วัตถุมงคล พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย หนุ่ม36, 27 พฤษภาคม 2021.

  1. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    วัตถุมงคล พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา
    เปิดให้บูชา

    images.jpeg-242.jpg
    20210526_141137.jpg 20210526_141207.jpg 20210526_141248.jpg 20210526_141315.jpg 20210526_141500.jpg


    เทพเจ้าไฉ่ซิ่งเอี้ย ขนาดบูชา หน้าตัก ๔ นิ้ว ปิดทองทั้งองค์ หลวงพ่อบ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา อธิฐานจิต

    เปิดให้บูชา องค์ละ 6,500 บาท
    พร้อมจัดส่งฟรีครับ


    **************************

    มีไฉ่ซิ่งเอี๊ยเหมือนมีขุมทรัพย์อยู่ในบ้าน

    ️ หากสังเกตุให้ดี มือข้างซ้ายของท่านจะมีพังพอนที่คายแก้วแหวนเงินทองออกมา

    และสัญลักษณ์ที่สำคัญคือ ไหที่บรรจุเงิน ทอง ทั้ง 2 ไหวางอยู่ด้านหน้า ซึ่งขาดไม่ได้ เพราะท่านทำหน้าที่นี้ ดูแลและพิทักษ์ทรัพย์

    ท่านกำหนดลักษณะ เพื่อช่วยเรื่องนี้โดยเฉพาะนะครับ

    ฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿

    เรื่องเล่ายามเย็น
    โยมในพิธี : หลวงพ่อครับ ผมเห็นพระปัจเจกท่านเสด็จมาเป็นดวงแก้ว เต็มไปหมดเลย ทำไมถึงเป็นดวงแก้วครับ

    หลวงพ่อ : ก็ท่านทำเป็นดวงแก้วให้ ไฉ่ซิ่งเอี๊ย ท่านเทลงมาให้ไง แต่ละองค์มาช่วยกันหมด ขนาดท่านที่เชิญยาก ๆ ท่านก็มา

    โยม : แล้วที่พระท่าน โยนอะไรไม่ทราบใส่ในกองวัตถุมงคลให้ล่ะครับ

    หลวงพ่อ : อริยทรัพย์ไง ครั้งที่เน้นปัญญา เพราะทรัพย์จริงๆ คือปัญญา ถ้าไม่มีปัญญาทรัพย์จะอยู่ไม่นาน

    โยม : ท่านเสกทั้ง โลกุตระ และ โลกียะ เลยครับ

    หลวงพ่อ : ใช่ เสกให้ทั้ง ๒ แบบ เลย.... มีทรัพย์ต้องมีปัญญาด้วย เนื่องจากมีเสก พระฤาษีด้วย....

    วัตถุมงคลที่นำเข้าพิธี พระท่านสงเคราะห์เสกทรัพย์ให้ ทั้งอริยทรัพย์คือ ปัญญา และ ทรัพย์ทางโลก คือความมั่งคั่ง เป็นพิธีที่ได้ทั้งโลกุตตระ และ โลกียทรัพย์ มีความเป็นมงคลอย่างสูง

    หลวงพ่ออธิบายว่า หากเรามีทรัพย์แต่ไม่มีปัญญาทรัพย์นั้นก็จะอยู่ได้ไม่นาน แต่ถ้าเรามีปัญญาแล้ว ทรัพย์นั้นก็จะยั่งยืน ( ต้องกราบขอบพระคุณท่านปู่ฤาษี เพราะวันนั้นเป็นวาระจัดสรร กำลังปัญญาจึงลงมาด้วย )

    ฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿
     
  2. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    เปิดให้บูชา

    พระอุปคุต ขนาดบูชา หน้าตัก 3 นิ้ว #ปิดทองทั้งองค์ พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา เมตตาให้จัดสร้าง

    20210526_154543.jpg 20210526_154719.jpg 20210526_154951.jpg 20210526_154806.jpg


    *** ใช้มวลสารที่เหลือจากองค์ใหญ่ รวมกับ จากพระฤาษี ***

    หลวงพ่อบอกว่า
    #ให้เอาไปตั้งที่บ้านลาภจะได้เข้า

    แล้วอย่าลืมพรที่ท่านให้ไว้ ว่า
    #ชนะอุปสรรค ผนวกกับ #มหาเสน่ห์ #นะจังงัง ในตัวมวลสารด้วย ฯลฯ


    บูชาองค์ละ 3,400 บาท
    ค่าจัดส่ง 80 บาท


    *****************************
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    เปิดให้บูชา

    พระอุปคุต ขนาดบูชา หน้าตัก 3 นิ้ว พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา เมตตาให้จัดสร้าง

    20210526_150702.jpg 20210526_150723.jpg 20210526_150747.jpg


    *** ใช้มวลสารที่เหลือจากองค์ใหญ่ รวมกับ จากพระฤาษี ***

    หลวงพ่อบอกว่า
    #ให้เอาไปตั้งที่บ้านลาภจะได้เข้า

    แล้วอย่าลืมพรที่ท่านให้ไว้ ว่า
    #ชนะอุปสรรค ผนวกกับ #มหาเสน่ห์ #นะจังงัง ในตัวมวลสารด้วย ฯลฯ


    บูชาองค์ละ 3,400 บาท
    ค่าจัดส่ง 80 บาท


    *****************************
     
  4. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    บันทึกช่วยจำ พิธีไฉ่ซิ่งเอี๊ยะ
    ในพิธีได้อัญเชิญ

    ลูกแก้วสามสี หลวงพ่อบ๊ะเสก
    สมเด็จองค์ปฐม สมเด็จพระพุทธกัสสป
    สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย
    ลูกแก้วมหาจักรพรรดิองค์ครู หลวงพ่อบ้ะ
    ลูกแก้วจักรพรรดิสมัยหลวงพ่อฤาษีพุทธาภิเษก
    ลูกแก้วจักรพรรดิ พิธีรวมคณาจารย์สายวัดท่าซุง
    ของ วัดเขาวง

    และอัญเชิญ
    สมเด็จองค์ปฐม เนื้อเงิน วัดท่าซุง
    สมเด็จองค์ปฐม 5 นิ้ว วัดท่าขนุน
    สมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิต
    พระปัจเจกพุทธเจ้า...

    ฯลฯ

    ไม่อ้างอิงที่มา แต่ขอบคุณด้วยนะครับ

    ............

    พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุนเล่าเกี่ยวกับ "พระอุปคุตจกบาตร" ว่า.....

    มีคนถามว่า "ที่วัดท่าขนุน มีพระอยู่กลางสระน้ำ ที่แหงนหน้ามองฟ้า ตรงนั้นหมายความว่าอย่างไรครับ" หลวงพ่อบอกว่า "นั่นเป็นรูปพระอุปคุต"

    แล้วท่านก็เล่าเรื่องให้ฟังว่า "สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ท่านจะจัดงานฉลองพระเจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นเวลา ๗ ปี ๗ เดือน กับ ๗ วัน ท่านรู้ดีว่างานบุญใหญ่ขนาดนี้พญามารต้องขวางแน่ ๆ จึงไปสอบถามพระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระว่า จะจัดการอย่างไรไม่ให้พญามารมาขวางได้ พระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระบอกว่า พระอุปคุตเป็นคู่ปรับของพญามาร ต้องส่งทูตไปเชิญท่านซึ่งนั่งเข้านิโรธสมาบัติอยู่ที่สะดือทะเลนั้นมา

    พระเจ้าอโศกมหาราชท่านก็เลยตั้งให้พระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระเป็นประธาน ส่งตัวแทนไปเชิญพระอุปคุต เมื่อตัวแทนพาท่านมาถึง เจอหลวงตาแก่ผอมกระหร่องเลย พระเจ้าอโศกฯ ก็ไม่มั่นใจ อยากจะทดสอบ

    พอตอนเช้าพระอุปคุตออกบิณฑบาต พระเจ้าอโศกฯ ก็ปล่อยช้างไล่ ในอรรถกถาท่านบอกไว้ว่า พระอุปคุตหันมาเผชิญหน้า ช้างก็เลยกลายเป็นดั่งรูปปั้นศิลา กระดิกตัวไม่ได้ พระเจ้าอโศกฯ เห็นดังนั้นก็ยอมรับว่าพระอุปคุตมีความสามารถ จึงกราบขอขมา พระอุปคุตก็เลยคลายฤทธิ์ ทำให้ช้างเดินกลับโรงช้างได้เอง

    พระเจ้าอโศกฯ บอกว่าอยากเห็นการแสดงฤทธิ์ชัด ๆ พระอุปคุตบอกว่า จะบันดาลให้เกิดแผ่นดินไหว พระเจ้าอโศกฯ ตรัสว่า แผ่นดินไหวก็ไหวอยู่บ่อยแล้ว จะเชื่อได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือของพระอุปคุต อาจจะเกิดไหวในขณะนั้นพอดีก็ได้ พระอุปคุตบอกว่า ถ้าเช่นนั้นให้พระองค์เอาขันน้ำล้างพระพักตร์มา แล้วตักน้ำใส่ ท่านจะทำให้แผ่นดินไหวโดยน้ำสะเทือนในขันแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ปกติถ้าแผ่นดินไหวธรรมดาต้องสะเทือนทั้งขัน

    พระเจ้าอโศกฯ ก็ตกลง ตักน้ำมา ปรากฏว่าพระอุปคุตแสดงฤทธิ์เกิดเหตุแผ่นดินไหว ไหวชนิดที่ว่าอย่างอื่นสั่นหมด แต่น้ำสะเทือนแค่ครึ่งขัน ท่านจึงได้ยอมรับว่าเป็นฤทธิ์ของพระอุปคุตจริง ๆ จึงกราบอาราธนาท่านให้เป็นผู้ป้องกันไม่ให้พญามารมาทำลายพิธี พระอุปคุตก็เลยต้องฉันไป แหงนมองไปว่าพญามารมาหรือยัง ?

    คนเขามักจะนิยมสร้างรูปท่านในลักษณะนี้ ที่สร้างรูปในลักษณะนี้เกิดจากความนัยสองอย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือ พระอุปคุตนิยมเข้านิโรธสมาบัติ ก็เลยกลายเป็นพระมหาลาภไปโดยปริยาย การบูชาท่านก็จะมีลาภผลมากไปด้วย อีกนัยหนึ่งเป็นความเชื่อในระยะหลัง เพราะดูจากรูปแล้วเป็นลักษณะท่านล้วงบาตร กำลังฉันอยู่ ก็คิดว่าถ้าบูชา อย่างไรเราก็ไม่อดแน่ มีกินแน่นอน

    แต่ว่าทางภาคเหนือยังคงความเชื่อเรื่องพระอุปคุตนี้อยู่ เหมือนทางพม่า ถ้าเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือนไหนก็ตาม ที่ตรงกับวันพุธ เขาเชื่อว่าพระอุปคุตจะออกบิณฑบาต ทางเหนือเรียก เป็งปุ๊ด (วันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธ) เขาจะมานิมนต์พระไปรับบาตรตั้งแต่เที่ยงคืน

    อาตมาโดนปลุกงัวเงียไปรับบาตรมาแล้ว ก็มานั่งคิดวิเคราะห์ว่าทำไมเป็นประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน ท้ายสุดก็สรุปได้ด้วยปัญญาของตัวเอง ผิดถูกช่างมัน ว่าพระอุปคุตท่านออกบิณฑบาตในวันพุธขึ้น ๑๕ ค่ำพอดี เนื่องจากมีคนได้ใส่บาตรท่านตอนออกนิโรธสมาบัติแล้วรวยในวันนั้น ทำให้คนเชื่อกันว่าวันขึ้น ๑๕ ค่ำ ที่ตรงกับวันพุธ พระอุปคุตจะออกบิณฑบาต ประการต่อมาคนใส่บาตรใส่แต่เช้าเลย คนที่อยากได้บุญก็ตื่นให้เช้ากว่านั้นหน่อย พออีกคนเห็นคนนั้นตื่นเร็วก็เลยตื่นตั้งแต่ตีห้า อีกคนเห็นคนนั้นตื่นตีห้า ก็เลยตื่นตีสี่ครึ่ง ไล่ไปเรื่อย จนอาตมาต้องโดนปลุกให้ตื่นตอนเที่ยงคืน..!

    ประเพณีตักบาตรเที่ยงคืนหรือตักบาตรพระอุปคุตทางด้านเหนือยังมีอยู่เป็นปกติ ส่วนทางด้านพม่าหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวแล้ว เขาจะจัดแพตกแต่งอย่างสวยงามแล้วอาราธนาพระอุปคุตใส่ลงแพ ทำบุญฉลองแล้วก็ปล่อยให้ลอยตามน้ำไป ไปถึงที่หมู่บ้านไหนก็จะอาราธนาขึ้นที่หมู่บ้านนั้น แล้วก็จัดงานฉลอง นิมนต์พระไปเลี้ยงที่บ้าน ใครอยากเป็นเจ้าภาพก็นิมนต์พระอุปคุตเข้าบ้าน เวลาฉลอง บ้านนี้อาจสวดมนต์เย็นแล้วฉันเช้า พอขยับไปอีกบ้านก็อาจนิมนต์ฉันเพล ขยับไปเรื่อย ๆ บางหมู่บ้านอยู่ถึง ๒ เดือนก็มีเพราะว่าหมู่บ้านนั้นใหญ่และมีชาวบ้านเยอะ เขาอยากทำบุญกันทั้งหมู่บ้าน ใคร ๆ ก็อยากรวย ถ้าทำบุญครบแล้ว ก็นิมนต์ท่านลงแพปล่อยท่านลอยน้ำไป บ้านอื่นก็เตรียมตัวนิมนต์ต่อ ทางพม่าเขาทำแบบนี้ ใหม่ ๆ แพต้นทางนั้นดูงดงามอลังการ แต่งเสียอย่างดีเลย ไปถึงท้าย ๆ กะรุ่งกะริ่งดูไม่ได้ เพราะหลายเดือนเต็มที

    ขอบคุณที่มาเว็บวัดท่าขนุน
     

แชร์หน้านี้

Loading...