พุทธธรรมดา ๓๐ ทัศ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย thanan, 24 เมษายน 2005.

  1. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,668
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,215
    <u>จากหนังสือธรรมะเพื่อชีวิต เล่มที่ ๓๙ ฉบับวันมาฆบูชา ๒๕๔๗</u>


    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ละพระองค์ในอดีตที่ผ่านมา หรือที่จะอุบัติมีขึ้นในอนาคต ล้วนแต่จะต้องเป็นไป ๓๐ อย่าง เรียกว่า พุทธธรรมดา ๓๐ ทัศ คือ

    <b>พุทธธรรมดา ๓๐ ทัศ</b>

    ๑. พระโพธิสัตว์ผู้มีภพสุดท้าย มีสัมปชัญญะรู้ตัวลงสู่พระครรภ์พระมารดา

    ๒. ขณะอยู่ในครรภ์ทรงนั่งขัดสมาธิ หันพระพักตร์ออกไปทางเบื้องหน้าพระมารดา

    ๓. ขณะประสูติพระมารดาย่อมยืนประสูติ

    ๔. ทรงประสูติในป่า ไม่ประสูติในราชนิเวศน์

    ๕. เมื่อประสูติ จะยืนบนแผ่นทองที่เทวดามารองรับ หันหน้าไปทางทิศอุดร เสด็จย่างพระบาท ๗ ก้าว ตรวจดูทิศทั้ง ๔ แล้วทรงเปล่งสีหนาทว่า "เราเป็นผู้เลิศในโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐสุดในโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ความเกิดใหม่ย่อมไม่มี"

    ๖. วันใดที่พระโอรสสมภพ จะทรงเห็นเทวทูต ๔ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย บรรพชิต และวันนั้นจะเสด็จออกสู่มหาภิเนษกรมณ์

    ๗. ทรงนุ่งห่มผ้ากาสาวพัตร์ ถือเสมือเป็นธงชัยแห่งพระอรหันต์ แล้วบำเพ็ญเพียรอย่างน้อย ๗ วัน จึงบรรลุ

    ๘. ทรงเสวยข้าวมธุปายาสในเช้าวันที่จะตรัสรู้

    ๙. ทรงใช้สันถัตหญ้า (หญ้าคา) อธิษฐานเป็นบัลลังก์ บำเพ็ญเพียรทางจิตเพื่อตรัสรู้

    ๑๐. ทรงใช้อานาปานสติกัมมัฏฐาน เป็นเครื่องพิจารณาลมอัสสาสะปัสสาสะ

    ๑๑. ทรงใช้บารมี ๓๐ ทัศ ขจัดพระยามารและเสนามาร

    ๑๒. ทรงบรรลุบุพเพนิวาสานุสติญาณ ทิพพโสตญาณ และทิพพจักขุญาณ ก่อนตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ๑๓. เมื่อได้ตรัสรู้แล้ว ทรงยับยั้งอยู่ใกล้บริเวณโพธิบัลลังก์ ๗ แห่ง แห่งละ ๗ วัน

    ๑๔. ท้าวสหัมบดีพรหมลงมาทูลอาราธนาให้ทรงแสดงธรรม

    ๑๕. ทรงแสดงธรรมจักรกัปปวัตนสูตรที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน

    ๑๖. ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ในวันเพ็ญเดือน ๓ มาฆฤกษ์

    ๑๗. ทรงประทับอยู่ประจำ ณ ที่พระวิหารเชตวัน

    ๑๘. ทรงกระทำยมกปาฏิหาริย์ใกล้ประตูกรุงสาวัตถี

    ๑๙. ทรงแสดงอภิธรรมโปรดพุทธมารดาบนดาวดึงส์สถาน

    ๒๐. เสด็จลงจากชั้นดาวดึงส์โดยบันไดแก้วใกล้ประตูเมืองสังกัสสนคร

    ๒๑. ทรงเข้าผลสมาบัติเป็นเนืองนิจทุกราตรี

    ๒๒. ทรงตรวจดูเวไนยชนผู้มีวาสนาบารมีวันละ ๒ เวลา คือ เช้าและบ่าย

    ๒๓. เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้น จึงทรงบัญญัติสิกขาบท

    ๒๔. เมื่อเหตุต้นเรื่องเกิดขึ้น จึงตรัสชาดก

    ๒๕. ทรงแสดงเรื่องราวพุทธวงศ์ในที่ประชุมแห่งพระญาติ

    ๒๖. เมื่อมีอาคันตุกะมาสู่สำนักของพระพุทธองค์ ก็จะให้การปราศรัยต้อนรับ

    ๒๗. เมื่อพระพุทธองค์ได้รับนิมนต์ให้จำพรรษา ณ ที่ใด ก่อนจากไป ก็จะต้องบอกผู้รับนิมนต์นั้นก่อนเสมอ

    ๒๘. พระพุทธเจ้าย่อมทำกิจ ๕ อย่าง คือ ๑.ปุเรภัตตกิจ ๒.ปัจฉาภัตตกิจ ๓.ปฐมยามกิจ ๔. มัชฌิมยามกิจ ๕.ปัจฉิมยามกิจ ทุกวันมิได้ขาด

    ๒๙. เสวยรสมังสะในวันปรินิพพาน

    ๓๐. ทรงเข้าสมาบัติยี่สิบสี่แสนโกฏิครั้ง แล้วจึงปรินิพพาน

    (อรรถกถาพระสุตตันตปิฎก พุทธวงศ์ ปฐมปาราชิกวรรณนา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2005

แชร์หน้านี้

Loading...