หลวงปู่ทองทิพย์ ปิดตาจันทรคราส เหล็กไหลไพรดำ เหล็กเปียก เหล็กไหลเงินยวง

ผมเห็นหลาย ๆ องค์ของลูกค้าที่เลี่ยมติดตัว พระมีเปลียนสีออกสีดำเข้มขึ้นแทบทุกคน เนื้อโลหะของหลวงปู่ทองทิพย์ท่านจะเปลี่ยนสีได้นะครับ ตามอุณหภูมิของร่างกาย และปรับธาตุของผู้ที่แขวนติดตัวบูชา

มีคนเคยถามหลวงปู่ทองทิพย์พระปิดตาจันทรคราส อานุภาพเป็นอย่าง ท่านเล่าว่าหากมีสงคราม แม้แต่นิวเคลียร์ ก็ป้องกันได้ และผมก็เคยถามหลวงพี่นิล ท่านก็บอกว่าพระของหลวงปู่ทองทิพย์ให้ใส่ไว้ติดตัว ใส่ไว้ในเสื้อไม่อยากให้โชว์ เพราะเมื่อมีเหตุขับขันอะไร พระท่านจะมีลำแสงออกมาป้องกันภัยต่าง ๆ ให้ ถ้ามีภัยสงครามก็คนที่เขารู้ว่าเรามีของดีป้องกันก็อาจจะมาลักขโมยเราได้

 

นอกจากรุ่นสามกษัตริย์(จะมีปรอทผสมปจะมีน้ำออกจากองค์พระแล้ว ยังเปลี่ยนสีต่าง ๆ ได้นะครับเปรียบเทียบให้ชมระหว่างพระจันทรคราสรุ่นต่าง ๆ

 

บั้งไฟพญานาคที่วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร​

ช่วงนี้เข้าพรรษาทำให้นึกถึงเรื่องราวของหลวงปู่ทองทิพย์ เพราะมีคนเห็นบั้งไฟพญานาคขึ้นจากทุ่งนาดงพิพวย(หน้าวัด) อยู่เสมอซึ่งปกติเรามักจะเห็นว่าจะขึ้นจากกลางแม่น้ำโขง ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๑ บางแห่งขึ้นที่วัดหินหมากเป้ง บางแห่งก็ขึ้นที่เจดีย์กลางแม่น้ำโขง(พระธาตุหล้า จ.หนองคาย)

ภาพริมโขงวัดหินหมากเป้ง​

ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่าพ่อปู่ศรีสุทโธส่งทหารพญานาคมาคอยดูแลอารักขาหลวงปู่ทองทิพย์ พอถึงวันออกพรรษาก็จะเห็นบั้งไฟพญานาคที่หน้าวัดป่าสีดาฯ จุดบูชาพระพุทธเจ้า
ถ้าติดตามหลวงปู่ทองทิพย์ตั้งแต่ต้นจะเห็นว่าหลวงปู่ทองทิพย์ท่านจะชอบปล่อยเต่า ก็เพราะเชื่อกันว่าท่านเป็นองค์เดียวกับพระศรีอาริยเมตตรัย พระพุทธเจ้าที่เป็นพี่คือพระพุทธกัสสป ที่มีตำนานพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ องค์พระพุทธกัสสปได้แม่เต่าเอาไปเลี้ยง เมื่อถึงวันเพ็ญเดือนสาม หลวงปู่ทองทิพย์ท่านคณะนำเต่าไปปล่อยที่คำโชนด สถานที่เชื่อกันว่าเป็นวังพญานาค อยู่เสมอ ๆ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตากับแม่

หลวงปู่ทองทิพย์ท่านเกี่ยวข้องอะไรกับพญานาคหรือไม่ ?

ถ้าจำเรื่องของหลวงปู่ทองทิพย์ท่านลงไปเสกตะกรุดที่วังพญานาค กลางแม่น้ำโขง ช่วงที่หลวงปู่ลงไปนั้นหลวงปู่ท่านไม่ได้เล่าอะไรเป็นพิเศษ รู้เพียงแต่ว่าเหมือนท่านยืนเฉย ๆ แล้วก็ลอยเหนือผิวน้ำเข้ามายังฝั่ง ทราบภายหลังว่าหลวงปู่ทองทิพย์ท่านยืนบนพญานาคจนจะใกล้ฝั่งที่เดินได้แล้วท่านจึงจะก้าวเดิน
และอีกเรื่องคือช่วงแรกที่ท่านออกจากภูเขาควายจะเดินทางกลับมายังฝั่งไทย ท่านก็ลอยข้ามแม่น้ำโขงมานั้นท่านก็ยืนบนพญานาคเช่นกัน

 

เรื่องราวต่อไปนี้สำรับผู้จับพลังงานหรือชอบวัดพลังงานพระเครื่องหรือวัตถุมงคลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพุทธคุณหรือสายไสยศาสตร์ เพราะเห็นหลาย ๆ ครั้งที่จับพลังงานพระเครื่องแล้วพลังงานหาย ทั้งที่ก่อนหน้าพลังงานออกมามากมายอยู่ ๆ พลังงานหายหรือลดลงไป
อาทิตย์ก่อนเจอเพื่อนที่จับพลังงานได้จึงนำพระปิดตาจันทรคราสสีทองไปให้เขาจับ เขาจับแล้วบอกว่าพลังงานสุดยอดมาก และเพื่อนอีกคนมีพระปิดตาจันทรคราสอีกองค์ ก็นำให้เขาจับเพื่อนบอกว่าพลังงานสู้องค์สีทองไม่ได้ ผมเลยนำมาอธิษฐานอีกรอบผลคือ พลังงานเพิ่มขึ้นและเกือบจะเท่าองค์สีทอง

ผ่านไปอีกห้าวันผมถอดองค์สีทองไว้ และนำอีกองค์มาแขวนบอกท่านให้คุ้มครองเต็มอัตราเพราะจะเดินทางผมจึงถอดสีทองเก็บไว้ในกระเป๋า พอเพื่อนคนนี้จับองค์ที่ผมแขวนบอกว่าพลังงานเยอะดี และเมื่อผมยื่นองค์สีทองให้เขาบอกว่าสู้องค์ที่แขวนไม่ได้ และผมก็บอกว่าเป็นองค์เดียวกันกับองค์ที่จับเมื่อห้าวันก่อน เขาแปลกใจว่าทำไมพลังงานหาย และเขาก็ชอบเพราะอีกรุ่น ซึ่งผมอธิษฐานขอให้พระสององค์นั้น ส่งพลังงานออกมากมากกว่าองค์อื่น ๆ ซึ่งผมไม่ได้บอกเขา
จบเรื่องแรก

เรื่องที่สองเมื่อกลางเดือนก.ค. มีลูกค้าที่จับพลังงานได้ดี มาที่บ้านผมขอเช่าพระหลวงปู่ทองทิพย์ ผมก็ยื่น ๆ ไปให้พี่เขาจับแล้วก็วางเลือกองค์ที่เขาชอบไป ชอบพลังงาน แต่สิ่งที่ผมรู้สึกไม่ดีอย่างหนึ่งคือพี่เขาชอบจับพระตรง ๆ ผมใส่ถุงไว้พี่แกก็จะเอาถุงพลาสติกออก ก็ไม่เป็นไร พอแกกลับมารอบสอง ผมก็บอกหลวงปู่ว่า อย่าให้เขาจับพลังงานได้ พี่ชายท่านนี้ถึงกับบอกว่าอยู่ ๆ พลังงานพระท่านหายไป แล้วก็พูดกับผมว่าเหมือนหลวงปู่ไม่ให้รู้เรื่องพลังงาน ก็แปลกดีพี่เขารู้ด้วยว่า ผมอธิษฐานอะไร
จบเรื่องที่สอง

มีคน ๆ หนึ่งเช่าหลวงปู่สรวงจากที่ไหนมาไม่ทราบบอกผมว่า พระที่ได้มาเขาสัมผัสไม่ได้เลยเรื่องของพลังงาน ผมก็เลยบอกเขาว่าให้นำพระมาหาผมหละกัน ผมจึงให้แก่นั่งสมาธิขอขมาหลวงปู่สรวงและขอหลวงปู่สรวงให้เขารับรู้เรื่องพลังงาน ขณะที่เขานั่งสมาธิเขาบอกว่าที่ปวดหลังเหมือนมีพลังงานส่งให้เขาหายปวดหลัง และรับรู้พลังงานได้ จริงตามนั้น
จบเรื่องที่สาม

มีพี่คนหนึ่งเช่าพระหลวงปู่สรวงผมไป ก่อนจะเช่าผมบอกพี่ท่านนี้ไปว่า ถ้ากลับไปบ้านพลังงานหาย ไม่ใช่เพราะพลังงานพระหาย แต่เป็นเพราะเราลังเลสงสัยและไม่มั่นใจในหลวงปู่สรวง ขณะที่เขาจับพลังงานเขารับพลังงานได้ และเมื่อกลับบ้านไปสองอาทิตย์โทรกลับมาหาผม ขอเปลี่ยนองค์ ผมพูดไปก่อนที่พี่เขาจะมารับพระเพราะว่า วันนั้นหลวงปู่สรวงบอกกับผมว่าเดียวเขาก็เอามาคืนเพราะ......
จบเรื่องที่สี่

จำไม่ได้ว่าเขาชื่ออะไร เวลาท่านนี้ไปชอบมองพระว่าพระรูปนี้เป็นพระอรหันต์หรือไม่ เขามองหลวงพ่อฤๅษีและบอกว่าเพราะดีมากสว่างมาก และกลับไปเขียนหนังสือ พอกลับมาอีกรอบหลวงพ่อฤๅษีเลยปิดให้เห็นแต่ดำมืด เขาเลยไม่เคารพหลวงพ่ออีกเลย
จบเรื่องที่ห้า

หลวงพี่วิชัยวัดถ้ำผาจ่ม จับพระปิดตาจันทรคราสบอกว่าพระแรงมากและท่านเสกต่างจากพระองค์อื่น ๆ ท่านเอาตัวท่านมาอยู่ในองค์พระ
หลวงป๋า วัดหลวงพ่อสด ราชบุรี จับพระปิดตาจันทรคราสท่านบอกว่าเหล็กไหลเมื่อถวายท่านช่วงแรกท่านออกให้ทำบุญองค์ละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท
สิ่งที่อยากจะบอกกล่าวให้ฟังคือ ถ้าหากคน ๆ นั้นหรือวัตถุนั้น ๆ มีฤทธิ์มากกว่าเรา มีฌานสมาบัติมากกว่าเรา ท่านสามารถทำให้เห็นแบบไหน หรือส่งกำลังแบบไหนก็ได้ให้เรารับรู้ จึงไม่แปลกที่อยู่ ๆ พลังงานที่เคยมากหายไป หรือเพิ่มขึ้น

สมมุติฐาน ถ้าสิ่งนั้น ส่งพลังงานมา 100 เรา(สมาธิเรา) ขีดรับได้ 10 เราก็จะรู้ได้แค่ 10 ถ้าเรารับได้ 100 เมื่อส่งพลังงานออกมา 100 เราก็ต้องรับได้ 100 ถ้ามีเพิ่มมีลด แสดงว่าเราหรือสมาธิเราน้อยกว่าสิ่งที่ส่งพลังงานออกมา

ถ้าพลังงานต้นส่ง 5 เรา(สมาธิเรา) ขีดรับได้ 10 เมื่อเราสัมผัสพลังงานที่ส่งมา เราก็สามารถตอบได้ว่าพลังงานนี้ 5 แบบนี้คือเรามีกำลังสมาธิที่เหนือกว่าสิ่งเหล่านี้

อย่าลืมว่าถ้าหากสิ่งที่ส่งพลังงานคือ เทวดา พรหม หรือพระอภิญญา เรามนุษย์มีขีดความบริสุทธิ์เท่าไหร มีกำลังสมาบัติเท่าไร ที่จะสัมผัสพลังงานเหล่านั้นได้เต็มที่ กิเลสเราเป็นอย่างไร
วัตถุมงคลบางสำนักก็ต้องอาราธนา วัตถุมงคลบางสำนักก็เสกด้วยกำลังของวิชา วัตถุมงคลบางชนิดก็มีกำลังของตัวเอง เช่น เหล็กไหล คดขนุน ก็ต้องดูที่มาและวิธีการแต่ละสำนัก และวิธีการใช้ก็จำเป็นกับผู้ที่ได้ครอบครอง

อย่างมีดหมอหลวงปู่อ่วน ให้ใครจับก็พลังงานดีมากสุดยอด แต่ผมนำมาใช้ไม่ได้ผลเพราะไม่ได้ครอบครูของสำนักนั้น จึงนำพลังงานมาใช้ไม่ได้

เรื่องเราก็ที่จะเล่าก็มีเพียงแค่นี้ เราสัมผัสได้ แต่ก็มีปัญญาไม่ใช่จับ ๆ แล้วพลังงานเพิ่ม พลังงานหายเพราะอะไร บางครั้งก็ ปรามาสเขา เขาก็เก็บพลังงาน เขาเหมาะกับเราเขาก็จะส่งพลังงานออกมาเต็มที่ .... ใจตรงกันหรือเปล่า ถ้าใช่ฉันก็จะคุ้มครองเธอเต็มอัตรา

 

หลังจากที่หลวงปู่ทองทิพย์ละสังขาร หนองน้ำที่ด้านหน้าวัดก็แห้งลง บั้งไฟพญานาคก็หายไป ราวกับว่าพญานาคท่านกลับไปยังวังของท่านแล้ว

ช่วงที่หลวงปู่อยู่วัดเหล่าพระอภิญญาต่าง ๆ ก็แวะมาหาหลวงปู่เสมอโดยเฉพาะหลวงปู่เณรคำ (ที่ภูเขาควาย) ซึ่งการไปมาของท่านไร้ร่องรอย และท่านมีวาระกรรมกับหมู่บ้านหนึ่งไว้จะมาเล่าเรื่องต่อ***

เรื่องของพระหลวงปู่ทองทิพย์นั้น มีทั้งท่านสร้างเองเสกเอง และมีคน***สร้างมาให้ท่านเสก เช่นกรมศิลปากร ตอนบรูณะพระธาตุบังพวนช่วงพ.ศ. 2518-19 และพระศรีฯ ที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านให้หลวงพี่นิล สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2538

แต่ก็ไม่ได้มีเพียงแค่นั้นที่เห็น ๆ มา โดยเฉพาะพระชุดที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านแจกให้กับคนต่างพื้นที่ พวกพระปิดตาชุดเมฆสิทธิ์และเมฆพัตร เรียกว่าไม่เคยเห็นกันเลยเพราะไม่มีใครทราบว่าหลวงปู่ท่านเคยเสกไว้ การอ้างอิงตัวบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญ คนที่เคยรับและคนที่เคยเห็น พอนำพระชุดนี้ให้....ดูท่านบอกว่า พระเนื้อเมฆสิทธิ์หลวงปู่เณรคำและหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดรสร้างมาถวาย ซึ่งก็ตรงกับคนที่รับมา โดยต่างหมู่บ้านต่างอำเภอ ดังนั้นพระชุดนี้จึงแปลกไม่มีใครรู้

 

ขอทราบราคาพุทธกวักเนื้อเหล็กเปียกหลวงปู่ครับ

 

พระหลวงปู่ยังมีอีกหรือเปล่าครับขอราคาด้วยครับ

 

พระปิดตาเมฆสิทธิ์ เชื่อว่าน้อยคนมากที่จะรู้ว่าหลวงปู่ทองทิพย์ท่านเสกพระเนื้อเมฆสิทธิ์และก็ไม่ได้มีแค่เมฆสิทธิ์ ยังมีเมฆพัตรด้วย
ซึ่งหลวงปู่ได้บอกให้หลวงปู่เณรคำและหลวงปู่ใหญ่สร้างพระมาถวายโดยมีด้วยกันสองเนื้อคือเมฆสิทธิ์และเมฆพัตร
"การสร้างพระเนื้อเมฆสิทธิ์

พระเนื้อเมฆสิทธิ์ นับเป็นโลหะผสมที่มีความคล้ายคลึงกับเมฆพัตร ถ้าเป็นคนรุ่นเก่าจะเรียกการสร้างโลหะผสมเมฆสิทธิ์และเมฆพัตรว่า การเล่นแร่แปรธาตุ นับเป็นโลหะที่เชื่อว่า มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว เพราะขณะที่ทำการหลอมรวม จะต้องบริกรรมพระคาถาต่างๆ ไปด้วย สำหรับโลหะผสมเมฆสิทธิ์ ประกอบด้วยแร่ธาตุ ๔ ชนิด คือ เงิน สังกะสี ทองแดง และปรอท
โลหะที่ได้จะมีลักษณะแข็งแต่เปราะ ถ้าหล่นแตกแน่นอน ถ้าสังกะสีเยอะจะออกสีเขียว เมื่อปอกผิวใหม่ ๆ จะออกวรรณะขาวอมม่วงหรือฟ้า เนื้อในขาว วาวอย่างเงินยวง หากแช่น้ำหรือปล่อยให้สัมผัสอากาศจะค่อยเปลี่ยนสีวรรณกระแส ผิวเป็นเหลืองอมเขียว

สรรพคุณของเมฆสิทธิ์นับถือว่าดีเด่นทางด้านค้ำดวงชะตา หนุนดวงชะตา และสามารถนิมิตบอกอาเพทได้ หากสีวรรณะสดใสหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง หากวรรณะหม่นหมองมีคราบ ก็บอกอาเพทว่ามีเคราะห์ให้เร่งระวังและนำเครื่องรางเมฆสิทธิ์นั้นมาทำความสะอาดด้วยน้ำฝน หรือน้ำสะอาด

จากนั้นแช่เนื้อเมฆสิทธิ์ไว้อธิษฐานขอน้ำมนต์แก้อวมงคล ต่าง ๆ ได้ดีเรียกว่า “น้ำมนต์กลับดวง” ดั่งเมฆสิทธิ์ที่แปรสีฉันนั้นแลมีฤทธิ์ในการค้ำชูดวงชะตาราศีให้ดีขึ้น เป็นเมตตามหานิยมแก่ผู้พบเห็น เจริญไว้ด้วยลาภและทรัพย์นานา อีกทั้งยังคุ้มครองป้องกันให้แคล้วคลาด กลับร้ายกลายเป็นดี กันอุบาทจัญไรทั้งปวง"

 

พิทักษ์โลก.เปิดโลก.พระศรีราคาเท่าไรครับ

 

พิทักษ์โลก 3000-3500 บาทครับ
เปิดโลก 2500-3000 บาทครับ
พระศรี 1000-1500 บาทครับ

ตามความสวยนะจ้า

 

ผมขอชมพระศรีได้ไหมครับ

 

องค์ที่สองหละที่ เนื้อเมฆสิทธิ์มีลักษณะ คล้ายพระธาตุมาอยู่ที่ซอกมือขององค์พระ

 

เมื่อเช้าตอนตีสาม ถ่ายภาพพระก็เลือกองค์ที่ไม่สวย หล่อไม่เต็มมาถ่ายภาพส่งกล้องถ่ายทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ไม่เห็นผลึกที่ภายนอก เมื่อส่องที่ข้างในช่องที่ชำรุดเห็นผลึกอยู่สองที่ ที่มือขวาที่ด้านล่าง และมือขวาที่ด้านบน เนื่องจากว่ามีสององค์ที่มีผลึกคล้ายพระธาตุอยู่แบบนี้สององค์ จึงคิดว่า ถ้ามาอีกจะได้เรียกได้เต็มปากว่า รุ่นเมฆสิทธิ์ พระธาตุเสด็จ ก็ประกาศลงเฟชไป เมื่อถ่ายองค์นี้ด้านหน้าเสร็จ ก็พลิกมาถ่ายอีกด้าน

โอ้ว มีเสด็จมาที่เข่าซ้าย ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเลย เป็นองค์ชำรุด จะนำมาแขวนใส่ แต่ที่ไหนได้ กลับมีผลึกคล้ายพระธาตุ เพิ่มขึ้นมา

 

สอบถามราคาพระปิดตาเมฆสิทธิ์ ครับ

 

หากย้อนไปสมัยที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านสร้างวัตถุมงคล บรรจุกรุพระธาตุบังพวน ทำให้นึกถึงพระองค์สำคัญที่หลวงปู่ทองทิพย์พูดถึงคือหลวงปู่สรวง ท่านมาเยี่ยมหลวงปู่ทองทิพย์

หลวงปู่สรวงกับหลวงปุ่ทองทิพย์ท่านสร้างบารมีมาด้วยกันนานหลายร้อยปี หรืออาจจะพันปีก็เป็นได้ ท่านมาพักและสนทนากัน ก่อนจะกลับหลวงปู่สรวงท่านถวายเขี้ยวเสือ ให้กับหลวงปู่ทองทิพย์ ๑๐ เขี้ยวด้วยกัน

ไม่นานนักหลวงปู่ทองทิพย์ท่านก็เอาเขี้ยวเสือนี้มอบให้กับพ่อใหญ่..... ตอนนั้นท่านอายุประมาณ ๓๐ ปี ตอนนี้ อายุ ๗๐ ไปได้ ระยะเวลาเลาผ่านมาถึงปี ๕๙ ก็น่าจะประมาณปี พ.ศ. ๑๙

หลังจากคณะที่ร่วมเดินทางไปกับหลวงปู่สรวงเดินทางกลับ ก็ได้ย้อนกลับมาเช่าหาเขียวเสือที่ถวายหลวงปู่ทองทิพย์ และก็ได้ไป ๕ เขียว เหลืออยู่ห้าเขียวกับพ่อใหญ่.... จบเรื่องราวของที่มาที่ไป

ส่วนเขี้ยวเสือชุดนี้ หาข้อมูลรู้เพียงว่ามีสร้าง แต่ไม่เห็นว่าใครจะมีลงในอินเตอร์เน็ต จนมีคนกล่าวว่า เป็นเรื่องโกหก หลวงปู่สรวงท่านไม่ได้เสก ไม่ได้มีจริง แต่ข้อมูลที่ทราบมีคนยืนยันเห็นหลวงปู่สรวงถวายหลวงปู่ทองทิพย์ และคณะที่ไปกับหลวงปู่สรวงบูชาต่อ ก็เป็นตำนานที่มีจริง เพียงแต่ต้องใช้วิจารณญาณของตัวเอง

โดยส่วนตัวสัมผัสและลองก็น่าจะจริงแต่ของแบบหนัก ๆ ก่อนจะเล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างไรบ้าง หากใครสนใจก็สอบถามได้ มีแค่ ๒ เขี้ยว เพราะเรื่องบางเรื่องก็ต้องสัมผัสด้วยตัวเอง เล่าไปก็อาจจะจินตนาการไม่ถูก เพราะเห็นแต่ไม่ได้สัมผัส

 

ถามกันจริงว่า เมฆพัตรเป็นอย่างไร แบบนี้ครับไม่เหมือนใครและพลังงานของหลวงปู่ใหญ่หลวงปู่เณรคำ หลวงปู่ทองทิพย์ สามประสาน

มาเร็วไปแล้ว ปิดแล้วนะครับผม ขอขอบคุณนะครับ ที่สนใจ กำลังถ่ายรุปองค์ต่อไป ครับ .....

 

ขอทราบราคาครับ

 

ขอทราบราคาพระปิดตาเมฆสิทธิ์องค์ที่สองครับ

 

องค์นี้ให้เช่าบูชาแล้วครับผม