มุ่งเต็มใจ เมื่อได้พุทธภูมิแล้วจักช่วยให้ผู้อื่นได้ด้วย

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย มุ่งเต็มใจ, 18 มกราคม 2011.

  1. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ลักขณาทิจตุกะของบารมี ๑๐ ,วิริยบารมี

    วิริยบารมี มีอุตสาหะ เป็นลักษณะ.

    มีการอุปถัมภ์ค้ำจุน เป็นรส.

    มีความไม่ท้อแท้ใจ เป็นปัจจุปัฏฐาน.

    มีธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งการปรารภความเพียร เป็นปทัฏฐาน.

    หรือมีความสลด เป็นปทัฏฐาน.
     
  2. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ลักขณาทิจตุกะของบารมี ๑๐ ,ขันติบารมี

    ขันติบารมี มีความอดทน เป็นลักษณะ.

    มีความอดกลั้นสิ่งที่น่าปรารถนา และไม่น่าปรารถนา เป็นรส.

    มีความอดกลั้น เป็นปัจจุปัฏฐาน. หรือมีความไม่โกรธ เป็นปัจจุปัฏฐาน.

    มีความเห็นตามความจริง(ยถาภูตญาณทัสสนะ) เป็นปทัฏฐาน.
     
  3. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ลักขณาทิจตุกะของบารมี ๑๐ ,สัจจบารมี

    สัจจบารมี มีการไม่พูดผิด เป็นลักษณะ.

    มีการประกาศตามความเป็นจริง เป็นรส.

    มีความชื่นใจ เป็นปัจจุปัฏฐาน.

    มีความสงบเสงี่ยม เป็นปทัฏฐาน.
     
  4. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ลักขณาทิจตุกะของบารมี ๑๐ ,อธิษฐานบารมี

    อธิษฐานบารมี มีความตั้งใจ(อธิษฐาน)ในโพธิสมภาร เป็นลักษณะ.

    มีการครอบงำสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์ ของโพธิสมภารเหล่านั้น เป็นรส.

    มีความไม่หวั่นไหว ในการครอบงำสิ่งเป็นปฏิปักษ์ เป็นปัจจุปัฏฐาน.

    มีโพธิสมภาร เป็นปทัฏฐาน.
     
  5. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ลักขณาทิจตุกะของบารมี ๑๐ ,เมตตาบารมี

    เมตตาบารมี มีความเป็นไปแห่งอาการที่เป็นประโยชน์ เป็นลักษณะ.

    มีการนำประโยชน์เข้าไป เป็นรส. หรือมีการกำจัดความอาฆาต เป็นรส.

    มีความสุภาพ เป็นปัจจุปัฏฐาน.

    มีการเล็งเห็นภาวะที่สัตว์ทั้งหลายเป็นผู้น่าพอใจ (มนาปภาวะ) เป็นปทัฏฐาน
     
  6. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ลักขณาทิจตุกะของบารมี ๑๐ ,อุเบกขาบารมี

    อุเบกขาบารมี มีความเป็นไปโดยอาการที่เป็นกลาง เป็นลักษณะ.

    มีเห็นความเสมอกัน เป็นรส. มีการสงบความยินร้าย และความยินดี เป็นปัจจุปัฏฐาน.

    มีการพิจารณาเห็นความที่สัตว์มีกรรมเป็นของตน เป็นปทัฏฐาน.

     
  7. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ปกิณณกกถาบารมี

    อนึ่ง ในบทนี้ ควรกล่าวถึงบารมี โดยความแตกต่างกันแห่งลักษณะ มีการบริจาคเป็นต้น ของทานเป็นต้น เพราะกำหนดด้วยความเป็นผู้ฉลาดในอุบายแห่งกรุณา. จริงอยู่ ทานเป็นต้น กำหนดด้วยความเป็นผู้ฉลาดในอุบายแห่งกรุณา เป็นไปแล้วในสันดานของพระโพธิสัตว์ ชื่อว่า บารมี มีทานบารมีเป็นต้น.

    นำมาจากIndex of /Paris/fontaine

    ��Գ����Һ�������ͤ�����Ҵ���»�С�� �⾸�����âͧ��źص÷������ ���������㹰ҹй�� �դ����ص����㹡�û�Ժѵ�

    [​IMG]
     
  8. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    ฉันฟังมาตั้งนาน โลกอุดร โลกอุดรใครหนอ มีวันหนึ่งก็เลยนั่งอยู่ ใครกันหนอ...? อ้อ...พอเจอหน้าก็ร้องอ้อเลย แต่ว่าท่านพวกนี้ทั้งหมด เดิมทีต้องมาจากพุทธภูมิก่อน พอใกล้จะเต็มก็ลา ลาจากพุทธภูมิเป็นสาวก ก็เลยต้องทำงานพุทธภูมิ

    ถ้าสาวกจริง เขาไม่เอาด้วยหรอก เขาทำงานเฉพาะเรื่องของเขา ที่เห็นว่ามีเยอะๆ ทำได้ก็เงียบฉี่ คืองานของเขาไม่มี พวกนี้ถ้าถึงจุดเขาเว้นงาน คือต้องทำงานตามหน้าที่

    มันมีเรื่องหนึ่งที่เราพูดกันแล้วเหมือนคนบ้า...

    ไอ้ก่อนที่จะลงมานี่มันมีสัญญาใจ ว่าจะมาทำงานอะไร เวลาลงมาเกิดใหม่ๆ ไม่รู้เรื่องหรอก จิตไม่ถึงที่สุด ถ้าจิตถึงที่สุดกระเทาะเปลือกสัญญา อีตอนนี้แหละงานอื่นที่เคยทำมาแล้วก็โยนทิ้งหมด เอาเฉพาะงานของตน

    ไปๆ มาๆ ก็ไปเจอะท่าน ไปเจอะกับท่าน ฉันอยากนึกจะเจอก็ชนปั้งเลย เมื่อชนปั๊บ ถามว่า

    "เป็นพุทธภูมิมาก่อนใช่ไหม"

    คือว่าพวกนี้ถ้าไม่สงสัยแกก็ไม่รู้เรื่องฉัน ถ้าสงสัยก็ชนกันเมื่อนั้นแหละ ต่างคนต่างขี้เกียจด้วยกัน มันไม่เก่งแล้ว มันต้องเก่งมาตอนต้นๆ ตอนต้นก็อยากเก่ง

    ไอ้นักมวยตอนที่หัดใหม่ๆ ไปไหนกำหมัดยิกๆๆ ฉันเป็นนักมวย เอาเข้าเป็นแชมป์แล้ว เขาก็เลิก พระก็เหมือนกัน แก่แล้วก็เลิก แก่ก็มีเรื่องเด็ก ขี้เกียจ จะรู้อะไรไปทางไหนก็ตายแหงๆๆ อย่างพวกนี้ ตายแล้วจะไปไหน หาทางให้มันให้ไปแล้วไม่มาใช่ไหม

    อะไรบ้างที่เราจะเปลื้องความทุกข์ไอ้การเวียนว่ายตายเกิด ก็ภาวะจิตมุ่งตรงสู่นิพพาน คือไอ้การอยากรู้ อยากเห็นก็เลิกกัน แต่ว่าเหตุใหญ่มันชนกันเข้าก็ต้องรู้ สงสัยเขาก็พูดกันเรื่อยเลย โลกอุดรๆๆ คือใคร

    ก็มีคนหนึ่งบังเอิญเข้าไปพบ และก็ขอถ่ายภาพ ภาพแรกเป็นพระ กล้องเดียวกันถ่ายทีเดียว ขอถ่ายอีกทีกันเสีย มีภาพนุ่งโสร่ง ผ้าขาวม้าคาดพุงมีดเหน็บข้างหลัง

    ถามมึงถ่ายอะไร

    ฟิลม์เดียวกันครับ

    ขอถ่ายครั้งที่ ๒ แกร็ก...กันเสีย ก็ไม่เสีย ได้อีกภาพหนึ่ง ถ้าได้ซ้ำก็เสียฟิลม์เปล่าใช่ไหม

    พวกตกใจใหญ่ เป็นไปได้รึ เขาเป็นจะถามทำเกลืออะไร ก็เพราะมันเอง มันเห็นเอง ถามเป็นไปได้หรือ เป็นไปได้แล้ว ไม่น่าจะมาถามเลย

    โลกอุดร ชื่อจริงๆ ก็ อุตตระ พระที่นำพระไตรปิฎกเข้ามาสุวรรณภูมิ อุตตระกับโสณะ หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว...ถ้าถามว่าอยู่ได้ยังไง อย่าลืมคำหนึ่ง พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    "ผู้ใดถ้าคล่องอิทธิบาท ๔ สามารถจะอธิษฐานร่างกายอยู่ถึงกัปหนึ่ง"

    อย่าลืมนะผู้ที่คล่องอิทธิบาท ๔ คือ พระอรหันต์ พระอนาคามีนี่ถือว่ายังไม่คล่อง เพราะอะไร ยังตัดสังโยชน์อีก ๕ ไม่ได้ ถ้าพระอรหันต็ก็ถือว่าคล่อง ไอ้คล่องไม่ใช่ว่าเฉยๆ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา อั๊วะก็ว่าได้นี่ นี่ไม่ได้นะ"

    จากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๕๖ หน้า ๔๗-๔๘
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2014
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,455
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018

แชร์หน้านี้

Loading...