><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320


    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$




    521.
    สวยแชมป์เดิมๆไร้มลทิน ครอบจักรวาล

    เหรียญมงคลจักรวาล สำนักปู่สวรรค์ พลังมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-B8B6_59436DC4.jpg

    image-25DD_59436DC4.jpg image-85E0_59436DC4.jpg

    เหรียญมงคลจักรวาล สำนักปู่สวรรค์ เนื้อกะไหล่ทอง งาน2ชิ้นประกอบกัน ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2538

    ชมรมสานุศิษย์สำนักปู่สวรรค์ได้จัดทำเหรียญที่มีภาพเครื่องหมายของ 12 ศาสนา โดยนำแบบจากหนังสือ
    คำสอน 12 ศาสนาของโลก ที่ทูตสันติภาพอาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ ได้รับจากผู้รวบรวมคือ มร.โอ.พี.กาย(Mr.O.P.GHAI)ประธานสถาบันพัฒนาบุคคล(Institute of Personal Development) แห่งประเทศอินเดีย และให้ชื่อเหรียญนี้ว่า "เหรียญมงคลจักรวาล" เพื่อเป็นที่ระลึกให้ศาสนิกชนทั่วไประลึกถึงศาสนาที่ตนนับถือและศาสนาอื่นอีก 11 ศาสนา ในขณะเดียวกัน ให้เป็น มงคลวัตถุประเภทเครื่องรางของขลังอีกส่วนหนึ่งด้วย ตามนัยคติที่ว่า"วัตถุธาตุนำไปสู่พระเจ้า ตัณหานำไปสู่นิพพาน"(คตินี้เป็น ปรัชญาลึกซึ้งมาก ต้องใช้การใคร่ครวญ ก็จะทราบถึงความเป็นจริงของคตินี้)



    ลักษณะของเหรียญ
    - ทำด้วยโลหะสีทองรูปวงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 เซนติเมตร วงกลมรอบนอกเป็นเครื่องหมายของ 12 ศาสนา ด้านบนสุดเป็นเครื่องหมายขอศาสนาพุทธ เรียงลำดับไปทางขวามือตามเข็มนาฬิกาคือ เครื่องหมายของศาสนา อิสลาม ซิกข์ เชน ชินโต ขงจื๊อ บาไฮ เต๋า ยูดาย โซโรอัสเตอร์ ฮินดู และศาสนาคริสต์ วงกลมด้านในเป็นรูปนกพิราบและรวงข้าว เพื่อเน้นเรื่องสันติภาพและเรื่องของอาหารของมนุษย์ การที่ให้ชื่อว่าเหรียญมงคลจักรวาลแทนที่จะชื่อว่าเหรียญ 12 ศาสนา
    ก็เนื่องด้วยต้องการให้เห็นความสำคัญของจักรวาลหรือสากลโลกที่มนุษย์อาศัยอยู่ อันมีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจสุงสุด

    การประกอบพิธีปลุกเสกเหรียญดังกล่าว
    - โดยผู้ที่มีพลังจิตสูงทั้งภาคมนุษย์ และภาควิญญาณ
    ผู้สำเร็จของทั้ง12ศาสนาทั่วจักรวาล ถูกต้องตามพรหมบัญญัติ เทวบัญญัติ มนุษย์บัญญัติ เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญ



    “เหรียญมงคลจักรวาล”
    สร้างมาด้วยหลักแห่งความศักดิ์สิทธิ์ และความเป็นมงคล ผู้ที่มีไว้ครอบครองจึงย่อมได้รับอานุภาพตามคำอธิษฐาน มากน้อยแล้วแต่กระแสจิตที่ศรัทธา ประกอบด้วยการปฎิบัติบูชาที่แน่วแน่ ต่างกับเครื่องประดับอื่นที่เป็นเหรียญหรือสิ่งคล้ายคลึงกัน แต่ทำขึ้นลักษณะของสมัยนิยมที่สวยงาม แต่ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในเครื่องประดับนั้น ไม่ว่าโดยสภาพเนื้อหาของวัสดุนั้นเองหรือโดยพลังจิตที่ลงไว้

    เมื่อกล่าวถึงความเป็นมงคลทุกๆ ชีวิตย่อมมีความปรารถนา จะพบแต่สิ่งที่เป็น “มงคล” กับตนเองและครอบครัว ผู้ทรงคุณธรรมสูงท่านหนึ่งที่ปลีกเร้นอยู่อย่างสันโดษกล่าวยืนยันถึงมงคลอันสูงสุดที่สถิตย์อยู่ในเหรียญมงคลจักรวาลนี้ทันทีที่ได้พบเหรียญนี้ว่า “บุคคลใดก็ตามที่มีเหรียญมงคลจักรวาลติดตัวเท่ากับบุคคลนั้นมีมหามงคลทั่วภิภพจักรวาลติดตัวอยู่ นับว่าเป็นโชควาสนาของบุคคลนั้นและผู้อยู่ใกล้ชิด” จากคำยืนยันนี้จึงไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า ท่านที่มีเหรียญนี้ติดตัวแล้ว เท่ากับท่านมีมหามงคลติดตัวอยู่กับท่านตลอดเวลา เมื่อเดินทางไปไหนจะประสบแต่โชคลาภ มีความสุขในชีวิตแคล้วคลาด ปลอดภัย มีโชคมีชัย สามารถป้องกันไสยคุณ อภิญญาฝ่ายดำ ปัดเสนียดจัญไร ป้องกันวิญญาณร้ายได้เป็นอย่างดี

    ***** หมายเหตุ ข้อมูลจากหนังสือ สปส จักรพรรดิพระเครื่อง
    ขอขอบพระคุณที่มาจาก :

    http://www.buddha-dhamma.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=94383&Ntype=2

    สภาพสวยเดิมไม่หักไม่ซ่อม สวยกริ๊บหูตากระพริบ เหรียญจริงสภาพสวยเดิมๆไม่มีคราบมลทินใดๆทั้งสิ้น ไม่สวยไม่เอาตังค์ครับ เจ้าของเก่าเลี่ยมกันน้ำตั้งแต่แรกได้มาแขวนติดตัวมานานจนหูกรอบแตก สุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์ พุทธคุณครอบครบครอบจักรวาล แบ่งให้บูชา 999 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณSmilerider จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2018
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320

    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$




    522.ของดีที่ถูกลืมบล็อกแตกนิยม พระสมเด็จอรหัง รุ่นแรก
    สมเด็จพระพุฒาจารย์(อาจ) วัดมหาธาตุ ผู้มีคุณูปการแก่ปัสสนากรรมฐานไทย


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-333C_59438763.jpg

    ขออนุญาตเจ้าของภาพ ตัวอย่างกล่องเดิมวัดครับ
    http://uauction3.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=341&qid=61949

    พระสมเด็จอรหัง รุ่นแรก สมเด็จพระพุฒาจารย์(อาจ อาสโภ) วัดมหาธาตุ ก.ท.ม. บล็อกแตกนิยม เนื้อผงมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ปีพ.ศ.2530

    ประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร)
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ ป.ธ.8) อดีตเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นบุคคลแรกที่นำการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐานสี่ (หรือแบบยุบหนอ-พองหนอ) จากพม่ามาเผยแพร่ในประเทศไทยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในสมัย 25 พุทธศตวรรษ เนื่องเพราะท่านดำรงตำแหน่งสำคัญทางการคณะสงฆ์ นั่นคือ สังฆมนตรีว่าการองค์การปกครอง ซึ่งเทียบได้กับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้น นอกจากนั้นท่านยังดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ พระอารามหลวงอันดับที่ 1 ในเมืองไทย ดำรงตำแหน่งสภานายกมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์อันดับที่ 1 ของเมืองไทย ที่สำคัญก็คือ ทรงสมณศักดิ์เป็นที่ "พระพิมลธรรม" ตำแหน่งรองสมเด็จพระราชาคณะ หรือที่เรียกกันว่า พระราชาคณะชั้นหิรัญบัฎ ขอนำประวัติของท่านเป็นพิเศษ

    ชาติกำเนิด
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ มีนามเดิมว่า คำตา ดวงมาลา เป็นบุตรคนโตของนายพิมพ์ และนางแจ้ ดวงมาลา เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2446 แรม 4 ค่ำเดือน 12 ณ บ้านโต้น ต.บ้านโต้น อ.เมือง จังหวัดขอนแก่น เป็นบุตรนายพิมพ์ และ นางแจ้ ดวงมาลา มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งสิ้น 4 คนท่านเป็นบุตรคนโต น้องอีกสามคนคือ นางบี้ นายเพิ่ม และนางเชื้อ ตามลำดับ เมื่อย้ายมาอยู่วัดมหาธาตุฯ พระธรรมไตรโลกาจารย์ (เจ้าอาวาสขณะนั้น) ได้เปลี่ยนชื่อท่านจาก คำตา เป็น อาจ เพื่อให้เหมาะกับบุคลิก องอาจ แกล้วกล้า ของท่าน
    ได้รับการศึกษาเบื้องต้นในสำนักพระอาจารย์หนู และพระอาจารย์ใส ที่วัดศรีจันทร์ ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้านโต้น พ.ศ.๒๔๕๙ อายุ ๑๔ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดศรีจันทร์ พระอาจารย์หนูเจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือธรรม แบบอักษรภาคอีสานซึ่งจารึกอยู่ในใบลาน จนมีความรู้ความสามารถพอที่จะสอนคนอื่นได้ อายุ ๑๖ ปี ได้สมัครเข้ารับการอบรมวิชาครูพิเศษ ๖ เดือน ที่โรงเรียนขอนแก่นวิทยาคาร (ขอนแก่นวิทยายน) ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดขอนแก่น จนสามารถสอบไล่ได้วิชาครูเทียบเท่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ และได้บรรจุเป็นครูที่โรงเรียนประชาบาลวัดกลาง ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองขอนแก่น
    ต่อมา พ.ศ. ๒๔๖๓ ขณะมีอายุ ๑๘ ปี ได้ลาออกจากครูประชาบาล แล้วมุ่งสู่กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและวิชาการด้านอื่นๆ โดยการเดินทางด้วยเท้าจากขอนแก่นเป็นเวลาถึง ๙ วันจึงถึงจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นต้นทางรถไฟเข้ากรุงเทพฯในสมัยนั้น ร่วมกับคณะอีก ๔ รูป เมื่อเดินทางถึงกรุงเทพฯแล้ว ปีแรกได้เข้าพำนักอยู่วัดชนะสงคราม และได้เข้าไปรับการศึกษาพระปริยัติธรรม ณ สำนักเรียนวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์ ปีที่ ๒ จึงย้ายเข้ามาอยู่ในวัดมหาธาตุฯ

    การบรรพชาอุปสมบท
    เมื่ออายุ 14 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศรีจันทร์ จ.ขอนแก่น โดยมีอาจารย์พระหน่อ วัดศรีจันทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาท่านย้ายมาอยู่กรุงเทพฯเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
    จนอายุครบ 20 ปี ท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในวันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2466 ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 8 ณ พัทธสีมาวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ โดยมีสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) ขณะยังดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมไตรโลกาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระญาณสมโพธิ (สวัสดิ์ กิตฺติสาโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทตฺโต) ขณะยังดำรงสมณศักดิ์ที่ พระศรีสมโพธิ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า อาสโภ

    ประวัติและผลงานเกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักวิปัสสนากัมมัฎฐาน เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

    หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาสภมหาเถร) ได้ย้ายจากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ไปอยู่ประจำ ณ วัดสุวรรณดาราราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อันเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ เพื่อช่วยปฏิบัติศาสนกิจด้านพระพุทธศาสนา ตั้งแต่พ.ศ.๒๔๗๕ ในฐานะ พระมหาอาจ อาสโภ เปรียญธรรม ๘ ประโยค และได้ย้ายกลับคืนมาอยู่วัดมหาธาตุอีก ในฐานะตำแหน่งเจ้าอาวาส ที่พระธรรมไตรโลกจารย์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๑

    เป็นพระเถระผู้ใฝ่ในความเจริญงอกงามของพระพุทธศาสนาทั้งฝ่ายปริยัติและปฏิบัติ ผลงานของพระเดชพระคุณได้ขจรกระจายไปทั่วโลก และได้สร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ เช่นประเทศพม่า อินเดีย ศรีลังกา อังกฤษ และอเมริกา เป็นต้น อันเป็นเหตุให้พระพุทธศาสนาได้เผยแผ่ไปทั่วทุกมุมโลก
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ เวลา ๑๑.๑๕ นาฬิกา ณ โรงพยาบาลสยาม กรุงเทพมหานคร รวมอายุได้ ๘๖ ปี กับ ๑ เดือน
    ข้อมูลประวัติเพิ่มเติมที่ :
    - http://202.28.110.166/pimoldham/index.php/his-somdet


    สภาพสวยเดิมไม่หักไม่ซ่อม ผิวหิ้งนิดๆ คราบแป้งลองพิมพ์เดิม ของดีที่ถูกลืมราคาเบาๆแต่ยอดยิ่งด้วยประสบการณ์ แบ่งให้บูชา 888 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณSmilerider จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2018
  3. Smilerider

    Smilerider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    533
    ค่าพลัง:
    +1,994
    จอง รายการ 517 521 กับ 522 ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2017
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320


    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$






    523.ยุคกลางน่าใช้(เนื้อแก่มวลสาร๑) พระพุทธชินราช หลังยันต์จักรแก้วพระพุทธเจ้า
    หลวงพ่อดาบส สุมโน ผู้ทรงอภิญญาแห่งอาศรมไผ่มรกต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-E11B_5944C72C.jpg


    thumb-d1fd_57ecd265-jpg-4139788-jpg-4141186-jpg.4165654.jpg thumb-685a_57ecd265-jpg-4139789-jpg-4141187-jpg.4165655.jpg
    หัวใจมรกตของท่านไม่ไหม้ไฟ

    พระพุทธชินราช หลังยันต์จักรแก้วพระพุทธเจ้า หลวงพ่อดาบส สุมโน แห่งอาศรมไผ่มรกต จังหวัดเชียงราย เนื้อผงวิเศษมหาพุทธคุณ ชุดแก่ว่านและมวลสารหลัก ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2529 ออกที่อาศรมเวฬุวัน จังหวัดเชียงราย คณะศิษย์หลวงพ่อดาบสจังหวัดแพร่ แลกรุงเทพ ร่วมกันสร้างถวายเพื่อความเป็นสิริมงคล

    ข้อมูลการจัดสร้าง
    image-e55e_591e9648-jpg.4165656.jpg


    ประวัติพอสังเขป
    หลวงพ่อดาบส สุมโน
    ” เดิมชื่อ “สง่า” นามสกุล “เจริญจิตต์”
    เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ กัน ยายน ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พ.ศ.๒๔๖๗ ปีชวด ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
    เป็นลูกคนที่ ๖ ในจำนวนทั้งหมด ๘ คน
    บิดาชื่อ “นายเถียน” มารดาชื่อ “นางเวียง”
    ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๔ ขณะอายุได้ ๗ ปี มารดาก็ถึงแก่กรรมและต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๘ อายุได้ ๑๑ ปี “เด็กชายสง่า” ก็ต้องสูญเสียบิดาบังเกิดเกล้าไปอีกคน จึงอยู่ภายใต้การดูแลของ “คุณป้า” และเริ่มเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาที่ ๑ โรงเรียนวัดบางกระไชย จบชั้นประถมปีที่ ๔ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๘

    ครั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ อายุได้ ๑๘ ปี “คุณป้า” ได้นำ “เด็กชายสง่า” ไปบรรพชาที่ “วัดจันทนาราม จังหวัดจันทบุรี” เพื่อเรียนปริยัติธรรมซึ่งต่อมาสามารถ สอบได้ทั้ง “นักธรรมตรี” และ “นักธรรมโท”

    ในปี พ.ศ.๒๔๘๗ อายุครบ ๒๐ ปี “สามเณรสง่า” จึงอุปสมบทเป็น “พระภิกษุ” โดยมีท่าน “เจ้าคุณอมรโมลี” เป็นอุปัชฌาย์ได้ฉายาว่า “สุมโน” กระทั่งปี พ.ศ.๒๔๘๙ อันเป็นพรรษาที่ ๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” ได้กราบลา “พระอุปัชฌาย์” เพื่อเดินทางไปศึกษา “ภาษาบาลี” กับท่าน “เจ้าคุณรัชมงคลมุณี” วัดหนองบัว จังหวัดระยอง ต่อมาในปี

    พ.ศ.๒๔๙๐ ด้วยจิตที่มุ่งมั่นจะปฏิบัติธรรม แสวงหาธรรม จึงออกเดินธุดงค์ไป “จังหวัดเชียงใหม่” ตามเส้นทาง “อำเภอดอยสะเก็ด” สู่ “ถ้ำเชียงดาว” อำเภอเชียงดาวได้ธุดงค์พลัดเข้ามาสู่เขตพื้นที่ของ “อำเภอพร้าว” ในปี ๒๔๙๐ ถึง ๒๔๙๔ จึงพำนักและปฏิบัติธรรมใน “ป่าช้า” ของตำบลเวียง อำเภอพร้าว หรือ “วัดป่าเลไลย์” เป็นเวลาถึง ๔ ปี

    ปี พ.ศ.๒๔๙๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” เดินทางมาพำนักที่ “วัดเจดีย์หลวง” จัง หวัดเชียงใหม่ โดยปฏิบัติธรรมกับ “เจ้าคุณวินัยโกศล” (จันทร์ กุสโล) หรือ “พระพุทธพจนวราภรณ์” แล้วจึงออกจาก “วัดเจดีย์หลวง” ธุดงค์ไปตามเส้นทางสู่ “อำเภอดอยสะเก็ด” อีกครั้งพร้อมลัดเลาะไปตามป่าเขาถึง “ดอยพระเจ้าหล่าย” วันนั้นเป็น วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๔ ตรงกับแรม ๖ ค่ำ เดือนยี่เวลา ๑๗.๐๐ น. “พระภิกษุสง่า สุมโน” จึงตั้งสัจจะอธิษฐาน ณ ดอยพระเจ้าหล่าย ขอสละเพศบรรพชิตขอลาสิกขาบทจากการเป็น “พระภิกษุสงฆ์” โดยหันมาถือการครองเพศเป็น “ดาบส” ที่มีเพียง ผ้าอังสะและผ้าสบง เพียงสองผืนหุ้มห่อร่างกายไว ้จากนั้นจึงครองเพศเป็น “ดาบส” และปฏิบัติธรรมอยู่บน “ดอยพระเจ้าหล่าย” โดยมิได้ฉันทั้งอาหาร และน้ำถึง “3 วัน 3 คืน” จากนั้นจึงเดินทางลงจากดอยเพื่อธุดงค์ไปจังหวัด ต่างๆ ทั้ง แพร่ ลำปาง น่าน ยะลา ชุมพร และท้ายสุดปฏิบัติธรรมที่ “อาศรมไผ่มรกต” ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จนมรณภาพ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2543 สิริอายุได้ 76 ปี


    พระพุทธคุณ :
    ทรงอานุภาพสุดยอดของการหนุนดวงเสริมวาสนา ร่มเย็นเป็นสุข เมตตาคลาดแคล้ว และขจัดภัยพาลทั้งหลายทั้งปวง


    สภาพสวยเก่าเก็บไม่ได้ใช้ พิมพ์คมชัดลึก ชุดแก่ว่านและมวลสารหลัก สุดยอดมวลสารผงวิเศษยอดเยี่ยมโดยแท้ พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 299 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2018
  5. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,572
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดียามบ่ายครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320


    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$



    524.พิมพ์นิยมสภาพขลัง เหรียญท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหัก รุ่นแรก
    ยอดชนวนแผ่นจารเยี่ยมด้วยมหาพิธีอันยิ่งใหญ่ พระเกจิชั้นนำทั่วสยามประเทศ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-B184_5944D3A5.jpg

    เหรียญท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหัก รุ่นแรก จังหวัดอุตรดิตถ์ บล็อกนิยม " บ ขาด " เนื้อทองแดงผิวไฟ ผสมชนวนแผ่นจารและตะกรุดจากพระคณาจารย์ทั่วประเทศ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2513 ออกแบบโดยกองกษาปณ์ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง จำลองแบบมาจากอนุสาวรีย์ เหรียญนี้มีดีที่ ลายเส้นโลหะในเนื้อเหรียญเยอะมาก อันเนื่องมาจากการแก่โลหะชนวนแผ่นจารที่หลอมไม่ลงปรากฎเป็นริ้วในเนื้อเหรียญ ซึ่งเป็นเนื้อที่นิยมที่ผู้คนต่างเสาะหาเนื้อแบบนี้ บางเหรียญก็จะปรากฎชิ้นส่วนแผ่นจารหรือเนื้อโลหะจากแผ่นชนวนให้เป็นก้อนๆเลย เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อทองแดงเนียนแบบปกติเลย

    ลักษณะเหรียญ
    เหรียญพระยาพิชัยดาบหัก เป็นเหรียญรูปไข่ ออกแบบและจัดทำโดยกองกษาปณ์ กรมธนารักษ์
    ด้านหน้า : เหรียญมีรูปพระยาพิชัยดาบหักชุดแม่ทัพนายทหารสมัยอยุธยาตอนปลาย ยืนถือดาบ 2 ข้าง มีผ้ามัดมือติดด้ามดาบเพื่อป้องกันดาบหลุดจากมือ ดาบข้างขวาหัก มุมขอบล่างปรากฏตัวหนังสือ "พระยาพิชัยดาบหัก จังหวัดอุตรดิตถ์"
    ด้านหลัง : เหรียญอัญเชิญมหายันต์อันศักดิ์ สิทธิ์ เช่น มหายันต์เกราะเพชร หรือยันต์อิติปิโส 8 ทิศ หรือยันต์กระทู้ 7 แบก ประกอบ อักขระขอม และยันต์ตัวนะต่างๆ พร้อมกับมี ตัวหนังสือ "๑ ก.พ. ๒๕๑๓" ด้านล่างของเหรียญ

    จำนวนจัดสร้างทั้งสิ้น
    -เนื้อทองคำ 189 เหรียญ
    - เนื้อเงิน จำนวน 999 เหรียญ
    - เนื้อทองแดง จำนวน 99,999 เหรียญ”


    ประวัติการจัดสร้าง
    พระยาพิชัยดาบหัก นับเป็นวีรบุรุษผู้กล้าหาญ ซื่อสัตย์ และมีความกตัญญูท่านหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย ท่านเป็นทหารเอกคู่พระทัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เคยทำสงครามกู้ชาติมาแล้วด้วยความเสียสละและกล้าหาญ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยสู้กับข้าศึกจนดาบคู่มือของท่านได้หักลง จนเป็นสมญานามที่อนุชนรุ่นหลังได้เรียกขานท่านด้วยความยกย่องและภาคภูมิใจสืบต่อมา
    เพื่อรำลึกถึงเกียรติคุณและวีรกรรมที่กล้าหาญของท่านพระยาพิชัยดาบหัก บรรดาข้าราชการและพ่อค้าตลอดจนประชาชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์จึงได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักขึ้น ออกแบบและหล่อปั้นโดยกรมศิลปากร ประดิษฐานไว้ที่หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อเป็นการเทิดทูนเกียรติประวัติและเป็นอนุสรณ์แก่อนุชนรุ่นหลัง และได้ทำพิธีเปิดอนุสาวรีย์ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2512
    หลังจากนั้นทางจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายเวทย์ นิจถาวร ได้ดำริให้มีการจัดสร้าง “เหรียญที่ระลึกพระยาพิชัยดาบหัก” ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้การเทิดทูนเกียรติประวัติและวีรกรรมของพระยาพิชัยดาบหักได้เป็นไปโดยกว้างขวาง และแพร่หลายยิ่งขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ข้าราชการและประชาชนทั่วไปได้มีเหรียญพระยาพิชัยดาบหักไว้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว สักการะบูชา และยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดีสืบต่อไป

    พิธีปลุกเสกกระทำอย่างถูกต้องและสมบูรณ์แบบ จัดขึ้นในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2513 ณ บริเวณที่ตั้งอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยท่านประธานดำเนินงาน พลโทสำราญ แพทยกุล แม่ทัพกองทัพภาคที่ 3 ในขณะนั้น ได้ทูลสมเด็จพระสังฆราช(จวน) วัดมกุฏกษัตริยาราม ทรงเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย และนิมนต์พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงเวทวิทยาคุณที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย ร่วมพิธีปลุกเสกเพื่อให้เกิดความขลัง ศักดิ์สิทธิ์ และสิริมงคลแก่ผู้บูชา

    รายชื่อพระคณาจารย์ จากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ อาทิ
    1.สมเด็จ พระสังฆราช (จวน) วัดมกุฏกษัตริย์ กรุงเทพฯ ทรงเสด็จมาเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย
    2.หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง
    3.หลวงพ่อจันทร์ วัดหาดสองแคว อ.ตรอน อุตรดิตถ์ (ท่านเก่งทุกด้าน ที่ลือลั่นไปถึง ต่างประเทศนั่นคือ กิเลนเงิน-กิเลนทอง นำโชค)
    4.หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง อ.เมือง อุตรดิตถ์
    5.หลวงพ่อบุญ วัดน้ำใส อ.ลับแล อุตรดิตถ์
    6.หลวงพ่อปี้ วัดลานหอย อ.ด่านลานหอย สุโขทัย
    7.หลวงพ่อเกตุ วัดศรีเมือง อ.กงไกรลาศ สุโขทัย (ท่านดัง ด้านตะกรุดมหาสะท้อน )
    8.หลวงปู่คำมี ถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
    9.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
    10.หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์
    11.หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค นครสวรรค์ (เนื่องจากท่านอายุมากแล้วท่านไม่ได้มานั่งปรกในพิธี แต่มี ชนวนแผ่นยันต์ ของท่าน)
    12.หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา
    13.หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    14.หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าศาลาลอย ชุมพร
    15.หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม บุรีรัมย์
    16.หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า ระยอง
    17.หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ระยอง
    18.หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
    19.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี
    20.หลวงพ่อทบ วัดชนแดน เพชรบูรณ์
    21.พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา นครศรีธรรมราช
    22.หลวงพ่อทิพย์ วัดโพธิ์ทอง บุรีรัมย์
    23.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    24.หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอเหนือ ศรีสะเกษ
    25.หลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม สมุทรสาคร
    26.หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
    27.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงค์ธรรม สกลนคร
    28.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    29.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
    30.หลวงปู่พริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
    31.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
    32.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร
    33.หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปราจีนบุรี
    34.หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
    35.หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพ
    36.หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ฉะเชิงเทรา
    37.หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม
    38.หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพฯ นครพนม
    39.หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
    40.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสาคร
    41.หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง กรุงเทพฯ
    42.หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี
    43.หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช
    44.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
    45.หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ อยุธยา
    46.หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ นครศรีธรรมราช
    47.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ ((ไม่ได้มานั่งปรกในพิธี แต่มี ชนวนแผ่นยันต์ ของท่าน และอธิษฐานส่งจิตมา )
    48.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี
    49.หลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม ราชบุรี
    50.หลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง กาญจนบุรี
    50.หลวงพ่อมี วัดซำป่างาม ฉะเชิงเทรา
    51.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    52.ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง เชียงใหม่
    53.หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา
    54.หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น
    55.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี เชียงใหม่
    56.หลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์
    57.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี
    58.หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา
    59.หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา ปทุมธานี
    60.หลวงปู่เครื่อง วัดเทพสิงห์หาร อุดรธานี
    61.หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง สระบุรี
    62.พระครูเมตยานุรักษ์ วัดวชิราลงกรณ์ นครราชสีมา
    63.พระครูสัมฤทธิ์ วัดอู่ทอง สุพรรณบุรี
    64.พระวิบูลเมธาจารย์ (เก็บ) วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี
    65.หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี
    66.พระครูกาญจโนปมคุณ (ลำไย) วัดลาดหญ้า กาญจนบุรี
    67.หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
    68.พระครูไพศาลคณารักษ์ วัดไร่ขิง นครปฐม
    69.หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย นครนายก
    70.หลวงพ่อสีหมอก วัดเขาวังตะโก ชลบุรี
    71.พระครูศรีสัตตคุณ วัดสัตหีบ ชลบุรี
    72.หลวงปู่บุญทัน วัดประดู่ศรี ปราจีนบุรี
    73.พระอาจารย์สุบิน วัดถ้ำไก่แก้ว นครราชสีมา
    74.หลวงพ่อมิ วัดสะพาน ธนบุรี
    75.พระครูพิชัยณรงค์ฤทธิ์ วัดคอกหมู กทม.
    76.พระอาจารย์บำเรอ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม.
    77.พระญาณวิริยาจารย์ วัดธรรมมงคล กทม.
    78.พระครูพิทักษ์เขมากร วัดท่าเกวียน ฉะเชิงเทรา
    79.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง สมุทรสาคร
    80.หลวงพ่ออินเทวดา วัดลาดท่าใหม่ จันทบุรี
    81.หลวงพ่ออินทร์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กทม.
    82.หลวงพ่อกลั่น วัดอินทาราม อ่างทอง
    83.หลวงพ่อสาย วัดจันทรเจริญสุข
    84.หลวงพ่อไปล่ วัดดาวเรือง ปทุมธานี
    85.หลวงพ่อแดง วัดดอนยอ นครปฐม
    86.หลวงพ่อเพชร วัดดงยาง ฉะเชิงเทรา
    87.หลวงปู่สี วัดสะแก อยุธยา
    88.หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน พัทลุง
    89.หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล นครศรีธรรมราช
    90.หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
    91.หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์
    92.หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม ชลบุรี
    93.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ กาญจณบุรี
    94.หลวงพ่อ อุตมะ วัดวังวิเวการาม กาญจณบุรี
    95.หลวงพ่อหว่าง วัดท่าพุทรา กำแพงเพชร(ท่านดังเรื่องตะกรุด)
    96.ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก
    97.หลวงพ่อทองสุข วัดโพธิ์ทรายทอง บุรีรัมย์
    98.หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร นครสวรรค์
    99.หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท
    100.หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน ลำปาง
    101.หลวงพ่อเกษม เขมโก ลำปาง
    102.หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ อยุธยา
    103.หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ พัทลุง
    104.หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก ชลบุรี
    105.หลวงปู่บุญทอง พัทลุง
    106.หลวงพ่อหรั่ง พิษณุโลก
    107.หลวงปู่อ่อน พิษณุโลก
    108.หลวงพ่อรอด พิษณุโลก
    109.หลวงพ่อทา วัดดอนตัน จ.น่าน
    110.พระอาจารย์ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร
    111.พ่อท่านบุญรอด วัดประดู่พัฒนาราม นครศรีธรรมราช
    112.หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก สุพรรณบุรี
    113.หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา
    114.หลวงพ่อผาย วัดอรัญญิการาม อ.เมือง อุตรดิตถ์
    115.หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย สุพรรณบุรี


    การสร้างเหรียญพระยาพิชัยดาบหักนี้ เป็นพิธีมหาพุทธาภิเษกมหาจักรพรรดิ์ พิธีที่ยิ่งใหญ่รองจาก พิธี 25 พุทธศตวรรษเจตนาการสร้างดี พิธีกรรมดี คณาจารย์ปลุกเสกมากเป็นร้อยๆท่าน และมีประสบการณ์ดี


    เหรียญพระยาพิชัยดาบหักนี้เริ่มสร้างขึ้นภายหลังจากที่ได้มีการสร้างอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ครบ 1 ปี เรื่องอนุสาวรีย์นี้ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ได้เรียกร้องปรารถนา
    ให้มีขึ้นนานแล้วแต่ไม่สำเร็จต่อมาถึงสมัยนายเวทย์ นิจถาวร เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีพ่อค้า ประชาชนร่วมกันบริจาคทรัพย์เป็นทุนก่อสร้าง โดยไม่มีงบประมาณแผ่นดิน และของทางหน่วยงานราชการมาเกี่ยวข้องเลย เป็นการเกิดจากกำลังศรัทธาอันแรงกล้า ของชาว จังหวัดอุตรดิตถ์
    ที่ต้องการเทิดทูนเกียรติประวัติยอดวีรบุรุษผู้กล้าหาญ
    และเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ กตัญญูต่อผู้มีพระคุณของชาวจังหวัดอุตรดิตถ์และประชาชนชาวไทย ซึ่งเก่งกล้าสามารถทั้งชั้นเชิงแม้ไม้มวยไทย ชั้นเชิงทางเพลงดาบ และเป็นกำลังสำคัญอย่างยิ่ง ท่านเป็นทัพหน้าในการออกศึกโจมตีข้าศึกทุกครั้ง
    ขอขอบพระคุณแหล่งที่มา :
    - https://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1qSXhOemd5TWc9PQ==


    สภาพขลังผ่านการบูชามาอย่างมีประสบการณ์ แต่โดยรวมด้านหน้ายังพอสวยอยู่ครับ รายละเอียดยังโอเค เหรียญนี้มีดีที่ บล็อกนิยม และแก่ชนวน ดูจากลายเส้นโลหะในเนื้อเหรียญเยอะมาก อันเนื่องมาจากการแก่โลหะชนวนแผ่นจารที่หลอมไม่ลงปรากฎเป็นริ้วในเนื้อเหรียญ ซึ่งเป็นเนื้อที่นิยมที่ผู้คนต่างเสาะหาเนื้อแบบนี้ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อทองแดงเนียนแบบปกติเลย ตอนนี้สวยๆบล็อกนิยมสองหมื่นกว่าแล้วครับ สุดยอดชนวนโลหะและมหาพิธียอดเยี่ยมโดยแท้ พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 3,456 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณj999 จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2018
  7. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320

    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$



    525.นิยมตะกรุดทองคำสร้างน้อย พระนางพญาแร่บางไผ่

    แร่ศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ อานุภาพสูง มหาพิธี 2วาระ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-FED3_5944FC3A.jpg

    image-1BFE_5944FC3A.jpg
    image-380C_5944FC3A.jpg

    พระนางพญาแร่บางไผ่ ฝังตะกรุดทองคำแท้ รุ่น2 วัดนครอินทร์ ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เนื้อแร่บางไผ่ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2539 จำนวนสร้าง 2,539 องค์

    จำนวนการสร้าง
    - พระสมเด็จแร่บางไผ่ พิมพ์มารวิชัย ฝังตะกรุดทองคำ สร้าง 2,539 องค์
    - พระสมเด็จแร่บางไผ่ พิมพ์สมาธิ สร้าง 5,000 องค์
    - พระสมเด็จแร่บางไผ่ พิมพ์มารวิชัย สร้าง 5,000 องค์
    - พระนางพญาแร่บางไผ่ ฝังตะกรุดทองคำ สร้าง 2,539 องค์
    - พระนางพญาแร่บางไผ่ สร้าง 10,000 องค์
    - พระพุทธชินราช แร่บางไผ่ พิมพ์สองหน้า สร้าง 10,000 องค์
    - พระปิดตาแร่บางไผ่ พิมพ์จิ๋ว สร้าง 10,000 องค์
    - พระพิมพ์จันทร์ลอยแร่บางไผ่ พิมพ์สมาธิ สร้าง 5,000 องค์
    - พระพิมพ์จันทร์ลอยแร่บางไผ่ พิมพ์มารวิชัย สร้าง 5,000 องค์
    - พระปิดตาเนื้อผงแร่บางไผ่คลุกรัก พิมพ์ใหญ่ ปิดทอง สร้าง 5,000 องค์
    - พระปิดตาแร่บางไผ่ เนื้อผงคลุกรัก พิมพ์ใหญ่ สร้าง 5,000 องค์ เป็นต้น

    วาระพิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    - หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ (ปลุกเสกเดี่ยว ณ วัดบ้านไร่)

    วาระที่ : 2
    - ประกอบพุทธภิเษก ณ วัดนครอินทร์ เมื่อวันที่ 6 เมษายน ปีพ.ศ. 2539
    โดยมีพระที่นั่งปรก ปลุกเสกดังนี้
    1.หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง
    2. หลวงพ่อทิม วัดพระขาว
    3. หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
    4. หลวงพ่อสร้อย วัดเลียบ
    5. หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ
    6. หลวงพ่ออินทร์ วัดบ้านบัว
    7.หลวงพ่อผล วัดเชิงหวาย
    8. หลวงพ่อทองใบ วัดสายไหม
    9.พระอาจารย์สมศักดิ์ ฐตสกโข วัดนครอินทร์
    พระวัดชนะสงคราม 4 รูปสวดเจริญพระพุทธมนต์ตลอดพิธี

    พระพุทธคุณ :
    - เป็นแร่ที่มีคุณวิเศษและมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง เด่นด้านคงกระพัน มหาอุด แคล้วคลาดอันตรายต่างๆ รวมถึงทางเมตตามหานิยมอย่างมาก

    พระอาจารย์สมศักดิ์ ฐิตสฺกโข วัดนครอินทร์ จ.นนทบุรี
    มหัศจรรย์แร่บางไผ่กับมรดกอันรุ่งเรือง จากวัดโมลีสู่วัดนครอินทร์

    แร่บางไผ่ ตำนานพระปิดตาอันลือลั่น

    แร่บางไผ่ ตำนานพระปิดตาอันลือลั่น ที่วงการพระเครื่องยกย่องให้เป็นหนึ่งในพระปิดตา เนื้อโลหะแร่บางไผ่ ที่ได้ถือ
    กำเนิดเกิดขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้วที่จังหวัดนนทบุรี ด้วยพระภิกษุเชื้อสายเขมร นาม "หลวงปู่จันแห่งวัดโมลี " ประสบการณ์
    และอภินิหาร อันเกิดจากแร่ศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ อานุภาพในตัวเอง เมื่อนำมาสร้างพระเครื่อง ประจุด้วยพุทธาคมที่เข้มขลัง
    ยิ่งทวีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น "แร่บางไผ่" ได้ตราตรึงอยู่ในหัวใจของนักเลงพระและคนไทยทั้งหลายเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เอง
    จึงทำให้พระแร่บางไผ่มีราคาสูง และมีการปลอมแปลงอย่างมากมาย เนื่องจากประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์และคุณวิเศษนั่นเอง

    หลังจากนั้นแร่บางไผ่ได้หายสาบสูญไปจากวงการพระเครื่องนับร้อยปี พระอาจารย์สมศักดิ์ ฐิตสกฺโข วัดนครอินทร์ เป็น
    ชาวนนทบุรีโดยกำเนิดเคยได้ยินได้ฟังเรื่องราวของพระปิดตาบางไผ่ มาเป็นเวลานานและตั้งใจแน่แน่วว่าถ้ามีวาสนาบารมี
    สามารถค้นพบแหล่งแร่บางไผ่ได้ จะนำมาสร้างพระแร่บางไผ่ขึ้นอีกครั้ง เพื่อเป็นการเชิดชูแร่บางไผ่ ซึ่งมีอยู่ที่เดียวในประเทศ
    ไทย ที่จังหวัดนนทบุรี และเจริญรอยตามปรมาจารย์ หลวงปู่จัน อันเป็นการเผยแผ่กิตติคุณตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของแร่บาง
    ไผ่ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

    นับเป็นความโชคดีของคนรุ่นใหม่ ที่พระอาจารย์สมศักดิ์ ฐิตสกฺโข ได้เพียรพยายามจนค้นพบแหล่งแร่บางไผ่ที่คลองบาง
    คูลัด นนทบุรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2536 จนเป็นข่าวเกรียวกราวมาแล้ว หลังจากค้นพบแล้วพระอาจารย์สมศักดิ์ ฐิตสกฺโข ได้
    นำมาสร้างพระปิดตาแร่บางไผ่จนเป็นที่รู้จักและนิยมกล่าวขานกันอีกครั้งในยุคปัจจุบัน
    ข้อมูลเพิ่มเติมที่ :
    - http://oknation.nationtv.tv/blog/sitthi/2009/04/22/entry-1
    - https://pantown.com/board.php?id=39149&area=4&name=board15&topic=6&action=view


    สภาพสวยเก่าผิวหิ้งเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก ชุดตะกรุดทองคำสร้างน้อยน่าใช้น่าสะสม สุดยอดมวลสารแร่ศักดิ์สิทธิ์ วิเศษยอดเยี่ยมโดยแท้ พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 650 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)



    (คุณวิทยา จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2018
  8. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,981
    ค่าพลัง:
    +5,390
    ขอจองครับ
     
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320



    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$




    526.สวยกริ๊บซองเดิมๆ เหรียญโภคทรัพย์ หลวงปู่ทองดำ

    พระเถรจารย์ 5แผ่นดิน ศิษย์ตัวจริงหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ปลุกเสกมหาพิธี 2วาระ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    เหรียญโภคทรัพย์ หลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ วัดท่าทอง อ.เมือง จ.อุดรดิตถ์ เนื้อกะไหล่ทอง ตอกโค้ด "ตัวนะ" ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2538 พร้อมกับพระกริ่ง รุ่นทองดำ99

    วัตถุประสงค์ : ในโอกาสอันเป็นมหามงคลที่หลวงพ่อทองดำ สิริอายุครบ99ปี

    วาระพิธีพุทธาภิเษก 2วาระ พร้อมพระกริ่ง รุ่นทองดำ99
    วาระที่ 1 : เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2538
    รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก อาทิ
    1.พระนิมมานโกวิท(ทองดำ) วัดท่าทอง
    2.หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
    3.หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
    4.พระมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ
    5.หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี
    6.หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก
    7.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    8.หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
    9.หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ
    10.หลวงวพ่อสมควร วัดถือน้ำ
    11.หลวงพ่อตี๋ วัดหลวงมหาราช
    12.หลวงพ่ออ่อน วัดเนินมะเกลือ จ.พิษณุโลก
    13.หลวงพ่อเหลือ วัดท่าไม้เหนือ จ.อุตรดิตถ์
    14.พระครูวินัยธรสมโภช(อิฏฐ์)วัดจุฬามณี
    15.พระครูปลัด มล.ทวีศักดิ์ ดารากร(น้ำมนต์เดือด)จ. มุกดาหาร
    16.พระครูปลัดบัวลอย ญาณลกฺชิโต (บัวลอย)วัดท่าตะเคียน จ.พิษณุโลก
    17.พระครูภาวนากิติคุณ วัดเกษม จ.อุตรดิตถ์
    18.หลวงพ่อแกง ปสาโธ วัดน้ำปิง จ.อุตรดิตถ์
    19.พระปลัดไพรินทร์ ทนฺจิตโต วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก (เจ้าพิธี)


    วาระที่ 2 : เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538
    รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก อาทิ
    1.พระนิมมานโกวิท(ทองดำ) วัดท่าทอง
    2.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
    3.หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    4.หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี
    5.พระครูกาชาด(บุญทอง) วัดดอนศาลา
    6.หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน
    7.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    8.ครูบาสร้อย วัดมงคลคีรีเขตร์
    9.อ.อิฏฐ์ วัดจุฬามณี
    10.พระสมุห์เจือ วัดกลางบางแก้ว
    11.พระมหาโพธิ์ ญาณสังวโร (โพธิ์)วัดคลองมอญ
    12.หลวงปู่พรหมา วัดสวนหินผานางคอย
    13.หลวงพ่อคง วัดตะคร้อ
    14.หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดบึงบวรสถิตย์
    15.หลวงพ่อบัวลอย วัดท่าตะเคียน
    16.พระปลัดไพรินทร์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

    พระสวดพิธีกรรม 9 รูป ศิษย์สาย หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว


    หลวงปู่ทองดำ ท่านเป็นลูกศิษย์และลูกบุญธรรมของ ลพ.เงิน พุทธโชติ (วัดบางคลาน จ.พิจิตร) ท่านคอยรับใช้ใกล้ชิดท่านอนุญาตให้พักกุฎิเดียวกับท่าน หลวงพ่อเงินได้สอนสรรพวิชาอาคมไสยเวทต่าง ๆ คาถาที่หลวงพ่อเงินสอนไว้นั้นที่สำคัญคือ “นะโมพุทธายะ” (พระเจ้าห้าพระองค์)ซึ่งต่อมาหลวงปู่ได้ใช้เป็นคาถาประจำตัวของท่านตลอดมาวัดบางคลาน

    ประวัติโดยย่อหลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ วัดท่าทอง
    ภูมิหลังชาติกำเนิด
    วันพุธ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 พุทธศักราช 2441 ณ.บ้านไซโรงโขน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร นายบุญนาค นางจ่าย แม่พริ้ง ได้ให้กำเนิดบุตรคนที่ 4 เพศชาย(ในจำนวนพี่น้องชายหญิง 8 คน) บิดามารดาได้ตั้งชื่อ เด็กชายทองดำ เม่นพริ้ง


    การศึกษา
    วัยเด็ก
    ขณะเด็กชายทองดำ อายุ 3 ขวบ บิดามารดาได้นำไปถวายเป็นบุตรบุญธรรมกับหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ (วัดบางคลาน จ.พิจิตร) หลวงพ่อเงินเห็นครั้งแรกได้เอ๋ยคำออกมา "ไอ้หนูเด็กน้อยคนนี้เป็นเทวดามาเกิด ใครเสี้ยงก็ไม่ได้ มาเป็นลูกของเราเถิดนะ" หลวงพ่อเงินเอาผ้าผืนลงปูรองรับเด็กน้อยคนนี้ ทำพิธีรับลูก จากนั้นเด็กคนนี้ได้รับการเลี้ยงดูอุปถัมภ์ สั่งสอน อบรม วิชาความรู้ และสรรพวิชาต่าง ๆ โดยได้พักอาศัยกับหลวงพ่อ เมื่อหลวงพ่อเงินเงินท่องบทสวดมนต์เด็กชายทองดำก็สามารถท่องได้จบเล่มในวันเดียว ชาวบ้านรู้ข่าวต่างแห่มาดูการใหญ่ว่าเด็กน้อยคนนี้มีหน้าตาอย่างไร กระทั่งโตขึ้นบิดามารดามารับเด็กชายทองดำไปเล่าเรียนศึกษากับอาจารย์โต (เจ้าอาวาสวัดท่าทอง ต.วังกะพี้ จ.อุตรดิตถ์ในสมัยนั้น)


    วัยหนุ่มฉกรรจ์
    นายทองดำได้ฝึกฝนและศึกษาศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทยจนมีความชำนาญ จนได้เป็นนักมวยที่มีฝีมือดีคนหนึ่ง ซึ่งช่วงวัยหนุ่มนี้ทองดำได้เพื่อนคนหนึ่งชื่อ "เล็กย่งหลี"(ต้นตระกูลเล็กอุทัย)มีรูปร่างเล็กไปไหนไปด้วยกันประจำ ได้ฝึกชกมวยด้วยกันมา หากออกชกมวยที่ไหนจะให้เล็กย่งหลีขึ้นไปเปรียบหาคู่ชก แต่ตอนเวลาชกนายทองดำจะเป็นผู้ชกแทน ก่อนชกนายทองดำจะบริกรรมคาถาที่ได้ร่ำเรียนมาโยมปู่จนรู้สึกตัวหนา(ของขึ้น)และนายทองดำก็สามารถชกมวยชนะแทบทุกครั้ง อายุครบเกณฑ์ทหาร ได้เข้ารับเป็นทหาร 2 ปี ปลดจากทหารประจำการแล้วจึงได้อุปสมบทสู่ร่มพระศาสนา


    สู่ร่มพระศาสนา
    อุปสมบทเมื่ออายุ 22 ปี ณ. พระอุโบสถ วัดวังหมู ต.หาดกรวด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โดยมีพระครูวิเชียรปัญญามหามุนี (เรือง )เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดท่าถนน ต.ท่าอฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ในขณะนั้นเป็นองค์อุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2463 พระอาจารย์แส เจ้าอาวาสวัดวังหมู ต.หาดกรวด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ฐิตวณโณ” เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดท่าทอง 1 พรรษา ทางวัดท่าทอง ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง คณะศรัทธา วัดท่าทองได้ลงความเห็นพ้องกัน โดยได้ไปกราบนมัสการเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อขออนุญาตจากเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ด้วยดี คณะศรัทธาให้”พระภิกษุทองดำ” เพื่อนิมนต์ให้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทอง ซึ่งหลวงพ่อเองก็มีเจตนาอันบริสุทธิ์และจิตใจอันแน่วแน่ต่อพระพุทธศาสนาและเป็นโอกาสที่จะได้พัฒนาทำนุบำรุงเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุงเรืองยิ่งขึ้นสมความตั้งใจ หลวงพ่อจึงรับภารกิจนิมนต์ครั้งนี้และย้ายมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทอง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2468เป็นต้นมา


    การศึกษาพระปริยัติธรรม
    การที่หลวงย้ายมาจากวัดท่าทองมาอยู่วัดท่าถนน ซึ่งเป็นวัดของพระอุปัชฌาย์ของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่นั้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างจริงจัง เพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระธรรมวินัยให้ละเอียดและถ่องแท้ หลวงปู่ได้มีความขยันเพียนตั้งใจศึกษาด้วยความวิริยะอุตสาหะภายในปีเดียวก็สอบได้นักธรรมตรี (พ.ศ.2466) ด้วยเหตุแห่งการศึกษาทางพระธรรมวินัยในสมัยนั้นยังไม่เจริญพอการศึกษามีเพียงชั้นนักธรรมตรีเท่านั้น ฉะนั้นการศึกษาของท่านต้องหยุดชะงักลง


    ตำแหน่งการปกครองและสมณศักดิ์ที่ได้รับตั้งแต่ปี พ.ศ.2468
    หลวงปู่มีตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์และสมณศักดิ์พัดยศดังนี้
    - ปีพ.ศ.2468 อายุ 27 ปี พรรษา 5 ดำลงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทอง
    - ปี พ.ศ.2478 ได้รับสมณศักดิ์แต่งตั้งเป็นพระธรรมธรฐานานุกรมของพระครูวิเชียรปัญญา มหามุณีศรีอุตรดิตถ์ เจ้าคณะอุตรดิถต์
    - ปี พ.ศ.2482 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะเป็นเจ้าคณะตำบลหาดกรวด-วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์และในปีนั้นได้เลือนสมณศักดิ์แต่งตั้งเป็นพระปลัดฐานานุกรม ของพระครูธรรมสารโกวิทย์ (ยศ)เจ้าคณะแขวงเมืองอุตรดิตถ์
    - ปี พ.ศ. ได้รับการแต่งตั้งเป็นสาธารณูปการ อ.เมืองอุตรดิตถ์
    - ปี พ.ศ. 2487 ได้รับพระราชทานเป็นพระครูธรรมมาภรณ์ประสาท
    - ปี พ.ศ.2497 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์
    - ปี พ.ศ.2498 ได้รับการแต่งตั้งเป็นสาธารณูปการจังหวัดอุตรดิตถ์
    - ปี พ.ศ.2504 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชทานคณะชั้นสามัญนาม “พระนิมมานโกวิท”
    - ปี พ.ศ.2510 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์
    - ปี พ.ศ.2542 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรง ตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จวบจนมรณภาพ(ในปี พ.ศ.2548)


    การศึกษาด้านเวทย์มนต์คาถาอาคม
    ช่วยวัยเด็กหลวงปู่ได้ติดตามบิดาล่องเรือขายยาสูบระหว่างอุตรดิตถ์ จ.พิจิตร จ.นครสวรรค์ บิดามารดาได้ฝากเป็นเด็กวัด เรียนหนังสือกับหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน จ.พิจิตร คอยรับใช้ใกล้ชิดท่านอนุญาตให้พักกุฎิเดียวกับท่าน หลวงพ่อเงินได้สอนสรรพวิชาอาคมไสยเวทต่าง ๆ คาถาที่หลวงพ่อเงินสอนไว้นั้นที่สำคัญคือ “นะโมพุทธายะ” (พระเจ้าห้าพระองค์) ซึ่งต่อมาหลวงปู่ได้ใช้เป็นคาถาประจำตัวของท่านตลออดมา นอกจากนั้นหลวงปู่ยังได้ศึกษาวิชาอาคมกับโยมปู่ของท่าน ซึ่งเป็นวิชาอยู่ยงคงกระพัน เพื่อป้องกันตนเอง หลวงปู่ได้ใช้วิชานี้ปลุกเศกตัวเองก่อนจะขึ้นชกมวยทุกครั้ง โดยก่อนจะขึ้นชกมวยหลวงปู่จะบริกรรมคาถาจนรู้สึกว่าเนื้อเริ่มหน่าขึ้น (ของชึ้น)จึงจะชกได้


    เมื่อขณะหลวงอุปสมบทแล้ว ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดท่าถนน (วัดหลวงพ่อเพ็ชร) ซึ่งอยู่ในตัวเมืองอุตรดิตถ์ หลวงปู่ทราบว่าที่วัดกลางอยู่ห่างจากวัดท่าถนนทางทิศใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร มีพระภิกษุชราอยู่รูปหนึ่ง “หลวงพ่อทิม” ขาดการดูแลเอาใจใส่ หลวงปู่จึงได้ใช้เวลาว่างเดินทางจากวัดท่าถนนมาวัดกลางทุกวัน เพื่อปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อทิมด้วยจิตใจเมตตาและให้ความเคราพนับถึอ โดยหลวงปู่ได้ปฎิบัติภารกิจเป็นประจำทุกวัน ได้แก่ ตักน้ำ ขึ้นมาจากท่าแม่น้ำน่าน นำมาใส่ตุ่มไว้ให้หลวงพ่อทิมได้สรง เก็บกวาดกุฎิ ชำระล้างภาชนะต่างๆ ประจำมิขาด โดยหลวงปู่มิได้หวังสิ่งค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น แต่ทำไปเพราะจิตเมตตาแก่ภิกษุผู้สูงอายุโดยแท้ซึงจากการกระทำความดีของหลวงปู่ ทำให้หลวงพ่อทิมซึ่งขณะนั้นไม่มีผู้ใดทราบความเป็นมาหลวงพ่อทิมว่าเป็นพระภิกษุเชี่ยวชาญมนต์คาถาทุกด้าน

    ซึ่งกิตติศัพท์ ชาวบ้านย่านเกาะบางโพและตำบลใกล้เคียงทราบคือ “ตะกรุดโทน” ซึ่งหลวงพ่อปลุกเศกโดยดำลงน้ำจารึกอักขระบนแผ่นตะกรุดจนกว่าจะเสร็จ *น่าเสียดายวันหนึ่งมีมนุษย์ผู้เขลาด้วยปัญญา นำตะกรุดที่ท่านมอบไปผูกคอสุนัขและยิงสุนัข แต่ปาฎิหารย์กระสุนด้านหมด เมื่อหลวงพ่อทิมเห็นสุขันวิ่งหลบใต้กุฎิจึงถอดออกจากคอสุนัข ท่านโกรธจึงประกาศงดให้เครื่องรางของขลังแก่ชาวบ้าน หลวงปู่เมื่อได้รับมอบวิชาและตำราจากหลวงพ่อทิมไปแล้ว ท่านหมั่นศึกษาภาวนาปฎิบัติ ทุกบท ทุกวรรคตอน จนสิ้นกระบวนความในตำรา จนชาวบ้าน บ้านเกาะต่างกล่าวกันว่าหลวงพ่อทิมไปเกิดที่วัดท่าทอง หลวงปู่ได้ใช้คาถาอาคมช่วยเหลือชาวบ้านตลอดมา ประพรมชาวบ้านที่แวะเวียนมากราบนมัสการท่าน ซึ่งน้ำมนต์นี้หลวงปู่จะปลุกเศกทุกวัน ใส่โองมังกรขนาดใหญ่

    สภาพสวยพร้อมซ่อมเดิมๆไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณค้าขายโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม คลาดแค้ลว "ไม่แท้ไม่ทันไม่สด คืนเต็มครับ" แบ่งให้บูชา 399 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2022
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320




    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$







    527.มาตรฐานงานประกวด พระสมเด็จฐานไข่ปลา วัดบ่อวิน(๔)

    ลป.ฝั้น,ลป.สิม + ลป.ทิม เศกอีก9เดือน และอีกหลายวาระ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-A4A7_59455072.jpg

    ภาพพิธีบางส่วนที่รวบรวมได้ครับ (เพิ่มเติมที่ภาพด้านล่าง)
    image-2b20_589886a4-jpg-3907409-jpg-4083056-jpg.4183323.jpg

    ภาพใบประกาศงานประกวดพระที่ศรีราชา
    image-bb1a_5896bc77-jpg.4183324.jpg
    ใบนี้ของพี่ๆในเว็บที่บูชาจากผมไปส่งประกวด ได้รองแชมป์งานชลบุรี

    ขออนุญาตเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับการประกวดครับ

    - http://www.dd-pra.com/store2/304/23317/


    พระสมเด็จฐานไข่ปลา หลังยันต์หมึก (ปั้มหมึก ยันต์ห้า และข้อความที่เขียนว่า "ปลุกเศกโดย หลวงปู่ทิม") เนื้อผงพุทธคุณผสมว่าน วัดบ่อวิน อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี จัดสร้างโดยพระอาจารย์กิม ชาตรูโป เมื่อครั้งจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีมหาราชา ซึ่งหลวงปู่ทิมได้มอบมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณมาโนช เหล่าขวัญสถิตย์ เจ้าของร้านนาวาชายหาด ศิษย์ก้นกุฎิเป็นผู้ดำเนินการ จัดสร้างเมื่อราวปี พ.ศ.2515-2516

    มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง
    เนื้อผงพุทธคุณต่างๆ, ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม, จีวร, เกศาของหลวงปู่ทิม, หมอนหนุนหัว ของหลวงปู่ทิม (หมอนที่ใช้หนุนมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ และบอกว่า นี่แหละของดี เพราะหมอนมีความหมายถึงการหนุนดวง สำหรับคนดวงตก หมายถึงการค้ำดวง จากคำบอกเล่า ของครูดุก พัทยา ผู้เคยบวชร่วมสมัยกับพระอาจารย์กิม ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตาของคุณมาโนช ผู้สร้างพระชุดนี้ครับ)


    เมื่อแล้วเสร็จคุณมาโนช ได้นำไปถวายให้พระอาจารย์สายกรรมฐาน เมตตาอธิษฐานจิตในวาระแรก
    รายนามพระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระชุดวัดบ่อวิน
    1.หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
    2.หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    3.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    4.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล
    5.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม
    6.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั่ง
    7.หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม
    8.หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก

    หลังจากนั้นก็นำเข้าพิธีต่างๆ ในแถบภาคตะวันออกอีกไม่ต่ำกว่า 9 พิธี


    วาระสุดท้าย
    ได้นำไปถวายให้ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เมตตาอย่างมาก ปลุกเสกเดี่ยวให้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2517 จนถึง วันที่ 29 กรฎาคม พ.ศ.2518 เป็นระยะเวลานานมากถึง 9 เดือน 20วัน ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจนและมากด้วยคุณค่าอย่างแท้จริง


    สภาพสวยเดิมพิมพ์นี้หายาก Search ใน google พบไม่เกิน5องค์ครับ ส่งตรงมาจากพื้นที่เจ้าของไม่ได้ตามราคาปัจจุบันเลยได้มาแบบเบาๆก็เลยออกต่อเบาๆ ของหลุดราคาหลงมาไม่บ่อยครับ สมบูรณ์ด้วยคราบฝ้าไขว่านแป้งลองพิมพ์เดิม หมึกปั้ม(เสียดายหมึกจางเองไปตามธรรมชาติแต่ยังพอเห็นลางๆ) เนื้อหาเข้มข้น องค์นี้เนื้อพิเศษเนื้อผงน้ำมันผสมว่านแบบ2ประสานที่ลงตัว โดยส่วนตัวชุดวัดบ่อวินนี้ น่าจะเป็นชุดนอกวัดที่ดีที่สุดของหลวงปู่ทิมแล้วครับ ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมแบบว่า "ดังเองไม่มีใครปั่น" แบ่งให้บูชา 2,500บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2018
  11. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320


    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$





    528.พิเศษหายากห่วงเชื่อม ยอดเหรียญเก่าในตำนานวัดบวร

    เหรียญพระรัตนตรัย สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวร

    image-CCDA_59454D9C.jpg

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ


    image-A25A_59454D9C.jpg

    เหรียญพระรัตนตรัย หรือที่นิยมเรียกกันว่า "เหรียญตู้ไปรษณีย์" สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 13 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เนื้อทองแดงข้างเลื่อย นิยมหายากห่วงเชื่อม ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2575 เพื่อแจกเป็นที่ระลึกในโอกาสที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ มีพระชันษาครบ 60 ปี เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระราชาคณะในราชทินนาม "สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์"

    ในปี พ.ศ.2475 สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ มีพระชันษาครบ 60 ปี คณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันจัดพิธีบำเพ็ญกุศลฉลองพระชนมายุขึ้น ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร และได้จัดสร้างเหรียญที่ระลึกขึ้นสำหรับแจกในงาน ชื่อ "เหรียญพระรัตนตรัย"

    พุทธลักษณะ
    - เป็นเหรียญปั๊ม หูในตัว มีความกว้าง 1.8 ซ.ม. และสูง 3.5 ซ.ม.
    ด้านหน้า : ขอบเหรียญแกะเป็นซุ้มเรือนแก้ว ด้านล่างเป็นฐานผ้าทิพย์ ประกอบด้วยลายกนก มีสัญลักษณ์ปรากฏในลักษณะของอักขระขอม รวมความหมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คือ อักขระขอมใต้ตัวเฑาะว์ ด้านบนของอาสนะบัวคว่ำบัวหงาย อ่านได้ว่า "สัมพุทโธ" หมายถึง พระพุทธ ด้านบนตัวเฑาะว์ มีอักขระขอม 3 บรรทัด อ่านได้ว่า "ปุ ญา จุ ญา" "ทุ สะ นิ มะ" และ "อา สะ นิ มะ" อันเป็นหัวใจโดยย่อของพระธรรม ตรงกลางเป็น "ตัวเฑาะว์ขัดสมาธิ" ขึ้นยอดเป็นอุณาโลมยาวจดซุ้ม มีความหมายถึง พระธรรม ที่รอบยันต์ตัวเฑาะว์เป็นเส้นรัศมีแผ่กระจายโดยรอบ และใต้อาสนะบัวคว่ำบัวหงาย ภายใต้ตัวเฑาะว์ มีอักขระขอม อ่านว่า "สังโฆ" คือ พระสงฆ์ ตรงฐานผ้าทิพย์ จะมีอักษรไทยว่า "สุจิตโต" อันเป็นนามฉายา ส่วนด้านล่างสุดตรงขอบเหรียญ เป็นตัวเลขไทยระบุปีประสูติและปีฉลองพระชันษา คือ "๒๔๑๕ และ ๒๔๗๕" ส่วน

    ด้านหลัง : เป็นอักขระขอมเรียงกัน 8 แถว อ่านได้ว่า "พุทโธ ธัมโม จ สังโฆรักขันตุ พุทธสาสนนิกัง อนิฎเฐหิวิภวาย อิฏเฐหิ สมุกวาย จ"


    สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
    เป็นโอรสของหม่อมเจ้าถนอม นพวงศ์ ประสูติในปี พ.ศ.2415 พอพระชันษาได้ 15 ปี ผนวชเป็นสามเณรที่วัดบรมนิวาส ทรงศึกษาพระปริยัติธรรมกับหม่อมเจ้าอรุณนิภากร พระสาธุศีลสังวร (สาย) และสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงมีพระปรีชาล้ำเลิศสามารถสอบได้เปรียญ 5 ประโยค ตั้งแต่เป็นสามเณร เมื่อพระชันษาครบ 20 ปี จึงผนวชเป็นพระภิกษุที่วัดบวรนิเวศวิหาร มีฉายา "สุจิตโต" ทรงเคร่งครัดในวัตรปฏิบัติเป็นที่เคารพศรัทธาของเหล่าสาธุชน ได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์เรื่อยมาจนปี พ.ศ.2488 ทรงรับสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงครองวัดบวรนิเวศวิหารอยู่ 38 ปี สิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ.2501 พระชันษา 85 ปี 11 เดือน กับ 19 วัน


    สภาพขลังผิวหิ้งเดิมๆไม่ผ่านการล้าง พิเศษนิยมหายาก แบบหูเชื่อมมีน้อยมาก พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 2,999 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2018
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320



    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$





    529.สุดยอดเมตตาค้าขาย 1ใน2,000(๑) พระสมเด็จลาภผลพูนทวี

    หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง พระเถรจารย์ 5แผ่นดิน ศิษย์ตัวจริงหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-A2EF_59460BD1.jpg

    image-4FE4_59460BD1.jpg
    พระสมเด็จ หลังยันต์องค์ครูหลวงปู่ รุ่นลาภผลพูนทวี หลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ วัดท่าทอง ตำบลวังกะพี้ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เนื้อผงพุทธคุณต่างๆมากมายผสมเกศาหลวงปู่ บรรจุตะกรุดเงินแท้(แก่ผงแป้งเจิมหลวงปู่ ซึ่งเป็นเอกอุของท่าน) ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2536 ประสบการณ์มากมายทั้งเมตตา ค้าขาย และคลาดแคล้ว ลูกศิษย์ต่างรู้กันดีว่าไม่เป็นสองรองใคร จำนวนการสร้าง 2,000องค์

    จำนวนการสร้างทั้งหมด 40,000องค์ จำแนกดังนี้
    - พระสมเด็จ บรรจุตะกรุดทองคำ 1,000องค์
    - พระสมเด็จ บรรจุตะกรุดเงิน 2,000องค์
    - พระสมเด็จ บรรจุตะกรุดทองแดง 3,000องค์
    - พระสมเด็จ บรรจุตะกรุดตะกั่ว 4,000องค์
    - พระสมเด็จ ไม่บรรจุตะกรุด 30,000องค์

    มวลสารสำคัญที่ใช้จัดสร้าง
    มวลสารผงมหาพุทธคุณผสมผงเก่า อาทิเช่น ผงกิ่งโพธิ์อธิษฐานหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน, ผงพุทธคุณเก่าหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน, ผงมหาพุทธคุณของหลวงปู่, ผงพระกรุเก่ากรุโบราณหลายสิบกรุของสุโขทัย, ดินพุทธคยา, ผงว่านและเกสรหลายชนิด, ผงอิธิเจตรีนิสิงเห, แร่เหล็หน้ำพี้, ผงว่าน 120 ชนิด , ผงพระกรุอยุธยา สุโขทัย , เม็ดพระศกพระพุทธรูปโบราณ , ผงและข้าวก้นบาตรเสก หลวงปู่ดู่ วัดสะแก , ไคลเสมา , แร่เหล็กน้ำพี้ , ข้าวตอกพระร่วง , นิลดำ , แก้วท่าปลา , แป้งเสก จีวรและชานหมาก หลวงปู่ทองดำ , ผงไม้จันทร์หอม , ผงงาช้างพลายกระเด็น , กิ่งโพธิ์นิพพาน , ขี้ธูปหลวงพ่อเพชร วัดท่าถนน , ผงพุทธคุณพระเจ้า 28 พระองค์ พระเจ้า 16 พระองค์ และแป้งมหาราช เป็นต้น


    ประวัติโดยย่อหลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ วัดท่าทอง
    ภูมิหลังชาติกำเนิด
    วันพุธ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 พุทธศักราช 2441 ณ.บ้านไซโรงโขน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร นายบุญนาค นางจ่าย แม่พริ้ง ได้ให้กำเนิดบุตรคนที่ 4 เพศชาย(ในจำนวนพี่น้องชายหญิง 8 คน) บิดามารดาได้ตั้งชื่อ เด็กชายทองดำ เม่นพริ้ง


    การศึกษา
    วัยเด็ก
    ขณะเด็กชายทองดำ อายุ 3 ขวบ บิดามารดาได้นำไปถวายเป็นบุตรบุญธรรมกับหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ (วัดบางคลาน จ.พิจิตร) หลวงพ่อเงินเห็นครั้งแรกได้เอ๋ยคำออกมา "ไอ้หนูเด็กน้อยคนนี้เป็นเทวดามาเกิด ใครเสี้ยงก็ไม่ได้ มาเป็นลูกของเราเถิดนะ" หลวงพ่อเงินเอาผ้าผืนลงปูรองรับเด็กน้อยคนนี้ ทำพิธีรับลูก จากนั้นเด็กคนนี้ได้รับการเลี้ยงดูอุปถัมภ์ สั่งสอน อบรม วิชาความรู้ และสรรพวิชาต่าง ๆ โดยได้พักอาศัยกับหลวงพ่อ เมื่อหลวงพ่อเงินเงินท่องบทสวดมนต์เด็กชายทองดำก็สามารถท่องได้จบเล่มในวันเดียว ชาวบ้านรู้ข่าวต่างแห่มาดูการใหญ่ว่าเด็กน้อยคนนี้มีหน้าตาอย่างไร กระทั่งโตขึ้นบิดามารดามารับเด็กชายทองดำไปเล่าเรียนศึกษากับอาจารย์โต (เจ้าอาวาสวัดท่าทอง ต.วังกะพี้ จ.อุตรดิตถ์ในสมัยนั้น)


    วัยหนุ่มฉกรรจ์
    นายทองดำได้ฝึกฝนและศึกษาศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทยจนมีความชำนาญ จนได้เป็นนักมวยที่มีฝีมือดีคนหนึ่ง ซึ่งช่วงวัยหนุ่มนี้ทองดำได้เพื่อนคนหนึ่งชื่อ "เล็กย่งหลี"(ต้นตระกูลเล็กอุทัย)มีรูปร่างเล็กไปไหนไปด้วยกันประจำ ได้ฝึกชกมวยด้วยกันมา หากออกชกมวยที่ไหนจะให้เล็กย่งหลีขึ้นไปเปรียบหาคู่ชก แต่ตอนเวลาชกนายทองดำจะเป็นผู้ชกแทน ก่อนชกนายทองดำจะบริกรรมคาถาที่ได้ร่ำเรียนมาโยมปู่จนรู้สึกตัวหนา(ของขึ้น)และนายทองดำก็สามารถชกมวยชนะแทบทุกครั้ง อายุครบเกณฑ์ทหาร ได้เข้ารับเป็นทหาร 2 ปี ปลดจากทหารประจำการแล้วจึงได้อุปสมบทสู่ร่มพระศาสนา


    สู่ร่มพระศาสนา
    อุปสมบทเมื่ออายุ 22 ปี ณ. พระอุโบสถ วัดวังหมู ต.หาดกรวด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โดยมีพระครูวิเชียรปัญญามหามุนี (เรือง )เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดท่าถนน ต.ท่าอฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ในขณะนั้นเป็นองค์อุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2463 พระอาจารย์แส เจ้าอาวาสวัดวังหมู ต.หาดกรวด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ฐิตวณโณ” เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดท่าทอง 1 พรรษา ทางวัดท่าทอง ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง คณะศรัทธา วัดท่าทองได้ลงความเห็นพ้องกัน โดยได้ไปกราบนมัสการเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อขออนุญาตจากเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ด้วยดี คณะศรัทธาให้”พระภิกษุทองดำ” เพื่อนิมนต์ให้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทอง ซึ่งหลวงพ่อเองก็มีเจตนาอันบริสุทธิ์และจิตใจอันแน่วแน่ต่อพระพุทธศาสนาและเป็นโอกาสที่จะได้พัฒนาทำนุบำรุงเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุงเรืองยิ่งขึ้นสมความตั้งใจ หลวงพ่อจึงรับภารกิจนิมนต์ครั้งนี้และย้ายมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทอง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2468เป็นต้นมา


    การศึกษาพระปริยัติธรรม
    การที่หลวงย้ายมาจากวัดท่าทองมาอยู่วัดท่าถนน ซึ่งเป็นวัดของพระอุปัชฌาย์ของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่นั้น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างจริงจัง เพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระธรรมวินัยให้ละเอียดและถ่องแท้ หลวงปู่ได้มีความขยันเพียนตั้งใจศึกษาด้วยความวิริยะอุตสาหะภายในปีเดียวก็สอบได้นักธรรมตรี (พ.ศ.2466) ด้วยเหตุแห่งการศึกษาทางพระธรรมวินัยในสมัยนั้นยังไม่เจริญพอการศึกษามีเพียงชั้นนักธรรมตรีเท่านั้น ฉะนั้นการศึกษาของท่านต้องหยุดชะงักลง


    ตำแหน่งการปกครองและสมณศักดิ์ที่ได้รับตั้งแต่ปี พ.ศ.2468
    หลวงปู่มีตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์และสมณศักดิ์พัดยศดังนี้
    - ปีพ.ศ.2468 อายุ 27 ปี พรรษา 5 ดำลงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทอง
    - ปี พ.ศ.2478 ได้รับสมณศักดิ์แต่งตั้งเป็นพระธรรมธรฐานานุกรมของพระครูวิเชียรปัญญา มหามุณีศรีอุตรดิตถ์ เจ้าคณะอุตรดิถต์
    - ปี พ.ศ.2482 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะเป็นเจ้าคณะตำบลหาดกรวด-วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์และในปีนั้นได้เลือนสมณศักดิ์แต่งตั้งเป็นพระปลัดฐานานุกรม ของพระครูธรรมสารโกวิทย์ (ยศ)เจ้าคณะแขวงเมืองอุตรดิตถ์
    - ปี พ.ศ. ได้รับการแต่งตั้งเป็นสาธารณูปการ อ.เมืองอุตรดิตถ์
    - ปี พ.ศ. 2487 ได้รับพระราชทานเป็นพระครูธรรมมาภรณ์ประสาท
    - ปี พ.ศ.2497 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์
    - ปี พ.ศ.2498 ได้รับการแต่งตั้งเป็นสาธารณูปการจังหวัดอุตรดิตถ์
    - ปี พ.ศ.2504 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชทานคณะชั้นสามัญนาม “พระนิมมานโกวิท”
    - ปี พ.ศ.2510 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์
    - ปี พ.ศ.2542 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรง ตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จวบจนมรณภาพ(ในปี พ.ศ.2548)


    การศึกษาด้านเวทย์มนต์คาถาอาคม
    ช่วยวัยเด็กหลวงปู่ได้ติดตามบิดาล่องเรือขายยาสูบระหว่างอุตรดิตถ์ จ.พิจิตร จ.นครสวรรค์ บิดามารดาได้ฝากเป็นเด็กวัด เรียนหนังสือกับหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน จ.พิจิตร คอยรับใช้ใกล้ชิดท่านอนุญาตให้พักกุฎิเดียวกับท่าน หลวงพ่อเงินได้สอนสรรพวิชาอาคมไสยเวทต่าง ๆ คาถาที่หลวงพ่อเงินสอนไว้นั้นที่สำคัญคือ “นะโมพุทธายะ” (พระเจ้าห้าพระองค์) ซึ่งต่อมาหลวงปู่ได้ใช้เป็นคาถาประจำตัวของท่านตลออดมา นอกจากนั้นหลวงปู่ยังได้ศึกษาวิชาอาคมกับโยมปู่ของท่าน ซึ่งเป็นวิชาอยู่ยงคงกระพัน เพื่อป้องกันตนเอง หลวงปู่ได้ใช้วิชานี้ปลุกเศกตัวเองก่อนจะขึ้นชกมวยทุกครั้ง โดยก่อนจะขึ้นชกมวยหลวงปู่จะบริกรรมคาถาจนรู้สึกว่าเนื้อเริ่มหน่าขึ้น (ของชึ้น)จึงจะชกได้


    เมื่อขณะหลวงอุปสมบทแล้ว ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดท่าถนน (วัดหลวงพ่อเพ็ชร) ซึ่งอยู่ในตัวเมืองอุตรดิตถ์ หลวงปู่ทราบว่าที่วัดกลางอยู่ห่างจากวัดท่าถนนทางทิศใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร มีพระภิกษุชราอยู่รูปหนึ่ง “หลวงพ่อทิม” ขาดการดูแลเอาใจใส่ หลวงปู่จึงได้ใช้เวลาว่างเดินทางจากวัดท่าถนนมาวัดกลางทุกวัน เพื่อปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อทิมด้วยจิตใจเมตตาและให้ความเคราพนับถึอ โดยหลวงปู่ได้ปฎิบัติภารกิจเป็นประจำทุกวัน ได้แก่ ตักน้ำ ขึ้นมาจากท่าแม่น้ำน่าน นำมาใส่ตุ่มไว้ให้หลวงพ่อทิมได้สรง เก็บกวาดกุฎิ ชำระล้างภาชนะต่างๆ ประจำมิขาด โดยหลวงปู่มิได้หวังสิ่งค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น แต่ทำไปเพราะจิตเมตตาแก่ภิกษุผู้สูงอายุโดยแท้ซึงจากการกระทำความดีของหลวงปู่ ทำให้หลวงพ่อทิมซึ่งขณะนั้นไม่มีผู้ใดทราบความเป็นมาหลวงพ่อทิมว่าเป็นพระภิกษุเชี่ยวชาญมนต์คาถาทุกด้าน

    ซึ่งกิตติศัพท์ ชาวบ้านย่านเกาะบางโพและตำบลใกล้เคียงทราบคือ “ตะกรุดโทน” ซึ่งหลวงพ่อปลุกเศกโดยดำลงน้ำจารึกอักขระบนแผ่นตะกรุดจนกว่าจะเสร็จ *น่าเสียดายวันหนึ่งมีมนุษย์ผู้เขลาด้วยปัญญา นำตะกรุดที่ท่านมอบไปผูกคอสุนัขและยิงสุนัข แต่ปาฎิหารย์กระสุนด้านหมด เมื่อหลวงพ่อทิมเห็นสุขันวิ่งหลบใต้กุฎิจึงถอดออกจากคอสุนัข ท่านโกรธจึงประกาศงดให้เครื่องรางของขลังแก่ชาวบ้าน หลวงปู่เมื่อได้รับมอบวิชาและตำราจากหลวงพ่อทิมไปแล้ว ท่านหมั่นศึกษาภาวนาปฎิบัติ ทุกบท ทุกวรรคตอน จนสิ้นกระบวนความในตำรา จนชาวบ้าน บ้านเกาะต่างกล่าวกันว่าหลวงพ่อทิมไปเกิดที่วัดท่าทอง หลวงปู่ได้ใช้คาถาอาคมช่วยเหลือชาวบ้านตลอดมา ประพรมชาวบ้านที่แวะเวียนมากราบนมัสการท่าน ซึ่งน้ำมนต์นี้หลวงปู่จะปลุกเศกทุกวัน ใส่โองมังกรขนาดใหญ่

    สภาพสวยพร้อมกล่องเดิมๆวัด ขออภัยกล่องบางกล่องอาาจะมีคราบปลวกปกคลุมบ้างนะครับ เพราะเก่าเก็บมานาน ไม่ผ่านการบูชา คราบแป้งไขฝ้าผงเก่าเดิมๆ พุทธคุณครอบครบ สุดยอดเมตตาค้าขาย ประสบการณ์ล้นเปี่ยมแบ่งให้บูชา 750 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2018
  13. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,572
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  14. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320


    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$




    530.สวยเดิมผสมทองระฆัง ลพ.พรหม วัดช่องแค
    เหรียญอุดมโภคทรัพย์ ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง

    image-5238_57ECC709.jpg

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-2375_594745FC.jpg

    image-86BF_594745FC.jpg image-68BA_594745FC.jpg
    เหรียญอุดมโภคทรัพย์ ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน เนื้อทองแดง ผสมทองระฆังของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2521 โดยคุณหมอสมสุข คงอุไร ประธานคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก สร้างถวายครูบาขันแก้ว เพื่อให้บูชาทำบุญทอดกฐินที่วัดสันพระเจ้าแดงประจำปี พ.ศ.2521 จำนวนการสร้าง 11,000 เหรียญ

    พุทธศิลป์
    ด้านหน้า : เป็นรูปครูบาขันแก้ว เขียนว่า "พระครูอุดมขันติธรรม
    ด้านหลัง : เป็นถุงเงินวางเรียงกันถุงตรงกลางถุงเขียนว่า" อุดมโภคทรัพย์ " บนถุงเป็นตัวอักขระขอม อ่านว่า พุทโธ, ใต้ถุงเงินเขียนว่า ร.พ.ก.(รัศมีพรหมโพธิโก), ขอบเหรียญด้านบนเขียนว่า " ขยันทำมาหากิน" และใต้เหรียญเขียนว่า วัดสันพระเจ้าแดง จ. ลำพูน

    จัดสร้างด้วยกันทั้งหมด 4 เนื้อ คือ
    1. เนื้อเงิน สร้าง 19-20 เหรียญ
    2. เนื้ออัลปาก้า สร้าง 1,000 เหรียญ
    3. เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง สร้าง 1,000 เหรียญ
    4. เนื้อทองแดงสร้าง 11,000 เหรียญ (เป็นเนื้อที่ผสมทองระฆังของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค)
    มีทั้งตอกโค๊ดและไม่ตอกโค๊ด


    วาระการอธิษฐานจิต
    - ครูบาขันแก้ว ท่านอธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวนานถึง 1 เดือน และเข้าพิธีใหญ่อีก 1 วาระ

    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก :
    - https://www.web-pra.com/shop/saoamulet/show/1115389


    สภาพสวยกริ๊บ ผิวไฟแดงเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก วงเดือนเต็ม ไม่ผ่านการบูชา พุทธคุณครอบครบ สุดยอดเมตตาค้าขาย ประสบการณ์ล้นเปี่ยมแบ่งให้บูชา 1,099 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2020
  15. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,572
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  16. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,981
    ค่าพลัง:
    +5,390
    ได้โอนเงิน ๓๔๕๖ บาทเมื่อ ๑๙มิย.๖๐ เวลาประมาณ ๑๑.๑๐น. น.เป็นค่าบูชาพระ๑.รายการ

    ที่อยู่ดูในกล่องข้อความครับ
     
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320
    ### ฝากประชาสัมพันธ์พี่ๆสมาชิกครับ ###



    - รับทราบการจอง,การแจ้งโอน,การแจ้งการได้รับของ และการเข้ามาเยี่ยมชมครับผม



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจองและการเช่าบูชาครับ

    พระเครื่องที่ผมนำมาลงผ่านการคัดกรองมาแล้วอย่างดี หากท่านสมาชิกท่านใดที่จะทำการจองหรือเช่าบูชา ไม่เชื่อมั่นในตัวผม หรือ ยังไม่มีรายละเอียดในพระที่ต้องการเช่าบูชา ขอความกรุณาทำการศึกษาให้ตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจนะครับ หรือจะนำภาพที่ผมลงไว้ไปให้คนที่คุณไว้ใจตรวจสอบก่อนก็ได้ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ครับ เพราะการตัดสินว่าพระไหนดีไหนไม่ดี มันต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์บวกกับการพิจารณความเป็นไปได้ด้วย คน10คนดูพระองค์เดียวกัน ผลที่ออกมาแทบไม่เหมือนกันเลย

    ถ้าท่านยังไม่ผ่านกระบวนการดังที่ผมกล่าวไว้นี้ และบวกกับยังไม่เชื่อมั่นในตัวผม ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งบูชาไปนะครับ เพราะถ้าเกิดความกังขาขึ้นในตัวองค์พระแล้วพุทธคุณไม่เกิดครับ ชี้แจงจากกรณีที่มีผู้ให้ผมตรวจสอบพระที่บูชามาจากที่อื่นให้ครับ คือบูชามาแล้วไม่สบายใจ บอกได้เลยว่ากรณีนี้ไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งนั้นครับ ทางที่ดีควร ศึกษา เรียนรู้ ไตร่ตรอง พิจารณาให้รอบคอบก่อนเช่าบูชานะครับ

    :););):);):):)


    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจัดส่ง

    เพื่อความสะดวกในการได้รับของครับผม เนื่องจากผมติดภารกิจ การจัดส่งของจะสะดวกในช่วงวัน วันพฤหัสบดี - วันศุกร์ นะครับพี่ๆ หากล่าช้าอย่างไรไปบ้างผมต้องขอประทานโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ



    เข้ารับชมสรุปรายการที่ หน้า 1
    ได้เลยครับผม ตามลิ้งค์เลยครับ

    []
    []
    \/



    ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม
    และอุดหนุนผมนะครับ
    [​IMG]
     
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320


    $$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$




    531.กล่องเดิมเก่ากึ้ก พระผงพิมพ์จันทร์ลอยพุทโธล้างอาถรรพ์คู่ชีวิต (เนื้อผงมหาจักรพรรดิ)
    ลป.หมุน,ลป.ทองดำ,ลป.จ้อย ร่วมเศกมหาพิธีของศตวรรษที่21

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-65d5_58497784-jpg.3777313.jpg

    thumb-2c52_58497784-jpg.3777314.jpg

    พระผงพิมพ์จันทร์ลอยพุทโธล้างอาถรรพ์คู่ชีวิต หลังประทับยันต์ครูพิมพ์พิเศษ เนื้อขาวผงมหาจักรพรรดิ หรือ เนื้อผงเขี้ยวงาช้าง วัดหลักเมืองพัฒนาราม บ้านรองกอก หล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2544

    มวลสารหลักที่ใช้ในการจัดสร้าง ผงมหาจักรพรรดิ
    ธาตุเหล็กไหล พระธาตุ 500 อรหันต์ พระธาตุข้าว พระธาตุ 500 อรหันต์ พระธาตุข้าว หงอนพญานาค แก้วขนเหล็ก เพชรหน้าทั่ง ผงเหล็กไหลฤาษี ผงเหล็กไหลเงินยวง ผงเหล็กไหลตาแรด โคตรเหล็กไหลสีเงินยวง ขี้เหล็กไหล เหล็กย้อย เหล็กทรหด หยกพันปี แร่บางไผ่ ผงธนบัตรเก่า ผงตะไบเหล็กน้ำพี้ (ถลุงแล้ว) แร่เหล็กน้ำพี้ไหลเพชรดำ ขมิ้นหินหมื่นปี ข้าวตอกพระร่วง แก่นไม้สักหินอายุ 160 ล้านปี ลูกมณีโคตร คดกะลา กะลาตาเดียว กะลาไม่มีตา (กะลามหาอุด) มะพร้าวลูกกรอก กัลปังหาดิน ดินโป่ง ดินกลางใจเมือง และน้ำจากศาลหลักเมือง 76 จังหวัด ตะกรุดข้าวสารหิน คดหอย ทรายเสก ผงพระครูเทพโลกอุดร ผงหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ผงหลวงปู่แหวน ผงจิตรลดา ผงพระปิลันทน์ ผงพระตุ๊กตาวัดพลับ ผงหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ ผงหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ แป้งเสกหลวงปู่อยู่วัดไทรโยง ผงว่านหลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา เศษพระหักหลวงพ่อมีวัดมารวิชัย เศษพระหักหลวงปู่คำพันธ์วัดธาตุมหาชัย และวัดต่าง ๆ อีกมากมาย เขากวางคุด น้ำมันมนต์หลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา ชานหมากเสกหลวงพ่อดำวัดท่าทอง ดินวิเศษสีเหลือง สมุนไพร 300 กว่าชนิด น้ำมนต์ 100 ตุ่ม หลวงปู่หงส์วัดเพชรบุรี ดินวิเศษสีเขียว แร่เงิน แร่ทอง แร่นาค ผงธูปสมเด็จโตวัดระฆัง ผงธูปวัดเกศไชโย ผงธูปหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ผงธูปหลวงพ่อแช่มวัดท่าฉลอม ผงธูปหลวงพ่อจรัญวัดอัมพวัน แม่ลิ้มกอเนี่ย ผงธูปศาลเจ้าพ่อเสือ ผงธูปวัดเล่งเน่ยยี่ ผงธูปวัดไต๋ฮงกง พระบรมสารีริกธาตุ หินพระธาตุเขา 300 ยอด พระธาตุสิวลีสีขาว พระธาตุสิวลีสีทอง พระธาตุแก้วขวานฟ้าผ่าเนื้อหิน 16 อัน ข้าวสารหินหมื่นปี ข้าวสารดำพันปี ผงมณีรัตนะ โคตรเหล็กไหล (สีดำเงา) แร่เกาะล้าน เหล็กย้อย ลูกมณีโคตร อุกามณี (สะเก็ดดาว) ไม้กลายเป็นหิน ดอกไม้หิน เพชรน้ำค้าง หินเขี้ยวหนุมาน ขมิ้นขาวเปลือกหอย 75 ล้านปี ไม้งิ้วดำ คดปลวก ลูกธนูคนธรรพ์ แร่ทรายเงิน แร่ทรายทอง ผงงาช้าง งาช้างตายพราย งาช้างกระเด็น งาช้างกระดอน ผงเพชรแท้ เศษพลอยเมืองจันทร์ ผงเก่า วัดระฆัง ผงสร้างพระหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่ ผงสร้างพระหลวงพ่อแพวัดพิกุลทอง ผงสร้างพระหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ผงสร้างพระหลวงพ่อคงวัดบางกระพ้อม ผงสร้างพระหลวงปู่นิลวัดครบุรี ผงสร้างพระหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ผงสร้างพระหลวงพ่อเชิญวัดโคกทอง ผงสร้างพระหลวงปู่คำพันธ์วัดธาตุมหาชัย ผงสร้างพระ หลวงพ่อเกษมเขมโกสุสานไตรลักษณ์ ผงสร้างพระอาจารย์ต่าง ๆ อีก 300 กว่ารูป (ซึ่งไม่สามารถลงหมดได้) เศษพระหักของวัดระฆัง เศษพระหักวัดปากน้ำ พระเครื่องเก่าที่ชำรุดอีกเป็นจำนวนมาก ผงตะไบพระกริ่งเนื้อนวะวัดสุทัศน์ ชานหมากหลวงปู่นิลวัดครบุรี ชานหมากหลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจา แป้งเสกหลวงปู่บุดดา ผงยาจินดามณีหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว ผงจินดามณีหลวงปู่เพิ่มวัดกลางบางแก้ว น้ำมันงาเสกหลวงพ่อคงวัดเขาสมโภชน์ น้ำมันงาเสกแร่บางไผ่ น้ำมันมนต์ไพรดำ น้ำมันมนต์จากคณาจารย์ต่าง ๆ และศาลหลักเมืองทั่วประเทศ ดินกากยายักษ์ ดินพระแม่ธรณี ดินวิเศษสีขาว ดอกไผ่ 70 ปี ว่าน 108 เกสร 108 สมุนไพร 108 ผงยันต์ 108 ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ผงนรหรคุณ แร่อาถรรพณ์ภูเขาควายประเทศลาว ผงฤาษีผสมแล้ว ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำละว้า ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำม้าร้อง ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำไก่หล่น ผงศักดิ์สิทธิ์จากถ้ำเนินมะปรางค์ ผงใบลานคัมภีร์คาถาต่าง ๆ ผงเก่าสมัยอยุธยา ผงเก่าสมัยทวาราวดี ใบเสมาศิลาแลงสมัยอยุธยา ผงเก่าที่อยู่ในไหขุดได้ที่ จากวัดร้างอายุหลายร้อยปี ทองคำเปลวจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ ตะไคร่โบสถ์ ตะไคร่วิหาร ตะไคร่พระปรางค์สามยอด ตะไคร่กำแพงเมืองเก่า ดินจากเนินดินพระอรหันต์ ดินจากสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน และสถานที่ปฐมเทศนาจากประเทศอินเดีย (ดินสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง) กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อโสธร กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อชินราช กระเบื้องโบสถ์และวิหารพระแก้วมรกต กระเบื้องโบสถ์และวิหารวัดไร่ขิง กระเบื้องโบสถ์หลวงพ่อโตวัดบางพลีใน กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อพระร่วงโรจน์ฤทธิ์ กระเบื้องโบสถ์และวิหารหลวงพ่อเศวตฉัตร์ ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระธาตุพนม ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระปฐมเจดีย์ ชิ้นส่วนหรืออิฐเก่าจากองค์พระธาตุและตะไคร่พระบรมสารีริกธาตนครศรีธรรมราชและเจดีบริวารอีก 150 กว่าเจดีย์ ผงตะไบสังฆวานร ผงลูกแก้วสามดวงหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค ผงลูกแก้วสีชมพู หลวงปู่ดู่วัดสะแก ผงใต้คานหลวงพ่อคล้อยวัดถ้ำเขาเงิน ผงหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ผงหลวงพ่อแดงวัดศรีมหาโพธิ์ ผงหลวงปู่ทองฤทธิ์ วัดป่าฉันทนิมิต ผงหลวงพ่อโอดวัดจันทร์เสนจว.นครสวรรค์ ผงหลวงพ่อสุรเสียงวัดป่าเชิงจาน ผงพระกรุวัดป่าเชิงจาน ไหลคำดำประเทศลาว จีวรหลวงพ่อทองดำวัดท่าทอง ชาดหมากหลวงปู่หงษ์วัดเพชรบุรี ชานหมากหลวงปู่ทิมวัดพระขาว ชานหมากหลวงพ่อพุฒิวัดป่าสาละวัน สีผึ้งหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค (ละลายในน้ำมนต์) น้ำมันมนต์นะหน้าทองหลวงพ่อคล้อยวัดถ้ำเขาเงิน
    9 พิธีพุทธาพิเษกใหญ่ พ.ศ.2544 (ศตวรรษที่ 21)

    1. พิธีใหญ่รุ่นพระกริ่งจอมไทย 7 วัน 7 คืน วัดสุทัศน์ กรุงเทพ ฯ
    2. วัดประสาทบุญญาวาส กรุงเทพ ฯ
    3. วัดเวียง อ.ท่าเรือ จว.พระนครศรีอยุทธยา
    4. วัดวสันตาราม อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี
    5. วัดพยัคฆาราม อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี
    6. วัดสับปะรดเทศน์ อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี
    7. วัดศรีสันต์มณฑาราม อ.เมือง จว.สุพรรณบุรี
    8. วัดศรีฐานปิยราม อ.หล่มสัก จว.เพชรบูรณ์ วันที่ 7 เม.ย.44
    9. วัดหลักเมืองพัฒนาราม อ.หล่มสัก จว.เพชรบูรณ์ วันที่ 7 พ.ค.44


    คณาจารย์ที่อธิฐานจิตเสกเดี่ยวในปี พ.ศ.2544 (ศตวรรษที่ 21)
    1. หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ 106 ปี วัดบ้านจาน
    2. หลวงปู่ทองคำ อายุ 104 ปี วัดท่าทอง อุตรดิตถ์
    3. หลวงปู่เหมือน ฐานุตตโม อายุ 104 วัดบ้านคลองทรายใต้
    4.หลวงปู่กอง จันทวโส อายุ 103 ปี วัดสระมณฑล
    5. หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน อายุ 102 ปี สวนป่าสมุนไพร
    6. ครูบาอิน อินโท พระครูวรวุฒิธิคุณ อายุ 100 ปี วัดทุ่งปุย
    7. หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย
    8. หลวงปู่โถม กุลปุญโญ อายุ 80 ปี วัดธรรมปัญญาราม
    9. หลวงปู่หลวง กตปุญโญ อายุ 85 ปี วัดป่าสำราญนิวาส
    10. ครูบาอินตา (พระครูถาวรชัยวุฒิ) อายุ 97 ปี วัดห้วยไทร
    11. พระครูพิศาลธรรมนิเทศ (รองเจ้าคณะอำเภอ) วัดมหาวัน
    12. พระครูปัญญาธรรมวัฒน์ ครูบาอินทร อายุ 50 ปี วัดสันป่ายางหลวง
    13. ครูบาดวงจันทร์ จันทโร อายุ 89 ปี วัดป่าเส้า
    14. พระครูถาวรศิลคุณ ครูบาอินตา อายุ 94 ปี วัดวังทอง
    15. ครูบาสุข อายุ 79 ปี วัดป่าซางน้อย
    16. ครูบาจ๋อน จันทรสี อายุ 87 ปี วัดป่าตาล
    17. ครูบาศรีนวล นนทกุล อายุ 93 ปี วัดช้างค้ำ
    18. พระครูอภิรักษ์ วัดป่าสามขา
    19. ครูบาคำตั๋น อายุ 94 ปี วัดสันทรายหลวง
    20. พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป อายุ 68 ปี วัดอรัญญวิเวก
    21. ครูบาอิ่นคำ พระครูสันติยานุศาสตร์ อายุ 92 ปี วัดท้าวแท่นหลวง
    22. ครูบาหล้า วัดป่าลาย อายุ 92 ปี
    23. ครูบาจั่นต๊ะรังษ๊ วัดกู่เต้า
    24. ครูบาอิ่นคำ อายุ 83 วัดมหาวัน
    25. ครูบาบุญปั๋น ธมมปญโญ อายุ 94 ปี วัดรุ้งขุ้ม
    26. ครูบาคำ อายุ 66 ปี วัดธรรมชัย
    27. ครูบาดวงดี อายุ 95 ปี วัดท่าจำปี
    28. ครูบาผัด อายุ 76 ปี วัดศรีดอนมูล
    29. ครูบาน้อย อายุ 51 ปี วัดศรีดอนมูล
    30. หลวงปู่เหลือ อายุ 92 ปี วัดท่าไม้เหนือ
    31. หลวงพ่อจ้อย จันทสุวรรณโณ อายุ 88 ปี วัดศรีอุทุมพร
    32. หลวงปู่อุย พระครูนิพาทธรรมวัฒน์ อายุ 84 ปี วัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม
    33. หลวงปู่ท้าว อายุ 86 ปี สำนักวชิรกัลยาณ์
    34. หลวงปู่สมควร วิชชาวิสาโล อายุ 85 ปี วัดถือน้ำ
    35. หลวงพ่ออ้วน จรณะวุฑิโฒ อายุ 57 ปี วัดหนองกระโดน
    36. หลวงพ่อบุญนำ ชิตมาโร อายุ 73 ปี วัดนครสวรรค์
    37. หลวงปู่ต่อ (พระครูนิทัศนพลธรรม) อายุ 82 ปี วัดเขาแก้ว
    38. หลวงพ่อสะอาด (พระครูนิวิทฐมณีวงศ์) อายุ 58 ปี วัดเขาแก้ว
    39. หลวงพ่อประเทือง อิทวโร อายุ 63 ปี วัดหนองโพ
    40. หลวงพ่อ เศรียร สุธรรมโม อายุ 69 ปี วัดอินทราราม
    41. พระอาจารย์สมชาย วัดหลักเมืองพัฒนาราม
    42. หลวงปู่บ๊ก (สุวรรณ กัลยาณี) อายุ 92 ปี วัดหนองเนินพะยอม
    43. หลวงปู่ นะ ฐิตปัญโญ อายุ 85 ปี วัดปทุมวนาราม(หนองบัว)
    44. หลวงปู่ มหาโพธิ์ ญาณสังวโร อายุ 82 ปี วัดคลองมอญ
    45. หลวงปู่สำราญ อายุ 89 ปี วัดปากคลองมะขามเฒ่า
    46. หลวงปู่ตี๋ ญาณโสภโณ (พระครูอุทัย ธรรมกิจ) อายุ89 ปี
    47. พระเทพรัตนดิลก(ธ.) อายุ 73 ปี วัดเพชรวราราม
    48. พระราชพัชราภรณ์ (ม.)วัดมหาธาตุ อยุ 64 ปี วัดมหาธาตุ
    49. หลวงปู่ปิ่น (พระครูพัชรธรรมโสภณ) อายุ 70 ปี วัดหนองใฝ่
    50. หลวงพ่อเวิน กัลป์ยาณธัมโม อายุ 74 ปี เจ้าคณะ
    51. หลวงพ่ออาคม อินทสโร อายุ 78 ปี วัดดาวนิมิตร
    52. หลวงพ่อศรีนวล สิริมังคโล อายุ 72 ปี วัดสว่างสามัคคี
    53.หลวงพ่อเปรื่อง ฐานังกะโร อายุ 70 ปี วัดสันติวัฒนา
    54. หลวงพ่อทอง จันทศิริ (พระครูสุวรรณวัยวุฒิ) อายุ 98 ปี วัดสามปลื้ม
    55. หลวงพ่อจืด นิมมโล อายุ 63 ปี สำนักโพธิเศรษฐี
    56. หลวงพ่อสมพงษ์ ธีระธัมโม อายุ 66 ปี วัดใหม่ปิ่นเกลียว
    57. หลวงพ่อรอด สิทธิกาโร อายุ 74 ปี วัดวังน้ำเขียว
    58. เจ้าคุณไวย์ อายุ 90 ปี วัดพนัญเชิง
    59. หลวงปู่ทิม อัตตสันโต (พระครูสังวรสมณกิจ) อายุ 88 ปี วัดพระขาว
    60. หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก (พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ) อายุ 81 ปี วัดตะโก
    61.พระครูสังฆรักษ์เฉลิม อายุ 76 ปี วัดพระญาติ
    62. หลวงพ่อเอียด อินทวังโส (พระครูสุนทรยติกิจ) อายุ 73 ปี วัดไผ่ล้อม
    63.หลวงพ่อเพิ่ม อัตตทีโป อายุ 75 ปี วัดป้อมแก้ว
    64. หลวงพ่อจำลอง เขมะนันโท อายุ 77 ปี วัดเจดีย์แดง
    65. หลวงพ่อ สวัสดิ์ โสตถิทัตโต อายุ 84 ปี วัดศาลาปูน
    66. หลวงพ่อพูน ฐิตสีโล อายุ 69 ปี วัดบ้านแพน
    67.หลวงพ่อวงศ์ อายุ 75 ปี เจ้าคณะตำบลเจ้าเจ็ดเขต 2
    68.หลวงพ่อหยด กิติสาโร อายุ 76 ปี วัดเจ้าเจ็ดใน
    69. หลวงพ่ออื้น จันทวรรณโณ อายุ 75 ปี วัดเจ้าเจ็ดนอก
    70. หลวงปู่ บุญนาค ฐานนาโค อายุ อายุ 87 ปี วัดหนองโป่ง
    71. หลวงพ่อเพี้ยน อัคคธัมโม อายุ 77 ปี วัดเกริ่นกฐิน
    72. หลวงปู่ถม ธัมมทีโป (พระครูธรรมโสภณ) อายุ 89 ปี วัดเชิงท่า
    73. หลวงพ่อสารันต์ จันทูปโม (พระครูจันทสิริธรา) อายุ 54 ปี
    74. หลวงพ่อหลิว กตปุญโญ อายุ 78 ปี วัดคุ้งเขาเขียว

    สุดยอดพระเครื่องแห่งกรุงรัตนโกสินทร์สร้างอย่างมากปีละครั้ง จากชนวนมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์และหาได้ยากยิ่งจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย นำมาบดสร้างเป็นองค์พระจนได้คำขวัญที่ว่ารูปแบบสวย มวลสารดี พิธีการเยี่ยม ประสบการณ์ยอด พระพุทธคุณสูงและได้ผ่านพิธีมหาพุทธาภิเษกจากพระคณาจารย์ชื่อดังมาแล้วหลายครั้งหลายหนจนเกิดอภินิหารย์ และมีประสบการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาแล้วอย่างมากมายทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศซึ่งเป็นพระเครื่องที่มีกรรมวิธีการสร้างอย่างวิจิตรพิสดารยิ่งนัก ยากที่จะมีใครมาปลอมแปลงให้เหมือนได้


    สภาพสวยใหม่กล่องเดิมๆ ไม่หักไม่ซ่อม พิมพ์คมชัดลึก เนื้อหามวลสารสุดยอดเยี่ยมพิธีใหญ่ พุทธคุณล้นฟ้าราคาเบาหวิว แนะนำให้เก็บกันนะครับเพื่อความเป็นศิริมงคล ตอนนี้เริ่มหายากแล้วครับลูกศิษย์เก็บกันหมด บอกกันไว้แล้วเดี๋ยวจะมาตามเก็บทีหลังกันนะครับ ไม่สดไม่ใหม่ไม่แท้คืนเต็มครับ แบ่งให้บูชา 809 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณwutchara0342 จองแล้วครับ)






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2018
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,170
    ค่าพลัง:
    +14,320


    $$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$




    532.สุดยอดคำเดียว(๒) พระปิดตานพเก้าแก้วสารพัดนึก

    อาจารย์เบิ้ม สุดยอดชนวนศักดิ์สิทธิ์และมหาพิธีมากกว่า 300 อาจารย์

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    image-537f_59410e2e-jpg.4184958.jpg image-cb9b_59410e2e-jpg.4184959.jpg
    พระปิดตานพเก้าแก้วสารพัดนึก อาจารย์เบิ้ม (คุณสุวัฒน์ พบร่มเย็น) ศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เนื้อนวโลหะเต็มสูตรผสมมหาชนวนศักดิ์สิทธิ์ ใต้ฐานตอก 2 โค้ด อุดผงวิเศษ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2534 จำนวนการสร้างทุกแบบรวมกัน ประมาณ 800องค์ (ฐานตัน,บรรจุกริ่ง,ฐานบรรจุผงวิเศษ) องค์จริงสวยคราบเบ้าน้ำทองเดิมๆ ชนวนโลหะเข้มขลังกว่าในรูปนะครับ พอดีผมถ่ายไม่ชัดเองกล้องไม่ยอมโฟกัสเฉยเลยครับ

    ประวัติการจัดสร้าง
    ก่อนหลวงปู่โต๊ะมรณภาพ มีชายหนุ่มหน้าตาหมดจดคอยตามรับใช้ใกล้ชิด ใช่เพียงอุปัฎฐากครูบาอาจารย์อย่างเดียว หากขอรับการถ่ายทอดวิทยาการด้านขลังสืบต่อจากหลวงปู่มากมายหลายหมวดวิชา แต่จบลงที่หลวงปู่สอนถึงการทำจิตอย่างเดียว จิตนี้เท่านั้นที่เป็นใหญ่ เป็นประธานสำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าใจไม่ปรากฏสมาธิธรรม ท่องบ่นคาถาร้อยจบ พันจบ หมื่นจบ มันก็ไม่ขลัง ให้น่าเชื่อว่าหนุ่มคนนี้ ‘ผ่าน’ จริง หลวงปู่จึงมอบเหล็กจารคู่บารมีที่ท่านใช้มาตลอดชีวิตให้ถึง 2 ด้าม นับเป็นมรดกที่ใคร ๆ ก็ไม่อาจได้ถ้าไม่แน่จริง…..อาจารย์สุวัฒน์ พบร่มเย็น…
    อาจารย์เบิ้มไม่เคยอวดว่าเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่โต๊ะ แต่เราพอใจจะกล่าวเอง แม้ไม่ยกตนว่าเชี่ยวชาญในเรื่องเวทย์ แต่เราก็พบเอง


    พิสูจน์ จากพุทธาภิเษกของหลวงพ่ออุตตมะทุกคราว ท่านผูกขาดอาจารย์เบิ้มเพียงผู้เดียว ทั้งคำนวณฤกษ์และบวงสรวงครูบาอาจารย์ ฤษี โยคี เทพ พรหม ทุกชั้นฟ้า ขาดอาจารย์เบิ้มไม่ได้เด็ดขาด คล้ายขาดอาจารย์แล้วจะเสกไม่ขลัง ถามหลวงพ่อ ท่านก็ตอบเรียบ ๆ
    “อาจารย์เบิ้มเชิญแล้วมาจริงๆ”
    คำประกาศของหลวงพ่ออุตตมะมหาเถระ วัย 93 ปี


    ปี พ.ศ. 2534 เป็นปีที่หลวงปู่พรหมา เขมจาโร วัดสวนหินฯ ภูกระเจียว เริ่มอุ่นเครื่องเรื่องชื่อเสียง ข่าวขลังของท่านแพร่กระจายไปในหมู่ผู้นิยมพระ ดังไฟลามทุ่งบนวัดที่แสนกันดารปราศจากไฟฟ้า และน้ำประปา แทบไม่มีแม้ศาลาให้สานุศิษย์อาศัยนอนพักหลบแดดฝนใด ๆ เมื่อยามบากบั่นขึ้นไปหาท่านประสาศิษย์ที่ดีมีกตเวทิตา อาจารย์เบิ้มจึงคิดทำพระถวายหลวงปู่พรหมา เพื่อสร้างเสนาสนะอย่างเป็นทางการ
    อาศัยที่อยู่กับหลวงปู่โต๊ะมา นาน และเรียนรู้วิทยาคุณกับท่านอาจารย์รอด สุขเจริญ ฆราวาสผู้ขลังสุดขีดในไสยเวทพุทธาคม ด้วยอาจารย์รอด เป็นศิษย์แท้ๆ ของพระครูวิมลคุณากร หรือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ทว่าท่านบวชอยู่กับหลวงปู่ศุขได้เพียง 30 พรรษา ก็จำต้องลาสิกขามาครองขาว หากยังเป็นพระอยู่คงไม่แคล้วดังสนั่น


    ชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์
    เมื่อมีครูดี การทำของก็ต้องทำให้ดี อาจารย์เบิ้มจึงเน้นเรื่องชนวนมวลสารมาก และไม่ต้องไปหาไกลเท่าใดนัก ค้น ๆ เอาในบ้านก็มากมาย เพราะเก็บสะสมไว้แต่หนุ่มแต่น้อย อาจารย์เคยบอกผมว่าไม่จดเรื่องชนวน เกรงคนจะหาว่าโม้ เชื่อก็เอา ไม่เชื่อก็อย่าเอาไป หากสุดท้ายอาจารย์ก็ใจอ่อน ยอมปรารภให้ฟังถึง ‘บางส่วน’ ของมวลสารดังนี้
    1. แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ) วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี กรุงเทพฯ
    2. แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์
    3. แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร


    และ จะไม่กล่าวถึงแผ่นยันต์ต่าง ๆ มากมายหลายร้อยแผ่นที่พระเถรานุเถระในสายอีสานอันเป็นศิษย์ของท่านพระ อาจารย์มั่นได้เมตตาลงให้ไว้แต่นานเน ทั้งยังพระยันต์เก่าเก็บจากพระคณาจารย์ทั่วประเทศอีกเป็นกุรุสโกดัง ถึงขนาดอาจารย์ออกปากว่า “เสร็จงานนี้บ้านโล่งไปเยอะ”
    ที่สำคัญยิ่ง คือ แผ่นทองแดงลงอักขระยันต์ และคาถาต่างๆ นับพันบท ซึ่งจารโดยมือของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร อิสีขลังผู้ชาญพระเวทย์แห่งลุ่มน้ำโขง ได้ลงไว้มีจำนวนทั้งสิ้น 1 ปิ๊บเต็ม ๆ ทองแดงบางอย่างกระดาษวางลงในปีบจนเต็ม มันจะมีกี่แผ่น? หลวงปู่พรหมาเสกปีบยันต์บน ‘คาย’ ในถ้ำอยู่นานมาก แล้วมอบให้ประสมกับชนวนพระกริ่งปวเรศ (ปี 2530) ซึ่งในหลวงเสด็จพระราชดำเนินเททองโดยพระหัตถ์เอง สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานพิธี, ชนวนพระกริ่งหลายรุ่นของสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่มีจำนวนพอสมควร มิใช่นิดหน่อยแล้วเขียนเอา , ชนวนพระกริ่งนเรศวร วังจันทน์, ชนวนพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง, ชนวนพระกริ่งปรโม ของหลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกเฌอ จ.ชลบุรี ชนวนพระกริ่งอรหัง ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่,ชนวน พระกริ่งพุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ , ชนวนพระกริ่งรุ่นต่าง ๆ ของหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ, ชนวนพระพุทธรูปเททองโดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.เชียงราย, ชนวนพระพุทธรูปเททองโดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา เรื่องชนวนถ้าต้องเขียนจริง ๆ อาจต้อง 5 เล่มจบ


    ยังมีเหรียญหลวงปู่แหวน สุจิณโณ, เหรียญหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ, เหรียญหลวงปู่สิม พุทธาจาโร, เหรียญหลวงปู่เกษม เขมโก, เหรียญหลวงพ่อแช่ม ฐานุสสโก แต่ละองค์นับร้อยเหรียญ ถ้ารวมพระคณาจารย์ต่าง ๆ ก็นับพันเหรียญ
    ยังปรากฏชนวนศักดิ์สิทธิ์อาถรรพ์ต่าง ๆ ที่ไม่อาจเปิดเผยที่มาได้ อาทิ พระเกศ และนิ้วพระหัตถ์ชำรุดของพระพุทธรูปที่สำคัญยิ่งองค์หนึ่งในประเทศไทย ตะกรุดชินตะกั่วโบราณ อายุ 200 ปี ตะปูสังขวานร เหล็กยอดเจดีย์ เหล็กยอดปราสาท โลหะธาตุวิเศษนานาที่เป็นทนสิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ในตัวเองถูกเชิญมาสู่เบ้าหลอมสร้างเป็นพระทั้ง 3 พิมพ์


    ที่สำคัญสุดยอดคือ พระ ยันต์บังคับทั้ง 108 ดวงและนะปถมัง 14 นะ อันเป็นสูตรโบราณในการเทพระสำคัญ ถูกจารลงในแผ่นทองคำบริสุทธิ์แท้จนครบตำรา มีน้ำหนักทั้งสิ้นถึง 50 บาท

    การเทพระวาระนี้ไม่มีโลหะเปล่าอันมิใช่ของวิเศษเจือปนลงไปให้เป็นที่ครหาเลย แม้แต่น้อย ชนวนน้ำหนักมากมายหลายสิบกิโล ถูกนำมาวางเรียงรายบนโต๊ะยาวปูผ้าขาว แล้วทำการบันทึกภาพพร้อมถ่ายวีดีโอเป็นหลักฐานก่อน ต่อเนื่องไปถึงการหลอมเป็นเนื้อเดียว แล้วเททอง

    องค์เททอง อาจารย์เบิ้มกำหนดที่ หลวงปู่ดี วัดสุวรรณการาม อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งหลวงปู่อาจไม่ปรากฏชื่อเสียงแพร่หลายนัก เพราะท่านเก็บตัว เนื่องจากอาพาธด้วยโรคตา โดย เหตุที่ท่านเป็นศิษย์มือซ้ายของ พระพุทธวิถีนายก (บุญ ขันธโชติ) วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งหลวงปู่บุญจะใช้ท่านจารคัมภีร์คัดลอกตำราต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ เพราะท่านมีลายมือในการเขียนขอมได้อย่างสวยงามยิ่ง กระทั่งหลวงปู่ดีอายุได้ราว 80 ปี สายตาท่านก็เริ่มเสื่อมเรื่อยมาจนมองไม่เห็นในที่สุด ท่านจึงงดรับนิมนต์ใดๆ และแขกเหรื่อท่านก็ไม่สะดวกรับ

    แม้ในวันที่ อาจารย์เบิ้มท่านไปกราบอาราธนา ศิษย์ท่านยังพูดอย่างหวังดีว่า อย่านิมนต์ให้ยากเลย เสียเวลาเปล่า ครั้นได้เข้ากราบและเล่าความ ท่านกลับแสดงความกระตือรือร้นที่จะไปสอบถามวันเวลา สถานที่เป็นอย่างดีแล้วก็รับนิมนต์การณ์นี้สร้างความประหลาดใจให้ศิษย์ของท่านยิ่งนัก ยิ่งหนักเข้าไปอีกเมื่อหลวงปู่บอกว่า “รอเขาอยู่นาน” เมื่อพระเถระผู้เฒ่า ชนมายุ 90 ปี ไปเททองให้ตามวันเวลากำหนดแล้ว ท่านพูดในพิธีว่า วันนี้ดีมาก เทพ พรหม ลงมาอนุโมทนากันมากของในพิธีนี้ดีจริงๆ แล้วท่านก็ลากลับวัดไป เพียงไม่ถึงเดือน ท่านก็มรณภาพ
    ดังคำที่ว่า “รอเขาอยู่”


    วาระพิธีพุทธาภิเษก ไม่ต่ำกว่า 30 พิธี ไม่ต่ำกว่า 300 พระอาจารย์
    อาจารย์เบิ้มได้นำพระทั้ง 3 พิมพ์ เข้าพุทธาภิเษกในวาระต่าง ๆ ไม่เคยหยุด ไม่ว่าจะเป็นวัดพระแก้วฯ, วัดสุทัศน์ฯ, วัดราชบพิตรฯ, วัดบวรนิเวศน์ฯ, วัดอินทารามฯ, เป็นต้น เฉพาะวัดที่กล่าวนามมาก็ไม่ต่ำกว่าวัดละ 5 พิธีเสก และพระทั้งหมดได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกมาทั่วประเทศ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 พิธี


    หากจะนับคณาจารย์ที่ปลุกเสกก็ไม่ต่ำกว่า 300 พระอาจารย์ และการนำไปอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว อาจารย์เบิ้มนำไปด้วยตนเอง จนคร้านจะไป เหตุที่พระนี้สร้างในปี พ.ศ. 2534 ครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษยังปรากฏอยู่มากมาย การนำเสกจึงเป็นไปอย่างสนุกใจคนทำ
    หลวงปู่เกษม เขมโก, หลวงปู่แช่ม ฐานุสโก, หลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ, หลวงปู่พรหมา เขมจาโร, หลวงปู่คำพัน โฆษะปัญโญ ดูจะเป็นองค์เสกชุดนี้อย่างบ่อยที่สุด นอกนั้นทั่วประเทศอาจารย์บอกผมอย่างเหนื่อยใจจะอธิบายว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2534-2538 ชอบใจหลวงพ่ออะไร นับถือใครเอ่ยชื่อมาเลย…เอ่ยมาเถอะ… เสกแล้วทั้งนั้น!

    ให้บอกว่าใครบ้างที่เสกมันเหนื่อย พูดชื่อออกมาแล้วให้บอกว่าองค์นี้ไม่ได้เสกมันง่ายกว่า อหังการดีไหม?
    **** ซึ่งแต่ละพิธีมีครูบาอาจารย์ในสายกรรมฐานมานั่งปรก อาทิ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร, หลวงปู่ศรี มหาวีโร, หลวงพ่อพุธ ฐานิโย, หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ฯลฯ

    ผมเชื่ออาจารย์เบิ้ม เพราะพระนี้เคยแสดงอภินิหารให้คนใกล้ตัวผมได้ประจักษ์มาแล้วมากราย ผมเองก็ทำตลับใส่ปู่ฤษีแก้วสารพัดนึก แขวนคออยู่เป็นประจำ ด้วยท่านเป็นพรหมาฤษีที่ทรงฤทธานุภาพสูงสุดในหมู่ฤษีทั้งปวง การครองผ้าขาวอย่างโยคีแสดงถึงพรตแห่งพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ ไม่อาจครองหนังเสือเยี่ยงฤษีทั่วไป และโดยบุญบารมีที่ไพศาล จึงปรากฏดวงแก้วสารพัดนึกเป็นของคู่บารมีเฉกเช่นหลวงปู่ทวด วัดช้างให้

    พระทุกแบบ พิมพ์ปิดตาหายากที่สุด ยากจนไม่มีรูปจะลงให้ดู ขอเป็นโอกาสต่อไปแล้วกัน คงมีเพียงปิดตานพเก้ากับปู่ฤษี พระทุกเนื้อเป็นนวโลหะแท้กลับดำ


    เกร็ดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเททองหล่อ
    เมื่อเททองเสร็จกำลังรอให้โลหะเย็นตัวเพื่อทุบเบ้า ตรวจนับพระ ได้มีคณะบุคคลหนึ่งเข้ามาในโรงหล่อ เพื่อประกอบพิธีเททองเช่นกัน บุรุษอาวุโสในกลุ่มนึกอย่างไรไม่ทราบตรงเข้ามาขอดูพระบางช่อที่ทุบเบ้าออก แล้ว ครั้นจับสัมผัสเข้าก็สะดุ้งสุดตัวเรียกร้องให้พระภิกษุวัยกลางคนมาพิจารณา
    เมื่อพระรูปนั้นถือท่านก็หลับตาลงอย่างตั้งใจ ทำอาการดุจตรวจสอบอะไรบางอย่าง แล้วลืมตาอย่างตื่นเต้น พลางว่า “นี่พระอะไรศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ อาตมาขอชนวนไปหล่อพระบ้างได้ไหม” อาจารย์เบิ้มเรียนตอบว่า ยังไม่อาจถวายได้ เพราะยังไม่ได้ตัดออกจากช่อ และยังไม่ได้นับจำนวน ท่านจึงถามว่า พระนี้ขอบูชาไปบ้างได้ไหม อาจารย์ว่า ยังไม่ได้ปลุกเสกเลย ท่านสวนตูม พระนี้ดีอยู่แล้วไม่ต้องทำพิธีอะไร แขวนได้เลย กลุ่มบุคคลนั้น จึงขออนุญาตเดินเก็บเศษทองที่หล่นอยู่รอบๆ เบ้าไปแทน.เมื่อสอบถามภายหลังจึงทราบว่า คณะนั้นมาเพื่อเทหล่อรูปเหมือนบูชาของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา ถ้าอย่างนั้นผมขอเดาว่าบุรุษภูมิฐานท่านนั้นคงเป็นคุณหมอเสรี วรรณไกรโรจน์ ศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อพุธ และพระเถระรูปนั้นต้องเป็นท่านพระอาจารย์ชู วัดเขากะป่อม อ.เมือง จ.ชลบุรี ไม่สงสัย เพราะท่านอาจารย์ชูรูปนี้ สามารถสัมผัสพลังพระเครื่องได้แม่นยำน่ามหัศจรรย์ แม้หลวงพ่อพุธก็ยอมรับในข้อนี้ และคุณหมอเสรีเองก็เป็นศิษย์ท่านอาจารย์ชูที่ได้รับการถ่ายทอดวิชามาด้วย เช่นกัน

    ขอขอบพระคุณข้อมูล
    : http://www.navaraht.com/forum/forum15/topic387.html :
    https://prasaksit.wordpress.com/2008/11/16/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A4%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B8%81/


    สภาพสวยเดิมๆ พิมพ์คมโค้ดชัดลึก สุดยอดชนวนศักดิ์สอทธิ์และพิธี ดีนอกดีใน องค์จริงสวยคราบเบ้าน้ำทองเดิมๆ ชนวนโลหะเข้มขลังกว่าในรูปนะครับ พอดีผมถ่ายไม่ชัดเองกล้องไม่ยอมโฟกัสเฉยเลยครับ พุทธคุณหายห่วงทุกท่านต่างรู้กันดีว่าพิธีนี้สุดยอดขนาดไหน แบ่งให้บูชา 2,555 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2017
  20. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,572
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     

แชร์หน้านี้

Loading...