**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7129

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย พิมพ์พระยืน ปีกกว้าง

    ประวัติการจัดสร้างโดย เจ้าคุณธรรมโมลี อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัย ได้นำเกศาของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยที่ทางวัดได้เก็บรักษาไว้ครั้งเมื่อครูบา เจ้าศรีวิชัยต้องโทษอธิกรณ์โดนกักบริเวรอยู่ที่วัดพระธาตุหริภูญชัย ได้นำเส้นเกศาผสมผงกดในแม่พิมพ์ องค์นี้เป็นพิมพย์ยืนมาตรฐาน เส้นเกศาเยอะมากครับ

    ราคา 12000 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_29.jpg Clip_55.jpg Clip_68.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2020
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7130

    เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัยปี 2517 เนื้อนวะเศียรโล้น

    จัดสร้างเมื่อปี 2517 โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล เป็นองค์ประธาน และคุณนิตย์ พงษ์ลัดดา เป็นผู้ดำเนินการสร้าง ช่างผู้บรรจงแกะแม่พิมพ์ คือ ช่างยิ้ม ยอดเมือง ช่างผู้มากด้วยฝีมือเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป พระเถราจารย์ผู้ร่วมพิธีพุทธาภิเษก ล้วนแต่เป็นพระอริยะสงฆ์ ดังมีรายนามดังต่อไปนี้ อาทิเช่น
    1.ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    2.ครูบาอินทจักร์ วัดน้ำบ่อหลวง
    3.ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล
    4.ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย
    5.หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร วัดสันติธรรม ( หรือที่รู้จักว่าปัจจุบัน คือ หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง )
    6.ครูบาชัยวงศ์ษา วัดพระบาทห้วยต้ม
    7.ครูบาทึม วัดจามเทวี
    8.ครูบาสุรินทร์ วัดศรีเตี้ย
    9.ครูบาสิงห์ชัย วัดป่าซางงาม
    10.ครูบาสุข วัดป่าซางน้อย เจ้าอาวาสวัดบ้านปาง และท่านเจ้าคุณพระเทพสารเวที เจ้าคณะภาคเหนือธรรมยุต เป็นประธานฝ่ายสงฆ์นั่งปรกในพิธี เริ่มพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๑๗ เวลา 21.19 น. ณ.วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน
    จำนวนการจัดสร้าง มีรายละเอียดดังนี้
    1.เนื้อทองคำ จำนวน 9 เหรียญ
    2.เนื้อเงิน จำนวน 579 เหรียญ
    3.เนื้อนวะโลหะ จำนวน 3,559 เหรียญ
    4.เนื้อทองแดง จำนวน 5,625 เหรียญ
    5.ล็อคเก็ตลงหิน จำนวน 227 อ้นเท่ากับจำนวน ศีล 227 ข้อ
    รายละเอียดการตอกโค๊ดเหรียญมีดังนี้
    -เหรียญทองคำและเงิน เป็นเหรียญไม่มีหู เหรียญทองคำไม่มีการตอกโค้ต เหรียญเงิน และล็อคเก็ตมีการตอกโค้ตตัว "ศ" และ "ช"
    -เหรียญนวะโลหะตอกตัว "ศ"
    -เหรียญทองแดงตอกตัว "จ"
    เหรียญยอดนิยมของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยครับ

    #รับประกันความแท้ตลอดชีพครับ

    ราคา 15500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    zZNXYy81ClVieYHD1NV0Yz9PDO6FisOfwHAbc0iguksI&_nc_ohc=whH4JaTbPncAX824L3v&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg S5_I8BggdOzL5f8LDjVoGsfpS9ITFdSri_N7_fojW81-&_nc_ohc=4Ba4hJgGmFkAX-AD6Rt&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg 7zgB1eIlRSjvT0txaXxidIJ7QXsZ4TmfAEXGnEvttTZJ&_nc_ohc=8K3XqRK3FZAAX_VgfFv&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg 22Y7ocmDzXF2LhOiEnpoHeVpRMmBMFCsXck_IznSAsv3&_nc_ohc=BF-5BW6Kod0AX8vkY2_&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg DWezfkQ3GegB5e7hScAPOYTxyEU9rabD_li2MBJfyLVG&_nc_ohc=JeVZH3whkugAX8zPUbM&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2020
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7131

    รูปถ่ายซีเปียขนาดแขวนคอครูบาเจ้าศรีวิชัย เลี่ยมทองแดง


    รูปถ่ายครูบายุคเก่าของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย วัตถุมงคลยุคแรกๆ ปี 24กว่า ที่ทำแจกให้เเก่ผู้ศรัทธาในองค์ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยไว้บูชาติดตัวปกป้องคุ้มภัย


    ราคา 9500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_69.jpg Clip_70.jpg Clip_71.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2020
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7132

    รูปครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดงกรอบเดิมจากวัด ขนาด 7*9 ซม


    จัดสร้างถวายโดย คณะศิษย์ รัศมีพรหมโพธิโกด้านหลังมีตราปั๊มผ่านพิธี แบะผ้าจีวรของท่านครูบาครับ

    สวยสมบูรณแบบนี้หายากมากครับ

    ราคา 1850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    รูปถ่ายครูบาขันแก้ว a.jpg รูปถ่ายครูบาขันแก้ว d.jpg รูปถ่ายครูบาขันแก้ว b.jpg รูปถ่ายครูบาขันแก้ว c.jpg Clip.jpg
     
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7133

    พระสมเด็จพุทธเมตตาเกสรขุมเงิน "รุ่นแรก" หลวงพ่อดาบส สุมโน ปี 2531 สวยกล่องเดิมเส้นเกศาเยอะมากครับ

    ** เป็นพระสมเด็จที่ดีทั้งนอกและในครับ
    เพราะก่อนสร้างได้นำมวลสาร คือ เกสรดอกไม้ 108 นำมาให้หลวงปู่ดาบส อธิษฐานก่อนนำไปกดเป็นองค์พระ
    หลังจากสร้างพระเสร็จแล้ว หลวงปู่ได้เมตตา อธิษฐานจิตเดี่ยวๆ ให้หลายวัน ....
    บทสรุปเกี่ยวกับพระสมเด็จรุ่นแรก
    จากการที่ได้ตรวจสอบ จากท่านผู้ทรงอภิญญา พบว่า...
    1. พระสมเด็จนี้ หลวงปู่ดาบส ท่านอธิษฐานให้เป็น " สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ "
    2. สัญลักษณ์ ยันต์ " กงจักร " ด้านหลังพระสมเด็จ ความหมายที่แท้จริง ก็คือ
    จักรแก้วพระพุทธเจ้า อันเป็นอาวุธของพระพุทธเจ้า ที่สำคัญที่สุด ใช้ปราบมาร ปราบสิ่งชั่วร้าย มีฤทธานุภาพสูงสุด..
    3. ท่านบรรจุวิชชาพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นกายสิทธิ์ ลงไปในพระสมเด็จ ที่เรียกว่า บรมจักรพรรดิ์ ( สายวัดปากน้ำ รู้จักกันดี ).
    บรมจักร มีพระบรมเดชาศักดานุภาพและมีฤทธิ์มีอำนาจ ใหญ่ยิ่งสูงสุดกว่า จุลจักร และมหาจักร มีแก้วกายสิทธิ์ชั้น บรมจักรนี้เป็นบริวารอเนกอนันตัง ปริมาณังเหลือที่จะนับจะ ประมาณได้ มีอำนาจเหนือ และเป็นผู้บังคับบัญชาใช้สอยจุล จักร,มหาจักรพร้อมทั้งบริวารจุลจักร มหาจักรด้วย เป็นผู้มีหน้า ทีเลี้ยงและรักษาดูแล ให้สมบัติและความสุขความเจริญ พร้อม ด้วยอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค เครื่องใช้สอย เครื่อง อุปกรณ์ความสุขต่าง ๆ นานา ไม่ให้เบียดเบียนหมู่มนุษย์ คอย พิทักษ์รักษาดูแลหมู่มนุษย์ และทรัพย์สมบัติของมนุษย์ไม่ให้ เป็นอันตราย คอยให้ความสุข ป้องกันความทุกข์ต่าง ๆ ของ มนุษย์เช่นเดียวกันกับแก้วจุลจักรและมหาจักร แต่ทว่าทำหน้าที่ ประณีตกว่า อุดมกว่า สูงสุดกว่าละเอียดกว่าเลิศประเสริฐกว่า ยิ่งใหญ่กว่าแก้วจุลจักรและแก้วมหาจักรทั้ง ๒ ประการนั้น..
    4. ท่านอธิฐานให้ เกศา เป็น " พระธาตุแก้ว "
    5. ท่านอธิษฐานให้ มวลสาร ที่ประกอบเป็นองค์พระ ให้เป็น พระธาตุ ทั้งหมด.
    6. ท่านบรรจุวิชา " ดวงแก้วพระสีวลี " ให้เป็นพิเศษ มีผลเรื่อง ลาภ วาสนา เป็นอย่างยิ่ง.
    7. ท่านเชิญ เทวดา ชั้นสูง ให้สถิตในองค์พระ ดูแลรักษาผู้บูชา ให้มีแต่ความสุขความเจริญ
    8. ผู้ที่ได้เจริญธรรม สวดมนต์ ภาวนา อยุ่เสมอ จะยิ่งทำให้พระสมเด็จ ทรงอานุภาพสูงยิ่งขึ้นไปๆ จนกระทั่งเป็น " แก้วจักรพรรดิ์ "
    9. ท่านอฐิษฐานธรรม บรรจุวิชชา ของพระพุทธเจ้า บันทึกลงไป เหมือนพระำไตรปิฎกเคลื่อนที่
    ยันต์ ด้านหลังเรียกว่า " พระจันทร์ฉาย " เป็นยันต์ประจำตัวของหลวงปู่ มีอานุภาพสูงสุด เรื่อง โชคลาภ วาสนา ส่งเสริมให้คนบูชาร่ำรวยด้วยทรัพย์สิน บริวาร เจริฐลาภ เจริญยศ ส่งเสริมให้ชีวิตไม่มีวันตกต่ำ ประดุจพระจันทร์วันเพ็ญ ที่ส่องแสงนวลประกาย รุ่งเรืองตลอดเวลา..
    หลวงพ่อเป็นพระบุญฤทธิ์ และ อิทธิฤทธิ์ ยากจะหาพระเกจิองค์ใดมาเทียบได้..
    วัตถุมงคลของท่าน มีผู้ที่ได้รับไปบูชา ล้วนแล้วแต่ร่ำรวยและมีวาสนาดีมากๆ ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ไปตามๆกัน ...
    *****************************************
    สำหรับหลวงปู่ดาบส ท่านเป็นพระอริยะเจ้า ที่บำเพ็ญพระโพธิญาน บารมีท่านสูงมากๆ ครูบาอาจารย์หลายท่าน ให้ความยกย่อง บางท่านให้ศิษย์ไปกราบไว้ ไปทำบุญ ไปเรียนวิชากับท่าน เช่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่เกษม เขมโก หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เป็นต้นครับ..
    หัวใจของท่าน ยังเผาไม่ไหม้ แถมยังแปรสภาพเป็น สีเขียวมรกตครับ

    สวยกล่องเดิมเส้นเกศาเยอะมากครับ

    บูชาแล้วครับ

    สมเด็ขลพ.ดาบส 1.0 a.jpg สมเด็ขลพ.ดาบส 1.0 b.jpg สมเด็ขลพ.ดาบส 1.0 c.jpg สมเด็ขลพ.ดาบส 1.0 d.jpg สมเด็ขลพ.ดาบส 1.0 e.jpg สมเด็ขลพ.ดาบส 1.0 f.jpg สมเด็ขลพ.ดาบส 1.0 g.jpg สมเด็ขลพ.ดาบส 1.0 h.jpg clip_57-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2020
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7134

    ตะกรุด 108 +ตะกรุดกาสะท้อน ครูบาอินตา วัดห้วยไซ

    พระครูถาวรวัยวุฒิ (หลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ)พระเกจิผู้ทรงวิยาคมเเห่งเมืองลำพูนพระอาจารย์ของท่านครูบากฤษดาวัดสันพระเจ้าแดง
    วัตถุมงคลของท่านเด่นด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดมหาอำนาจ และเมตตา
    #ตะกรุด 108 ดอก เชือกคาดเอว ตำหรับครูบาอินตา
    ครูบาขั้นตอนการทำตะกรุดต้องพิถีพิถันเป็นอย่างมากจะต้องจารหัวใจพุทธคุณ ลงด้วยอักขระตัวเมืองล้านนา ดอกละสี่อักขระ การถักเชือกการม้วนตัดขอบแบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของท่าน
    #พุทธคุณครอบจักรวาล ทั้งแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี กันสัตว์เขี้ยวงา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเมตตามหานิยม
    #ตะกรุดกาสะท้อน
    จัดเป็นเครื่องรางสายเหนือ ที่ได้รับความนิยมมานาน เชื่อกันว่า มีอิทธิคุณช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายและไม่ดีต่างๆ ให้สะท้อนกลับออกไป ไม่สามารถส่งผลร้ายแก่ผู้ที่พกบูชาติดตัวได้ ทั้งนี้เรามักจะออกเสียง "ก่า" เป็น "กา" จนกลายเป็น "ตะกรุดกาสะท้อน"
    ยันต์ก่าสะท้อนเป็นยันต์ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้นิยมยันต์ล้านนาทั้งหลาย คำว่า “ก่า” เป็นภาษาล้านนา แปลว่า ป้องกัน, ไม่ให้เกิดขึ้น คุณวิเศษของยันต์ก่าสะท้อนนั้น สามารถป้องกันอันตรายต่างๆ ทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็น มนต์ดำ คุณไสย คุณผี คุณคน ที่กระทำย่ำยีมาใส่เรานั้น ตะกรุดนี้จะสะท้อนสิ่งเหล่านั้นกลับไปยังผู้ทำของทำคุณไสยใส่เราได้ตามกฎแห่งกรรม
    อย่างไรก็ตาม ยันต์ก่าสะท้อนมีหลายชนิดหลายแบบแตกต่างกันไป เช่น ยันต์ก่าสะท้อนที่ทำจากหนังลูกวัวเกิดแล้วตายคาอวัยวะเพศ ส่วนมากจะหุ้มหรือพอกยันต์ด้วยครั่ง ยันต์ก่าสะท้อนชนิดนี้สามารถป้องกันอันตรายได้หมด เป็นมหาอุด ปืนยิงไม่ออก หลวงปู่ครูบาเจ้าชุ่ม วัดวังมุย เคยสร้างไว้ ตอนนี้หายากมากแล้ว
    ในส่วนของยันต์ก่าสะท้อนที่ใช้ครั่งพอกนี้ มีคุณวิเศษมากหลายประการ ที่ใช้ครั่งพอกเพราะว่า หากมีผู้ใดประสงค์ร้ายกับเรา ทำคุณไสยใส่เรา ครั่งที่พอกยันต์ก่าสะท้อนจะแตก หากเรานำครั่งที่แตกนั้นไปเผาไฟ ของที่ผู้ประสงค์ร้ายทำใส่เราจะสะท้อนกลับไปหาตัวผู้นั้นเอง นี่คือที่มาของคำว่า ก่าสะท้อน คือทั้งป้องกัน และสะท้อนนั่นเอง
    #ดอกนี้สวยสวยเชือกเดิม ครบสูตรตามตำราทุกอย่างของท่านครูบาอินตา
    พระครูถาวรวัยวุฒิ (หลวงปู่ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ)พระเกจิผู้ทรงวิยาคมเเห่งเมืองลำพูนพระอาจารย์ของท่านครูบากฤษดาวัดสันพระเจ้าแดง
    เจ้าตำหรับตะกรุดยันต์จืน(ตะกั่ว)หน้าแหนบลบเจ็ดครั้งอันโด่งดัง เป็นตำราโบราณของท่านครูบาอินตาได้สืบทอดมาจากอาจารย์ ใช้ตะกั่วโบราณคนล้านนาเรื่องจืนได้จากพระกรุเก่าหรือตะกั่วจืนหน้าแหนบแผ่นตะกั่วที่ติดหลังแก้วอังวะ(แผ่นเเก้วจืนประดับโบราณ) นำมาหลอมแล้วนำมาตีเป็นแผ่นจารยันต์ลงไปทำแบบนี้จนครบตามตำรา 7 ครั้ง
    พุทธคุณลูกศิษย์ทุกท่านต่างทราบกันเป็นอย่างดีเป็นที่กล่าวขาน ไว้เพื่อแจกลูกศิษย์ลูกหา และแจกทหารกล้า พุทธคุณ ข่ามคงกระพัน (เหนียว)และ กันภูตผีปีศาจทั้งหลาย
    โด่งดังมากจนท่านครูบาชุ่ม โพธิโก แห่งวัดวังมุ่ยเจ้าของตำราตะกรุดกาสะท้อนได้ทราบกิตติคุณถึงตะกรุดจืนหน้าแหนบของครูบาอินตาแห่งวัดห้วยไซ ครูบาชุ่ม ท่านได้เดินเท้าจากวัดวังมุย มาถึงวัดห้วยไซ อ บ้านธิ เพื่อมาขอแลกเปลี่ยนวิชากับท่านครูบาครูบาอินตา ทั้งครูบาทั้ง 2 ท่านจึงได้เเลกเปลี่ยนวิชากันครูบาชุ่มนั้นท่านให้ตำรา ตะกรุดหนังควาย ให้กับครูบาอินตา ส่วนครูบาอินตาให้ได้มอบวิชาตะกรุดจืนหน้าแหนบแก่ครูบาชุ่ม จนกลายเป็นตานาน2 จอมขมังเวทย์เเห่งเมืองลำพูนครับ
    สวยเชือกเดิมๆ
    สวยสมบูรณ์หายากมากครับ


    ราคา 2350 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    ตะกรุดครูบาอินตา a.jpg ตะกรุดครูบาอินตา b.jpg ตะกรุดครูบาอินตา c.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2020
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7135

    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อแดง วัดห้วยฉลอง เนื้อฝาบาตร สวยๆ


    หลวงปู่แดง ดวงเศรษฐี วัดห้วยฉลองราษฎร์บำรุง เจ้าตำรับวิชา 'พญาไก่แก้ว' ดักเงินดักทอง หลวงปู่แดง ดวงเศรษฐี หรือ หลวงปู่แดง สิริภทฺโท แห่งวัดห้วยฉลองราษฎร์บำรุง หมู่ที่ 2 บ้านห้วยฉลอง ต.ถ้ำฉลอง อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองอุตรดิตถ์ เป็นศิษย์เอกของ หลวงพ่อไซร์ วัดช่องลม ซึ่งในหมู่พระเกจิอาจารย์ด้วยกันยกย่องท่านว่า เป็นผู้มีวิชาอาคมแกร่งกล้า ทั้งด้านไสยเวทที่ใช้ร่วมกับสมุนไพร ด้านแคล้วคลาด ด้านเมตตามหานิยมดูดวงผูกดวง

    เหรียญรุ่นแรกของท่านเป็นเหรียญสุดยอดประสบการณ์


    ราคา 700 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    เหรียญลพ.แดง a.JPG เหรียญลพ.แดง b.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2020
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7136

    เหรียญรุ่นแรกพระยาพิชัยดาบหัก ปี2513


    การสร้างเหรียญพระยาพิชัยดาบหักนี้ เป็นพิธีมหาพุทธาภิเษกมหาจักรพรรดิ์ พิธีที่ยิ่งใหญ่รองจาก พิธี 25 พุทธศตวรรษ เจตนาการสร้างดี พิธีกรรมดี คณาจารย์ปลุกเสกมากมายเป็นร้อยๆท่าน และมีประสบการณ์ดี อาทิเช่น ทหารค่ายพระยาพิชัยดาบหัก จังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ ที่ได้รับแจกเหรียญ พระยาพิชัยดาบหัก ทุกคนได้ออกปฎิบัติการปราบปราม ผกค.ที่ สมรภูมิ ทุ่งช้าง จ.น่าน สมรภูมิ ยุทธการเชียงของ เชียงคำ จ.เชียงราย สมรภูมิยุทธการภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก และสมรภูมิยุทธการเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นฐานและกองบัญชาการใหญ่ของ ผ.ก.ค. ทางภาคเหนือได้มีการปะทะและถูกลอบโจมตีของกองกำลัง ผ.ก.ค. ต่างก็มีประสบการณ์เช่น บ้างก็ถูกยิงไม่เข้าบ้าง ระเบิดไม่ทำงานบ้าง บ้างก็ถูกกระสุนปึน ค. ซึ่งเป็นกระสุนระเบิดไม่แตกบ้าง แตกแต่ไม่เข้าบ้าง และถูกยิงไม่ถูกบ้าง รอดพ้นภยันตรายปลอดภัยทุกคน และเป็นช่วงเดียวกับ สงครามเวียดนามและลาว ในสมัยจอมพลถนอม กิติขจร ได้ส่งหน่วยกองกำลังทหารไทยทุกภาคฃึ่งทหารไทยมีบทบาทสำคัญที่สุดในศึกสงครามเวียดนามและลาว เพราะภูมิประเทศของประเทศเวียดนามและลาวเป็นป่าเขาเหมือนกับประเทศไทย กองกำลังเวียดนามเหนือหรือเวียดกงจะกลัวกองกำลังทหารไทยมากที่สุด เพราะทหารไทยชินกับสมรภูมิภูมิประเทศแบบนี้ที่เหมือนกันนี้อยู่แล้ว ซึ่งมีทหารค่ายพระยาพิชัยดาบหัก จังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ ไปร่วมรบด้วยกับหน่วยรบขององค์การสหประชาชาติ อันมีอเมริกาเป็นตัวหลักสนับสนุนทั้ง กำลังทหาร กำลังเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อป้องกันประเทศเวียดนามใต้ ให้รอดพ้นจากลัทธิคอมมิวนิสต์ของประเทศเวียดนามเหนืออันมีรัสเซียเป็นตัวหลักสนับสนุนทั้ง กำลังทหาร กำลังเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์ เช่นกัน หน่วยกองกำลังทหารจากทหารค่ายพระยาพิชัยดาบหัก จังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ ที่ได้รับแจกเหรียญ พระยาพิชัยดาบหัก ได้ออก ปฏิบัติการยุทธการ ที่ สมรภูมิเวียดนามและสมรภูมิลาว ได้มีประสบการณ์ ในการปะทะกับกองกำลังทหารเวียดนามเหนือ หรือเวียดกง และถูกลอบโจมตีจากกองกำลังเวียดกง บ้างก็ถูกระเบิดเคโมไม่ระเบิดบ้าง ก็ถูกยิงไม่เข้าบ้าง ระเบิด และ จรวด ด้านไม่ทำงานบ้าง และถูกยิงไม่ถูกบ้าง หลายครั้งหลายคราวรอดปลอดภัยกลับมาที่แผ่นดินเกิดกันทุกคน และไม่ว่าประสบการณ์ท้องถิ่น คือถูกยิงไม่ออกบ้าง ถูกยิงไม่เข้าบ้าง และ บ้างก็รอดปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางการจราจร และรอดปลอดภัย อุบัติเหตุต่างๆ บ้างมากมายทีเดียว

    เหรียญนี้เป็นที่หวงแหนของคนจังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดใกล้เคียง ภาคเหนือตอนล่าง กันมากทีเดียว เพราะมีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์นับครั้งไม่ถ้วน และอนุสาวรีย์ท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหัก ทั้งที่ตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์และศาลท่านพ่อที่อยู่ที่อำเภอพิชัยก็ทรงความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังยิ่งนักใครเดือนร้อนมีทุกข์ต่างๆ ต่างก็ได้จุดธูปเทียนบนบานศาลกล่าวต่อหน้าอนุสาวรีย์ ให้ท่านช่วยให้พ้นความเดือนร้อน และ พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ต่างก็ได้รับความสมหวังกันทั่วหน้า และได้มาแก้บนตามที่ตนบนบานไว้ ส่วนมากก็จะแก้บนด้วย อาหารคาวหวาน สุรา การชกมวย ฟันดาบ และตีไก่ ต่อหน้าอนุสาวรีย์ มีพ่อแม่ของเด็กหนุ่มที่เตรียมจะเกณฑ์ทหาร ได้จุดธูปเทียนบนบานขออย่าให้ลูกเป็นทหาร แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์มากก็คือ ใครก็ตามที่ได้บนบานขออย่าให้ลูกเป็นทหารนั้น ลูกชายของเขาเหล่านั้นทุกคนต้องจับใบแดงได้เป็นทหารกันทุกคน คงจะเป็นเพราะท่านเป็นทหาร ท่านชอบทหาร ท่านเลยดลบันดาลให้ลูกชายของเขาเหล่านั้นเป็นทหารรับใช้ชาติกันซะเลย

    เหรียญพระยาพิชัยดาบหักนี้เริ่มสร้างขึ้นภายหลังจาก ที่ได้มีการสร้างอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ครบ 1 ปี เรื่องอนุสาวรีย์นี้ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ได้เรียกร้องปรารถนาให้มีขึ้นนานแล้วแต่ไม่สำเร็จ ต่อมาถึงสมัยนายเวทย์ นิจถาวร เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดโดยมีพ่อค้า ประชาชน ร่วมกันบริจาคทรัพย์เป็นทุนก่อสร้าง โดยไม่มีงบประมาณแผ่นดินและของทางหน่วยงานราชการมาเกี่ยวข้องเลย เป็นการเกิดจากกำลังศรัทธาอันแรงกล้า ของชาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ต้องการเทิดทูนเกียรติประวัติยอดวีรบุรุษผู้กล้าหาญ และเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ของชาวจังหวัดอุตรดิตถ์และประชาชนชาวไทย ซึ่งเก่งกล้าสามารถทั้งชั้นเชิงแม้ไม้มวยไทย ชั้นเชิงทางเพลงดาบ และเป็นกำลังสำคัญอย่างยิ่ง ท่านเป็นทัพหน้าในการออกศึกโจมตีข้าศึกทุกครั้งคือ”ท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหัก “ ท่านเป็นทหารเอกของพระเจ้าตากสิน มหาราช ในการกอบกู้เอกราช ของชาติไทย ปราบชุมนุมต่างๆรวบรวมเป็นประเทศชาติไทย และปกป้องอธิปไตยให้พ้นจากข้าศึกศัตรู มาได้จนเป็นประเทศไทยกระทั่งถึงทุกวันนี้

    อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ออกแบบและหล่อด้วยทองเหลืองและโลหะผสม โดยกรมศิลปากร ขนาดใหญ่กว่าคนในยุคปัจจุบันจริง 3 เท่า ในชุดนายทหารสมัยอยุธยาตอนปลาย ในลักษณะยืนถือดาบ 2 ข้าง มีผ้ามัดมือที่ถือด้ามดาบติดกับด้ามดาบ เพื่อป้องกันดาบหลุดจากมือ และดาบอีกข้างหนึ่งหักข้างขวา มีการวางศิลาฤกษอนุสาวรีย์ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ. ศ. 2511 จนก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดอย่างป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ. ศ 2512 และทางคณะกรรมการซึ่งมีพลโทสำราญ แพทย์กุล แม่ทัพภาคที่ 3(ยศและตำแหน่งขณะนั้น) เป็นประธาน นายเวทย์ นิจถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ในขณะนั้นป็นรองประธาน พร้อมด้วยที่ปรึกษาอันทรงเกียรติอีกหลายท่าน ได้ร่วมกันดำเนินงานการสร้างเหรียญพระยาพิชัยดาบหักขึ้น ออกแบบเหรียญโดยกองกษาปณ์ กรมธนารักษ์กระทรวงการคลัง โดยจำลองแบบมาจากอนุสาวรีย์ จากนั้นจึงจัดพิธีมหาพุทธาภิเษกขึ้น เป็นพิธีมหาจักรพรรดิ์ครั้งยิ่งใหญ่ ฃึ่งรองจากพิธี 25 พุทธศตวรรษเลยทีเดียว โดยกราบทูลอาราธนา สมเด็จพระสังฆราช วัดมกุฎกษัตริย์ กรุงเทพฯ เสด็จมาเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย พร้อมกันนี้ ทางคณะกรรมการผู้จัดสร้าง ได้กราบอาราธนา นิมนต์พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณร่วมสมัย



    ซึ่งมีชื่อเสียงทรงวิทยาคุณ เป็นที่รู้จักกันดี จากจังหวัด ต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น

    1.สมเด็จ พระสังฆราช (จวน) วัดมกุฏกษัตริย์ กรุงเทพฯ ทรงเสด็จมาเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย
    2.หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง
    3.หลวงพ่อจันทร์ วัดหาดสองแคว อ.ตรอน อุตรดิตถ์ (ท่านเก่งทุกด้าน ที่ลือลั่นไปถึง ต่างประเทศนั่นคือ กิเลนเงิน-กิเลนทอง นำโชค)
    4.หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง อ.เมือง อุตรดิตถ์
    5.หลวงพ่อบุญ วัดน้ำใส อ.ลับแล อุตรดิตถ์
    6.หลวงพ่อปี้ วัดลานหอย อ.ด่านลานหอย สุโขทัย
    7.หลวงพ่อเกตุ วัดศรีเมือง อ.กงไกรลาศ สุโขทัย (ท่านดัง ด้านตะกรุดมหาสะท้อน )
    8.หลวงปู่คำมี ถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
    9.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
    10.หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์
    11.หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค นครสวรรค์ (เนื่องจากท่านอายุมากแล้วท่านไม่ได้มานั่งปรกในพิธี แต่มี ชนวนแผ่นยันต์ ของท่าน)
    12.หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา
    13.หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    14.หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าศาลาลอย ชุมพร
    15.หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม บุรีรัมย์
    16.หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า ระยอง
    17.หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ระยอง
    18.หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
    19.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี
    20.หลวงพ่อทบ วัดชนแดน เพชรบูรณ์
    21.พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา นครศรีธรรมราช
    22.หลวงพ่อทิพย์ วัดโพธิ์ทอง บุรีรัมย์
    23.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    24.หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอเหนือ ศรีสะเกษ
    25.หลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม สมุทรสาคร
    26.หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
    27.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงค์ธรรม สกลนคร
    28.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    29.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
    30.หลวงปู่พริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
    31.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
    32.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร
    33.หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปราจีนบุรี
    34.หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
    35.หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพ
    36.หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ฉะเชิงเทรา
    37.หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม
    38.หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพฯ นครพนม
    39.หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
    40.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสาคร
    41.หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง กรุงเทพฯ
    42.หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี
    43.หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช
    44.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
    45.หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ อยุธยา
    46.หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ นครศรีธรรมราช
    47.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ ((ไม่ได้มานั่งปรกในพิธี แต่มี ชนวนแผ่นยันต์ ของท่าน และอธิษฐานส่งจิตมา )
    48.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี
    49.หลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม ราชบุรี
    50.หลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง กาญจนบุรี
    50.หลวงพ่อมี วัดซำป่างาม ฉะเชิงเทรา
    51.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    52.ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง เชียงใหม่
    53.หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา
    54.หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น
    55.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี เชียงใหม่
    56.หลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์
    57.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี
    58.หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา
    59.หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา ปทุมธานี
    60.หลวงปู่เครื่อง วัดเทพสิงห์หาร อุดรธานี
    61.หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง สระบุรี
    62.พระครูเมตยานุรักษ์ วัดวชิราลงกรณ์ นครราชสีมา
    63.พระครูสัมฤทธิ์ วัดอู่ทอง สุพรรณบุรี
    64.พระวิบูลเมธาจารย์ (เก็บ) วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี
    65.หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี
    66.พระครูกาญจโนปมคุณ (ลำไย) วัดลาดหญ้า กาญจนบุรี
    67.หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
    68.พระครูไพศาลคณารักษ์ วัดไร่ขิง นครปฐม
    69.หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย นครนายก
    70.หลวงพ่อสีหมอก วัดเขาวังตะโก ชลบุรี
    71.พระครูศรีสัตตคุณ วัดสัตหีบ ชลบุรี
    72.หลวงปู่บุญทัน วัดประดู่ศรี ปราจีนบุรี
    73.พระอาจารย์สุบิน วัดถ้ำไก่แก้ว นครราชสีมา
    74.หลวงพ่อมิ วัดสะพาน ธนบุรี
    75.พระครูพิชัยณรงค์ฤทธิ์ วัดคอกหมู กทม.
    76.พระอาจารย์บำเรอ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม.
    77.พระญาณวิริยาจารย์ วัดธรรมมงคล กทม.
    78.พระครูพิทักษ์เขมากร วัดท่าเกวียน ฉะเชิงเทรา
    79.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง สมุทรสาคร
    80.หลวงพ่ออินเทวดา วัดลาดท่าใหม่ จันทบุรี
    81.หลวงพ่ออินทร์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กทม.
    82.หลวงพ่อกลั่น วัดอินทาราม อ่างทอง
    83.หลวงพ่อสาย วัดจันทรเจริญสุข
    84.หลวงพ่อไปล่ วัดดาวเรือง ปทุมธานี
    85.หลวงพ่อแดง วัดดอนยอ นครปฐม
    86.หลวงพ่อเพชร วัดดงยาง ฉะเชิงเทรา
    87.หลวงปู่สี วัดสะแก อยุธยา
    88.หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน พัทลุง
    89.หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล นครศรีธรรมราช
    90.หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
    91.หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์
    92.หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม ชลบุรี
    93.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ กาญจณบุรี
    94.หลวงพ่อ อุตมะ วัดวังวิเวการาม กาญจณบุรี
    95.หลวงพ่อหว่าง วัดท่าพุทรา กำแพงเพชร(ท่านดังเรื่องตะกรุด)
    96.ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก
    97.หลวงพ่อทองสุข วัดโพธิ์ทรายทอง บุรีรัมย์
    98.หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร นครสวรรค์
    99.หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท
    100.หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน ลำปาง
    101.หลวงพ่อเกษม เขมโก ลำปาง
    102.หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ อยุธยา
    103.หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ พัทลุง
    104.หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก ชลบุรี
    105.หลวงปู่บุญทอง พัทลุง
    106.หลวงพ่อหรั่ง พิษณุโลก
    107.หลวงปู่อ่อน พิษณุโลก
    108.หลวงพ่อรอด พิษณุโลก
    109.หลวงพ่อทา วัดดอนตัน จ.น่าน
    110.พระอาจารย์ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร


    คุณ j999 จองแล้วครับ

    Clip_8.jpg Clip_9.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2021
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7137

    เต่าสำลีชุบสีผึ้งครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

    #พระโพธิสัตว์พญาเต่าเรือน
    ในสมัยเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ได้ทรงสร้างสมพระบารมีอยู่นั้น ในพระชาติหนึ่งพระองค์ได้เสวยพระชาติเป็นพญาเต่า มีพระวรกายใหญ่โตเท่ากับบ้านเรือน ชนทั้งหลายจึงพากันเรียกว่าพญาเต่าคำ อาศัยจำศีลภาวนาอยู่กลางเกาะใหญ่ท่ามกลางมหาสมุทร ในครั้งนั้นได้มีสำเภาพานิชย์ลำหนึ่งไปค้าขายกลางมหาสมุทร บังเอิญสำเภาล่มแตกกระจัดกระจายกลางทะเล ผู้คนที่ไปกับสำเภาลำนั้นต้องสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมากแต่ยังมีบางคนที่รอดตายโดยเกาะเศษกิ่งไม้ไว้เป้นเครื่องพยุงตนไปในมหาสมุทร ในที่สุดก็ได้ไปถึงที่เกาะใหญ่ ที่พญาเต่าจำศีลภาวนาอยู่จึงได้พากันขึ้นไปอาศัยอยู่บนเกาะนั้น และก็ได้พบกับความหิวโหยอำนาจความหิวถึงกับจะฆ่ากันตาย เพื่อเอาเนื้อมาเป็นอาหารแก้ความหิว พระพุทธองค์ทรงทราบดังนั้น แล้วอยากจะช่วยเหลือผู้ที่ประสบเคราะห์ร้ายเหล่านั้นเพื่อให้พ้นทุกข์ พญาเต่าคำจึงได้ไต่ขึ้นไปบนยอดเขาแล้วปล่อยให้ตัวเองกลิ้งลงมาจากยอดเขา แล้วพญาเต่าก็เสียชีวิต พวกพ่อค้าเหล่านั้นได้อาศัยกินเนื้อของพญาเต่าเป็นอาหารเพื่อแก้ความหิวและผลสุดท้ายยังได้ใช้กระดองของพญาเต่าทำเป็นเรือกลับบ้านเมืองของตน ด้วยความปลอดภัย ได้บันทึกไว้ในคัมภีร์ใบลาน เต่าบ้านเต่าเมือง หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ได้บอกไว้ว่า เมื่อผู้ใดกราบไหว้พญาเต่าคำ จะเกิดศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว มีกินมีใช้ตลอดไม่มีอดยากขัดสน
    หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ท่านจึงได้เมตตาจัดทำขึ้นเต่าไว้แจกจ่ายแก่บรรดาลูกศิษย์ไว้บูชา มหาลาภ มีทั้ง เต่าสำลี เต่าสำลีชุบสีผึ้ง
    หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ท่านได้เมตตาจัดทำขึ้นสำลีเช็ดตา (สำลีเช็ดทำความสะอาดตาขณะเวลาใส่ -ถอด คอนแทคเลนส์ ) ในตอนเช้าหรือเย็นหลังจากใส่ -ถอดเลนส์เสร็จเเล้วท่านได้นำเอาสำลีเช็ดตามาแบ่งเป็นก้อน ๆ ปั้นเป็นเต่าสำลี โดยท่านจะบรรจุเกศาพระธาตุ พระธาตุข้าวบิณ และของศักดิ์สิทธิ์มงคลไว้ภายในตัวเต่า #องค์นี้หลวงปู่ได้หุงสีผึ้งซึ้งมีพุทธคุณทางด้านเมตตาได้นำเต่าสำลีชุบลงไปในสีผึ้ง จึงเป็นสุดยอดเครื่องรางทางด้านเมตตามหานิยม
    ท่านทำเองและปลุกเสกเอง สำหรับคาถาที่ใช้บูชาพระโพธิสัตว์เจ้าพญาเต่าเรือน มีว่า (นะโม 3 จบ) นะเมองค์นี้ท่านได้หุงสีผึ้งเเละได้นำเต่าสำลีตตา โมการุณา พุทธปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เมตตา การุณา มุทิตา อุเบกขา ไมตรี นานาจิตตัง ปิยังมะมะ
    #น้ำต๋าสักหยดก่บ่หื้อได้เสี้ยง" อมตะวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ครูบาชัยวงค์ได้กล่าวไว้
    ด้วยถือเคล็ดที่ว่า " เต่านั้นเฝ้าทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน ไม่ให้เจ้าของนั้นเสียน้ำตา " เมตตามหาลาภ รักษาทรัพย์ "บูชาไว้ ...ไม่เสียน้ำตา"
    ใช้ในทุกด้าน เด่นทางด้านเมตตามหาลาภ ค้าขาย ซื้อง่ายขายคล่อง ขึ้นล่องปลอดภัย ป้องกันภัยอันตราย บูชาแล้วไม่อดอยากขัดสน
    พุทธคุณทางด้านเมตตามหาลาภ รักษาทรัพย์ มีไว้บูชาไม่มีอดไม่มีอยากพุทธคุณดียิ่งนัก
    #องค์นี้ตัวจริงเสียงจริง เนื้อหาแท้ดูง่ายครับ
    #รับประกันความแท้ตลอดชีพครับ


    บูชาแล้วครับ

    เต่าสีผึ้ง2 e.jpg เต่าสีผึ้ง2 f.jpg เต่าสีผึ้ง2 g.jpg เต่าสีผึ้ง2 h.jpg Clip_11.jpg Clip_12.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2021
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7138

    สมเด็จองค์ปฐมครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

    ออกวัดพระธาตุห้าดวง ในพิธีหล่อสมเด็จองค์ปฐม รูปเหมือนหลวงพ่อปาน เพื่อประดิษฐานในวิหารแก้ว วัดพระธาตุห้าดวง หลวงปู่ครูบาชัยวงค์เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วยคณะคิษย์ ร่วมหล่อในพิธี ชนวนจากสมเด็จองค์ปฐม วัดท่าซุง

    ออกแบบได้งดงาม มาพร้อมกล่องเดิมจากวัดครับ


    ราคา 2350 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    สมเด็จองค์ปฐม a.jpg สมเด็จองค์ปฐม e.jpg สมเด็จองค์ปฐม b.jpg
    สมเด็จองค์ปฐม c.jpg สมเด็จองค์ปฐม d.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2020
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7139

    มีดหมอมุกครูบาชัยวงค์ เล่มใหญ่ 1 ใน 227 เล่ม


    คาถาเสกมีดของครูบาวงค์ ท่านใช้คาถาหัวใจท้าวมหาราช และหัวใจธรณีสารช้างเผือก มีอุปเทห์การใช้คือ หัวใจท้าวมหาราช ป้องกันภูตผีปีศาจคุณไสย์ อมนุษย์ร้าย ส่วนธรณีสารช้างเผือก นั้น ป้องกัน อุบาด เสนียญจัณไร ภัยทั้งหลาย วิธีที่จะปลุกเสกธรณีสารช้างเผือก ต้องเสกคาถาใส่เทียนสีผึ้งแท้ จำนวน 3 เล่มให้เทวดาบริวาลของท่านมาคุมศาตรามหาราชทุกด้าม ให้มีผลเป็นกรณีพิเศษ เป็นที่รักของมนุษย์ เทพ เทวดา เป็นมหาลาภ มหาอำนาจ กันภูตผีปีศาจ เสนียญจัญไร คุณไสย์ ภัยทั้งหลาย ครับ

    มีดหมอมุกครูบาชัยวงค์ เล่มใหญ่ ออกที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เป็นสุดยอดวัตถุมงคลของหลวงปู่ที่สร้างด้วยงานศิลป์แห่งความศรัทธาที่หาชมได้ยากมาก


    จัดสร้าง 227 เล่มท่ากับจำนวนศีลของพระภิกษุ

    เก่าเก็บ ไม่ผ่านการใช้ สวยเเชมป์ครับ

    Clip_13.jpg Clip_14.jpg Clip_16.jpg Clip_12.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2020
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7140

    พระผงสมเด็จอวตาร 84 ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เจิมน้ำหมาก ติดเส้นเกศาสวย จากวัด


    ปี 2540 เมื่อหลวงปู่ครูบาชัยวงค์อายุได้ 84 ปี ท่านป่วยหนักมากจนต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เมื่ออาการทุเลาลงมาแล้ว ท่านกลับมาวัด หลวงปู่ได้บอกว่า ในขณะที่อยู่โรงพยาบาลนั้น ท่านได้ตายไปแล้ว เนื่องด้วยเหตุของอุปฆาตกรรมมาริดรอน แต่สามารถต่ออายุออกไปได้อีก
    หลวงปู่จึงให้สร้างวัตถุมงคลเพื่อสงเคราะห์ลูกหลาน พร้อมทั้งกำหนดมวลสาร และ ตั้งชื่อรุ่นนี้ให้เอง
    พระผงสมเด็จอวตาร 84 เป็นพระผงที่รวบรวมมวลสาร ต่างๆ เช่น ผงพระธาตุ 500 อรหันต์ ผงพระธาตุสีวลี ผงพระปัจเจกพุทธเจ้า ผงหลวงปู่เทพโลกอุดร ชานหมากอันศักดิ์สิทธิ์ ผงธูปอธิษฐาน เกษา น้ำหมาก และ ผงพุทธคุณต่าง ๆ ด้านหลังองค์พระติดเกศาของหลวงปู่
    หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ได้ให้ชื่อพระรุ่นนี้ว่า "สมเด็จอวตาร84 รุ่นฆ่าไม่ตาย"
    พุทธคุณคือ เป็นพระที่คลายกฏแห่งกรรม ได้คือ ถ้ามีกรรมที่มาตัดรอนให้เรา ถึงแก่ชีวิต ก่อนอายุขัย จากเจ้ากรรม นายเวร ทั้งหลายทั้งปวง ...ด้วยพระพุทธานุภาพ ที่หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตให้ จะช่วยให้กรรมนั้นๆ จากหนักเป็นเบาได้

    หลวงปู่อธิษฐานจิตให้อย่างเต็มที่ 1 ไตรมาส

    เจิมน้ำหมาก ติดเส้นเกศาสวย จากวัดครับ


    4a.jpg 44.jpg 444.jpg 4444.jpg 44444.jpg Clip_21.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2020
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7141

    พระสมเด็จปรกโพธิ์ ปัจเจกธรรมรุ่นแรก ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดชัยมงคล(วังมุย) ต.ประตูป่า อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน พร้อม ขนพัดหางนกยูงครูบาเจ้าศรีวิชัย ศิษย์รัศมีพรหมฯ ปี 2519

    สมเด็จปรกโพธิ์ ด้านหลังติดเศษหางนกยูง รูปแบบจะคล้ายกับพระสมเด็จของ ลพ.พรหม วัดช่องแค และ ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง อันเนื่องมาจากสร้างโดย คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก ที่สร้างพระสมเด็จเนื้อผงถวายให้ ลพ.พรหม และ ครูบาขันแก้ว ได้นำมาถวายให้ครูบาชุ่มด้วย และพระสมเด็จนี้ยังมีมวลสารเดียวกันกับพระสมเด็จของหลวงพ่อทั้งสองด้วย ส่วนเศษหางนกยูงที่ติดอยู่ด้านหลังนี้นเป็นเศษจากพัดหางนกยูงของครูบาเจ้าศรีวิไชย ที่ได้มอบให้ไว้กับศิษย์ใกล้ชิดอย่างครูบาชุ่ม พระสมเด็จปรกโพธิ์"ปัจเจกธรรม"(สมเด็จหางนกยูง)นี้ สร้างเมื่อปี2519 จำนวนสร้างไม่กี่ร้อยองค์ อธิษฐานจิต และ ปลุกเสก โดยครูบาชุ่ม โพธิโก เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2519 ก่อนมรณะภาพอีก 5 เดือนถัดมาครับ...
    ข้อมูล จากหนังสือเมืองพระครับ
    ใช้เเทนสมเด็จหลวงพ่อพรหมได้เลยครับ


    บูชาแล้วครับ

    สมเด็จครูบาบุญชุ่ม a.jpg Clip_11.jpg สมเด็จครูบาบุญชุ่ม b.jpg สมเด็จครูบาบุญชุ่ม c.jpg สมเด็จครูบาบุญชุ่ม d.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2020
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7142

    กะลาราหูแกะล้านนา หลังแผ่นทองจารมือเก่ามาก


    การสร้างกะลาราหูนั้น ล้านนามีการสืบทอดต่อกันมาช้านานแต่โบราณ เอกลักษณ์คือจะลงอักขระด้วยตัวหนังสือล้านนา หรือที่เรียกกันว่าตัวเมือง การสร้างกะลาราหูแบบล้านนามีทั้งที่เป็นแบบเดี่ยวและแบบคู่ แบบเดี่ยวมักจะรวมยันต์สุริยะกับจันทรประภาไว้ด้วยกัน ส่วนแบบคู่นั้นจะแยกกะลาฝาหนึ่งเป็นสุริยะและอีก ฝาหนึ่งเป็นจันทรา

    วัสดุที่นำมาใช้สร้างราหูนั้นจะใช้กะลาตาเดียว คือกะลาโดยปกติทั่วไปจะมีตาอยู่สามตา มีตารูงอก 1 รู และเป็นตาอีก 2 ตาแต่กะลาตาเดียวนั้นมีแค่ 1 รูเท่านั้น กะลาตาเดียวโบราณถือว่าเป็นอาถรรพ์มีฤทธิ์ในตัวเอง เมื่อนำมาทำเป็นเครื่องรางปลุกเสกจะทวีความขลังมากขึ้น และโดยส่วนมากกะลาพระราหูของล้านนาช่างแกะกะลาขึ้นเป็นรูปพระราหูได้เท่าไหร่เอาเท่านั้นแล้วนำมาเข้าพิธีปลุกเสกตามฤกษ์ในการทำพิธีปลุกเสกในแต่ละครั้งท่านจะทำให้เสร็จภายในคืนเดียว จะลงในฤกษ์ดีก่อนแล้วมาลงตัวสุดท้ายในฤกษ์ใหญ่ หากเป็นยันต์สุริยประภาจะต้องรอเวลาเกิดสุริยคราส ส่วนยันต์จันทรประภาต้องรอเวลาเกิดจันทรคราสเท่านั้น ซึ่งในหนึ่งปีเกิดเพียงไม่กี่ครั้งและเวลาที่ลงยันต์ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนเกิดสุริยคราสหรือจันทรคราส และไปสิ้นสุดการลงยันต์เมื่อหมดสุริยคราสและจันทรคราส ลงยันต์ได้เท่าไรก็เท่านั้นและท่านจะปลุกเสกตามคกครูท่านเป็นพระอภิญญาแก่กล้าแค่ตั้งจิตอธิษฐานก็สำเร็จแล้วมีความศักดิ์สิทธิ์เท่ากันหมดซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างยิ่งแล้วท่านจะนำกะลาทั้งหมดกลับไปปลุกเสกในกุฏิอีกครั้ง และนำออกมาแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์เอาไว้บูชา การบูชากะลาราหูนั้น โบราณท่านว่า ถ้าบูชาอย่างถูกวิธีมักให้คุณเอนกอนันต์ ทั้งเมตตาค้าขายร่ำรวยเงินทอง อยู่ยงคงกระพัน หนุนดวงกันป้องกันสิ่งเร้นลับภูตผีปีศาจ หวังสิ่งใดก็จะสำเร็จตามแต่จะอธิษฐานแบบครอบจักรวาลเรื่องความขลังเครื่องราง การบูชากะลาพระราหูตามแบบล้านนา ส่วนใหญ่มักใช้เครื่องหอม น้ำอบน้ำปรุงและดอกไม้ขาวที่มีกลิ่นหอมเช่นดอกมะลิใส่พานสวดคาถาแล้วบูชาไว้บนหิ้งพระ หรือพกติดตัว

    เก่าแห้งดูง่ายมาก


    บูชาแล้วครับ

    กะลาแกะ b.jpg กะลาแกะ c.jpg กะลาแกะ d.jpg เปิดดูไฟล์ 5528727 กะลาแกะ g.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2021
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7143

    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อทองดีวัดท่าเกวียนนนทบุรีปี2487เนื้อทองแดง


    เรื่องราวของหลวงพ่อทองดีนั้นเต็มไปด้วยปาฏิหาริย์ ด้วยความที่ท่านบวชเรียนตั้งแต่ยังเล็ก และมีความสนใจในวิชาต่างๆ กับทั้งเป็นผู้มีพรสวรรค์ ได้อาจารย์ดี อย่างหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน ท่านมีวิชาลึกลับต่างๆที่ไม่ใคร่มีใครทำได้ในยุคนั้น ครั้งหนึ่งที่ทำให้ท่านได้ฉายา ผู้ชนะสิบทิศ คือได้มีการจัดการประลองวิชาขึ้น ณ วัดชนะสงคราม โดยการรวมเอาจอมขมังเวทย์จากทั่วประเทศมาประชันกัน 108 คณาจารย์ โดยในรอบสุดท้ายเหลือเพียง 8 คณาจารย์ มีหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง คณาจารย์ท่านอื่น และหลวงพ่อทองดี โดยท่านมีอาวุโสน้อยที่สุด จึงนั่งอยู่เงียบๆ ในวง หลวงพ่อแช่มท่านหยิบเอาเหล็กจารมาเสกเป่าเป็นจิ้งเหลน โดยจิ้งเหลนนั้นได้วิ่งไปมาอยู่ในวงที่คณาจารย์นั่งกันอยู่ ไม่มีใครจับได้ พอหลวงพ่อจาดจับได้ จิ้งเหลนเสกยังไม่คลายตัวกลับเป็นเหล็กจาร ท่านจึงปล่อยให้วิ่งต่อ หลวงพ่อแช่มท่านจึงออกปากให้หลวงพ่อทองดี ลองจับดู พอหลวงพ่อทองดีจับจิ้งเหลนนั้นได้ จิ้งเหลนกลับคืนสภาพเป็นเหล็กจารดังเดิม ท่านจึงโด่งดังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในยุคนั้นครับจากประวัติของท่านท่านเป็นพระที่มีลักษณะงดงามครับและเข้าร่วมในพิธีปลุกเสกครั้งสำคัญๆหลายครั้งเช่นพิธีที่วัดราชบพิตร ,วัดชนะสงครามเป็นต้นพระเครื่องรางที่ท่านสร้างตามวิชาที่รำเรียนมาและเป็นที่รู้จักเสาะหากัน มีเหรียญรูปเหมือน หนุมาน และตะกรุด ซึ่งตะกรุดนี้ท่านเสกให้วิ่งไปมาได้ตามใจ เป็นที่รู้กันในหมู่ศิษย์และมีเรื่องเล่าประสพการณ์ปาฏิหาริย์มากมายครับหายากแล้วครับ


    บูชาแล้วครับ

    เหรียญลพ.วัดท่าเกวียน a.JPG เหรียญลพ.วัดท่าเกวียน b.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2020
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7144

    รูปภาพถ่ายอัดกระจก หลวงพ่อทอง วัดเขากบ จังหวัดนครสวรรค์ เลี่ยมเก่าเดิมๆ


    หลวงปู่ทอง วัดเขากบ หลวงปู่ทอง วัดเขากบ เป็นพระเถราจารย์ที่มีคุณงามความดี มีวิชาที่เข้มขลัง เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชน ทุกหมู่เหล่า น้ำมนต์ หลวงพ่อทอง ศักดิ์สิทธ์มาก แต่จะเป็นที่รู้กันของชาวบ้านว่า น้ำมนต์ หลวงพ่อทอง ให้อฐิษฐานแล้วให้ดื่มได้อย่างเดียว ห้ามใช้อาบโดยเด็ดขาด 10 สุดยอดพระเกจิแห่งสยาม "พลังจิตแก่กล้า-อาคมขลัง" เรื่องราวที่เล่าขานนี้เป็นความจริงที่ปรากฏและเป็นตำนานแห่งความเข้มขลัง ของอดีตพระเกจิของแผ่นดินสยาม และปัจจุบันเชื่อว่าคงหาเกจิรูปใดเทียบเคียงบุญญาบารมีและอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ได้ยากยิ่ง ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2452 สมเด็จพระสังฆราช (เข) วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงมีพระดำริในการทดสอบพลังจิตและความเข้มขลังของพระเกจิทั่วสยามประเทศขึ้น ที่วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม นัยว่าเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะ "พระดี-เกจิดัง" ในสายวิปัสสนากัมมัฏฐานและเฟ้นหา "สุดยอดพระเกจิ" (ตามประวัติน่าจะมีเพียงครั้งเดียว) โดยนิมนต์พระเถรจารย์และเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วประเทศมา ชุมนุมมากกว่า 100 รูป งานนี้เรียกได้ว่า "พิธีชุมนุมพระเกจิชื่อดังทั่วแดนสยาม" ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ก็คงไม่ผิดนัก ในพิธีมีการทดสอบวิทยาคมและพลังจิตอย่างเข้มขลัง โดยคัดเลือกเกจิอาจารย์ครั้งละ 10 รูป ด้วยวิธีจับสลาก จากนั้นนำท่อนไม้ 1 ท่อน มาวางบนม้า 2 ตัว จากนั้นนำกบไสไม้วางบนท่อนไม้ โดย สมเด็จพระสังฆราช (เข) ทรงบอกกติกาว่า เกจิทุกรูปจะต้องใช้พลังจิตบังคับให้กบไสไม้วิ่งไสไม้ไป-กลับโดยกบห้ามหล่น ลงมาเด็ดขาด หากใครพลังจิตแก่กล้าจริงก็จะสามารถทำได้ หากใครพลังจิตยังไม่สุดยอดก็ต้องยอมล่าถอยไป ปรากฎว่าหลังการทดสอบผ่านไป 3 วัน 3 คืน เกจิส่วนใหญ่ใช้พลังจิตบังคับกบวิ่งไสไม้ได้ทั้งนั้น แต่บังคับวิ่งไปข้างหน้าได้ทางเดียว บังคับกลับไม่สำเร็จ มีเพียงเกจิ 10 รูปเท่านั้นที่สามารถบังคับกบไสไม้ได้ทั้งไป-กลับ ถือว่าเป็น 10 พระเกจิสุดยอดแห่งสยามประเทศอย่างแท้จริงและปัจจุบันคงหาเกจิรุ่นใหม่เทียบ ได้ยากยิ่ง โดยเกจิทั้ง 10 รูป ได้แก่ 1. หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม 2. หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท 3. หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา 4. หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง จากกรุงเทพมหานครหรือเมืองบางกอก 5. หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร 6. หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม 7. หลวงพ่อทอง วัดคีรีนาถบรรพต (เขากบ) จ.นครสวรรค์ 8. หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน (วัดบางเหี้ย) จ.สมุทรปราการ 9. หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี 10. หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ จ.ชุมพร พระเถระผู้เฒ่าจากนครสวรรค์ หลวงพ่อทองวัดเขากบ ประวัติท่านไม่ค่อยมีใครรู้มากนักเนื่องจากท่านเป็นพระค่อนข้างเก็บตัวไม่ ได้ออกเครื่องรางของขลัง ทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ท่านเป็นพระยุคเก่ารุ่นเดียวกับหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า แม้หลวงพ่อเดิมยังนับถือ ยังมาปลุกเสกเหรียญรุ่น1ให้ท่าน ท่านสร้างวัตถุมงคลอยู่ไม่กี่อย่างแต่ละอย่างล้วนหายากเล่นยาก รูปท่านี้เป็นรูปเดียวที่ท่านให้ถ่ายรูปยังไม่เคยเห็นรูปท่านในท่าอื่นเลย วัถตุมงคลรุ่นหลังๆแม้ไม่ทันท่าน ประสบการณ์ดีเหลือเกินโดนกันมาเยอะ เศรษฐีนครสวรรค์ท่านหนึ่งเคยโดนยิงไม่เข้าคล้องเหรียญรุ่น 2 องค์เดียวไม่ทันท่านปลุกเสกด้วย รูปกระจกรุ่นนี้เคยได้ยินคนเก่าๆบอกว่าทันท่าน กระจกบางมากครับ

    น่าใช้มาก


    ราคา 1550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    รูปถ่ายลพ.ทอง a.JPG รูปถ่ายลพ.ทอง b.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2020
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7145

    พระผงพิมพ์เตารีดรุ่นแรก ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง สีแดง

    จัดสร้างปี 2521 โดยคุณหมอสมสุข คงอุไร ซึ่งคุณหมอท่านสร้างให้ครูบาขันแก้ว เพื่อให้บูชาทำบุญทอดกฐินที่วัดสันพระเจ้าแดงในปี พ.ศ.2521 - วิธีการจัดสร้างของคุณหมอสมสุข ท่านใช้สูตรเดิมจากการทำพระผงของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค คือ นำผงพระพุทธคุณแก้ว 3 ดวงหลวงพ่อพรหม ,ครูบาชุ่ม และครูบาขันแก้ว(จำนวนมาก) และน้ำพระพุทธมนต์ศักสิทธิ์ 5 วัด คือ วัดช่องแค วัดวังมุย วัดน้ำบ่อหลวง วัดพระพุทธบาทตากผ้า วัดสันพระเจ้าแดง +พลอยกิ๋นบ่เสี้ยงและเกศาของครูบาท่าน นับว่าพระผงรุ่นนี้มีมวลสารสุดยอดมากครับ ซึ่งการปลุกเสกของครูบาท่านเข้มขลังมากเป็นการปลุกเสกพระแบบมหาเจโตวิมุติอันประมาณค่าไม่ใด้ ซึ่งแม้แต่ครูบาขันแก้วท่านยังชมว่า " พระรุ่นนี้ แม้ไม่เสกก็ยังขลัง "
    หลังโรยเส้นเกศาพลอยเสกสวยเดิมๆครับ


    บูชาแล้วครับ


    พระผงเตารีดครูบาขันแก้ว a.jpg พระผงเตารีดครูบาขันแก้ว b.jpg พระผงเตารีดครูบาขันแก้ว c.jpg พระผงเตารีดครูบาขันแก้ว d.jpg พระผงเตารีดครูบาขันแก้ว e.jpg Clip.jpg

    ครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง)ถือเป็นพระเกจิล้านนาอีกท่านหนึ่งที่เป็นทั้งนักพัฒนา นักเทศน์ และยังมีฝีมือทางด้านศิลปะ ขณะครูบาขันแก้ว พรรษาที่ ๘ อายุ ๓๐ ปีตรงกับพ.ศ. ๒๔๗๑ ครูบาศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาจาริกธุดงค์มาบูรณะพระเจดีย์ และพระวิหารที่ “ดอยห้างบาตร” ครูบาศรีวิชัยได้เห็นฝีมือความสามารถทางช่างและอินทรีย์ที่ผ่องใสจากการปฏิบัติธรรม จึงได้มอบหมายให้ดูแลการบูรณะพระเจดีย์และพระวิหารแทน ก่อนที่ครูบาศรีวิชัยจะได้จาริกธุดงค์ต่อไป ได้ให้พรครูบาขันแก้ว อุตตโม ว่า
    “ให้ตุ๊น้องจงปฏิบัติธรรมจนไม่หวั่น ไหวในโลกธรรม ๘”
    พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้วอุตตโม) อดีตเจ้าอาวาส วัดสันป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) เกิดเมื่อวันอังคาร ที่ ๑๔ พ.ย.๒๔๔๒ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำเดือน ๑๒ (เดือนยี่เหนือ) ปีกุนที่ ต.ห้วยยาบ อ.เมือง จ.ลำพูน มีนามเดิมว่า ขันแก้ว นามสกุล อิกำเหนิด บิดาชื่อ นายอินตา อิกำเหนิด มารดาชื่อ นางสม อิกำเหนิด ท่านครูบามีพี่น้องเกิดท้องเดียวกัน ๕ คน เป็นน้องหญิง ๓ คน น้องชาย ๑ คน คือ
    ๑. พระครูอุดมขันติธรรม(ครูบาขันแก้ว อุตตโม)
    ๒. ด.ญ.อุ่น อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเยาว์)
    ๓. นางบัวเขียว อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรม)
    ๔. นายก๋อง อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรมแต่มีบุตรหลานสืบสกุลอยู่ในปัจจุบันนี้)
    ๕. นางทา อิกำเหนิด (ถึงแก่กรรม)
    โยมปู่ครูบาขันแก้ว ได้อพยพครอบครัวมาจาก ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูนมาอยู่ ต.ห้วยไซก่อน แล้วจึงได้อพยพย้ายครอบครัวลงมาอยู่ที่ ต.ห้วยยาบ ตั้งรกรากใกล้กับวัดป่ายาง(สันพระเจ้าแดง) ซึ่งเป็นวัดร้าง และได้เป็นหัวหน้าบูรณะ ซ่อมแซมก่อสร้างจนเป็นวัดขึ้นมาตราบจนทุกวันนี้
    พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้ว อุตตโม) ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๓ ปี ณ วัดป่ายาง อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วัดต้นปิน ต.บ้านธิ อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมีพระอธิการแก้ว (ครูบาอินทจักโก) วัดป่าลานเป็นพระอุปัชณาย์ ได้ฉายาว่า “อุตตโม” พรรษาที่ ๔ อายุได้ ๒๕ ปี ได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ จ.ลำพูนให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดป่ายาง เมื่อพ.ศ.๒๔๖๘
    พรรษาที่ ๖ อายุได้ ๒๗ ปี ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลห้วยยาบและเป็นผู้รักษาการเจ้าคณะตำบลบ้านธิอีกตำแหน่ง ปกครองดูแลวัดทั้ง ๒ ตำบลถึง ๖๘ วัด พรรษาที่ ๓๒ อายุได้ ๕๓ ปี ได้รับสมณศักดิ์พระครูชั้นประทวนและในพรรษานี้ได้ไปบำเพ็ญมหากุศล มหาวิบากญาณรัมปยุต ๑๓ และมหากิริยาจิตเข้า “อภิสัญญาณโรธ”กับครูบาชุ่มโพธิโก ณ “ดอยห้างบาตร” เมื่อบำเพ็ญทุกข์กิริยาเพื่อให้เกิด “วิปัสสนาญาณ” ได้ “ธรรมจักษุ” (ดวงตาเห็นธรรม) ๗ วัน ๗ คืน ใน ๔ อิริยาบถ พรรษาที่ ๔๙ อายุได้ ๗๐ ปี ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูอุดมขันติธรรม”
    ในปีพ.ศ.๒๕๒๑ และปีพ.ศ.๒๕๒๓ ครูบาขันแก้วได้เมตตาต่อคณะศิษย์วัดมีพรหมโพธิโก แสดงมหากิริยาจิต กำหนด “สุขวิปัสสก” ด้วยโสมนัสสหคตังญาณ สมปยุตตัง อสังขาริกัง ให้เกิด ”ปัญญาวิมุตติ” ได้”ธรรมจักษ์” ประหารกิเลสด้วย “สมุทจเฉทประหาร” และกำหนดมหากิริยาจิตแสดง “นิพพานัสส รจังฉิกิริยา” (การทำให้แจ้งในพระนิพพาน) ด้วยอารมณ์การได้ “มงกฎพระเจ้า” ดวงตาของครูบาขันแก้ว อุตตโม ได้เปลี่ยนสีจากสีเนื้อลูกลำไย เป็น “สีฟ้าเข้มทั้งดวงตา” แสดงถึงกิริยาของผู้หมดกิเลสเป็นการเปิดภูมิปัญญาในโลกุตรภูมิ เบื้องต้นและโลกุตระภูมิสูงสุด พระเมตตาคุณที่ได้แสดงมหากิริยาจิตในการโปรดสัตว์ทั้งสองครั้งนี้ ยากที่จะลืมเลือนได้
    หลวงปู่ขันแก้ว เป็นเพื่อนรักของหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย และก็ได้มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการบำเพ็ญกุศลช่วยงานศพอยู่ทุกคืนน่าจะนิมนต์มาท่านมาร่วมด้วย จะเคยปลุกเสกหรือไม่เคยปลุกเสกไม่สำคัญ คณะกรรมการวัดก็เลยนิมนต์ หลวงปู่ครูบาขันแก้ว มาร่วมพิธีด้วยแสดงความมหัศจรรย์นั่งเคี้ยวเมี่ยงในงานพุทธาภิเษก
    พิธีปลุกเสกได้เริ่มในตอนกลางคืนวันที่ 18 ก.พ. 2520 เวลา19.50น หลวงปู่ขันแก้ว ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่หันหน้าเข้าหาพระประธาน หลวงปู่อีก3 องค์คือ หลวงปู่อินทรจักร วัดน้ำบ่อหลวง ท่านเจ้าคุณญาณ วัดมหาวัน หลวงปู่ท่านเจ้าคุณพระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญไชย นั่งหลับตาแผ่อำนาจจิตปลุกเสก แต่หลวงปู่ขันแก้วกับนั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงอยู่เบิกตากว้างมองดูเฉยๆๆ ชาวบ้านวัดวังมุ่ยเริ่มมีปฎิกริยาพึมพำพูดกันว่าใครหนอนิมนต์ตุ๊เจ้าที่ปลุกเสกไม่เป็นมาร่วมพีธี ทำเอาเจ้าคณะตำบลประตูป่าเข้ามาพูดกับคุณพ่อสมสุขว่า โยมหมอใครไปนิมนต์ตุ๊ลุงองค์นี้มา พวกที่ชมและชาวบ้านในพีธีบ่นว่าไปเอาพระที่ไหนมา ดูซินั่งลืมตาเคี้ยวเมี่ยงไม่เห็นปลุกเสกอะไรเลย คุณพ่อบอกว่าผมนิมนต์มาเองขอให้รอดูประเดี๋ยว
    คุณพ่อยังนึกอยู่ว่านั่งเบิกตาอย่างนี้เคยเห็นที่ไหน หลวงปู่ขันแก้วนั่งลืมตาอยู่เกือบ15 นาที่ ประกายตากร้าวแข็ง ส่วนองค์อื่นท่านนั่งหลับตาตามความถนัดของท่าน ส่งกระแสจิตออกมาปลุกเสก หลวงปู่ขันแก้ว ปลุกเสกด้วย เมตตาเจโตวิมุติ หลวงปู่เริ่มเปลี่ยนอิริยาบถ โดยนั่งห้อยเท้า ตาของท่านเริ่มเป็นประกายกล้า ขณะนั้นช่างภาพก็ถ่ายรูปในอิริยาบถนั้น ทันที่ที่แสงไฟแฟลชสว่างจ้านัยน์ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็มิได้กระพริบ ช่างภาพอีกหลายคนก็เข้าไปถ่ายแสงไฟสว่างจ้าแต่นัยต์ตาของหลวงปู่ก็อยู่อย่างปกติคือลืมตาอย่างนั้นไม่กระพริบเลย หลังจากนั้นช่างภาพหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นก็เข้าไปถ่ายซึ่งไฟแฟล็ชแรงกว่ามากก็เข้าไปถ่ายผลปรากฎ ตาของหลวงปู่ขันแก้วก็ไม่กระพริบเป็นเวลานาน คนธรรมดาไม่สามารถทำได้อย่างแน่ เปิดภูมิปัญญาโลกุตระด้วยมหากริยาจิต
    คุณพ่อเข้าใจทันที ที่นึกว่าเคยเห็นที่ไหนก็นึกออกว่าเคยเห็น หลวงปู่พรหม ถาวโร แห่งวัดช่องแค ท่านปลุกเสก พระแสงแฟล็ช ถ่ายรูปไม่ทำให้ นัยน์ตา ท่านกระพริบและท่านก็นั่งลืมตาปลุกเสกความจริงแล้วหลวงปู่ขันแก้วไม่ได้มีเจตนาจะแสดงอภินิหารหรืออวดเป็นเพียงการนั่งปลุกเสกของผู้สำเร็จอานาปานสติกรรมฐาน คือสมาธิแบบลืมตาและนั่งหายใจออก หายใจเข้าจนได้ดวงตาเห็นธรรมและใจหมดอาสวะกิเลสเป็นแบบสมาธิที่ถูกต้องของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีหลักฐานแสดงในอานาปาสติสูตรจากหนังสืองานพระศพของหลวงปู่ขันแก้วที่คุณพ่อสมสุข
    พระอริยะสงฆ์ผู้ที่จารึกว่า พระผู้อุดมด้วยวิชชา และวิมุตฺติ มีไว้บูชาติดตัว ติดบ้านร่มเย็นเป็นสุข กันภัยที่จะเกิดขึ้นทั้งปวงครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2021
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7146

    พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง ปี36 เนื้อผงพุทธคุณผสมเส้นเกศา สุดยอดหายากครับ สภาพสวย เดิมๆ ไม่ผ่านการใช้งาน

    พระผงรูปเหมือนครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร(รุ่นแรก)ปี2536สร้างด้วยกัน 3 เนื้อ
    1.พระผงรูปเหมือนเนื้อเทียนชัยผสมเกศา
    2.พระผงรูปเหมือนเนื้อผงพุทธคุณผสมเกศา
    3.พระผงรูปเหมือนเนื้อผงว่านผสมเกศา
    จำนวนการสร้างทั้ง 3 เนื้อประมาณ 2000 กว่าองค์
    ในแต่ละเนื้อมีผงหลวงปู่ดู่ วัดสะแกและผงของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุงผสมรวมอยู่ด้วย เนื้อเทียนชัยจำนวน 500 องค์ เนื้อผงพุทธคุณจำนวน 200-300 องค์ ส่วนที่เหลือเป็นเนื้อผงว่านทั้งหมด

    เห็นเส้นเกศา หลายเส้น ชัดเจน สวยเดิมๆน่าใช้มากๆครับ


    ราคา 1450 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900


    พระผงครูบาบุญชุ่ม a.jpg พระผงครูบาบุญชุ่ม b.jpg พระผงครูบาบุญชุ่ม c.jpg พระผงครูบาบุญชุ่ม d.jpg พระผงครูบาบุญชุ่ม e.jpg Clip_2.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2020
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7147

    อิ่นหินล้านนา


    "อิ่น" เป็นเครื่องรางของขลังทางหัวเมืองฝ่ายเหนือ เป็นเครื่องรางมหาเสน่ห์แห่งเมืองเหนือ อิ่นเป็นภาษาโบราณแปลว่า "รักมาก" อิ่นเป็นหนึ่งในเบญจภาคีเครื่องรางล้านนา พระเถราจารย์ในสมัยโบราณจึงนำมาแกะเป็นอิ่นเพื่อส่งเสริมพลังให้ดียิ่งขึ้น อิ่นมีการสร้างด้วยวัสดุอาถรรย์ที่แตกต่างกันออกไป ส่วนอิ่นคู่นี้คือแกะจากหินที่ มีคุณวิเศษในตัว ชาวล้านนาตั้งแต่โบราณแต่เก่าก่อนเชื่อเล่ากันมาว่าได้นำหินที่ศักดิ์สิทธิ์ของทนสิทธิ์มีดีในตัวเอง นำเป็นอิ่น สามารถเก็บความเย็นส่งผลด้านให้ความชุ่มชื้นร่มเย็นเป็นสุขและด้านเมตตามหาเสน่ห์อย่างยิ่งอิ่นหินนาคกระสวยจัดว่ามีพลังมีอำนาจอย่างยิ่งและใช้ผลได้ดีและหายากมาก อิ่นชิ้นนี้นับได้ว่าเป็นอิ่นที่ทรงคุณค่ามากที่สุดชิ้นหนึ่งแห่งเเดนล้านนาครับ

    "อิ่น" จึงเป็นสุดยอดเครื่องรางแห่งแดนล้านนา ที่มีอายุมายาวนานนับร้อยปีเพราะเชื่อกันว่าอิ่นคือสุดยอดเครื่องรางด้านเมตตามหาเสน่ห์เมตตานิยม มีประสบการณ์จากลูกผู้ชายแต่ครั้งอดีตสืบถอดมาถึงปัจจุบัน
    องค์นี้งานแกะมี มีคราบสีผึ้งแห้งเก่าติดตามซอก เก่า ดูง่ายครับ


    ราคา 3200 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    อิ่น 500 a.jpg อิ่น 500 b.jpg อิ่น 500 c.jpg อิ่น 500 d.jpg อิ่น 500 e.jpg อิ่น 500 f.jpg อิ่น 500 g.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2020
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 7148

    เต่าสำลีชุบสีผึ้งครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

    #พระโพธิสัตว์พญาเต่าเรือน

    ในสมัยเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ได้ทรงสร้างสมพระบารมีอยู่นั้น ในพระชาติหนึ่งพระองค์ได้เสวยพระชาติเป็นพญาเต่า มีพระวรกายใหญ่โตเท่ากับบ้านเรือน ชนทั้งหลายจึงพากันเรียกว่าพญาเต่าคำ อาศัยจำศีลภาวนาอยู่กลางเกาะใหญ่ท่ามกลางมหาสมุทร ในครั้งนั้นได้มีสำเภาพานิชย์ลำหนึ่งไปค้าขายกลางมหาสมุทร บังเอิญสำเภาล่มแตกกระจัดกระจายกลางทะเล ผู้คนที่ไปกับสำเภาลำนั้นต้องสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมากแต่ยังมีบางคนที่รอดตายโดยเกาะเศษกิ่งไม้ไว้เป้นเครื่องพยุงตนไปในมหาสมุทร ในที่สุดก็ได้ไปถึงที่เกาะใหญ่ ที่พญาเต่าจำศีลภาวนาอยู่จึงได้พากันขึ้นไปอาศัยอยู่บนเกาะนั้น และก็ได้พบกับความหิวโหยอำนาจความหิวถึงกับจะฆ่ากันตาย เพื่อเอาเนื้อมาเป็นอาหารแก้ความหิว พระพุทธองค์ทรงทราบดังนั้น แล้วอยากจะช่วยเหลือผู้ที่ประสบเคราะห์ร้ายเหล่านั้นเพื่อให้พ้นทุกข์ พญาเต่าคำจึงได้ไต่ขึ้นไปบนยอดเขาแล้วปล่อยให้ตัวเองกลิ้งลงมาจากยอดเขา แล้วพญาเต่าก็เสียชีวิต พวกพ่อค้าเหล่านั้นได้อาศัยกินเนื้อของพญาเต่าเป็นอาหารเพื่อแก้ความหิวและผลสุดท้ายยังได้ใช้กระดองของพญาเต่าทำเป็นเรือกลับบ้านเมืองของตน ด้วยความปลอดภัย ได้บันทึกไว้ในคัมภีร์ใบลาน เต่าบ้านเต่าเมือง หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ได้บอกไว้ว่า เมื่อผู้ใดกราบไหว้พญาเต่าคำ จะเกิดศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว มีกินมีใช้ตลอดไม่มีอดยากขัดสน
    หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ท่านจึงได้เมตตาจัดทำขึ้นเต่าไว้แจกจ่ายแก่บรรดาลูกศิษย์ไว้บูชา มหาลาภ มีทั้ง เต่าสำลี เต่าสำลีชุบสีผึ้ง
    หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ท่านได้เมตตาจัดทำขึ้นสำลีเช็ดตา (สำลีเช็ดทำความสะอาดตาขณะเวลาใส่ -ถอด คอนแทคเลนส์ ) ในตอนเช้าหรือเย็นหลังจากใส่ -ถอดเลนส์เสร็จเเล้วท่านได้นำเอาสำลีเช็ดตามาแบ่งเป็นก้อน ๆ ปั้นเป็นเต่าสำลี โดยท่านจะบรรจุเกศาพระธาตุ พระธาตุข้าวบิณ และของศักดิ์สิทธิ์มงคลไว้ภายในตัวเต่า #องค์นี้หลวงปู่ได้หุงสีผึ้งซึ้งมีพุทธคุณทางด้านเมตตาได้นำเต่าสำลีชุบลงไปในสีผึ้ง จึงเป็นสุดยอดเครื่องรางทางด้านเมตตามหานิยม
    ท่านทำเองและปลุกเสกเอง สำหรับคาถาที่ใช้บูชาพระโพธิสัตว์เจ้าพญาเต่าเรือน มีว่า (นะโม 3 จบ) นะเมองค์นี้ท่านได้หุงสีผึ้งเเละได้นำเต่าสำลีตตา โมการุณา พุทธปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เมตตา การุณา มุทิตา อุเบกขา ไมตรี นานาจิตตัง ปิยังมะมะ
    #น้ำต๋าสักหยดก่บ่หื้อได้เสี้ยง" อมตะวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ครูบาชัยวงค์ได้กล่าวไว้
    ด้วยถือเคล็ดที่ว่า " เต่านั้นเฝ้าทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน ไม่ให้เจ้าของนั้นเสียน้ำตา " เมตตามหาลาภ รักษาทรัพย์ "บูชาไว้ ...ไม่เสียน้ำตา"
    ใช้ในทุกด้าน เด่นทางด้านเมตตามหาลาภ ค้าขาย ซื้อง่ายขายคล่อง ขึ้นล่องปลอดภัย ป้องกันภัยอันตราย บูชาแล้วไม่อดอยากขัดสน
    พุทธคุณทางด้านเมตตามหาลาภ รักษาทรัพย์ มีไว้บูชาไม่มีอดไม่มีอยากพุทธคุณดียิ่งนัก
    #องค์นี้ตัวจริงเสียงจริง เนื้อหาแท้ดูง่ายครับ
    #รับประกันความแท้ตลอดชีพครับ


    ราคา 7000 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900


    เต่าสีผึ้ง1 a.jpg เต่าสีผึ้ง1 b.jpg เต่าสีผึ้ง1 c.jpg เต่าสีผึ้ง1 d.jpg Clip_3.jpg Clip_4.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2020

แชร์หน้านี้

Loading...