*วัตถุมงคล เริ่มหน้า66*พระกรุ,ลป.สรวง เทวดาเล่นดิน,ลพ.ฤาษี,ลพ.หวล และอื่นๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 25 มีนาคม 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่37 พระสมเด็จ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
    พระพิมพ์สมเด็จ ของ พระเดชพระคุณเจ้า หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู จัดสร้างถวายโดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์ อวย เกศสิงห์ นายแพทย์ผู้ถวายการรักษา และรับใช้ใกล้ชิด หลวงปู่ขาวท่าน โดยคุณหมออวย ท่านจัดสร้างพระผงพิมพ์สมเด็จถวาย หลวงปู่ขาว ท่านเมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกให้ในปี พ.ศ.2509 โดยประมาณ นอกจากนั้น พระผงพิมพ์สมเด็จรุ่นนี้ ประกอบไปด้วยสุดยอดมวลสารมากๆ รุ่นหนึ่ง ที่น่าบูชา และ สะสม นั่นคือ
    1 ผงแตกหักชำรุด พระสมเด็จบางขุนพรหมฯ ที่เปิดกรุอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ.2500 โดยคุณหมออวยได้รับมา ๑ ถุงใหญ่ และ นำมาใส่ในเนื้อพระรุ่นนี้ทุกองค์

    2. ผงพระกรุวัดสามปลื้ม

    3 ผงพระกรุวัดเงินคลองเตย

    4 เส้นเกศา และ ชานหมาก ของ หลวงปู่ขาว ที่เมตตามอบให้

    ดังนั้นพระพิมพ์สมเด็จ หลวงปู่ขาว รุ่นคุณหมออวย จึงเปรียบเสมือน พระสมเด็จฯ บางขุนพรหม แห่งแดนอิสาน อย่างแท้จริงๆ

    คุณ ลานเปล่า นิมนต์ครับ
    IMG_20180331_104236.jpg
    IMG_20180331_104226.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  3. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +3,290
    ได้รับพัสดุเรียบร้อยแล้วครับ
    ขอบคุณครับ
     
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  5. ลานเปล่า

    ลานเปล่า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2017
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +18
    รบกวนจองรายการ37เพิ่มนะครับ
    ขอบคุณครับ
     
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  7. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่38 เหรียญระฆังสร้างเจดีย์ หลวงพ่อผาง ปี2519
    หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต ตำบลนางาม อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น นามเดิมของท่านชื่อ ผาง ครองยุติ เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2445 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 2 ค่ำ เดือนเก้า ปีขาล ที่บ้านกุดเกษียร ตำลบกุดเกษียร อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี

    โยมบิดาชื่อ ทัน โยมมารดาชื่อ บัพพา ครองยุติ มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 3 คน หลวงปู่เป็นคนสุดท้อง โยมบิดาและมารดามีอาชีพทำนาเป็นหลัก

    เมื่อหลวงปู่มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อออกพรรษาจึงได้ลาสิกขาจากแล้วก็ได้สมรสกับ นางจันดี ตามประเพณีโดยไม่มีบุตรสืบสกุล จึงได้ขอบุตรของญาติมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมชื่อ นางบุญปราง

    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
    ส่วนหลวงปู่ได้เข้าอุปสมบทในฝ่ายมหานิกายที่วัดบ้านกุดเกษียร อำเภอเขื่อนใน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีท่านพระครูศรี (วัดคูขาด) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "จิตฺตคุตฺโต"

    ได้เข้าศึกษาอบรมพระกรรมฐานอยู่ในสำนักวัดป่าวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี กับพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม-(เจ้าคุณพระญาณวิศิษฏ์) และพระอาจารย์มหาปิ่น ปญฺญาพโล ต่อมาหลวงปู่จึงได้รับการญัตติเป็นธรรมยุต ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2488 โดยมีพระมหาอ่อน เจ้าคณะอำเภอเขื่องในเป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาทรายเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาจันทร์เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    เมื่อหลวงปู่ผางได้รับการญัตติเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุติกนิกายแล้ว ท่านก็ยังเข้ารับการอบรมพระกรรมฐานอยู่ในสำนักท่านพระอาจารย์สิงห์ต่อไปอีกเป็นเวลาอันสมควรแล้วจึงได้ออกปฏิบัติพระธุดงค์กรรมฐานไปวิเวกโดยลำพัง ต่อมาจึงได้พบกับพระอาจารย์มั่น ภูมิทตฺโต เกิดความเลื่อมใสได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และได้เข้าอบรมอยู่กับพระอาจารย์มั่น ที่วัดป่าบ้านเผือกนาใน ในปี พ.ศ. 2492 หลวงปู่ผางได้ธุดงค์มายังวัดอุดมคงคาคีรีเขต อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น หลวงปู่ผางเป็นผู้มีความสามารถในการพัฒนาทั้งทางด้านวัตถุและทางด้านจิตใจ หลวงปู่ผางสั่งสอนชาวบ้านให้เลิกนับถือผีหันมานับถือพระรัตนตรัย ท่านอยู่จำพรรษาที่นี่จนตลอดชีวิตของท่าน ได้ละทิ้งขันธ์ไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2525

    ธรรมโอวาท
    หลวงปู่ จิตฺตคุตฺโต เป็นพระนักปฏิบัติที่มั่นคงอดทนเป็นเลิศรูปหนึ่ง ชองทำมากกว่าพูด บทโอวาทเทศนาสั่งสอนต่างๆ จึงไม่ค่อยมี ท่านอุดมคติอยู่ว่า "มีชื่อบ่อยากให้ปรากฏมียศบ่อยากให้ลือชา"

    ศีลข้อห้าเป็นข้อที่หลวงปู่ย้ำเน้นตลอดมา หลวงปู่มักจะให้โอวาทให้พรว่า "อย่าสิเอาพระรัตนตรัยไปกินเหล้า เด้อ" "ให้สำบายๆ เด้อ" "ให้อยู่ดีมีแฮง เด้อ"

    วัตถุมงคล
    ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ อนุญาตให้จัดสร้างและได้อธิษฐานจิตเหรียญที่ระลึกในงานสร้างพระเจดีย์ วัดพระธาตุหนองบัว จ.อุบลราชธานี ออกที่วัดหนองบัว

    ปิดครับ
    IMG_20180121_205719.jpg
    IMG_20180121_205657.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2019
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่39 พระใบโพธิ์ตัดปีก เนื้อเกสร หลวงพ่อลีวัดอโศการาม
    พระพิมพ์ที่ทำแบบใบโพธินี้ เรียกว่า "พระโพธิจักร" ทำเป็นพระพุทธรูปปางแสดงพระธรรมจักร ประดิษฐ์อยู่ในใบโพธิ ต่อมาเนื่องจากเหตุบางประการ ท่านจึงทำเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ประดิษฐานอยู่ในใบโพธิทำนองเดียวกัน เหตุที่เปลี่ยนมาเป็นพระปางสมาธินั้น ท่านกล่าวไว้ในประวัติของท่านว่า "วันหนึ่งเกิดนิมิตแปลกประหลาด คืนวันหนึ่งเงียบสงัดกำลังนั่งพิมพ์พระพุทธรูปอยู่ มีพระบรมธาตุองค์หนึ่งได้เสด็จมาปาฏิหารย์มาอยู่บนเตียงนอน มีลักษณะคล้ายรูปพระใบโพธิที่กำลังพิมพ์อยู่ แต่พระใบโพธิ์ที่พิมพ์อยู่เป็นแบบพระแสดงธรรมจักร คือยกพระหัตถ์ ๒ ข้างเป็นแบบแสดงพระธรรมเทศนา จึงได้ตั้งชื่อพระพิมพ์นี้ว่า "พระโพธิจักร"

    ปิดครับ
    IMG_20180122_212217.jpg
    IMG_20180122_212156.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2019
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่40 เหรียญรุ่น2 หันข้างหลังลายเซ็นต์ หลวงพ่อลี วัดอโศการาม สมุทรปราการ ทองแดงกะไหล่ทอง ปี21
    หลวงพ่อลี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ท่านพ่อลี" แห่งวัดอโศการาม ศิษย์สายวิปัสสนากรรมฐานอันดับต้นๆ ของ "พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต" ผู้ริเริ่มและสร้าง"วัดอโศการาม" จนเจริญรุ่งเรืองและมีชื่อเสียงมาจวบถึงปัจจุบัน เป็นที่เคารพศรัทธาของลูกศิษย์ลูกหาและสาธุชนทั่วไป

    แม้แต่ จอมพลป.พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ยังมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์

    หลวงพ่อลี ธัมมธโร เป็นชาวบ้านหนองสองห้อง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2449

    เมื่ออายุได้ 12 ปี จึงเริ่มเรียนหนังสือไทย แต่มีสิ่งหนึ่งในความคิดอยู่ตลอดคืออยากบวช

    จนเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงสมปรารถนาได้อุปสมบทในปี พ.ศ.2468 สังกัดมหานิกาย

    หลวงพ่อลีได้มีโอกาสพบและฟังเทศน์จากพระอาจารย์บท ศิษย์สายพระอาจารย์มั่น ทั้งเห็นถึงปฏิปทาและการปฏิบัติสังฆกิจต่างๆ จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา ตัดสินใจออกธุดงค์ติดตามพระอาจารย์บทเพื่อไปพบพระอาจารย์มั่น ซึ่งขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดบูรพา จ.อุบลราชธานี

    ท่านได้รับการแนะนำสั่งสอนจากพระอาจารย์มั่นเพียงสั้นๆ ว่า "คำว่า พุทโธ นี้ คือความพิเศษ เป็นดวงแก้วแห่งธรรม" อันเป็นอุบายเบื้องต้นในการปฏิบัติกรรมฐาน นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาเพิ่มเติมจาก พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม และ พระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล ที่บ้านท่าวังหิน อันเป็นสถานที่เงียบสงบเหมาะแก่การเจริญกรรมฐาน

    หลวงพ่อลีพากเพียรปฏิบัติธรรมและวิปัสสนากรรมฐาน จนปี พ.ศ.2471 ท่านจึงได้แปรญัตติจากมหานิกายเป็นธรรมยุติกนิกาย โดยพระอาจารย์มั่นเป็นผู้บรรพชาให้เป็นสามเณร และพระปัญญาพิศาลเถระ (หนู) แห่งวัดสระปทุม เป็นพระอุปัชฌาย์

    จากนั้นออกธุดงค์กับพระอาจารย์มั่นเรื่อยมา จนพระอาจารย์ให้ท่านออกธุดงค์โดยลำพัง จึงออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงเขมร พม่า และอินเดีย จนในที่สุดมาจำพรรษาที่ "สำนักสงฆ์แม่ชีขาว" จ.สมุทรปราการ

    ณ สถานที่นี้เอง หลวงพ่อลีได้เริ่มก่อตั้งสำนักสงฆ์ที่เน้นวัตรปฏิบัติในทางธุดงควัตร อาจสืบเนื่องจากท่านได้นิมิตว่าเป็นบริเวณ ที่บรรจุพระบรมธาตุ และการให้ชื่อวัดว่า"วัดอโศการาม" นั้น เพราะประสงค์จะให้เป็นอนุสรณ์ระลึกถึงคุณ "พระเจ้าอโศกมหาราช" กษัตริย์ของอินเดียที่ได้เผยแผ่พระพุทธศาสนามายังแถบเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย ได้ก่อสร้างรูปเหมือนพระเจ้าอโศกมหาราช และสร้างเสนาสนะต่างๆ จนพัฒนาเป็น "วัดอโศการาม"

    นับเป็นพระสุปฏิปันโนผู้ประพฤติดีประพฤติชอบ เป็นพระเกจิสายกรรมฐานที่เคร่งครัด และทรงอภิญญา เป็นที่เลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั่วหล้า สมณศักดิ์สุดท้าย ในปี พ.ศ.2500 ได้รับพระราชทานเป็น พระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสุทธิธรรมรังสี คัมภีรเมธาจารย์

    มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2504 สิริอายุ 55 ปี 3 เดือน พรรษา 35

    วัดอโศการามยังคงได้รับการพัฒนาสืบต่อมาโดยลำดับ หลังจากหลวงพ่อลีได้มรณภาพไปแล้ว มีการขยายพื้นที่ พร้อมสร้าง "พระธุตังคเจดีย์" ที่ท่านได้วางแบบเอาไว้จนสำเร็จลุล่วง เป็นปูชนียสถานประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และใช้เป็น สถานปฏิบัติธรรมกรรมฐานภาวนา โดยเฉพาะ "หลักอานาปานสติ กัมมัฏฐาน" ที่ท่านได้วางรากฐานไว้

    วัตถุมงคลของหลวงพ่อลีนั้นมีมากมาย ทั้งที่ทันท่านสร้างและหลังจากมรณภาพแล้ว แต่ด้วยบารมีของท่าน วัตถุมงคลทุกประเภทจึงล้วนทรงพุทธคุณ เป็นที่เคารพศรัทธาและแสวงหาของพุทธศาสนิกชนอย่างกว้างขวางตลอดมา โดยเฉพาะ "เหรียญปั๊มที่ระลึกงานผูกพัทธสีมา วัดอโศการาม" ที่สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในโอกาสผูกพัทธสีมาวัดอโศการาม ในวิสาขฤกษ์ ปี พ.ศ.2503 ซึ่งร่ำลือกันว่า "เหนียวยิ่งนัก"

    เหรียญปั๊มที่ระลึกงานผูกพัทธสีมา ปี 2503 นั้น นอกจากมีพุทธคุณเป็นที่เลื่องลือแล้ว ยังเป็นเหรียญที่มีความงดงามมากเหรียญหนึ่งในวงการ เป็นการรวมทั้งเหรียญพระพุทธและเหรียญพระคณาจารย์อยู่ในเหรียญเดียวกัน เท่าที่พบเห็นมีเนื้อเงินและเนื้อทองแดงรมดำ

    ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปทรงเสมา หูในตัว ด้านหน้าตรงกลางพระประธานประทับนั่ง แสดงปางปฐมเทศนา ในกงล้อธรรมจักร 8 ซี่ มีอักขระขอมจารึกตรงกงล้อธรรมจักรทั้ง 4 ด้านว่า "นะ มะ พะ ธะ" ด้านล่างเป็นพระปัญจวัคคีย์นั่งพนมมือหันหลังให้ ขอบเหรียญเป็น ลายกนก ล่างสุดเป็นรูปสระบัว อันหมายถึงบัวสี่เหล่าตามพุทธดำรัส

    ส่วนด้านหลัง ตรงกลางเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อลีครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่ อยู่ในวงกลมเล็ก มีรัศมีกระจายโดยรอบ ล้อมด้วยวงกลมใหญ่อีกชั้นหนึ่ง รอบเหรียญมีอักษรไทยว่า "ที่ระลึกงานผูกพัทธสีมา วัดอโศการาม วิสาขฤกษ์ ๒๕๐๓" และมีอักขระขอมพร้อมตัว "อุ" ปิดหัวท้าย บริเวณใต้ฐานเหรียญเขียนคำว่า "พระอาจารย์ลี เจ้าอาวาส วัดอโศการาม"
    ปิดครับ
    IMG_20180119_210108.jpg
    IMG_20180119_210202.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่41 พระเม็ดน้อยหน่า หลังอุ กรุวัดศาลาปูน จ.อยุธยา เนื้อดินเผาผสมใบลาน พุทธคุณเน้นด้านแคล้วคลาด คงกะพันชาตรี สไตล์พระกรุเก่าอยุธยา
    พระเม็ดน้อยหน่าหลังยันต์ อุ เป็นพระกรุเนื้อดินผสมใบลานเผาของ จ. อยุธยา ที่มีอายุการสร้างมาไม่ต่ำกว่า 300 ถึง 400 ปี เป็นพระขนาดเล็กกระทัดรัด แต่เรื่องพุทธคุณไม่เล็กแน่นอน เป็นพระในตำนานที่มีการเล่าขานกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษถึงพุทธคุณที่ครบเครื่องทุกอย่าง ทั้งแคล้วคลาด คงกระพันกันเขี้ยวงา และเมตตามหานิยม สมัยก่อนผู้ใหญ่ให้เด็กแขวนพระเม็ดน้อยหน่านี้เพื่อกันสุนัขกัด เพราะเด่นมากทางด้านคงกระพันกันเขี้ยวงา เนื่องจากพระเม็ดน้อยหน่าหลังยันต์ อุ ของอยุธยาแตกกรุออกมามาก จำนวนพระจึงกระจัดกระจาย ในสมัยก่อนให้กันฟรีๆ ทำให้ผู้ที่นำไปใช้ได้รับประสบการณ์กันมากมาย จึงจัดเป็นของดีราคาถูก แต่ปัจจุบันหายากแล้วครับ
    ปิดครับ
    31152.jpg
    31151.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2018
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่42 พระร่วงนั่งหน้าโหนก กรุวัดเชตุพน สุโขทัย
    กำเนิดที่วัดเชตุพน จังหวัดสุโขทัย จึงใช้ชื่อวัดเป็นชื่อพระพิมพ์ พระเชตุพนของจังหวัดสุโขทัยนี้ ถือเป็นต้นแบบในการเรียกชื่อ เพราะพระเชตุพนแตกออกมาหลายกรุและหลายจังหวัด ต่างก็เรียกกันว่าพระเชตุพน พระเชตุพนที่พบมีอยู่ด้วยกัน ๒ เนื้อ คือ เนื้อดิน และ เนื้อชิน มี ๒ พิมพ์ได้แก่ พิมพ์นั่งฐานชั้นเดี่ยว และพิมพ์บัว ๒ ชั้น พระพุทธคุณดีทางแคล้วคลาด และเมตตามหานิยมขนาดองค์จริงสูงประมาณ ๑.๕ ซ.ม. กว้างประมาณ ๑.๓ ซ.ม.
    ปิดครับ
    IMG_20180320_192843.jpg
    IMG_20180320_192833.jpg
    4047600-3116b.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2018
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่43 พระกรุวัดท้ายตลาด พิมพ์ฐานบัว 2 ชั้น ฝากกรุที่วัดตะล่อม
    พระกรุวัดท้ายตลาด พระวัดท้ายตลาด เป็นพระเนื้อผงที่มีเนื้อหาละม้ายคล้ายเหมือนพระสมเด็จปิลันทน์ โดยเนื้อพระเป็นแบบผงผสมผงใบลานเผาเช่นเดียวกันมีคราบไขคล้ายๆ กันมาก พุทธคุณก็เด่นในทางโชคลาภ ค้าขายและแคล้วคลาด วัดท้ายตลาด เป็นวัดโบราณแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ใต้พระราชวังเดิม ปากคลองบางกอกใหญ่ฝั่งเหนือ ในแผ่นดินพระเจ้ากรุงธนบุรี วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐาน จึงไม่มีพระจำพรรษา ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระมหาศรี วัดราชสิทธิ์ เป็นพระเทพโมลี แล้วให้มาครองวัดนี้ ต่อมาจึงได้เลื่อนเป็นพระพุทธโฆษาจารย์ ต่อมาในรัชกาลที่ 2 ทรงเปลี่ยนนามพระอารามเป็น "วัดพุทไธศวรรยาวาส" ถึงแผ่นดินรัชกาลที่ 3 ทรงโปรดฯ ให้ปฏิสังขรณ์พระอารามโดยตลอด พร้อมกับพระอารามอื่นๆ อีก และทรงเปลี่ยนนามเป็น "วัดโมลีโลกยาราม" มาจนทุกวันนี้ ณ วัดท้ายตลาดแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานศึกษาของพระราชโอรสในรัชกาลที่ 2 อนึ่ง สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ขุน สมัยเป็นพระพุทธโฆษาจารย์ก็เป็นพระกรรมวาจาจารย์ของรัชกาลที่ 3 และถวายพระอักษร รัชกาลที่ 4 เมื่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ขุน มรณภาพลง รัชกาลที่ 3 ทรงโปรดฯ ให้หล่อรูปประดิษฐานไว้ในหอที่ทรงสร้างไว้ในวัดเรียกกันว่า "หอสมเด็จ" (ทรงโปรดฯ ให้หล่อพร้อมกับพระรูปสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร สุก ไก่เถื่อน ที่วัดราชสิทธาราม) ผู้ที่สร้าง พระวัดท้ายตลาด นี้ท่านอาจารย์ตรียัมปวายได้บันทึกไว้ว่า สร้างโดยพระวิเชียรมุนีอดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อน ท่านเจ้าคุณสนิท พร้อมกับหลวงพ่อแย้มและหลวงพ่อกลิ่น พระอาจารย์สายกัมมัฏฐานผู้ทรงกิตติคุณของพระอารามนี้ พระกรุวัดท้ายตลาดได้สร้างไว้ในปี พ.ศ. 2431 การเปิดกรุนั้น วัดท้ายตลาดได้ถูกคนร้ายลักลอบเจาะมาช้านานแล้ว และทางวัดก็ได้ซ่อมแซมอยู่เสมอ ครั้นต่อมาใน พ.ศ. 2485 คราวกรณีพิพาทอินโดจีน ฝรั่งเศส ทางราชการกระทรวงกลาโหมได้มีหนังสือขอพระเครื่องมายังวัดนี้ด้วย เพื่อมอบให้แก่ทหารและตำรวจสนามเช่นเดียวกับที่ขอไปยังวัดต่างๆ พระประสิทธิสีลคุณ เจ้าอาวาสในสมัยนั้นจึงได้ดำริให้ขุดกรุพระเจดีย์รายในวัด และได้พระเครื่องออกมาเป็นอันมาก ทั้งได้พบพระเครื่องอีกส่วนหนึ่งซึ่งบรรจุไว้ในปีบบัดกรี บนเพดานพระอุโบสถและเพดานหอสมเด็จฯ รวบรวมได้ทั้งสิ้นหลายพันองค์ และได้มอบให้แก่ทางราชการไปส่วนหนึ่ง พระกรุวัดท้ายตลาดที่พบเป็นพระเนื้อผงใบลาน พิมพ์ต่างๆ แต่ละพิมพ์ล้วนสวยงามด้วยศิลปะเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังได้พบพระแบบเดียวกันที่วัดนางชี คลองบางหลวง และที่วัดหงษ์ บางกอกใหญ่อีกด้วย แสดงว่า"พระวัดท้ายตลาด"นั้นคงจะมีการบรรจุไว้ตามกรุต่างๆ หลายวัดด้วยกัน พระวัดท้ายตลาด มีด้วยกันหลายพิมพ์ และที่กรุแตก ก็พบว่ามีจำนวนมากถึง 48,000 องค์เป็นอย่างน้อย จำแนกพิมพ์ พระกรุวัดท้ายตลาด เท่าที่ปรากฏมีมากกว่า 50 พิมพ์ มีพุทธลักษณะต่าง ๆ กันในหลากหลายอิริยาบถ แต่พระกรุวัดท้ายตลาด ที่นิยมและเป็นที่รู้จักได้พบเห็นบ่อย ๆ มีดังนี้ 1. พระวัดท้ายตลาด พิมพ์พระปิดตาขัดสมาธิเพชร 2. พระพิมพ์แม่พระธรณีเป็นมวยผม สี่เหลี่ยมใหญ่ 3. พระพิมพ์แม่พระธรณีเป็นมวยผม ห้าเหลี่ยม 4. พระพิมพ์นางกวัก สี่เหลี่ยม 5. พระพิมพ์พุทธนางกวัก 6. พระพิมพ์ป่าเลไลยก์ใหญ่ 7. พระพิมพ์ป่าเลไลยก์เล็ก 8. พระวัดท้ายตลาด พระพิมพ์นาคปรกเต็มองค์ 9. พระวัดท้ายตลาด พระพิมพ์ครึ่งองค์ 10. พระพิมพ์สังกัจจายน์ 11. พระพิมพ์ซุ้มปราสาท 12. พระพิมพ์สมาธิแหวกม่าน 13. พระพิมพ์เล็บมือ 14. พระพิมพ์ยืนอุ้มบาตร 15. พระพิมพ์ยืนห้ามสมุทร 16. พระพิมพ์ยืนถวายเนตร 17. พระกรุวัดท้ายตลาด พระพิมพ์ยืนรำพึง 18. พระพิมพ์โมคคัลลาน์-สารีบุตร 19. พระกรุวัดท้ายตลาด พระพิมพ์พระเจดีย์ 20. พระกรุวัดท้ายตลาด พระพิมพ์มารวิชัย ข้างเส้น 21. พระกรุวัดท้ายตลาด พระพิมพ์มารวิชัย ข้างเม็ด 22. พระพิมพ์สมาธิเล็ก 23. พระพิมพ์สมาธิข้างกนก 24. พระวัดท้ายตลาด พระพิมพ์หยดแป้ง 25. พระวัดท้ายตลาด พระพิมพ์สมาธิบัวสองชั้น 26. พระกรุวัดท้ายตลาด พระพิมพ์ปางไสยาสน์
    คุณ ลานเปล่า นิมนต์ครับ
    IMG_20180301_211537.jpg
    IMG_20180301_211525.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่44 หลวงปู่ทวด ปี 2506 หลังยันต์เฑาะว์ คุณแม่บุญเรือน เนื้อผงพุทธคุณ
    พระหลวงปู่ทวด ปี 2506 เนื้อดินเผาผสมผงพุทธคุณต่างๆ คุณแม่บุญเรือน อธิษฐานจิต หลังยันต์เฑาะว์ดอกบัว (พิมพ์ของวัดสัมพันธวงศ์ )

    พระหลวงปู่ทวด พ.ศ. 2506 วัดสัมพันธวงศ์ เป็นพระที่น่าสนใจปรากฏในหนังสือรวมวัตถุมงคลสายหลวงปู่ทวด ที่สร้างขึ้นเพื่อแจกเมื่อ พ.ศ.2506 โดย พระภิกษุวัดสัมพันธวงศ์ซึ่งเป็นชาวใต้ กับพระอาจารย์ชอบ วัดอาวุธวิกสิตาราม

    โดยมีมวลสารดังนี้ครับ

    - เกสร 108 , ว่าน 108 ของพระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสกเถระ) วัดสัมพันธวงศ์

    - ดินกากยายักษ์จากภาคใต้

    - ผงพุทธคุณหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ

    - ดินเหนียวจากจังหวัดสมุทรสาคร

    - ผงพุทธคุณของพระวิบูลเมธาจารย์ (หลวงพ่อเก็บ) วัดดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

    - ผงพุทธคุณของพระเทพคุณาธาร (เซี้ยง) วัดเจริญสุขาราม จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งท่านเดินทางมาพักที่กุฎีมณีคุณ วัดสัมพันธวงศ์

    - น้ำมันมนต์ของสามเณรน้อยรัตนโกสินทร์แห่งวัดสัมพันธวงศ์

    - น้ำมนต์พระประธานจากวัดสัมพันธวงศ์ซึ่งเก็บไว้ โดยน้ำมนต์นี้ทางวัดได้เชิญโยคีฮาเร็บ และ พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์ มาเป็นเจ้าพิธี เพื่อประกอบพิธีปลุกเสกพระผงมงคลมหาลาภ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ที่พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศ์

    - น้ำมนต์จากวัดอาวุธวิกสิตาราม

    สำหรับการจัดสร้างนั้น ได้มีการจัดสร้างเป็น ๒ พิมพ์ คือ เป็นพิมพ์ของวัดสัมพันธวงศ์และวัดอาวุธ-วิกสิตาราม พิมพ์หน้าขององค์พระเหมือนกัน ต่างกันที่พิมพ์หลัง พิมพ์ละประมาณ 1,000 องค์ คือ

    - พิมพ์หลังยันต์เฑาะว์ ดอกบัว มียันต์ อะ อุ มะ +มีพิมพ์หลังตัวหนังสือ และพิมพ์หลังเรียบ จำนวนเล็กน้อยครับ (เป็นพิมพ์ของวัดสัมพันธวงศ์)

    - พิมพ์หลังยันต์ นะอะระหัง (เป็นพิมพ์ของวัดอาวุธวิกสิตาราม)

    พระหลวงพ่อทวดรุ่นนี้ ได้รับการปลุกเสก 3 ครั้ง คือ

    - ครั้งที่ 1 อธิษฐานจิตปลุกเสกผงพุทธคุณให้เป็นพิเศษจากหลวงพ่อทิม วัดช้างไห้ นอกจากนั้น ยังมีการนิมนต์มาปลุกเสกเดี่ยวที่วัดด้วย โดย พ.อ. โท เนินกร่าง ได้นิมนต์หลวงพ่อทิมมาปลุกเสกเดี่ยวที่วัดสัมพันธวงศ์

    - ครั้งที่ 2 ได้นำไปเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ที่วัดเอี่ยมวรนุช บางขุนพรหม กรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ. 2506

    - ได้รับการอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวจากแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม ผู้ทรงคุณวิทยาคุณแห่งสำนักวัดสัมพันธวงศ์ ซึ่งภายหลังแม่ชีบุญเรือนได้ย้ายไปอยู่ที่วัดอาวุธวิกสิตาราม

    พระหลวงปู่ทวด พ.ศ.2506 วัดสัมพันธวงศ์ จึงเป็นพระเครื่องดี มีพุทธคุณสูงมากในยุคนั้น ที่จัดสร้างจากสุดยอดมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากภาคใต้ คือ ดินกากยายักษ์ และผงใบลานพระพุทโธน้อยของแม่ชีบุญเรือนอันลือชื่อ และผงพุทธคุณจากหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ฯลฯ ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดแห่งมวลสารของภาคกลางเมื่อเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา และกฤตยาคมแฝดที่ได้รับการปลุกเสกจากหลวงพ่อทิม วัดช้างไห้ และอธิษฐานจิตเพิ่มเติมจากแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม พ.ศ. 2506 จึงเป็นพระดีควรค่าแห่งการแสวงหาบูชา เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลอย่างแท้จริง
    คุณ ลานเปล่า นิมนต์ครับ
    IMG_20180314_215641.jpg
    IMG_20180314_215629.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018
  14. ลานเปล่า

    ลานเปล่า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2017
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +18
    รบกวนจองเพิ่มรายการ43,44ครับ
     
  15. ลานเปล่า

    ลานเปล่า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2017
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +18
    โอนเงินให้แล้วครับ
    ขอบคุณมากครับ
     
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่45 งบน้ำอ้อย เนื้อดิน กรุสุโขทัย
    พระงบน้ำอ้อยเป็นพระเครื่องอีกพิมพ์หนึ่งที่มีลักษณะแปลกกว่าพระเครื่องทั่วๆไป เป็นรูปทรงกลมด้านหลังขององค์พระมักจะเป็นนูนๆ เอกลักษณ์ของพระงบน้ำอ้อยนั้น จะมีอีกอย่างหนึ่งที่เราๆคุ้นตากันเป็นอย่างดีก็คือ ด้านหน้าจะเป็นรูปพระหลายๆองค์นั่งเรียงกันโดยหันพระเศียรเข้าหาจุดศูนย์กลางของทรงกลม
    พระงบน้ำอ้อยมีการสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยสุโขทัย สำหรับพระงบน้ำอ้อยของพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดได้แก่พระงบน้ำอ้อยของ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย , หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน , หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว , หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด เป็นต้นครับ
    คุณ ลานเปล่า นิมนต์ครับ
    IMG_20180402_212844.jpg
    IMG_20180402_212833.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่46 พระหลวงปู่ทวด เนื้อผงกัมมัฏฐาน หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก พระนครศรีอยุธยา
    พระถอดพิมพ์หลวงปู่ทวด เนื้อผง ผสมปูน ..หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อธิษฐานจิตปลุกเสก เนื้อขาว ถือเป็นยุคแรก ๆ ที่หลวงปู่สร้าง โดยใช้บล็อคดินเหนียว หรือดินน้ำมัน มาทำเป็นแม่พิมพ์
    ปิดครับ
    IMG_20180402_213502.jpg
    IMG_20180402_213453.jpg
    zk813.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่47 พระสมเด็จพิมพ์เจดีย์ไม่มีหู หลวงพ่อลำภู คงคฺปัญโญ วัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส)
    ประวัติการสร้างพระสมเด็จ หลวงพ่อลำภู คงคฺปัญโญ
    เมื่อ...วันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ทาง วัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) ได้พบว่ามีผู้ลักลอบขุดเจาะกรุเข้าไปในเจดีย์
    นับเป็นการขุดเจาะกรุสำเร็จเป็นครั้งแรก เมื่อพยายามป้องกันและจัดเวรยามเฝ้าเจดีย์อย่างไรก็ไม่ได้ผลยังมีคนลักลอบตกพระสมเด็จอยู่
    พระครูอมรคณาจารย์(เส็ง)เจ้าอาวาสในขณะนั้น จึงนำเรื่องเข้าหาพระเถระผู้ใหญ่เพื่อแจ้งถึงสาเหตุที่เกิดและแต่งตั้งคณะกรรมการโดยท่านเจ้าคณะอำเภอพระนครเป็นประธาน พระสงฆ์ใน วัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) ร่วมเป็นกรรมการ ฝ่ายฆาราวาสได้เชิญ
    นายบุญทอง เลขกุล เป็นประธานและได้เชิญ ฯพณฯท่านพลเอกประพาส จารุเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการเปิดกรุเจดีย์ วัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส)
    ในวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๐ ทางวัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) ได้ทำพิธีเปิดกรุเจดีย์อย่างเป็นทางการ ซึ่งภายในเจดีย์บรรจุพระสมเด็จที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้สร้างและบรรจุไว้ ซึ่งในตอนเปิดกรุเจดีย์นั้น พบว่าพระสมเด็จในเจดีย์ มีทั้งสภาพพระสมเด็จที่สมบูรณ์และพระสมเด็จที่ชำรุดแตกหัก
    ในสมัยนั้นหลวงปู่ลำภู ท่านดำรงตำแหน่งเป็นรองเจ้าอาวาส วัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) ท่านเป็นหนึ่งในคณะกรรมการในการตรวจนับพระสมเด็จตอนเปิดกรุเจดีย์ วัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) ทางคณะกรรมการวัดได้คัดเอาพระสมเด็จสภาพที่ดีออกให้ผู้ศรัทธาบูชา ส่วนพระสมเด็จที่แตกหักหรือชำรุด ทางวัดไม่ได้ให้ความสำคัญนัก หลวงปู่ลำภูท่านจึงได้นำพระสมเด็จที่แตกหักชำรุดมาเก็บรักษาไว้ที่กุฏิของท่าน โดยบรรจุในหีบเหล็กจำนวน ๓๐ใบ พอผู้คนและบรรดาลูกศิษย์ทราบก็มาขอท่านอยู่บ่อยๆ ท่านจึงได้ตัดสินใจนำพระสมเด็จบางขุนพรหมที่แตกหักมาทำการแช่น้ำ เพื่อร่อนกรองแยกดินจากกรุออกจากเศษพระสมเด็จที่ชำรุดแตกหัก แล้ว
    นำมาบดตำเป็นผง เพื่อผสมกับมวลสารสำคัญและผงวิเศษต่างๆที่ท่านจัดเตรียมไว้ นำมาผสมสร้างเป็นพระสมเด็จ
    ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ จึงเป็นปฐมบทของการสร้างพระสมเด็จของท่าน ที่ วัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) การสร้างพระสมเด็จของท่านเป็นการสร้างแบบเป็นวาระ กล่าวคือหากพระที่ท่านจัดสร้างเสร็จแล้วได้แจกศิษยานุศิษย์หมดไป ท่านก็จะเกณฑ์หมู่ศิษย์มาช่วยกันสร้างพระสมเด็จเป็นแบบนี้เรื่อยมา

    คุณ ลานเปล่า นิมนต์ครับ
    IMG_20180402_213134.jpg
    IMG_20180402_213122.jpg
    showimage.jpg showimage (1).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018
  19. ลานเปล่า

    ลานเปล่า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2017
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +18
    รบกวนจองรายการ45,47ครับ
     
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่48 หลวงพ่อทวด-หลวงปู่หมุน รุ่นพระเจ้าห้าพระองค์ พิมพ์พระรอด
    รักศรัทธา2บารมีใช้ดีจิงบอกต่อ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ โดดเด่นชัดเจนในด้านเมตตามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ครบเครื่องนิรันตรายในองค์เดียว
    ...หลวงพ่อทวด-หลวงปู่หมุน "รุ่นพระเจ้าห้าพระองค์" พิมพ์พระรอด มหาพิธีพุทธาภิเษก 5 ครั้งใหญ่ของวัดสุทัศน์ คณะ7 ตั้งแต่ปี 2542 -2544 เนื้อผงว่าน 108 ผสมดินกากยายักษ์ ผงพระบางขุนพรหม ด้านหลังพระจะนูนดูเหมือนนกสาลิกา(มักว่าฝังนกสาลิกา) พิธีปลุกเสกใหญ่นั้น ได้นิมนต์ พระเกจิอาจารย์ที่มีอายุ เกิน 100 ปี 5 รูป ด้วยกันคือ...
    1 หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ 106 ปี
    2 หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน อายุ 101 ปี
    3 หลวงปู่เหมือน ฐานุตตโม อายุ 104 ปี
    4 หลวงปู่กอง จันทวโส อายุ 103 ปี
    5 หลวงปู่อิง โชติโญ อายุ 115 ปี
    จัดเป็นหลวงพ่อทวดรุ่นที่ดีมาก ที่หลวงปู่หมุนปลุกเสก เนื้อหา มวลสาร เจตนา และพิธีสุดยอด ที่สำคัญราคาเช่าหามาบูชา(ยัง)ไม่แพง!


    ... ตามประวัติหลวงปู่หมุนท่านเคยเล่าว่าได้ไปแลกเปลี่ยนวิชากับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ เคยร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดกับพระอาจารย์ทิมจนดังลือลั่นในปัจจุบัน ฉะนั้นท่านจึงสามารถอัญเชิญหลวงปู่ทวดได้ เพียงแต่ท่านไม่โมทะนาให้ใครฟัง " เคยมีลูกศิษย์ของท่านเรียนถามท่านว่า ในบรรดาวัตถุมงคลของท่าน รุ่นไหนศักดิ์สิทธิ์ที่สุด? "...หลวงปู่หมุนท่านไม่พูดบอกลูกศิษย์โดยตรง เพียงแต่ชี้มาที่พระหลวงปู่ทวด ดังนั้นพระรุ่นนี้จึงนับว่าเป็นวัตถุมงคลสายหลวงปู่หมุนที่น่าเก็บสะสมบูชาเป็นอย่างยิ่ง ท่านใดที่เคารพศรัทธาหลวงพ่อทวด และหลวงปู่หมุนไม่ควรพลาด เพราะบูชาองค์เดียวได้ครูบาอาจารย์ไว้บูชาถึงสององค์
    โดยหลวงปู่หมุนกล่าวว่า..." รุ่นนี้ดีมาก มีพลังมาก ถ้าไปรบก็ชนะ ถ้าประกอบธุรกิจก็ประสพความสำเร็จ จะค้าขายก็สำเร็จไปทุกอย่าง "


    ...วาจาสิทธิ์ของหลวงปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ
    " ของๆฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชคลาภร่ำรวยตลอดเวลา ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจนประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายร้อยเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไปด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน ย่อมเป็น หนึ่งบ่เป็นสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้เลื่องชื่อลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน "
    -เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกียวกับ พระเจ้าห้าพระองค์ หรือว่า"นะโมพุทธายะ" สุดยอดพระ
    คาถาและมหายันต์ ตามชื่อหลวงพ่อทวดรุ่นนี้
    ...คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ หรือเรียกว่า "แม่ธาตุใหญ่" ซึ่งมีพุทธคุณเหนือยันต์ทั้งปวง รวมทั้งความเชื่อสืบต่อกันว่า "ผู้ใดที่ท่องหรือบริกรรมพระคาถาบทนี้ ด้วยจิตอันสงบและมั่นคงแล้วจะมีพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาล" หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ "มีพุทธคุณครบทุกด้าน เช่น เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผีและใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย"
    ...เรื่องคาถาอาคมนี่มีเคล็ดลับอยู่ที่จิตที่ต้องมั่นใจในอาคมที่ตนพร่ำบนว่าศักดิ์สิทธิ์จริงช่วยได้จริง จิตจึงจะมีกำลังไม่ใช่ท่องอย่างนกแก้วนกขุนทอง หลายๆคนมักมาถามว่ามีคาถาอะไรดีดีที่ขลังที่สุดก็ขอตอบว่ามันขลังทุกตัวละอยู่ที่คน ซึ่งไม่ใช่ตอบแบบกำปั้นทุบดิน แต่เราต้องมั่นใจก่อน คาถาที่จะเเนะนำในเป็นคาถาแรกที่โบราณท่านถือว่าเป็นที่สุดของคาถาทุกบทและใช้ง่าย ซึ่งหากสังเกตุดูคาถาต่างๆนั้นมักใช้คาถาตัวนี้หนุนให้มีกำลังเพิ่มขึ้นโดยนำมาต่อท้ายหรือ ให้ใช้ท่องบ่นประจำ ก็จะเกิดอานุภาพได้แบบฝอยท่วมหลังช้างคือมั่นใจแล้วขอใช้ได้ทุกเรื่อง ซึ่งพระคาถาดังกล่าวก็คือ พระคาถาพระเจ้าห้าพระองค์ที่มีอยู่ห้าคำเท่านั้นคือ “นะ-โม-พุท-ธา-ยะ” จัดเป็นคาถาแบบกายสิทธิ์ดีในตัวทั้งเป็นธาตุคาถาด้วยพร้อมสรรพ คำว่าธาตุคาถาด้วยคือหากหมั่นภาวนาอาคมในกายจะเข้มขึ้นและธาตุในกายจะสมส่วนด้วยโดยโบราณท่านว่าคาถานี้มีคุณ ๕๖ คือกำลังพระพุทธเจ้าโดยแยกธาตุได้ดังนี้คือ...
    นะ คือ พระกกุสันโธ สัมมาสัมพุทธเจ้า หมายเอาธาตุน้ำ กำลัง ๑๒
    โม คือ พระโกนาคม สัมมาสัมพุทธเจ้า หมายเอาธาตุดิน กำลัง ๒๑
    พุท คือ พระกัสสัปโป สัมมาสัมพุทธเจ้า หมายเอาธาตุไฟ กำลัง ๖
    ธา คือ พระโคตะโม สัมมาสัมพุทธเจ้า หมายเอาธาตุลม กำลัง ๗
    ยะ คือ พระศรีอริยะเมตไตยสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะมาในอนาคต หมายเอาธาตุอากาศ กำลัง ๑๐
    ...รวมเท่ากับ ๕๖ เท่ากำลังพุทธคุณพอดี คาถานี้คือที่โบราณว่า ขวานเล่มใหญ่ที่แปลว่า หากเรื่องที่เราประสงค์เปรียบเหมือนต้นไม้ในป่า พระคาถานี้ก็คือขวาน ที่สามารถหมายเอาได้ทุกเรื่องแบบขวานที่ฟันเอาไม้ได้อย่างไรครับ หลายคนอาจมองเป็นพระคาถาพื้นๆเพราะรู้ๆกันอยู่แต่ของดีนะมีไม่มากและอยู่แบบเส้นผมบังภูเขา พระคาถานี้นับเป็นต้นของสรรพวิชาทั้งปวงไม่ว่า ปถมัง มหาราช อิธะเจ ตรีนิสิงเห พุทธคุณที่เป็นผงวิเศษห้าประการก็หนี พระเจ้าห้าพระองค์ไม่พ้น พระคาถานี้เชื่อได้มากครับ สมัยก่อนท่านหลวงปู่ทองวัดราชโยธา มีคนมาขอวิชาลบอิธะเจกับท่าน ท่านว่า ก็เขียนเอา อักขระ นะโมพุทธายะ นี่ละจะเอาเท่าไรก็เขียนเอาแล้วอธิษฐานให้เป็นอิธะเจหรือผงอะไรก็ได้ขลังเท่ากันกับบทใหญ่เลย

    คุณ shaj นิมนต์ครับ
    IMG_20180403_122531.jpg
    IMG_20180403_122519.jpg
    IMG_20180403_122509.jpg 985424-4f034.jpg 985424-512aa1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...