สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. wacaholic

    wacaholic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +214
    ยุคใหม่ศิวิไลย์แดนสยาม

    รัก...เมตตา...สันติ นี้คือ...ธรรม

    กายเจริญอริยะ จิตเจริญเมตตา​
     
  2. สตธศร

    สตธศร Namo Amithapho

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,537
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/jW98rii_MJ0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

     
  3. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    ขออานุภาพอธิษฐาน เบิกบานดั่งบุปผาชาติ
    ที่ปรากฏในโลก ในจักรวาล ทุกเผ่าพันธ์ู
    อานิสงส์แห่งธรรม ชื่อว่า"วิปัสสนา"
    ล้ำเลิศ ประเสริฐแท้ บังเกิดทุกประการ.
     
  4. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    อานิสงส์ อานุภาพย่อมบังเกิดแก่ผู้หมั่นและตั้งให้แน่วแน่
    ในจิตวิสุทธิเกิดพลัง ชำระส่วนเสียให้ส่วนดีมีพลังบังเกิด
    ก็ย่อมเป็นประโยชน์แห่งตน ทางกาย วาจาและใจ
    ย่อมได้คุณค่ามหาศาลทุกประการ อภัย อโหสิ..
     
  5. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    G​.​E​.​S​.​A​.​R​.​A​.
    A Republic Update - October 22, 2016
    กฎหมาย GESARA (Global Economic Security ​A​nd Re​​​formation Act) ได้รับการร่างขึ้นและถูกกลั่นกรองโดยกลุ่มคนที่มีจิตใจอันยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 21 เพื่อที่จะรีเซ็ตโลกและความเป็นอยู่ของมนุษย์บนรากฐานการกำกับดูแลอย่างยั่งยืน
    GESARA คือการกำหนดสันติภาพและคืนความยุติธรรมของระบบการเงินทั่วโลก พร้อมกับเงินจำนวนมหาศาลสำหรับวัตถุประสงค์ด้านมนุษยธรรมทั่วโลก จะมีการประกาศเฉลิมฉลองไปทั่วโลกในการยกเลิกหนี้ระหว่างประเทศและประชาชนทั้งหมด เพื่อการตั้งค่าใหม่ที่มีความโปร่งใสและเป็นสากลสำหรับโลก
    การดำเนินงานของ GESARA อยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญสากลสำหรับการกำกับดูแลใหม่ทั่วโลก ที่ทุกประเทศอธิปไตย 209 ประเทศได้ลงนามไว้ ในข้อตกลงกรุงปารีสเมื่อปี 2015
    และจะนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลของมนุษย์ และสิ่งมีชีวิติที่ไม่ใช่มนุษย์ (นอกโลก) กับสมาชิกของสหพันธ์จักรวาลที่ดำรงอยู่บนพื้นผิวของโลกใบนี้ และทั่วทั้งจักรวาลร่วมกันกับเรา
    มันจะเป็นข่าวดีที่สุดอีกเรื่องนึงครับ
    นี่คือของขวัญสำหรับชาวศิวิไลซ์ ในโลกยุคใหม่
    และเมื่อวันนั้นมาถึง เราทุกคนจะเป็นอิสระอย่างแท้จริง
    เตรียมออกมาจับมือกระโดดโลดเต้นกันนะครับ
    [​IMG]

    ผู้นำมาเสนอ : Mead Nations
    ที่มา : Ascension with Mother Earth and Current State of Affairs: G​.​E​.​S​.​A​.​R​.​A​.​ - A Republic Update - October 22, 2016
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • universe.jpg
      universe.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.1 KB
      เปิดดู:
      492
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2016
  6. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    รอวันนั้นด้วยใจระทึก.
    รอวันนี้มานานแหล่ะ.
     
  7. มนุษย์835

    มนุษย์835 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +182
    คุณวสุธรรม มีแหล่งที่มาชัดเจน ยืนยันชัดแจ้ง หรือไม่ มีผู้ยืนยันความน่าเชื่อถือ... มีรายนามพอเกริ่นได้ไหม...
    แล้วคำว่ากลุ่มคนที่มีจิตใจยิ่งใหญ่นี้ ได้ถูกต่อต้านดดยกลุ่มอื่นหรือไม่ ยอมรับเช่นไร หรือกลุ่มคนนี้ก็คือกลุ่มมหาอำนาจทางการเงิน ที่กล้าที่จะยอมละลายสินทรัพย์ของตัวเองเพื่อ รีเซต สังคมนี้ครับ..
    ผมออกจะงงๆ
     
  8. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    อย่าซีเรียสในเรื่องจริงหรือ ไม่จริงครับ
    ขอเป็นบทความแบบเพื่อเริ่มสร้างพลังความคิดฝ่ายดีของเราให้เกิดกำลังใจ
    ได้ปลุกพลังแสงสว่าง ขับไล่อวิชชา ความมืดทั้งหลายออกจากใจของพวก
    เราจะตรงกับความต้องการของผมครับ

    WAIT AND SEE

    พวกเราปรารถนาอย่างไรครับ อยากให้สิ่งที่ดีเกิดขึ้น หรือสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้น
    สำหรับผมนั้นขอให้เป็นจริง และได้เห็นในเร็ววันนี้ครับ พวกเราอาจปล่อยให้
    ความมืดกลืนกินแสงสว่างมานานแล้ว
    หรือ ดำ&ขาว หรือ มาร&เทพ หรือ ความคิดที่ดี&ความคิดที่ไม่ดี
    หรือการกระทำดี&การกระทำที่ไม่ดี หรือเหตุการณ์ที่ดี&เหตุการณ์ที่ไม่ดี
    แสงสว่าง ขอกลืนกิน ความมืดบ้าง ย่อมเป็นธรรม

    ขอให้พวกเราผู้ปรารถนาความดีอันบริสุทธิ์ ดุจแสงสว่างได้ขับไล่ความมืด
    นำภาพความเป็นจริงให้เราได้มองเห็น การก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ จึงควรมีคนที่
    คิดดีเกิดขึ้นมาก่อน และได้ชักชวนกัน คอยตักเตือนกัน รักและปรารถนาดี
    ต่อกัน แนะนำสิ่งที่ดีต่อกัน คุณจินตวดีได้สละเวลาของตนเอง มาเริ่ม
    จุดเทียนเล่มที่หนึ่งแล้ว ผมเพียงมาช่วยจุดเทียนอีก1เล่ม เพื่อเพิ่มแสงสว่าง
    ให้กับกระทู้นี้ครับ

    ด้วยรักและปรารถนาดี
    วสุธรรม

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    ไร้กรอบ = frameless = 6+18+1+14+5+12+5+19+19 = 98 INTELLIGENCE HUMANITY
    98 = MISSION = 13+9+19+19+9+15+14=98
    98 = 17 QUALITY


    The Sooner = The Better = 20+8+5+19+15+15+14+5+18+20+8+5+2+5+20+20+5+18 = 222 BEGINING VICTORY
    2+22 = 24 BEGINING DATA
    22+2 = 24 BEGINING DATA
    2+2+2 = 6 FULL


    98+222 = 320 CONECTING BEGINING (0)
    32+0 = 32 CONECTING BEGINING
    3+20 = 23 WORLD
    3+2+0 = 5 ENERGY


    หากดูผลลัพธของ frameless แสดงให้เห็น INTELLIGENCE HUMANITY = MISSION และ QUALITY อันแสดงถึงภาระหน้าที่หลักของมนุษยชาติในการยกระดับสติปัญญา

    และเมื่อดุผลลัพธ์ของ The Sooner = The Better = แสดงให้เห็นถึงBEGINING VICTORY และ BEGINING DATA และ BEGINING DATA และ FULL แสดงให้เห็นถึง ในที่สุด ไม่ช้าไม่นาน ชัยชนะของการเริ่มต้นใหม่ ในการเริ่มต้นเติมเต็มข้อมูลทั้งสองด้านให้สมบูรณ์ จะดีขึ้น เจริญขึ้นอย่างแน่นอน

    และเมื่อดูผลลัพธ์รวม แสดงให้เห็นถึง CONECTING BEGINING (0) และ CONECTING BEGINING และ WORLD และ ENERGY แสดงให้เห็นถึง การเริ่มต้นเชื่อมต่อพลังงาน ในการเข้าสู่โลกใหม่ ยุคใหม่ ในการปรับดุลยภาพให้เกิดขึ้นแก่จักรวาลและสรรพสิ่ง



    จะเห็นได้ว่าผลลัพธ์ CONECTING BEGINING (0) ยังแสดงให้เห็นถึงการเริ่มต้นเชื่อมต่อพลังงาน ศูนย์ ว่างเปล่า การขาดการเชื่อมต่อพลังงาน

    ดังนั้น The Sooner = The Better ในที่สุดแล้ว อีกไม่ช้าไม่นาน ชัยชนะ ในการเริ่มต้นเชื่อมต่อพลังงานจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน .. จึงภาระหน้าที่ของมนุษยชาติในการใช่สติปัญญายกระดับการเริ่มต้นการเชื่อมต่อพลังงาน โดยการเติมเต็มพลังงานทั้งสองด้านให้สมบูรณ์ โดยไม่ขาดการเชื่อมต่อ.. จึงไม่ใช่เหตุบังเอิญอย่างแน่นอน ..

    LOVE U.
     
  10. Little Duck

    Little Duck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,981
    WAIT AND SEE = 23+1+9+20+1+14+4+19+5+5 = 101 JUSTIFY AGE
    10+1 = 11 KEY
    1+01 = 2 BEGINING
    1+0+1 = 2 BEGINING



    หากดูผลลัพธ์ของ WAIT AND SEE แสดงให้เห็นถึง JUSTIFY AGE และ KEY และ BEGINING และ BEGINING แสดงให้เห็นถึง ความชัดเจน การพิสูจน์ ข้อเท็จจริง ในการปรับปรุงเปลี่ยน ยุคใหม่ อันเป็นกุญแจสำคัญในการเริ่มต้นใหม่ ของพลังงานทั้งสองด้าน ดังนั้น..อย่าซีเรียสในเรื่องจริงหรือ ไม่จริงครับ WAIT AND SEE รอดูต่อไป จึงไม่ใช่เหตุบังเอิญอย่างแน่นอน

    LOVE U.
     
  11. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    สวัสดีเพื่อน ๆ ที่รักของข้าพเจ้าทุกท่าน ข้าพเจ้ารู้สึกขอบคุณ และ ยินดีต้อนรับทุก ๆ ท่านเข้าสู่ NEW ! NEW AGE อีกครั้ง

    ขอบคุณ คุณ SIVA, คุณ AMBU, คุณ สตธศร, คุณ มนุษย์835 และ คุณ วสุธรรม สำหรับการเข้ามา post ข้อมูลสำคัญในห้องนี้ และยินดีต้อนรับ คุณ wacaholic และ คุณมุมไบด้วยความรัก เพราะทุกท่านที่เข้ามา ต่างก็มาตามหน้าที่ ตามเวลาที่ได้ตอบรับเอาไว้ หรือ ได้อาสาเอาไว้ (HUMANITY MISSION)

    แสงและ เงา

    ท่านที่รักเอย ทั้งแสง และ เงา ทั้งความมืด และ ความสว่าง ล้วนมีอยู่คู่กันอยู่แล้วในธรรมชาติ บางครั้งเงามืดก็ปรากฏขึ้นมาเพื่อให้เราได้รับรู้ถึงการมีคุณค่าของแสงสว่าง ไม่ว่าแสงนั้นจะเป็นเพียงแค่เทียนก็ตาม แต่ในความมืดแล้ว แม้แต่เทียนเล่มเล็กกลับมีคุณค่าอันยิ่งใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันกลับไร้ความหมายโดยสิ้นเชิงภายใต้แสงสว่างของดวงอาทิตย์ ดังนั้นบางครั้ง ความมืดก็ทำให้เราค้นพบคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของตนเอง ในขณะที่เราไม่สามารถค้นพบมันได้ในสถานการณ์ปกติ ไม่ต่างจาก ความมืดที่ทำให้เรามองเห็นคุณค่าของพระจันทร์ที่ให้ความสว่างในยามค่ำคืน หรือ การปรากฏของภัยพิบัติ รวมถึงการสูญเสียทั้งหลายที่ทำให้เราเพิ่มความรักความเมตตาให้แก่กัน ในขณะที่เราไม่เคยมีให้กันเลยในสถานการณ์ปกติ

    ดังนั้นบางครั้ง การปรากฏของความมืด ของภัยพิบัติ เหตุร้าย หรือเหตุการณ์ใหญ๋ ๆ ทั้งหลาย ก็เป็นไปในทิศทางที่ส่งเสริมให้มนุษย์มองเห็นคุณค่าของกันและกัน ให้เกียรติกันและกัน มีความรักความสามัคคีกัน มีความเมตตา และให้อภัยกันมากกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้เองในสถานการณ์อันเป็นปรกติ ดังนั้น ทุกอย่างล้วนปรากฏอย่างมีเหตุมีผลในตัวของมันเอง และไม่มีสิ่งใดที่ปรากฏอย่างไร้คุณค่า เพราะ เหตุบังเอิญไม่มีโลก (ขอขอบคุณเพลงเพราะ ๆ LOVE DAD จากน้องสตธศร)

    ทั้งความมืด และแสงสว่าง ทั้งแสง และ เงา ล้วนมีคุณค่าในตัวของมันเอง และใช้ในการเรียนรู้เพื่อยกระดับสติปัญญาของมนุษย์ทั้งสิ้น เฉกเช่นเดียว กับประสบการณ์ทั้งหลายของมนุษย์ที่อุบัติขึ้นทั้งในระดับส่วนตัว และ ส่วนรวม ซึ่งต่างก็เป็นไปในทิศทางที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ในการพัฒนาตนเองทั้งสิ้น และเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับปัญญาประดิษฐ์ และ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งหลายที่ล้วนเกิดจากประสบกับปัญหา จนก่อให้เกิดการหาทางแก้ไข หาข้อเท็จจริง จนมีการทดลอง ผ่านการลองผิดลองถูก และทำซ้ำ จนสามารถหาความชัดเจน ข้อพิสูจน์ จนสามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิต

    ยุคใหม่ศรีวิไลซ์แดนสยาม
    รัก...เมตตา ...สันติ นี่คือ ธรรม
    กายเจริญอริยะ จิตเจริญเมตตา

    CREDIT โดย คุณWACAHOLIC

    แก่นแท้ของธรรมชาติของทุกสรรพสิ่งที่ปรากฏล้วนกำเนิดขึ้นมาเพื่อสนับสนุนส่งเสริมกันด้วยความรัก ความเมตตา โดยมีการให้และการรับเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาอย่างปราศจากเงื่อนไข ทั้งในระดับกายภาพ และในระดับจิตวิญญาณ ดังนั้นสายใยที่เชื่่อมต่อสรรพชีวิตทั้งหลายไว้ด้วยกัน ให้ทำหน้าที่ตามธรรมชาติ และสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปรกติ และสันติ นั่นคือ ความรัก ความเมตตาอย่างปราศจากเงื่อนไข หรือ การไร้อัตตา การไร้ความยึดมั่นถือมั่นในความคิดของตนเท่านั้น

    และเมื่อสายใย หรือ ความสัมพันธ์ทั้งหลายได้ถูกตัดขาดลงเพราะความมีตัวตน มีความคิดตามกรอบความคิดเห็นตามความยึดมั่นถือมั่นของตนเองขึ้นมา การแบ่งแยก เรา-เขาจึงเกิดขึ้น และ สิ่งนี้เองที่ทำให้สัมพันธภาพระหว่างมนุษย์ด้วยกัน และสรรพชีวิตทั้งหลายถูกทำให้ขาดสะบั้นลง ผู้คนหลงทางอยู่ในความมืด และ ความหลงในตัวเอง คิดถึงแต่ตัวเอง พรรคพวกของตัวเอง ความรักความเมตตา ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การสนับสนุนซึ่งกันและกันถูกทำให้หายไป อุณหภูมิโลกและจักรวาลถูกทำให้ร้อนแรงขึ้นตามอารมณ์ของมนุษย์ด้วยกันเอง ทุกอย่างเป็นไปตามกฏแห่งธรรมชาติที่ภาวะทางกายภาพภายนอก ล้วนเป็นภาพสะท้อน หรือภาพที่ถูกฉายขึ้นมาจากภาวะจิตภายใน หรือ อาจกล่าวได้ว่า ประสบการณ์ภายนอก ถูกสร้างขึ้นมาจาก อารมณ์ความรู้สึกนึกคิดภายในของตัวมนุษย์เอง

    ++ภาวะน้ำท่วมก็ดี ภาวะสีนามิก็ดี ภาวะพายุก็ดี ภาวะอากาศที่แปรปรวนก็ดีล้วนเกิดจากประสบการณ์ทางจิต หรือ เกิดจากการสร้างทางจิตในระดับบุคคล และ ส่วนรวมที่เกิดจากความรู้สึกนึกคิด และการกระทำที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดนั้น ๆ ดังนั้นการที่จะปรับสมดุลย์หรือ แก้ไข จึงต้องแก้ที่มูลเหตุ หรือ ต้นเหตุเป็นสำคัญ คือ ย้อนกลับไปดูที่ต้นตอของเหตุนั้น ๆ นั่นคือ อารมณ์ ความรู้สึก ของมนุษย์นั่นเองที่เต็มไปด้วย ความแก่งแย่ง ความเบียดเบียน ความอิจฉาริษยา อันมีพื้นฐานมาจาก ความกลัวจะไม่ได้ดั่งใจตนเอง จะไม่เป็นอย่างที่ตนเองต้องการ ฯลฯ ซึ่งทุกอย่างล้วนมีพื้ันฐานมาจากพลังงานเดียวกัน ที่ถูกกำหนดโดย ego หรือ อัตตาตนเอง ดังนั้น EGO หรือ อัตตา จึงเป็นต้นเหตุที่สำคัญที่สุด

    ดังนั้นเมื่อมูลเหตุเกิดจาก ความมีตัวมีตนเข้าไปกำหนดกรอบความคิดเห็นในการสร้างอารมณ์ความรู้สึกของความชอบใจ และไม่ชอบใจให้เกิดขึ้นมา ดังนั้นเราจึงต้องกลับไปแก้ที่ต้นเหตุ หรือ ย้อนกลับไปดูที่ต้นเหตุ หรือ ใช้สมการแบบ REVERSE ของคุณไร้กรอบ คือ การเข้าไปหยุดวงจร การเกิดของอารมณ์ คือ รู้เท่าทันอารมณ์ เมื่อโกรธก็รู้ว่าโกรธ เมื่อดีใจ ก็ให้รู้ว่าดีใจ ร้อนก็รู้ว่าร้อน หนาวก็รู้ว่าหนาว สักแต่ว่ารู้ ก็ไม่ได้ไปให้ค่าอะไร คือมีสติรู้ทัน จนกลายเป็นมหาสติ อย่างนี้จึงเรียกได้ว่า เป็น วิปัสนา คือ กายเจริญอริยะ จิตเจริญเมตตา ดังนั้นวิปัสนาจึงเป็นธรรมอันประเสริฐ จึงเป็นทางสายเอก เมื่อได้ยินสิ่งที่ไม่ถูกใจ แต่มีสติรู้ทัน ไม่ปรุงต่อจนเกิดเป็นอารมณ์ วงจรการหมุนวนแห่งความคิด และการกระทำ หรือ rotary จึงไม่ทันได้เกิดขึ้น จิตจึงเจริญเมตตา อภัย อโหสิอยู่ในตัวเป็นอัตโนมัติ


    ขออานุภาพ อธิษฐานเบิกบานดั่งบุปผชาติ ที่ปรากฏในโลก ในจักรวาล ทุกเผ่าพันธ์
    อานิสงค์แห่งธรรมชื่อว่า วิปัสสนา ล้ำเลิศ ประเสริฐ บังเกิดทุกประการ
    อานิสงค์ อานุภาพย่อมบังเกิดแก่ผู้หมั่น และตั้งให้แน่วแน่ในจิตวิสุทธิ เกิดพลังชำระส่วนเสีย
    ให้ส่วนดีมีพลังบังเกิด ก็ย่อมเป็นประโยชน์แก่ตน ทางกาย วาจาใจ ย่อมได้คุณค่ามหาศาลทุกประการ อภัย อโหสิ
    ขอขอบคุณ คีย์สำคัญจากคุณ wacaholic


    และนี่คือ รูปแบบข้อมูลสมาธิอันสำคัญในการเริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่ เป็นกุญแจสำคัญในการเริ่มต้นขับเคลื่อน และเชื่อมต่อมนุษย์ชาติเข้าด้วยกัน

    ผมมีเรื่องราวมากมายหลายอย่างอยู่ในหัว รอวันเวลา CREDIT โดยคุณ SIVA[/COLOR

    การเชื่อมต่อเรื่องราวมากมายหลายอย่างเข้าด้วยกันเพื่อรวมกันเป็นหนึ่งในการเดินทางเข้าสู่ยุคใหม่ หรือ ศรีวิไลซ์ จำต้องรอวันเวลา....

    - มนุษย์ หรือ เราทุกคนจะมีความเข้าใจตรงกันในแก่นแท้ของความรักที่ธรรมชาติมีให้แก่สรรพชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน แก่นแท้ของชีวิต และ จิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยความรักอย่างที่มันควรจะเป็น และ นี่คือ GRAND หรือแก่นแท้ของธรรมชาติ หรือ สัจธรรมตามที่ หนุมาน ผู้นำสารได้เคยนำมาลงไว้

    - มนุษย์ หรือ เราทุกคน จะเรียนรู้ที่จะมีสติรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเองมากขึ้น โดยทำตามรูปแบบที่ถนัด ที่ถูกคิดค้น หาข้อเท็จจริง ผ่านการทดลอง ลองผิดลองถูกมาแล้ว หรือที่เรียกว่า อัจฉริยภาพทางปัญญา หรือ ปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกคิดค้นโดยมนุษย์ เพื่อมนุษย์ด้วยกัน หรือ พระธรรม (GRAND) ที่คุณ little mermaid ได้เคยนำมาลงไว้

    ]

    ดังนั้นข้อมูลทั้งสองส่วนข้างต้น จึงจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน CONFIRM EXPRESS สำหรับผู้ที่ต้องการเชื่อมต่อ และ ยืนยันภารกิจ

    ท้ายสุดจึงได้ขอประทานอนุญาติยกพระราชดำริมาประกอบ

    เมื่อมหาชนรู้ธรรมะ ปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้อง สมควรแก่ธรรมมากขึ้น
    บ้านเมืองก็จะมีแต่ความผาสุขสงบ
    เพราะผู้รู้ธรรมและปฏิบัติธรรมนั้น ย่อมมีความสุข ความสงบทั้งกาย ใจ
    ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน ทั้งแก่ตนเอง และผู้อื่น

    **พระบรมราโชวาท ณ สถาบันราชภัฏบุรีรัมย์ 18 ต.ค 2546


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2016
  12. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    แก่นแท้ของธรรมชาติ คือ การมาเป็นคู่ของพลังงานทั้งสองด้านที่มีคุณค่าเท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับการปรับใช้ให้ถูกกับกาละเทศะ (โอกาสและกาลเวลา)

    เราทุกคนล้วนกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการพัฒนายกระดับสติปัญญา หรือ การยกระดับสติสัมปชัญญะ หรือ การยกระดับจิตวิญญาณ ที่บางท่านอาจจะเรียกว่า "การตื่นรู้สู่จิตพุทธะ" ดังนั้น ในการเริ่มต้นของการยกระดับ หรือ สติปัญญา ทุกคนล้วนต้องเริ่มต้น

    จาก 0 ไปสู่ 9
    จากความไม่รู้ หรืออวิชชา ไปสู่ความรู้
    จากความเชื่อที่ถูกสร้างจากความไม่รู้ ไปสู่การเปลี่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้
    จาก THE FOOL ไปสู่ THE FULL
    จาก การหลับไหล ไปสู่ การตื่นรู้
    จาก ข้างแรมไปสู่ ข้างขึ้น

    ในขั้นตอนการยกระดับสติปัญญาไม่ว่าทางโลก หรือทางธรรม เราทุกคนจำเป็นต้องมีบททดสอบผ่านประสบการณ์หลากหลาย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ในการยกระดับสติปัญญา หรือ เปลี่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้ ดังนั้นเหตุการณ์ทั้งหลาย ที่อุบัติขึ้นล้วนเกิดมาให้เราทุกคนได้เรียนรู้่ พัฒนา ยกระดับจิตวิญญาณ สติปัญญาความรู้ ผ่านการทำซ้ำ ลองผิดลองถูกจนเกิดความเชี่ยวชาญ ในเหตุ และผล

    ดังนั้น ทุกประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราไม่ว่าจะดี หรือ ไม่ดี ไม่ว่าเราจะเรียกว่า ความมืด หรือ แสงสว่าง ล้วนเข้ามาสู่เราเพื่อให้เราได้ใช้ในการเรียนรู้เพื่อเปรับปรุง เปลี่ยนแปลง บวกเพิ่ม และ ตัดลดเพื่อให้เกิดความพอดี หรือสมดุลย์อันเป็นการสร้างคุณประโยชน์ต่อตนเอง และ ส่วนรวม อันตรงกับแก่นแท้ของธรรมชาติที่ทุกสรรพสิ่งล้วนปรากฏขึ้นมาเพื่อสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อก่อให้เกิดความเรียนรู้ที่จะเพิ่มความรัก ความเมตตาให้แก่กันอันเป็นคุณสมบัติหรือ แก่นแท้ของธรรมชาติ และทุกครั้งที่เราผ่านประสบการณ์ หรือ วิกฤติการณ์เหล่านั้นไปได้ ความเชี่ยวชาญ ความชัดแจ้ง ความเห็นแจ้งในเหตุและผลทั้งหลายก็จะพัฒนาในทางเชี่ยวชาญมากขึ้น คือ ดีขึ้น หรือมีการยกระดับสติปัญญามากขึ้น (The sooner is better เครดิต โดย คุณไร้กรอบ) เพราะผ่านการลองทำ ตั้งสมมุติฐาน ลองผิดลองถูกจนเห็นผลชัดเจนมาแล้ว จนกลายเป็นที่ยอมรับมีการประพฤติปฏิบัติอย่างกว้่างขวาง มีแหล่งที่มาชัดเจน ยืนยันชัดแจ้ง มีผู้ยืนยันความน่าเชื่อถือ

    การพัฒนายกระดับสติปัญญาเหล่านี้ เปรียบได้ กับการเปลี่ยนแปลงของพระจันทร์ในยามค่ำคืนในคืนเดือนมืดที่เปรียบเสมือนกับการเดินทางของมนุษย์ หรือของเราทั้งหลายที่ยังเต็มไปด้วยอวิชชา ความไม่รู้ ความกลัว ความหลงในสังสารวัฏในจุดเริ่มต้น และค่อย ๆ ตื่นรู้ พัฒนาผ่านวันเวลาไปเป็นจันทร์เต็มดวง ที่ส่องสว่างอย่างเต็มที่ท่ามกลางความมืดมิดเพื่อส่องหนทางให้กับมนุษย์ใช้ในการเดินทางในยามค่ำคืน ก่อนรุ่งอรุณของวันใหม่ หรือ ก่อนที่พระอาทิตย์จะปรากฏขึ้น

    หรือ อาจกล่าวได้ว่า มนุษย์แต่ละคนล้วนกำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการยกระดับสติปัญญา หรือ พัฒนาจิตวิญญาณจากความไม่รู้ ไปสู่ความรู้ จากความมืดไปสู่ความสว่าง มนุษย์แต่ละคนล้วนมีโลกแห่งความเป็นจริงของตนเองตามการมองที่แตกต่างกัน ดังนั้น ความมืด ความสว่างของมนุษย์แต่ละคน ย่อมแตกต่างกันไปตามระดับสติปัญญา ตามความรู้ของจิตวิญญาณ ตามการมองโลกของแต่ละคน แต่ทุกคนล้วนรอวันเวลาที่ความมืดมิดจะถูกกลืนกินโดยแสงสว่าง หรือ พัฒนาจากความมืดไปสู่ความสว่าง จากการหลับไหลไปสู่การตื่นรู้เหมือนกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าต้องรอวันเวลา หรือ Wait and See ซึ่งเวลาในการเดินทางของท่านก็ไม่เท่ากัน การเห็นและการเรียนรู้ก็อยู่ในระดับที่แตกต่างกัน บางท่านอาจรอวันนั้น วันที่ท่านจะตื่นรู้ บางท่านรอวันนี้ เพราะมีพื้นฐานมาบ้างแล้ว แต่เมื่อวันนั้นมาถึง (ต้องมาถึงทุกคนเพียงแต่ใช้เวลาแตกต่างกัน) เราทุกคนจะเป็นอิสระอย่างแท้จริงจากสังสารวัฏ (ขอขอบคุณ คีย์จาก ของคุณ มุมไบ และคุณ วสุธรรม)

    การเดินทางทั้งหลาย ไม่แตกต่างจาก การเจริญเติบโตของบัวทั้งสี่เหล่า เริ่มต้นจากดิน ผ่านขั้นตอน อุปสรรคทั้งจากการเป็นอาหารของ เต่า ปู ปลา ภูมิอาศ จนกว่าจะบานรับแสงอาทิตย์ได้ บางดอกใช้เวลาในการเกิดซ้ำซากจากกอเดิมอย่างนั้นหลายครั้ง ซึ่งไม่ต่างจากการเรียนรู้ของมนุษย์ล้วนต้องผ่านการทำซ้ำของจิตวิญญาณผ่านภาวะทางกายภาพ ผ่านชาติภพหลากหลาย และเมื่อเราเข้าใจได้ดังนี้ ว่าเราทุกคนกำลังอยู่ในขั้นตอนการเรียนรู้ เพื่อยกระดับสติปัญญาด้วยการลองผิด ลองถูก แต่สุดท้ายทุกคนล้วนจะต้องพบแสงสว่าง หรือ คืนกลับสู่จิตตื่นรู้ หรือ โพธิจิตเหมือนกันหมด ดังนั้น การ ให้อภัย อโหสิ ( อภัย อโหสิ เครดิตโดย AMBU) จึงต้องมีให้กันและกัน เพราะรู้ว่าแต่ละคนจะต้องได้รับผลจากการไม่รู้นั้น เพื่อการเรียนรู้ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการกระทำใหม่ ในการยกระดับสติปัญญาของตนต่อไป

    พวกเราปรารถนาอย่างไรครับ อยากให้สิ่งที่ดีเกิดขึ้น หรือสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้น
    สำหรับผมนั้นขอให้เป็นจริง และได้เห็นในเร็ววันนี้ครับ พวกเราอาจปล่อยให้
    ความมืดกลืนกินแสงสว่างมานานแล้ว
    หรือ ดำ&ขาว หรือ มาร&เทพ หรือ ความคิดที่ดี&ความคิดที่ไม่ดี
    หรือการกระทำดี&การกระทำที่ไม่ดี หรือเหตุการณ์ที่ดี&เหตุการณ์ที่ไม่ดี
    แสงสว่าง ขอกลืนกิน ความมืดบ้าง ย่อมเป็นธรรม

    ขอให้พวกเราผู้ปรารถนาความดีอันบริสุทธิ์ ดุจแสงสว่างได้ขับไล่ความมืด
    นำภาพความเป็นจริงให้เราได้มองเห็น การก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ จึงควรมีคนที่
    คิดดีเกิดขึ้นมาก่อน และได้ชักชวนกัน คอยตักเตือนกัน รักและปรารถนาดี
    ต่อกัน แนะนำสิ่งที่ดีต่อกัน คุณจินตวดีได้สละเวลาของตนเอง มาเริ่ม
    จุดเทียนเล่มที่หนึ่งแล้ว ผมเพียงมาช่วยจุดเทียนอีก1เล่ม เพื่อเพิ่มแสงสว่าง
    ให้กับกระทู้นี้ครับ

    ด้วยรักและปรารถนาดี
    วสุธรรม

    เราทุกคนล้วนเป็นเทียนที่กำลังส่องทางให้แก่กันและกัน แม้เราทุกคนจะเป็นพระจันทร์ข้างขึ้นกี่ค่ำก็ตาม แต่แสงสว่างเพียงเล็กน้อยในโลกแห่งความเป็นจริงของเราทุกคน กำลังช่วยกันนำพา และส่องแสงสว่างนำหนทางแห่งสติปัญญา ให้กับโลกแห่งความเป็นจริงของท่านอื่นอยู่เช่นกัน กลุ่มบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นกลุ่มบุคคลที่มีจิตใจอันยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับพระจันทร์วันเพ็ญอันเป็นตัวแทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า ที่มีพระธรรม (GRAND) เป็นตัวแทนของพระพุทธองค์ ที่ผ่านการพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติผ่านมาหลายชั่วอายุคน มีแหล่งที่มาชัดเจน ยืนยันชัดแจ้ง มีผู้ยืนยันความน่าเชื่อถือ (ขอบคุณคีย์จาก มนุษย์835)

    ****ดังนั้น การน้อมนำธรรมของพระพุทธองค์มาประกอบกับสัจจะ คือ การประพฤติปฏิบัติจริงของชนหมู่มากในสังคม ย่อมหมายถึง การกลับมาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง REBIRTH OF THE BUDDHA

    ดังนั้น การเริ่มต้นใหม่ (BEGINNING) จึงเป็นการนำเอาแก่นแท้ของธรรมชาติ และ ธรรมะมาประยุกติใช้ในยุคใหม่ที่กำลังมาถึง ทุกอย่างต้องมีการเริ่มต้น เหมือนการจุดเทียนไข 1 เล่ม และต่อไปอีกหลาย ๆ เล่ม ผ่านวันเวลา ซึ่งตรงกับแก่นแท้ของธรรมชาติ ที่ทุกสรรพสิ่ง หรือทุกภารกิจจะสำเร็จลงได้ก็ด้วยการสนับสนุนซึ่งกันและกัน หรือ เกิดจากความรักความสามัคคีในกันและกันเท่านั้น ยุคศรีวิไลซ์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยคน ๆ เดียว แต่เกิดขึ้นจากคนหมู่มากร่วมกันเท่านั้น โดยปราศจากการยึดติดในกรอบความคิดเห็น โดยปราศจากการยึดในผลงานว่าเป็นตัวเรา ของเรา เพราะความรู้ไม่มีเจ้าของ เจ้าของที่แท้จริงคือ ธรรมชาติเท่านั้น จึงจะเรียกได้ว่า "ความดีงามอย่างแท้จริง"

    ท้ายสุดนี้ขอยกพระบรมราโชวาทของบุคคลอันเป็นที่รัก (LOVE DAD) มาลงไว้

    การทำงานใหญ่ๆ ทุกอย่างต้องการเวลามาก กว่าจะทำสำเร็จ
    ผู้ที่ริเริ่มโครงการอาจไม่ทันทำให้สำเร็จโดยตลอดด้วยตนเองก็ได้
    ต้องมีผู้อื่นรับทำต่อไป ดังนั้นไม่ควรยกเอาเรื่องใครเป็นผู้ริเริ่มงาน
    ใครเป็นผู้รับช่วงงานชิ้นนี้ เป็นข้อสำคัญนัก
    จะต้องถือผลสำเร็จที่จะเกิดจากการงานเป็นใหญ่

    พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 14/10/2514

    ด้วยรัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2016
  13. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    อะไรคือระบบในชีวิตของพวกคุณ?
     
  14. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    สวัสดีค่ะ และขอต้อนรับคุณ อัศวินมายาสู่กระทู้นิวเอจ

    BECAUSE NEW AGE IS CALLING TO ME AND CALLING TO YOU.
    และเราทุกคนก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง

    LOVE U
     
  15. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ข้อความจาก LITTLE DUCT นำกลับมาให้อ่านอีกครั้ง


    FRIENDSHIP
    มิตรภาพ, เพื่อน , ส่งเสริมซึ่งกันและกัน

    6+18+9+5+14+4+19+8+9+16 = 108 = 10+8 =18
    18 = R = ROTARY .. กงล้อ , การขับเคลื่อน , การหมุนรอบแกน..

    การขับเคลื่อนกงล้อธรรม ในยุคแห่งการส่งเสริมซึ่งกันและกัน ..

    ธรรมจักร : กงล้อแห่งธรรม

    กงล้อแห่งธรรม โดยมีสัญลักษณ์คือธรรมจักร อันหมายถึง การประกาศพระพุทธศาสนา






    UNIVERSE..

    Little Duck ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2016
  16. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    กระหน่ำlike ค่ะ:cool::cool::cool:
     
  17. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    หากต้องการเปลี่ยนชีวิต
    ก็ต้องเปลี่ยนกฏหรือความเชื่อ

    การค้นหาตัวตนของเราให้พบหรือการรู้จักตนเองนั้น
    หมายถึง การหาให้พบว่าเราคือ"อะไร"
    ไม่ใช่หาว่าเราคือ"ใคร"?

    ปล.ข้าพเจ้าขอยอมจำนน
    แค่ยอมจำนน.. เท่านั้น.
    ประตูถ้ำก็แง้มออกแล้ว...
     
  18. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    สวัสดีเพื่อน ๆทุกท่าน และ ยินดีต้อนรับน้อง philosophi ที่กลับมาพร้อมกุญแจสำคัญ เพื่อน ๆ ทุกท่านที่เข้ามา post หรือ ไม่post ทุกๆท่านต่างล้วนคือ กุญแจที่มีความสำคัญในการเดินทางเข้าสู่ new age หรือ ยุคใหม่ ยุคศรีวิไลซ์ เหมือนกันทั้งสิ้น เพราะในแต่ละโพสต์ของท่านล้วนมีกุญแจสำคัญซุกซ่อนอยู่ในนั้น แต่ละท่านล้วนคือ ผู้ถือกุญแจ ดังนั้นการส่งมอบกุญแจ คือสิ่งสำคัญ ในการตอบรับ ภารกิจ หรือ MISSION ที่เราทุกคนได้เคยทำพันธสัญญาเอาไว้ การที่เราทุกคนได้มาพบกันและกันไม่มีเหตุบังเอิญ นั่นเป็นเพราะว่าเราล้วนมีภารกิจเดียวกัน หรือ มีเป้าหมายเดียวกันที่ต้องมาร่วมมือ ร่วมใจกันทำให้สำเร็จลุล่วง ผ่านการทำซ้ำ ผ่านหลายมิติ หลายตัวตน และ หลายชาติภพ พร้อมกันทั้งหมดอย่างเป็นระบบ ซึ่งระบบแห่งการทำงานอันเต็มไปด้วยการสนับสนุนซึ่งกันและกัน มีการให้ และการรับระหว่างตัวตนทั้งหลายเหล่านี้ เป็นไปตามแก่นแท้ของธรรมชาติ และ จักรวาลอย่างแท้จริงที่เต็มไปด้วยความรักอย่างปราศจากเงื่อนไขที่สรรพชีวิตทั้งหลายพึงมีให้แก่กันและกันในจักรวาล

    อะไรคือ ระบบในชีวิต CREDIT โดย อัศวินมายา

    หากต้องการเปลี่ยนชีวิต
    ก็ต้องเปลี่ยนกฏหรือความเชื่อ
    การค้นหาตัวตนของเราให้พบหรือการรู้จักตนเองนั้น
    หมายถึง การหาให้พบว่าเราคือ"อะไร"
    ไม่ใช่หาว่าเราคือ"ใคร"?

    CREDIT โดย philosophi


    COLORS

    ในความใสบริสุทธิ์ของน้ำ เมื่อนำไปส่องกับแสงแดด จะปรากฏเป็นสีรุ้งซึ่งประกอบจากหลายสีด้วยกัน และทุก ๆ สีต่างก็มีที่มาจากหนึ่งเดียว คือความใสบริสุทธิ์ นี่คือ อุปมาความเป็นไปของสรรพชีวิตทั้งหลายที่อุบัติขึ้นเป็นภาวะทางกายภาพบนโลกใบนี้ ที่แตกต่างกันไปตามภาวะทางกายภาพ ความถนัด พรสวรรค์อันเป็นเอกลักษณ์

    แต่เหตุใดมนุษย์จึงแบ่งแยกสี จุดหมายเดียวกัน แต่ไม่จำเป็นต้องเดินซ้ำรอยกัน การเดินผิดรอยจากคนอื่นใช่ว่าเราจะผิดเพราะเราก็สามารถไปสุ่จุดหมายเดียวกันได้ มนุษย์ที่เดินอยู่บนทางเดียวและลืมพิจารณาถึงเส้นทางอื่น โดยมองเห็นความสูงกว่า ต่ำกว่า โดยเอาความเชื่อของตัวเองมากำหนด ก็เหมือนเราโดนสะกดจิตด้วยความเชื่อนั้น นี่แหละคือ ความหมายของคำว่า "คลื่นสะกดจิตที่แท้จริง"

    และเมื่อใดที่เงื่อนไขปรากฏ เมื่อนั้นเราทั้งหลายต่างก็ได้ผลิตกระแสลบ หรือ ความกลัวออกมาโดยมีพื้นฐานจากอัตตา หรือ ความยึดมั่นในความเชื่อของตนเอง


    ข้อความเก่าจาก LITTLE DUCK
    COLORS = สีหลายสี
    เมื่อนำทุกสีมารวมกันจะได้สีอะไร ?
    C = CHANGE
    O = OF
    L = LIVE
    O = OF
    R = RULE

    หากต้องการเปลี่ยนชีวิตก็ต้องเปลี่ยนกฎ หรือ ความเชื่อ
    ดังนั้น เมื่อเติม S จึงหมายถึงความหลากหลาย


    ระบบในชีวิต คือ ระบบที่ส่งเสริมสนับสนุนซึ่งกันและกัน (FRIENDSHIP)

    สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนเกิดมาแตกต่างกันไปทางกายภาพ ทั้งนี้เป็นไปเพื่อการเรียนรู้ และมีประสบการณ์ผ่านชีวิตในมุมมองที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับการอุบัติของมนุษย์ทั้งหลาย (HUMAN BEING) ที่อุบัติขึ้นมาเพื่อเรียนรู้มีประสบการณ์ผ่านภาวะทางกายภาพโดยเรียนรู้จากการมองผ่านตนเอง และผ่านกันและกันจากมุมมองที่แตกต่างกันไปทั้งทางด้านสภาพแวดล้อม ความถนัด และ ลักษณะนิสัย ระบบนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมดในทุกมิติ

    เอกลักษณ์อันแตกต่างกันทั้งหลาย อุปมาได้กับความแตกต่างกันของสี แต่ในความเป็นจริงแล้ว ชื่อของสีทั้งหลายก็เป็นเพียงแค่นามธรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นมาตามความเชื่อเท่านั้น ไม่ต่างจากมนุษย์ทั้งหลายที่มีความแตกต่างกันทางด้านสีผิว เชื้อชาติ ศาสนา นิสัยใจคอ ฯลฯ แต่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่ที่อยู่ภายใต้วงจรของการเกิด แก่เจ็บตาย เท่านั้นไม่แตกต่างกัน ความแตกต่างทั้งหลายถูกสร้างขึ้นมาจาก ระบบความเชื่อของมนุษย์เองที่ถูกสร้างขึ้นมาจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ปัญหาความแตกต่างส่วนใหญ่ของสังคมทั้งระดับย่อย และ ระดับใหญ่ล้วนเกิดจาก ความเชื่อประเภทนี้


    มนุษย์แบ่งแยกดีชั่ว ดำขาว แสงและเงาตามความเชื่อของตนเอง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เห็นก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไป

    ในสถานการณ์หนึ่ง หญิงผู้หนึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นคนชั่วเพราะไปขโมยของในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง หญิงคนนี้เป็นคนชั่ว คนไม่ดีในโลกแห่งความเป็นจริงของผู้เห็นเหตุการณ์ แต่ในขณะเดียวกัน หญิงคนเดียวกันนี้กลับเป็นคนดี เป็นแม่อันประเสริฐของลูก และ เป็นลูกที่กตัญญุ ของมารดา ที่ต่างรอคอยด้วยความหิวโหยอยู่ที่บ้าน เพราะสามีของหญิงคนนี้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุโดยขาดคนไร้ผิดชอบ และ ตัวเธอก็ไม่มีความรู้ที่จะไปทำงานอะไร

    นี่เป็นตัวอย่างของการมองโลกแห่งความเป็นจริงที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน หากเพียงแต่เราจะมองเห็นตรงกันตามความเป็นจริงที่ไม่ใช่ตามความคิดเห็น หรือ ความเชื่อ เราจะพบได้ว่า ทุกสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนอยู่ภายใต้เครื่องพรางเดียวกัน คือ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย รุ้ร้อน รู้หนาว รู้หิว รู้อิ่ม มีเจ็บ มีป่วย เหมือนกันหมดทั้งสิ้นไม่แตกต่างกัน หากเราเห็นตรงกันดังนี้แล้วความรัก ความเมตตากรุณาทั้งหลายจะบังเกิดขึ้นพร้อม กับการเสียสละและให้อภัยให้แก่กันและกัน

    ในขณะเดียวกัน โลกแห่งความเป็นจริงของมนุษย์ยังเกี่ยวพันมากมายกับระบบแห่งความเป็นจริงโลกอื่น และ มิติอื่น เพียงแต่ต้องหาให้พบว่าตัวเรานั้นคือ อะไร ไม่ใช่คือ "ใคร" เพราะ ชื่อก็เป็นเพียงแค่ นาม
    ธรรม ที่ถูกใช้เรียกตามความเชื่อเท่านั้น

    ร่างกายของมนุษย์ประกอบไปด้วยการทำงานอย่างเป็นระบบของอวัยวะมากมายหลายชิ้นส่วนมาประกอบกัน ทุกอวัยวะต่างมีชีวิต และ มีการทำงานอย่างเป็นระบบ คือ ทำงานสนับสนุนส่งเสริมกันและกันตามแก่นแท้ของธรรมชาติในการให้ชีวิตแก่ร่างกายมนุษย์ (HUMAN BEING) อวัยวะทั้งหลายไม่เคยแบ่งแยกว่ามันอยู่อย่างโดดเดี่ยว เพราะทุกอวัยวะต่างทำงานตามหน้าที่และสัญชาติญาณในการเกื้อหนุน หรือ สนับสนุนซึ่งกันและกัน ถึงแม้ว่ามันจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันก็ตาม เราหายใจรับอ๊อกซิเจนไปสู่ปอด ปอดทำงานฟอกเลือดส่งสู่หัวใจ หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้่ยงส่วนต่าง ๆของร่างกายอย่างนี้เป็นต้น

    หากเราจะมองดูให้ลึกลงแล้ว ระบบอวัยวะต่าง ๆแบ่งย่อยลงไปเป็นระบบการทำงานของ เซลล์ ยีนส์ โครโมโซม ซึ่งมีชีวิต และมีการทำงานอย่างเอกลักษณ์ แต่อยู่ภายใต้กฏ หรือ แก่นแท้เดียวกัน นั่นคือ การสนับสนุน ส่งเสริมซึ่งกันและกัน และ ระบบเหล่านี้สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์

    ทุกระบบล้วนทำงานตามหน้าที่อย่างสนับสนุนซึ่งกันและกัน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างสอดคล้อง ทั้งภายนอก และ ภายใน เพราะ ลักษณะภายในและภายนอก ล้วนเป็นภาพสะท้อนของกันและกัน เช่นเดียวกับที่ ภาวะทางกายภาพ เป็นภาพสะท้อนของภาวะจิตภายใน

    ดังนั้นโลกแห่งความเป็นจริงของแต่ละคน จึงเป็นภาพสะท้อนความคิดเห็น ความเชื่อที่เรามีต่อโลก หรือ สิ่ง ๆ นั้น

    ดังนั้นหากเราใช้สมมุติฐานแบบ REVERSE ที่ย้อนกลับไปดูที่ต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด เราจะเห็นได้ว่า ทุกอย่างเริ่มต้นจาก "ความเชื่อที่อยู่ภายใต้การบงการของกรอบความคิดเห็นเท่านั้น"

    หากต้องการเปลี่ยนชีวิต
    ก็ต้องเปลี่ยนกฏหรือความเชื่อ

    มนุษย์ และสรรพชีวิตทั้งหลายในโลก ไม่แตกต่างจาก อวัยะแต่ละส่วนที่มาประกอบกันเป็นร่างกายมนุษย์ และในขณะเดียวกัน ระบบเซลล์ และระบบอะตอมทั้งหลายที่ซ้อนอยู่ในระบบอวัยวะ ก็ไม่แตกต่างกับ ระบบมิติทั้งหลาย และ ระบบชาติภพทั้งหลายที่ซ้อนอยู่ในตัวของมนุษย์และทุกสรรพชีวิต สรรพสิ่งทั้งหลายมีความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน การกระทำของระบบหนึ่งล้วนส่งผลต่ออีกระบบหนึ่งโดยอัตโนมัติ

    หากอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งทำหน้าที่อย่างไม่สอดคล้องกับระบบส่วนรวม ร่ายกายนั้นย่อมปรับตัวเพื่อให้เกิดความสมดุลย์ โดยทำให้เกิดเป็นเชื้อไวรัส มะเร็ง หรือ โรคภัยไข้เจ็บบางอย่างเพื่อส่งเป็นสัญญาณให้เกิดการแก้ไฃเปลี่ยนแปลงเพื่อการอยู่รอดของระบบร่างกายส่วนรวม

    หากมนุษย์ทำหน้าที่อย่างไม่สอดคล้องกับระบบนิเวศน์ของโลก โลกย่อมปรับตัวเพื่อให้เกิความสมดุลย์ โดยทำให้เกิดเป็นอุบัติภัยบางอย่างเพื่อการเรียนรู้ให้เกิดการแก้ไขเพื่อการอยู่รอดของระบบโลกส่วนรวม

    และหากโลกทำหน้าที่ไม่สอดคล้องกับระบบสุริยะจักรวาล ระบบสุริยะจักรวาลย่อมปรับตัวเพื่อให้เกิดความสมดุลย์ โดยทำให้่เกิดอุบัติภัยบางอย่างเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เพื่อการอยู่รอดของระบบสุริยะส่วนรวม

    เราทุกอย่างล้วนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันในระบบ เช่นเดียวกับชาติภพต่าง ๆ ที่เป็นภาพสะท้อนอยู่ภายในตัวเรา และขณะเดียวกัน ก็สะท้อนผ่าน บุคคลที่รายล้อมตัวเราด้วย

    WHAT YOU GIVE IS WHAT YOU GET

    LOVE YOU
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ตุลาคม 2016
  19. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    คุณจินตวดี ถอดรหัสเก่งจังค่ะ
    อ่านแล้วยิ้มแป้นเลย:d
    ปล.วันนี้เสียน้ำตาเยอะมาก พี่สาวไม่เข้าใจ
    เพราะพี่สาวไม่ใช่พวกเรา เลยพูดกันไม่รู้เรื่อง:':)':)'(
    (เข้ามาหาพวกค่ะ)[Embarrass
     
  20. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เราจะยังเชื่อต่อไปดีไหม?ว่า
    "มนุษย์เท่านั้น"ที่มีหัวใจ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...