มีใครพอจะให้ข้อมูลเรื่องจิตสังหารได้ไหมครับ

อยากรู้มากครับ

 

ผมไม่แน่ใจนะครับว่าจะเป็นอันเดียวกับที่คุณต้องการทราบหรือเปล่า คืองี้ครับ จิตสังหาร เป็นจิตที่เกิดจากความคิดฆ่าฟัน แผ่ออกมาจากจิตคนนั้นๆ ทางตาและทางกาย มักเกิดจากผู้มีใจอาฆาตพยาบาท ไม่ก็พวกนักรบ ทหาร นักฆ่า หรือคนที่ชาติก่อนเคยเป็นนักรบมาอย่างโชกโชน บางคนอาจจะตายในสนามรบ ซึ่งจะสามารถแผ่จิตสังหารออกมาได้แบบอัตโนมัติตั้งแต่เด็ก จนผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่แปลกใจ ว่าทำไมจึงมีพลังจิตแบบนี้แผ่ออกมาได้ บางคนมีลักษณะโมโหร้าย บางคนดูเรียบๆ แต่มีพลังจิตแบบนี้แผ่ออกมาลึกๆ มักชอบการต่อสู้ ฆ่าฟัน ชอบจับ มีด ดาบ ได้อย่างคล่องแคล่วผิดจากเด็กทั่วไป

 

ผมว่าคล้ายๆกับที่คุณ jeds22 ว่า จิตสังหาร มันเป็นการทำลายหรือทำให้ลดน้อยลง มันจะแตกต่างจาก จิตสังคูณ หรือ จิตสังบวก มันจะทำให้เพิ่มขึ้น
คิดแค่นี้ง่ายๆ ไม่ต้องไปคิดให้มันยุ่งยาก ชื่อมันก็บอกอยู่ทนโท่อยู่แล้วนะ
ส่วน จิตสังลบ นี่จะมีความรุรแรงน้อยกว่า จิตสังหาร น่าจะเข้าใจตามนี้นะ
เพียงใช้หลักคณิตศาสตร์นิดหน่อยก็เข้าใจแล้ว ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้นนะเออนะ

สวัสดี จิตสงเคราะห์
จากคนที่ยังไม่เต็มบาทสักที

 

ผมว่าคล้ายๆกับที่คุณ jeds22 ว่า จิตสังหาร มันเป็นการทำลายหรือทำให้ลดน้อยลง มันจะแตกต่างจาก จิตสังคูณ หรือ จิตสังบวก มันจะทำให้เพิ่มขึ้น
คิดแค่นี้ง่ายๆ ไม่ต้องไปคิดให้มันยุ่งยาก ชื่อมันก็บอกอยู่ทนโท่อยู่แล้วนะ
ส่วน จิตสังลบ นี่จะมีความรุรแรงน้อยกว่า จิตสังหาร น่าจะเข้าใจตามนี้นะ
เพียงใช้หลักคณิตศาสตร์นิดหน่อยก็เข้าใจแล้ว ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้นนะเออนะ

สวัสดี จิตสงเคราะห์
จากคนที่ยังไม่เต็มบาทสักที

 

"จิตสังหาร"ขอเสริมคุณjeds22นิดนึงครับ สำหรับความรู้สึกอาฆาต พยาบาท มุ่งร้ายต่อผู้อื่นนั้น เบื้องลึกของจิตใจคนผู้นั้นไม่มีวันสงบสุขหรอกครับ แม้ภายนอกจะทำเหมือนมีความสุขขนาดไหนแต่ในจิตลึกๆมีแต่ความทรมานใจ มักจะโหยหาความรัก ความจริงใจ จากผู้อื่น ผู้ที่มีความสุขจริงๆเขาไม่คิดเช่นนี้แน่นอนครับ เขามีแต่ความเมตตาต่อผู้อื่น เห็นใจเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน ไม่แบ่งแยกเรา-เขา ครับผม
ส่วน "การสังหารด้วยพลังจิต" มีมากมายหลายวิธีสุดแล้วแต่กิเลสคนมันจะคิดกันได้ จะใช้ไสยศาสตร์ก็ได้ ใช้อภิญญาก็ได้ หรือใช้หลักจิตวิทยาถากถางให้ชอกช้ำหัวใจตายก็ยังได้ครับ ส่วนจะได้ผลอย่างไรก็อ่านจากย่อหน้าข้างบนครับ ถ้ายังสงสัยอะไรเพิ่มเติมก็ถามได้นะครับ มีผู้รู้(กว่าผม)อยู่มาก เขาจะได้ช่วยคุณได้อย่างตรงจุดครับ

 

จิตสังหาร ในที่นี้หมายถึงพลังจิตแห่งการฆ่าฟัน เป็นพลังจิตซึ่งถูกส่งออกมาในสองกรณี คือส่งออกมารอบตัว แบบออร่า กับส่งออกไปกระทำอันตรายกับเป้าหมาย อย่างที่สองนี้ มีความรุนแรงมาก ถ้าผู้มีพลังสูงๆ เป็นผู้กระทำ แต่ในปัจจุบัน ผู้มีพลังจิตสังหาร มีอยู่น้อยมาก และมักจะถูกพลังอีกด้านควบคุมอยู่ เพื่อความสมดุลย์

 

แล้วเราจะมีจิตสังหารได้ไหมครับ??แล้วมันมีประโยชน์ยังไงเหรอ ทำให้อีกฝ่ายสยอง??= =

 

"

น่ากลัว จังพวกจิตสังหารเนี้ยแสดงว่าโมโหร้ายและสามารถฆ่าคนเอาง่ายๆ ได้สิเนี้ย

 

<------------------- หน้าตาแบบ นี้ปล่าวคับ

 

จิตสังหาร ---> จิตพิฆาต
ฆ่าได้แม้กระทั่งผู้ที่อยู่ห่างไกลสุดขอบโลก

ปล. นักพลังจิตชาวรัสเซีย เคยใช้มาแล้ว เมื่อ 50-60 ปีที่ผ่านมา ถ้าจำไม่ผิด

 

ใช่พูดถูกครับ

ผมสงสัย ว่าคือเหมือนคล้ายๆกับผมมีจิตสังหาร แต่อาจเป็นเรื่องบังเอิญ
ผมเคยลองใช้ แค่คิดอยากให้ใครตาย คน ดังๆ ไปถึง คนธรรมดา คนที่อยู่ ไกลๆ ได้ผลมาหลายครั้งประมาท 10-15 จำไม่ได้และตั้งแต่ ครั้งคนข้างบ้านตาย ไม่เคยใช้อีกเลย ผมไม่เคยโกรธใครเลย จิตผมผิดปกติหรือป่าว
รู้สึกไม่มีความโกรธอยู่ในใจผมเลย ไม่ว่าเรื่องร้ายแรงอะไร ผมก็ไม่รู้สึกมีความโกรธเลย

 

กระทู้นี้ 4-5 ปี ที่แล้วหรือเนีย แล้วจะมีคนตอบผมไหมเนีย

 

ผมพอได้ครับ ศึกษาจากการ์ตูนบ่ิอยๆเด๋วก็ค่อยๆรู้เองครับ

 

จิตสังหารคือ จิตชั่วร้ายที่มีเอาไว้ สังหารตัวเอง นั่นแหล่ะครับ

ก็คือ จิตประเภท เบียดเบียนผู้อื่น ก่อกรรมทำเข็ญ จิตมิจฉาทิฐิ ทั้งหลายนั่นแหล่ะครับ

ที่ว่าเป็นจิตสังหารก็คือ มัน สร้างแต่ ศรัตรู มันไม่สร้างมิตรแท้...มันสร้างแต่กรรม

สุดท้ายกรรมทั้งหลายก็ตามมาสนอง ตัวมันเอง สังหารตัวเอง ไงครับ

นี่แหล่ะ จิตสังหารตัวเอง ด้วยกรรมชั่วของตัวเอง
........
หรือจะมองมุมหนึ่งก็คือ มันคือ จิตมาร ด้านมืด ในใจตัวเองนั่นแหล่ะครับ ใจคนคิดได้ ทั้งดี และไม่ดี

ก็นั่นแหล่ะ ต้องเอาชนะจิตใจ เอาชนะความคิดตนเอง ด้วยการ ฝึกสติปัฏฐาน 4 ให้สำเร็จให้ได้

ถึงจะเอาชนะ จิตมาร จิตสังหาร ในใจของตนเองได้

โทรมาหาผมสิครับ....ผมนี่แหล่ะ ผู้ชำนาญการ เอาชนะความคิดของตนเอง

 

ถ้า ใครก็ตาม เอาชนะความคิด รู้ ทั้งหมดของการทำงานของใจ ว่า มันคิดได้อย่างไรแล้ว

และ เข้าใจ ใจ เข้าใจความคิด ...จนเห็นความจริงของใจ ความจริงของความคิด

ท่านก็ จะ พอหาทาง ปล่อยวางใจ ปล่อยวางความคิด เพื่อ หลุดพ้นจากความคิด หลุดพ้นจากอุปทานใจทั้งหลาย

นั่นก็คือ ท่านก็จะหลุดพ้น จากสมมุติทั้งปวง ที่ใจ มันอุปทาน ขึ้นมานั่นแหล่ะครับ

ท่านก็จะ อิสระทางความคิด ได้จริงๆ หลุดพ้นจาก การเกาะเกี่ยวจากสมมุติทั้งปวง

นี่คือ...ที่สุดของการ หลุดพ้นจาก ดีและไม่ดี หลุดพ้นจาก เทพและมาร หลุดพ้นจาก อัตตาและอนัตตา

จะเหลือ แค่ ความจริง ของตนเอง ที่มีอยู่ในโลก ก็คือ ..

1.โลกที่เป็นจริง
2.เราที่เป็นมนุษย์ รู้ตนเองจริงๆ
3.คนอื่นที่เป็นมนุษย์เหมือนเรา ก็จะเข้าใจคนอื่นได้จริงๆ

ผมเห็นคนหลายๆคน พระหลายๆรูป....ที่พากันฝึก กรรมฐาน 40 กอง ปฏิบัตินั่งสมาธิ มโนมยิทธิ ฝึกจิต ฝึกกสิณ หารู้ไม่ว่า ทั้งหมดทั้งมวล
ก็อยู่ใน โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ นั่นแหล่ะ...ทั้งหมด คือ การ ฝึกสติทั้งนั้น

แต่พุทธองค์ก็บอกแล้วว่า การฝึกสติทั้งหลาย ทั้ง 37 เส้นทาง นั้น ทาง ที่สั้น ที่สุด ก็คือ สติปัฏฐาน 4 นี่เอง

บัว 4 เหล่า บัวพ้นน้ำ ฝึกได้ สำเร็จใน 7 วัน บัวได้น้ำ ฝึกได้สำเร็จใน 7 เดือน บัวน้ำลึก ฝึกได้ สำเร็จ 7 ปี บัวได้ดิน ฝึก 7 ชาติ

นี่ไง ที่ คนหลายคน ถึงรู้ แต่ก็ ยังฝึกไม่สำเร็จ

ผมนี่ไง รู้ทุกอย่าง ทุกขั้นตอน รู้โดยละเอียด......เพราะ สำเร็จมาแล้ว

 

จิตสังหารอีกประเภทหนึ่งก็คือ พวกที่หลงความสุข ติดสุข บนความทุกข์ของผู้อื่น นั่นแหล่ะครับ

พวกที่ คิดเข้าข้างตนเองฝ่ายเดียว เอาสุข เข้าตนเองฝ่ายเดียว ไม่ยอมให้กับใคร ไม่ยอมเสียหน้า ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี คิดแต่ว่า หน้ากูหนาเอาไว้ก่อน ด้านได้ อายอด คนพวกนี้แหล่ะครับ คือพวกที่เห็นแก่ตัวสุดๆ มันออกมาจาก สันดานเลยก็ว่าได้

มันสร้างแต่ ศรัตรู และ กรอบ ครอบตนเอง...กักขังตนเองเอาไว้ ใน สมมุติที่คิดนั้น

สุดท้าย ทั้งโลก ก็ดูเหมือน จะเหลือแต่ มันตัวคนเดียว เพราะ ปิดกั้นคนอื่น ก็เหมือนกักขังตนเอง โดยไม่รู้ตัว

 

มีใครพอจะให้ข้อมูลเรื่องจิตสังหารได้ไหมครับ

รู้ๆ เดี๋ยวตอบไห้ รอแป๊ปนะ

 

มีใครพอจะให้ข้อมูลเรื่องจิตสังหารได้ไหมครับ

รู้ๆ เดี๋ยวตอบไห้ รอแป๊ปนะ

 

จิตสังหารนั้นเิกิดจาก ระวังคอแห้งดิ่มน้ำหน่อยนะ เฮ้ยย ไม่ใช่!!!

จิตสังหาร ก็คือจิตอาฆาตมาตรร้ายอย่างรุนแรงนั่นเอง

เหมือนเวลาเราเจอกับใครบางคนที่เค้าไม่ชอบเรา ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่เคยคุยกับเราแต่เราก็รู้สึกได้ว่า เราไม่อยากอยู่ใกล้คน คนนี้เลย รู้สึกแย่เวลาอยู่ใกล้แบบเนี๊ย

-------------------ว่าเข้าไปนั่น--------------------------rabbit_run_away

 

สังหารตามวาระ เกิดและดับเหมือนพลุ ไม่หลงเหลือ