น่าเป็นห่วง หลักสูตรพุทธศาสนา จากบางอาจารย์ สอนตายแล้วสูญ ( หลักสูตร ม.1- ม.6)

คลั่งวิทยาศาสตร์มากเกินไปแล้ว
พวกนัวิทยาศาสตร์ ไว้หนวด ผมหย๋อง ดื่มไวน์ ใส่ชุดแลป
อีกหน่อย คงให้พระใส่ชุดแล็ป กันแล้ว

 

ขอเสนอแนะ ไอเดีย เสียดสี(ตีเป่า) ว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อกระทู้ว่า


น่าเป็นห่วง
เตชปญฺโญ ภิกขุ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1046374", true); </SCRIPT>
จากการสอนตายแล้วสูญ ( หลักสูตร ปัจจัยตังเมื่อสูญฯ)

 

ข้อมูลผิดพลาดขออภัยด้วยครับ คัดลอกมาจากอีกเวปหนึ่ง เฮ้อออ...

 

คนละองค์กันนะน่ะ

 

ขออภัยด้วยครับ ข้อมูลที่ได้นำมาจากอีกเวปหนึ่ง โทษทีครับ

(ขอกลับไปหาเวปนั่นก่อน)

 

ตอบช้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

พระผู้มีพระภาคทรงตรัสตอบว่า กาลามชน ท่านควรสนเท่ห์ ควรสงสัย
ความสงสัยของท่านเกิดขึ้นแล้วในที่ควรสงสัย
กาลามชน ท่านอย่าได้เชื่อถือโดยเหตุเหล่านี้
โดยฟังตามๆกันมา
โดยเข้าใจว่าเป็นของเก่าสืบๆกันมา
โดยตื่นข่าว
โดยอ้างตำรา
โดยเหตุนึกเดาเอา
โดยใช้คาดคะเน
โดยความตรึกตามอาการ
โดยชอบใจว่าต้องกันกับลัทธิของตน
โดยเชื่อว่าผู้พูดควรเชื่อถือได้
โดยนับถือว่าสมณะผู้นี้เป็นครูของเรา

-----------------------------------------

******หลักการก็มีอยู่แล้ว ทำไมไม่นำมาใช้???***

****แม้ในพระไตรปิฎกเองก็มีเรื่องที่พระพุทธเจ้าไม่ยอมรับเรื่องวิญญาณไปเกิดเพื่อรับผลกรรม พระที่เชื่อเรื่องว่ามีวิญญาณไปเกิดใหม่ได้นั้น ไม่จัดเป็นพระสงฆ์ในพุทธศาสนา****

***** www.whatami.net เวบไซต์สำหรับอัจฉริยะชนเท่านั้น คนโง่ห้ามเข้า***

 

ท่านกล่าวผิดรึป่าวค่ะ ยิ้มเชื่อว่าทุก ๆ ท่านที่มากล่าวทัดทานท่านเบื้องต้นก็มีความประสงค์ดีทุกท่าน และเป็นผู้ปฏิบัติจนพบและเห็นมามากบ้างน้อยบ้างเช่นกัน....ท่านได้โปรดพิจารณาตนเองให้มาก ๆ เข้าเถิด(tm-love)

 

ตอบช้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

****แม้ในพระไตรปิฎกเองก็มีเรื่องที่พระพุทธเจ้าไม่ยอมรับเรื่องวิญญาณไปเกิดเพื่อรับผลกรรม พระที่เชื่อเรื่องว่ามีวิญญาณไปเกิดใหม่ได้นั้น ไม่จัดเป็นพระสงฆ์ในพุทธศาสนา****

***** www.whatami.net เวบไซต์สำหรับอัจฉริยะชนเท่านั้น (คนโง่ห้ามเข้า)***

 

ท่านค่ะ ถ้าตายแล้วสูญอย่างที่ท่านคิด...พรหม เทวดา ผี คงไม่มีช่ายไหมค่ะ

เรียนถามว่าท่านบวชมานานแค่ไหนแล้วค่ะ อายุท่านประมาณเท่าไหร่ และท่านจำ(พัก)อยู่ที่วัดใด อยู่แห่งหนตำบลใด

 

เท่าที่ทราบมีแค่นี้ครับ ส่วนข้อมูลอื่นๆ ท่านคงจะไม่บอก
เตชปญฺโญ ภิกขุ
อาศรมพุทธบุตร เกาะสีชัง ชลบุรี
อายุ = unknow
บวชมานานแค่ไหน = unknow

 

ตอบช้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

ท่านค่ะ ถ้าตายแล้วสูญอย่างที่ท่านคิด...พรหม เทวดา ผี คงไม่มีช่ายไหมค่ะ
-------------
***อาตมาสอนว่า "มันสูญมาตั้งแต่ยังไม่ตาย" ไม่เคยบอกว่าตายแล้วถึงค่อยสูญ กรุณาเข้าใจให้ถูกด้วย ****

***แม้แต่ตัวเองในปัจจับันยังไม่มีจริง(มีแต่มายา) แล้วพวก พรหม เทวดา ผี เป็นต้น จักมีมาแต่ที่ไหน?**
--------------------------------------

เรียนถามว่าท่านบวชมานานแค่ไหนแล้วค่ะ อายุท่านประมาณเท่าไหร่ และท่านจำ(พัก)อยู่ที่วัดใด อยู่แห่งหนตำบลใด
--------------------------

***ทุกสิ่งเป็นแค่มายา จะสนใจไปทำไม คุณแม่ลักยิ้มคงยึดติดในตัวตนบุคคลมาก เลยคิดแต่จะหาตัวตนมาชอบหรือชังตามอำนาจกิเลสแท่นั้น***

***อาตมาอาจจะไม่มีตัวตนจริงๆมาให้ใครชอบหรือชังก็ได้***

***อาตมาอาจจะเป็นแค่นามสมมติขึ้นมาหลอกคนโง่เล่นก็ได้***

***อาตมาอาจจะเป็นแค่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่แสนอัจฉริยะ(ไม่มีตัวตนจริง) ที่มาสอนคนฉลาดให้บรรลุธรรมก็ได้(ด่าอาตมาก็เท่ากับด่าเครื่องคอมพิวเตอร์)***

***ปล่อยวางความยึดถือทั้งหลายเสีย แล้วจะเบาสบายไม่เป็นทุกข์***

***ปล่อยให้ธรรมชาติทั้งหลายไหลไปตามเหตุปัจจัยของมัน ถ้าไปยึดก็เป็นทุกข์ไปเปล่าๆด้วยความโง่***

*** www.whatami.net เวบไซต์สำหรับอัจฉริยะชนเท่านั้น (คนโง่ห้ามเข้า)***

 

โปรดบอกด้วยว่า พระไตรปิฎก เล่มไหน หน้าไหน ปฏิเสธ วิญญาณ การเกิดใหม่ เพื่อใช้ผลกรรม หน้าไหน วรรคไหน ไม่ทราบ

ทำไมท่านถึงเชื่อหน้านั้น

พระสูตร กว่า 500 เรื่องสอนเรื่องกรรม และการเวียนว่ายรับผลกรรมทั้งนั้น ไม่เชื่อแฮะ

อย่ากล่าวตู่พระไตรปิฎกพล่อยๆ โดยไม่ปฏิบัติสิครับ
ฌาน 4 น่ะท่านทำได้ยัง ในนั้นไม่มีอุปาทาน เป็นการข่มกิเลสไว้หมด
ปัญญาบริสุทธิ์จึงเกิด ไม่ใช่เอาขนิกสมาธิ มาวิจัยพระไตรปิฎกอันสูงส่ง
แล้วมาทำลายลงด้วยความเห็นของคุณ

 

จุดประสงค์เดิมท่านคืออะไร ... ท่านต้องการอบรมผู้มีศรัทธาต่อพระศาสนาพุทธให้ไปสู่ความสุข มิต้องแบกทุกข์มิใช่หรือ....แต่ตอนนี้ท่านกำลังสอนผิดทางแห่งพระพุทธศาสนา พระท่านสอนว่า นิพพานนั้นสูญ ...สูญด้วยกิเลสตัณหาทุกประการ มีแต่ความว่างเปล่าของกิเลสทั้งปวง

และกำลังนำทางที่ผิดมาสู่ ลูกของยิ้ม ปีนี้เขาจะเข้า ม.1 ปีหน้าก็คนเล็กอีกคน ขนาดลูกของยิ้มเขายังรู้เล๊ยว่าสิ่งที่ยิ้มบอกนั้นมีจริง ทั้งที่เขาไม่เคยศึกษาธรรมะ แต่เขารู้และเห็นด้วยการสงเคราะห์และจิตอันบริสุทธิ์


แล้วท่านบอกว่าอย่าได้ถือตัวถือตน...จะมีความทุกข์....แต่นี้ท่านกำลังสร้างทุกข์ให้ยิ้มโดยตรงเพราะการถือตัวถือตนของท่าน ท่านบิดเบือนคำสอนพุทธศาสนา ทำไมท่านไม่ลองพิจารณาตนเองบ้างหละ หรือตั้งตนเองเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ไปเล๊ย คำสอนใหม่เสีย ผุ้ใดศรัทธาท่านก็ตามกันไป


ท่านบอกว่าท่านสอนถูก แล้วทำไมไม่กล้าแจงสถานที่อยู่ให้ชัดเจน....แล้วชื่อจริงของท่านหละใช่ด้วยรึป่าว เพราะวันก่อนไปอ่านเจอหนังสือเล่มหนึ่ง เขียนคล้ายกับของท่านเลยแระ....น่าหัวเราะ

 

ยิ้มว่าท่านลองจุดธูปกราบพระประธานในโบสถ์ว่า ท่านได้พบว่าคำสอนของพระพุทธองค์เป็นเช่นนี้ เชื่อว่าพรหมฯ เทวดา นางฟ้า ผี ไม่มีจริง เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ หากมีจริง ขอโปรดสงเคราะห์แสดงตนให้เป็นที่ประจักษ์

แล้วนำไปปักษ์หน้าอุโบสถกลางแจ้งเล๊ยดีไหมค่ะ หรือจะไปนั่งสงบจิตในกลางป่าช้า ปักไปเรื่อย ๆ สักวันท่านคงเมตตาสงสารบ้างหละนะ

 

หลวงปู่สุภัททะที่เป็นปัจฉิมสาวกไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าตอนก่อนจะปรินิพพาน และบรรลุอรหัตตผลในคืนนั้น

แล้วท่านจะวาร์ปไปหาหลวงปู่พระมหากัสสปเพื่อเดินทางไปถวายพระเพลิงอีกรอบทำไมละกั๊บ แหม่

เรียงเหตุการณ์ให้ดูก็ด้ะ
1. พระพุทธเจ้าเดินทางไปกุสินารา มีหลวงปู่พระอานนท์ติดตาม
2. ถึงกุสินารา คืนก่อนปรินิพพาน สุภัททะปริพาชกมาเข้าเฝ้า บวชและฝึกจนบรรลุอรหัตตผลในคืนนั้นถวายเป็นพุทธบูชา
3. ก่อนปรินิพพาน พระพุทธองค์เดินฌาณสมาบัติ๘โดยอนุโลมและปฏิโลม มีหลวงปู่พระอนุรุทธะอยู่เป็นพยานด้วย
4. หลังจากนั้น7วัน หลวงปู่พระมหากัสสปะทราบข่าว จึงเดินทางไปถวายพระเพลิง โดยมีศิษย์ชื่อพระสุภัททะติดตามด้วย

 

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๑


[๒๕๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัมมาทิฏฐิที่ยังเป็นสาสวะ เป็น

ส่วนแห่งบุญ ให้ผลแก่ขันธ์ เป็นไฉน ? คือ ความเห็นดังนี้ว่า ทานที่ให้

แล้วมีผล ๑ ยัญที่บูชาแล้วมีผล ๑ การสังเวยที่บวงสรวงแล้วมีผล ๑

ผลวิบากของกรรมที่ทำดีทำชั่วแล้วมีอยู่ ๑ โลกนี้มี ๑ โลกหน้ามี ๑

มารดามี ๑ บิดามี ๑ สัตว์ที่เป็นอุปปาติกะมี ๑ สมณพราหมณ์ทั้งหลาย

ผู้ดำเนินไปชอบ ปฏิบัติชอบ ซึ่งประกาศโลกนี้โลกหน้าให้แจ่มแจ้ง

เพราะรู้ยิ่งด้วยตนเองในโลกมีอยู่ ๑

 

6 ข้อนี้ คุณทำทั้งหมด
ยังมีหน้ามาว่าคนอื่นโง่
ตัวเองอัจฉริยะเลิศที่สุดในโลก

ส่วนผมได้พิสูจน์แล้ว เห็นจริงๆ
จึงรู้ว่าตัวเองเป็นเด็กน้อย เดินตามผู้ใหญ่ หมาไม่กัด

พระพุทธศาสนา ไม่ได้งมงาย
ผมท้าเลยว่า วิทยาศาสตร์ต่างหากที่งมงาย
งมงาย แปลว่า หลงเชื่อโดยโง่เง่า
ดูสิครับว่า นักวิทยาศาสตร์คนไหน เป็นพระอรหันต์บ้าง
ตัดเพลิงกิเลส เพลิงทุกข์สิ้นเชิงได้บ้าง

พระพุทธศาสนา ไม่ใช่วิทยาศาสตร์
แต่เป็นพระธรรมศาสน์ รื้อขนสัตว์ออกจากความโง่งม
ศาสตร์ใดในโลกนี้ ล้วนเป็นอวิชชา แปลว่าวิชางมงาย
เว้นไว้แต่พระพุทธศาสนา แท้จริงเท่านั้น เป็นวิชชาล้วนๆ ไม่มีทางงมงาย

วิทยาศาสตร์ มันก็อวิชชาทั้งแท่ง สุดท้ายพวกพ่อคุณนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย ก็หาต้น หาปลายไม่เจอ ก็ยกให้พระเจ้าทั้งนั้น นี่คือปรัชญาตะวันตกทั้งหมด ล้วนลงที่พระเจ้า รวมทั้งวิทยาศาสตร์ด้วย

ส่วนพระพุทธธรรมนั้น สูงส่งกว่าวิทยาศาสตร์มากมายล้นพ้น
จึงขอเตือนท่านทั้งหลาย อย่าบ้าตามวิทยาศาสตร์มาก
ธรรมขอพระพุทธองค์ พิสูจนได้ในกาลทุกเมื่อ
ย่อมให้ผลแก่ผู้ปฏิบัติ ตามสมควรแก่การปฏิบัติ
และขอให้ปฏิบัติตามอย่างโง่โง่ไปก่อน อย่ารีบร้อนเก่งเกินครู

 

ตอบช้อข้องใจโดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

ความอุ่นใจของคนทำความดี

คนที่ยังยึดติดอยู่ในคำสอนระดับศีลธรรม และไม่มีสติปัญญาเพียงพอที่จะมาเข้าใจเรื่องอนัตตาหรือเรื่องว่าไม่มีตัวตนไปเกิดใหม่เพื่อรับผลกรรมนี้ เมื่อได้พบคำสอนว่า

 

สำหรับบุคคลอัจฉริยะ

คนตาบอดคนหนึ่งกำลังตั้งใจสอนเรื่องสี

คนไม่มีดวงตาเห็นธรรมกำลังตั้งใจสอนคำสอนของคนมีดวงตาเห็นธรรม โดยไม่รู้ว่าสภาวะดวงตาธรรมเห็นธรรมต้องมีปัจจัยอะไรบ้าง

นักเรียนที่รับคำสอนมีทั้ง กรรมกร ชาวนา คนตัดเสื้อ คนขายอาหาร เจ้าของกิจการ นักบวช นักเรียน นักศึกษา เด็กวัยรุ่น โจร นักเลง อันธพาล นักการเมือง ข้าราชการ นักคอรัปชั่น เป็นต้น แต่ละคนเข้าใจคำสอนนี้ตามพื้นฐานของตัวเอง ตีความเข้าข้างตัวเอง เอาคำสอนระดับโลกุตระมารองรับพฤติกรรมระดับปุถุชนของตัวเอง ท่านเห็นผลกระทบบ้างไหม

คำสอนระดับโลกุตระ เหมาะสำหรับบุคคลที่มีดวงตาเห็นธรรม (อริยะบุคคล ตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป เพราะท่านเหล่านั้นรู้เห็นธรรม บาป บุญ แจ้งแก่ใจ)ไม่ใช่อัจฉิยะบุคคลปุถุชน ไม่ใช่ระดับปุถุชน (อย่างข้าพเจ้า) ไม่ใช่บุคคลทั่วไปและไม่เหมาะกับประเทศที่มีอัจฉริยะแบบศรีธนนชัย

 

เห็นด้วยกับคุณสโนว์ ครับ เห็นด้วยอย่างมาก ถ้าพวกเราไม่ทำแล้วใครจะทำ หรือจะคอย สนช. มาแก้ อิอิ