ใครฝึกเพ่งกระจกเชิญทางนี้ครับ

ใครฝึกเพ่งกระจก กระจกเงา เหมือนที่พวกท่านใช้ส่องในห้องน้ำนั่นแหละ ไม่ใช่ลูกแก้ว ไม่ใช่กสิณสว่าง แต่เป็น mirror เชิญชวนมาแบ่งปันประสบการณ์ และความคืบหน้าทางการปฏิบัติตครับผม อยากฟังจากสหายธรรมหลายๆท่านครับ

 

มีแต่คนดู ไม่มีคนตอบ T.T
****การเพ่งกระจก****
ใช้กระจกเงา (Crystal Mirror) หรือ กระจกเพ่ง (Scrying Mirror เนื้อกระจกเป็นเนื้อดำหมึก) ไปหารูปใน Google เอาเองนะครับ

1.เข้าสมาธิตื้นๆ ไม่ให้ฟุ้ง ด้วยลมหายใจเข้าออก พื้นฐาน ไม่ต้องซีเรียส ผ่อนคลายร่างกาย ผ่อนคลายสายตา นั่งหลังตรง แต่ไม่เกร็ง

2.ปิดห้องให้มืด (สำคัญ) ให้มีแสงจากเทียนไข ข้างๆกระจกพอ เวลาเพ่ง อย่าให้ภาพเทียนหลุดเข้ามาในกระจก เห็นหน้าเราพอ

3.การเพ่ง เพ่งที่ลูกนัยตาซ้าย หรือ ขวา อย่าเพ่ง ลูกตาทั้งข้างพร้อมกัน มันจะทำให้เราเพ่งไม่นิ่ง
3.1(อัพเดท) อีกตำแหน่งที่เพ่งได้คือบริเวณเหนือระหว่างคิ้วขึ้นไปนิดๆ (อย่าสูงมาก) ตรงนั้นก็เพ่งได้ครับ

4. ตอนเพ่ง ให้เพ่ง เข้าไปในลูกนัยตา ให้เห็นภาพซะท้อนของตัวเองในนั้น อย่าขยับลูกตา เพ่งให้นิ่งที่สุด อย่าเปลี่ยนจุด FOCUS ถ้าน้ำตาไหล ก็ปล่อยมันไหล ไม่เป็นไร ถือว่า ล้างลูกตาไปด้วย

5.อย่าเกร็งสายตาขนาดเพ่ง เพ่งแบบสบายๆ

6.ภาพในกระจกจะค่อยๆมืด จะมีหมอกมาแทรก หรือบางทีหน้าเราเปลี่ยนรูป เปลี่ยนร่าง

7. ฝึกวันละ 30 นาทีกำลังดี เอาแค่นี้ก่อน

ส่วนข้อ 8 ยังไม่บอก เอาแค่นี้ก่อน อยากฟังประสบการณ์คนอื่นด้วยครับ

ปล. อย่าเอาเทคนิคการฝึกกสิณ มาปนกับการเพ่งกระจก จะทำให้เสียงานครับ :'(

 

น่ากลัวนะคะ บางทีอาจจะเพ่งไปเห็นเป็นหน้าคนที่เสียชีวิตไปแล้ว
หรือบางครั้งก็จะเปลี่ยนเป็นรูป....อ่ะค่ะ -,.-

*การเพ่งกระจกถ้าใครจิตใจไม่แข็งพออย่าลองดีกว่าค่ะ ^^*

 

บอกหน่อยเหอะพ่อคณอิอิ
อย่าทำให้อยากแล้วจากไปสิครับ

 

เคยดูแปบๆ ยิ่งตอนกลางคืนยิ่งน่ากลัว

 

ใช่จ้า เห็นเป็นหน้าญาติที่ตายไป หรือ บางทีอาจจะเห็นเป็นคนที่ไม่รู้จักเลยก็ได้ แรกๆ หน้ามันจะสลับไป สลับมาเร็วมาก หลังๆถ้าจิตแข็งหน่อย จะบังคับให้ กระจกมันหยุดเป็นหน้าคนเราต้องการได้ แต่แรกๆมันยังคุยด้วยกันไม่ได้ง่ะ ต้องใช้เวลาเพ่งไปอีกเกือบสัปดาห์ แล้วแต่จิตคนด้วย วิชานี้ฝั่งยุโรปเขาใช้เวลาติดต่อกับเบื้องสูงเช่นเทพ หรือ คนที่ตายไปแล้ว

 

ใจเย็นๆอ่ะครับ เคยมีคนทำแล้ววิ่งร้องให้ ออกมาจากห้องน้ำแล้วอ่ะ ถึงแนะนำให้หายใจเข้าออกให้มันหายฟุ้งซ่านก่อน สักแปป เพราะระหว่างเพ่งกระจก ถ้าฟุ้งนึกถึงใคร หรือ 'ตัวอะไร(อิอิ)' กระจกมันจะแสดงภาพสะท้อนความคิดอ่ะครับ

ถ้าอยากจะมั่นใจ ห้อยพระ หรือ จับพระ ไม่ก็สวดมนต์ตามศาสนาท่านก็ได้จ้า

 

ทำให้ครบ 7 ข้อนะพ่อคุณ แล้ว ข้อ 8 จะตามมาเอง 'อิอิ' อนุโมทนาเด้อครับ

 

โอเคครับ ผมเคยทำแบบบังเอิญนะ คือ ผมลองมองไปที่กระจกหน้าต่าง บ้านผมปิดไฟหมดละ มองไปที่กระจกมืดและมีเงาสะท้อนของเทียนไฟฟ้าของหิ้งพระพิฆเณศ กับ ตู้เสื้อผ้า ในกระจกนั้น อยู่ผมก็ลองนึกถึงภาพ นึกถึงตาที่เสียไปแย้ว มันก็ขึ้นมาในกระจก นึกถึงคนรักที่เสียไปแล้ว มันก็ขึ้นมาในกระจก นึกถึงพระพิฆเณศ มันก็ขึ้นมาในกระจก สุดท้ายไม่ว่าคนเป็นหรือตายหรือผี หรือเทพอรหัน เมื่อผมนึกถึง ก็จะขึ้นมาที่กระจกหน้าต่างที่มเพ่งอยู่ แต่ผมก็ไม่รู้สึกกลัวอะไร เพราะบ้านผมมีพรายกับกุมารมาอยู่หลายตนเลยไม่ค่อยกลัวผี แล้วผมก็ได้ได้สนใจอะไร ฯ แล้วก็นอน....จบ.
จากที่ผมเล่ามา น่าจะใช่ การเพ่งกระจกแบบที่คุณบอกป่าว

 

ผมไม่รู้แฮะแบบมองสะท้อน เคยฝึกแต่แบบมองแสงแล้วให้เป็นหมอก
ที่ผมฝึกมาคือดูที่แสง ทั้งแสงสะท้อน แสงในไฟ
ดูในลูกแก้วใส ในบ่อน้ำ ดูในไฟก็ได้ แต่ความแม่นก็ไม่รู้แฮะ
เพราะที่เห็นมันใครก็ไม่รู้ สถานที่ก็ไม่รู้ที่ไหน
เด๋วจะลองแบบ เจ้าของกระทู้ดูเผื่อจะได้ผลคนละแบบ

 

ใช่ครับ อันนั้นเป็นการ เพ่งทั้งหน้า เรียกว่า scrying ของผมเป็นการเพ่งลูกนัยตา

คุณแจ๊คเก่งนี่ครับ สมาธิกระจกอาศัย จังหวะ+อารมณ์+ความมืด = คนที่นึกถึงจะมาคุยด้วยเอง

 

อันนั้นก็ได้อ่าครับ ของผมไม่จำกัดต้องเป็นกระจก คืออะไรก็ได้ที่มันมีคุณสมบัติเป็นผิวสะท้อน (Reflective Screen) ใช้เพ่งได้หมดเลยครับ

แต่ที่ใช้กระจกเพราะมันเป็นวัตถุดิบเฉพาะกิจอ่ะครับ 555+

 

อะไรก็ได้ที่เป็นเงา ตามนั้นเลย

 

นี่เกี่ยวกับเรื่องที่คนโบราณบอกว่าอย่าส่องหวีผมตอนเที่ยงคืนรึปล่าวคะ..น่ากลัวจัง แฮปปี้ไม่กล้าส่องกระจกแล้วอ้า แต่ยังไม่ได้อาบน้พเลยค่ะ ไม่อาบแว้ววว T^T

 

กระจกไวสุดครับ เป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลัง และ เฉพาะกิจสุด ไม่กระทบธาตุ หรือ มโน เพราะบางคนบ่นว่าเพ่งไฟแล้วอารมณ์ร้อน เพ่งน้ำแล้วอารมณ์จืด มันกระทบกับอาชีพการงาน ผมเลยบอกว่า มันไม่เฉพาะทาง อย่าเอากสิณ มาปน กับ mirror gazing ครับ อาจารย์พ่อมดรุ่นเก่าๆ เขาจัดตำรามาดีแล้วฮะ

ถ้าจะเอาอย่างอื่นนอกจากกระจก เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ หรือ สีต่างๆ แนะนำให้ เพ่งภาพให้ติดตาติดใจ แล้วหลับตานึกภาพให้ออกไปเลย ก็เป็นกสิณ ติดต่อกับคนตายเหมือนกันแบบชาวพุทธ อันนี้คือเพ่งแล้วหลับตา

mirror gazing คือเพ่งแล้วตาค้าง ไม่หลับตา

ดีกันคนละแบบจ้า

อ่ะ โมทนา สาธุ คุณแจ๊กซ์ครับ

 

ก็อย่าไปเพ่งสิครับ ส่องแบบผ่านๆ พอเห็นก็โอเคแล้วครับ ฮ่าๆ

มันเป็นอุบายของไทยครับ เวลาจะหวีผม ต้องส่องกระจก หรือส่องน้ำในขัน (ถ้าเป็นบ้านชาวบ้าน) บางคนเข้าวัดฟังธรรม ปฏิบัติสมาธิบ่อย จิตมีพลัง เวลาหวีผมเพลินๆ ลูกกระตาไม่ขยับมาก แล้วภาพในกระจกมันจะเริ่มเปลี่ยน เป็นคนอื่น ยิ่งตอนกลางคืนจะยิ่งมองเห็นภาพได้ไวมาก เพราะสมองผลิตสารเมลาโทนินในห้องมืดๆมากกว่า (ถ้าภาษายุโรป ก็อาจจะบอกว่ามีพลัง มาน่า ถึงขั้น เลยมองเห็น...) แล้วผู้หญิงส่วนใหญ่ จะไม่ฟุ้งซ่านเท่าผู้ชาย เวลาหวีผม จะเจอผีก่อนชาวบ้านเลยอ่ะ แต่ผีเขามาส่วนใหญ่มาขอส่วนบุญ แต่เราไม่ทันอุทิศหรอก แหกปากร้องก่อน อ่ะๆๆๆ เขาก็เลยห้ามลูกห้ามหลาน อย่าส่องกระจก เดี๋ยวเจอผีหลอก

 

อื้ม เป็นแบบนี้นี่เองค่ะ เดี๋ยวค่อยอาบค่ะ กินขนมก่อน เหลืออีกสองถุง กินไหมคะ อิอิ ^^

 

อย่าหลอกกินขนมตอนกลางคืน ซะให้ยากเลยครับ หลังบ่ายสี่ผมไม่ทาน ไม่ใช่รักษาศีล 8 นะ แต่น้ำหนักขึ้นครับ 555555555

ระวังนะ มีคนยืนอยู่ข้างๆอ่ะ เขามาขอกินหนมป่าว

 

ตกใจเลยค่ะ เมื่อกี้เพิ่งเม้นเรื่องผีในบ้านไป ฮ่าๆ แต่ตัวที่ขออ่ะ มีจ๊ะ แต่ไม่ใช่คน เป็นหนูแฮมเตอร์เลี้ยง ฮ่าๆ มันกินเยอะมาก น้ำหนักขึ้นเหรอคะ ดื่มน้ำเยอะๆนะคะ ละลายไขมันค่ะ มาปรึกษาได้นะคะ เรื่องน้ำหนัก อิอิ ชำนาญค่ะๆ ได้สุขภาพดีด้วยค่ะ ^^

 

เคยมองอยู่นะค่ะ ยิ่งมองนาน ๆ ค่อย ๆ เริ่มน่ากลัวแต่ดิฉันก็พยายามมองต่อมันเหมือนใครอีกคนน่ากลัว ตอนนั้นจิตไม่ได้คิดอะไร รู้สึกวื๊บ ๆ และก็ขนลุก ตอนนั้นป.4 เองยังเด็กอยู่เลยทุกวันนี้ก็ยังกลัวไม่รู้ว่าใครในกระจกตอนนี้สามสิบแล้ว