิก" ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสินค้าโอท็อป เขตห้วยขวาง ได้ร่วมมือกับชุมชนบ้านโนนเรือ จ.สกลนคร ผลิตผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติและครามพัฒนาเป็นสินค้าหลากชนิดสู่สังคมเมือง ให้คนไทยได้ซึมซับและรู้จักผ้าชนิดนี้เพิ่มขึ้นก่อนที่จะถูกชาวต่างชาตินำไปใช้ประโยชน์

ขณะที่กำลังการผลิตในขณะนี้ก็มีไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว ทางกลุ่มต้องการให้คนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพก่อน เมื่อเหลือแล้ว จึงค่อยส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มีคนต่างชาติเข้ามาลงทุนและผลิตเป็นสินค้าส่งออกจำนวนมาก โดยเฉพาะญี่ปุ่น ทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้นเพราะชาวต่างชาติจะทราบถึงคุณสมบัติของฝ้ายธรรมชาติมากกว่าคนไทย เส้นใยธรรมชาติจะมีประจุลบมาก ซึ่งมีคุณสมบัติในการดักจับออกซิเจน หากใส่เสื้อผ้าจากธรรมชาติและรับประทานอาหารที่เป็นธรรมชาติมาก จะทำให้สดชื่นและมีสุขภาพที่ดี เพราะประจุลบเป็นเสมือนแอร์วิตามินในอากาศที่อยู่รอบตัว ยิ่งมีมากก็ยิ่งดี ดังนั้นฝ้ายธรรมชาติจึงเหมาะกับมนุษย์ยุคปัจจุบันมากที่สุด

ที่มา www.komchadluek.net/detail/20140110/176498.html

 

คำพยากรณ์แห่งวันชำระล้างโลก​

​

ที่วัดพระนอน เมืองแพร่ มีการค้นพบคัมภีร์ภาษาโบราณชุดหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าได้เขียนไว้ในสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 ( พ.ศ. 2310) เมื่อนำมาแปลโดยพระครูนิภัทร กิจอาทร ปรากฎว่าเป็นเรื่องของคำทำนายชะตาของโลก ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และตรงกับคำทำนายของนอสตราดามุส มีใจความบางตอนดังนี้:

"น้ำจะท่วมฟ้า" "ปลาจะกินดาว"

"มนุษย์จะรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ จะเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น มนุษย์จะสามารถ ขี่ลม ไปได้ในพื้นที่และอากาศมีรอยเหมือนงู ในที่ต่ำจะถูกถมให้สูง ในที่สูงจะถูกขุดแผ่นดินให้ราบเรียบ"

"ชนชาติผิวขาวจะย่นย่อระยะทางให้สั้นเข้า โลกจะเล็กลง คนพูดทางไกล แสนไกลจะได้เห็นหน้ากันและกัน โลกจะมีตาทิพย์ หูทิพย์ เสียงทิพย์ (ipad iphone) บนท้องฟ้าจะมี ลูกไฟ พุ่งเข้าหากัน ผู้คนจะพกพา อสรพิษติดกายไว้ต่อสู้ (ปืนพก) เพราะอวิชชา"

"โจรผู้ร้ายตา 2 ชั้น จะนำพิษมาทำลายโลกมนุษย์(ระเบิดนิวเคลียร์) ผู้หญิงจะกลายเป็นผู้ชาย ผู้ชายจะกลายเป็นผู้หญิง"

ที่มา วันสิ้นโลก คำทำนายวันสิ้นโลก เปิดคำพยากรณ์แห่งวันชำระล้างโลก

 

น้ำจะท่วมฟ้า ปลาจะกินดาว​

เผยแพร่เมื่อ 8 ก.พ. 2013​

เป็นการบันทึกเทปไว้ของหลวงตาม้ากับลูกศิษ­ย์ หลวงพ่อที่หลวงตาม้าพูดถึงในเทปคือ หลวงปู่ดู่ อยุธยา ครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านว่า ไม่มีจังหวัดไหนในประเทศไทยที่น้ำไม่ท่วม แต่ท่วมยาวนานแตกต่างกัน เช่นเชียงใหม่จะท่วมอยูประมาณหนึ่งสัปดาห์ กรุงเทพช่วงน้ำทรงตัว น้ำจะสูงท่วมต้นมะพร้­าวหรือประมาณ 11 เมตร ท่วมอยู่นานหลายเดือน

หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ ท่านบอกว่ารู้จักใครที่อยู่กรุงเทพหรือภาค­กลาง ให้ชวนเขามาอยู่ภาคเหนือให้หมด และอีกหน่อยสิ่งที่จะมีราคาแพงมาก คือ อาหาร ที่ดินที่น้ำไม่ท่วม และ ทองคำ บางอาจารย์ท่านว่า เหตุน้ำท่วมจะเกิดพร้อมกับการใช้อาวุธนิวเ­คลียร์ในตะวันออกกลาง เหตุจะเกิดปี 2560 ประมาณเดือน กันยายน

 

วันสิ้นโลก Judgment Day​

อัปโหลดเมื่อ 12 เม.ย. 2011​

 

จักรวาลจะปิดมิติอันเลวร้ายนี้ !!!​

​

อนาคตของโลกได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปจากคำทำนายเดิม !!!

สำหรับมนุษย์ที่กำลังหวั่นกลัว ภัยจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ตามคำพยากรณ์ในยุคพลังงานเก่า จงรับรู้ไว้ด้วยว่า โรงเรียนโลกใบนี้มิได้โดดเดี่ยว โดยปราศจากผู้ดูแลอย่างการคิดแบบจิตมนุษย์เลย จิตจักรวาลและรูปธรรมชั้นสูงในมิติคู่ขนาน จะไม่มีวันปล่อยให้ผู้มีจิตวิญญาณอธรรม กระทำการเช่นนั้นได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเขากำลังจะเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะถูกชำระในอีกไม่นาน ด้วยมหันตภัยธรรมชาติที่พวกเขาคาดไม่ถึง ซึ่งอำนาจที่เขามีอยู่จะไม่วันเอาชนะพลังอำนาจ แห่งธรรมะที่เป็นพลังงานด้านบวกได้

บัดนี้ถึงเวลาแล้ว ที่จักรวาลจำเป็นจะต้องปิดมิติ ด้วยการชำระจิตวิญญาณของพวกเขาอีกครั้ง เนื่องจากจักรวาลหยั่งรู้อนาคตได้ว่า บทสรุปของมันคืออะไร ถ้าไม่ใช่มหันตภัยของมนุษย์ทั้งโลกและจักรวาลอื่น จักรวาลจะปิดมิติอันเลวร้ายนี้ ด้วยความรักแท้จริงต่อมวลมนุษยชาติ ภายในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนวันสิ้นยุคพลังงานเก่าแน่นอน

นับจากโลกเปลี่ยนสู่ยุคพลังงานใหม่แล้ว คำพยากรณ์ของนอสตราดามุสมันจะไม่เป็นจริง ไม่แม่นยำอีกต่อไป เนื่องจากมนุษย์ในยุคพลังงานใหม่ทุกคน จะถูกเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกที่แตกต่างไปจากเดิม จักรวาลยืนยันว่า สงครามอันเลวร้ายที่จะล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์และทำลายโลก มันจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกต่อไปแล้ว ภัยธรรมชาติที่จะทำให้โลกแตกดับ มันก็จะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นดั่งคำทำนายของใครอีกต่อไปเช่นกัน

ขณะที่สื่อคลื่นความคิดรู้ เป็นผลึกคิดรู้อยู่ในขณะนี้ มนุษย์โลกพึงรู้ว่าความเป็นไปทุกอย่างในระบบโลก ได้รับการควบคุมดูแลโดยรูปธรรมนับแสนตนในจักรวาลเรียบร้อยแล้ว

ที่มา:- คัดลอกบางส่วนจาก :: หนังสือวันเวลาที่สิบเอ็ด รหัสแห่งหายะโลก ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากจิตจักรวาลโดย อ.ปริญญา ตันสกุล MBA.,M.S. PARINYA TANSAKUL MBA .,M.S.

 

นิวซีแลนด์เตือนนักไต่เขาอยู่ห่างภูเขาไฟที่ใช้ถ่ายลอร์ดออฟเดอะริงส์​

​

เวลลิงตัน 11 พ.ค.- นิวซีแลนด์เตือนนักไต่เขาและนักปืนเขาให้อยู่ห่างจากภูเขาไฟในอุทยานแห่งชาติที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์แฟนตาซีไตรภาคเรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์

จีเอ็นเอสไซเอินซ์ ซึ่งเป็นศูนย์ติดตามแผ่นดินไหวและภูเขาไฟของนิวซีแลนด์ยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟรัวเปฮูในอุทยานแห่งชาติตองการิโรบนเกาะเหนือที่ปะทุครั้งหลังสุดในปี 2550 จากปานกลางเป็นไม่สงบอย่างเด่นชัด เพราะพบว่าภูเขาไฟพ่นแก๊สออกมามากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่สำนักงานเพื่อการอนุรักษ์เตือนนักไต่เขาให้อยู่ห่างจากเขตอันตรายบริเวณยอดเขา ซึ่งเป็นพื้นที่ภายในรัศมี 2 กิโลเมตร ของทะเลสาบที่เกิดขึ้นภายในปล่องภูเขาไฟ เนื่องจากอุณหภูมิของทะเลสาบสูงขึ้นจาก 25 องศาเซลเซียสเป็น 46 องศาเซลเซียสตั้งแต่กลางเดือนเมษายน

นักไต่เขาและนักปืนเขานิยมไปเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามแปลกตาตามเส้นทางตองการิโร ซึ่งเป็นทางเดินความยาว 20 กิโลเมตร พาดผ่านภูเขาไฟ 3 ลูกบนเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ได้แก่ภูเขาไฟรัวเปฮู ภูเขาไฟงาอูรูฮอเอ และภูเขาไฟตองการิโร.-สำนักข่าวไทย

แผ่นดินไหวตื้นในทิเบต เจ็บ 60 คน​

​

ปักกิ่ง 11 พ.ค. – เจ้าหน้าที่จีนรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวระดับตื้นขนาด 5.5 ในเขตภูเขาที่ทิเบตวันนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 60 คน บ้านเรือนพังทลายหลายหลัง ถนนและสะพานพังเสียหาย

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า แผ่นดินไหวทางทิเบตเกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.15 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 08.15 น.ในไทย โดยอยู่ทางเขตแดนทิเบตที่ติดกับมณฑลชิงไห่ไปทางเหนือ เว็บไซต์ทางการท้องถิ่นระบุว่า ผู้บาดเจ็บสาหัสมีจำนวน 6 คน แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขบ้านเรือนพังถล่ม หรือถนนและสะพานที่ชำรุดเสียหาย ทางด้านสำนักข่าวไชนานิวส์เซอร์วิสรายงานว่า แผ่นดินไหวทำให้เกิดดินถล่มตามมา สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างเจ้าหน้าที่สำนักงานแผ่นดินไหวท้องถิ่นว่า ศูนย์กลางอยู่ที่เมืองกาตาทาวน์ ห่างไปราว 2,200 กิโลเมตร จากกรุงปักกิ่ง และวัดพุทธ 2 แห่ง .- สำนักข่าวไทย

อียูเตรียมเจรจาเรื่องผู้อพยพกับไนจีเรีย​

​

บรัสเซลส์ 11 พ.ค. – คณะกรรมาธิการยุโรปแถลงว่า พร้อมที่จะเริ่มการเจรจาทำข้อตกลงกับไนจีเรียเพื่อส่งกลับผู้อพยพชาวไนจีเรียซึ่งไม่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ขอลี้ภัยในสหภาพยุโรป(อียู)

แถลงการณ์ของอียูวันนี้ระบุว่า แนวทางดังกล่าวเพื่อรับประกันในการส่งกลับผู้อพยพโดยเร็วและอย่างมีประสิทธิภาพตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ สำนักงานฟรอนต์เอ็กซ์ หน่วยงานด้านชายแดนสหภาพยุโรปรายงานว่า มีชาวไนจีเรียราว 22,000 คน ข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมายังยุโรปเมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้อียูจะให้ความคุ้มครองตามหลักระหว่างประเทศสำหรับผู้อพยพที่หนีภัยสงครามและความขัดแย้ง .- สำนักข่าวไทย

เหตุระเบิดฆ่าตัวตายอัฟกานิสถานเสียชีวิต 8 คน​

​

อัฟกานิสถาน 11 พ.ค.-เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ฆ่าตัวตาย ที่จังหวัดนันการ์ฮาพรมแดนอัฟกานิสถานติดกับปากีสถาน ทำให้ มีผู้เสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บอีก 18 คน

จำนวนนี้มีเด็กและสตรีรวมอยู่ด้วย คนร้ายพุ่งเป้าโจมตีแกนนำชนเผ่า คนหนึ่งที่มีส่วนจัดตั้งกองกำลังท้องถิ่น ต่อสู้กับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ ช่วงครึ่งปีมานี้หลายพื้นที่ในจังหวัดนันการ์ฮาร์ เต็มไปด้วยการสู้รบระหว่างกลุ่มก่อความไม่สงบด้วยกันเอง และต่อสู้กับกองกำลังรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย

ระเบิดกลางตลาดอิรัก เสียชีวิต 34 คน​

​

แบกแดด 11 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงและแพทย์ในอิรักรายงานว่า เกิดระเบิดรถยนต์ใกล้ตลาดในชุมชนมุสลิมนิกายชีอะห์ทางเหนือของกรุงแบกแดด ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 คนในวันนี้

เจ้าหน้าที่อิรักรายงานว่า เหตุระเบิดที่เมืองซาดร์ ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 54 คน ขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างเป็นผู้ก่อเหตุ แต่กลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)มักก่อเหตุระเบิดในกรุงแบกแดดและพื้นที่อื่นๆ โดยมีเป้าหมายโจมตีมุสลิมนิกายชีอะห์ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้าม ทั้งนี้กองกำลังอิรักเริ่มรุกคืบเข้ายึดที่มั่นสำคัญได้จากกลุ่มไอเอสซึ่งยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคเหนือและภาคตะวันตกของกรุงแบกแดดเมื่อปี 2557 แต่กลุ่มไอเอสยังคงยึดที่มั่นทางภาคตะวันตกและก่อเหตุโจมตีพื้นที่รัฐบาลอิรักหลายครั้ง .- สำนักข่าวไทย

รัฐสภาเมียนมาร์เห็นชอบให้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางทหารกับรัสเซีย​

​

เนปิดอว์ 11 พ.ค.- รัฐสภาเมียนมาร์ให้ความเห็นชอบเรื่องการลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางทหารกับรัสเซีย หลังจากอภิปรายตามญัตติที่เสนอโดยประธานาธิบดีถิ่น จอ

ส.ส.เมียนมาร์ย้ำว่า จะต้องปรับปรุงกองทัพให้ได้มาตรฐาน ทันสมัย และมีประสิทธิภาพด้วยการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์และธรรมเนียมปฏิบัติทางทหารที่ทันสมัย ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้ด้วยการดำเนินโครงการทวิภาคีกับรัสเซีย ข้อตกลงนี้เป็นผลจากการที่รัสเซียหารือกับประชาคมอาเซียนโดยเฉพาะเมียนมาร์เรื่องกลาโหม ความมั่นคงแห่งชาติ และการปราบปรามก่อการร้ายตามที่นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียได้กล่าวไว้เมื่อวันที่ 26 เมษายน

เมียนมาร์และรัสเซียประกาศจะส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านกลาโหมตั้งแต่ช่วงที่นายชอยกูไปเยือนเมียนมาร์ในเดือนมีนาคม 2556 ขณะที่ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่ปี 2491.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียสกัดผู้ต้องสงสัยวางแผนเดินทางเรือไปเข้าร่วมไอเอส​

​

ซิดนีย์ 11 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียกล่าวว่า ตำรวจควบคุมตัวชาย 5 คนที่ต้องสงสัยว่ากำลังวางแผนเดินทางด้วยเรือเล็กทางภาคเหนือสุดไปยังอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์เพื่อไปเข้าร่วมกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในซีเรีย

กลุ่มชายดังกล่าวถูกควบคุมตัวเมื่อวันอังคารภายหลังล่องเรือเล็กขนาด 7 เมตรเป็นระยะทางเกือบ 3,000 กิโลเมตร จากนครเมลเบิร์นไปยังเมืองแคร์นส์ในรัฐควีนสแลนด์ ที่ผ่านมาออสเตรเลียตกเป็นที่วิจารณ์ตำหนิจากนโยบายจัดการกับผู้อพยพอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดผู้ขอลี้ภัยที่เดินทางเรือจากอินโดนีเซียเข้าประเทศ และมีไม่มากนักที่จะสวนทางกลับไปอินโดนีเซีย รองผู้บัญชาการตำรวจรัฐวิกตอเรีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจกำลังสอบสวนตามข้อกล่าวหาว่าผู้ต้องสงสัยเดินทางผ่านอินโดนีเซียไปฟิลิปปินส์เพื่อไปยังจุดหมายที่ซีเรีย .- สำนักข่าวไทย

สารคดีโลก : แผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำของยุโรป​

​

อังกฤษ 11 พ.ค.-เอกชนอังกฤษริเริ่มใช้แผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป เพื่อหวังลดรายจ่ายค่าไฟฟ้า และมุ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ในฐานะบริษัทผลิตและบริหารจัดการน้ำ ซึ่งรวมถึงน้ำดื่มที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ “เธมส์ วอเตอร์” คือหนึ่งในบริษัทน้ำที่ใช้พลังงานมากที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากต้องใช้ไฟฟ้าปั๊มน้ำจากท่อเข้าสู่ระบบบำบัด ก่อนลำเลียงส่งน้ำไปยังครัวเรือนทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง

เพื่อลดต้นทุนค่าไฟในแต่ละเดือนที่มากมายมหาศาล รวมถึงการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากวงจรการผลิต ตอบสนองนโยบายสีเขียวของรัฐบาล เธมส์ วอเตอร์ จึงร่วมมือกับไลท์ซอร์ส ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ สร้างแผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ ที่เชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคยุโรปขนาด 8 สนามฟุตบอลภายในอ่างเก็บน้ำที่มีเนื้อที่ประมาณ 80 สนามฟุตบอล ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน

ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำแห่งนี้ ประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์มากกว่า 23,000 แผง สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 6.3 เมกะวัตต์ และ 5.8 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ในช่วงใช้งานปีแรก ซึ่งมากเพียงพอต่อการใช้ไฟฟ้าในบ้าน 1,800 หลัง ตลอด 1 ปี

ความได้เปรียบของฟาร์มโซลาร์เซลล์ลอยน้ำอีกประการหนึ่งก็คือ ต้นทุนการซ่อมบำรุงที่น้อยกว่าฟาร์มโซลาร์เซลล์ทั่วไป เนื่องจากน้ำช่วยระบายความร้อนอย่างดี ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของแผงโซลาร์เซลล์ได้ อย่างไรก็ตาม การเป็นเจ้าของฟาร์มโซลาร์เซลล์ขนาดมหึมานี้ก็ไม่ได้หมายความว่า เธมส์ วอเตอร์ จะพึ่งพาตนเองด้านพลังงานได้อย่างยั่งยืน บริษัทยังมีข้อจำกัด โดยเฉพาะการที่ต้องอาศัยแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้า และการจัดเก็บไฟฟ้าที่ผลิตได้ในแบตเตอรี่ ซึ่งมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง

ดังนั้น เธมส์ วอเตอร์ ยังคงต้องเดินหน้าค้นหาและพัฒนาพลังงานทางเลือกอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าของตนเองต่อไป แต่อย่างน้อยที่สุด ความสำเร็จของฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ที่แห่งนี้ ก็นับเป็นก้าวแรกของการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

พายุฤดูร้อนถล่ม 3 จังหวัดอีสาน ตาย 1 เจ็บ 3 คนเดือดร้อนเพียบ!​

​

พายุฤดูร้อนถล่ม โคราช อำนาจเจริญ นครพนม บ้านเรือน เสียหายกว่า 500 หลังคา รวมไปถึงสถานที่ต่างๆ-เสาไฟฟ้า เสียหายหนัก ปชช.ได้รับความเดือดร้อนกว่า 2,000 คน พบผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 3 ราย…

ปภ.โคราช เผย ปชช.เดือดร้อนกว่า 1,600 คน เสียหายกว่า 500 หลังคาเรือน

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 59 นายสุเทพ รื่นถวิล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงพื้นที่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาทั้ง 32 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนพัดถล่ม ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนและสถานที่ต่างๆ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จากการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พบว่า ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1-9 พ.ค.ที่ผ่านมา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนแล้งทั้งสิ้น 15 อำเภอ 37 ตำบล 86 หมู่บ้าน มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 1,600 คน มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 500 หลังคาเรือน ยุ้งข้าวเสียหายกว่า 30 หลัง โรงเลี้ยงสัตว์กว่า 10 หลัง สถานที่ราชการเสียหาย 2 แห่ง วัด 1 แห่ง โรงสีข้าวจำนวน 2 โรง ทั้งนี้ ทางจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจความเสียหาย เพื่อระดมความช่วยเหลือไปช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งยังมีการนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในทุกพื้นที่

ทั้งนี้ ทางอุตุนิยมวิทยาได้มีการคาดการณ์ว่า ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่วันที่ 11-15 พ.ค. 59 จะมีปริมาณฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจะมีลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ จึงฝากเตือนประชาชนอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และเร่งตรวจสอบบ้านเรือนและที่อยู่อาศัยให้มั่นคงแข็งแรงเพื่อป้องกันหายเสียหายจากลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้น

ที่ อำนาจเจริญ ตาย 1 บาดเจ็บ 3 เสียหายหว่า 40 หลัง

ขณะเดียวกัน เมื่อบ่ายวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัด หลังคาบ้านเรือนราษฎร หมู่ที่ 2, 3, 7, 8, 9, 10 และ 11 ต.โพนเมืองน้อย อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ แต่ส่งผลให้แรงพายุยกเอาหลังคาบ้านเรือน 40 หลังคาเรือน ศาลาประชาคม ม.2 ใน 1 หลัง รวมทั้งโรงเรียนถูกพายุพัดต้นไม้ล้มทับหลังคาอาคารเสียหาย โชคดีที่ต้นไม้พะยอมขนาดใหญ่อายุนับ 100 ปี ที่ยืนต้นข้างอาคารเรียนและหอประชุมถูกพายุพักหักโค่นเฉียดข้างอาคารหอประชุมราวปาฏิหาริย์

นอกจากนั้น หลังคาโบสถ์ ม.2 ถูกพายุพัดหลังคา 1 หลัง สายไฟฟ้าถูกต้นไม้ล้มทับไฟดับหลายชั่วโมง ร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน ม.2 ของนางดำ ขุมทอง อายุ 77 ปี ถูกพายุพัดซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ในปีเดียว ทั้งนี้ พายุยังได้พัดเอาไม้กระแทกท้ายทอยนายทองใบ วันดึก อายุ 54 ปี ม.9 ต.โพนเมืองน้อย เสียชีวิตสภาพนั่งคุกเข่าพาดกับคอกวัวใต้ถุนเถียงนา และพายุยังได้พัดเอาเถียงนา ม.8 โดยมี นายจอม พรมชัย อายุ 48 ปี นายกอง ทองบ่อ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.8 และนายนิ่ม พรมชัย อายุ 55 ปี ที่ออกไปไถนาเพื่อเตรียมหว่านข้าวพากันเข้าไปหลบฝน ซึ่งทั้ง 3 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ญาติต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวตะพาน ส่วนความเสียหายเบื้องต้น ได้รายงานความเสียหายไปยังอำเภอเพื่อหาทางช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับวาตภัยในครั้งนี้เป็นการด่วน

พายุถล่มนครพนม บ้านเรือนเกือบ 30 หลัง เสียหายหนัก

ส่วนที่ จ.นครพนม นายอติชาต อุณหเลขกะ นายอำเภอธาตุพนม ประสานงานร่วมกับ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลน้ำก่ำ รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหารจาก มทบ. 210 และผู้นำชุมชนท้องถิ่น เข้าตรวจสอบให้การช่วยเหลือ ซ่อมแซมบ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนเสียหาย ตั้งแต่ช่วงเย็น เมื่อวาน (10 พ.ค.) ที่ผ่านมา

ตรวจสอบ พบว่า บ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่ บ้านแก่บงโพธิ์ ได้รับความเสียหาย 8 หลัง บ้านโนนสังข์ จำนวน 12 หลัง บ้านสระพังทอง 4 หลัง และบ้านน้ำก่ำน้อย จำนวน 1 หลัง รวมได้รับความเสียหาย จำนวน 25 หลัง มีเสียหาย หนักถึง 6 หลัง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมให้การช่วยเหลือซ่อมแซมเร่งด่วน บรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งบางรายต้องสูญเสียค่าซ่อมแซม มากกว่า 40,000-50,000 บาท แต่หน่วยงานภาครัฐสามารถให้การช่วยเหลือเบื้องต้นตามระเบียบทางราชการ ประมาณหลังละ 30,000-5,000 บาท เท่านั้น เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอ

ทั้งนี้ สถานการณ์พายุฤดูร้อนจากข้อมูลของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครพนม พบว่า ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายมากกว่า 700 หลัง มีมูลค่าความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นภัยธรรมชาติ ที่สร้างความวิตกกังวล และสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก บางรายถึงขั้นต้องเป็นภาระหนี้สิน จากการซ่อมแซมบ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังต่อเนื่อง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 พ.ค. 2559

ร้อนจัด ไฟป่าดอยสุเทพปะทุ ส่ง ฮ.ฝนหลวงบินดับเช้า-บ่าย 14 เที่ยว​

​

ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เผย อากาศร้อนจัด ส่งผลให้ไฟป่าดอยสุเทพ-ปุย ปะทุขึ้นอีกครั้ง ใช้เฮลิคอปเตอร์ฝนหลวงบินดับไฟ เช้า-บ่าย รวม 14 เที่ยว ควบคุมได้ ควันไฟจาง...

วันที่ 11 พ.ค.59 นางสาวหนึ่งหทัย ตันติพลับทอง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยถึงการใช้เฮลิคอปเตอร์ของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ บินขึ้นไปปฏิบัติการดับไฟป่าบนดอยผาดำ มาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น ส่ง ฮ. นำน้ำช่วยดับไฟผาดำ เขตดอยสุเทพ ฝีมือคน ลอบเผา!

ขณะเดียวกัน ช่วงบ่ายของวันนี้ อากาศร้อนทำให้ไฟป่าปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จึงส่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจไฟป่าบริเวณใกล้ๆ กับดอยสุเทพ ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งหลังจากที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงบินสำรวจ พบไฟป่าจำนวน 5 จุด บนภูเขาสูงดอยผาดำ ที่คนไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ โดยช่วงเช้าได้บินไปตักน้ำที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม ขึ้นไปดับไฟ ใช้เวลาในการบิน 1 ชม. บริเวณที่ดับไฟพิกัด 47Q MA 88630 84499 จำนวน 8 เที่ยว เที่ยวละ 430 ลิตร รวมใช้น้ำ 3,440 ลิตร

หลังปฏิบัติงานพบว่า มีควันไฟจางลง ควบคุมไฟได้ดี (ดับไฟได้เยอะ) และน้ำมันไม่เพียงพอ นักบินจึงกลับมาลงจอดเติมน้ำมัน เตรียมความพร้อม ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายอากาศร้อนจัด ทำให้ไฟป่าคุกรุ่นลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง ทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จึงส่งนักบินขึ้นบินสำรวจพบว่า สถานการณ์ไฟป่าที่เข้าไปดับช่วงเช้าดีขึ้น มีบริเวณไหม้อยู่พื้นที่ใกล้ๆ กันอีก 1 จุด ทางนักบินจึงบินมาตักน้ำที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ขึ้นไปดับไฟ 6 เที่ยวบิน จนควันไฟได้จางไปในที่สุด จึงบินกลับมายังฐานปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กองบิน 41 เพื่อเติมน้ำมันและเตรียมพร้อมตลอดเวลา

นายอัมพร ปานมงคล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กล่าวว่า ไฟป่าที่ลุกไหม้ดอยผาดำในเขตอุทยานนั้น ได้ไหม้ไปแล้วทั้งหมด 2 ไร่ ขณะนี้ได้ดับลงแล้ว ส่วนภาคบ่าย ที่เฮลิคอปเตอร์ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงบินขึ้นไปดับไฟนั้น อยู่ในพิกัดในบริเวณใกล้เคียงกัน ทางอุทยานได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่า จังหวัดเชียงใหม่ ส่งเจ้าหน้าที่เสือไฟลงพื้นที่ไปช่วยดับไฟ หากสามารถเดินทางเข้าไปได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายเข้ามา

ทั้งนี้ จากการสังเกตการณ์ด้วยตาเปล่าจะพบว่า มีหมอกควันจากไฟป่าคลุ้งเต็มยอดดอยในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ส่วนสถานตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่อยู่ใกล้กับอุทยาน พบว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM10 วัดได้ 8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยังไม่เกินค่ามาตรฐานที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศ AQI วัดได้ 99 คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 พ.ค. 2559

กรมฝนหลวง-ทภ.4 ส่ง ฮ.เข้าช่วยดับไฟป่าภูเขาทะลุ คาดคุมเพลิงได้​

​

กรมฝนหลวง ส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าดับไฟป่าที่ไหม้ภูเขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร รวมทั้ง ทภ.4 สนับสนุนอากาศยานอีก 1 ลำ เข้าช่วย คาดสามารถควบคุมไฟได้ ขณะเดียวกันเกิดนิมิตหมายที่ดี เมื่อเกิดมีฝนโปรยปรายมาช่วยเล็กน้อย ยิ่งทำให้สถานการณ์ควบคุมได้ง่าย...

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 พ.ค. นายชาญ เสมสวัสดิ์ นายอำเภอสวี ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ อบต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร หลังไฟป่าได้โหมไหม้ภูเขาทะลุเข้าสู่วันที่ 4 และทางจังหวัดชุมพรได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจดับไฟป่า ตำบลเขาทะลุ ตำบลเขาค่าย และตำบลนาสัก เพราะเกรงว่าไฟป่าอาจจะลุกลามเข้าสวนยางพารา สวนปาล์ม สวนทุเรียน และสวนกาแฟของชาวบ้านที่อยู่ข้างเคียง

นายชาญ เผยว่า จากการประชุมทราบว่า ขณะนี้ในพื้นที่มีจุดที่ไฟป่ายังคงลุกไหม้อยู่อีก 3 จุด คือ หมู่ที่ 9 ตำบลเขาทะลุ หมู่ที่ 12 ตำบลนาสัก และหมู่ที่ 2 ตำบลเขาค่าย จึงให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจัดกำลังไปเฝ้าระวังเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟป่าลุกลามเข้าสวนชาวบ้าน และคาดว่าจะสามารถควบคุมได้อย่างแน่นอน และขอยืนยันว่า ขณะนี้ ไม่มีพื้นที่ของชาวบ้านได้รับความเสียหาย และในช่วงเช้าที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้บินขึ้นนำน้ำไปดับไฟจำนวน 15 เที่ยว แต่เนื่องจากลมแรงทำให้ไฟป่ายังโหมลุกไหม้อีก แต่ถ้าหากยังไม่สามารถดับไฟป่าได้ ทาง พ.อ.ธิรา แดหวา รอง ผบ.มทบ.44 จะขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์กองทัพภาคที่ 4 มาสนับสนุนอีก 1 ลำเพื่อช่วยดับไฟป่า อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายได้มีฝนตกลงมาเล็กน้อยสร้างความดีใจให้กับชาวบ้าน และคาดว่าสถานการณ์ไฟป่าคงจะสามารถควบคุมได้อย่างแน่นอน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 พ.ค. 2559

ไฟป่าใต้ เริ่มคลี่คลาย! พื้นที่นราฯ เสียหายกว่า 2,800 ไร่​

​

สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคใต้ เริ่มคลี่คลาย! ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ด้านนราฯ เสียหายแล้วกว่า 2,800 ไร่ ขณะที่เกาะสมุยเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 2 ล. ทั้งนี้ นอภ.ชะอวด เตรียมแจ้งความดำเนินคดีผู้จุดไฟป่า...

คืบหน้าไฟไหม้ป่าที่นราฯ รวม 2 จุด กว่า 2,800 ไร่

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าไฟไหม้ป่าในพื้นที่ จ.นราธิวาส จำนวน 2 จุด โดยจุดแรกที่เขตป่าสงวนลุ่มน้ำบางนราแปลงที่ 2 ก่อนจะลุกลามเข้าไปในเขตป่าพรุสิรินธร หรือป่าพรุโต๊ะแดง กินพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.สุไหงปาดี เสียหายกว่า 2,500 ไร่ และจุดที่ 2 ในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ อ.บาเจาะ และ อ.ยี่งอ เสียหายกว่า 200 ไร่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังคนและอุปกรณ์เครื่องมือทั้งภาค พื้นและภาคอากาศ เร่งสกัดเปลวไฟทั้ง 2 จุด ไม่ให้ไหม้ลุกลามมากกว่าเดิม ท่ามกลางกระแสลมที่พัดแรง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ส่งผลให้การดับไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก พร้อมทั้งมีการไถพื้นที่ขยายแนวกันไฟให้เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการขุดเจาะแหล่งน้ำในจุดไฟไหม้ให้เพิ่มมากขึ้น และใช้เครื่องสูบน้ำระยะไกล สูบน้ำจากคลองชลประทานระบายลงสู่พื้นที่ป่าพรุ เพื่อให้ผืนป่าเกิดความชุ่มชื้น ขณะที่การทำฝนหลวงของศูนย์ฝนหลวงภาคใต้ เพื่อช่วยดับไฟนั้น พบว่าฝนที่ตกลงมานั้นไม่ตรงกับจุดไฟไหม้ป่า เพราะกระแสลมพัดก้อนเมฆเปลี่ยนทิศทางไปตกในพื้นที่อื่นแทน

ด้าน นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า การดับไฟไหม้ป่าในครั้งนี้มีปัญหาและอุปสรรคหลายประการ เป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งสภาพพื้นที่ซึ่งเป็นดินพรุ ทำให้ไฟลุกลามอยู่ชั้นใต้ผิวดินยากต่อการดับ อีกทั้งมีลมพัดแรงส่งผลให้สะเก็ดไฟไปตกในจุดอื่นๆ ทำให้เกิดจุด HOTSPOT เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ยืนยันว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ไฟป่าได้ โดยการป้องกันไม่ให้เปลวไฟลุกลามขยายวงกว้างออกไป แต่ยังไม่สามารถดับให้สนิท

ไฟไหม้ป่าบนยอดเขาสูง เกาะสมุย เสียหายกว่า 15 ไร่

ขณะที่ นายพูลศักดิ์ โสภณปทุมรักษ์ ปลัดอำเภอเกาะสมุย รักษาการปลัดอาวุโส อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 20 นาย เดินทางไปตรวจสอบจุดที่เกิดไฟไหม้ป่า โดยทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ชม. ไปถึงจุดที่เกิดไฟไหม้ เนื่องจากเป็นเทือกเขาสูงชัน เส้นทางเข้าเป็นไปด้วยความอยากลำบาก จากการตรวจสอบเมื่อคืนที่ผ่านมา ไฟได้มอดดับลงแล้ว แต่มีพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้เสียหายประมาณ 15 ไร่ จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ที่เกิดไฟไหม้ เป็นพื้นที่ที่ถูกชาวบ้านบุกรุกเข้าถางป่า รวมทั้งตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนหลายต้น โดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ที่เข้าบุกรุกถางป่า น่าจะลงมือจุดไฟเผากิ่งไม้ที่ถูกถาง เพื่อเตรียมพื้นที่ปลูกพืชทางการเกษตร

ด้าน นายเมธี บุญสุข หัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำเกาะสมุย ระบุว่า พื้นที่ที่ถูกชาวบ้านบุกรุกเข้าถางป่า และจุดไฟเผาในครั้งนี้ เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำชั้น A ของเกาะสมุย ซึ่งยังมีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ซึ่งจากการตรวจสอบพื้นที่ป่าที่ถูกไฟไหม้ไปจำนวนประมาณ 15 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท

จากนี้ เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมรวบรวมหลักฐานเพื่อจะได้ดำเนินการเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด และเร่งติดตามผู้ที่บุกรุกและเผาป่าในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากป่าที่ถูกบุกรุกเป็นป่าที่สมบูรณ์ และเป็นป่าต้นน้ำให้กับชาวบ้านในพื้นที่เกาะสมุย

ไฟป่า 2 จุด อ.ชะอวด ยังไม่มอด นอภ.ขู่จับคนจุดไฟหาของป่า

ขณะที่ นายพิทักษ์ บริพิตร นายอำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงสถานการณ์ไฟป่าพรุควนเคร็ง หมู่ 1, 2, 6, 7 และ 11 ต.เคร็ง และไฟป่าชุมชนสวนสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ หมู่ 2, 3, 5 และ 7 ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเริ่มเกิดตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ไฟป่าของทั้งสองป่าลดลงบ้างแล้ว แต่ยังคงไหม้คุกรุ่นติดๆ ดับๆ หลายจุดยังไม่สามารถดับได้ทั้งหมดเพราะอากาศร้อนและลมแรงมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็น เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าลุ่มน้ำปากพนังฯ เจ้าหน้าที่ชลประทาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอวด รวมถึงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้สนธิกำลังร่วมกันเฝ้าระวังไฟป่าตลอด 24 ชม. โดยจัดเวรเดินเท้าและเฝ้าดูบนหอคอยสูงตลอดเวลาด้วย รวมทั้งใช้มาตรการขุดร่องน้ำแล้ว

ทั้งนี้ ไฟป่าได้ไหม้ป่าพรุควนเคร็งไปแล้ว 500 ไร่ และป่าชุมชนสวนสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ 800 ไร่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะสาเหตุเกิดจากฝีมือมนุษย์ที่จุดไฟหาของป่ากัน ทางเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 รวมถึง อบต.เคร็ง กำลังเตรียมแจ้งความกับทางตำรวจ สภ.ชะอวด เพื่อดำเนินการหาตัวผู้จุดไฟป่ามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งมีโทษสูงอาจจะถูกจำคุกหลายปีทีเดียว.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 พ.ค. 2559

ไหม้รอบ 2! เพลิงผลาญหญ้าแห้งใกล้แคมป์คนงานสมุทรปราการ ขนของหนีวุ่น​

​

เพลิงไหม้หญ้าแห้งใกล้แคมป์คนงานก่อสร้าง ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ ชาวบ้านนับร้อยขนของหนีอลหม่าน รถดับเพลิงนับ 10 คัน รุดสกัด ด้านชาวบ้าน เผย ช่วงบ่ายไหม้มาแล้วรอบหนึ่งแต่ดับได้

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 10 พ.ค. 59 ศูนย์วิทยุปราการ รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้หญ้าใกล้แคมป์คนงานก่อสร้าง ภายในซอยมังกร-นาคดี ใกล้บ่อตกปลา ถ.เทพารักษ์ ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จึงประสานรถดับเพลิง อบต.แพรกษาใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10 คัน เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเป็นป่าหญ้ารกทึบเนื้อที่ขนาดใหญ่ มีแคมป์คนงานก่อสร้างปลูกอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยเพลิงกำลังโหมไหม้หญ้าอย่างรุนแรงและขยายเป็นวงกว้าง จนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแคมป์นับร้อยต่างพากันหอบข้าวของวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น เนื่องจากเกรงว่าเพลิงจะลุกลามเข้ามาบริเวณที่พัก

เจ้าหน้าที่ได้สับเปลี่ยนรถดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำสกัดเพลิงนานนับชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัด เนื่องจากจุดเกิดเหตุมีถนนค่อนข้างแคบ และห่างจากแหล่งน้ำธรรมชาติ กระทั่งเวลา 20.30 น. เพลิงจึงสงบ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงนำรถดับเพลิงเข้าไปรอไว้ เนื่องจากเกรงว่าเพลิงอาจปะทุขึ้นอีก

จากการสอบถามชาวบ้านเบื้องต้น ทราบว่า เมื่อช่วงบ่ายเกิดเพลิงไหม้มารอบหนึ่งแล้ว แต่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันดับเอาไว้ได้ แต่จู่ๆ เพลิงก็ลุกไหม้ขึ้นมาอีก ชาวบ้านจึงได้ตักน้ำไปช่วยกันดับแต่ไม่เป็นผล ก่อนที่เพลิงจะลุกลามเป็นวงกว้าง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นป่าหญ้ารกทึบ แต่หลังจากมีสภาพอากาศร้อนจัดและแห้งแล้ง ทำให้หญ้าที่เคยเขียวกลับแห้งตายหมดจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีและลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งเบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 พ.ค. 2559

แล้งอย่างแรงคนเทศบาล 2 จังหวัดเดือดร้อนประปาไม่ไหล​

​

แล้งอย่างแรงคนเทศบาล 2 จังหวัดเดือดร้อนประปาไม่ไหล

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.ปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่า น้ำประปาไม่ไหลมาหลายวัน ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบนางจงจิต ลิ้มสวัสดิ์ ส.ท.ตำบลปากน้ำหลังสวน พร้อมกับเปิดเผยว่า ช่วงเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาน้ำประปาในเขตเทศบาล ตำบลปากน้ำหลังสวนไม่ไหล หรือถ้าไหลก็ไหลน้อยและจะไหลในช่วงเวลาตี 3 ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้ตื่นขึ้นมาเปิดน้ำเก็บไว้ อีกทั้งน้ำประปามีรสเค็ม ทำให้ชาวบ้านร่วมพันครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงอยากวิงวอนให้การประปาส่วนภูมิภาคสาขาหลังสวน เร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว

นายวิจิตร์ เกิดบางกา ผจก.การประปาส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอหลังสวน กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากน้ำทะเลหนุนเข้ามาถึงแหล่งผลิตน้ำประปา ทำให้น้ำประปามีความเค็ม จึงมีความจำเป็นต้องหยุดการผลิตเป็นช่วงๆ ถึงแม้ว่าจะมีแหล่งสูบน้ำดิบสำรองไว้หลายแห่ง แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปีที่น้ำทะเลหนุนขึ้นสูงมาถึงแหล่งน้ำดิบหลักและแหล่งน้ำดิบสำรองที่ใช้ผลิตน้ำประปา ประกอบกับในระยะนี้ไม่มีฝนตก ทำให้สถานการณ์ได้ทวีความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ ยังเกิดปัญหาผู้รับเหมาที่วางท่อเมนจาก อ.หลังสวน ไป ต.ปากน้ำหลังสวน เกิดมาทิ้งงานกลางคันอีกทำให้งานวางท่อเมนล่าช้า ทำให้ชาวปากน้ำหลังสวนที่ใช้น้ำปลายท่อ ประสบปัญหาน้ำไหลน้อยและไม่พอใช้ดังกล่าว แต่จุดที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้ก็คือเขต อ.สวี เพราะผลิตน้ำประปาได้เพียงแค่ 50% ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการ ของผู้ใช้น้ำ เจ้าหน้าที่ต้องเปิด-ปิดน้ำเป็นเวลา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน

จ.นครศรีธรรมราช วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ประชาชนที่อาศัยในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชกำลังเดือดร้อนหนัก เนื่องจากน้ำประปาในเขตเทศบาลไม่ไหล หยุดไหลหรือไหลน้อยมานานร่วม 2 เดือนแล้ว สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเขตเทศบาลทั่วทุกหลังคาเรือน โดยเฉพาะร้านอาหาร ร้านค้า ร้านซักอบรีด ธุรกิจโรงแรม แมนชั่น ที่พักต่างๆในเขตเทศบาลต่างได้รับผลกระทบ ชาวบ้าน ร้านค้าและเจ้าของธุรกิจต่างดิ้นรนหาซื้อน้ำจากเอกชนหรือขุดบ่อบาดาลนำน้ำขึ้นมาใช้ ขณะที่หน่วยงานต่างๆ เช่น ทหาร มทบ.41, อบจ.นครศรีธรรมราช, การประปาส่วนภูมิภาค และเทศบาลนครนครศรีธรรมราช นำรถน้ำออกไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งไปช่วยเหลือหน่วยงานราชการและ รพ.ต่างๆในเขตเทศบาลแต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการ หลังจากน้ำประปาไม่ไหลมานานแรมเดือน ทำให้ประชาชนในเขตเทศบาลต่างเรียกร้องให้ฝ่ายบริหาร เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ภายใต้การนำของ ผศ. เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนโดยเร่งด่วน เพราะน้ำประปาไม่ไหล หรือไหลน้อยมานานแล้ว

นายพิชัย ลี้วรกุล ส.ท.นครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้เข้าไปดูแหล่งสูบน้ำดิบทั้ง 3 แห่ง พบว่า 2 ใน 3 แห่ง เช่น ที่บ่อดินบ้านวังก้อง ต.กำแพงเซา หรือที่บ่อดิน ต.นาทราย พบว่ายังสามารถผลิตน้ำประปาได้พอเพียง สำหรับหน้าแล้งในช่วง มี.ค.-พ.ค.อย่างแน่นอน หากมีการบริหารจัดการน้ำที่ดี และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด มีการประสานขอความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชน คิดว่าทุกฝ่ายพร้อมที่จะช่วยแก้ปัญหาอย่างแน่นอน ที่สำคัญหากฝ่ายบริหารให้โอกาสตนเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ตนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ ไม่ใช่มาปล่อยให้น้ำประปาไม่ไหลเลยจนประชาชนเดือดร้อนมานานเกือบ 2 เดือนแล้ว ขอให้ผู้บริหารเทศบาลเร่งแก้ปัญหาด่วนด้วย

ทางด้าน ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรี นครนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางฝ่ายบริหารไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามแก้ไขปัญหาน้ำประปาขาดแคลนมาโดยตลอด แต่ปัญหาเกิดจากแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตน้ำประปามีไม่เพียงพอ แหล่งน้ำดิบทั้งในคลองท่าดี บ่อน้ำวังก้อง บ่อน้ำนาทราย น้ำเริ่มลดลงตามลำดับเพราะฝนไม่ตกลงมาเลยในช่วง 2 เดือนนี้ ทางฝ่ายบริหารเทศบาลจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการลดความดัน น้ำประปาลงและจ่ายน้ำเป็นเวลาเพื่อให้มีน้ำประปาใช้ในหน้าแล้ง พร้อมกับมอบหมายให้ จนท.นำรถน้ำไปแจกจ่ายประชาชนที่เดือดร้อนตามจุดต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไปพลางๆก่อน จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นขอให้ประชาชนเห็นใจด้วย.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 11 พ.ค. 2559

การประปานครหลวงส่งรถผลิตน้ำดื่ม​

​

ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำที่เพชรบุรี

นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กปน.ได้ส่งรถผลิตน้ำดื่มและรถบรรทุกน้ำออกช่วยเหลือประชาชน ตามโครงการ “การประปานครหลวง ช่วยเหลือผู้ประสบภัย” ครั้งที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและใกล้เคียงแก่ประชาชนที่ประสบภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค ตามที่มณฑลทหารบกที่ 15 ค่ายรามราชนิเวศน์ จังหวัดเพชรบุรี แจ้งความประสงค์มา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวได้ถูกประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ได้แก่ อบต.ไร่ใหม่พัฒนา ต.ห้วยทรายเหนือ ต.สามพระยา อ.ชะอำ ต.กลัดหลวง ต.เขาตะปุ ต.วังไคร้ อ.ท่ายาง และ ต.ห้วยลึก อ.บ้านลาด โดยในครั้งนี้ได้จัดส่งรถผลิตน้ำดื่ม จำนวน 1 คัน ที่สามารถผลิตน้ำได้ 4,000 ลิตรต่อชั่วโมง โดยใช้น้ำดิบจากเขื่อนแก่งกระจาน.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 11 พ.ค. 2559

ขนมจากผสมผลไม้! หนุ่มตรังคิดสูตร ส่งตามออเดอร์ รายได้ดีมีเงินเปิดร้าน​

​

ขนมจาก พลิกชีวิต! หนุ่มเมืองตรัง ลาออกจากงานประจำ หันทำขนมจากขนมพื้นบ้าน ดัดแปลงสูตรผสมผลไม้ตามฤดูกาล เจ้าแรกเจ้าเดียวในไทย เริ่มต้นรับออเดอร์ กระทั่งปักหลักเปิดร้านขาย สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคนิคตรัง ริมถนนตรัง-ปะเหลียน ในเขตเทศบาลตำบลโคกหล่อ อ.เมืองตรัง นายประธง ท่าจีน หนุ่มวัย 35 ปี ชาวตรังโดยกำเนิด รู้สึกเบื่อชีวิตลูกจ้างแล้วหันมาทำขนมจากซึ่งเป็นขนมพื้นบ้านไทย แต่นำสูตรมาดัดแปลงผสมกับผลไม้ตามฤดูกาล จนนับเป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย ได้รับการตอบรับจากลูกค้า ขายดิบขายดี สร้างรายได้เลี้ยงปากท้อง เพื่อต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

นายประธง เล่าว่า ตนเองเรียนจบจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จากนั้นก็ท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ จนได้มาเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งก็พบว่า มีรสชาติอาหารดีมากก็เลยอยากรู้จักแม่ครัว พอได้รู้จักกันก็คุยกันถูกคอ เขาจึงสอนวิธีทำอาหารให้ รู้สึกว่าสนุกดี จากที่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนว่าตนเองชอบทำอาหาร กระทั่งต่อมา ก็ได้ไปทำงานเป็นเชฟในโรงแรมแห่งหนึ่ง และถูกส่งไปอบรมหลักสูตร และเทคนิคต่างๆ จนสามารถทำอาหารได้ทุกชนิด

" ต่อมา ก็ได้ตัดสินในลาออกเนื่องจากรู้สึกเบื่อสังคมลูกจ้างที่ทำงานจำเจทุกวัน แต่เนื่องจากผมมีความชำนาญด้านการทำอาหารอยู่แล้ว ดังนั้น ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จึงลองคิดค้นสูตรแปลกๆ ไปเรื่อยๆ กระทั่งได้มีโอกาสไปร่วมงานศพใกล้บ้าน และสังเกตเห็นขนมจาก ซึ่งเป็นขนมโบราณพื้นบ้านของท้องถิ่น จึงสนใจนำมาดัดแปลงเพิ่มเติม โดยการนำผลไม้ตามฤดูกาลมาผสมกับมะพร้าวอ่อน ทำให้รสชาติออกมาอร่อยมากยิ่งขึ้นไปกว่าแบบเดิมๆ" เขากล่าว

นายประธง เปิดเผยต่อว่า โดยแรกๆ ตนเองจะทำขนมจากเฉพาะตามใบสั่งของลูกค้า หรือตามงานต่างๆ เช่น งานศพ งานแต่งงาน งานบุญ ฯลฯ เท่านั้น แต่กลับมีกระแสการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และต่างพากันสอบถามว่า เปิดร้านขายที่ไหน จนในที่สุดตนก็คิดว่าเดินมาถูกทางแล้วจึงได้เปิดร้านขายขนมจากที่บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคนิคตรัง เมื่อประมาณ 1 เดือนเศษที่ผ่านมา ปรากฏว่า ขายดีทุกวัน ในส่วนของลูกค้ามีทั้งขาประจำ และขาจร

" วันนี้สามารถมีเงินเลี้ยงดูตนเอง และครอบครัวได้อย่างไม่เดือดร้อน ดีกว่าชีวิตลูกจ้างเยอะ สำหรับขนมจากมีส่วนผสมหลายแบบ ทั้งขนุน เผือก ข้าวโพด ฟักทอง และข้าวเหนียวดำ เพื่อให้เป็นทางเลือกของลูกค้า เพราะแต่ละแบบก็จะมีรสชาติที่แตกต่างกัน แล้วแต่คนชอบ โดยจะเปิดร้านขายขนมจากทุกวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. และตั้งชื่อว่า “ร้านขนมจาก จากใจ” นอกจากจะเน้นคุณภาพของขนมไทยแล้ว ลูกค้าที่กินก็จะได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย ที่สำคัญก็คือ เป็นการอนุรักษ์ขนมพื้นบ้านที่นับวันจะสูญหาย และถูกลดความสำคัญลงไปมากในปัจจุบัน" นายประธง กล่าวทิ้งท้าย

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 พ.ค. 2559

เหมืองทองไทย ปิดหมดภายในปี 2559​

​

“บิ๊กตู่” สั่งปิดฉากการทำเหมืองทองในไทยทุกกรณีภายในสิ้นปีนี้ จี้บริษัทอัคราฯเร่งปิดเหมืองฟื้นฟูพื้นที่พร้อมให้กระทรวงแรงงานช่วยดูแลพนักงานกว่า 1,000 คน ด้านบริษัทฯ ออกแถลงการณ์โต้ ไม่เคยก่อปัญหามลภาวะเป็นพิษตลอดระยะเวลาทำเหมือง ยันปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่างและประทานบัตรยังได้รับอนุญาตถึงปี 2571

นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยเมื่อ 10 พ.ค.ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบมติร่วมกันของ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วยกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อกรณีการแก้ไขปัญหาตามที่ประชาชนร้องเรียนว่า ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) โดยให้ยุติการอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำและประทานบัตร ทำเหมืองแร่ทองคำรวมถึงคำขอต่ออายุประทานบัตรด้วย ซึ่งจะมีผลให้บริษัทเอกชนที่ยื่นคำขออนุญาตทั้ง 2 กรณีดังกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ถูกปฏิเสธคำขออนุญาตทั้งหมด แบ่งเป็นคำขออาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำ 12 บริษัท จำนวน 177 แปลงในพื้นที่ 10 จังหวัด และคำขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำ 107 แปลง อยู่ที่ จ.เลย เป็นคำขอของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ส่วนคำขอต่ออายุประทานบัตรมีแปลงเดียวคือของบริษัทอัคราฯ

รมว.อุตสาหกรรมกล่าวด้วยว่า สำหรับในกรณีของบริษัทอัคราฯนั้น เห็นควรให้ต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมไปจนถึงสิ้นปี 2559 เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพนักงานและเพื่อเตรียมการเลิกประกอบกิจการ โดยบริษัทอัคราฯ สามารถนำแร่ที่เหลืออยู่ไปใช้ประโยชน์ได้ พร้อมทั้งให้บริษัทอัคราฯเร่งดำเนินการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมืองให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต ขณะเดียวกันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการดูแลประชาชน และบรรเทาปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังสิ้นสุดการประกอบกิจการเหมืองแร่และโลหกรรมของบริษัทอัคราฯ ดังนี้ คือกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กำกับดูแลการปิดเหมืองและฟื้นฟูพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุข ดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และกระทรวงแรงงานดูแลพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ ทั้งนี้ในส่วนการช่วยเหลือพนักงานของบริษัทอัคราฯ ที่มีประมาณ 1,000 คน นอกจากกระทรวงอุตสาหกรรมจะประสานกับกระทรวงแรงงานในการให้ความช่วยเหลือแล้ว จะประสานกับ ผวจ.พิจิตรให้นำเงินกองทุนพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งมีเงินประมาณ 45 ล้านบาท มาให้การช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบด้วย

“วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้ง 4 กระทรวงได้พิจารณา ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ตามที่คณะทำงานเสนอมา แม้จะยังไม่สรุปได้ชัดเจนว่า ปัญหาข้อร้องเรียนและผลกระทบต่างๆเกิดจากการทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัทอัคราฯหรือไม่ แต่เพื่อประโยชน์ของประชาชนและสังคมส่วนรวม และแก้ปัญหาความแตกแยกของประชาชน ชุมชน ประกอบกับมีคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้นโยบายไว้แล้วว่าการดำเนินงานเหมืองแร่ทองคำ จะต้องมีความโปร่งใส ประชาชนไม่ต่อต้าน ทั้ง 4 กระทรวงจึงมีมติร่วมกันดังกล่าว โดยได้เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พิจารณาและได้อนุมัติให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการตามข้อกฎหมายระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้อง บูรณาการงานของส่วนราชการ ให้เป็นไปตามมติแล้วตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. ถึงสิ้นปีนี้การทำหรือต่ออายุเหมืองแร่ทองคำ ในประเทศไทยทุกกรณีจะยุติหมด มองว่าการทำเหมืองแร่ทองคำในประเทศไทยขณะนี้ไม่น่าจะมีความเหมาะสม” นางอรรชกากล่าว

รมว.อุตสาหกรรมกล่าวอีกว่า ช่วงที่ผ่านมา ในการตรวจสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ พบว่า มีประชาชนจำนวนมากที่มีโลหะหนักอยู่ในร่างกาย ถือว่าเป็นอันตราย แต่ต้องยอมรับว่าเพิ่งมีการตรวจเมื่อปี 2557-2558 นี้เอง ไม่ได้มีการตระหนัก หรือตรวจสุขภาพร่างกายของประชาชน ตั้งแต่เปิดเหมืองทองคำใหม่ๆ เมื่อ 15 ปีก่อน จากการตรวจร่างกาย 3 ครั้ง จำนวน 1,583 คน พบว่า 51.6% หรือ 817 คน ที่พบโลหะหนักในร่างกาย ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูง แต่ขณะเดียวกันยังไม่ได้มีการศึกษาว่าเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับพื้นที่ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ผลการตรวจสุขภาพจะเหมือนกันหรือไม่ ต้องยอมรับว่าจริงๆแล้วหลายเรื่องยังไม่มีข้อสรุปในเชิงวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน แต่ทั้ง 4 กระทรวงก็เห็นร่วมกันว่า การทำเหมืองทองคำถ้าทำให้เกิดความขัดแย้ง ต่อต้านในชุมชนก็ควรจะยุติ ไม่คุ้มกับต้นทุนทางสังคม

นางอรรชกากล่าวอีกว่า กรณีที่บริษัทอัคราฯ จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายนั้น เป็นสิทธิ์ของบริษัทที่จะดำเนินการได้ คงไปห้ามไม่ได้ แต่ทั้ง 4 กระทรวงมีความเห็นร่วมกันว่า การทำเหมืองทองเป็นนโยบายสาธารณะที่มีความเสี่ยง แม้จะยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนก็ตาม แต่เพื่อประโยชน์ของสาธารณะ แก้ไขปัญหาความขัดแย้งของชุมชนจึงให้ดำเนินการตามแนวทางข้างต้นออกมาก่อน หากฟ้องกระทรวงอุตสาหกรรมคงต้องสู้ในการชี้แจงต่อไป สำหรับการประกอบกิจการของบริษัทอัคราฯที่ผ่านมา ได้ทองคำปีละ 3-4 ตัน ต้องย่อยหินกว่า 1 ตัน เพื่อจะได้ทองคำ 1 กรัม ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ได้ทองคำ ประมาณ 50 ตัน คิดเป็นมูลค่า 52,000 ล้านบาท และประเมินว่าทองคำในพื้นที่ใกล้จะหมดแล้ว

ด้านนายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผจก.ประสานงานกิจการภายนอก บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์ของบริษัทว่า ตามที่มีคำแถลงจาก รมว.อุตสาหกรรม กรณีให้เหมืองแร่ทองคำชาตรีของบริษัทหยุดดำเนินกิจการเหมืองภายในสิ้นปี 2559 สร้างความประหลาดใจให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทยังคงมีประทานบัตรที่ได้รับอนุญาตอยู่จนถึงปี 2571 จึงวางแผนการทำเหมืองไว้แล้วจนถึงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการ บริษัทได้พิสูจน์ให้เห็นมาตลอดว่ากิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรีไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ที่อาศัยอยู่ในชุมชนโดยรอบเหมืองแร่ทองคำชาตรีแต่อย่างใด

ในแถลงการณ์ระบุอีกว่า บริษัทได้ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดทุกอย่างตามกฎหมายแห่งประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) อย่างเคร่งครัดเสมอมา นอกจากนี้ บริษัทยังมีส่วนช่วยสร้างให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจแก่ประเทศไทยทั้งในระดับท้องถิ่นและต่อประเทศไทยโดยรวม อย่างไรก็ดี บริษัทยังไม่ได้รับเอกสารแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรใดๆจากทางภาครัฐและบริษัทจะได้หารือกับที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เพื่อพิจารณาช่องทางการดำเนินการตามกฎหมายที่สามารถทำได้ต่อไป

ส่วนความเคลื่อนไหวของชาวบ้านในพื้นที่ นายบุญลือ บุญอ้น อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการพูดคุยกับลูกบ้านที่ทำงานอยู่ในเหมืองทอง ประมาณ 20 ครอบครัว ลูกบ้านรู้สึกขวัญเสีย เพราะในอนาคตจะต้องตกงาน ไม่มีงานทำ ทุกคนอายุก็มากแล้ว ไม่สะดวกที่จะเปลี่ยนงานใหม่ การทำงานในบริษัทเหมืองทองคำฯ ก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เหมืองทองฯก็ดูแลชุมชนเป็นอย่างดี มีกองทุนให้พัฒนา หมู่บ้านของตนได้เงินจากกองทุนของเหมืองทองฯให้พัฒนาหมู่บ้านปีละ 1 ล้านบาท ส่วนข้อเท็จจริง คนที่ไปร้องเรียน ก็ไม่ใช่คนในหมู่บ้านแต่อย่างใด จึงอยากจะให้รัฐบาลมาตรวจสอบข้อมูลให้ลึกกว่านี้

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.ไม่ได้พิจารณาต่อใบอนุญาตสัมปทานเหมืองทองคำ ตนสั่งการไปว่าภายในสิ้นปี 59 จะต้องไม่มีการทำเหมืองแร่ทองอีกต่อไปจนกว่าจะมีผลการตรวจสอบชัดเจน และในระหว่างนี้จะต้องแก้ปัญหาการปรับพื้นที่คืนสภาพ เตรียมหางานให้คนงานอีกว่าพันคน ส่วนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจะได้รับการเยียวยา โดยให้กระทรวงสาธารณสุขไปดูแลรักษา ที่ยังไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร เพราะทุกพื้นที่มีมากมีน้อยอยู่ แบบนี้ใครจะมาร่วมรับผิดชอบกับตน ไม่ใช่ว่าสั่งโครมๆว่าเลิกไม่เลิก สร้างกันมากี่ปีแล้วปัญหาเกิดมาจากใคร

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 11 พ.ค. 2559

ไทย อากาศร้อนอบอ้าว ร้อนจัดบางพื้นที่ เหนือ-อีสาน ระวังพายุลมแรง​

​

ไทย ยังมีอากาศร้อนอบอ้าว และร้อนจัดบางพื้นที่ ขณะภาคเหนือตอนบน-อีสานและตะวันออก จะมีฝนตก ลมกระโชกแรง ช่วงบ่ายถึงค่ำ เตือนประชาชนอยู่ห่างต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณา

วันที่ 11 พ.ค. จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศ ไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่า ตอนนี้สิ่งที่ยังคงต้องเน้นย้ำกันอย่างต่อเนื่องก็คือ เรื่องของความแปรปรวนลักษณะอากาศ ที่หลายพื้นที่ในเมืองไทยต้องเฝ้าระวัง โดยวันนี้พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษประกอบด้วย น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย

โดยปัจจัยหลักๆ ที่เหนี่ยวนำ ทำให้เกิดสถานการณ์ดังกล่าว ยังคงเป็นกระแสลมนั่นก็ คือ ลมใต้ และตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง นอกจากความชื้นเหล่านี้ จะนำความชื้นซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเมฆและเมฆฝนฟ้าคะนองแล้ว ความชื้นเหล่านี้ยังมีอุณหภูมิสูงจึงทำให้สภาพอากาศร้อนอบอ้าว ประกอบกับความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน จึงทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่

โดยจากการคาดการณ์พบว่า วันนี้อุณหภูมิจะสูงขึ้นไปอยู่ที่ ประมาณ 43 องศาเซลเซียส ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน ส่วนฝนนั้นคาดการณ์ว่า จะมีโอกาสตกในช่วงบ่ายถึงเย็นส่วนใหญ่ จะเน้นในภาคอีสานและตะวันออก

ส่วนสภาพอากาศภาพรวมแต่ละภาควันนี้ มีดังนี้

ภาคเหนือ มีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40-43 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-43 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส /ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 28-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 พ.ค. 2559

ที่มา ข่าวล่าสุด ข่าวด่วน ประเด็นร้อน ข่าวไทยรัฐ - thairath.co.th

 

เตือนภัยพิบัติรุนแรงชาวกรุงน้ำท่วมสูง​

เผยแพร่เมื่อ 27 มี.ค. 2015​

คำทำนายอนาคตหายนะโลก ภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่รุนแรง หมอนีน่าแม่นๆ ผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน น้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทย เหตการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ตอบ ช่วงนี้อาจารย์นีน่าคงไม่มีเวลามากกว่านี้แล้ว คงต้องรีบแจ้งประกาศเตือนให้พี่น้องชาวไทย เฝ้าระวังช่วงวันที่ 28 มิถุนายน 2558 เดือนหกนี้ใกล้เข้ามาแล้ว จะเริ่มที่ภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคอีสานจะได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุด จากการที่น้องนางฟ้าได้แจ้งเตือน น้ำท่วมครั้งนี้สูงมากสูงกว่า ปี 2554 ที่เคยท่วมมา ได้รับผลกระทบความเสียหายทรัพย์สินข้าวของพังจมน้ำเสียหายมาก

ขนาดมวลน้ำรุนแรงมากในประวัติศาสตร์ที่เคยท่วมมา น้ำท่วมครั้งนี้จะท่วมสูงมากมากเท่ากับตึกสามชั้น ตามที่น้องนางฟ้าได้บอกกล่าว และน้ำไหลมาจากภูเขาสูงด้วย น้ำจะไหลจากที่สูงลงมาสู้ที่ต่ำ และลงมาสู่ภาคกลาง มุ่งเข้าสู่กรุงเทพมหานคร จากการนั่งสมาธิและติดต่อกับ น้องนางฟ้า บนสรวงสวรรค์ และสื่อสารกับองค์พ่อใหญ่ หรือ องค์พระพิฆเนศ ที่อาจารย์นับถือเป็นอย่างยิ่ง ท่านทรงส่งสาร ผ่านอาจารย์ อาจารย์เป็นเพียงผู้นำสารของท่านมาบอกชาวโลกเท่านั้น ได้บอกถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นเคราะห์กรรมของประเทศไทย จะต้องผ่านเรื่องร้ายไปก่อนและประเทศจะดีขี้น

ในญาณสมาธิที่เห็น เป็นรูปภูเขาสูงและฝนตกหนักมากตกติดต่อกัน หลายวันหลายคืน มีทั้งน้ำป่าและน้ำภูเขา เสียงเริ่มดังชัดขึ้นเรื่อย เสียงน้ำไหลมาต่อเนื่อง คล้ายน้ำล้นทะลักออกมาจากเขื่อน ภาพนิมิตปรากฏชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ดินโคล่นถล่ม ทับบ้านเรือนเสียหายเป็นจำนวนมาก น้ำป่าไหลเชี่ยวกราก สะพานขาดและน้องนางฟ้าได้บอกว่า ไม่สามารถควบคุมปริมาณน้ำได้ น้ำได้มาแล้ว และไหลมาเป็นจำนวนมหาศาล คราวนี้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างหลายภาค ของประเทศไทยน้ำท่วมครั้งนี้จะสูงมาก สูงกว่าที่เคยท่วมมา

ช่วงวันและเวลาดังกล่าว ควรเตรียมตัวได้แล้วเรามีเวลาอีกประมาณเดือนกว่า ที่น้ำเหนือจะไหล่บ่าลงมาถึงกรุงเทพ ควรเตรียมพร้อมขุดลอกคูคลอง ขยะที่ขว้างทางน้ำ วิกฤติครั้งนี้เป็นวาระเร่งด่วนมากแล้ว ตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องระบายน้ำ ว่าอยู่ในสถานการณ์พร้อมใช้งานได้ และเตรียมแผนรับมือน้ำท่วมสูงได้แล้ว อย่ารอให้จวนตัว จะไม่ทันแล้ว ตอนนี้น้ำไหลมาแล้ว จากใต้ดินมาเร็ว มาแรงและเชี่ยวกราก จะผุดขึ้นตามท่อระบายน้ำ วิกฤตครั้งนี้รุนแรงมาก น้ำท่วมสูงในกรุงเทพมหานคร คือ ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ได้รับความเสียหาย ข้าวของพังจมน้ำ ร้านค้าปิด ตามที่น้องนางฟ้า ได้แจ้งเตือน ช่วงเดือน 6 มิถุนายน เข้าขั้นเสี่ยงมากเป็นช่วงที่เฝ้าระวัง ป้องกันภัย ช่วยแชร์ต่อด้วยค่ะ เพื่อความปลอดภัยทุกท่าน

(พ่อพิฆเนศส่งสาร)หรือ พ่อใหญ่ วิธีสังเกตภัยพิบัติตามธรรมชาติเบื้องต้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว น้ำท่วม สื่อนามิ ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินแยก และพายุใหญ่เข้า เป็นสิ่งที่ควรรู้เพื่อระมัดระวังป้องกันภัย มีข้อสังเกตหลายข้อจากการส่งสารขององค์พ่อใหญ่ คือ ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติต่างๆ ให้สังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราก่อนเป็นอันดับแรก เช่น

1. เกิดแผ่นดินไหวติดต่อกันถี่และรุนแรงสัญญาณเตือนได้มาแล้ว ว่าครั้งต่อไปจะเกิดคลื่นยักษ์ในมหาสมุทร

2. ให้ดูท้องฟ้าเมฆก่อตัวรูปร่างผิดปกติ เป็นคล้ายหลุมดำขนาดใหญ่ ถ้าเกิดบริเวณแถวไหน ให้รีบออกจากพื้นที่นั้นด่วนค่ะ

3. รัศมีพื้นที่นั้นจะมีลมแรงผิดปกติลมแรงมาก

4. สังเกตระดับน้ำทะเลสีของน้ำทะเลเริ่มเปลี่ยนไปสีอาจเข้มขึ้น และที่สำคัญมากคลื่นสูงมากผิดปกติมาคู่กับลมแรงมากค่ะ จุดนี้ให้สังเกตให้ดี ให้รีบขึ้นจากชายฝั่งทันที

5. สังเกตจากสัตว์ต่างๆ แมลง มด ปลวก หนู นก สัตว์ที่อยู่ตามโพรง กระรอก สุนัขจะร้องโหยหวนและวิ่งวนหาทางหนี แตกตื่นได้พยายามหนีขึ้นมาจากใต้ดินสัตว์พวกนี้ได้ขึ้นมาเป็นจำนวนหลายแสนตัว

ข้อสังเกตเบื้องต้นค่ะ ลองนำไปใช้ดูนะค่ะ ขอให้ปลอดภัยทุกท่าน สิ่งที่สำคัญที่สุด อยากเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกท่าน ทุกครั้งที่ท่านได้ทำบุญ อย่าลืม อุทิศบุญให้แก่พระสยามเทวาธิราชด้วยค่ะ เพิ่มพลังบุญบารมีให้ท่านเมื่อบารมีพระองค์มากขึ้นท่านจะช่วยคุ้มครองประเทศไทยให้พ้นผ่านเรื่องร้ายไป ขอให้เชื่อมั่นในความดีบุญกุศล ความดีเท่านั้นเป็นเกราะคุ้มกันให้เรารอดปลอดภัย สาธุ สาธุ

เวลาที่คลื่นยักษ์ถล่ม แผ่นดินไหว แผ่นดินแยกจะเกิดขี้นเมื่อไหร่ ? หมอนีน่าแม่นๆ ผู้หยั่งรู้ฟ้าดินคำทำนายอนาคต หายนะโลก ปี 2015 ช่วงเดือนไหน ให้เฝ้าระวังเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ แถบโซน ทวีปเอเซีย เป็นประเทศที่มีคนอยู่มหาศาล เสียหายหนักหลายประเทศ เวลาที่แจ้งไว้ อาจจะเลื่อนไป ก่อนหน้า 7 วัน หรือ ถอยหลังไป 7 วัน แต่ใกล้เคียงที่สุดในการทำนาย การออกมาทำนายเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ หรือการดูดวงชะตา จะต้องแม่นยำที่สุด คือเวลา และสถานที่ ต้องชัดเจน และใกล้เคียงมากที่สุด นี้คือหลักการดูดวง ของอาจารย์นีน่า ค่ะ

สรุปผลการทำนายอนาคต หายนะโลก ใกล้มาถึงแล้ว ช่วงปลายปี 2015 วันที่ 29 ธันวาคม 2015 ย้ำชัดเจนค่ะ ตรงกับ วันอังคาร เวลาประมาณ บ่ายสองโมง โปรดระมัดระวังเป็นพิเศษ ในเวลาดังกล่าว อย่าลงเล่นน้ำตามแนวชายฝั่ง หรือเกาะต่างๆ ควรหาที่สูงหลบภัย ครั้งใหญ่ที่จะมาถึง คลื่นยักษ์ครั้งนี้มีขนาดใหญ่กว่าสื่อนามิ หลายเท่าตัว รุนแรงกว่า และทวีคุณ มีการสูญเสียผู้คนและทรัพย์สินมีค่า จำนวนมหาศาล ทะเลมหาสมุทรมันบ้าคลั้งจะดูดกลื่นกินทุกสิ่งทุกอย่างไป เมืองจะพังพินาศไม่เหลืออะไรเลย

มีคำพูดของ น้องนางฟ้า ฝากบอกกับชาวโลก ว่า ท่านพยายมราช บอกว่า ยังไม่พอจะมาเอาอีก หลังจากเนปาลแผ่นดินไหว ท่านมาเอาคนตายไปแล้ว แต่จำนวนยังไม่พอ จะต้องมาเอาอีกแน่นอน ยังไม่ครบจำนวนตัวเลขที่ท่านต้องการ ขอได้โปรดช่วยกันสวดมนต์ นั่งสมาธิตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้ชาวโลกเกิดสันติสุข สงบร่มเย็นและปลอดภัย กรรมหนักได้เป็นเบา มีคำพูดของพ่อใหญ่ หรือ องค์พระพิฆเนศ คนที่จะรอดพ้นภัยพิบัติ ต้องเป็นคนดีอยู่ในศีลธรรม รักษาศีล 5 ไม่คดโกง ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นฝีมือมนุษย์ ทำให้ธรรมชาติเสียระบบสมดุล มีการขุดเจาะภูเขาใต้ดิน เพราะความโลภ ผลประโยชน์

ทำสิ่งที่ฝืนธรรมชาติ ครั้งนี้ธรรมชาติจะกลับมาลงโทษมนุษย์ คำพูดของพ่อใหญ่ คลื่นยักษ์มันจะมาฟังพ่อ คนจะตายตายกันมากคนจะร้องไห้ สูญเสียพลัดพรากไม่จบไม่สิ้น คลื่นยักษ์มันบ้าคลั่ง รุนแรงทวีคูณ ทำลายล้างทุกสิ่งไม่เหลืออะไรเลย ยังมีเวลาเตรียมตัวอีก 8 เดือน หลังจากที่ อาจารย์นีน่า ได้ทำนายไว้ตั้งแต่ เดือนเมษายน /2015 แจ้งเตือน ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ช่วยออกมาตรวจตรา สัญญาณเตือนภัย ให้้ใช้งานได้ และทำแผนเตรียมพร้อมอพยพผู้คน อย่างเร่งด่วน ป้องกันไว้ดีกว่าแก้

ถึงจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น ควรจะต้องตรวจสอบคุณภาพและประสิทธิภาพของสัญญาณเตือนภัย ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ป้ายชี้ทางควรชัดเจน ว่าทางหนีอยู่ตรงไหน ช่วยแชร์ต่อด้วยนะค่ะ เวลาของทุกคนคงมีอายุอยู่ไม่เกิน 100 ปี จงใช้ชีวิตให้มีค่า และมีประโยชน์ต่อผู้คน และปรเทศชาติให้มากที่สุด คนเราเกิดมาตายทุกคน หนีไม่พ้น ตัวเราก็ต้องตาย แต่วันที่เรามีชีวิตอยู่ เราได้ทำความดีตอบแทนบุญคุณของประเทศชาติบ้านเมืองแล้วหรือยัง

หมอนีน่าแม่นๆ ผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน
วันที่ทำนาย ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2558

หมายเหตุ

คำเตือนจากองค์พระพิฆเนศนี้ ถึงเวลาจะคลาดเคลื่อนไปจากเดิม แต่อย่าเพิ่งประมาทว่าจะไม่เกิดขึ้นนะครับ เพราะคุณ k_97 ก็ได้เห็นนิมิตเตือนแล้วว่า หลังวันไหว้ครู 2 มิ.ย.59 ไปแล้ว จะมีน้ำท่วมใหญ่ อีกทั้งคุณมณีส่องแสง ก็ได้แจ้งรหัสให้ผู้มีหน้าที่เรื่องภัยพิบัติ ให้ทำหน้าที่ของตัวเองได้แล้ว ไม่อาจจะเลื่อนเวลาใดๆได้อีกแล้วครับ

 

แผ่นดินไหวทางตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน รู้สึกได้ถึงกรุงไทเป​

​

ไทเป 12 พ.ค.- สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) แจ้งว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวันในวันนี้ แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ถึงกรุงไทเปที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะไต้หวัน

เว็บไซต์ยูเอสจีเอสรายงานว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหวลึกลงไปในทะเล 10 กิโลเมตร ห่างจากเมืองซูอ้าว เมืองริมฝั่งทะเลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 14 กิโลเมตร ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายด้านชีวิตและทรัพย์สิน แต่ทำให้อาคารสูงในกรุงไทเปที่อยู่ห่างขึ้นไปทางเหนือ 60 กิโลเมตร สั่นไหวอย่างรุนแรง.-สำนักข่าวไทย

ไข้หวัดใหญ่ H1N1 คร่าชีวิตคนในเอกวาดอร์แล้วเกือบ 40 คน ตั้งแต่เมษายน​

​

กีโต 12 พ.ค.- กระทรวงสาธารณสุขเอกวาดอร์แจ้งว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 คร่าชีวิตคนในประเทศไปแล้วอย่างน้อย 39 คนนับตั้งแต่เดือนเมษายน และพบผู้ป่วยแล้ว 239 คน

กระทรวงสาธารณสุขเอกวาดอร์ระบุว่า ฤดูหนาวจัดที่เกิดขึ้นทั่วประเทศในขณะนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมาก และยังมีรายงานพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ H1N1 ในหลายประเทศที่อยู่ในอเมริกาใต้เช่นเดียวกัน นอกจากไวรัส H1N1 แล้ว เอกวาดอร์ยังพบผู้ป่วยไวรัสไข้หวัดใหญ่เอสายพันธุ์ H3N2 และไข้หวัดใหญ่บีอยู่ในขณะนี้ด้วย อย่างไรก็ดี กระทรวงได้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส H1N1 ให้แก่ประชาชนแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน และส่งเจ้าหน้าที่ออกฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสตามบ้านเรือนและศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อกลางเดือนก่อน

เอกวาดอร์เคยเกิดไข้หวัดใหญ่ H1N1 ระบาดนานถึง 1 ปีเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2552 ครั้งนั้นพบผู้ป่วย 2,251 คน และเสียชีวิต 129 คน.-สำนักข่าวไทย

เหยื่อคาร์บอมบ์อิรักเพิ่มเป็น 94 คน​

​

เหยื่อคาร์บอมบ์อิรักเพิ่มเป็น 94 คน

อิรัก 12 พ.ค.-ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดรถยนต์ 3 จุดในกรุงแบกแดดของอิรักเมื่อวานนี้ เพิ่มเป็น 94 คน จุดรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในย่านซาดร์ ซิตี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 64 คน ระเบิดจุดที่ 2 อยู่บริเวณที่ตั้งมัสยิดสำคัญของชาวชีอะห์ แรงระเบิดคร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 17 คน ส่วนจุดที่ 3 มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดทั้ง 3 จุดราว 150 คน กลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลาม หรือไอเอส อ้างว่าเป็นผู้ลงมือทุกจุด. -สำนักข่าวไทย

จีนและไต้หวันขัดแย้งกันเรื่องท่องเที่ยวอีก​

​

ปักกิ่ง/ไทเป 12 พ.ค. – จีนและไต้หวันขัดแย้งกันเรื่องการท่องเที่ยวเพิ่มเติมอีกเรื่อง นับตั้งแต่พรรคฝ่ายค้านที่สนับสนุนการแยกไต้หวันเป็นเอกราช ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม และต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าว่าเป็นต้นเหตุให้นักท่องเที่ยวจีนเยือนไต้หวันน้อยลง

ทางการจีนแสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผยกับประธานาธิบดีไช่ อิง เหวินที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ในสังกัดพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า(ดีพีพี) ที่ชูนโยบายเรียกร้องให้ไต้หวันแยกดินแดนจากจีน ขณะที่ไต้หวันกล่าวหาว่าจีนลักพาตัวพลเมืองชาวไต้หวันจากเคนยา ภายหลังจากที่ทางการเคนยาควบคุมตัวกลุ่มชาวไต้หวันซึ่งต้องสงสัยว่าฉ้อโกงเงินทางออนไลน์และส่งตัวไปให้จีน รวมถึงแสดงความไม่พอใจที่จีนตั้งข้อสงสัยต่อสถานะผู้สังเกตการณ์ของไต้หวันในองค์การอนามัยโลก การท่องเที่ยวไต้หวันรายงานว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนมาเยือนไต้หวัน 4.2 ล้านคน เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งลดลงร้อยละ 10 จากจำนวน 363,878 คน เมื่อเดือนมีนาคม แถลงการณ์ของไต้หวันระบุว่า จีนใช้เรื่องท่องเที่ยวมาโจมตีรัฐบาลใหม่ไต้หวันอีก แต่จีนอ้างว่าไม่ได้จำกัดนักท่องเที่ยว .- สำนักข่าวไทย

เมืองในอิหร่านและไนจีเรีย มีมลภาวะทางอากาศสูงสุดในโลก​

​

เจนีวา 12 พ.ค.- ข้อมูลใหม่ขององค์การอนามัยโลกระบุว่า เมืองซาโบลของอิหร่านและเมืองโอนิตชาของไนจีเรียเป็นเมืองที่มีมลภาวะทางอากาศสูงที่สุดในโลก ส่วนกรุงเทพฯ มีค่าฝุ่นละอองเกินเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษอ้างข้อมูลใหม่ขององค์การอนามัยโลกที่รวบรวมจากเมืองต่าง ๆ กว่า 3,000 เมืองว่า เมืองซาโบล ทางตะวันออกของอิหร่านที่ติดกับอัฟกานิสถาน อดีตศูนย์กลางอารยธรรมโบราณที่เคยรุ่งเรืองขณะนี้กลายเป็นเมืองร้างยากจนและมีค่าฝุ่นละอองขนาดพีเอ็ม 2.5 สูงที่สุดในโลก เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กมากที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าและสามารถหลุดจากเยื่อหุ้มปอดเข้าไปในกระแสเลือด ก่ออันตรายต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด เมืองซาโบลเผชิญพายุฝุ่นที่พัดจากเหนือลงใต้ปีละ 120 วัน ประกอบกับพื้นที่ชุ่มน้ำเหือดแห้งจนเกิดฝุ่นละอองจำนวนมาก

ส่วนเมืองโอนิตชา ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไนเจอร์ในไนจีเรียมีค่าฝุ่นละอองขนาดพีเอ็ม 10 สูงที่สุดในโลก เป็นฝุ่นละอองที่สามารถเข้าไปฝังในเยื่อหุ้มปอด สาเหตุเกิดจากการขยายตัวเป็นเขตเมืองอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการวางแผนที่ดีและขาดแคลนสาธารณูปโภครองรับประชากรที่เพิ่มขึ้นสองเท่าเป็น 1 ล้านคนภายในเวลาไม่กี่ปี เมืองถูกปกคลุมไปด้วยควันดำจากเรือเก่า แหล่งก่อสร้าง โรงงาน และยวดยานแออัด

ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ช่วง 5 ปีมานี้มลภาวะทางอากาศกลางแจ้งของโลกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8 โดยเฉพาะเมืองเติบโตเร็วในโลกกำลังพัฒนา เมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกตะวันตกมีระดับมลภาวะทางอากาศสูงกว่าระดับที่ปลอดภัย 5-10 เท่า มลภาวะทางอากาศกลางแจ้งเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเสียชีวิตปีละกว่า 3 ล้านคน และเป็นมัจจุราชอันดับหนึ่งของโลก คาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเนื่องจากประชากรในเขตเมืองจะเพิ่มขึ้นและจำนวนยวดยานจะมีมากถึง 2,000 ล้านคันภายในปี 2593

ส่วนผลการหาข้อมูลค่าฝุ่นละอองของกรุงเทพฯ จากฐานข้อมูลขององค์การอนามัยโลกผ่านเว็บไซต์เดอะการ์เดียนพบว่า มีฝุ่นละอองขนาดพีเอ็ม 2.5 ที่ 24 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และฝุ่นละอองขนาดพีเอ็ม 10 ที่ 42 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกทั้งสองอย่าง.- สำนักข่าวไทย

นักท่องเที่ยวกว่า 40 ชีวิต โดดหนีไฟไหม้เรือออสเตรเลีย​

​

ซิดนีย์ 12 พ.ค. – นักท่องเที่ยวกว่า 40 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุชาวจีน ได้รับความช่วยเหลือในวันนี้ ภายหลังจากพวกเขาต้องกระโดดลงแพชูชีพภายหลังจากไฟไหม้เรือท่องเที่ยวออสเตรเลีย

เรือสปิริตออฟ 1770 ประสบเหตุไฟไหม้ในห้องเครื่องยนต์เมื่อ 16.00 น.ระหว่างการนำเที่ยวไปยังเกาะเลดี้มัสกราฟ ทางแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานว่า ผู้โดยสาร 42 คน และลูกเรือ 4 คน ต้องสละเรือและกระโดดลงน้ำก่อนว่ายน้ำมายังแพชูชีพเมื่อเย็นวันพุธ พวกเขาต้องลอยคว้างอยู่กลางทะเลนานหลายชั่วโมง จนกระทั่งเรือกู้ภัย 3 ลำ เดินทางมาถึงและพากลับเข้าฝั่งเพื่อให้หน่วยกู้ชีพดูแลในเบื้องต้น ส่วนเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสาเหตุ ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวหลายคนเป็นชาวจีนสูงอายุ ส่วนคนอื่นมาจากแคนาดา นิวซีแลนด์ และอังกฤษ .- สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเตือนมลพิษทางอากาศ คร่าชีวิตปีละ 7 ล้านคน​

​

อนามัยโลกเตือนมลพิษทางอากาศ คร่าชีวิตปีละ 7 ล้านคน

อนามัยโลก 11 พ.ค.-องค์การอนามัยโลก เตือนระดับมลพิษทางอากาศในหลายเมืองทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อน ประเมินว่า ปัญหามลพิษเป็นสาเหตุการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของประชากรโลกถึงปีละ 7 ล้านคน จึงเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ทั่วโลกต้องเพิ่มมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศ และเฝ้าระวังตรวจสอบคุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ซึ่งผลการศึกษาคุณภาพอากาศ 795 เมือง จาก 67 ประเทศทั่วโลกในปีนี้ พบว่า จีนและอินเดียยังคงเป็นประเทศที่มีเมืองที่มีมลพิษทางอากาศมากที่สุด.-สำนักข่าวไทย

รมว.คลังฝรั่งเศสย้ำหากอังกฤษออกจากอียูส่งผลสถานะศูนย์กลางการเงิน​

​

รมว.คลังฝรั่งเศสย้ำหากอังกฤษออกจากอียูส่งผลสถานะศูนย์กลางการเงิน

ลอนดอน 12 พ.ค. – นายมิเชล ซาแปง รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสกล่าววันนี้ว่า สถานะศูนย์กลางการเงินโลกของกรุงลอนดอนแห่งอังกฤษจะได้รับผลกระทบในระยะหนึ่ง หากอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู) ในการลงประชามติเดือนหน้า

นายซาแปงกล่าวผ่านเจ้าหน้าที่ล่ามระหว่างการเยือนกรุงลอนดอนของอังกฤษว่า กรุงลอนดอนได้รับการยอมรับว่า เป็นศูนย์กลางทางการเงิน และคาดว่าจะได้รับผลกระทบหากอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกอียู รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสกล่าวต่อไปวา สถาบันการเงินฝรั่งเศสบางรายแจ้งกับเขาว่า การที่อังกฤษออกจากสมาชิกอียูจะส่งผลกระทบต่อพวกเขา รวมทั้งธุรกรรมทางการเงินบางอย่างที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงลอนดอน อาจไม่สะดวกเหมือนเดิม .- สำนักข่าวไทย

ผู้แสวงบุญอิหร่านจะไม่ได้ร่วมพิธีฮัจญ์ที่ซาอุดีอาระเบียปีนี้​

​

เตหะราน 12 พ.ค.- รัฐมนตรีอิหร่านแถลงว่า ผู้แสวงบุญชาวอิหร่านจะไม่ได้เดินทางไปร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปีที่ซาอุดีอาระเบียในปีนี้ เนื่องจากการรักษาความปลอดภัยในซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นมุสลิมนิกายสุหนี่ยังไม่ดีพอ

สำนักข่าวอีร์นาของทางการรายงานอ้างคำกล่าวนายอาลี จานนาตี รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมและแนะแนวอิสลามของอิหร่านวันนี้ว่า อิหร่านหาทางคลี่คลายประเด็นเรื่องความปลอดภัยกับซาอุดีอาระเบียมา 4 เดือนแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าและไม่มีเวลาแล้ว ซาอุดีอาระเบียตัดความสัมพันธ์กับอิหร่านภายหลังจากสำนักงานทางการทูตในอิหร่านถูกโจมตีและทรัพย์สินเสียหาย ภายหลังจากที่ซาอุดีอาระเบียประหารชีวิตครูสอนศาสนานิกายชีอะห์ในข้อหาก่อการร้าย ทางการอิหร่านระบุว่า ผู้แสวงบุญชาวอิหร่านอย่างน้อย 464 คนเสียชีวิตจากเหตุเหยียบกันตายในพิธีฮัจญ์เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว และกล่าวโทษว่าเป็นเพราะซาอุดีอาระเบียไม่มีการดูแลด้านความปลอดภัยที่ดีพอจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก .- สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

'แอน สิเรียม-กบ ปภัสรา' ดารา 2 คนแรกของประเทศ จบ ป.เอกพระพุทธศาสนา​

​

“แอน สิเรียม”- “กบ ปภัสรา” เรียนจบ ป.เอกพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ เผยเป็นนักแสดง 2 รายแรกของประเทศ ที่มุมานะเรียนด้านพระพุทธศาสนา เตรียมเข้าพิธีประสาทปริญญาวันที่ 15 พ.ค.นี้ ที่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ อ.วังน้อยจ.พระนครศรีอยุธยา…

เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2559 พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) รองอธิการบดี ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) กล่าวว่า มจร กำหนดจัดพิธีประสาทปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิตประจำปี 2559 ในวันที่ 14-15 พ.ค.นี้ ที่หอประชุม มวก. 48 พรรษา มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ในปีนี้มีบรรพชิต (พระสงฆ์ และนักบวช) ที่สำเร็จการศึกษาเป็นจำนวนมาก รวมทุกระดับทั้งสิ้น 3,226 รูป ซึ่งถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยทางพระพุทธศาสนาที่มีบรรพชิตจบการศึกษาในปีเดียวมากที่สุดในโลก ในส่วนของคฤหัสถ์นั้น มีผู้สำเร็จการศึกษาทุกระดับทั้งสิ้น 2,437 คน ทำให้ปีนี้ มจร มีจำนวนบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษารวมทั้งสิ้น 5,663 รูป/คน พร้อมกันนี้จะมีการมอบปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์และเข็มเกียรติคุณแก่ผู้ทรงคุณวุฒิด้วย

พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวต่อไปว่า พิธีดังกล่าวจะจัดขึ้น 2 วัน โดยวันที่ 14 พ.ค. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) วัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธีประสาทปริญญา และในวันที่ 15 พ.ค. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธีประสาทปริญญาบัตร

ทั้งนี้ เป็นที่น่ายินดี เนื่องจากในปีนี้มีนักแสดงที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ คือ “กบ” ปภัสรา เตชะไพบูลย์ สำเร็จการศึกษาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต (ปริญญาเอก) สาขาวิชาพระพุทธศาสนา และ “แอน” สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ สำเร็จการศึกษาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา ซึ่งทั้งสองคนจะเข้ารับปริญญาในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ซึ่งทั้งสองคนนี้ถือว่าเป็นนักแสดง 2 คนแรกของประเทศไทย ที่สนใจศึกษาพระพุทธศาสนาจนจบการศึกษาด้านปริญญาเอก สาขาวิชาพระพุทธศาสนาด้วย เพราะที่ผ่านมาจะมีเพียงดาราที่ได้รับมอบปริญญากิตติมศักดิ์เพียงเท่านั้น

พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า ปัจจุบัน มจร ถือเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาระดับนานาชาติที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก บรรพชิตจากประเทศเพื่อนบ้านจึงเดินทางมาศึกษาเพิ่มขึ้นทุกปี และ มจร ได้เตรียมการรองรับนิสิตต่างชาติที่เข้ามาศึกษา โดยการสร้างอาคารหอพักนิสิตนานาชาติไว้เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันได้จัดตั้งวิทยาลัยพุทธศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาโลก.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2559

'ปาน ธนพร' นำทีมศิลปิน-จิตอาสา สร้างปรากฏการณ์เพลงธรรมะกว่า 1 ล้านวิว (ชมคลิป)​

[ame]http://www.youtube.com/watch?v=Oo4hXkdLlV4[/ame]

เผยแพร่เมื่อ 9 พ.ค. 2016

​

"ปาน ธนพร" นำทีมศิลปิน-จิตอาสา เปิดตัวคีตธรรม “ตราบลมหายใจสุดท้าย” บทเพลงธรรมะสอนใจคน สร้างปรากฏการณ์ 48 ชม. มีผู้เข้ามาชมถึง 1 ล้านวิว เดินหน้าสร้างสื่อการเรียนการสอนมอบสำนักปฏิบัติธรรม-สถานศึกษาทั่วประเทศ ...

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 59 พระปกรณ์วินณ์ ฐิตวํโส ประชาสัมพันธ์ วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร และเลขานุการโครงการปทุมมามหาสิกขาลัย ภายใต้การดูแลของวัดปทุมวนาราม และการสนับสนุนอย่างเป็นทางการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พร้อมด้วยกลุ่มศิลปินและจิตอาสากลุ่มบัวลอย ในโครงการปทุมมามหาสิกขาลัย อาทิ ปาน ธนพร แวกประยูร โน้ต เดชาณัฏฐ์ ธีรดุริยสฤษฏ์ ศิลปินวงอลาร์มไนน์ นายภัทธิ บัณฑุวนิช ผู้กำกับรุ่นใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวคีตธรรมชุด “The Enlightened Ladies หนึ่งธรรมะแห่งพระพุทธองค์ สู่การตื่นรู้ของเหล่าอิสตรี” โดยคีตธรรมบทแรกมีชื่อว่า “ตราบลมหายใจสุดท้าย”

พระปกรณ์วินณ์ เปิดเผยว่า โครงการปทุมมามหาสิกขาลัยฯ ได้จัดทำสื่อการเรียนการสอน โดยนำเรื่องราวของอนุพุทธประวัติของพระภิกษุณีสำคัญในสมัยพุทธกาล 6 บุคคลสำคัญ ประกอบด้วย 1. พระนางมหาปชาบดีโคตมีเถรี ภิกษุณีผู้เลิศทางรัตตัญญู 2. พระนางเขมาเถรี ภิกษุณีผู้เลิศทางมีปัญญามาก 3. พระอุบลวรรณาเถรี ภิกษุณีผู้เลิศทางมีฤทธิ์มาก 4. พระปฏาจาราเถรี ภิกษุณีผู้เลิศทางพระวินัย 5. พระนางพิมพาเถรี ภิกษุณีผู้เลิศทางระลึกชาติ และ 6. นางวิสาขามหาอุบาสิกา เอตทัคคะฝ่ายทายิกา ซึ่งคีตธรรมบทแรกที่จัดทำคือ ตราบลมหายใจสุดท้าย โดยเป็นเรื่องราวของพระนางเขมาเถรี อัครสาวิกาเบื้องขวา ภิกษุณีผู้เลิศทางมีปัญญามาก ผู้เคยซึ่งยึดติดความงามของร่างกายและได้รับพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้าถึงความไม่เที่ยงแท้ พระนางได้พิจารณาธรรมนั้นจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด โดยมี ปาน ธนพร แวกประยูร ศิลปินชื่อดังเป็นผู้ถ่ายทอดบทเพลง ถ่ายทอดคำร้องโดย ฐิตวํโสภิกขุ วัดปทุมวนาราม แต่งทำนองโดย เดชาณัฏฐ์ ธีรดุริยสฤษฏ์ และรัชต์พงษ์ สมศรี เรียบเรียงดนตรี เจษฎา สุขทรามร โดยสื่อการเรียนการสอนนี้จะมอบให้กับสถานปฏิบัติธรรมและสถานศึกษาที่สนใจ

ด้าน ปาน ธนพร แวกประยูร ตัวแทนศิลปินและจิตอาสาในโครงการปทุมมามหาสิกขาลัยฯ เปิดเผยว่า สำหรับคีตธรรมบทแรกในโครงการคือ ตราบลมหายใจสุดท้าย ซึ่งเป็นเรื่องราวของพระนางเขมาเถรี ผู้ซึ่งยึดติดในความงามของกายจนเมื่อได้สดับพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้าก็ได้บรรลุธรรม ซึ่งเป็นคีตธรรมที่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันที่เรายังยึดติดกับความงาม นอกจากนี้ ยังได้จัดทำมิวสิกวิดีโอในรูปแบบอสุภกรรมฐาน ซึ่งถ่ายทอดความไม่เที่ยงของร่างกายจากเนื้อกายธรรมดา จนไปถึงการเน่าเสื่อมสลายกลายเป็นกระดูก ซึ่งระหว่างการถ่ายทำนั้นต้องอาศัยเอฟเฟกต์ต่างๆ ยุ่งยากพอสมควร ทำให้เรียนรู้ถึงความอดทน ซึ่งตนอยากให้ผู้ฟังเพลงย้อนกลับมาดูกายของเราว่าเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง ความแก่เป็นธรรมดา มีความเจ็บเป็นธรรมดา

“หลังการนำมิวสิกวิดีโอในรูปแบบอสุภกรรมฐานผ่านทางช่องทางยูทูบ ก็ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมเกินความคาดหมาย ซึ่งภายในไม่ถึง 48 ชั่วโมงก็มีผู้เข้ามาชมถึง 1 ล้านวิวแล้ว ปานต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การตอบรับ และเข้าใจในสิ่งที่พวกเราต้องการสื่อสารออกไป ซึ่งจิตอาสาทุกคนทำงานหนักเพื่อสร้างสรรค์ผลงานนี้” เจ้าของเสียงเพลงคีตธรรม ตราบลมหายใจสุดท้าย กล่าว

นายภัทธิ บัณฑุวนิช ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอบทคีตธรรมตราบลมหายใจสุดท้าย กล่าวว่า คีตธรรมตราบลมหายใจสุดท้าย นำเสนอออกมาสองแนวทาง แนวทางแรกจะเป็นมิวสิกวิดีโอซึ่งนำเสนอผ่านการเล่าเรื่องในรูปแบบอสุภกรรมฐาน ซึ่งตั้งใจว่าจะทำให้เหมือนจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ก็เกรงว่าคนอีกกลุ่มหนึ่งจะทนดูไม่ไหว จึงทำเป็นแนวทางที่สอง เป็นการเล่าเรื่องผ่านงานศิลปะโดยใช้การแสดงที่เรียกว่า คีตภาวนา เพื่อรองรับคนดูทั้งสองกลุ่ม และอยากฝากถึงผู้ชมทุกกลุ่มว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ได้ดูกัน เพราะเป็นงานที่แปลก หาดูได้ยาก ไม่มีงานแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย ทั้งเพลงและภาพในลักษณะนี้ เล่าเรื่องพระนางเขมาเถรีได้ชัดเจนแบบนี้

อย่างไรก็ตาม พระปกรณ์วินณ์ กล่าวตอนท้ายว่า สื่อการเรียนการสอนชุดพระนางเขมาเถรี จัดทำในรูปแบบดีวีดี เพื่อมอบให้กับสำนักปฏิบัติธรรมและสถานศึกษาต่างๆ สำหรับประชาชนทั่วไปที่สนใจคีตธรรมตราบลมหายใจสุดท้าย สามารถดาวน์โหลดได้หลากหลายช่องทาง อาทิ Line Music, iTunes, Apple Music, Spotify, Google Play, KKBox, TIDAL, Deezer, Amazon.com โดยรายได้จากการดาวน์โหลดทั้งหมดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม–ตุลาคม 59 ไม่หักค่าใช้จ่าย จะนำเข้าสมทบกองทุนพระภิกษุสามเณรและแม่ชีอาพาธและเจ็บป่วย วัดปทุมวนาราม ส่วนผู้สนใจสื่อการเรียนการสอนชุดพระนางเขมาเถรีนี้ สามารถร่วมสนับสนุนได้ที่ร้านสวัสดิการวัดปทุมวนาราม ในราคาชุดละ 199 บาท รายได้จะร่วมสมทบกิจกรรมจิตอาสาในโครงการปทุมมามหาสิกขาลัย วัดปทุมวนาราม สั่งจองได้ที่ร้านสวัสดิการ วัดปทุมวนาราม ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 59 ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชานี้ สามารถติดตามทุกความเคลื่อนไหวและร่วมสนับสนุนกิจกรรมของเหล่าศิลปินและจิตอาสาของโครงการปทุมมามหาสิกขาลัยฯ ได้ที่แฟนเพจ bualoyteamwork

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2559

ไฟป่าภูเขาทะลุสงบลง 99% ไม่ประมาท จัดชุดเฝ้าระวัง หวั่นปะทุอีก​

​

ดีขึ้น!! สถานการณ์ไฟป่าภูเขาทะลุสงบลงแล้ว เหลือเพียงบางจุดเล็กน้อยที่ยังมีควันไฟอยู่ และจัดชุดเฝ้าระวังพร้อมให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปแจ้งความที่โรงพักหากพบเป็นน้ำมือมนุษย์ให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด...

จากกรณีที่ไฟป่าได้โหมลุกไหม้บนภูเขาทะลุ ใน 3 ตำบล คือ ตำบลเขาทะลุ ตำบลเขาค่าย และตำบลนาสัก อ.สวี จ.ชุมพร มาร่วม 5 วัน และเนื่องจากภูเขาทะลุมีลักษณะเป็นภูเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชัน ทำให้หน่วยดับไฟป่าภาคพื้นดินไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ นายสมดี คชายั่งยืน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร จึงได้ประสานไปยังกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเพื่อขอเฮลิคอปเตอร์มาช่วยดับไฟป่า โดยเฮลิคอปเตอร์ได้นำน้ำขึ้นไปโปรยดับไฟป่าตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา ประกอบกับในพื้นที่มีฝนตกลงมาทำให้สถานการณ์ไฟป่าที่ภูเขาทะลุเริ่มคลี่คลายลงแต่คงยังมีไฟปะทุอยู่บางจุด

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 พ.ค.59 ที่ อบต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร นายชาญ เสมสวัสดิ์ นายอำเภอสวี ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ไฟป่าที่ไหม้ภูเขาทะลุถือได้ว่าสงบลงแล้ว 99 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่มีฝนตกลงมาเมื่อวานทำให้ไฟป่าหลายจุดดับ คงเหลือเพียงบางจุดที่บริเวณหมู่ที่ 2 ตำบลเขาค่าย ที่ยังมีไฟยังติดอยู่เล็กน้อย ทั้งนี้ได้จัดชุดเฝ้าระวัง โดยมอบหมายให้ผู้นำชุมชนในพื้นที่เป็นผู้ดูแลต่อไป ส่วนหน่วยงานอื่นๆ ที่มาร่วมดับไฟป่าได้ยุติการดำเนินงานแล้ว ทั้งนี้ในพื้นที่ไม่มีความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือพืชสวนของชาวบ้านแต่อย่างใด

ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟป่าในครั้งนี้ ยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากธรรมชาติหรือน้ำมือมนุษย์ ทั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปแจ้งความไว้ที่ สภ.นาสัก อ.สวี เพื่อหาสาเหตุและคนกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และหากในวันพรุ่งนี้หากสถานการณ์ไฟป่าดับสนิทลงแล้ว ก็จะปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจดับไฟป่าตำบลเขาทะลุ ตำบลเขาค่าย และตำบลนาสัก จากนั้นจึงจะรายงานให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ทราบต่อไป.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2559

ร้อนจัด หลวงลุงเดินซื้อน้ำอัดลม ล้มมรณภาพคาวัด!​

​

พระภิกษุวัยกลางคนที่บางปะกง เดินไปซื้อน้ำอัดลมที่ร้านค้า กลับมาจะเข้ากุฏิ จู่ๆ เป็นลมล้มคว่ำ โชคร้ายหน้าไปกระแทกขอบปูนศาลาวัดพอดี มรณภาพคาที่ คาดอากาศร้อนจัด และอาจมีโรคประจำตัว...

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 พ.ค.59 ร.ต.อ.พัศวัฒน์ พัตพัน รองสว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเหตุผู้เสียชีวิตภายในวัดพิมพาวาสเหนือ หมู่ 2 ต.พิมพา

พบศพพระกิจจา สวัสดิวงษ์ อายุ 54 ปี นอนมรณภาพอยู่ในศาลาหน้าป้อมตำรวจตำบลพิมพา ที่ตั้งอยู่ภายในวัด บริเวณโหนกแก้มซ้ายมีรอยช้ำคล้ายถูกของแข็งกระแทก เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 30 นาที ในมือพบน้ำอัดลม ยากันยุง ที่เพิ่งไปซื้อมา

สอบสวนนายทนงค์ แก้วด่านจาก อายุ 43 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่าขณะนั่งอยู่ภายในศาลาก็เห็นพระกิจจากำลังเดินกลับจากซื้อของที่ร้านค้าเพื่อเข้ากุฏิ จู่ๆ พระกิจจาก็ล้มลงหน้ากระแทกพื้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ต้องเรียกคนมาช่วยพร้อมโทรเรียกกู้ภัย เมื่อกู้ภัยมาถึงได้รีบปั๊มหัวใจแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ มรณภาพในเวลาต่อมา

เบื้องต้นคาดว่าอากาศร้อน ทำให้โรคประจำตัวกำเริบ หรืออาจเป็นลมจนทำให้ล้มคว่ำหน้าลงไป และโชคร้ายที่ตอนล้มหน้าไปกระแทกกับขอบปูนศาลาวัดอย่างแรง จนทำให้มรณภาพในที่สุด.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2559

ไฟป่าดอยสุเทพ-ปุย ปะทุซ้ำ! ส่ง ฮ. ตักน้ำช่วยดับ​

​

ไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ยังคุกรุ่น มีควันไฟลอยสูงขึ้นอีกครั้ง ต้องใช้ ฮ.ฝนหลวง บินไปตักน้ำที่ห้วยตึงเฒ่า เพื่อดับไฟ ด้านรอง ผวจ. ยัน ไฟป่าดังกล่าวเกิดขึ้นจากจุดเดิม ไม่ใช่การจุดครั้งใหม่...

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ไฟไหม้ป่าบริเวณในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีควันไฟลอยขึ้นสูงอีกครั้ง พร้อมกับหมอกควันไฟป่าปกคลุมทั่วดอย หากมาจากศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ และถนนคันคลองชลประทานจะมองเห็นอย่างชัดเจน

นางสาวหนึ่งหทัย ตันติพลับทอง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กล่าวว่า ทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ได้ส่งนักบินบินขึ้นสำรวจพบว่า เกิดไฟไหม้ป่า 1 จุด ในเขตดอยสุเทพ จึงใช้เฮลิคอปเตอร์ บินขึ้นไปปฏิบัติดับไฟป่า โดยบินไปตักน้ำที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อปฏิบัติภารกิจในการดับไฟจำนวนหลายเที่ยวบิน จนหมอกควันไฟป่าเริ่มจางลงไปบ้างแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีไฟไหม้ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในตอนสายวันนี้ ได้รับรายงานจากนายอัมพร ปานมงคล หัวหน้าอุทยานฯ ว่า ไฟป่าที่ลุกไหม้นั้นไม่ได้เกิดจากการเผาในครั้งใหม่แต่อย่างใด แต่เกิดจากจุดที่เคยถูกไฟไหม้เมื่อวันก่อน เมื่อเจออากาศร้อนจึงได้คุกรุ่นขึ้นมาอีก ประกอบกับที่เกิดเหตุเป็นดอยสูงชันคนไม่สามารถขึ้นไปดับไฟได้ จึงประสานของเฮลิคอปเตอร์จากศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือไปบินตักน้ำไปช่วยดับไฟ.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2559

เมืองคอนประกาศภัยแล้ง 7 อำเภอ แหล่งน้ำดิบน่าห่วง จังหวัดเร่งหาทางออก​

​

นครศรีธรรมราช ประกาศภัยพิบัติแล้งแล้ว 7 อำเภอ ผู้ว่าฯ ยันวางแผนรับมือแล้วแต่ปัญหารุนแรงขึ้น ขณะที่ฝนหลวงก็มีการบินทำต่อเนื่องแต่ความชื้นในอากาศไม่พอ ด้านนายกเทศมนตรีฯ ยันสั่งการให้สูบน้ำจากแหล่งน้ำดิบสำรองเต็มที่ตลอด 24 ชม.

เมื่อวันที่ 12 พ.ค.59 นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ตนได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จังหวัดนครศรีธรรมราช ครั้งที่ 2/2559 โดยมีปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชเข้าร่วมประชุม

นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขณะนี้ หลายพื้นที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร มีต้นไม้ผลยืนต้นตาย เช่น ทุเรียน มังคุด ลองกอง เป็นต้น ขณะนี้ได้มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน แล้ว 7 อำเภอ คือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ทุ่งใหญ่ ปากพนัง เชียรใหญ่ จุฬาภรณ์ ฉวาง และนาบอน และกำลังจะประกาศเพิ่มเติมอีก 2 อำเภอคือ อ.ทุ่งสง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ และเฉพาะในส่วนของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ขณะนี้ ได้ให้เทศบาลเสนอผ่านอำเภอไปยังจังหวัดเพื่อประกาศเขตการให้ความช่วย เหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภายในวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 เพื่อให้เทศบาลสามารถใช้งบฉุกเฉินมาแก้ไขปัญหาได้ เช่น การขุดเจาะบ่อบาดาล เป็นต้น เนื่องจากขาดแคลนน้ำดิบเพื่อการผลิตน้ำประปา

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า พร้อมทั้งให้ตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อหาแนวแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยมีนายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเป็นเลขานุการ มีปลัดจังหวัด นายกเทศมนตรีนครฯ เป็นรองประธาน นายอำเภอเมืองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ ในส่วนของพื้นที่อื่นๆ ขอให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง พร้อมสำรวจความเสียหายจากภัยแล้ง ทั้งด้านพืช ด้านปศุสัตว์ ด้านประมง ด้านน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และด้านอื่นๆ อย่างใกล้ชิด

นายพีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการปฏิบัติการฝนหลวงนั้น จังหวัดได้ขอรับการสนับสนุนจากกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัญหาด้านความชื้นของสภาพอากาศที่ยังไม่เพียงพอ ซึ่งได้มีการบินปฏิบัติการแล้ว 20 เที่ยวบิน ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้มีเครื่องบินเพียงลำเดียว แต่ต้องรับผิดชอบถึง 6 จังหวัด ทราบว่าขณะนี้ปฏิบัติการอยู่ที่จังหวัดตรัง

“หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่า ทำไมจังหวัดไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาล่วงหน้า ทำไมเพิ่งมาดำเนินการในช่วงนี้ อันที่จริงหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ประเมินสถานการณ์และดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้งมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การสร้างฝายชะลอน้ำ การขุดลอกคูคลอง แหล่งน้ำต่างๆ รวมทั้งการสำรวจแหล่งน้ำดิบสำรอง เป็นต้น แต่เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้นจึงจำเป็นต้องหามาตรการต่างๆ มารองรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหรือปัญหาระยะสั้น การแก้ไขปัญหาภัยแล้งต้องช่วยเหลือกันทุกฝ่าย” ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าว

ด้าน นายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ปัจจุบันเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีแหล่งน้ำดิบอยู่ 2 บ่อใหญ่ คือที่บ้านวังก้อง ต.ท่างิ้ว และบ่อทราย ต.นาทราย โดยที่บ้านวังก้องสามารถสูบน้ำได้ไม่เกิน 7 วัน ส่วนที่บ่อทราย ต.นาทราย สั่งการให้สำนักการประปาสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมงคาดว่าจะสามารถใช้ได้ไม่เกิน 15 วันน้ำก็จะหมด ซึ่งต้องหยุดสูบ 3 วัน เพื่อให้น้ำใต้ดินซึมขึ้นมาเติมน้ำในบ่อ ในช่วงดังกล่าวได้หาแหล่งน้ำดิบสำรองไว้เพิ่มอีก 2-3 บ่อ สามารถสูบน้ำได้อีก 3-7 วัน แต่ต้องซื้อท่อเชื่อมกับระบบ

นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เทศบาลกำลังจะมีการประกวดราคา เพื่อซื้อน้ำที่กรองสำเร็จรูปจาก 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ เป็นเวลา 30 ปี วันละ 50,000 คิวๆ ละ 4.90 บาท ปีสุดท้ายคิดคิวละไม่เกิน 11.50 บาท ซึ่งจะสามารถสนับสนุนน้ำประปาให้กับ 4 เทศบาล และ 5 อบต.ที่อยู่รอบเทศบาลนครฯได้ด้วย เมื่อครบสัญญา 30 ปี ทั้งโรงกรองน้ำและระบบท่อจะเป็นกรรมสิทธิ์ของเทศบาลนครฯ ซึ่งร่างประกาศ TOR ผ่านเรียบร้อยแล้ว และจะมีการนำเข้าที่ประชุมสภาเทศบาลในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ หากผ่านสภาก็จะสามารถดำเนินการตามระเบียบได้ทันที ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนถูกโจมตีว่าไม่ยอมสูบน้ำจากแหล่งน้ำดิบสำรอง เพื่อหวังประโยชน์จากการทำโครงการซื้อน้ำดิบของเอกชน อันที่จริงแล้วยังไม่รู้เลยว่า หากโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ จะได้เอกชนรายใด เพราะต้องผ่านการประกวดราคา.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2559

สองเขื่อนใหญ่ใกล้วิกฤติวอนช่วยประหยัดน้ำ​

​

สองเขื่อนใหญ่ใกล้วิกฤติวอนช่วยประหยัดน้ำ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 พ.ค. นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ ผอ.โครงการชลประทานเชียงใหม่ เผยว่า น้ำดิบสำรองที่ใช้บริหารจัดการช่วงหน้าแล้งในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีปริมาณน้ำดิบคงเหลือทั้งสิ้น 23.71 ล้านลูกบาศก์เมตร และปริมาณน้ำที่ใช้การได้เพียง 17.44 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 1 มิ.ย.2559 หรือเหลืออีกเพียง 21 วันเท่านั้น น้ำต้นทุนก็จะหมดเหลือเพียงก้นเขื่อน 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่เอาไว้ใช้สำรอง ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อ.ดอยสะเก็ด เหลือน้ำในเขื่อน 23.71 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำที่ใช้การได้เพียง 9.71 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น

จึงขอให้ประชาชนชาว จ.เชียงใหม่ ช่วยกันประหยัดน้ำให้มากที่สุด ส่วนการช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยแล้งใน อ.จอมทอง ทางชลประทานเชียงใหม่ได้ปล่อยน้ำจากเขื่อนแม่งัดไปถึง อ.จอมทองแล้ว โดยประชุมร่วมกับฝ่ายปกครอง ใน อ.ดอยหล่อ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ และ อ.ป่าซาง อ.เวียงหนองหล่อง จ.ลำพูน ร่วมกันบริหารจัดการแบ่งปันน้ำซึ่งกันและกันและไม่ต้องมาทะเลาะแย่งน้ำกันอีก ขณะเดียวกันทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ได้สั่งเครื่องสูบน้ำระยะไกลมาสูบน้ำจากลำน้ำปิงในเขต อ.จอมทอง ไปช่วยเหลือชาวสวนลำไยที่กำลังประสบภัยแล้งยืนต้นตายได้เพียงบางส่วนเท่านั้น

ด้านนายมงคล สุกใส รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้วางแผนในการบริหารจัดการน้ำตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ น่าจะมีฝนตกลงมาช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งของจังหวัดเชียงใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเริ่มรุนแรงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่นอกเขตชลประทานได้รับผลกระทบอย่างหนักกว่าในเขตที่ชลประทานไปถึง โดยเฉพาะเกษตรกรชาวสวนลำไย ที่เคยมีรายได้จากการขายลำไยต้องหมดเนื้อหมดตัวเนื่องจากลำไยไม่มีน้ำทยอยยืนต้นตายไปเป็นจำนวนมาก

นางบุญมี ชนะแสน อายุ 71 ปี เจ้าของสวนลำไย บ้านห้วยบง ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ เล่าว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอภัยแล้งหนักหนาสาหัสแบบนี้ บ่อบาดาลในสวนลำไยแห้งไม่สามารถสูบน้ำมาใส่สวนลำไยได้ ต้องปล่อยให้ต้นลำไยยืนต้นตายไปทั้งสวน รวมทั้งสวนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆเดียวกันลำไยก็ทยอยยืนต้นตายเช่นกัน ส่วนน้ำในการอุปโภคบริโภคต้องรอรถน้ำจาก อบต.มาแจกให้ ตอนนี้ชาวสวนลำไยรอเพียงฝนที่จะตกลงมาช่วยเท่านั้น และยังไม่ทราบชะตากรรมในวันข้างหน้าว่าต้นลำไยที่ใบแห้งตายจะพลิกฟื้นคืนชีพกลับมาได้หรือไม่ อย่างไรก็ดี สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เร่งสำรวจต้นลำไยของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง โดยเฉพาะชาวสวนที่อยู่นอกเขตพื้นที่ชลประทานพบว่ามีชาวสวนลำไยที่ได้รับผลกระทบหนักคือ อ.ดอยหล่อ อ.จอมทอง และ อ.ดอยเต่า อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย

ที่ จ.แพร่ นายบุญยภาช สิทธิ์วงค์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 287 หมู่ที่ 4 บ้านวังลึก ต.นาพูน อ.วังชิ้น เจ้าของสวนส้มเขียวหวาน กว่า 20 ไร่ ระบุว่า ปีนี้เจอภัยธรรมชาติอย่างที่ไม่คาดคิด สวนส้มใน อ.วังชิ้น และ อ.ลอง ต้องอาศัยน้ำจากแม่น้ำยม เป็นหลัก แต่สองเดือนมานี้แม่น้ำยมแห้งขอดไม่มีน้ำไหล ชาวสวนส้มเขียวหวานได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักยืนต้นแห้งตาย ส่วนที่เหลือก็หล่นใช้การไม่ได้ ไม่คุ้มกับการลงทุน.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 12 พ.ค. 2559

อุตุฯเตือนฝนลมแรง 11-15 พ.ค.-ยังลอบเผาป่า-แจกน้ำช่วยแล้ง​

​

อุตุฯเตือนฝนลมแรง 11-15 พ.ค.-ยังลอบเผาป่า-แจกน้ำช่วยแล้ง

เมื่อช่วงสายวันที่ 11 พ.ค. นายสุเทพ รื่นถวิล หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงผลกระทบจากพายุฤดูร้อนหรือวาตภัยพัดถล่มในหลายพื้นที่ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนและสถานที่ต่างๆได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 -9 พ.ค.ที่ผ่านมา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนแล้วทั้งสิ้น 15 อำเภอ 37 ตำบล 86 หมู่บ้าน มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 1,600 คน บ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 500 หลังคาเรือน ยุ้งข้าวเสียหายกว่า 30 หลัง โรงเลี้ยงสัตว์กว่า 10 หลัง สถานที่ราชการเสียหาย 2 แห่ง วัด 1 แห่ง โรงสีข้าว 2 โรง ทั้งนี้ ทางจังหวัดนครราชสีมาได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ออกไปสำรวจความเสียหาย พร้อมกับระดมความช่วยเหลือนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในทุกพื้นที่

ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 11-15 พ.ค.นี้ จะมีปริมาณฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจะมีลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ และฝากเตือนประชาชนให้อยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา เร่งตรวจสอบบ้านเรือนและที่อยู่อาศัยให้มั่นคงแข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหายจากลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้น

จ.บึงกาฬ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 09.00 น.วันเดียวกันมีเหตุเพลิงไหม้สวนยางพาราของชาวบ้านอยู่ใกล้กับที่ทำการสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.บึงกาฬ จำกัด และด้านหลังสถานีไฟฟ้าแรงสูง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.บึงกาฬ อากาศที่ร้อนระอุและลมกระโชกแรงทำให้ไฟลุกไหม้ลามเข้าสวนยางพาราอย่างรวดเร็ว ทาง อบต.บึงกาฬได้สั่งให้รถดับเพลิงออกมาฉีดน้ำสกัด แต่เนื่องไฟไหม้ลุกลามเข้าไปในป่าห่างจากถนนประมาณ 200 เมตร รถดับเพลิงเข้าไปไม่ถึง ต่อมานายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.บึงกาฬ และนายจำรัส กังน้อย นายอำเภอเมืองบึงกาฬ พร้อมด้วยนายสุนทร วังสะพันธ์ กำนัน ต.บึงกาฬ รุดไปที่เกิดเหตุ โดย ผวจ.สั่งให้รถดับเพลิง อบต.โนนสมบูรณ์ เทศบาลบึงกาฬและรถดับเพลิงเทศบาลวิศิษฐ์เข้ามาเสริมอีก 4 คัน ใช้เวลา 2 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

นายพงษ์ศักดิ์ ผวจ.บึงกาฬ กล่าวว่า สาเหตุการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ ทราบว่าเกิดจากชาวบ้านจุดไฟเผาป่า หาเห็ดป่า ต้นข่าป่า ซึ่งเป็นการเห็นแก่ตัวและกระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้เลิกพฤติกรรมนี้เสีย เพราะนอกจากสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของบุคคลและส่วนราชการแล้ว ยังก่อให้เกิดผลเสียต่อสภาวะอากาศของโลก เกิดสภาวะเรือนกระจก อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นและเสียสมดุลตามธรรมชาติ เช่น การเกิดของพายุที่มีอานุภาพรุนแรงอย่างเช่นปัจจุบัน

จ.ตราด ช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ค. พ.อ.กฤษฏิ์ชัย จำนงค์เนียร ผบ.หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 14 สนง.พัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย สั่งการให้กำลังพล นพค.14 นำรถบรรทุกน้ำอุปโภคบริโภคออกแจกจ่ายประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ หมู่ 2 ต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ จ.ตราด หลังจากหลายพื้นที่ของ อ.บ่อไร่ เข้าขั้นวิกฤติขาดแคลนน้ำใช้อุปโภคบริโภคในครัวเรือน ขณะที่ระบบการประปาของหมู่บ้านหลายแห่งไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากน้ำแห้งสนิท ประชาชนส่วนใหญ่ต้องอาศัยน้ำจากทางเจ้าหน้าที่ภาครัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำรถบรรทุกน้ำเข้ามาแจกจ่าย

นายอนันต์ ดอกไม้ นายก อบต.บ่อพลอย เปิดเผยว่า พื้นที่ ต.บ่อพลอยประสบปัญหาภัยแล้ง 7 หมู่บ้าน อบต.ต้องจัดเจ้าหน้าที่นำรถบรรทุกน้ำ 2 คัน ออกแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคให้ประชาชนทุกวัน รวมแล้วแจกจ่ายน้ำไม่ต่ำกว่า 30 รอบต่อวัน แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงต้องขอความช่วยเหลือไปยังทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 14 ให้นำรถบรรทุกน้ำพร้อมเจ้าหน้าที่ออกมาช่วยเหลือ โดยสับเปลี่ยนหมุนเวียนแจกจ่ายน้ำให้ครบทั้ง 7 หมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติภัยแล้งนี้ไปได้.

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 12 พ.ค. 2559

ชุมพรแล้งหนัก! น้ำไม่พอทำเกษตร ทุเรียน-มังคุด ยืนต้นตายเกือบพันไร่​

​

ชาวสวนชุมพร โอด ฝนไม่ตก แล้งจัด น้ำในคลองสวีหนุ่มแห้งขอดรอบ 50 ปี ขาดน้ำทำเกษตร ทุเรียน-มังคุด ยืนต้นตายเกือบพันไร่ เดือดร้อนต้องบรรทุกน้ำไปรดเอง เพื่อบรรเทาความเสียหาย ขณะที่นายก อบต.เขาค่าย วอนทุกฝ่ายช่วยเหลือ ก่อนชาวบ้านเปิดศึกแย่งน้ำกัน...

วันที่ 11 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจาก นายเทิดศักดิ์ ขนอม นายก อบต.เขาค่าย ว่าขณะนี้ พื้นที่ตำบลเขาค่าย อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นแหล่งปลูกทุเรียนและกาแฟมากเป็นอันดับต้นๆ ของจังหวัด ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก โดย 5 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีฝนตก น้ำในคลองสวีหนุ่ม ที่ชาวบ้านใช้ทำการเกษตร แห้งขอดในรอบ 50 ปี ส่งผลให้ชาวสวนทุเรียนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

ในพื้นที่ตำบลเขาค่าย ตำบลเขาทะลุ และตำบลนาสัก มีเกษตรกรที่ปลูกทุเรียนกว่าหมื่นไร่ ชาวบ้านได้รับผลกระทบมากกว่า 4,000 ราย ขณะนี้ในพื้นที่มีทุเรียน มังคุด ยืนต้นตายไปแล้วเกือบพันไร่ ทำให้ชาวบ้านต้องนำรถกระบะบรรทุกถังน้ำไปตามจุดที่อบต.แต่ละแห่งเตรียมไว้ให้

สำหรับ อบต.เขาค่าย ได้ตั้งหัวจ่ายไว้รองรับเกษตรกร 7 หัว เพื่อไม่ให้ชาวบ้านรอนาน เพราะเท่าที่ทราบขณะนี้ เฉพาะในตำบลเขาค่าย มีรถบรรทุกถังน้ำสีฟ้า หรือที่ชาวบ้านเรียกกันสั้นๆ ว่ารถถังประมาณ 200 กว่าคัน หากรวม 3 ตำบล คาดว่าน่าจะมีเกือบ 1,000 คัน ทำให้แหล่งน้ำที่ อบต.เตรียมไว้ไม่เพียงพอ อีกทั้งแหล่งน้ำในตำบลเขาค่าย ก็เหลืออยู่เพียงจุดเดียวเท่านั้น และไม่เกินครึ่งเดือน หากฝนไม่ตกลงมา แหล่งน้ำที่เตรียมไว้ให้เกษตรกร ก็คงแห้งขอดอย่างแน่นอน และปัญหาที่สำคัญคือ อบต.ไม่สามารถนำงบประมาณมาแก้ไขปัญหาได้เท่าที่ควร เพราะติดขัดกับระเบียบการเบิกจ่ายเงินและ สตง.ค่อนข้างเข้มงวดในการตรวจสอบ อีกทั้งจังหวัดชุมพรยังไม่ได้มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้ง จึงขอวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือชาวบ้าน ก่อนที่จะเกิดศึกแย่งน้ำกัน

ด้าน นายศักดิ์ชัย วัฒนะ อายุ 30 ปี ชาวสวนบ้านเลขที่ 36 ม.8 ต.เขาค่าย เปิดเผยว่า ทุเรียนที่อยู่แปลงหลังบ้านขณะนี้ใบร่วงดอกร่วงเกือบหมดแล้ว ต้องนำรถกระบะไปบรรทุกน้ำมารดต้นทุเรียน เพื่อไม่ให้ยืนต้นตาย สำหรับผลผลิตของทุเรียนเชื่อว่าในปีนี้คงเหลือน้อยอย่างแน่นอน.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2559

ลาว แผ่นดินไหว 3.1 ห่าง อ.เชียงของ ประมาณ 16 กม.​

​

แผ่นดินไหวในประเทศลาว ขนาดความรุนแรงวัดได้ 3.1 อยู่ห่างจาก อ.เชียงของ จ.เชียงราย ของไทย ประมาณ 16 กิโลเมตร ไม่มีรายงานความเสียหาย

วันที่ 12 พ.ค. สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เมื่อเวลา 02.03 น. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 แม็กนิจูดในประเทศลาว อยู่ห่างจากทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ประมาณ 16 กิโลเมตร ไม่มีรายงานความเสียหาย

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2559

ไทย เฝ้าระวัง 15-17 พ.ค.นี้ พายุฤดูร้อนรุนแรงขึ้น​

​

15-17 พ.ค. ไทยต้องเฝ้าระวัง พายุฤดูร้อนรุนแรงขึ้น จากความกดอากาศสูงจากจีน แผ่ลงมาทะปะกับอากาศร้อนที่ปกคลุมไทยก่อนหน้า ขณะที่อากาศทั่วไทยยังคงร้อนจนถึงร้อนจัดบางพื้นที่

วันที่ 12 พ.ค. จากการตรวจสอบจากระบบพยากรณ์อากาศ ไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คอมพานี พบว่า เมื่อวานนี้หลายจังหวัดโดยเฉพาะภาคอีสาน และตะวันออก ยังคงต้องเจอกับพายุฤดูร้อนในหลายจุด ส่วนกรุงเทพก็เริ่มมีเมฆหนาตาขึ้น จะเจอฝนหรือไม่ สิ่งที่ยังคงต้องเน้นย้ำกันอย่างต่อเนื่องก็ คือเรื่องของความแปรปรวนลักษณะอากาศที่หลายพื้นที่ในเมืองไทยต้องเฝ้าระวัง วันนี้พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษประกอบด้วย น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย

โดยปัจจัยหลักๆ ที่เหนี่ยวนำทำให้เกิดสถานการณ์ดังกล่าวในระยะนี้ถึงวันที่ 14 พ.ค. ยังคงเป็นกระแสลม นั่นก็คือ ลมใต้ และตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ส่วนช่วงเวลาที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะคาดการณ์ว่า สถานการณ์จะรุนแรงขึ้นก็คือ ในช่วงวันที่ 15-17 พ.ค.เพราะว่า จะมีบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่เข้ามาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ เพราะเมื่ออากาศเย็นที่แผ่ลงมา มาปะทะเข้ากับความร้อนที่ปกคลุมอยู่แต่เดิม ก็สามารถเหนี่ยวนำทำให้เกิดพายุฤดูร้อนที่มีความรุนแรงได้

นอกจากความชื้นเหล่านี้ จะนำความชื้นซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ทำให้เกิดเมฆและเมฆฝนฟ้าคะนองแล้ว ความชื้นเหล่านี้ยังมีอุณหภูมิสูงจึงทำให้สภาพอากาศร้อนอบอ้าว ประกอบกับความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนจึงทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่

โดยจากการคาดการณ์พบว่า วันนี้อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 43 องศา ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ส่วนฝนนั้น คาดการณ์ว่าจะมีโอกาสตกในช่วงบ่ายถึงเย็น ส่วนใหญ่จะเน้นในภาคอีสานและตะวันออก

ภาคเหนือ มีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 25-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 41-43 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร อุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี ลพบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-43 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียสทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 28-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 พ.ค. 2559

ที่มา ข่าวล่าสุด ข่าวด่วน ประเด็นร้อน ข่าวไทยรัฐ - thairath.co.th

 

เกษตรซ้าด - ผักสลัดปลูกลงดิน​

เผยแพร่เมื่อ 7 มี.ค. 2016​

เห็นโลกรอบด้าน เข้าใจชีวิตรอบตัว ที่ "นิวทีวี ช่องทีวีดิจิตอล" พบเรื่องราวมากมายที่รอให้คุณได้รู้และเข้­าใจ จนคุณไม่อยากลุกไปไหน นิวทีวี ทีวีดิจิตอลช่องใหม่ ด้วยข่าวรูปแบบใหม่ เข้าใจง่าย และสารคดีจากทั่วทุกมุมโลก ตื่นตาตื่นใจตลอด 24 ชั่วโมง

ท่านสามารถรับชม "นิวทีวี new)tv" ทีวีดิจิตอลช่อง 18 และ ทางออนไลน์ได้ที่ new)tv | เข้าใจโลก เข้าใจชีวิต ทั้งโทรศัพท์สมาร์ทโฟนระบบ Android และ IOS

 

เกษตรซ้าด - กล้วยตากอินทรีย์​

เผยแพร่เมื่อ 6 ธ.ค. 2015​

 

จับตาเตือนภัย “ภัยพายุเดือนพฤษภาคม”​

เผยแพร่เมื่อ 5 พ.ค. 2016

ในระยะที่สภาพอากาศแปรปรวนอย่างต่อเนื่อง หลายพื้นที่ยังคงต้องเจอทั้งอากาศร้อนจัดป­นฝนตกจากพายุฤดูร้อน โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคอีสาน นอกจากนี้ในเดือนนี้เองยังมีโอกาสต้องเผชิ­ญกับพายุหมุนเขตร้อนได้ด้วย รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปติดตามได้ในจับตาเตือนภัย

ติดตามพยากรณ์อากาศ ได้ทางช่อง "ไทยรัฐทีวี HD 32"
- "รู้ก่อนร้อนหนาว" : ในช่วง "เช้าข่าวชัด" (06:00-09:00 น.)
- "จับตาเตือนภัย" : ในช่วง "ไทยรัฐนิวส์โชว์" (19:45-21:45น.)

ผู้ประกาศข่าว : คุปตนันต์ พิสิฐมหันต์ ข้อมูลและกราฟฟิค : The weather company

 

สถานการณ์ไฟป่าจากภาคเหนือสู่ภาคใต้​

เผยแพร่เมื่อ 12 พ.ค. 2016​

เมื่อวานนี้ถึงแม้จะสามารถดับไฟในเขตอุทยา­นแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ ไปได้แต่มาวันนี้ก็เกิดขึ้นใหม่อีก 2 จุดซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่าชั่วโมง­ครึ่ง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ ส่วนที่จังหวัดนราธิวาส ไฟป่าพรุโต๊ะแดง ยังคงน่าเป็นห่วงเข้ามาวันที่ 9 แล้วยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เนื่องจากไฟชั้นใต้ดินยังคุกรุ่นอยู่ตลอดเ­วลาและมีกระแสลมแรง

 

รู้ก่อนร้อนหนาว | 12-05-59 |​

เผยแพร่เมื่อ 11 พ.ค. 2016​

เมื่อวานนี้หลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคีสานและ­ตะวันออก ยังคงต้องเจอกับพายุฤดูร้อนในหลาย­จุด ส่วนกรุงเทพก็เริ่มมีเมฆหนาตาขึ้น จะเจอ­ฝนบ้างรึปล่าวไปตรวจสอบกับคุณคุปตนันต์ พิสิฐมหันต์

 

จีนเผยจะซ้อมรบร่วมกับไทยตั้งแต่ 19 พ.ค.-10 มิ.ย.​

​

ปักกิ่ง 13 พ.ค.- กระทรวงกลาโหมจีนแถลงวันนี้ว่า จีนและไทยจะจัดการซ้อมรบร่วมระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม-10 มิถุนายนนี้ ประกอบด้วยการซ้อมรบทางบกและทางทะเล การฝึกบรรเทาทุกข์และการขนส่งทางทะเล

สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า การซ้อมรบร่วมดังกล่าวเป็นอีกสัญญาณของการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยมองว่ากองทัพไทยพยายามปรับสมดุลความสัมพันธ์กับพันธมิตรเก่าแก่อย่างสหรัฐด้วยการติดต่อกับจีนมากขึ้น ขณะที่จีนเองมีข้อพิพาทกับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เรื่องการอ้างสิทธิทับซ้อนในทะเลจีนใต้ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย และบรูไน แต่ไทยไม่ร่วมในข้อพิพาทดังกล่าว นอกจากนี้จีนยังเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในไทย หนึ่งในนั้นคือโครงการสร้างทางรถไฟเชื่อมจากตอนใต้ของจีนผ่าน สปป.ลาวมายังไทย.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ครั้งใหญ่เผาสวนสนุกไดโนเสาร์ที่สหรัฐ​

​

นิวเจอร์ซีย์ 13 พ.ค. – เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่เผาทำลายหุ่นไดโนเสาร์ไฟฟ้าขนาด 90 ฟุตซึ่งอยู่ในส่วนจัดแสดงของสวนสนุกไดโนเสาร์ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐ

กาย จีเซล ผู้บริหารสวนสนุกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะเรคคอร์ดว่า ไฟไหม้หุ่นไดโนเสาร์อาร์เจนติโนซอรัสจนเหลือแต่โครงไหม้เกรียมที่โอเวอร์เพคเคาน์ทีพาร์คในเมืองลีโอเนียเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากเพิ่งย้ายสวนสนุกไดโนเสาร์มาจัดแสดงในเดือนนี้ จากเดิมที่จัดแสดงในซีคอคัสมาตั้งแต่ปี 2555 คาดว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากประกายไฟจากการเชื่อมโลหะที่ไดโนเสาร์อาร์เจนติโนซอรัส ทำให้ติดไฟลุกไหม้จนเหลือแต่โครงกระดูก แต่ไม่กระทบกับหุ่นไดโนเสาร์อีก 33 ตัว ที่จัดแสดงที่พื้นที่เดียวกัน ผู้บริหารสวนสนุกกล่าวว่า จะยังคงเปิดให้บริการต่อไป และจะสร้างหุ่นไฟฟ้าไดโนเสาร์อาร์เจนติโนซอรัสขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้ฟอสซิสไดโนเสาร์อาร์เจนติโนซอรัสได้รับการค้นพบในอาร์เจนตินาเมื่อช่วงหลังปี 2523 .- สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียนำน้ำเสียจากการทำเต้าหู้มาผลิตแก๊สใช้ในครัวเรือน​

​

กาลีซารี 13 พ.ค.- ชาวบ้านในหมู่บ้านกาลีซารี บนเกาะชวาของอินโดนีเซียนำน้ำเสียจากการทำเต้าหู้มาผลิตเป็นแก๊สชีวภาพไว้ใช้ในครัวเรือน เป็นพลังงานสะอาดที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยและไม่ต้องรอแก๊สหุงต้มที่ใช้เวลาร่วมเดือนกว่าจะส่งมาถึง

หมู่บ้านนี้มีชาวบ้านทำเต้าหู้ขายประมาณ 150 ครัวเรือน ต้องใช้น้ำปริมาณมากถึง 33 ลิตรหรือราว 8 แกลลอนต่อการผลิตเต้าหู้ 1 กิโลกรัม เมื่อเต้าหู้แข็งตัวจะมีน้ำเสียที่เหลือจากการผลิตปริมาณมาก เดิมน้ำเสียเหล่านี้ถูกสูบทิ้งลงแม่น้ำ ทำให้แหล่งน้ำมีกลิ่นเหม็นและนาข้าวที่อยู่ปลายน้ำเสียหาย สถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้นเมื่อชาวบ้านนำน้ำเสียไปเก็บไว้ในถัง แล้วเติมแบคทีเรียลงไปทำให้เกิดแก๊สชีวภาพ สามารถต่อท่อไปใช้หุงต้มในครัวเรือนได้โดยตรง อีกทั้งยังช่วยลดรายจ่ายด้วยเพราะถูกกว่าการสั่งซื้อแก๊สหุงต้มเป็นถังถึง 3 เท่า

รัฐบาลท้องถิ่นหวังว่า ในอนาคตจะสามารถพัฒนาแก๊สนี้ให้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าใช้ทั้งหมู่บ้าน ขณะที่รัฐบาลกลางซึ่งผู้บุกเบิกโครงการนำร่องนี้ประเมินว่า หากสามารถขยายให้ทั่วประเทศ การผลิตแก๊สชีวภาพจากน้ำเสียในการทำเต้าหู้ จะสามารถทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้มากกว่า 56,000 ตันต่อปี ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้ได้ 1 ใน 4 ภายในปี 2568 โครงการนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจเรื่องการนำของเสียทางการเกษตรอื่น ๆ มาผลิตแก๊สชีวภาพด้วย.- สำนักข่าวไทย

จีนเพิ่มอำนาจกระทรวงสิ่งแวดล้อมตรวจสอบมลภาวะท้องถิ่น​

​

ปักกิ่ง 13 พ.ค. – สื่อทางการจีนรายงานว่า กระทรวงสิ่งแวดล้อมได้รับมอบหมายให้ส่งทีมตรวจสอบไปยังมลฑลและท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ ตามนโยบายขจัดตัวการก่อมลภาวะท้องถิ่น

หนังสือพิมพ์ไชนาเดลีรายงานว่า กระทรวงสิ่งแวดล้อมจะเป็นหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจเป็นอันดับที่สองของประเทศ รองจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ ที่มีอำนาจในการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระดับผู้นำท้องถิ่น สื่อทางการจีนรายงานอ้างคำกล่าวของนายหลิว ฉางเกิ้น ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งชาติว่า มณฑล 14 แห่ง จะต้องมีรายงานต่อรัฐบาลกลาง ภายหลังการเสร็จสิ้นผลการตรวจสอบที่มณฑลเหอเป่ยเขตอุตสาหกรรมทางภาคเหนือของจีนเมื่อต้นปีนี้ ทางการจีนมีนโยบายควบคุมมลภาวะเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ปี 2557 ภายหลังได้รับผลกระทบจากการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดมาหลายสิบปี .- สำนักข่าวไทย

ตุรกี-อียู หาทางยุติข้อขัดแย้งเรื่องให้วีซาแลกข้อตกลงรับผู้อพยพ​

​

ตุรกี-อียู หาทางยุติข้อขัดแย้งเรื่องให้วีซาแลกข้อตกลงรับผู้อพยพ

บรัสเซลส์ 13 พ.ค. – นายวอลข่าน บอสกีร์ รัฐมนตรีกิจการยุโรปของตุรกีกำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหภาพยุโรป(อียู)เพื่อพยายามผ่าทางตันข้อตกลงรับผู้อพยพจากอียูแลกกับการที่พลเมืองตุรกีจะได้เข้าประเทศสมาชิกอียูโดยไม่ต้องขอวีซา ซึ่งยังตกลงกันไม่ได้

นายบอสกีร์มีกำหนดพบกับคณะกรรมาธิการอียู และหัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศอียูในวันนี้ ขณะที่ข้อตกลงทั้งสองฝ่ายยังชะงักงัน ต่อกรณีที่ต้องการให้ตุรกีปรับแก้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายให้เข้มงวดขึ้น เพื่อรับประกันความปลอดภัยในยุโรปสำหรับพลเมืองตุรกีที่จะได้สิทธิท่องเที่ยวโดยไม่ต้องขอวีซา ทั้งนี้ข้อเสนอที่เป็นแรงจูงใจให้ตุรกีคือ พลเมืองตุรกีเข้าประเทศในยุโรปได้โดยไม่ต้องขอวีซา รวมถึงเงินช่วยเหลือถึง 6,000 ล้านยูโร และการเจรจาเพื่อเข้าเป็นสมาชิกในอียู แลกกับการที่ตุรกีจะต้องช่วยสกัดผู้อพยพเดินทางเข้ายุโรป และต้องรับผู้อพยพกลับไปอีกหลายพันคนด้วย .- สำนักข่าวไทย

ไตรมาสแรกปีนี้เศรษฐกิจมาเลเซียขยายตัวต่ำที่สุดตั้งแต่วิกฤติการเงินโลก​

​

กัวลาลัมเปอร์ 13 พ.ค.- มาเลเซียแจ้งว่า ไตรมาสแรกปีนี้เศรษฐกิจขยายตัวต่ำที่สุดตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2552 เนื่องจากน้ำมันที่เป็นสินค้าส่งออกราคาตกต่ำและความต้องการในตลาดโลกซบเซา

ไตรมาสเดือนมกราคม-มีนาคมปีนี้เศรษฐกิจมาเลเซียขยายตัวร้อยละ 4.2 สูงกว่าที่บลูมเบิร์กคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4 แต่ขยายตัวในอัตราลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 และอาจกดดันให้รัฐบาลเริ่มนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางมาเลเซียกล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสสามปี 2552 ที่เศรษฐกิจหดตัวร้อยละ 1.1 อันเป็นผลจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว การลงทุนภาครัฐชะลอตัว และการส่งออกสุทธิหดตัว

มาเลเซียหันมาพึ่งพาการบริโภคในประเทศเป็นหลักในช่วงหลายปีมานี้ จากเดิมที่พึ่งพาการส่งออกน้ำมัน ก๊าซ สินค้าอิเลกทรอนิกส์ และสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตรเนื่องจากตลาดส่งออกในต่างประเทศยังไม่ฟื้นตัว สถานการณ์โลกที่ยังไม่แน่นอนประกอบกับราคาน้ำมันโลกตกต่ำทำให้อนาคตมาเลเซียมืดมัว และค่าเงินริงกิตร่วงลงอย่างหนักเมื่อปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

ต่างประเทศอึ้งคนไทยช่วยกันยกบ้าน​

​

สำนักข่าวไทย 12 พ.ค.-เว็บไซต์สื่ออังกฤษ เผยคลิปจากไทยที่ดังไกลจนต่างชาติยังต้องทึ่ง เมื่อชาวบ้านของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันยกบ้านไม้ทั้งหลังให้ลอยขึ้นเหนือพื้นได้ ก่อนจะช่วยกันพาย้ายไปตั้งที่ตำแหน่งใหม่

เว็บไซต์ข่าวเดลีเมลของอังกฤษ เผยคลิปจากประเทศไทยที่ดังไกลจนต่างชาติยังต้องทึ่ง เมื่อชาวบ้านของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศไทย แต่ไม่ได้ระบุว่าเกิดขึ้นที่จังหวัดใด พากันร่วมแรงร่วมใจสมัครสมานสามัคคี ขนขบวนกันมาเกือบทั้งหมู่บ้าน มาช่วยกันยกบ้านไม้ทั้งหลังให้ลอยขึ้นเหนือพื้นได้ ก่อนจะช่วยกันพาย้ายไปตั้งที่ตำแหน่งใหม่ ในคลิปแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีร่วมมือร่วมใจกันของคนในหมู่บ้านแห่งนี้

โดยก่อนที่จะยกบ้านขึ้นจะมีคนคอยนับให้สัญญาณ ก่อนที่ทุกคนจะออกแรง ทำให้บ้านถูกยกขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน และเพียงไม่ถึงนาที บ้านทั้งหลังก็ถูกย้ายไปอยู่อีกที่แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าย้ายไปตั้งไว้ที่ใด เนื่องจากคลิปมีความยาวเพียง 39 วินาทีเท่านั้น เดลีเมลรายงานด้วยว่า ชาวบ้านมาช่วยลงแรงยกบ้านหลังนี้ เพื่อช่วยเจ้าของย้ายบ้านไปอยู่ที่ใหม่ ซึ่งอาจเป็นเพราะหนีปัญหาน้ำท่วมหรือแผ่นดินทรุดตัว.-สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

แล้งวิกฤติ! ชาวบ้านปิดล้อมแย่งน้ำเทศบาลเมืองคอน ห้ามสูบหวั่นตลิ่งพัง​

​

แล้งเมืองคอนวิกฤติ!! น้ำประปาเทศบาลขาดแคลนหนัก-ชาวบ้านเปิดศึกแย่งน้ำ แห่ปิดล้อมบ่อน้ำห้ามไม่ให้เทศบาลสูบน้ำไปใช้ผลิตน้ำประปา เหตุทำให้ตลิ่งพัง ชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อนอย่างหนัก...

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราช ว่า สถานการณ์ภัยแล้งที่วิกฤติอย่างหนัก หลังจากน้ำประปาในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชหยุดไม่ไหลมานานเกือบ 2 เดือนแล้ว จนชาวบ้านในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักไปทั่วทุกครัวเรือน ซึ่งแม้ว่าทางผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราชได้วิ่งหาแหล่งน้ำดิบมาผลิตน้ำประปากันวุ่นหลายแห่ง แต่ก็ไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ยิ่งสร้างความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะแหล่งน้ำดิบที่บ่อน้ำนาทราย ต.นาทราย อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราชใช้เป็นแหล่งน้ำดิบที่สูบไปผลิตน้ำประปาตลอด 24 ชม. แต่ก็ยังไม่เพียงกับความต้องการของประชาชนในเขตเทศบาล ที่ต้องสูบน้ำไปใช้ตลอด 24 ชม.

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ได้มีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ต.นาทราย จำนวนประมาณ 50 คน ได้เดินทางมาปิดล้อมบริเวณบ่อน้ำนาทราย หมู่ 1 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราชได้หยุดทำการสูบน้ำจากบ่อน้ำนาทรายดังกล่าวทันที เพราะได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ต.นาทราย เป็นอย่างมาก ทำให้ขาดแคลนน้ำไม่มีน้ำใช้ และยังทำให้ตลิ่งพัง ทำให้พืชผลด้านการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหายไปด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากการสูบน้ำจากบ่อน้ำดังกล่าวไปใช้มากเกินไป ชาวบ้านในพื้นที่ ต.นาทราย ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จนในที่สุดนายสุดเจริญ สุดสมบูรณ์ นายก อบต.นาทราย ได้เดินทางมาเจรจากับชาวบ้าน และสั่งหยุดเครื่องสูบน้ำของเทศบาลทันที ตามความต้องการของชาวบ้านในพื้นที่ ข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 พ.ค. 2559

สกลนคร อ่วมพายุ! เสาไฟฟ้าหักโค่นนับ 10 ต้น บ้านเสียหายกว่าร้อย​

​

พายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำสกลนคร ส่งผลให้เสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนนิตโย หักโค่นกว่า 10 ต้น ล้มทับถนนจนต้องปิดการจราจรฝั่งขาเข้าเมือง จนท.เร่งดำเนินการแก้ไข ส่วนบ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก ขณะควายถูกฟ้าผ่าตาย 2 ตัว

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 59 เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ จ.สกลนคร ช่วงเย็นที่ผ่านมา ส่งผลให้เสาไฟฟ้าแรงสูง 12 ต้น ริมถนนนิตโย ซึ่งเป็นถนนสายหลักเชื่อมระหว่าง จ.สกลนคร กับ จ.อุดรธานี บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก ตรงข้ามบริษัท ศรีสกลเพียวไรซ์ ถูกแรงพายุพัดหักโค่นลงทับถนนฝั่งขาเข้าเมือง ส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นเสาไฟฟ้าแรงสูงเส้นหลักที่จ่ายไฟฟ้าไปหลายตำบล และยังส่งผลให้การจราจรขาเข้าเมืองเกิดติดขัด

ฤทธิ์พายุฤดูร้อน ที่จ.นครพนม เสาไฟฟ้าล้ม บ้านเสียหายนับ 100 หลัง
เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสกลนคร ต้องระดมกำลังเข้าดำเนินการแก้ไข โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงสามารถจ่ายกระแสไฟให้ประชาชนใช้ได้เป็นการชั่วคราว โดยจะดำเนินการเปลี่ยนเสาไฟใหม่ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากเสาไฟฟ้าทั้ง 12 ต้น ถูกพายุพัดหักพังเสียหายจนใช้การไม่ได้

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า มีพายุฝนตกหนัก พายุลูกเห็บ และมีลมพัดแรงในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชนใน อ.อากาศอำนวย อ.พรรณานิคม อ.กุสุมาลย์ อ.เมืองสกลนคร ส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหลังคาบ้านที่ถูกแรงลมพัดพังเสียหาย บางหลังพายุพัดหลังคาปลิวว่อนกระจายไปตามทุ่งนาไกลกว่า 100 เมตร ทำให้ข้าวเปลือกของชาวบ้านที่เก็บไว้ในยุ้งข้าวเปียกน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า ที่นอน เปียกเสียหาย และยังมีต้นไม้หักทับรถยนต์ ขณะที่บ้านนาสาวนาน ต.นาหัวบ่อ อ.พรรณานิคม มีควายของชาวบ้านถูกฟ้าผ่าตาย 2 ตัว

ด้าน ปภ.สกลนคร รายงานความเสียหายในเบื้องต้น มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 300 หลังคาเรือนแล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขความเสียหายได้ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน โดยในเช้าวันพรุ่งนี้จะมีการสำรวจความเสียหายโดยละเอียดอีกครั้ง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 พ.ค. 2559

รอความชุ่มฉ่ำ!! 18-20 พ.ค.ไทยเข้าสู่ฤดูฝน พายุจ่อถล่มซ้ำปลายสัปดาห์​

​

อธิบดีอุตุฯ ย้ำ 18-20 พ.ค. 59 ไทยจะเข้าสู่ฤดูฝน โดยเริ่มตกจาก "ใต้-กลาง-ตะวันออก-อีสาน" เตือนปลายสัปดาห์นี้ ช่วงวันที่ 14-15 พ.ค.นี้ ยังคงเกิดพายุฤดูร้อนในพื้นที่เสี่ยง และจะค่อยๆ สลายตัวไปเมื่อลมมรสุมตะวันตกพัดเข้ามาในพื้นที่...

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 59 นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ เกี่ยวกับสภาพอากาศในช่วงปลายสัปดาห์ว่า ในช่วงวันที่ 18-20 พ.ค. 59 หรือปลายสัปดาห์หน้า ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน เนื่องจากจะมีพายุไซโคลนเกิดขึ้นในมหาสมุทรอินเดีย โดยลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมที่บอกถึงการเข้าสู่ฤดูฝน จะขึ้นฝั่งที่ภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน ทำให้มีฝนตกกระจายไปทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งเริ่มจากภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ฝั่งทะเลอันดามัน) มายังภาคกลาง ภาคตะวันออก ถัดมาจนถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ทั้งนี้บริเวณภาคใต้และภาคตะวันออกจะได้รับผลกระทบหนัก

อย่างไรก็ตาม ปริมาณของฝนที่ตกยังไม่ทำให้เกิดอุทกภัย เนื่องจากเป็นฝนแรก แต่จะตกอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และพัทยาอาจมีน้ำท่วมขังในตัวเมืองเป็นบางแห่ง เนื่องจากท่อระบายน้ำไม่ทัน

ส่วนพายุฤดูร้อนในขณะนี้ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะช่วงวันที่ 14-15 พ.ค. 59 หรือปลายสัปดาห์นี้ จะเกิดพายุพัดทำให้ฝนตกและลมแรงอีกระลอก และจะค่อยๆ สลายตัวไป เมื่อลมมรสุมตะวันตกพัดเข้ามาในพื้นที่ ทำให้อุณหภูมิต่ำลง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 พ.ค. 2559

ดินแยกแตกระแหง! บึงใหญ่ชัยนาทไม่เหลือน้ำ ชี้สัญญาณอันตราย​

​

วันที่ 13 พ.ค.59 สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุดวันนี้ ตรวจสอบระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ระดับน้ำเหนือเขื่อนยกตัวขึ้นอยู่ที่ 14.15 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำมีการลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวอยู่ที่ 5.96 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

ทั้งนี้ เขื่อนเจ้าพระยาคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อผลักดันน้ำเค็ม รักษาระบบนิเวศภายในแม่น้ำลำคลอง และเพื่อการผลิตน้ำประปาในพื้นที่ภาคกลางและ กทม. ไม่มีนโยบายที่จะส่งน้ำให้เกษตรกรแต่อย่างใด ส่งผลให้แหล่งน้ำสำรองทั้งใหญ่ เล็ก แห้งขอด จนบางพื้นที่ถึงขนาดไม่มีน้ำกินน้ำใช้

ที่บึงนางลือ ต.นางลือ อ.เมืองชัยนาท บึงเก็บน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่กว่า 70 ไร่ ใช้เป็นแหล่งน้ำหลักสำหรับหล่อเลี้ยงผืนนากว่า 2 หมื่นไร่ ของชาวนา และชาวบ้าน ต.นางลือ ปัจจุบันแห้งขอด ก้นบึงกลางเป็นดินแห้งถูกแสงแดดแผดเผาจนดินแยกแตกระแหง ชาวนา และเกษตรกร ที่ต้องใช้น้ำจากบึงนี้ ต้องหยุดทำนา บึงที่เคยมีน้ำกินน้ำใช้อยู่ตลอดเวลา ต้องมาแห้งขอด ซึ่งถือเป็นสัญญาณอันตรายอย่างยิ่งในอนาคตที่ใกล้มาถึงนี้

นายสุพจน์ แก้วศรี อายุ 61 ปี ชาวนาตำบลนางลือ อ.เมืองชัยนาท เปิดเผยว่า บึงนางลือถูกขุดไว้สำหรับสำรองน้ำกิน น้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตร มาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2538 ตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยเห็นบึงแห่งนี้แห้งขอด แล้งจนดินแตกระแหงขนาดนี้ ขนาดช่วงที่แล้งที่สุด ก็ยังมีน้ำให้เห็นอยู่ในระดับหัวเข่า แต่พอมาถึงปี 2559 นี้ ถือว่าแล้งหนักมากที่สุดเท่าที่เคยเจอมาในรอบ 20 ปี

"ไม่มีน้ำสักหยดให้ชาวบ้านได้กิน ได้ใช้ ชาวนาตำบลนางลือ ที่ถือว่าเป็นกำลังหลักสำคัญของจังหวัดชัยนาทในเรื่องของการผลิตข้าว ก็ต้องหยุดทำนา น้ำสำหรับใช้ก็ต้องใช้น้ำจากประปาหมู่บ้านแทน โดยส่วนตัวหวังว่าภัยแล้งจะคลี่คลายตามประกาศของรัฐบาล ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน ส่วนชาวนาจะได้ทำนากันเสียที" นายสุพจน์ ชาวนาชัยนาท กล่าวอย่างมีความหวัง.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 พ.ค. 2559

ยังคุมไม่ได้! ไหม้ป่านราฯ 2 จุด เร่งดับ-ขยายแนวกันไฟ​

​

เหตุไฟไหม้ป่า 2 จุด ที่นราธิวาส เจ้าหน้าที่ยังคุมต้นเพลิงชั้นใต้ดินให้อยู่ในวงจำกัดไม่ได้ เร่งฉีดน้ำดับ-ขยายแนวกันไฟ ไม่ให้ลามเข้าเขตชุมชน ขณะที่ค่าฝุ่นละออง ยังไม่พบมีผลกระทบต่อประชาชน ...

ความคืบหน้าเกี่ยวกับไฟไหม้ป่าในพื้นที่ จ.นราธิวาส จำนวน 2 จุด โดยจุดแรกที่เขตป่าสงวนลุ่มน้ำบางนราแปลงที่ 2 ก่อนจะลุกลามเข้าไปในเขตป่าพรุสิริธร หรือป่าพรุโต๊ะแดง กินพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.สุไหงปาดี เสียหายกว่า 2,500 ไร่ และจุดที่ 2 ในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ อ.บาเจาะ และ อ.ยี่งอ เสียหายกว่า 200 ไร่ นั้น

วันที่ 13 พ.ค. 59 ผู้สื่อข่าว พบว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมต้นเพลิงที่คุกรุ่นอยู่ในชั้นใต้ดินให้อยู่ในวงจำกัดได้ โดยนายสิทธิชัย ศักดา ผวจ.นราธิวาส ต้องเรียกประชุมเพื่อปรับเปลี่ยนแผนการดับไฟทุกวัน เนื่องจากกระแสลมที่เปลี่ยนทิศทางเป็นประจำ ทำให้การดับไฟเป็นไปด้วยความยากลำบาก และนอกจากนี้บางส่วนในพื้นที่ ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ไฟป่าเริ่มลามเข้ามาใกล้กับบ้านเรือนประชาชนมากขึ้น เจ้าหน้าที่จึงเร่งระดมรถดับเพลิงมาเร่งฉีดน้ำดับไฟและขยายแนวกันไฟ เพิ่มเป็นระยะทางรวมกว่า 2,600 เมตร เพื่อสกัดกั้นต้นเพลิงไม่ให้ลุกลามสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนของชาวบ้าน และป้องกันไม่ให้ลามเข้าไปในเขตป่าพรุชั้นใน

ขณะที่ปัญหาหมอกควันจากเหตุไฟไหม้ป่าที่ปกคลุมในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน มีค่าอยู่ที่ 57.41 ไมโคกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในขณะนี้.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 พ.ค. 2559

ไทยตอนบน ร้อนถึงร้อนจัด จับตา 14-17 พ.ค. ฝนเพิ่ม!​

​

ไทยตอนบน ยังมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ ระวังฝนและลมกระโชกแรง จับตาตั้งแต่ 14-17 พ.ค. จะเริ่มมีฝนตกในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

วันที่ 13 พ.ย. จากการตรวจสอบกับระบบพยากรณ์อากาศ ไทยรัฐทีวี เดอะเวตเตอร์ คัมพานี พบว่า ก่อนที่จะมาตรวจสอบสภาพอากาศในแต่ละภาคมาดูภาพรวมสภาพอากาศกันก่อนว่า ตลอดสัปดาห์นี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรกับสภาพอากาศเมืองไทยบ้าง

โดยภาพรวมพบว่า ในวันนี้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อลักษณะอากาศดังกล่าว เกิดจากย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน กับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก

ส่วนช่วงที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือ ช่วงวันที่ 14-17 พ.ค. บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเกิดจากในช่วงวันที่ 15-17 พ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เข้ามาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้

ดังนั้น ในช่วงดังกล่าวขอให้ประชาชนบริเวณ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บที่จะเกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย

สภาพอากาศในแต่ละภาควันนี้เป็นอย่างไร

ภาคเหนือ อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-43 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 พ.ค. โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 11-13 พ.ค.อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อนโดยทั่วไป มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส

ช่วงวันที่ 16-17 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 พ.ค. 2559

ที่มา ข่าวล่าสุด ข่าวด่วน ประเด็นร้อน ข่าวไทยรัฐ - thairath.co.th

 

พายุทรายพัดถล่มซินเจียง พื้นที่เกษตรเสียหายหลายหมื่นไร่​

​

จีน 14 พ.ค. – นี่เป็นภาพเหตุการณ์พายุทรายพัดถล่มในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งมีความเร็วลมถึง 21 เมตร/วินาที ส่งผลให้ทัศนวิสัยลดลงเหลือไม่ถึง 20 เมตร

นอกจากนี้ ยังทำให้ไฟฟ้าดับในวงกว้าง โรงเรียนต้องปิดทำการ ต้นไม้หักโค่น พื้นที่เกษตรเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะไร่ฝ้ายและสวนพริกไทยเสียหายหลายหมื่นไร่ ทางการท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือเกษตรกรในการเพาะปลูกใหม่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ. – สำนักข่าวไทย

อพยพคนร่วมพันใกล้เมืองหลวงสเปนหลังไฟไหม้กองยางเก่า​

​

มาดริด 14 พ.ค.- สเปนอพยพประชาชนอย่างน้อย 1,000 คนออกจากที่พักอาศัยหลังเกิดไฟไหม้สถานที่ทิ้งยางรถยนต์เก่าขนาดมหึมาใกล้กรุงมาดริด เกิดกลุ่มควันดำที่เป็นพิษพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ดูร่องรอยแล้วคาดว่าเป็นการวางเพลิง

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเฮลิคอปเตอร์บรรทุกน้ำพยายามดับไฟตลอดทั้งวันเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังเกิดเพลิงไหม้ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดใกล้เมืองเซเซนา ห่างจากกรุงมาดริดไปทางใต้ 45 กิโลเมตร นายกเทศมนตรีเมืองเซเซนาเผยกับสื่อว่า ร่องรอยทุกอย่างบ่งชี้ว่าเกิดจากผู้จงใจวางเพลิง เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกในช่วงหลายวันมานี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นอุบัติเหตุ ขณะที่รัฐบาลแคว้นกัสตียา ลามันชาประกาศใช้แผนปฏิบัติการฉุกเฉินเพราะเกรงว่าไฟจะไหม้อีกหลายวัน และได้สั่งอพยพประชาชน 1,000 คนที่ยังอยู่ในอาคารพักอาศัยขนาดใหญ่ในช่วงบ่าย หลังจากผู้พักอาศัย 8,000 คนได้อพยพไปแล้วก่อนหน้านั้น เพราะไฟไหม้ยางรถยนต์ทำให้เกิดกลุ่มควันพิษ หากสภาพอากาศดีขึ้นก็อาจกลับได้ในวันรุ่งขึ้น

สถานที่ทิ้งยางเก่านี้กว้างถึง 62.5 ไร่ หรือเท่ากับสนามฟุตบอล 10 สนาม คร่อมระหว่างแคว้นกัสตียา ลามันชากับแคว้นมาดริด ทางตอนกลางของประเทศ โดยเมื่อถึงกลางดึกยางเก่าถูกเผาไปแล้วร้อยละ 70 เจ้าหน้าที่ยังไม่แน่ใจว่าต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะสามารถดับไฟได้หมด กลุ่มควันดำมองเห็นได้ถึงกรุงมาดริด แต่ยังไม่กระทบต่อคุณภาพอากาศของเมืองหลวงแห่งนี้ กองยางนี้สะสมมาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษหลังปี 1990 เริ่มจากบริษัทแห่งหนึ่งใช้สถานที่นี้เก็บยางรถยนต์เก่าชั่วคราวเพื่อรอการรีไซเคิล แต่หลังจากนั้นก็มียางถูกนำมาทิ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกองสูงถึง 3 เมตร ทางการทั้งสองแคว้นเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลเพื่อจัดการกับยางเหล่านี้ตั้งแต่ปลายปีก่อน แต่ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ จนกระทั่งเกิดไฟไหม้เมื่อวานนี้.-สำนักข่าวไทย

เปลี่ยนจักรยานธรรมดาเป็นจักรยานไฟฟ้า​

​

สำนักข่าวไทย 14 พ.ค.-ทึ่ง! นวัตกรรมใหม่แค่เปลี่ยนล้อหน้าแค่ล้อเดียว ก็เปลี่ยนจักรยานธรรมดาให้เป็นจักรยานไฟฟ้าได้ง่ายดาย

แฟนเพจชื่อ Tech Insider เผยคลิปนวัตกรรมล้อจักรยานที่แค่เปลี่ยนล้อหน้าของจักรยานทั่วไปแค่ล้อเดียวก็เปลี่ยนจักรยานธรรมดาเป็นจักรยานไฟฟ้าได้ โดยในคลิปได้อธิบายไว้ว่าปัจจุบันรถจักรยานไฟฟ้ามียอดขายเพิ่มมากขึ้น แต่มันจะดีแค่ไหนที่จะไม่ต้องเสียเงินซื้อจักรยานไฟฟ้าทั้งคัน แต่สามารถเปลี่ยนจักรยานดันเดิมให้เป็นจักรยานไฟฟ้าได้ เพียงแค่เปลี่ยนล้อหน้าเท่านั้น

ล้อจักรยานไฟฟ้านี้มีชื่อว่า Geoorbital Wheel (จีโอออบิทัล วีล) ได้ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเอาไว้ เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ทำการติดตั้ง และใช้งานได้ง่ายๆ สามารถทำความเร็วได้ถึงประมาณ 30-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมแบตเตอรี่นั้นยังชาร์จโทรศัพท์ได้ด้วย โปรเจคท์นี้ถูกนำไปโพสต์ลงเว็บ Kickstarter เพื่อระดมทุน ผลิตขึ้นมาเป็นสินค้าที่จะขายได้จริงในอนาคต และเพียง 3 วันก็ได้เงินทุนมาถึง 200,000 USD หรือประมาณ 7 ล้านกว่าบาทไทย โดยจะวางขายในราคาประมาณ 699 USD ประมาณ 25,000 บาทไทย ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการคมนาคม.-สำนักข่าวไทย

เหตุโจมตีคาเฟ่ในอิรัก เสียชีวิต 13 ราย​

​

เหตุโจมตีคาเฟ่ในอิรัก เสียชีวิต 13 ราย

อิรัก 14 พ.ค. – กลุ่มมือปืนและมือระเบิดฆ่าตัวตาย 2 คน ร่วมกันก่อเหตุโจมตีคาเฟ่แห่งหนึ่งในเมืองบาลัด ทางภาคกลางของอิรัก ห่างจากกรุงแบกแดดขึ้นไปทางเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย ในจำนวนนี้มีแฟนบอลสโมสรเรอัล มาดริด ของสเปน รวมอยู่ด้วย ทำให้รัฐบาลสเปนและสโมสรเรอัล มาดริด ประณามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 15 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ลงมือ. – สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นเผยผู้อพยพ 800 คน ที่อิตาลีช่วยนอกฝั่งไม่ใช่ชาวซีเรียตามที่อ้าง​

​

โรม 14 พ.ค.- สหประชาชาติ (ยูเอ็น) และองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) ยืนยันว่า ผู้อพยพ 800 คนที่หน่วยยามฝั่งอิตาลีช่วยได้นอกชายฝั่งไม่ใช่ชาวซีเรียตามที่หน่วยยามฝั่งอิตาลีอ้าง

โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งยูเอ็น (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ประจำอิตาลีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเอชซีอาร์ได้ไปพูดคุยกับผู้อพยพเมื่อวันศุกร์พบว่า ผู้อพยพเหล่านี้มีหลายเชื้อชาติทั้งเยเมน โซมาเลีย เอริเทรีย เซาท์ซูดาน มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่เชื่อว่าเป็นชาวซีเรีย ขณะที่โฆษกไอโอเอ็มกล่าวว่า ผู้อพยพทั้ง 800 คนล้วนเดินทางมาจากอียิปต์ หลายคนเป็นชาวอียิปต์ และมีเยาวชนจำนวนมากที่เดินทางมาโดยลำพัง พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีผู้อพยพล่องเรือมาจากอียิปต์เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมากกว่าผู้อพยพที่ล่องเรือมาจากลิเบีย เนื่องจากเรือที่แก๊งค้ามนุษย์ในอียิปต์ใช้มีสภาพดีกว่าแก๊งค้ามนุษย์ในลิเบียที่มักใช้เรือยางคุณภาพต่ำเป็นหลัก

หน่วยยามฝั่งอิตาลีแจ้งเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ช่วยผู้อพยพบนเรือ 2 ลำ นอกชายฝั่งเกาะซิซิลี ผู้อพยพ 342 คน บนเรือลำหนึ่งเป็นชาวซีเรียถึงครึ่งหนึ่ง จุดกระแสวิตกว่าชาวซีเรียที่หนีสงครามกลางเมืองในประเทศอาจกลับมาขึ้นฝั่งอิตาลีอีกครั้ง หลังจากสหภาพยุโรปทำข้อตกลงกับตุรกีเรื่องส่งกลับผู้อพยพที่ล่องเรือจากตุรกีมาขึ้นฝั่งกรีซ ชาวซีเรียเคยพากันเข้าอิตาลีมากถึง 50,000 คน ช่วงกลางปี 2556 ถึงต้นปี 2557 แต่หลังจากนั้นได้เปลี่ยนไปขึ้นฝั่งเกาะของกรีซแทน และเข้าอิตาลีเพียง 26 คน ตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐห่วงเวเนซุเอลาล่มสลายทั้งเศรษฐกิจและการเมือง​

​

วอชิงตัน 14 พ.ค.- เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐเผยว่า สหรัฐกำลังกังวลว่าเวเนซุเอลาจะล่มสลายทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง เพราะประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนน การผลิตน้ำมันย่ำแย่ลง และเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้

เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยกับผู้สื่อข่าวกลุ่มหนึ่งว่า ประธานาธิบดีนิโกลาส มาดูโรของเวเนซุเอลาน่าจะอยู่ไม่ครบวาระในต้นปี 2562 โดยมีความเป็นไปได้ว่าพรรคการเมืองของเขาเองหรือนักการเมืองทรงอิทธิพลจะบีบให้ลงจากตำแหน่ง หรืออาจจะถูกกองทัพรัฐประหาร อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณว่ามีกลุ่มเคลื่อนไหวโค่นล้มเขาหรือนายทหารระดับสูงไม่ให้การสนับสนุนเขา นอกจากนี้ยังไม่แน่ใจว่านายมาดูโรจะยอมให้จัดการลงประชามติว่าเขาควรอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ตามที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้จัดขึ้นภายในปีนี้

เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐแทบไม่มีบทบาทต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวเนซุเอลาและต้องการให้ภูมิภาคช่วยกันประคับประคองไม่ให้เวเนซุเอลาเข้าสู่ความโกลาหล เพราะเกรงว่าปัญหาของเวเนซุเอลาจะลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะโคลอมเบีย นอกจากนี้ยังเกรงว่าเวเนซุเอลาจะผิดนัดชำระหนี้เพราะราคาน้ำมันโลกที่ลดลงต่อเนื่องอาจทำให้บริษัทน้ำมันของรัฐไม่สามารถชำระหนี้พันธบัตรเกือบ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 177,265 ล้านบาท) ไปจนถึงสิ้นปีนี้

ด้านผู้นำเวเนซุเอลาวัย 53 ปี ได้กล่าวทางโทรทัศน์เมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังดำเนินการตามคำขอของกลุ่มขวาจัดในเวเนซุเอลา ที่ฮึกเหิมจากเหตุรัฐประหารในบราซิล ซึ่งหมายถึงการเปิดกระบวนการไต่สวนประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ที่เป็นฝ่ายซ้ายเหมือนเขา และได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 60 วัน ซึ่งมีมาตรการปกป้องประเทศกรณีถูกต่างชาติโจมตีรวอยู่ด้วย แต่ไม่ได้แจกแจงในรายละเอียด.-สำนักข่าวไทย

เบลเยียมจะขยายปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อไอเอสในอิรักไปยังซีเรีย​

​

บรัสเซลส์ 13 พ.ค.- รัฐบาลเบลเยียมจะขยายปฏิบัติการใช้เครื่องบินขับไล่เอฟ 16 โจมตีทางอากาศต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักให้ครอบคลุมกลุ่มไอเอสในซีเรีย

โฆษกนายกรัฐมนตรีชาร์ลส์ มีเชลเผยกับผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ปฏิบัติการดังกล่าวจะจำกัดเฉพาะพื้นที่ในซีเรียที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มไอเอสและกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ เท่านั้นตามมติที่ 2249 ของสหประชาชาติ จุดประสงค์ของปฏิบัติการคือการทำลายแหล่งกบดานของกลุ่มเหล่านี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม โฆษกไม่ได้ชี้แจงเหตุผลของรัฐบาล แต่เป็นการตัดสินใจหลังเกิดเหตุคนร้ายระเบิดฆ่าตัวตายที่ท่าอากาศยานและสถานีรถไฟในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมเมื่อวันที่ 22 มีนาคม มีผู้เสียชีวิต 32 คน

เบลเยียมเริ่มใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอสในอิรักตั้งแต่ปลายปี 2557 โดยร่วมในพันธมิตรที่มีสหรัฐเป็นแกนนำ และยังไม่เข้าร่วมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรียเนื่องจากประชาชนเกรงว่าจะถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งในวงกว้าง แต่หลังจากที่กลุ่มไอเอสก่อการร้ายกรุงปารีสวันที่ 13 พฤศจิกายนปีก่อน กระแสสังคมในเบลเยียมก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน นายดิดิเยร์ เรนเดอร์ส รัฐมนตรีต่างประเทศเบลเยียมกล่าวเมื่อต้นเดือนมีนาคมว่า รัฐบาลกำลังทบทวนจุดยืนเพราะการกวาดล้างไอเอสในอิรักแต่ยกเว้นไอเอสในซีเรียดูไม่สมเหตุสมผลนัก.-สำนักข่าวไทย

ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

ฝนพ่วงลูกเห็บ! กระหน่ำ 2 อำเภอเลย นับชั่วโมง ทำน้ำท่วม 30 ซม.​

​

เกิดพายุฝนพร้อมลูกเห็บกระหน่ำใน อ.ด่านซ้าย อ.นาแห้ว จ.เลย นานร่วมชั่วโมง บ้านเรือนประชาชนเสียหายนับสิบหลัง น้ำท่วมถนนกว่า 30 ซม. จนท.เร่งออกช่วยเหลือ ขณะในวิทยาลัยการอาชีพด่านซ้าย ลูกเห็บขาวโพลน

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 13 พ.ค. 59 ได้เกิดพายุฝนพร้อมลูกเห็บขนาดเท่านิ้วโป้งกระหน่ำ อ.ด่านซ้าย และ อ.นาแห้ว จ.เลย ร่วมชั่วโมง จนบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยทางหลวงหมายเลข 201 สายด่านซ้าย-ภูเรือ บริเวณบ้านหนองแซง ต.โคกงาม อ.ด่านซ้าย เกิดน้ำท่วมสูงประมาณ 30 ซม. ที่บ้านนาผักก้าม หมู่ที่ 4 ต.เหล่ากอหก อ.นาแห้ว เบื้องต้น ได้รับรายงานบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 8 หลัง และไซโล 1 แห่ง ซึ่งฝ่ายปกครองอำเภอนาแห้ว อบต.เหล่ากอหก นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือเบื้องต้น

ส่วนบ้านโคกงาม หมู่ 1 ต.โคกงาม อ.ด่านซ้าย เกิดพายุฝนพร้อมลูกเห็บตกมาอย่างหนักร่วมชั่วโมง ทำให้ถนนสายด่านซ้าย-ภูเรือ บ้านหนองแซง เกิดน้ำป่าท่วมถนนฉับพลัน ระดับน้ำอยู่ที่ 30 ซม. ทั้งขาเข้าและขาออก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกงาม พร้อม ปภ.ด่านซ้าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องออกมาอำนวยการจราจร เพื่อความสะดวกของผู้ขับขี่ถนนเส้นทางดังกล่าว โดยใช้เวลากว่า 1 ชม. น้ำจึงลดระดับแห้งลง ขณะที่ภายในวิทยาลัยการอาชีพด่านซ้าย มีลูกเห็บตกจนขาวโพลนไปทั่วบริเวณ และมีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายเบื้องต้น 4-5 หลัง

ทั้งนี้ หลังจาก นายประยูร อรัญรุท นายอำเภอด่านซ้าย ได้รับแจ้ง จัดเจ้าหน้า อส.อ.ด่านซ้าย ร่วมเดินทางออกสำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือบ้านเรือนที่สามารถซ่อมแซมได้ก่อน แต่ด้วยสภาพท้องฟ้าที่มืดลงจึงไม่สามารถตรวจสอบความเสียหายได้ทั้งหมด ต้องรอเช้าวันรุ่งขึ้น.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 พ.ค. 2559

พายุฤดูร้อนถล่มเชียงแสน แค่ชั่วโมงเสาไฟล้มระเนระนาด ต้นสัก 100 ปีโค่น​

​

เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่ม อ.เชียงแสน นานนับชั่วโมง ส่งผลให้ทั้งเมืองเสียหายยับ ต้นสักไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปี เสาไฟฟ้าแรงสูงล้มพาดหลายต้น ทำให้ ปชช.เดือดร้อนสัญจรด้วยความยากลำบาก ขณะที่พระสงฆ์ไม่สามารถออกบิณฑบาตต้องให้ชาวบ้านนำอาหารถวายถึงวัด...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 พ.ค. 59 ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจความเสียหายในเขตเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน ม.2 ม.3 และเขตเทศบาลเชียงแสน ม.8 ม.9 อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จากพายุพัดถล่มเมื่อคืนวานนี้ ( 13 พ.ค.)จนไฟฟ้าดับทั้งเมือง ลมกระโชกแรง พร้อมฝนตกกระหน่ำประมาณหนึ่งชั่วโมง บ้านเรือนราษฎรหลายหลังถูกพายุพัดหลังคาพังเสียหาย รั้วคอนกรีตล้มพัง ต้นไม้ใหญ่ล้มกิ่งหักระเนระนาด โดยที่โรงพยาบาลศรีบุรินทร์สาขาเชียงแสน และโรงเรียนเชียงแสนอะคาเดมี ซึ่งมีรั้วติดกัน ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับรั้ว และสายไฟฟ้าแรงสูงขาดพาดกลางถนน เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าต้องตัดไฟเพื่อความปลอดภัยของรถที่สัญจรผ่าน

ที่สะพานแม่น้ำคำทางไปวัดพระธาตุผาเงา เสาไฟฟ้าล้มหลายต้น ที่หน้าที่ว่าการอำเภอต้นไม้ล้มทับเครื่องเล่นออกกำลังกายเสียหายหลายชิ้น ต้นสักขนาดใหญ่อายุหลายร้อยปีบนกำแพงเมืองล้มถอนรากถอนโคน ที่วัดป่าสักหางเวียง ม.9 ต.เวียง อ.เชียงแสน ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มฟาดถูกสิงห์ประดับซุ้มประตู จนคอหัก และกิ่งไม้ขวางประตู พระและสามเณรออกบิณฑบาตไม่ได้ ชาวบ้านได้ไปช่วยตัดกิ่งไม้ออก และนำอาหารไปถวายให้กับพระที่อยู่ในวัด

นางแสง เจ้าของร้านเสริมสวยแสงบาร์เบอร์ ริมกำแพงเมือง ข้างสถานีตำรวจน้ำ ได้กล่าวว่า ขณะที่เกิดพายุทั้งลมทั้งฝนอย่างแรง ตนนั่งอยู่ในร้าน ได้มีลมกระโชกอย่างแรงเข้ามาด้านข้างของร้าน พัดเอาหลังคาเปิดออกทั้งหลัง เพดานยิปซั่มบอร์ดพังทลาย ตนรีบวิ่งกลับบ้านพักซึ่งอยู่ใกล้กัน จนกระทั่งเช้าจนได้ออกมาดูที่ร้านพบว่าร้านเสริมสวยซึ่งตนได้กู้เงินจากธนาคาร 150,000 บาท เสียหายหมดทั้งหลัง ซึ่งตนเพิ่งจะทำร้านเสร็จยังไม่ได้ทำบุญร้าน ก็มาโดนพายุถล่มเสียหายทั้งหมด

ขณะที่ นายชยกฤษณ์ นิสสัยสุข นายกเทศมนตรีตำบลเวียงเชียงแสน และ ส.อ.สุรชาติ จินดาวงศ์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน เร่งออกสำรวจความเสียหายบ้านเรือนของชาวบ้าน ใน ม.2 และ ม.3 ต.เวียง และได้สั่งแจกจ่ายกระเบื้อง และสังกะสี ให้กับบ้านผู้ที่ถูกพายุพัดเสียหายทันที และตั้งศูนย์ให้การช่วยเหลือราษฎรขึ้นที่เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน

ด้านนายโกสิทธิ์ อติเปรมินทร์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเชียงแสน กล่าวว่า พายุที่เกิดเมื่อคืนที่ผ่านมารุนแรงกว่าทุกครั้ง ทำให้เสาไฟฟ้าที่บ้านสบคำล้มหลายต้น ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง ทางไฟฟ้าต้องระดมเจ้าหน้าที่โดยแบ่งออกเป็น 2 ชุด เพื่อเร่งแก้ไขไฟฟ้าดับให้กับชาวบ้าน จนสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ภายในชั่วโมงเศษ และเช้าวันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจตามบ้านเรือนที่แจ้งเข้ามาเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าขัดข้อง และหากบ้านของท่านใดมีปัญหาเกี่ยวกับไฟฟ้า สามารถโทร.มาที่การไฟฟ้าเชียงแสนได้ตลอดเวลาที่เบอร์ 053-777202 และ 053-777113.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 พ.ค. 2559

ฝนถล่มลมแรงซัดเบตง ต้นไม้หักโค่น-หลังคาบ้านปลิวว่อน​

​

ฝนถล่ม ลมกระโชกแรง เขตเทศบาลเมืองเบตง ต้นไม้หักโค่นล้มทับบ้านพัก ตชด. รวมถึงบ้านเรือนประชาชน หลังคาปลิวว่อน พัดป้ายโฆษณา-สิ่งปลูกสร้างเสียหายเป็นจำนวนมาก...

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 13 พ.ค. มีรายงานว่า ได้เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นล้มทับหลังคาบ้านพักข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 445 เบตง ได้รับความเสียหาย และมีบ้านเรือนประชาชนถูกลมพัดหลังคาได้รับความเสียหายหลายหลัง รวมถึงป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ หลายจุด

นอกจากนี้ ร้านขายก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นมะระ กม.2 ถนนสุขยางค์ ตรงข้ามสำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา สาขาอำเภอเบตง ซึ่งสร้างเป็นร้านหลังคามุงจาก ถูกลมพายุพัดร้านค้าพังทั้งหลัง สินค้าได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เทศบาลได้เร่งออกสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว

ด้าน นายสมยศ เลิศลำยอง นายกเทศมนตรีเมืองเบตง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งออกสำรวจความเสียหายเหตุฝนตกหนัก ลมพัดแรงในครั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เลื่อยยนต์ตัดกิ่งไม้ ต้นไม้ ที่ล้มขวางสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ให้แล้วเสร็จ พร้อมดำเนินการเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ถูกลมพัดเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองเบตง จะดำเนินการเข้าตรวจสอบช่วยเหลือต่อไป.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 พ.ค. 2559

ปลัดหนุ่มชีวิตดี๊ดี! ปลูกอัญชันริมรั้ว เก็บดอกขายมีรายได้ตลอดปี​

​

ปลัดหนุ่มทำหน้าที่เลขาฯ ผวจ.สุโขทัย ใช้ชีวิตพอเพียง เดินตามแนวทางพระราชดำริฯ ปลูกอัญชันไว้ริมรั้ว เก็บดอกตากแห้งขาย รายได้วันละ 200-300 บาท มีให้เก็บตลอดทั้งปี พบสรรพคุณเพียบ ทั้งแก้เบาหวาน ลดมะเร็ง ปลูกผม ฯลฯ...

วันที่ 14 พ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 323 บ้านทุ่งพล้อ ม.9 ต.ป่างิ้ว อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย หลังทราบว่ามีปลัดอำเภอหนุ่ม ดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการปลูกต้นอัญชันเอาไว้ริมรั้ว เก็บดอกมาตากแห้งส่งขายที่กรุงเทพฯ หารายได้เสริมให้กับครอบครัว

ที่บ้านหลังดังกล่าว ได้พบกับ นายพีรกุล พูลเพิ่ม หรือ ป.พีช อายุ 29 ปี เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการ ปฏิบัติหน้าที่ เลขานุการ นายปิติ แก้วสลับสี ผวจ.สุโขทัย กำลังสาละวนอยู่กับการเดินเก็บดอกอัญชัน ซึ่งกำลังบานสะพรั่งสีม่วง อยู่บริเวณรั้วที่เป็นแนวยาวรอบตัวบ้าน

นายพีรกุล เล่าว่าได้แนวคิดมาจากโครงการผักสวนครัวรั้วกินได้ ซึ่งเป็นการดำเนินชีวิต ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทดลองปลูกอัญชันที่เป็นพืชทนแดดทนฝน เจริญเติบโตง่าย มีสรรพคุณทางยามาแต่โบราณ สามารถดัดแปลงทำเป็นน้ำสมุนไพรและอาหารได้อีกหลายอย่าง เอาไว้ที่บริเวณรั้วรอบบ้าน ซึ่งเป็นแนวยาวกว่า 40 เมตร ปรากฏว่า อัญชันออกดอกให้เก็บได้ตลอดทั้งปี ล่าสุดมีพ่อค้ามารับซื้อดอกแห้งถึงบ้านเพื่อส่งเข้าโรงงานแปรรูปที่กรุงเทพฯ นำไปเป็นส่วนผสมผลิตภัณฑ์แชมพูสระผม ครีมนวดผม โดยให้ราคาสูงถึง กก.ละ 200-300 บาท ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์และคุณภาพของดอก

"ทุกเช้าจะเดินเก็บดอกอัญชันสดจากริมรั้วที่ได้ขนาดแล้ว วันหนึ่งเก็บได้ประมาณ 4-5 กก. จากนั้นนำมาใส่กระด้งวางผึ่งแดดกลางแจ้งให้ดอกแห้ง ใช้เวลาเพียง 1-2 วัน ก็สามารถส่งขายได้แล้ว โดยดอกอัญชันสดน้ำหนัก 5 กก. เมื่อตากแดดแห้งแล้วจะเหลือน้ำหนักเพียง 1 กก.เท่านั้น ทำให้ปัจจุบันมีรายได้เสริมจากการเก็บดอกอัญชันมาตากแห้งขาย วันละ 200-300 บาท" ปลัดหนุ่มกล่าว

สำหรับสรรพคุณทางยาของดอกอัญชันนั้นมีมากมาย เช่น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากในดอกอัญชันมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน สร้างภูมิต้านทาน ช่วยล้างสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย มีส่วนช่วยบำรุงสายตาในการชะลอวัยและริ้วรอยแห่งวัย ช่วยในการบำรุงสมอง เพิ่มการไหลเวียนเลือด ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดสมองตีบ บำรุงสายตา แก้อาการตาฟาง ช่วยรักษาอาการผมร่วง และยังใช้เป็นยาปลูกผม ปลูกผมช่วยให้ดกดำเงางามยิ่งขึ้นอีกด้วย.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 พ.ค. 2559

น่าห่วงวังมัจฉา-ปลาเข้าแถว! น้ำตกเขาชะเมาแล้งตายเกลื่อน​

​

น้ำตกเขาชะเมา จ.ระยอง ไม่พ้นภัยแล้ง ปลาบริเวณวังมัจฉา ชั้นที่ 2 ที่เคยเป็นข่าวดัง เข้าแถวรออาหาร ตายลอยเกลื่อนส่งกลิ่นเน่าคละคลุ้ง จนท.ต้องช้อนไปฝังกลบทำปุ๋ยหมักแล้ว 700-800 กก. ชี้ไม่มีน้ำหมุนเวียนทำให้ขาดออกซิเจน...

วันที่ 14 พ.ค. 59 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีปลาลอยตายเกลื่อนในน้ำตก บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ต.น้ำเป็น อ.เขาชะเมา จ.ระยอง จึงได้รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายสัมพันธ์ ผลโพธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง

พบว่าบริเวณวังที่ 2 ของน้ำตกเขาชะเมา เป็นแอ่งน้ำขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 5 เมตร มีปลาหลายชนิดลอยตายเกลื่อน ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง เจ้าหน้าที่อุทยานจึงช่วยกันเก็บขึ้นมาฝังกลบทำปุ๋ยหมัก

นายสัมพันธ์ ผลโพธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง กล่าวว่า น้ำตกเขาชะเมามีทั้งหมด 8 ชั้น มีปลาลอยตายที่ชั้นที่ 2 หรือวังมัจฉาที่เคยเป็นข่าวปลาเข้าแถวรอกินอาหารจนโด่งดัง(ฮือฮา 'ปลาพลวง' แสนรู้ เข้าแถวกินอาหาร) และยังมีปลาลอยตายอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนมากจะเป็นปลาพลวงหิน ปลาพลวงทอง ปลากด ปลาก้าง ที่อาศัยอยู่ในธารน้ำตกตามธรรมชาติ เนื่องจากเกิดภัยแล้ง น้ำตกไม่ม่มีน้ำไหลหมุนเวียน ทำให้น้ำขาดออกซิเจน และน้ำร้อน ทำให้ปลาที่อาศัยอยู่ในธารน้ำตกลอยตาย

"คาดว่าน่าจะมีปลาตายอีก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บซากปลาที่ลอยตายกว่า 700 - 800 กิโลกรัมไปฝังกลบ ทำปุ๋ย โดยก่อนหน้านี้ ได้พยายามแก้ไขโดยต่อน้ำจากลำธารด้านบนของน้ำตก ปล่อยไหลลงมา แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาปลาตาย ซึ่งเกิดจากภัยธรรมชาติได้" นายสัมพันธ์ กล่าว.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 พ.ค. 2559

น่าห่วง ฝูงโลมาสีชมพู! ตายอีกตัวเกยหาดขนอม จี้ตรวจคุณภาพน้ำทะเล​

​

นักอนุรักษ์ที่ขนอม เป็นห่วงโลมาสีชมพู หลังพบตายถี่ขึ้น ล่าสุด ลูกวัยประมาณ1ปี ตายเกยหาดอีกตัว จี้ตรวจคุณภาพน้ำทะเล ที่อาจมีการปนเปื้อนของน้ำมัน ทำให้โลมาอ่อนแอลง...

วันที่ 14 พ.ค.59 นายสันติ นิลวัตร นักวิชาการชำนาญการจากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างจังหวัดสงขลา เดินทางไปตรวจสอบซากปลาโลมาสีชมพูที่ลอยมาเกยตื้นตายที่หาดขนอม จ.นครศรีธรรมราช หลังจากได้รับแจ้งจากนายวชิรพงศ์ สกุลรัตน์ ประธานชมรมพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งขนอม ว่ามีปลาโลมามาเกยตื้นตายบริเวณ หาดหน้าด่าน ม.5 ต.ขนอม อ.ขนอม เมื่อตอนเย็นวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา

พบว่า เป็นลูกโลมาหลังโหนก หรือโลมาสีชมพู อายุประมาณ 1 ปี มีขนาดความยาว 1.2 เมตร น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน ไม่ทราบเพศ เนื่องมาจากบริเวณอวัยวะเพศเน่าเฟะ หลังจากเจ้าหน้าที่ชันสูตรในเบื้องต้น ได้นำซากไปตรวจหาสาเหตุการตายต่อไป

นายวชิรพงศ์ สกุลรัตน์ ประธานชมรมพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งขนอม กล่าวว่า ปัญหาปลาโลมาตายเกิดขึ้นบ่อยมาก จนน่าเป็นห่วง อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบหาต้นเหตุของการตาย และตรวจคุณภาพของน้ำทะเล ว่ามีการปนเปื้อนของน้ำมันเกินขีดอันตรายของฝูงโลมาหรือไม่ เพราะบริเวณริมหาดขนอมและสิชลจะมีก้อนน้ำมันดิบลอยขึ้นมาติดหาดเป็นประจำ หวั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของโลมา อาจจะทำให้โลมาอ่อนแอลง ซึ่งนับวันโลมามีการตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนหวั่นว่าจะสูญพันธ์ุในที่สุด.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 พ.ค. 2559

ฝนมา! เตือนระวังลมกระโชกแรง อยู่ห่างต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา​

​

ฝนมา! เตือนระวังลมกระโชกแรง อยู่ห่างต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา

ลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงอากาศร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในบริเวณจังหวัดน่าน แพร่อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา และชัยภูมิ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน กับมีแนวลมพัดสอบของลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 25-31 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-43องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนและมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ นครราชสีมา อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนจัดโดยทั่วไปโดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 28-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 29-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 พ.ค. 2559

ที่มา ข่าวล่าสุด ข่าวด่วน ประเด็นร้อน ข่าวไทยรัฐ - thairath.co.th