ปกิณณกะธรรม

สุดท้ายกะว่ากันไปตามสันดาร55

 

สมุทเฉทไใม่ดับก็ประหารกิเลสเป็น7 11สิ

 

ขำไงดับหมดเป็นอรหันต์ 555 สักว่าอ่านเอาไง เห็นว่าสมุทเฉทคืออะไรกันแน่ มันใช่เรื่องไหม ไม่พาไปไกลดีกว่า แต่มันไม่ใช่เรื่องการดับสมุทเฉทแน่นอน 555

 

กิเลสไม่มีหมดหลอกตัดไปเหอะ
แต่จิตจะรับไม่รับอยู่ที่อาสวกิเลสเรา
ถ้าหมดอาสวะมันจะไม่รับกิเลสอีก

 

คำหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี(ถ้าจำไม่ผิด) สอนหลวงพ่อปราโมท ที่ว่า..

"ผู้รู้ ผู้รู้ ออกมาอยู่นอกๆนี่"

แค่เท่านี้ ก็ สอนถึงขั้นอรหันตมรรคแล้วโยมเอ๊ย!!

 

จบด้วย 555

 

ฟากะเหวสายสะสมกิเลสละดถึงคิดว่าตัดละมันจะหมด55

 

หมดอาสวะรู้ชัดในอริยสัจ
จบกิจประมาณนี้ละมั้ง

 

ส่วนอาสวะเจอพระพุทธเจ้าจะลอยขึ้นมาแสดงตัว

 

อาสวกิเลส คือ กิเลสที่หมักหมม นอนเนื่องทับถมอยู่ในจิต ชุบย้อมจิตให้เศร้าหมอง ให้ขุ่นมัว ให้ชุ่มอยู่เสมอ เรียกย่อว่า อาสวะ ก็ได้ มี ๔ อย่าง คือ

1. กาม ได้แก่ ความติดใจรักใคร่อยู่ในกามคุณ
2. ภพ ได้แก่ ความติดอยู่ในภพ ความอยากเป็นโน่นเป็นนี่
3. ทิฏฐิ ได้แก่ ความเห็นผิด ความหัวดื้อหัวรั้น
4. อวิชชา ได้แก่ ความไม่รู้จริง ความลุ่มหลงมัวเมา

 

ถ้าสมุทเฉท คือ ขณะบรรลุธรรม ก็แค่เห็นขณะเดียว แบบนี้เรียกดับไปไหมท่าน

 

ใครจะเหมือนสายมโน โล้นซ่าส์กับนายมโน อย่างร่องละ หรือจะกระตุกอารมณ์. ...ร่องเอ้ย โอม มโนๆๆๆ 555

 

ขออนุญาติหลวงพี่ครับ โครตปุถุชน ข้ามไปโครตอริยะ แล้วกระโดดกลับไปมาโครตปุถุชนอีก กระโดดไปกระโดดมา 4 ครั้งหรือครับ พิจารณาใหม่ด้วยครับ

 

ลองสังเกตเพิ่มดูก็ได้ครับ ว่ามันยังมีเราหรือความเป็นเราเข้าไปเกี่ยวข้องไปเป็นในปรากฏการณ์นั้นๆด้วยไหม อย่างจิตเนี่ยเอาเข้าจริงๆมันทำงานด้วยตัวมันเอง ดับทุกข์ก็ดับทุกข์ด้วยตัวเอง(ถ้าปัญญาถึงพร้อมพอครับ) ปัญญาภายนอก ปัญญานึกปัญญาคิดนี่ทำได้ในแง่ตะล่อมจิตให้จิตหายกำเริบหายเตลิด กลับเข้ามาสงบเป็นกลางก่อน แล้วการเห็นความจริงด้วยปัญญาจะตามมาเอง จิตจะดับทุกข์ด้วยตัวเอง โดยไม่มีเราเข้าไปเกี่ยวข้อง ความเห็นว่าเป็นตัวเราของเรานี่จะรู้ชัดว่าเป็นเรื่องของความมีสักกายทิฏฐิไปเองเฉยๆครับ

 

อนัตตาญาณ คือญาณหยั่งรู้ ในความเป็นอนัตตา

จิตตัดสินผลได้เลยถ้าจิต มีญาณนี้เกิดขึ้นประกอบกับจิต

ถ้าพูดถึงโดย สมาธิ เรียกว่า สุญตสมาธิ

ส่วน อนิจจญาณ ก็เช่นเดียวกัน
ถ้าพูดถึง โดย สมาธิเรียกว่า อนิมิตสมาธิ

และ ทุกขญาณ ก็เช่นเดียวกัน
ถ้าพูดถึง โดยสมาธิ เรียกว่า อัปปณิหิตสมาธิ

ธรรม สามประการ คือ สุญตสมาธิ อนิมิตสมาธิ อัปปณิหิตสมาธิ

จะเกิด ในการเจริญ สติปัฏฐาน เท่านั้น

สติปัฏฐาน มี 21 บรรพะ
ภาษาบ้านๆก็คือ 21 วิธี ในการเข้าถึง สติปัฏฐาน

และไม่ใช่ ว่า ต้องเกิด ธรรมสามประการทั้งหมด จึงจะ จบกิจ

เพียงแต่ ในการที่จิตตัดสินเห็น อนัตตา อนิจจัง ทุกขัง

อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็เห็นรอบโลกแล้ว

เลยเรียก
ในการเห็นอนัตตา เรียกว่า สุญตสมาธิ
เห็นอนิจจังเรียก อนิมิตสมาธิ
เห็น ทุกขัง เรียก อัปปณิหิตสมาธิ

หรือจะเรียกว่า อนัตตาญาณ อจิจญาณ ทุกขญาณ ไม่ได้เกิดขึ้นได้บ่อย จะเกิดขึ้นเมื่อ
จิตตัดสินผล ใดผลหนึ่ง ไปจน ผลสุดท้าย


แถมให้อีกนิด

ในสติปัฏฐาน มีกาย เวทนา จิต ธัม
ย่อลงมา คือ กายกับใจ

กายกับใจ มีสถาพ หรือลักษณะ ของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
เขาเอากาย ใจ นี้เป็นเครื่องฝึก
อาศัยเพียง ระลึกในการสร้าง สติ
เพื่อให้จิตเห็น ตัวมันเอง
ก็คือเห็น ตัวมันเองเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
มันจึงพ้น ข้ามโลกไปได้


อีก น้อยหน่อยละกัน
สำหรับ อนิมิต ก็คือ ไม่มีที่หมาย
หมายความว่า

กายกับใจ ที่อาศัยเอามาระลึก
มันมีสภาพ ไม่เที่ยง จึงเรียกว่า ไม่มี ที่หมาย
ไม่เที่ยงอย่างไร เช่น
กายขยับ เดิน ยืน นั่ง นอน ขยับ คู้เหยียด ย่อ
เปลี่ยนแปรไปเรื่อย ทั้งภายนอก ภายใน
ไม่ได้อยู่ใน ท่าเดียวแข็งถื่อตลอด
กายมันแสดงการแปรเปลี่ยน ไปเรื่อย
จึงเรียกว่า มีสภาพไม่เที่ยง

การฝึกจึงอาศัยกาย ที่มันมีสภาพไม่เที่ยง
อาศัย มาฝึก เป็นเครื่องรู้ให้จิตเครื่องระลึก ให้สติ

ด้วยการ ตามรู้กาย ที่มันขยับ ที่มันเคลื่อน
จน จิตมันจดจำสภาวะ การเคลื่อนได้
สติมันก็จะเกิดขึ้นอัตโนมัติ เมื่อสติเกิดขึ้น
จิตมันจึงเห็นตัวมันเอง เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เดี๋ยวกายเคลื่อนเดี๋ยวแขน เดี๋ยวขา เดียวย่อ ยก ถอย
เหยียด คู้ นั่ง นอน พวก นี้
จนมัน คล่อง ก็เกิด ญาณคือความรู้
มันก็จะตัดสินผลในความเป็น อนิจจัง เรียก อนิจญาณ
จิตจึงมีปัญญารู้แจ้งเห็นจริง
เรียกการเห็นในสภาพธรรมแบบนี้เรียกว่า อนิมิตสมาธิ

ไม่ใช่ ว่า ได้ อนิมิตสมาธิแล้ว ไม่พอ
ต้องไปได้ สุญตสมาธิอีก แล้วก้ต้องได้
อัปปณิหิตสมาธิอีก ถ้าแบบ นี้ คือ รู้ไม่จริง

สาวกเดินตามพระศาสดา จะเห็นเพียงอย่างใดอย่างนึง
ไม่จำเป็นต้อง แจ้งแบบพระศาสดา ทั้ง สามประการ

เหมือน ปฏิจจสมุปบาท
ทุบปลอกใดปลอกหนึ่ง ปลอกโซ่ก็หลุดออก
มีแต่พระศาสดา ที่ทุบได้ทุกปลอก
เพราะความเป็นพระสัพพัญญู มีความสมบูรณ์โดยธรรม

 

สาธุครับท่านปราบ
แผนที่นะท่านดีเจ เอาแค่นี้ท่าน มรรคไปยันผล

 

พี่ว่ามันไกลไปสำหรับเขาและเขาๆๆๆๆ โดยเฉพาะโล้นซ่าส์กับนายมโน555

 

กินอิหยังมาคึกแท้ผีฝ้าภาวนาหามุขมาด่าแฟ๊พ55

 

แม่งหลอนกว่าเราอีกช่างกล้าเรียกคนอื่นมโน55

 

555....ร่องเอ้ย