ผ่านเวทนา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Mdef, 13 มิถุนายน 2021.

  1. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    images (2).jpg

     
  2. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    D6CFC33F-5A50-41F1-92AF-5D834B5B0DA0.jpeg

    อย่าเที่ยวเป็นคนหลงโง่โชว์อวดกันนักเลย!
    อวดเก่ง อวดฉลาด อวดความคิด อวดรวย อวดหน้าตา อวดร่างกาย อวดภูมิรู้ อวดภูมิธรรม สารพัดที่จักเอาออกมาอวด ล้วนแต่มิได้ทำให้ชีวิตมันดีขึ้นมาเ

    คนที่เขากินข้าวอิ่มแล้ว ไม่จำเป็นต้องบอกใครๆ ว่าอิ่ม
    คนหิว คนกระหาย จึงจำเป็นต้องละเมอเห่ออวด ด้วยไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าตนเคยขาด ตนไม่พอ

    คนที่เขารวยจริง ไม่เห็นต้องบอกอวดใครต่อใคร
    เศรษฐีร้านทอง เจ้าของร้านเพชร มีใครเขาเอามาใส่ประดับอวดรวยบ้างล่ะรึ?

    ท่านผู้มีปัญญาจึงกล่าวว่า.. ใครชอบอวดสิ่งใด ก็เพราะขาดในสิ่งนั้น ฤาเคยขาดตกบกพร่องในสิ่งนั้นๆ มาก่อน

    ความสุขลวงโลก คือ ความรู้สึกว่าตนดีกว่าใครในแค่ช่วงเพลาสั้นๆ จากนั้นความเดียวดาย ความว้าเหว่ ความรู้สึกไม่มีใคร ก็จักเข้ามาแทนที่ความสุขลวงๆ นั้น อีกคราหนึ่ง

    ความรู้สึกว่าตนดีกว่าใคร ตนเด่นดังกว่าใคร ตนเหนือใคร จึงเป็นจุดเริ่มที่จักคิดเปรียบเทียบกับผู้อื่น

    ความรู้สึกคิดเปรียบเทียบ จึงเป็นจุดเริ่มในการดูหมิ่น ดูแคลน เหยียดหยามผู้อื่น

    ความรู้สึกดูหมิ่น ดูแคลน หยามเหยียดผู้อื่น จึงเป็นเหตุให้คอยเที่ยวตัดสินผู้อื่น ด้วยอคติ แลกิเลสที่พอกพูนอยู่ในจิตใจของตน คือความหลง

    ความหลง จักเปลี่ยนแปลงจิตใจให้กลายกลับเป็นคนคิดลบ ยังผลให้กลายเป็นคนพาลสันดานร้ายได้ในที่สุด

    การอวด จึงเป็นการสร้างอัตตา สร้างตัวตน ให้เกิดขึ้นมา ซึ่งเป็นความหลง เป็นกิเลสแม่ใหญ่ในพระพุทธศาสนา

    องค์สมเด็จพ่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรัสสอนให้เราทั้งหลายพากันละความหลง ความโกรธ ความโลภ แต่เรากลับเดินเข้าหาความหลงโดยไม่ยั้งคิด ไม่รู้ตัว ด้วยการติดกับดักความเขลาแห่งความหลงโง่

    จงหัดทำตัวเป็นคนธรรมดาๆ ที่ไร้ความสำคัญ ไม่ต้องเที่ยวโชว์อวดใครต่อใครซะบ้างนะลูก เผื่อจักได้พบกับความสุขที่แท้จริงกับเขาบ้าง!

    #พ่อ #พระธัมมสรโณ
     
  3. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    BFC52A11-86C5-43DF-AE10-9020F395FC06.jpeg

    เห็นจริงหรือมายา คนที่เข้ามาหาหลวงตามีมากมายหลายแบบ หลายๆประเภท ท่านต้องพบเจอ คนสารพัดชนิด ทั้งดีและไม่ดี บางพวกก้เข้ามาช่วยเหลือ บางพวกก็เข้ามาเกาะกระแสท่านทำมาหากิน หลวงตาบอกเสมอว่า เราเป็นของสาธารณะ เป็นที่พึ่ง ต้องปล่อยไปตามกรรม กรรมนั้นยุติธรรมจะจัดสรรเอง ตัวแปรคือแค่ เวลาเท่านั้น เมื่อต้นปี 52 ที่ถ่ำ หลวงตายืนมองอยุ่ระเบียงหน้าถ่ำ ด้านล่างมีกลุ่มคน มาทำพิธีอะไรไม่รู้ มีคนมาแจ้งหลวงตาว่า มีคนมาอ้างว่าผ่านหลวงปู่ มาโปรดคน คนเลยแห่ไป เค้าเอาผ้าพันคอวางที่หัวแล้วให้พร บอกผ่านพลังจากหลวงปู่ หลวงตายืนมองแล้วถอนหายใจ เราถามว่าเป็นอะไรเจ้าค่ะ หลวงตาบอกเอ็งดูสิ คนพวกนี้เค้าคิดไม่ออกหรอ อะไรจริงอะไรหลอก นี่ขนาดสวดมนไหว้พระกันมานาน ยังไปเชื่อ เรื่องแบบนี้ หลวงปู่ท่านไม่มาเล่นอะไรแบบนี้หรอก น่าสงสารจริงทั้งคนทำ ที่อ้างหลวงปู่ เค้าไม่รู้หรือว่ามันกรรมขนาดไหน ตะกี้คนพวกนี้ขึ้นมา สนทนากับหลวงตา เค้าเล่าต่อหน้าคนอื่นว่าตัวเอง เห็นไปสามโลก ย้อนอดีตได้ สื่อกับหลวงปู่ได้ หลวงตาบอกไปว่า เห็นน่ะเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นจะจริงหรือป่าวไม่รู้ แค่นี้เค้าก็เอาไปสร้างนิทานหลอกคนกันแล้ว คนเรานี่น่าสงสาร แยกไม่ออกระหว่างมายากับความจริง อดีตที่ผ่านมา เราถึงงมงาย ยึดติดกับนิทานเรื่องเล่าต่างๆ เพราะคนชอบอะไร ที่ตื่นเต้น ปาฏิหาริย์ เลยเป็นหนทางให้คนเอาเรื่องพวกนี้มาหลอกทำมาหากิน พระพุทธเจ้า ท่านไม่ได้สอนอะไรเลย นอกจากความจริงแท้ของธรรมชาติความปกติ เช่น ต้นไม้มันก็คือธาตุ มันก็คือต้นไม้ ก้แค่นั้น แต่คนเอาต้นไม้ ไปต่อเติมเป็นไม้มงคล มีฤทธ์ กลายเป็นเรื่องเล่าความเชื่อ ขายทำมาหากินได้ ทุกอย่างมันเลยจบที่ผลประโยชน์ไปหมดล่ะ เอ็ง คิดง่ายๆแบบมีสติ ตามจริง คนที่เค้ามีความละเอียด บริสุทธของจิตขนาดสื่อกับวิญญาณและย้อนอดีตได้ เค้าจะมา โม้โอ้อวดตนเองหรือไม่คนที่จะทำได้ขนาดนี้กิเลสมันบางเบา อัตตาน้อย ความบริสุทธิสูง คนพวกนี้ ต้องการการยอมรับจากคนอื่นให้ตัวเองมีตัวตน มันต่างคนล่ะด้านกับคนที่เค้าปฎิบัติเพื่อ ล่ะ ตัวตน ยิ่งทำมันต้องยิ่งเบา ไม่ใช่หนักด้วยอัตตา และกิเลสตันหา ท่านบอกว่า เข้าใจหรือยัง ที่หลวงตาว่า อารมณมันจะดี จิตจะเบา ใจมันจะคลาย มีแต่ความโปร่ง โล่ง สบาย ในใจ มันเป็นภาวะภายในล้วนๆ แต่ส่งผลจากในสู่นอกเองโดยอัตโนมัติ เข้าใจหรือยังล่ะ

    (พระเดชพระคุณหลวงตาม้า)

     
  4. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
  5. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    F011F8B3-0CB4-4500-8D37-C603A35E9966.jpeg


    โง่ก็โง่อย่างนักปราชญ์
    หากฉลาดก็จะฉลาดอย่างคนโง่ เข้าใจไหม ?

    โง่อย่างนักปราชญ์คือยังไงล่ะ ?
    นักปราชญ์ท่านศึกษาของจริงในจิตนี้

    ฉลาดอย่างคนโง่ ก็คือรู้หมดสารพัด
    รู้ตามตำราผูกนั้นผูกนี้
    นั่นล่ะ ฉลาดอย่างคนโง่

    โง่อย่างนักปราชญ์ ฉลาดอย่างคนโง่
    เราจะเอาอย่างไหน ?

    หลวงปู่แบน ธนากโร
     

แชร์หน้านี้

Loading...