บุพกรรมใดที่ทำให้ เกิดมาไร้ญาติขาดมิตร

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย tassumalee, 15 มีนาคม 2013.

  1. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    เราเกิดมาไม่เคยเห็นหน้า พ่อและแม่ (ผู้ให้กำเนิด) ไม่รู้วันเดือนปีเกิดของตัวเอง
    คงยังพอมีบุญอยู่บ้าง จึงมีผู้ใจบุญชุบเลี้ยงมาจนโตซึ่งก็คือพ่อแม่ในปัจจุบัน(ตอนนี้เสียชีวิต
    แล้วทั้งสองท่าน)


    เราจำได้ว่าตอนเด็กไปไหนกับพ่อหรือแม่ ก็จะมีแต่คนถามว่าเด้กคนนี้นะเหรอที่
    เอามาเลี้ยง(เราก็ไม่ได้สงสัยอะไร) เคยไปบ้านญาติเขาก็เอารองเท้าไล่ขว้างเราไม่ให้เข้า
    บ้านเขา "เราก็ไม่เข้าใจ เห็นแต่แม่ร้องไห้กอดเรา" เวลาไปร.ร.ก็จะมีเพื่อนที่ร.ร.ล้อเรา
    ว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ, ไอ้เด็กเก็บมาจากถังขยะบ้าง เก็บมาจากทางรถไฟบ้าง เราก็จะ
    ร้องไห้กลับมาถามแม่ "แม่ก็จะปลอบเรา และบอกว่าเราเป็นลูกของพ่อกับแม่พร้อมกับ
    เปิดรอยแผลผ่าตัดที่ท้องให้เราดู เราก็เชื่อ" (แม่เราเคยมีลูกแต่ตายไปตั้งแต่ยังเด็กๆ)
    เราจะถูกล้ออยู่แบบนี้เรื่อยๆ


    พอโตขึ้นมาหน่อยก็ยังโดนล้ออยู่เรื่อยๆแต่เรา ก็ชักจะเริ่มสงสัยอยู่บ้างเพราะจะ
    มีคนของกรมประชาสงเคราะมาเยี่ยมที่บ้านบ่อยๆ(มารู้ตอนหลังว่าเขามาตรวจดู ว่า พ่อแม่
    ดูแลเราเป็นยังไงบ้าง) ที่บ้านเราเปิดอู่ทำประตูยืด,ประตูม้วน,เหล็กดัด แต่ตอนนั้นเราก็ไม่
    ได้สนใจอะไรซักเท่าไหร่ จนมาถึงตอนจบม.3 เราก็เลยได้รู้ความจริงว่าเราไม่ใช่ลูกของ
    ท่าน เพราะเราเรียนจบแล้วแต่มีเราคนเดียวที่ไม่ได้รับใบประกาศ(เพราะในทะเบียน
    บ้าน เราไม่มีชื่อ บิดามารดา คือกำลังดำเนินการอยู่ในการยื่นรับเป็นบุตรบุญธรรม)


    เราเสียใจมาก(ในตอนนั้นยังคิดไม่ได้) "มิน่าญาติๆเลยไม่ค่อยชอบเรา พี่ชาย
    แม่มีลูก11คน น้องชายแม่มี4คน พี่ชายอีกคนก็มี3คน แม่ทำไมไม่เอามาเลี้ยงแต่กับเอา
    เราซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้มาเลี้ยงแทน " พอรู้เราก็เลยเริ่มเกิดปัญหาขึ้น แม่พาเราไปเรียนรร.
    ประจำที่ลำปาง(เป็นของกรมประชาสงเคราะห์) ที่นี่เราต้องปรับตัวเป็นอย่างมากเพราะมี
    เด็กร้อยพ่อ พันแม่ มาอยู่รวมกัน ไป2วันแรกโดนโขมยเงินกับของใช้ต่างๆ ไม่รู้จะทำยัง
    ไงก็ได้แต่ร้องไห้ อยู่ไปซักพักนึงเริ่มเกิดปัญหา จากเดิมเป็นคนเรียนเก่ง สดใสร่าเริง
    กลายเป็น ค่อนข้างจะเก็บกด อยู่แต่ในโลกส่วนตัว จนกลับมาอยู่บ้าน


    ตอนนี้แหละเป็นการสร้างกรรมหนักและเป็นบาปที่ติดอยู่ในใจของเรา เพราะเราเคย
    เถียงแม่ว่า เอาเรามาเลี้ยงทำไม เคยทำให้แม่ร้องไห้,เสียใจ (ซึ่งเป็นกรรมหนักมาก แต่ใน
    ตอนนั้นเราคิดไม่เป็น เพราะใช้แต่อารมณ์) พอโตมาก็ทะเลาะกันจนเราไม่กลับบ้านเลย
    "ในเวลานั้นมีเรื่องราวหลายเรื่องราว ไม่ว่าจะญาติมั่งอะไรมั่ง สารพัดเรื่องที่ทำให้เราอึดอัด
    ใจจนอธิบายไม่ถูก" เราไม่เคยกลับเข้าบ้านเลยหลายปี จนวันนึงก็กลับเข้าไปหาท่านเอา
    เงินเข้าไปให้(ก่อนหน้านั้นก็จะมีฝากคนรู้จักเอาไปให้ แต่ตัวเราไม่เข้าไปเลย) เข้าไปกราบ
    ขอขมาท่าน แต่ก็อยู่ไม่ได้อีก เพราะอึดอัดใจเกินจะรับได้ ก็กลับมาอยู่ข้างนอกและไม่เคย
    กลับไปอีกเลย จนท่านเสียชีวิต(ในขณะนั้นเราไปทำงานอยู่เมืองนอก กลับมางานศพแม่
    ไม่ได้) พอกลับมาเราก็กลับบ้านแต่แม่ขายบ้านไปแล้ว เงินที่แม่ได้ญาติก็ยืมไปไม่คืน เราโทรไปถามเขาก็บอกยังไม่มี แล้วยังย้อนเราอีกว่า มีสิทธ์อะไรมาทวง ตั้งแต่นั้นเราก็ไม่
    เคยสนใจ ทรัพย์สมบัติของแม่อีกเลย ปล่อยให้ญาติเขาจัดการกันเอง


    ซึ่งเราไม่ได้อะไรเลยและไม่คิดอยากได้ เพราะที่เรามีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ก้เพราะ
    ท่านทั้งสองเลี้ยงดูเรามาแค่นี้ก็ไม่บุญมากพอแล้ว "สมบัติที่มค่ามากที่สุดในชีวิตเราก็คือ
    รูปของท่านทั้งสองที่อุ้มเราอยู่เมื่อเรายังเล็ก และก็ใบแจ้งความเมื่อวันที่ท่านทั้งสองได้รับ
    เรามาเลี้ยง(ซึ่งเราถือเอาใบนี้เป็นใบเกิดเรา) แค่นี้เราก็มความสุขแล้ว สมบัติทุกชิ้นของแม่
    ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เราไม่ได้สนใจเลย เพราะเราสามารถหาใหม่ได้"


    หลังจากแม่เสียแล้ว(พ่อเราเสียตั้งแต่เราอายุ13ปี) ชีวิตเราก็หลักลอยเสียศูนย์อยู่
    พักนึง "ตอนนั้นเสียใจมากที่ไม่ได้ดูแล ท่านให้ดีเมื่อตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ แถมเคยทำ
    ให้ท่านเสียใจ ร้องไห้ เพราะทิฐิที่จะเอาชนะ จึงเลือกที่จะเดินออกมาจากท่านโดยไม่ฟังคำ
    ทัดทานของท่านเลย ไม่เคยได้ดูแลท่านให้สมกับความรัก ความเมตตาที่ท่านมีให้กับเรา
    (เราเป็นลูกที่เลวมาก อย่างไม่น่าให้อภัย) ไม่เคยได้ทดแทนพระคุณของท่านเลย เพราะใน
    ชีวิตนี้ คงไม่มีใครรักเราได้มากเท่ากับท่านทั้งสอง ทั้งๆที่รู้ว่าเราไม่ใช่ลูกแต่ท่านก็ไม่เคยนึก
    รังเกียจที่จะ เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวเรา บางครั้งท่านยอมอดเพื่อให้เราอิ่มให้เรามีกิน ไม่ต้องอายใคร
    แต่เราซึ่งเป็นลูกท่าน กับทอดทิ้งท่านแม้วันท่านสิ้นใจก็ไม่ได้ อยู่เคียงข้าง


    แม้วันนี้จะไม่มีท่านอยู่แล้ว เราจะสำนึกในสิ่งที่เราได้ทำลงไปมากซักเท่าใดเฝ้า
    แต่โทษตัวเอง ว่าทำไมถึงทำกับท่านแบบนี้ แม้จะเสียใจมากซักเท่าไหร่ ร้องไห้จนน้ำตา
    เป็นสายเลือด ทำบุญอุทิศให้ท่านมากซักเพียงใดก็ไม่รู้ท่านจะได้รับมั้ย เราจะมีน้ำตาซึม
    ทุกครั้งที่เห็นใครพาพ่อแม่ มาทำบุญหรือพาไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ เพราะเราเองไม่มี
    โอกาสได้ทำอย่างนั้น วันพ่อวันแม่เราก็ไม่มี ท่านให้เราไปกราบ วันสงกานต์เราก็ไม่มี
    ท่านทั้งสอง ไม่มีญาติผู้ใหญ่ให่ไปขอพร (ชีวิตเราไม่มีใครจริงๆไม่มีที่ไป)


    แม้สิ่งที่เราทำมันจะเป็นบาบอย่างมหันต์มีที่ไปคือ นรกภูมิ และเราไม่มีทางหลีก
    เลี่ยงได้ เรามารู้ก็ต่อเมื่อทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว หากย้อนเวลาได้เราจะไม่ให้มันเกิด
    ขึ้นมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นเลย เราเสียใจมากเสียใจ จนเขียนเป็นตัวอักษรไม่ได้ แม้ใครๆจะ
    มองว่าเรา เป็นคนไม่ดี เลว เราก็ยอมรับอย่างเต้มใจในผลของกรรมนั้นๆที่เราได้ทำลงไป


    เราเพียงอยากให้เรื่องของเรา เป็นสิ่งเตือนใจกับใครอีกหลายๆคน ให้หันกลับ
    มาดูแล พระในบ้านของท่าน ซึ่งก็คือ พ่อและแม่ของท่านทั้งหลาย ในขณะที่ท่านยังมี
    ชีวิตอยู่ ดีกว่ามาทำเมื่อท่านจากเราไปแล้ว ไม่มีบุญใดจะยิ่งใหญ่เท่ากับเราได้เลี้ยงดูท่าน
    ได้ดูแลท่าน ตอบแทนบุญคุณที่ท่านได้เลี้ยงดูพวกเรามา แทนที่วันเกิดจะไปเลี้ยงสังสตค์
    กันในหมู่เพื่อนดื่มเหล้าเมายา เปลืองเงินเปลืองทอง เราก็ซื้อพวงมาลัยมา2พวงเพื่อมา
    กราบเท้าท่านทั้งสอง ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองดีกว่า เพราะไม่มีพรไหนๆจะ
    มาดีเท่าพรที่มาจากผู้ให้กำเนิดเราเอง



    ทุกวันนี้ที่เราทำบุญหรือปฏิบัติธรรมไม่ใช่เพราะอยากตัดกรรม แต่เราทำเพื่อลด
    ทอนแรงกรรมต่างหาก ไม่มีใครหนีกรรมพ้นหรอกตัดกรรมก็ไม่ได้ เพราะกรรมก็คือการกระ
    ทำของตัวเราเอง ในทุกๆวันที่เรามีชีวิตอยู่เราก็มีมีบาปที่ติดค้างอยู่ในใจซึ่งเราไม่สามารถจะ
    ลบออกไปจากใจเราได้เลย





    บัวในตม ผู้มีกรรมหนัก
     
  2. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    เราไม่เคยนึกเสียใจเลย ที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้ อาจมีบ้างที่คิดถึงแม่แท้ๆผู้ที่ให้กำเนิด

    แต่เราไม่เคยโกรธ หรือเกลียดท่านเลย ต้องขอบคุณท่านด้วยที่ให้เราได้เกิดมา



    เคยมีบางช่วงเวลา ที่ท้อแท้หรือว่าอ่อนล้า จากเรื่องราวต่างๆ รึการดำเนินชีวิต เคยคิดฆ่าตัวตาย
    เพราะไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป พอมองเห็นรูปพ่อกับแม่ เราก็ทำไม่ลง

    เพราะชีวิตของเรานี้ท่านทั้งสองเป็นผู้ให้ แล้วเราจะทำลายมันด้วยตัวของเราเองทำไม แม้คน
    อื่นๆจะไม่เห็นคุณค่าที่เรามี แต่ท่านทั้งสองเห็นและเป็นผู้ให้โอกาสเรา ถ้าเราไม่รักตัวเองแล้วใครจะ
    มารักเราได้


    เราเคยได้อ่าน บทความนึงของท่าน ว.วชิระเมธี

    " แม้เราจะศูนย์เสียบุคคลอันเป็นที่รักไป แต่เราไม่จำเป็นต้องเสียใจไปตลอดชีวิต"

    เมื่อได้อ่านแล้วน้ำตามันร่วงลงมาเอง เพราะเรากำลังเป็นอยู่ ทุกข์อยู่ในใจ เสียใจมาก เพราะ
    มันเป็นบาป ที่ติดอยู่ในใจของเรามาหลายปีแล้ว และคงไม่มีวันลบเลือนไปได้
     
  3. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    เห็นใจกับเรื่องราวชีวิตของท่านจขกท อย่างยิ่ง ช่างน่ารันทดราวนวนิยายที่เขาแต่งขึ้นจริงๆ..

    ท่านจขกท ในฐานะผู้มีใจใฝ่ในธรรม คงพอจะทราบความจริงที่ว่า "สิ่งทั้งปวงย่อมใหลมาแต่เหตุ" ....

    คงไม่มีใครทราบได้แน่ชัดว่า ที่ท่านจขกท เกิดมาด้วยอาการเช่นนี้ ต้องมีวิถีชีวิตเช่นนี้ เป็นเพราะกรรมใด........แต่พอจะ"ประมาณ"ได้ว่า เพราะตนเคยได้ทอดทิ้งลูกมาในชาติใดชาติหนึ่ง ...เจตนาที่ไม่ต้องการเลี้ยงดูรับผิดชอบลูกของตนนั้นจึงได้นำมาเกิดในแม่ที่มีเจตนาคล้ายกับที่ตนเคยมีมาก่อนนั้น ท่านจึงถูกแม่ทอดทิ้งอย่างไม่ใยดีเช่นนี้...

    กระนั้น..อาศัยบุญที่ตนเคยทำมาในอดีต คืออุ้มชูเลี้ยงดูทารกที่พ่อแม่ทิ้งไว้ หรือเคยอุปการะเด็กกำพร้ามา จึงได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากพ่อแม่้ผู้ใจบุญที่วายชนม์ไปแล้ว.........ส่วนที่ถูกรังเกียจด่าทอขับไล่จากญาติของพ่อแม่ที่อุปการะ ก็สะท้อนเจตนาคล้ายๆกันที่ตนเคยทำมาเเล้วเช่นกัน...กรรมต่างๆทั้งดีและชั่วเหล่านี้ ท่านทำไว้ต่างวาระกัน ไม่อาจระบุได้ว่าอันใดก่อนหลังหรือเมื่อใดแน่เพราะไม่อยู่ในวิสัยของปุถุชนที่จะทราบได้ เป็นวิสัยของพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะทรงทราบได้....

    การทราบว่าสิ่งที่ตนประสบพบเจอ มาจากกรรมใด มีประโยชน์อย่างยิ่งแก่ตน .. เพราะจะสามารถนำมาใคร่ครวญพิจารณาแยกแยะได้ว่าสิ่งใดควรละเว้น สิ่งใดควรทำ เพื่อความเกษมสวัสดีของตนในภายหน้า..

    กรรมเก่าผ่านไปแล้วไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีก...แต่เราย่อมสามารถทำเหตุใหม่ที่ดีได้ในปัจจุบันเพื่อผลที่ตนหวังและต้องการ..การพิจารณาเรื่ิองของกรรมว่า.."เราทำกรรมใดๆไว้ เราจะเป็นผู้รับผลกรรมนั้น"จึงเป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนให้พิจารณาให้มาก เพื่อความไม่ประมาทของตน...

    สำหรับความสำนึกในเรื่องผิดพลาดที่ผ่านมา นับว่าดีและถูกควรแล้ว แต่ไม่พึงคิดปรักปรำตอกย้ำซ้ำเติมตนในข้อผิดพลาดนั้นไม่รู้จักจบ เพราะไม่เกิดประโยชน์อันใด ..มีแต่โทษคือทำใจตนให้เศร้าหมองตลอดเวลา...การหนีจากพ่อแม่ไป ยังไม่ใช่เหตุนำไปตกนรกหรอก แต่ที่จะตกนรกก็เพราะจิตเศร้าหมองด้วยความฟุ้งซ่านนี่เอง จึงควรจะรู้จักให้อภัยตนเองให้เป็น...เลิกกังวลใจแล้วๆเล่าๆ ไม่สั่งตนเองทางความคิดว่าเพราะเราไม่ดี จึงเป็นเช่นนี้ ..เพราะจิตนั้นมีอานุภาพมาก ลองได้คิดลบกับตนแล้ว ตนนั่นแหละจะพาตนไปทางลบตามที่จิตสั่ง..

    ท่านจขกท พึงหัดมองสิ่งดีๆที่ตนมีอยู่หลายอย่างที่คนจำนวนมากยังมีไม่เท่าเช่น..หากท่านจขกท ไม่มีบุญดีมากแล้วไซร้ แม้การได้อัตภาพแห่งการเป็นมนุษย์ก็ย่อมม่อาจมีได้เลย..แม้จะถูกทอดทิ้งแต่ก็ยังมีผู้อุ้มชูเลี้ยงดูด้วยความรัก ที่พ่อแม่แท้จริงจำนวนมากยังไม่มีให้ลูกของตน..ท่านจขกทได้รับการศึกษา อันคนหลายล้านบนโลกไม่อาจมีได้..ท่านจขกท มีศักยภาพเต็มภาคภูมิในฐานะ"มนุษย์"ผู้มีปัญญาดีสามารถเลี้ยงดูรับผิดชอบตนเองได้มาจนบัดนี้ ..ที่คนหลายร้อยล้านไม่อาจทำได้เท่า..และที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่านั้นคือการใฝ่ใจในธรรมะอันรับได้ยากยิ่งในชนทั้งหลาย เพราะผู้มีบุญเก่าอันดีเยี่ยมเท่านั้นจึงจะรับเอาได้ด้วยดี......

    ท่านจขกท เมื่อปรารภปวารณาจะประพฤติปฏิบัติตามธรรม คุณเครื่องเช่นนี้ย่อมมีผลคือบุญอันดีที่มีกำลังส่งไปถึงแม้พ่อแม่ที่ดูแลท่านมา การอุปการะของท่าน(พ่อแม่)ย่อมไม่เป็นหมัน เพราะบัดนี้ลูกกำพร้าคนนี้ ได้เข้่าสู่เขตแดนพระธรรมด้วยจิตใจแน่วแน่ บุคคลเช่นนี้ย่อมไม่รกโลก..ไม่เบียดเบียนใครๆ ย่อมส่งตนไปในทางสุจริต ..

    ท่านจขกท ยังได้ทำบุญอุทิศกุศลให้ท่านเนืองๆ กิจแห่งการตอบแทนคุณในวาระที่พ่อแม่วายชนม์แล้ว ท่านก็ทำได้ด้วยดี..แม้ชนเหล่าใดได้มาอ่านเรื่องราวแลการกระทำของท่าน ..ที่เขาเหล่านั้นจะไม่นึกสรรเสริญท่าน..เข้าใจและเห็นใจท่าน ตลอดจนเห็นคุณค่าในความเป็นคนดีของท่านนั้นคงไม่มีเลย..

    ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งที่ทึ่งคุณค่าความเป็นคนพึ่งตนได้เช่นท่าน และนึกอนุโมทนาในกุศลอันดีมีการให้เงินพ่อแม่ และทำบุญอุทิศให้ท่านตลอดมา ขอคารวะท่านด้วยใจจริง ชีวิตของท่านอาจไม่ดีในเวลานี้ แต่ความดีที่ท่านทำมาแล้วย่อมไม่สูญหายไปใหน ความกตัญญูของท่านจะรักษาคุ้มครองท่านให้เจริญรุ่งเรืองได้ ไม่ช้าก็เร็ว ขอเป็นกำลังใจให้อย่างสุดใจ ให้ท่านพ้นความขัดสนในที่ทั้งปวง ความบริบูรณ์ด้วยโภคะและลาภยศสรรเสริญพึงปรากฏแก่ท่านโดยเร็วครับ..
     
  4. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    สู้ ๆ นะครับเป็นกำลังใจช่วย มาเอาชนะกรรมด้วยกัน
     
  5. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    "ขอบคุณกำลังใจ และข้อแนะนำดีๆในการดำเนินชีวิต เราเองไม่ได้หวังอะไรมากมาย
    และตัวเราพร้อมที่จะยอมรับในผลกรรมที่กำลังเกิดขึ้น"


    เราแค่อยากให้เรื่องราว ของเราได้เป็นประโยช์นกับใครอีกหลายๆคน ที่กำลังหลงทาง
    อยู่ เป็นเพราะความไม่รู้หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงได้ทำผิดพลาดไป โดยไม่ตั้งใจรึตั้งใจก็ดี ให้
    เขาได้กลับตัวทัน ก่อนที่จะสายเกินไป แล้วมาสำนึกผิดทีหลัง ว่าพระคุณของพ่อแม่นั้นมีมากมาย
    มหาศาลเพียงใด และเมื่อทำผิดพลาดต่อท่านไปแล้ว จะเป็นบาปมหันต์ขนาดไหน


    เราทำผิดไปเพียงเพราะคำว่าทิฐิ เพียงตัวเดียว ที่ไม่สำนึกในบุญคุณของท่านในความรัก
    ความเมตตาที่ท่าน อุ้มชู ชุบเลี้ยงเรามา "ทุกวันนี้เราเสียใจมากที่ไม่เคยได้บอกท่านเลย ว่าเรา
    รักท่านมากเพียงใด เราอยากสวมกอดท่านอยากไปร้องไห้เมื่อวันที่เรามีเรื่องทุกข์ใจ เราอยากพา
    ท่านไปเที่ยวไปกินอาหารอร่อยๆ อยากพาท่านไปทำบุญเหมือนตอนเป็นเด็กๆที่ท่านเป็นคนพาเรา
    ไป อยากดูแลท่านเมื่อยามที่ท่านไม่สบาย และอีกหลายๆเรื่องที่เราจะสามารถทำได้ แต่วันนี้เราไม่
    มีโอกาสแล้ว นั่นเพราะเราเป็นคนทำตัวเราเอง มานั่งเสียใจร้องไห้ คร่ำควรไปก็เท่านั้น เพราะมัน
    สายเกินไปแล้ว สายเกินที่เราจะย้อนเวลากลับไปได้


    เราโตมาใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ต้องทำทุกอย่างเพื่อดิ้นรนในการมีชีวิตอยู่ "เรียนรู้ถูกผิดด้วย
    ตัวเอง" บางครั้งก็ตัดสินใจผิดพลาดไปบ้าง (เคยนึกน้อยใจในโชคชะตาชีวิตเหมือนกัน แต่เพราะ
    ตัวเราเองนี่แหละเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตเราเอง) เมื่อตอนมีเงินเราก็ไม่คิดเก็บไว้เพื่อวันข้างหน้า
    เรามีเพื่อนครบทุกรูปแบบ ไม่มีใครจริงใจกับเราเลยซักคน พอเงินหมดเราก็ไม่มีเพื่อน เป็นเหมือนหมา
    ข้างถนนตัวนึง

    พอรักใครก็ไม่เคยสมหวังเลย มีคนเดินเข้ามาแล้วก็เดินจากเราไป ทิ้งแต่ความเจ็บช้ำปวด
    ร้าว และรอยแผลเป็นในใจไว้ให้เรา "คงเป็นกรรมที่เรา ทำไว้กับแม่ ทำให้ท่านต้องเสียใจ ร้องไห้เมื่อ
    วันที่เราเดินจากมา" ชีวิตเราพบเจอแต่ คนหลอกลวง เอาเปรียบเราในทุกๆเรื่อง เราทำคุณกับใครไม่
    เคยขึ้นเลย ทำดีกับใครไม่เคยได้ดีเลยซักครั้ง ในช่วงเวลานั้นไม่มีวันไหนเลยที่เราไม่มีน้ำตา ร้องไห้
    เสียใจ กับสิ่งที่ได้รับจากคนอื่นๆ "คงเป็นกรรมที่กำลังส่งผลอยู่ แต่คงเป็นเพียงเศษเสี้ยวที่เราทำกับ
    แม่ไว้ จึงทำให้เราเป็นแบบนี้"


    เราทำอะไร ไม่เคยประสบความสำเร็จเลย เปิดร้านเสริมสวย(มีฝีมือ มีความสามารถ แต่ไม่มี
    ลูกค้า) ขายทองผ่อน,ปล่อยเงินกู้,เล่นแชร์ (ก็โดนโกง จนกำไรไม่มี ทุนที่มีอยู่ก็หายไปด้วย)

    เปิดร้านซักรีด(แรกๆก็พอไปได้ แต่สุดท้ายก็เจ๋ง) ขายเสื้อผ้า (ทุนก็ไปจม เพราะซื้อมา
    เพิ่มเรื่อยๆแต่ขายไม่ค่อยออก)

    ไปทำงานต่างประเทศ(ไปมา3ประเทศ) "ก็โดนหลอกเกือบหมดเนื้อหมดตัว ไปแล้วไม่มี
    งานให้ทำ ไหนจะค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายต่างๆ เราออกเอง จะไปเรียกร้องกับใครก็ไม่ได้ ได้กลับ
    มาเมืองไทยก็บุญแล้ว"

    ทำงานออฟฟิศ ก็โดนกลั่นแกล้ง ไม่มีความสุขในการทำงานเลย ไม่มีความก้าวหน้า


    ทำวุ้นกะทิขาย ขายน้ำปั่น ทำหมูปิ้ง จนสุดท้ายมาขาย ข้าวเกรียบปากหม้อ,สาคู
    (ซึ่งใครกินก็บอกว่าอร่อย แต่ขายไม่ค่อยดี บางครั้งก็ขาดทุน กำไรไม่มี จนแทบจะไม่มีทุนค้าขาย
    ต่อไปแล้ว)


    นึกท้อใจจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป คิดค่าตัวตายแต่ก็ทำไม่ลง นอนร้องไห้ทุกวันเสียใจ
    กับโชคชะตาชีวิตตัวเอง พรุ่งนี้จะทำยังไงต่อไปดี จะเอาเงินที่ไหนไปลงทุนค้าขาย พอไปขายของ
    ก็ได้แต่นั่งมองคนอื่นเขาขายกัน เพราะร้านเราขายไม่ค่อยได้ มีแต่เท่าทุนกับขาดทุน คำว่ากำไรไม่มี


    เมื่อทุกข์ใจก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร คุยกับใคร เพราะชีวิตไม่มีใครเลยซักคน ไม่มีเพื่อน
    ไม่มีญาติ ไม่มีบ้านให้อยู่อาศัย ต้องเช่าเขาอยู่ ชีวิตต้องจมอยู่กับความทุกข์ เบื่อเหลือเกินกับการ
    มีชีวิตอยู่ จนต้องหันหน้าเข้ามาพึ่งพระ ธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า หันมาสวดมนต์ภาวนานั่ง
    สมาธิอย่างจริงจัง (เมื่อก่อนก็ปฏิบัติ แต่ไม่สม่ำเสมอ) ก็พอจะทำให้จิตใจสงบได้บ้าง และเราก็ได้
    เข้ามาอ่านเรื่อง พญานาคในเว็บนี้ แล้วเลยไปอ่าน ข้อความของเพื่อนๆทั้งหลาย ก็เลยพอมีแสงสว่าง
    ส่องนำทางมาให้ชีวิตได้บ้าง


    ก็เลยได้มีเพื่อน สหายธรรม เป็นกัลยาณมิตรที่ดี ให้ข้อคิดหลายๆอย่าง ในการดำเนินชีวิตและ
     
  6. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    เราไม่ได้หวังว่าชีวิตจะต้องกับมา เคยมีเคยได้เหมือนเมื่อก่อน ขอแค่วันนี้ให้พอมีบ้างก็พอใจ
    แล้ว


    และเราก็จะไม่ละทิ้ง การปฏิบัติ และบุญที่เราสามารถทำได้ โดยไม่เสียเงินเลยซักบาทนึง

    คือการรักษาศีล สวดมนต์ภาวนา นั่งกรรมฐาน กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร

    ซึ่งเราสามารถทำได้ด้วยตัวของเราเอง โดยยึดหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็น
    ที่ตั้งแห่งการดับทุกข์ เราเชื่อในกฎแห่งกรรม เพราะตอนนี้เรากำลังได้รับผลของกรรมอยู่ เราเต้มใจ
    และยินดีในกรรมนั้นที่ส่งผลต่อเรา "แม้ว่าเราจะต้อง ทุกข์ใจ เสียใจ ร้องไห้และลำบากซักแค่ไหน
    ก็ตามแต่" เพราะถึงแม้เราตายไป กรรม ก็ยังตามเราไปอยู่ดีไม่ว่าเราจะไป ณ.ที่แห่งใด

    เมื่อบุญที่เราได้ทำไว้มีพอที่จะ สามารถ ไปลดทอนกรรมได้บ้าง วันนั้นกรรมดีอาจส่งผล
    ให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง




    บัวในตม คนที่มีกรรมหนัก
     
  7. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    วันนี้ไปทำบุญมาค่ะ ซื้ออาหารไปถวายเพลพระพร้อมกับถวาย สังฆทาน ร่วมเป็นเจ้าภาพ
    บวชสามเณรภาคฤดุร้อน ร่วมเป็นเจ้าภาพในการเทศน์มหาชาติค่ะ ตามกำลังทรัพย์ที่มี(น้อย)



    ไปอ่านเจอในหนังสือเล่มนึง ชื่อว่า อุทิศบุญให้ได้ผล (เป็นการใช้หนี้กรรมติดเงิน ในชาติ
    นี้และชาติที่แล้ว) เห็นว่าหน้าจะเป็นประโยช์นกับเพื่อนได้ค่ะ (สำหรับ คนที่ยังไม่รู้ นะคะ)



    ตั้ง นะโม 3 จบ

    ท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่ข้าพเจ้า (นาย..นาง) ได้ติดหนี้ท่านเท่าใด เวลาใด
    ตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ทั้งโดยเจตนาและโดยไม่เจตนา ข้าพเจ้าขอปวารณาว่า
    ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าจะขอทยอยใช้หนี้คืนให้ทุบาทสตางค์จนกว่าจะหมด และขออโห
    สิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า เพื่อความสุขความเจริญของข้าพเจ้าและครอบครัวด้วยเทอญ.


    นั่งบริกรรมโดยถือเหรียญ 1 บ. ไว้ในมือ เสร็จแล้วเหรียญหย่อนใส่กระปุกหรือถ้วยไว้ ทุกวัน
    จนครบ 4 เดือน แล้วเอาเหรียญทั้งหมดไปทำบุญ ทำทาน "ห้ามนำไปใช้ในทางที่ไม่ควร" และ
    ให้ทำตอนเช้า ก่อนที่จะใช้เงินต่างๆในทุกๆ วัน



    เราเองก็จะลองทำดู หวังว่าคงเป็นประโยช์นได้บ้าง
     
  8. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    985
    ค่าพลัง:
    +2,951
    เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ค่ะ เราผ่านช่วงระยะเวลาเลวร้ายมาแล้ว อาจจะไม่หนักเท่าเจ้าของกระทู้ แต่เมื่อผ่านแล้ว มันก็ผ่านไปได้
    ฝากอันนี้ให้อ่านค่ะ (ใครผ่านตาแล้วก็ขออภัยได้ด้วยค่ะ)
    ทำไมการปฏิบัติธรรมจึงทำให้ความทุกข์ลดลง?

    ชื่อเราคิดตั้งนานว่าชื่ออะไรดี เมื่อเจ้าของกระทู้ผ่านไปได้ อาจจะต้องหันมาขอบคุณความทุกข์ค่ะ
    แรกๆ เข้าพลังจิตเพราะทุกข์มากค่ะ แม้เจ้าของกระทู้อาจจะยังไม่มีเพื่อนเท่าไหร่ หากเราปฎิบัติไปซักพัก จะค่อยๆ มีญาติธรรมเข้ามานะค่ะ หรือถ้าไม่มา ก็อย่าไปยึดติดอะไร เพราะตอนที่มาก็มาตัวเปล่ากับบุญ-กรรมเท่านั้นเอง
     
  9. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,135
    ขอให้กำลังใจคุณ tassumalee อีกหนึ่งแรงใจค่ะ เชื่อว่าคุณสามารถก้าวผ่าน
    ความรู้สึกแย่ ๆ เหล่านี้ไปได้ ขอให้บุญรักษานะคะ ดิฉันอยากให้คิดว่า การเกิด
    เป็นมนุษย์ เป็นสิ่งที่มีค่า ไม่ควรเสียเวลากับสิ่งที่เปล่าประโยชน์ เราเกิดมาเพื่อแสวงหาปัญญา เพื่อความดับทุกข์ เพื่อบรรลุถึงสุดยอดของวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต

    ความยึดติดเกิดที่ไหน ความเครียดและความกลัวเกิดที่นั่น ผู้อยู่ในโลกแต่ไม่รู้เท่าทันโลก ไม่ศึกษาและปฎิบัติธรรมคือไม่สนใจธรรมชาติของตนเอง การไม่สนใจธรรมชาติของตนเองย่อมเป็นเหยื่อของมันอยู่เรื่อย เช่นกลัวตาย หรือรู้สึกโดดเดี่ยว การกลัวการพลัดพรากจากสิ่งที่ให้ความสุขแก่ชีวิต เป็นต้น หากประมาทและหมกมุ่นในสิ่งนั้น ไม่เคยตะหนักว่าเป็นเรื่องธรรมดา ฉะนั้นความสุขที่เกิดจากสิ่งที่ไม่แน่นอน ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนเหมือนกัน

    ความทุกข์ในโลกมี 2 อย่าง คือความทุกข์ที่เป็นไปเพื่อความทุกข์ และความทุกข์ที่เป็นไปเพื่อการดับทุกข์ ความทุกข์ประเภทที่ 2 นั้นเราต้องยอมรับ พระพุทธองค์เคยตรัสไว้ว่า "ทุกข์เป็นเหตุให้เกิดศรัทธา ศรัทธาเป็นเหตุให้เกิดความปีติปราโมทย์ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความสุข และความสุขเป็นเหตุให้จิตเข้าถึงความสงบได้" หรือ

    "ผู้มีปีติในธรรมย่อมอยู่เป็นสุข" คนเราต้องยกทุก ๆ เรื่องในชีวิตประจำวันขึ้นสู่ธรรมะเพราะถ้าเรารู้จักมองทุกอย่างเป็นธรรมะได้ ชีวิตก็จะมีแต่ความสุข....
     
  10. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,135
    คุณ ddman ช่างมีเมตตา และมีดวงตาที่เห็นธรรมเสมอ กับเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่มีความทุกข์รวมทุกข์ของดิฉันเองด้วยค่ะ และเพื่อนธรรมอีกหลาย ๆ ท่าน
    กับคำแนะนำดีดีที่เราสามารถทำเองได้ ทุกวันทุกเวลา ทำแล้วมีแต่ได้กับได้กับตัวเอง และเป็นส่วนที่ยิ่งใหญ่ส่วนนึงที่ทำให้วันนี้ดิฉัน ยืนขึ้นได้เต็ม 2 ขาและ 2 ตา อีก 1 ใจ ที่เข้มแข็งขึ้นทุกวัน.. ดิฉันขอให้อานิสงส์ผลบุญที่ดิฉันได้ทำมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งทาน ศีลและภาวนา
    ดิฉันขอส่งบุญนี้ให้กับคุณ ddman ,เจ้าของกระทู้ และเพื่อนธรรมทุกท่าน ให้มีแต่ความสุขและความเจริญทั้งในทางโลก และในทางธรรมด้วยค่ะ..สาธุ ^^
     
  11. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825



    ขอบคุณนะคะ ที่ให้กำลังใจและคำแนะนำดีๆ

    พอดีช่วงนี้ไม่ได้ขายขนมค่ะ แฟนไปทำงานพึ่งกลับมา ก็เลยมีคอมเข้ามาคุยกับเพื่อนๆ
    ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้แฟนจะไปทำงานต่างจ. ก็จะไม่ได้เข้ามาอีกหลายวันค่ะ ต้องรอเขา
    กลับมาอีกทีนึงก่อน (แฟนเป็นเซลว์ค่ะ) ที่บ้านไม่มีเน็ต แล้วต้องไปขายของด้วย ถ้า
    มีโอกาสจะเข้ามาบ่อยๆค่ะ จะสู้ๆค่ะ ไม่ท้อ และจะพยามปฏิบัติโดยสม่ำสมอค่ะ
     
  12. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    รีบเข้ามาน้อมรับด้วยปิติโสมนัสอย่างยิ่งขอรับ :cool::cool:

    แม้ในยามที่จิตใจห่อเหี่ยวแห้งแล้ว เมื่อได้บุญที่เพื่อนๆอุทิศมาให้ หรือได้อ่านความตั้งใจของเพื่อนๆว่าจะประพฤติตนตามครรลองของพระธรรมแล้ว ความแช่มชื่นเบิกบานก็ปรากฏ เหมือนดอกกล้วยไม้(ที่ใกล้ม้วย) เบิกบานได้ยามต้องแสงอาทิตย์ฉะนั้น..ขอบพระคุณท่าน สีลสิกขา
    ที่เป็นปัจจัยแก่ความเบิกบานนั้นในเช้าของข้าพเจ้าวันนี้ ขอรับ..


    ปล..ส่งแรงเชียร์ท่านtassumaleeตามเพื่อนๆด้วยครับ ขอให้พ้นทุกข ์ไวไวครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2013
  13. pnumso

    pnumso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2010
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +173
    อนุโมนนาด้วยครับที่หันหาธรรมะบางคนมีทุกข์ไม่ใช้สติก็กลายเป็นคนมีมิจฉาทิฏฐิ
    ไม่เชื่อเรื่องบาปบุญ ไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม ชาติกำเนิดไม่ใช่สิ่งที่ควรตำหนิ ใน
    เมื่อมีวาสนาได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว จะดีจะชั่วถ้าดวงตาเห็นธรรม ก็จะพบทางออก
    ของทุกข์ได้ แต่จะทำบุญกุศลเพื่อหวังลดแรงกรรมนั้นตามความเห็นผม ไม่ใช่หนทาง
    ที่จะทำให้ทุกข์หมดไป การเชื่อหรือศรัทธาในสิ่งใดก็ตาม ถ้าทำอย่างงมงายก็เท่ากับ
    เสียเวลาเปล่า

    แต่ไม่ใช่ว่าทำบุญ ทำทาน เป็นสิ่งไม่ดี ผมหมายถึง ถ้าใครจะทำบุญกุศลนั้นดีแล้ว
    แต่ทำแล้วหวังผลในด้านใด ทำเพราะอยากให้กรรมลด ข้อนี้ผิดเพราะทำแล้วกรรม
    เก่าก็ัยังทำงานต่อไป กรรมใหม่ไม่ใช่สิ่งที่จะไปลบล้างกรรมเก่าได้ และยิ่งถ้ากรรม
    ใหม่เป็นกรรมชั่วก็ยิ่งทำให้เป็นการสะสมบาปยิ่งขึ้น กรรมใหม่เป็นบุญนั้นดีแล้วแต่
    อย่าไปหวังผลว่ากรรมใหม่ที่ดีนั้นจะช่วยหักล้างกันได้

    เมื่อรู้ดังนี้ควรปล่อยวางจาก อดีตกรรม แล้วเจริญสติให้อยู่แต่ปัจจุับัน ไม่คิดอดีต
    ไม่คิดอนาคต ตัดวงจรแห่งทุกข์ ปฏิจจสมุปบาท คือ ไม่เอาสัญญาในอดีต (ความ
    จำเรื่องราวในอดีต) ที่เคยทำบาปกับพ่อแม่มาคิด เมื่อไม่คิดมีแต่สติรู้ปัจจุบัน หรือ
    ไม่คิดไปในอนาคต สังขารก็หยุดปรุงแต่ง เมื่อไม่ได้คิดก็วางเฉย (อุเบกขา) ปล่อย
    ความคิดอดีต อนาคตทิ้งไป ทุกข์ก็จะเบาบางไปเพราะมีสติรู้แต่ปัจจุบันเท่้านั้น
    จะทำการทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ก็ต้องคิดไม่ใช่ไม่ให้คิด แต่คิดแบบนี้เป็นปัญญา
    ต่างจากความคิดที่ไม่มีสติ ซึ่งจะนำซึ่งโมหะ โทสะ โลภะ เข้ามาปรุงแต่งเกิดเป็น
    วงจรแห่งทุุกข์ (ปฏิจจสมุปบาท) ต่อไปไม่จบไม่สิ้น แม้จะทำบุญ ทำทาน ทำกุศล
    ก็ไม่ได้ช่วยให้ทุกข์ในความคิดหมดไปหากไม่รู้วิธี

    ทุกข์กาย ทุกข์ใจ เป็นผลมาจากความคิด เมื่อไม่คิดก็ไม่ทุกข์ เพราะความทุกข์เป็น
    เพียงแต่นาม ไม่มีตัว ไม่มีตน ไม่มีอยู่จริง เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เป็น อนิจจัง ทุกขัง
    อนัตตา คนเราทุกข์เมื่อคิดเท่านั้นครับ และเช่นกันเรามีความสุขก็เพราะเราคิดเท่านั้น
    มันจึงเป็นเพียงนามที่เกิดจากขันธ์ 5 เท่านั้น ดังนั้นเราไม่สามารถจะทุกข์หรือสุข
    ตลอดเวลา ต้องมีช่วงหนึ่งในหนึ่งวันที่ไม่คิดถึงทุกข์ อย่างน้อยก็ตอนหลับ

    ผมเองก็เพิ่งเข้าใจการปฏิบัตินี้เมื่อไม่นานจึงอยากจะแบ่งปัน เพราะตอนแรกก็ทำบุญ
    ไปโดยไม่เข้าใจ หาเหตุผลไม่ได้ว่าจะได้อะไร จะทำไปทำไม แล้วมันทำให้เราหมด
    ทุกข์ได้แค่ไหน ตอนนี้ผมรู้แล้ว ผมเพียงแต่เล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ ถ้า
    ทำไม่ถูกผู้รู้ทั้งหลายก็แนะนำได้ เพราะผมยังไม่รู้อีกหลายๆเรื่อง
     
  14. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,135

    โมทนาสาธุค่ะ.. ดิฉันเองก็เพิ่งเข้าใจได้ไม่นานนี้เหมือนกันโดยเฉพาะอุเบกขา
    รู้สึกได้ถึงความสงบ และตัดสินใจแล้วที่จะมุ่งหน้ามาทางสายธรรม และตนเองศรัทธาในหลวงพ่อเทียน มากเลยค่ะ อ่านหนังสือของท่านที่ชื่อ "ปกติ" หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ และสิ่งที่ฝากไว้ สนุกดีค่ะ ทำให้เข้าใจชีวิตเข้าใจโลกได้อีกหลายอย่างเลยค่ะ ขอให้เจริญในบุญนะคะ
     
  15. pnumso

    pnumso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2010
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +173
    เช่นกันครับ ก่อนนี้ผมได้อ่านเรื่องราวของหลวงพ่อสมบูรณ์ ฉตฺตสุวณฺโณ จาก
    กระทู้ในเว็บพลังจิตนี่แหละผมก็ไปดูคลิปท่านสอน ก็เลยเข้าใจสิ่งต่างๆที่ทำ
    มาตั้งนานว่าอ่อทุกข์คือความคิด และก็เลยตามคำสอนท่านไปจนท่านเ่อ่ยถึง
    หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ซึ่งเป็นอาจารย์ท่านอีกที ผมเลยศึกษาสิ่งที่ท่าน
    สอนและตอนนี้เรียกได้ว่าผมเข้าใจคำสอนพระพุทธเจ้าแจ่มชัดมากขึ้นจาก
    ธรรมะของหลวงพ่อท่านแล้ว ต่อจากนี้ไปผมก็จะปฏิบัติตามแนวทางของ
    ท่าน ตอนนี้ผมมีทางออกชีวิตแล้ว ต้องขอเอ่ยนามท่านผู้เป็นครูของผม
    อย่างแท้จริง

    ขอให้เจริญในธรรมเช่นกันครับ
     
  16. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825




    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับคุณสีลสิกขาค่ะ คุณddman นั้นช่างเป็นคน
    จิตใจดี เข้าใจในเพื่อนมนุษย์เป็นยิ่งนัก "เมื่อเราเข้ามาอ่านข้อความของคุณ ddman
    แล้ว ยอมรับว่าน้ำตาร่วงเลยค่ะ รู้สึกอบอุ่นใจที่ยังพอมีคนที่เข้าใจเราบ้าง"


    "ขอให้คุณ สีลสิกขา และคุณddman นั้นมีความสุขทั้งกายและใจ พร้อมกัน
    นั้น ก็ขอให้เจริญในทางธรรมด้วย เช่นกันค่ะ"
     
  17. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825


    ขอบคุณค่ะ คุณpnumso เราจะลองนำคำแนะนำที่คุณมีให้ มาปรับใช้ในชีวิตค่ะ
    ยอมรับนะคะ ว่าปฏิบัติธรรมก็ดี ศึกษาธรรมมะก็ดี ตัวเราเองนั้น ยังไม่ได้ทำเต็มที่เท่าที่
    ควร คือศึกษาไม่ถ่องแท้นัก ไม่ได้ยึดครูบาอาจาร์ยท่านใดเป็นแนวทางในการปฏิบัติ คือ
    เราจะทำอะไรที่เรารู้สึกสบายใจเพียงเท่านั้น เรารู้ตัวว่าเข้ามาในเว็บพลังจิตนี้เราเอง
    เป็นผู้ที่มีปัญญาน้อยมาก เราจะน้อมรับแสงสว่างแห่งการดำเนินชีวิตในทั้งทางโลกและ
    ทางธรรม ที่เพื่อนๆผู้รู้และเข้าใจในธรรมให้คำแนะนำไว้ มาเปลี่ยนแปลงตัวเอง



    "ขอให้คุณ pnumso เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2013
  18. pnumso

    pnumso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2010
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +173
    ขอบคุณครับ จริงๆการศึกษาธรรมะนั้นไม่ควรยึดถือที่ผู้สอนแต่เพียงอย่างเดียว
    ต้องเปิดใจให้กว้างรับฟังธรรมเทศนาของพระอริยสงฆ์ทุกท่าน ผมฟังหมดครับ
    ไม่ว่าจะหลวงพ่อท่านใด แต่ละท่านสอนในสิ่งเดียวกัน คือ ละชั่ว ทำดี

    แต่สิ่งที่ท่านสอนนั้นเราต้องนำมาคิดประติดประต่อให้เข้าใจจริงๆ ในความรู้ที่ผม
    มีเรื่องธรรมะผมไม่ได้มีจากคำสอนหลวงพ่อท่านใดโดยเฉพาะ บางท่านสอนใน
    พระไตรปิฎกอย่างคล่องจำได้แม้กระทั่งอยู่หน้าใด บรรทัดไหน บางท่านสอน
    การทำสมาธิดีมาก บางท่านสอนเรื่องการเจริญสติปัฎฐานได้ลึกซึ้ง แล้วแต่ละ
    ท่านก็มีวิธีการปฏิบัติไม่เหมือนกัน

    ดังนั้นอย่าใส่ใจว่าท่านใดทำผิดหรือถูกเพียงแต่ให้ใช้การเปรียบเทียบเพื่อให้
    เข้าใจมากที่สุดท่านใดสอนเรื่องเดียวกันแล้วเราเข้าใจมากที่สุดก็น้อมรับท่าน
    เป็นอาจารย์เป็นครู ตำราก็เช่นกัน สอนกันเรื่องเดียวกัน แต่บางเล่มอธิบายได้
    ละเอียดบางเล่มอธิบายได้กระชับ บางเล่มก็ไม่ได้สอนสิ่งที่เราอยากจะรู้

    ฉะนั้นถ้าจะเปรียบแล้วก็เหมือนกันกับการเรียนหนังสือ เราจะใช้หนังสือหรือ
    ตำราเพื่อเรียนรู้อะไรก็ตาม ต้องเปิดใจอ่านมันหลายๆเล่ม เมื่อได้สิ่งที่เรารู้จาก
    เล่มใด เล่มนั้นถือว่าเป็นประโยชน์ยิ่งครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2013
  19. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825


    เริ่มจะเข้าใจกระจ่างชัดขึ้นแล้วค่ะ คุณpnumso อธิบายให้เราเข้าใจได้(สงสัย
    ปัญญาในทางธรรมจะเริ่มเปิด) จะพยามศึกษาและอ่านให้มากขึ้นกว่าเดิมค่ะ เมื่อใดที่เกิด
    ข้อสงสัยจะเข้ามาหาคำตอบในเว็บนี้บ่อยๆ และจะพยามทำความเข้าใจในคำสอนนั้นๆ
    ด้วยสติ ทุกวันนี้ที่ทุกข์ใจอยู่ก็เพราะ คำว่า ยึดติดและการป่ลอยวางไม่เป็น มัวแต่ไปหลง
    เสียเวลาอยู่ตั้งนาน

    คุณpnumso เป็นผู้มีปัญญาในทางธรรม ช่วยทำให้คนอย่างเราซึ่งเป็นบัวที่อยู่
    ในโคลนตม พอจะมีหนทางที่จะรอวันโผล่ขึ้นมาพ้นน้ำได้บ้าง "ขอบคุณ จากใจค่ะ"
     
  20. pnumso

    pnumso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2010
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +173
    ขออนุโมทนาอีกครั้งครับ คำขอบคุณทำให้ผมมีความสุขที่ได้ให้ธรรมะช่วยชี้ทาง
    แก่คุณ tassumalee ขอกุศลนี้ช่วยคุ้มครองให้ชีวิตดียิ่งขึ้นครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...