กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

สีส้มๆบนฟ้า เวลาที่เห็นก็ประมานั้นหละครับ
ดึกๆหน่อย อาจจะเป็นดาวเทียม เครื่องบิน
พิเศษ หรืออื่นๆ ตามที่นักวิทยาศาสตร์บางท่านที่ไม่เชื่อเรื่อง จานผี บอก หรืออะไรก็ตาม แต่เราจะชอบเห็นอยู่บนยอดเขา
แม้ไม่เร็วมาก แต่เร็วกว่าเครื่องบินโดยสาร
หรือพานิชย์แน่นอน แต่ถ้าเป็นเครื่องบินรบ
ก็ถือว่าเสียงเบาดี อาจจะบินเพดานที่สูง
มากก็เป็นได้ ฯลฯ สรุปคือกลางไหว้

เรื่องการเห็น อย่างที่บอก
เวลาเห็นปุ๊บตัดปั๊บ ทำบ่อยๆ
และทำบุญอุทิศส่วนกุศลบ่อยๆ
จะยิ่งดีขึ้นไปอีก

ดวงวิญญาน เมื่อก่อนก็เหมือนเราๆ
เพียงแต่ปัจจุบันท่านไม่มีกายเท่านั้นเอง
และสีบอกสิ่งที่จิตสะสมหรือทำได้
แท้แล้วมันคือเหตุที่ทำให้เวียนว่ายตายเกิด
สีที่ต้องระวังคือเทาๆ ปนดำ หรือสีอื่นๆที่มี
สีเทาๆปน แต่ปกติเค้าไม่มายุ่งอะไรกับเราหรอกถ้าไม่มีเหตุ สบายใจหายห่วงได้

วิธีลัดก็คือ เทคนิคคอลเทอมอย่างหนึ่ง
คือมีบ้างคนอยากจะประมาน
พอมีอะไรพิเศษบ้าง
หรือทำอย่างไรจิตจะมีความสามารถ
รับรู้อะไรได้พิเศษไปถามท่านแต่ว่าคนถาม
ไม่มีพื้นฐานจิตใช้งานได้มาก่อน
ท่านก็เลยสอนแบบนี้ แต่ถ้ามีฐานมาแล้ว
ท่านจะบอกให้ตัด ลาภ ยศ สุข
สรรเสริญ และทิ้งความสามารถ
พวกนั้นให้หมด ประมานว่าไม่เคยมีเลย
กับตัวเอง แล้วมาเน้นทางปัญญาต่อ
เวลาสอนก็คุยประมานรู้เรื่องกันเฉพาะ
ประมานนี้

ความสามารถมันถึงจะมีการพัฒนาขึ้น
ได้เรื่อยๆ และไม่เสื่อมถอย ใช้งานชิวๆขึ้น
ได้ของมันเอง.
** ความสามารถหลายๆอย่างที่เขียน
ในตำรา พอถึงระดับที่ฝึกกรรมฐานนั่นได้สำเร็จแล้ว ผู้ฝึกจะพบเองว่า มันต้องทิ้งเลย
มันถึงจะมีพัฒนาและไม่เสื่อม.

ทิ้งเพื่อ? เป็น อุบาย
ให้จิต มันเป็นเองแบบอัตโนมัติ
หรือธรรมชาติของมันในอนาคต

แล้วทิ้ง(บางคนไม่ทิ้งกลัวหาย
นั่นคือยึด และจะขวางการต่อยอด)
และมาเดินปัญญาต่อเพื่อ? ที่จะหนุน
ให้จิตเริ่มคลายตัวเองได้ก่อน จนกระทั่ง
เริ่มคลายได้ตามธรรมชาติของมัน
ซึ่งตรงนี้ อาศัยปัญญามาหนุนร่วม(สำคัญ)


พอจิตคลายตัวได้แล้ว(คือไม่เป็นวงกลม ไร้รูปร่าง) สิ่งต่างๆที่จิตมันเคยเก็บไว้ จนเป็นสัญญา หรือเป็นเหตุที่ทำให้เวียนว่ายตายเกิด บางอย่างถ้าเป็น ความสามารด เห้ย!
สามารถ เค้ามักเรียกว่าของเก่า มันจะค่อยๆขึ้นมาได้ของมันเอง แต่ด้วยที่มัน คือเหตุ
ที่ทำให้เวียนว่ายตายเกิดนั้น?
เราต้องเรียนรู้และเข้าใจตรงนี้ด้วย

เมื่อมันขึ้นมา เราจึงมีทริคต่อว่า
“ถ้าจะรู้ ถ้าจะใช้ ก็ปล่อยให้รู้ไป ใช้แล้วก็แล้วไป ไม่ต้องไปอยากรู้เพิ่มอะไรแค่ไหนแค่นั้น ใช้แล้วก็ไม่ต้องไปตามผล ไปคาดไปหวังอะไร “เพื่อ??

ป้องกัน การไปเผลอยึดมัน จนกลายเป็น
จริต วิบาก อนุสัย อย่างใดอย่างหนึ่ง
(การที่มันขึ้นมาแล้วเข้าใจว่าตน
ต้องมีหน้าที่โน้นนี่นั้น เป็นนั่นโน่นนี้
นั่นหละ คือติดอนุสัย จะกลายเป็นวกวนไม่
รู้จบสิ้นในวัฐจักนี้)

ส่วนท่านที่สอนลาโลกได้ปีกว่าๆแล้วครับ
เสียดายรู้จักกันช้าไป จะไม่งั้นคงจะได้เห็น
ว่าการพลิกนามธรรมเป็นรูปธรรม
เป็นอย่างไร และเรื่องอื่นๆที่เคยได้แค่ได้ยิน
ว่ามีจริงไหม ทำได้จริงไหม

ยกตัวอย่าง การโยนของไปในน้ำแล้ววิ่งได้
การจับภาพพระในหนังสือออกมาเป็นพระ
องค์เหมือนหนังสือ การหยิบใบไม้
กลายเป็นเงิน การหยิบดินขึ้นมากลายเป็นพระ การยื่นมือไปในอากาศแล้วหยิบพระออกมา การมองเทียน ๕ แท่งแล้วเทียน
ค่อยๆหรี่ลง และค่อยๆสว่างขึ้นเหมือน
ปรับได้ การยกกาย
ไปหาใครบ้างคนที่กวนบาทาฉิบหาย ๕๕
ฯลฯ ส่วนตัวเรียกว่า ระดับจิตธาตุ
ซึ่งมีห่มเหลืองหลายท่านมีอยู่
แต่แบบสามารถให้ปรากฏได้แบบนี้
น่าจะน้อยหน่อย ถ้าแบบสัมผัส
ภายในเร็วป่านจรวดและละเอียด
ยังพอจะหาได้ไม่ยากครับ
ชื่อ ย่อ พระอาจารย์ ด (ไม่ใช่หลวงปู่นะครับ)

ท่านนี้ก็จะใช้คำพูด
มึงๆกูๆ โครตพ่อโครตแม่
มึง อะไรประมานนี้เวลาที่จะด่า ก่อนสอนครับ
แต่ฟังแล้วรู้สึกจำและชอบดี ถูกจริตครับ

เช่น อย่างมึงต้องกูสอน ถ้า(..............)
(..)ท่านรู้ว่าท่านใดบ้างมาสอน(ที่แบบไม่มีชีวิต)จะเป็นโน้นนี่นั่นว่าไปก็ดีนะครับ
แต่ส่วนตัวความสามารถน้อยระดับ
๒๕ สตางค์เลยได้ทริคอะไรมา
แค่เศษเสี้ยวหน่อยเดียว

แต่ที่ชอบคือทริคที่ท่านสอนเรื่อง
การใช้สมาธิรักษาโรคให้ตนเอง
ซึ่งเป็นสากลใช้ได้ทั่วไปใครก็ฝึกได้
ใช้กำลังสมาธิไม่มาก เคยเอามาลงอยู่
เขียนไปหลายรอบแล้วครับ
ซึ่งจะคลอบคลุมกว่าการใช้กำลังจิต
ซึ่งมีองค์ประกอบมากไปและไม่เป็นสากล
จบ โม้ด้วย นิทานด้วย พอขำๆเน้อ

 

...เออ อ่านถึงตรงนี่
ผมหายกลัวเรื่องผีๆไปเยอะเลย
ยังนึกเสียดายจิงๆเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา
ได้ภาพวิญญาณผีผู้หญิงผมยาวสลวย
หน้าตาสวยค่อนข้างชัด(มาก)
(เคยเห็นจากภาพรายการผีๆหรือภาพที่ผู้คนมาลงบางสื่อผมว่า"บางภาพแค่ดูแล้วต้องเดาๆ")

...แต่ผมไม่กล้าเก็บภาพนั่นไว้
และไม่กล้าเผยแพร่ทางยูทุป
เพราะไม่มั่นใจว่าวิญญาณผู้หญิงตนนั่น
...จะตามมาหลอกหลอนผมถึงกรุงเทพหรือไม่
ผมจึงแนะนำน้องสาวว่า...
"พรุ่งนี้เช้านำภาพนี่ไปที่วัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณนี่ทันที"

มาม่ามา...จุดเทียนล้อมวงกันฟัง
เป็น"เรื่องจริงที่เกิดขึ้น" สยองพอสมควร
ผมจะขอเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังครับ
(เพราะมิใช่ว่าน้องสาวถ่ายติดภาพวิญญาณอย่างเดียวนะ
แต่ก่อนที่จะมีภาพนี่ ได้เห็นผู้หญิงเดินลอยตัวอยู่บนจอมือถือด้วย)

....เป็นทริปเดินทางเที่ยวจากปายไปแม่ฮ่องสอน ในช่วงใกล้ค่ำตะวันสีทองกำลังลับทิวเขา ในรถชนิด 4 ประตูมีหลานสาวที่เป็นแพทย์นั่งอยู่ด้านหน้ากับสามีคนขับ น้องสาวและหลาน2คน อายุ7และ 9 ขวบ นั่งอยู่เบาะหลัง น้องสาวเห็นวิวใกล้มืดสวยดี จึงหยิบมือถือถ่ายรูปและถ่ายรูปภายในรถด้วย แพทย์หญิงและสามีที่อยู่หน้ารถบ่นออกมาว่า"ทำไมจู่ๆรู้สึกเย็นวูบหนาวสะท้าน" ขณะเดียวกันหลานชายพูดตามประสาเด็กว่า "ทางน่ากลัวมืดแล้วเดี๋ยวก็ตกเขาตายหรอก"
....น้องสาวไม่ได้คิดอะไร พอรถวิ่งไปได้ระยะนึง ขณะที่หลานๆหงิบหลับไป ท่ามกลางความมืดน้องสาวจึงเปิดกล้องเพื่อดูรูปที่ถ่ายไว้ พอกดมาถึงรูปที่ถ่ายภายในรถกลายเป็นรูปสีดำปนเทามีแสงสลัวนิดๆ
....เรื่องไม่จบแค่นี้ เพราะน้องสาวเห็นผู้หญิงผมยาวสลวยเดินลอยครึ่งตัวอยู่บนจอภาพ จากมุมหนึ่งค่อยๆลอยไปอีกมุม แกตกใจสุดๆรีบปิดมือถือทันที พอเปิดมาดูอีกครั้งไม่เห็นวิญญาณดังกล่าวแล้ว คงเก็บภาพดำเทาๆนั่นไว้
ระหว่างเดินทางน้องสาวเก็บเรื่องเงียบไว้ไม่อยากเล่า เพราะไม่อยากให้กลัวกัน
....พอกลับมาถึงกรุงเทพ ผมจึงเป็นเป้าหมายแรกที่น้องสาวรีบบึ่งมาหาทันที แกเล่าเรื่องสยองนี่ให้ฟังเพราะแกรู้ว่าผมมักเจออะไรแปลกๆที่คนอื่นไม่ค่อยเจอกัน แกให้ผมดูภาพนั่นและบอกว่าก็เป็นภาพดำๆสลับเทาๆมีแสงอ่อนๆ แต่ทำไมจึงเห็นวิญญานร่องลอยไปมาในคืนนั่น แกบอกสาบาน"เห็นจริงๆไม่ได้ตาฝาด"(ไม่ต้องสาบานผมก็เชื่อเต็มร้อย เพราะรู้นิสัยน้องสาวผมดี)
....พอผมหยิบมือถือขึ้นมาดูแป๊บเดียว
ผมตกใจเมื่อเห็นภาพผู้หญิงผมยาวสลวยครึ่งตัวชัดเจนอยู่ปลายขอบภาพ
ผมจึงรีบชี้ให้น้องสาวและภรรยาดู
...วินาทีนั่นสยองขนลุกซ่าทุกคน
...น้องสาวรีบชิงบอกว่า
"นี่แหละผู้หญิงที่เห็นในคืนนั่น...สวยด้วย"

//ใครที่ไม่เชื่อว่าวิญญาณมีจริง//
จงเชื่อเถิดว่า *มีจริงแน่นอน*



ตามที่ท่านอาจารย์นพกล่าวไว้ข้างบนว่า...
" เรื่องการเห็น อย่างที่บอก
เวลาเห็นปุ๊บตัดปั๊บ ทำบ่อยๆ
และทำบุญอุทิศส่วนกุศลบ่อยๆ
จะยิ่งดีขึ้นไปอีก "

วันนั่นผมก็ชี้แนะน้องสาวให้รีบไปวัด
ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณดวงนั่น

//ส่วนที่เห็นปุ๊บตัดปั๊บ ยังทำไม่ได้ซะที
เพราะวันนี้ยังนำเรื่องสยองขวัญนี้มาเล่าสู่กันฟังในที่นี่
แสดงว่ายังติดอยู่ในใจผมอยู่
ฮึก ฮึก ที่สำคัญทุกวันนี้ผมยังนึกเสียดายว่า...
"ทำไม ผมไม่เก็บภาพวิญญาณชัดๆนี้ไว้"

จึงรบกวนถามท่านอาจารย์นพว่า...
"ถ้าผมยังเก็บภาพนี่ไว้ และเอาออกมาเผยแพร่"
////จะมีผลอย่างใด"////



ขอขอบพระคุณครับผม

 

เห็นแบบน้องสาวได้
ในทางปฎิบัติถือว่าดีไม่น่าสยอง
อะไรหรอกครับ เชื่อไหม(บางส่วน)
ตอนอายุ ๑๓ ขวบประมานเที่ยงคืน
เคยเจอวัตถุลึกลับ
ลอยมาตกใกล้ๆ มองไป
เห็นเงาดำๆอยู่หลังต้นไม้ในระยะประมาน๕เมตร
ส่วนตัวเดินเข้าไปถามเลยครับ
ว่าน้าเป็นใครครับ
พอตอบมาแค่นั้นหละ

ผมว่าตอนนั้น สถิติ ๑๐๐ เมตรชาย
น่าจะใกล้เคียงระดับโลก ๕๕๕๕
มารู้ทีหลังว่ารุ่นพี่แกล้ง
แต่คนที่แกล้ง ต่อมาเจอของจริงทุกคน
๕๕๕ นึกแล้วขำดี จริงๆตรงที่เค้าแกล้ง
มีผีนะแต่เป็น ญ


แต่จะไม่หลง ไม่กลัว ไม่ยึดอะไร
ถ้าเห็นแล้วเข้าใจวัตถุประสงค์ที่เห็นครับ
มากกว่าจะไปสนใจว่าเป็นใคร
ทำไมถึงเห็น มาให้เห็นเพื่ออะไรฯลฯ
วัตถุประสงค์คือ เห็นปุ๊บ แล้วอุทิศส่วนกุศล
ปั๊บ ณ เวลานั้นเลยหรือไม่. ตรงนี้สำคัญ

เด่วอนาคต ไอ้ที่เคยสงสัยต่าง ฯลฯเรื่อง
ถ้าเราอยากจะรู้เด่วมันจะมีการย้อนรู้ได้เอง
แบบอัตโนมัติของมันเองครับ
นี่คือตัวอย่างผลเรื่องความเข้าใจทางด้าน
นามธรรม จากการคิดอะไรไม่ออก
ไม่สงสัย อุทิศส่วนกุศลอย่างเดียวครับ
ตอนเห็นผี

ภาพเก็บไว้ไม่เป็นไรครับ
ถ้าอุทิศส่วนกุศลไปแล้ว
มันจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ไม่แปลก
ไม่เชื่อไปลองดูใหม่ได้

แต่ถ้าเรามาออกสื่อเป็นกลาง
ถ้าคนไม่เชื่อ แล้วพาลไปว่า
นรก สววรค์ บุญ บาป ไม่มี
พาลไปดูหมิ่นดูแคลนศาสนา
มันจะกลายเป็นว่า เรามีส่วนใน
การทำให้บุคคลทั้งหลายเหล่านั้น
วกวนติดอยู่ในวัฐจักรนี้ พอเรามาปฎิบัติ
มันก็จะกลายเป็นกะแสมาขวาง
ทุกแนวคิด ทุกกิริยา ที่จะทำให้เราหลุดพ้น
ได้อย่างไม่รู้ตัวครับ.นี่เป็นฝั่งด้านปัญญา
นึกภาพออกไหม

ถ้าด้านกรรมฐาน ก็เหมือนว่า
เรายังใช้งานไม่ได้ แต่ออกตัว
เป็นคนสอนหรือพูดเหมือนเราทำได้
แล้วไปแนะนำคนอื่นๆพอ
แนะไปกลับทำให้เค้าติดในติด
ในกองกรรมฐานนั้นๆ
แทนที่จะใช้มันหนุนเพื่อการหลุดพ้น
หรือด้านปัญญา

เราก็จะเป็นคนที่จะห่างไกล
การเข้าถึงผลสำเร็จของกรรมฐาน
กองนั้นๆ ยิ่งเราไปพูดในนามธรรม
ระหว่างทางโดยไม่มีเหตุอันควร
และทำให้คนยึด
ก็จะทำให้การปฎิบัติเราขาดๆเกินๆ
ไม่สำเร็จใช้งานได้ซักที

พูด แสดง ได้ แต่ต้องเหมาะ ต้องควร
กับผู้ที่ควรฟังได้ผู้ที่ควรแสดงให้ดูได้
เราก็จะมีพัฒนาได้เรื่อยๆ โดยไม่เสื่อม
ไม่ถอยของมันเองครับ

สรุปไม่เหมาะออกสื่อเลยครับ
เอาไว้เฉพาะกลุ่มพอ

ส่วนนี้โม้
ส่วนตัวมีภาพตอนไปไหว้พระธาตุ
แล้วมีผีๆส่วนมากจะสาวๆ
มานั่งข้างหลังไหว้พระตาม
เยอะแยะเห็นชัดมาก มีคลิปเสียงสวดมนต์
แบบไม่ใช่คนสวดก็มี ตอนฝึกสมาธิ
มีภาพดวงไฟรูปร่าง
แปลกๆที่ถ่ายตรงองค์พระใหญ่ รวมทั้งดวง
กลมๆขนาดเท่าตัวก็มี มีแบบเต็มทัองฟ้าก็มี
ในขณะทำอะไรบ้างอย่าง
มีแบบแสดงกล้ามแล้วถ่ายให้ขึ้น
บนฝ่ามือก็มี มีแบบกำลังแสดงกล้าม
แล้วมีผีมายืนหน้าสล่อนดูว่าทำอะไรก็มี

เพียงแต่พวกนี้ หาใช่สาระสำคัญอะไร
เพราะมันมีเป็นปกติธรรมชาติอยู่แล้ว
หน้าที่เราเพียงแต่เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับ
ธรรมชาติเหล่านี้อย่างแยบยล

ไม่ใช่การพยายาม ที่จะไปเปลี่ยนแปลง
ธรรมชาติตรงนี้ให้มันผิดวิถีปกติของเค้า
เพื่อที่จะพิสูจน์ให้ใครต้องเข้าถึงได้
โดยที่ใจเค้ายังไม่พร้อม ที่จะเข้าใจและอยู่ร่วมกับธรรมชาติเหล่านี้ด้วยตัวเค้าเองครับ

อันนี้โม้อีกนะ หลังจากสึกออกมา
ได้ ๒ ถึง ๓ วัน ส่วนตัวเจอผีๆมาหาเต็มห้อง
มาเป็นกองทัพ ตอนกลางวันแสกๆ ย้ำว่ากลางวัน และไม่ใช่แบบหลับตานะครับ
และมาแบบหลากหลาย ประเภทหน้าหายไป
ครึ่งก็มี พอลืมตาเค้ารีบมาจับตัวทันที
หันไปอีกข้าง เห็นเค้ากำลังคุยกัน พอเห็นผมตื่นก็รีบมาจับตัว เอาว่าที่ร่างกายยกเว้นศีรษะไม่มีส่วนไหนที่ ไม่มีมือผีมาจับครับ
ทั้งยก ทั้งแบก ย้ำว่าลืมตานะ ไม่ใช่ฝัน
และกลางวัน จนสุดท้ายแก้ปัญหาได้
จนเป็นที่มาของการถ่ายทอด การอุทิศส่วน
กุศลอย่างไรให้ได้ผล บางคนเคยอ่านที่ส่วนตัวแนะนำ แต่ไม่รู้เบื้องการได้มาไงครับ

ตอนนั้นตื่นเต้น อยากโชว์
เพราะไม่เคยเจอเป็นกองทัพ
เลย ไปโม้ให้ ลพ ที่แนะเจริญสติ
กับแนะเรื่องนามธรรม กับเรื่องภพภูมิฟัง
ท่านบอกว่า “อือ ดีแล้ว ทำไปเหอะ”
แล้วก็สอนเรื่องอื่นๆต่อ ๕๕๕
ประมานว่าเรื่องที่เจอมันสิวๆมาก๕๕๕
เบสิกๆ๕๕ หลังจากนั้นอีกไม่ต่ำกว่าสองปีถ้ามีคนมาถามว่าเคยเห็นผีไหม
ส่วนตัวจะตอบได้ยากและงงๆ
ถ้าถามว่า ในรอบสองปีที่ผ่านมา
มีไม่เห็นผี(ทั้งหมดพูดกรณี ลืมตาเห็นนะครับ
ประเภทหลับตาเห็นฝันเห็น นั่งแล้วเห็นไม่นับ
เพราะไม่น่าเชื่อถือไม่เป็นสากล)กี่วันจะพอตอบได้ แต่อย่างที่บอก ก็ไม่เคยพูด ถ้าไม่มีคนถาม เพราะมันไม่ใช่สากลนั่นเองครับ

ส่วนตัวเห็นมาเกือบทุกระดับนั่นหละครับ
แต่บางกรณีไม่สามารถเล่าได้ครับ
ตั้งแต่สูงสุดลงมาแบบในสภาพแวดล้อม
หรือลืมตาเห็นนี่หละครับบางท่านก็เป็นรูปปั้นก็มี เคยเห็นหมดครับ ไม่ใช่วิสองวินะครับ
เป็นนาที ขยี้ตาแล้วก็ยังเห็น เดินๆไปตามกัน
ลอยเหาะหายไปต่อหน้าต่อหน้าให้งงเล่นๆก็มี เรื่องนี้รู้ทั้งวัดในยุคนั้น แต่ในนรกไม่เคยเห็นเพราะพี่ที่เฝ้าข้างหน้า ๒ ท่านเค้าไม่ให้ผมเข้าไป เพราะเค้าว่าผมติดอุทิศส่วนกุศล ๕๕

แต่ถ้าจำได้ดี จะบอกว่า ตั้งแต่ภูมิระดับ
เดียวกันกับเรา เค้าสามารถทำให้เราเห็นได้หมดนั่นหละครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะปรับ
คลื่นรับได้ไหมตอนนั้น.
และมันไม่ใช่ตัวชี้วัดว่า
ผมเป็นคนดี คนเก่ง มีคุณธรรม
มีกำลังญาน มีสมาธิ สูงส่งอะไรเลย
ก็ยังเป็นคนธรรมดา กะโหลกกะลา
ไม่ดี ไม่เก่ง กวบบาทาเหมือนเดิม
นั่นหละครับ ๕๕

ส่วนการจะเห็นแบบที่เราต้องการ
และมีประโยชน์นั้น เราก็ค่อยมาฝึกมาปรับ
แบบสากลเอา ส่วนชัดเจนละเอียดเป็นเรื่อง
ของการปล่อยวางกิเลสเราเอง
มันมีลำดับขั้นตอนมันอยู่ครับ
ส่วนใหญ่เราจะสู้ท่านที่ห่มเหลืองไม่ได้ครับ

ถึงได้พูดว่า เกจิท่านต่างๆ
หายใจรอบเดียวเข้าฌานไปกลับได้ ๔ ถึง รอบฆารวาสอย่างเราๆได้รอบเดียว
บางคนโม้ระดับโลกแล้วก็มี บางคนไม่ได้
ยังโม้เลยครับ ๕๕๕
และการสร้างภาพจากจิตให้ขึ้นบนอากาส
จะมีการเทพลังงานไปกลับเป็นร้อยๆครั้ง
ในเสี้ยววินาที
อย่างเราๆแค่ไม่กี่ครั้ง
บางคนยังทำไม่ได้เลย
ก็ยังมีคนหลงตัวเองมากมายเลยครับ ๕๕๕

เรื่องแบบนี้ ถ้าเราไม่อยู่ในวิถีบ้างเลย
เราจะหลงตัวเองได้ง่ายมาก
เพราะจะคิดว่าตนเจ๋งแล้ว
กลายเป็นเด็กน้อย กระโหลกกะลา
หลงตัวเอง หลงความสามารถ
ระดับหางอึ่งอ่างแบบนี้ไปเรื่อยครับ

มันมีขั้นมีตอน เกจิท่านไม่อยู่ใน
ฐานะที่จะพูดเป็นสากลได้
เพราะท่านเคารพ
พระพุทธฯอยู่

แต่พูดได้แค่ประมานว่า อย่าไปยึดนะ
อย่าไปหลงนะ มันไม่ใช่ทางนะ
จะมีก็มีไปอต่อย่าไปยึดนะ เน้นปัญญานะ

จะบอกตรงๆว่า มึงมันกะจอกจริงๆไอ้เด็กน้อย ก็เกรงว่าจะไม่เหมาะ ๕๕๕
เพราะคนถ้าหลงตัวเองแล้ว
มักจะรับไม่ได้ กับคำนี้ ขนาด
ไม่สามารถแสดงผลได้ประจักษ์
ก็ยังหลงตัวเองได้อย่างคาดไม่ถึง
เยอะแยะมากมายในสังคมครับ

นี่อาจเป็นสาเหตุ ที่ขนาดท่านที่
สำเร็จระดับจิตธาตุ ยังยกให้ผู้เป็นเลิศทั้งสามภพเป็นอาจารย์
ว่าทำไมท่านถึงมาเน้นเรื่องปัญญาเป็นหลัก
ก็ได้เพราะมนุษย์ไม่ค่อยเข้าใจวิถีธรรมขาติ
และกิริยาปกติของจิต จนไปยึดเป็นเรื่องวิเศษวิโสครับ(เดาเอานะ)


ปล จบนิทาน ขี้โม้ ปนสร้างภาพ
ก็แค่นิทาน พอขำๆ

 

โอโห้ อ่านไป ขนลุกซู่ จากหลังลามขึ้นมาหัวเลยคะ
จะนอนหลับมั้ยน้อคืนนี้ แต่ก็ชอบเหลือเกินคะยิ่งผีผู้หญิงผมยาว ภาพชัดมาในหัวเลยคะ กับที่อาจารย์บอกมาว่าผีมาเต็มห้อง (เจนมองรอบๆห้อง ตกใจความมืดของเงาพัดลม ระดับกลางถึงเกือบมากเลยคะ )

พอพูดถึงผีๆ ชอบมากเลยคะ แต่กลัวอยู่
เจนเลยอยากถามอาจารย์ทั้งสองบ้างคะว่า
ความฝัน ที่เราฝันนี้ มีส่วนที่เป็นการสื่อสารทางจิตมั้ยคะ
เพราะ เจนฝันแล้วเหตุการณ์มันเกิดขึ้น จริง!! จริงจนตกใจ และเสียใจ
เจนฝันว่า พระอาจารย์ที่เคารพ ท่านมรณะภาพ เห็นเหตุการณ์ในงาน เห็นโลงศพสีเงิน เห็นหน้าท่านมีพระธาตุ(เจนเรียกถูกมั้ยคะ)เกิดขึ้นเต็มหน้า จากนั้น ไม่เกิน 5วัน ได้ ท่านจากไปจริงๆคะ

อีกเหตุการณ์ นานแรมสองเดือนได้ ฝันนั่งรถไปกับคนแถวบ้านทั้งที่ไม่คิดถึงคนึงหา หรือสนิทพอจะฝันหา กลับฝันเจอเขา เจนนั่งรถมอไซไปกับเขา และเขาขับซิ่งจะไปเหยียบงูที่ขว้างถนนให้มันตาย แต่เหยียบพลาด งูแว้งกัดที่ขาขวาเจ้แกในฝันนะคะ รถที่เจ้ขับก็คันที่เกิดเหตุจริงในชีวิตจริง
ไม่นานเกือบ1สัปดาห์ แกมาตามสามีแกจากวงเหล้า ขากลับขับรถกลับบ้านดีดี มีสามล้อเมา ขับรถข้ามเลน มาชนใส่แกจังๆ ขาขวาเจ็บ รถพัง เข้าโรงพยาบาล ส่วนสามีแก มาเล่าพร้อมทั้งรู้สึก ดีใจ

แบบนี้ มันเป็นบังเอิญ หรือ อย่างไรคะ แฮๆ ก็มีบางครั้ง ที่ฝันเกิดจริงแต่เล็กๆน้อยๆ เช่นฝันเจอคนนี้ มาหา ตื่นเช้ามา มาจริงๆ แค่บางครั้งเท่านั้นคะ
(ทำไมฝันถึงเลขไม่แม่นบ้างน๊า มีแต่ใกล้เคียง )

 

ลืมบอกไปว่า วงเหล้าที่ว่า อยู่บ้านงานสีดำ งานศพคะ

 

๕๕๕
แบบทั่วๆไปเนาะ
มีเยอะคนชอบเรื่องผีแต่กลัวผี
โดยเฉพาะคนที่ชอบฟังและดูรายการผี ๕๕

มีเยอะคนไม่เชื่อเรื่องผี
แต่ก็ไม่พร้อมที่จะเจอ ๕๕

มีบางคนที่พร้อมพิสูจน์เรื่องผี
แต่มักไปหลังจากที่มีการเคลียร์พื้นที่แล้ว
และทั้งพกอุปกรณ์ป้องกันพวกเครื่องราง พระเครื่องต่างๆ
และท่องคาถาไปด้วย ๕๕๕
แทนที่จะไปคนเดียวและพกเฉพาะอุปกรณ์
ป้องกันคนก็พอ

มีเยอะคนที่แม้ไม่เคยเห็นผี
แต่มีความรู้สึกว่ามันมีอยู่จริง
(นึกภาพกลิ่นตะรด แม้จับต้องไม่ได้
แต่ก็รู้ว่ามันมีอยู่จริงนั่นหละ ๕๕๕)

บางคนญาติตัวเองแท้ๆ พอเสียชีวิต
ดันกลัว ก็ธรรมดาหละครับ
เกิดมาก็โดนฝั่งสัญญาเรื่องผีแบบต่างๆ
ไว้มานาน โตมามันก็ต้องกลัว
ยกเว้นว่า ถ้าไม่รู้ว่าที่เห็นเป็นผี ๕๕

แท้จริงแล้ว พวกดวงวิญญานต่างๆทั่วไป
ที่ไม่ใช่พวกที่เฝ้าสมบัติในป่าลึก
แล้วมีคนจะพยายามไปเอา
และไม่ใช่พวกอสูรกายมีฤทธิ์ที่อยูมาก่อน
จะมีพุทธศาสนา รวมยักษ์บางกลุ่ม
หรือพวกที่อยู่เป็นกลุ่ม
ในป่าลึกที่มียศมีต่ำแหน่งในยุคที่
แย่งหรือหวงดินแดน
ปกติเค้าจะไม่มี กำลังอะไรมาทำให้เรา
กลัวได้ อย่างกลุ่มข้างบนครับ
กลุ่มข้างบนเค้าอยู่มานาน
เค้ามีกำลัง ที่จะแปลงกาย
เป็นอะไรก็ได้ ที่เราเห็นแล้วให้เราปรุงแต่ง
เป็นความกลัวครับ

เพราะความกลัวผีแท้แล้ว
มันเป็นแค่การปรุงแต่งอย่างหนึ่ง
ในระดับเบสิกทั่วไปครับ
ที่บอกเบสิก เพราะมันอยู่ในโหมด
ที่ดึงนามธรรมเข้ามาปรุง
ไม่ใช่รูปธรรม เช่น เจองู เจอเสือ เป็นต้น
อย่างนี้คือกลัวตายเป็นเรื่องหลักๆ
ซึ่งไม่ใช่ว่าจะผ่านกันได้ง่ายๆ

เราสามารถแก้ตรงนี้ได้
ด้วยการทำความเข้าใจซะว่า
เค้าก็เคยเป็นเหมือนเรามาก่อน
เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีกายเนื้อเหมือนเรา
เท่านั้นเอง จะไปคาดว่าจะต้องมาแบบธรรมดา หรือดูดีคงไม่ได้ เพราะมันอาศัย
กำลังบุญในการที่จะสร้างเป็นภาพให้เราเห็นด้วย (เข้าใจนะ เราจะเห็นอย่างไร
มันขึ้นอยู่กับสัญญาในจิตใจเราด้วย)
ดังนั้นแม้แค่เสียงดังแล้วเงียบ
แค่กลิ่น แค่ลมผ่าน แค่ขนลุก แค่เงาดำๆ
แค่แว๊บๆ มันก็เป็นองค์ประกอบให้เรารู้
ในรูปแบบสัญญาอย่างหนึ่ง
เราไม่ควรไปสนใจตรงนี้
ให้อุทิศส่วนกุศลให้ไปเลย
เพราะแค่เงา หากต่อไปเราชำนาญ
ในการเห็นตัด เห็นตัด เราจะพบว่า
เงาดำๆเดียวกัน อาจจะเปลี่ยน
มาแสดงให้เราเห็นได้หลายๆรูปแบบ
ทั้งที่เป็นดวงวิญญาณดวงเดียวนั้นหละ
ตรงนี้เรียกว่า มายาจิต
เป็นกลจิตชนิดหนึ่งนั่นเอง



แต่สิ่งที่ต้องเพิ่ม คือกำลังสมาธิในการข่มความกลัวตรงนี้ ด้วยการฝืนอย่างน้อย
ซัก ๓ ถึง ๔ ครั้ง จิตถึงจะพอมีกะลังต้าน
การปรุงแต่งเรื่องความกลัวได้ของมันเอง
ภาษาง่ายๆคือชิน

แบบส่วนตัวนะ แต่ไม่แนะนำ
เมื่อก่อนชอบไปวัดดึกๆ คือหลังเที่ยงคืน
ตีหนึ่งตีสอง ไปคนเดียว ไปเดินเล่น
โซนป่าช้า เคยลองชวนคนอื่น
แระไม่มีใครไปด้วย ๕๕
มันจะเห็นการปรุงแต่งความกลัว ชัดเจน
แรกๆแอบห้อยพระไปด้วย ๕๕
หลังๆไม่ต้องแระ ตายเป็นตาย
พอเราจัดการเรื่องความกลัวได้
เด่วเราจะชินเอง

โม้อีก ตอนสมัยบวชหลังรับปริญญาก่อนทำงาน วันแรกเลยนะ
ถือเทียนไปเล่ม ไปนั่งข้างหลุมศพเลย
ประมานว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ๕๕
แต่ไม่มีอะไรหรอก

ทางด้านการเดินปัญญา แค่ขนลุก
แสดงว่ามีการปรุงแล้ว สำคัญว่าใจ
เราจะสงบได้เร็วหรือไม่เท่านั้นเอง
นี่ก็ไม่มีอะไรเหมือนกันเรื่องปกติ


อย่างฝันที่เจนเป็น แล้วเกิดขึ้นจริง
มันเป็นอนาคตังสญานอย่างหนึ่ง
แต่เป็นชนิดที่เรียกว่าอย่างอ่อน
ซึ่งสมารถเกิดได้ปกติ
ในคนทั่วไปแม้ไม่เคย
ฝึกอะไรมาเลยก็ตาม
ลำดับประมานนี้ แรกๆมันจะวนในหลักปี
(นึกออกไหมพอไปที่ไหนคุ้นๆเหมือนเคยมา
เหมือนเคยฝันเห็น) แล้วมาเดือน มาสัปดาห์
มาวัน มาชั่วโมง มานาที และมาปัจจุบัน
พวกนี้ปกติมักจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร
จึงเป็นที่มาของคำว่าอย่างอ่อนนั่นเอง
(จริงๆฝันแค่แบบหนึ่งนะ อาจจะฝันปนมีเสียงมาบอกก็ได้ )


เราต้องเฉยๆช่างมัน รอบมันก็จะกลายเป็น
ปัจจุบัน นาที สัปดาห์ เดือน ปี ชาตินี้
ชาติหน้า หลายชาติ โอ้ยจนเบื่อ ถ้าใน
ชาตินี้ข้อดีคือเปลี่ยนแปลงได้ตามเหตุและปัจจัย หากเรานึกย้อนอดีตเล่นๆ
มันจะย้อนได้จนยุคไดโนเสาร์โน้น
ย้อนจนเบื่อ แต่มันพิสูจน์ได้ยาก
ไมเป็นสากล เค้าตะใช้เฉพาะที่เป็นประโยชน์
เช่น หาเหตุที่ทำให้เป็นปัจจุบันในชาตินี้
เพื่อบรรเทาปัญหาและยอมรับซะ
หรือย้อนดูกรรมฐานที่เด่นสำหรับ
แนะแนวทางปฎิบัติ หรือย้อนดูเหตุที่พลาด
ที่ส่งผลให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด

ส่วนการเห็นเลขแม้ไม่เคยฝึกก็มีได้
ความแม่นเป็นตัวชี้วัดระดับ ความโลภ
ในใจเราเท่านั้น ซึ่งมันมีมาตั้งแต่มีกาย
นี้ขึ้นมาแล้ว มากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง

ส่วนตัวเคยเขียน วิธีการปรากฏของ
ตัวเลขไว้ประมาน ๗ ถึง ๘ วิธี
กับการฝึกย้อนอดีต อีก ๕ ถึง ๖ วิธี
แต่ทิ้งไว้ประมานวันสองวันก็ลบทิ้ง
เพราะมันทำให้คนยึดติดได้
เกิดความโลภได้ เพราะน้อยคน
ที่จะย้อนไปดูเหตุที่ทำให้ตนพลาด
และน้อยคนถ้าถูกแล้ว จะไม่ซื้อมากกว่าเดิม
ในครั้งต่อไป. และไม่ได้แค่เล่นพอขำๆ

ส่วนผีสาว ปกติเราจะะสังเกตุที่ขนาดของ
เส้นผมและใบหน้า รวมทั้งการแต่งกาย
และสีผิวจะทำให้พอแยกระดับ ทราบอะไร
คร่าวๆได้
ไหนๆเห็นว่าชอบ ขอโม้เลยแล้วกัน
เช่น ผมเส้นเล็กยาวหน้าคมตาเขียวถ้าจำไม่ผิด ผิวขาวจั๊ว หุ่นเหมือนนางแบบที่ไม่ใช่แบบทรงโต(ทรงโต= หน้าอกใหญ่)ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวนนั้น ในลักษณะ
เจ้าที่ๆอาศัยที่ไม่ใช่ต้นตานีและกล้วย
ขุดขาวบางๆพอมองเห็นข้างในลางๆ๕๕๕
พวกนี้ถ้าชอบชายใด โอกาสที่จะถูกเค้า
ลวนลามสูงมาก ๕๕๕ อย่าซีเรียส
ปล่อยๆไปเหอะ๕๕

อีกพวกผมหนายาวตรง หน้าออกกลมๆ
ไม่รู้ทำไมชอบแต่งชุดไทย ผิวคล้ายคน
ทั่วไป เรียบร้อย สุภาพ แยกดีๆ
ไม่งั้นจะนึกว่าเป็นนางตานีหรือ
นางตะเคียนได้ พวกนี้เค้าถือศีล ๕ นะ
แต่ยึดในวัถตุบางอย่างเลยยังไม่ไปไหน
จะว่าไปเหมือนพวกประกวดนางงามกะทง

อีกพวกพวกขี้งอน ผมหนายาวแต่เหมือนหยักศก ขุดขาวหลวมๆ หน้าไม่เหลี่ยมมาก ผิวมีสีเขียวอ่อนปนบ้าง ข้อดีคือคุยง่าย
พูดรู้เรื่อง

อีกพวกคือแต่งกายคล้ายกัน หน้าตาคล้ายกันมักมาเป็นกลุ่ม ผีสีเขียวอ่อนดูใสกว่าพวกขี้งอน พวกนี้ไม่มีอะไร ประมานว่ามาดูเฉยๆ

ก็มีอีกพอควร เช่นพวกเมืองทับซ้อน พวกพยานาค พวกอาศัยต้นไม้ใหญ่
เอาแค่นี้ก่อน เมื่อยมือแระ ๕๕๕
โม้พอประมาน จะได้โม้ได้นานๆ ๕๕๕

จบเรื่องขี้โม้ตามเคย ^_^

 

ขอบคุณอาจารย์นพมากเลยคะ แบบว่า อ่านไปตื่นเต้น เวลาตื่นเต้น เจนก็จะปวดท้องเบาๆ ขนลุกซู่ แต่ดันชอบซะงั้นเลย
แสดงว่า ที่ฝัน โอกาสเกิด ดันมาพอดี เลยประจวบเหมาะกันกับเหตุการณ์จริง
ส่วนเรื่องผี ถ้าจะให้เจนไปป่าช้าแบบอาจารย์ อาจไม่สามารถ แต่ถ้ามีคนไปด้วยแล้วไม่วิ่งหนีเจน เจนจะไป555 (เกาะย่างปลิง จะไม่ปล่อยมือเลยยยย)
อาจารย์ มีเรื่องผีอื่นๆเล่าอีก เล่าเลยนะคะ ถ้านิ้วไม่ปวด มือไม่บวม 555 แบบว่า เจนจะเป็นแฟนคลับเลย เกาะสถานการณ์ ลี้ลับ
เรื่องฝันเห็นเลข ฝึกได้ด้วยหรอคะ ~~~ (ตาเป็นประกายเลยคะ)
แต่พออาจารย์ว่ามาถึงกิเลส ก็จริงนะคะ พอถูกครั้งนี้ ครั้งต่อไปกับเหลิงตัวเอง จัดหนัก เจ็บปวดเลยคะ

 

เรื่องผีไว้เจอหรือสงสัยก็ลองมาถาม
เพราะปกติจะไม่เล่าก่อน
ถ้าไม่มีเหตุ

อีกเรื่องเรียกว่า การเห็นตัวเลข
ไม่ใช่ไปฝึกเพื่อให้เห็นเลข
หรือเพื่อเอาเลข หาเลข ทำเลข
อะไรนะ แบบนี้ไม่ใช่แนว

ซึ่งการเห็นตัวเลข
มีหลายวิธีในการปรากฏเป็นตัวเลข
ให้เราเห็น
มันไม่ได้ต้องฝึกอะไรหรอก
กำลังในการเห็นก็อารมย์
ประมานเท่าที่เจอผีนั้นหละ


จะตรงสุดและมา ๓ ตัว
คือเลขที่แบบที่ลอยมาในแบบ
โค้งๆทางด้านขวา เป็นแท่งสีเขียวใสไม่มาก
และลอยมาทีละตัว
แต่มันจะสลับกันไม่ตรงตามลำดับที่ออกแป๊ะ
หรือต้องเพิ่มลดในนั้นแค่ตัวเดียว
ถ้าการปรากฎแบบอื่นๆ
ไม่ว่าจะมีใครบอก จะรู้ ๒ ตัว
แต่จะไม่บอกบนหรือล่าง
นี่คือแบบทั่วๆ

ยกเว้นกรณีที่ เจ้าที่แถวที่เราอยู่
ชอบพอกัน ท่านมาบอกเป็นอีกกรณี
ที่ไม่รวมในวิธีทั่วไปแบบข้างบน

พอขำๆ เล่าได้ เอาพอฮาๆ
เพื่อความบันเทิงของชีวิตพอ ^_^

 

แสดงว่าเจ้าที่ ที่เจนอยู่ ท่านคงแนะแนวให้พอสมควรคะอาจารย์
เจนฝันถึงเลขบ่อยเหลือเกิน จะว่าไปก็ไม่ได้บ้าเลขขนาดนั้น แต่สถานการณ์พาไป (เจนเปิดร้านกาแฟโบราณ สมาชิกลูกค้ากิตติมศักดิ์หลายคน คอหวยทั้งนั้น แถมร้านเจน ใกล้ร้านขายหวยอีก เอาเข้าไป)
ทุกๆวัน ยิ่งใกล้วันหวยออก ชอบมีคนมาถาม
ไอ้เจน ฝันมั้ย งวดนี้ตัวไหน ~~~ เจนก็จะโกหกตัวเลขไปก็ไม่กล้า ก็ต้องตอบตามที่ฝันถึง และเฉียด แต้มเดียวทุกงวด คนช้ำเพราะเจนก็เยอะ แต่ก็มิวาย กลับมาถามเจนทุกงวด
โดนส่วนตัว เจนจะฝันถึงมากกว่าคะอาจารย์ ป็นเลขมาเลย มีแค่ครั้งเดียว ที่ถูกตรงๆ มีผู้ชายแก่ อายุเกิน50 ขึ้น มาบอก ถูกหวย นี้คือการซื้อหวยใต้ดินครั้งแรกด้วย จากนั้นก็มีมาแบบปริศนา คนแก่ ชอบมาแก้ไขให้(ตีเลขจากสิ่งนั้นๆ5555)
เจนอาจเป็น จุดศูนย์กลางของคนแถวนี้เลยก็ว่าได้คะ 555
โดยส่วนตัว เจนจะฝันถึงพญานาค งูใหญ่ พระ ฤาษี บ่อยมาก แถบจะ ใน1เดือน ฝันไป20วัน ตั้งแต่ มาอาศัยที่บ้านหลังปัจจุบันนี้
มีบ้างที่ฝันถึง อาวุธแปลกๆ มีสามง่าม มีธนูทองบนท้องฟ้า
เจองูสีทองตัวใหญ่ มากกก มว๊ากกกก เลย มี4ตา
ถ้าพูดเรื่องฝัน จิตนาการเจนคงเยอะ ฝันทุกวัน แฮๆ

 

ที่เล่าพอขำๆเพราะห่างหาย
เรื่องเห็นเลขมานานแระ
หลังๆจะใช้
วิชาทิพยคิกขุมโนกิ๊กก๊อกเดาสญานเอา
ซึ่งไม่ตรงซักที ๕๕๕

แล้วแต่เจ้าที่จริงๆนะ
ที่บ้านล่าสุดพอดีท่านออกแนวธรรมะ
แต่งชุดรับปริญญาโน้น
ป่านว่าเท่ห์หลาย
ลอยไปลอยมา หน้าตายิ้มแย้ม
ปะหนึ่ง นายาเทศบาล
มาเยี่ยมประชากร
(แอบนินทา ๕๕)
ท่านไม่ชอบเรื่องแนวๆนี้
ดังนั้นต้องออกมาข้างนอกอย่างเดียว

เมื่อสิบปีก่อน ย้อนอดีตไม่ใช่ว่าแก่นะ
จะอ้างเข้าประเด็นในอนาคต
เคยแบบว่าหลงตัวเองนะ
ไปวัดชื่อดังที่สระบุรี ที่มีชื่อถ้ำๆ
ท่านที่นั้นมาบอก
ยังไปเถียงท่านด้วยนะ ว่าไม่ใช่หรอก
ต้องออกตัวนี้ ๕๕๕ สุดท้ายออกที่ท่าน
บอกนั่นแระ ๕๕๕ นึกความเชื่อมั่นและ
หลงตัวเองพอออกไหม ๕๕๕

เหตุจริง เอาตามวันเกิด เอาตามดวง
ตามตำราจะบอก ซื้ออย่างไรก็ไม่ถูก. ๕๕๕
เลยลองดูว่า คนเรามันน่าจะเลือกวิธีให้ตนเองได้เองไม่ใช่ตามตำรา
พอถูกบ้างแบบตรงๆ เลยเลิกๆเล่นๆ
เอาแค่พอขำๆ เอาไว้คุยกับแม่ค้า ๕๕๕

เรื่องแบบนี้อยู่ที่การสะสม
คนจะถูกตีอย่างไร คิดอย่างไรก็ถูก
แต่คนไม่ถูกจะตีความเก่งหลังจาก
ออกไปแล้ว ๕๕๕

แก้เคล็ดด้วยการใส่เหรียญอย่างน้อย
จำนวนมากกว่าอายุตนเอง ๑ ปีเด้อ
ที่ตู้บริจากที่วัด
อย่างน้อยเหรียญบาทเด้อ บ่ แมน
เหรียญสลึง ๕๕๕


อันนี้โม้อีก ตามไปโม้ในฝันให้ ๕๕
เรื่องอาวุธ
คงเคยอ่านที่เล่าให้ฟังแล้วเนาะ
ตรี มักจะมาคู่กับพระฤาษี
เพราะใช้ในการดึงยา
จากท่านเหล่านั้นมารักษาคนได้
(แค่บางส่วน)

ธนูทองเป็นเอกลักษณ์
ของลูกธนู ที่วิ่งออกจาก
คันธนู(ที่เป็นพยานาค)
ชนิดไร้สาย จะมีสายก็ต่อเมื่อ
จะใช้งานเท่านั้น

คล้ายๆงู ๔ ตาเป็นอะไรที่จะอยู่กับท่าน
ที่เค้าว่าเป็นเอก ทางธาตุทอง
หน้าตาคล้ายๆ คนที่เล่น วูฟเวอรีน
คือตาโตๆ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ผมยาวๆ
แต่ว่าหน้าตาดูใจดี แต่งตัวคล้ายฤาษี
ชุดจะแนวๆนั้น แต่ไม่ได้เป็นลายหนังเสือนะ

ภาวนา คาถาเงินล้านในใจ
ท่องไปเรื่อยๆให้หลับไปเลย
ไม่ต้องสนใจวรรคตอน
ในท่านอนนี่หละ
เด่วซักพักเลขใสๆ
ก็วิ่งมาให้เห็นทางขวาแล้ว ๕๕๕
เล่าให้ฟังเฉยๆนะ


จบแระ การโม้ปนนิทาน พอขำๆเด้อ

 

อร๊าย~~~ขอบคุณค่าอาจารย์นพ บอกเจนทุกเทคนิคอาชีวะเลย
ดีใจมากๆเลย(ขอท่านคืออาจารย์สอนวิชาให้แก่ข้าได้ไหมเจ้าคะ………จริงจังเด้หนิ). โปรดรับข้าเป็นศิษย์ด้วยเทิด
มานึกขำปนกลัวนิดๆ ตรงที่อาจารย์บอกเรื่องเจ้าที่ ที่บ้านของอาจารย์ นึกภาพออกเลยชุดรับปริญญา ลอยไปลอยมาแล้วมายิ้มให้ ถ้าเจนสามารถเห็นได้แบบอาจารย์บ้าง ช่วงแรกคง 100คูณ100 วิ่งจนผอม เพิ่มเติมคือหอบขึ้นแน่ๆ
เจนเคยนึกอยากฝึกตัวเองอยู่นะคะ แบบลบความคิดกลัวๆออกไป
แต่พอมืดทีไหร่ จินตนาการพุ่งปรี๊ด เรื่องเจ้ผีเฮียผี ผุดมาเป็นหย่อมๆ แถมไม่เข็ด เปิดกระทู้ผีผีอ่านต่อเฉย งึดใจตัวเองอยู่คะ แต่ก็กลัว ผ้าห่มนี้ต้องมิดตัว 55555

เรื่องงูสีทอง 4ตา เจนกำลังจิตนาการภาพตามคะ แต่นึกไม่ค่อยออก แฮ่
ส่วนคาถาเงินล้าน ~~~นี้แหละแนวทาง แบบเพื่อให้คุยกับคนแถวนี้รู้เรื่อง
แต่เหมือนอาจารย์จะรู้ใจจังเลยคะ เรื่องการภาวนา แบบเจนชอบนอนภาวนาจนหลับไปเลย
ท่านคือ อาจารย์โยดา ใช่หรือ ไม่ อิอิ

 

๕๕๕๕ ทั่วๆไปไม่มีไรหรอก
ที่เล่ามาทั้งหมดมันเป็นเรื่องในระดับ
ปกติธรรมดาในวิถีจิต
ของทุกคนจะเจอได้ปกติ
“ธรรมชาติของมันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างแยบยล”
คำว่าแยบยล ต้องไปตีความออกมาเป็นการวางตัว การปฎิบัติด้วยตัวเราเอง
เรียกง่ายๆว่า ความเนียน

ปกติแล้วไม่เคยเป็นอาจารย์ใคร
ทางด้านปฎิบัติเน้อ บอกตามตรงว่า
ไม่เคยมีเรื่องนี้อยู่ใน DNA
ไม่เคยคิด ปกติถ้าคนรู้จักกัน
ก็จะให้เรียก กัน ธรรมดา
จะ พี่ ป๋า ลุง อา ตา น้อง แล้วแต่จะเรียก
ที่เค้าเรียกอาจารย์ เพราะเค้าเรียกกันเอง
คงไปห้ามไม่ได้หรอก
เพราะปกติเป็นแค่คน ธรรมดาคนหนึ่ง
ที่ไม่ได้เก่ง ไม่ได้ดี ไม่ได้มีธรรมม้ง
ทำมะ อะไรกับเค้าหรอก
แต่ว่าจะเท่ห์เล็กน้อย ๕๕๕ (โม้)
ก็แนะๆ พูดไป
พอฮาๆ พอบันเทิง
ตามที่พอจะ
มีประสบการณ์มาบ้าง
ก็แค่นั้น ไม่มีอะไรหรอก


อ.โยดา โอ้นั่นหละดับจิตธาตุเด้อ
วิถีจิตของระดับจิตธาตุ
ตอนนี้ยังไม่รู้เรื่องอะไรได้
พอที่จะโม้หรอก มีความรู้ที่จะพูด
ได้มีประมาน ๐.๐๑% ได้มั่ง ๕๕๕

อายเค้า อย่าเอาไปเกี่ยวหรือข้องแวะด้วยเน้อเด่ว เจ้าที่ท่านจะแอบฮาเอา ๕๕๕

การเห็นอย่างที่บอก ระดับเขตอาศัย
เดียวกันกับโลกเรา สามารถทำให้เราเห็นได้
ด้วยสองตานี่หละ เพียงแต่เราอาจจะเห็นได้
แบบไม่เจตนาหรือเจตนาเท่านั้นเอง
และมันก็เป็นวิถีปกติธรรมดาที่เกิดได้
กับดวงจิตทุกดวง มันทำไม่ยากหรอก
จะฝึกเอาก็ได้ หรือ
ถ้าจะเห็น เอานิ้วจิ้ม ไม่กี่วิก็พอเห็นได้
ปัญหาคือ เข้าใจธรรมชาติ
ตรงนี้หรือยัง ๕๕๕

สมมุติว่า ถ้าไปเจอภูมิที่ท่านมีฤทธิ์มาก
แล้วท่านปรากฏแบบฟูลออฟชั่นเลย
ต่อให้เคยใช้งานทางจิตได้มาก่อน
หรือมีกำลังจิตมาบ้าง
ก็อาจจะทำให้เรา วิปลาส เสียสติได้เลย
เพราะตัวกำลังที่เป็นบารมี(บารมีนะ)
ในจิตดวงนั้นที่จะแผ่มากระทบ
กับตัวจิตเรานั่นเอง

ดังนั้นควรค่อยๆเป็นค่อยๆไป
เห็นก็ช่างไม่เห็นก็ช่าง
เพราะบอกแล้วมันเป็นวิถี
ของจิตปกติที่เกิดขึ้นได้ทุกดวง



และอย่างที่บอกว่าปกติ
เค้าจะไม่ได้คิดอกุศลอะไรกับเรา
เพียงแต่เราต้องฝึกตัด
การปรุงแต่งจนการปรุงเป็น
ความกลัวมันน้อยลงในเรื่องนั้นๆ

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับงูหรือท่านนั้นๆ
ยังไม่ต้องสนใจอะไรตอนนี้
เพราะรู้ก็ได้ ไม่รู้ก็ได้
และไม่ต้องไปอยากรู้อะไร
ถ้าจะรู้ก็ค่อยให้รู้เองด้วยตัวเรา
จะดีที่สุด

ส่วนทริคไม่มีอะไรหรอก
ถามมาตอบได้ก็ตอบ
ตอบไม่ได้ก็บอกไม่รู้
แค่นั้นไม่แปลก
มันคล้ายเส้นผมบังภูเขา


เหมือนเรื่อง พ่อเป็นชาวเขา
มีลูกเรียนจบ ดร.ทางดาราศาสตร์
แล้วไปกางเต๊นท์นอนบนภูเขา
ในเต๊นท์ เดียวกัน

ตื่นมากลางดึกพร้อมกันทั้งคู่
ประโยคแรกที่พ่อถามลูก
ลูกเห็นอะไรบ้าง?

ลูกตอบเรื่องดวงดาว เรื่องระบบสุริยะ
เรื่องจักรวาล จานบิน มนุษย์ต่างดาว
กำเนิดจักรวาล พลังงานโน้นนี่นั่น ฯลฯ
พ่อทนฟังลูกอธิบายจนจบ

พ่อก็เลยถามลูกใหม่อีกครั้งว่า

มึงเห็นเต็นท์ไหม? ว่ามันหายไปไหน?
๕๕๕๕๕

ทริคมันได้มาจากการรู้จักสังเกตุ
อะไรแนวๆนี้ นั่นหละ
อย่ามองไกลไป ๕๕๕


จบ นิทาน ปนโม้อีกตามเคย

 

คุยกับอาจารย์สนุก แอบอ่านไป ยิ้มไป คะ
เต็นท์หายนี้คือ ตบยุงกันสนุกแน่นอนคะ นอกจากพ่อลูกจะตบยุง ดีไม่ดี พ่อตบลูกเอง
เจนก็คงต้องฝึกลบ ความปรุงแต่งทางจิต ที่ชอบคิดไปก่อนแล้วกลัวจนปวดท้อง
ถ้าสามารถฝึกเห็นแบบอาจารย์ได้นี้ (เจ้าที่ท่านคงลอยไปลอยมา ยิ้มมาเบา ๆ ) เจนวิปลาสแบบในบุพเพสันนิวาสไม่พอ วันพรุ่ง อาจมีการเดินยิ้ม เหม่อคนเดียว
เจนนี้ก็ชอบจั๊ง~~~ อ่านเรื่องผีๆละมาหลอนเอง

แต่ ที่เรียกอาจารย์ เพราะเคารพอาจารย์คะ อาจารย์เก่ง เจนเคยถามอาจารย์ไปครั้งนานแล้ว แต่ลืมรหัสล็อคอินอันเดิม จนต้องมาสมัครใหม่
อาจารย์ชอบบอก แบบไม่อยากจะบอกแต่ก็บอกนะ (เออ เจนงงเขียนเอง งงเอง) แบบว่า อารมณ์ประมาณว่า สำหรับเจน ต้องอ่านพิจารณาสองสามรอบ ค่อยเข้าใจ แบบ อ่อ~~~~~~
เรื่องงู เจนหาคำตอบได้ละคะ ว่างูประจำท่านใด ว่าท่านคือท่านปู่ฤาษีท่านใด แฮร่~~~(แต่จะถูกไม่น้อ)
บางทีการแก้ไขปริศนาที่อาจารย์ให้มา มันท้าทายดีคะ หาข้อมูลไป ตื่นเต้นไปกับคำตอบ ปวดท้องไปเบาๆ ขนลุกขนชัน จะว่าปวด… ก็ไม่ใช่ แต่อาการมันคล้ายๆคะ เจนจะนอนภาวนา ท่องคาถาเงินล้านบ่อยๆ ส่วนมากเจนท่องแต่ อิติปิโส
บางวันกลัวผี ท่อง ปะโตเมตัง หลับยังฝันเห็นผี อารายเนี๊ย~~~

 

ปะโตเมตัง
ปะชีวีนัง
สุขโตจุติ
จิตตะเมตะ
นิพพานัง
สุขโตจุติ

นะโมฯสามจบ
นึกถึงท่านพระยายม
ท่องคาถาข้างบนข้างหู

ถ้าคนที่เสีย
ชีวิตไม่เกิน ๒ ชั่วโมง
และร่างกายยังพอใช้งานได้อยู่
และเรียกชื่อดังๆสามครั้ง
เช่น นาย ก จงกลับมา
อาจจะได้วิ่งป่าราบได้ในช่วงแรกๆ
มีคนทำได้ผลครั้งแรกเมื่อ ๓๐ กว่า
ปีที่ผ่านมานี่แบบใช้คำพูด

ถ้าแบบพลังงาน จับแกนพลังงานที่ล้ม
และตั้งเรียงใหม่จะพออยู่ต่อได้
แต่ไม่รู้นานเท่าไร ท่านที่อ้างอิง
องค์ปัจจุบันข้างบน
ท่านให้มาตอนไป
ทำอะไรบางอย่างที่มี
ประโยชน์ต่อคนอื่นๆมา

ส่วนบทคาถาด้านบน
ใครจะใช้แนวไหนไม่ทราบ
สุดแล้วแต่

ตานั่นไม่ได้ฝึก มันเป็นแค่ผล
ของสมาธิและการจะชัดไม่ชัด
มันเป็นผลจากการเดินปัญญา
ความสามารถทางตา
มันจะมาพร้อมหูเสมอ อยู่คู่กัน
เหมือนไก่กับไข่ ๕๕

จบนิทานปนโม้อีกแระ

ง่วงงงงง

 

มีท่องบทปะโตเมตังด้วยหรอคะอาจารย์ เพื่อเจอคนที่ตายแล้วด้วยหรอคะ
ขนลุก เลย
เจนใช้ท่องเวลากลัวผีมากๆ
ถ้ามามีวิ่งป่าราบแน่นอน

 

เผื่อเอาไว้ช่วยญาติพี่น้องตัวเอง
ถ้าพื้นมา จะได้ถามรหัส ATM
หรือเซนต์โอนทรัพย์สินก่อน ๕๕๕
ล้อเล่นเด้อ

 

อาจารย์ชี้แนะลูกศิษย์อีกแล้ว เจนคง ท่องเพื่อถามว่า ออกไหนดีน๊า งวดนี้
ถามไป สั่นไป ฉี่แตก กว่าจะถามได้ครบ 3ตัวตรง
ถ้าเขาพาพวกมาเยอะ งวดนี้ไม่ถาม วิ่งหอบแน่ๆก่อนเลย

 

เรื่องที่ 1 "เรื่องของผีๆ"
นอกจากท่านอาจารย์นพเล่าเรื่องผีๆ ยังสอดแทรกสาระหรือชี้แนะทริคที่เป็นประโยชน์มากมาย(คือผมอ่านแล้วเป็นเหตุเป็นผลจริงๆ)
...ส่วนตัวผมไม่อยากเห็นผีเลยแม้แต่นิดเดียว เงาดำๆเทาๆก็ไม่เอานะครับ แต่มักจะเฉียดเห็นผี เพราะเป็นคนชอบท่องเที่ยวนอนตามโรงแรมทั้งเก่าใหม่ สะสมประสบการณ์ด้านนี้มากพอสมควร
...ว่างๆจะเล่าให้ฟัง

///แต่วันนี้มาคุยเรื่องหวยๆก่อน///
(ตามข้างล่างนี้)

...น่าจะกว่า 80%ที่คนไทยชื่นชอบเรื่องหวยๆ
แต่ผมไม่ได้ "บ้าหวย"
และคงไม่ใช่ "คอหวย"แบบไม่เล่นแล้ว*ลงแดง*


...ข้างล่างนี่ฟังชาวบ้านเล่ามา
และผมเดาเอาจากประสบการณ์สดๆร้อนๆว่า

"พญานาคน่าจะมีส่วนที่ทำให้ผมถูกหวยติดต่อกันถึง 4 งวดซ้อนๆ"

นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฟลุ๊คเช่นนี้
แม้ถูกไม่มาก...แต่ขอให้ถูกติดต่อกันเถิด
...ผมเคยตาร้อน(ดีใจ)ใส่ภรรเมีย
เพราะแกถูกหวยบ่อยมากๆ แบบติดต่อกัน 6-7งวด
ที่สำคัญเว้น2-3งวด ถูกอีกแล้วออเจ้า
...นี่คือโชคลาภที่ติดตัวแกมาแต่เกิดมั่ง
(ผมเดา)

(แต่เรื่องโชคลาภแต่ละบุคคลนี้คงต้องรอท่านอาจารย์นพมาช่วยเสนอแนะวิธีการที่ทำให้เกิดโชคลาภ)

...ส่วนตัวผมแทบไม่เห็นโชคลาภทางนี้เลย
ผมจึงไม่ติดทำเนียบคนบ้าหวยไง
นานทีปีหนจึงจะได้เชยชม*ลาภลอย*
...ปีละหนก็รู้สึกโชคดีที่สุดแล้วเดอ

แต่ที่น่าแปลกใจหนักหนาคือ...
ตั้งแต่ผมสนใจเรื่องของพญานาค
ถึงกับลงกระทู้ "กระแสพญานาค....."
โชคลาภเริ่มรู้สึกเข้าข้างผมมากขึ้น
...ในเกือบหลายๆเรื่อง
นี่ขนาดผมยังไม่เว่อร์เหาะตามกระแส
...ที่ต้องนำองค์พญานาคราชมาบูชาที่บ้านนะ

*แหะๆๆ เคยคิดอยู่หลายครั้งเหมือนกัน*

(ออกไปทำธุระก่อนนะครับ
เดี๋ยวประมาณ 9-10 โมงมาต่อนะครับ)

 

พญานาคกับโชคลาภเป็นของคู่กัน
ผู้ที่ไปกราบไหว้พญานาคตามสถานที่ต่างๆ
จุดประสงค์คือ "ขอให้มีโชคมีลาภ"
พอเข้าไปในสถานที่
ไม่พ้นที่จะมองซ้ายขวาหน้าหลังหาเลขเด็ด
แต่....ที่ถูกรางวัลใหญ่ๆก็มีข่าวบ่อยๆ

...สำหรับผมไม่เคยสักครั้ง
ที่ตั้งใจเดินทางเพื่องานเฉพาะกิจนี้
แม้ประจักษ์แก่ตัวเองว่าถูกหวย4งวดติดๆ
ระหว่างที่ลงกระทู้กระแสพญานาคนี้
และพบโชคดีในเรื่องอื่นๆด้วย

...แต่ก็ต้องยอมรับว่า
ตอนนี้ผมมีความคิดที่จะไปกึ่งท่องเที่ยว...
"เกาะดอนสวรรค์" หรือเกาะพญานาค
...เหมือนมีใครส่งสัญญาใจแปลกๆมา
555 นั่นมันแค่คิด+แปลกๆ


(วันนี้ขอเล่าความฝันที่เป็น*หวย*ก่อน)
หวย หวย กับ ตัวเลขและความฝัน
ส่วนความฝันที่กลาย*เป็นเรื่องจริง*
...เคยเกิดขึ้นหลายครั้งเช่นกัน
...ถ้ามีเวลาจะเล่าให้ฟังในวันหลัง)


"แม้ผมไม่ใช่นักล่าตัวเลขจากความฝัน"
(แต่อาจเป็นทริคสำหรับนักล่า)


....จำได้ว่าตอนที่ผมอยู่ในช่วงวัยรุ่น
ผมได้ฝันว่า "ผมนำจักรยานมาพับเก็บ
(ตอนนั่นใครจะคิดว่าจักรยานพับได้จริง)
เมื่อพับแล้วใส่ลงกระเป๋าเจมส์บอนหิ้วไปมา"
ผมฝันสั้นๆแค่นี้แหละครับ
(ฝันง่ายๆสั้นๆ แต่ไง"แม่นจัง")
(ที่สำคัญจักรยาน"พับได้"กลายเป็นจริงในวันนี้)
ตื่นเช้าไปเล่าให้คุณพ่อฟัง...
คุณพ่อปกติเป็นคนไม่ชอบเล่นหวย
เพราะท่านชอบนั่งสมาธิกรรมฐาน
เช้าและก่อนนอน..ครั้งละเป็นชั่วโมง

แต่ท่านกลับบอกว่า...

"ถ้าฝันอะไรแปลกๆที่เป็นไปไม่ได้
ให้ค้นหาตัวเลขจากในฝัน
ถ้าในฝันไม่มีเลข
ให้ไปค้นหาจากหนังสือแดงๆทำนายฝันของมาเลย์"
(ผมเดาว่าหนังสือนี้มาเลย์มีมาก่อนไทย)

ผมก็แค่ฟังเฉยๆ แต่ไม่มีเบี้ยแทงหรอก
เพราะเป็นเด็กไม่เคยเล่นหวย
...ผ่านไปกว่า 40 ปี แต่ที่จำได้ทุกวันนี้
...เหตุเพราะหลังหวยออกวันสองวัน
ผมได้หยิบหนังสือทำนายฝัน
เพื่อต้องการพิสูจน์เรื่องที่คุณพ่อพูดไว้
ปรากฏว่าเลขจักรยานในหนังสือ
ตรงกับเลขท้าย 3 ตัวแป๊ะๆเลยจร้า


(เดี๋ยวมาต่อครับ)

 

...จากความฝันแปลกๆ
จักรยานพับได้เมื่อ 40 ปีก่อน
กลายเป็นนวัตกรรมชิ้นหนึ่งในพ.ศ.นี้


(ข้างล่างนี้คือความฝัน
ที่เพิ่งฝันเมื่อปลายเดือนเมย.นี้)
...จะเข้าข่ายความฝันแปลกหรือไม่
ผมไม่ฟันธง และไม่แน่ใจนะครับ
ท่านผู้อ่านพิจารณาเองก็แล้วกัน
...อยู่ที่มุมมองครับ

...ก่อนหวยออก 2 วันผมฝันว่า...
ผมได้จับสุนัขมาตัว
ร่างมันผอมโซ มีแค่หนังบางๆ
...ติดกระดูก ดูแล้วน่ากลัวมาก

...ฝันสั้นๆแค่นี้แหละตื่นแล้ว
ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับความฝันนี้
เพราะคิดว่าไม่ถึงกับเข้าเกณฑ์ความฝันแปลกๆ


...เช้าก็ขับรถออกไปธุระ
พอถึงปากทางเจอฝูงหมาไล่รุมผู้หญิงที่นั่งท้ายมอไซด์
แต่ยังโชคดีที่เขาผ่านวิกฤตไปได้อย่างฉิวเฉียด

...บ่ายๆกลับมาถึงบ้าน
ก็ลองเปิดหนังสือทำนายฝันมาดูเล่นๆ
คือผมเอะใจที่เมื่อคืนฝันถึงสุนัขผอมโซ
แต่มาเจอสุนัขไล่ล่าคนตอนเช้า

เลข...85 คือสุนัข
ผมไม่สนใจที่จะซื้อเลขนี้
...แต่ที่สุดมันออกมาตรงๆเลยแหะ
เขาเรียกว่า"มีเลข" แต่ "ไม่มีลาภ"
เหตุที่ไม่สนเลขนี้เพราะลังเลว่า...
อาจไม่เข้าข่ายความฝันแปลกๆเต็มร้อย
และ 85 เพิ่งออกมาหมาดๆข้ามงวดเอง
ซึ่งผมถูกแป๊ะๆไปแล้วจร้า...งวดโน่น
มาจากอายุลป.เปลี่ยนที่เพิ่งมรณะภาพ
...ท่านเล่าเรื่องพบพญานาคด้วยตนเอง
สนุกและฟังไม่รู้เบื่อ
ผมเวียนฟังถึง 3 รอบ...ว่างๆจะฟังอีก

*เพราะพญานาคนั่นแหละครับ*
ที่พาผมมารู้จักอริยสงฆ์ท่านนี้




//ไว้โอกาสหน้าผมจะเล่าความฝันที่เกิดขึ้นจริง//
...แล้วมาเห็นในเช้าวันรุ่งขึ้นด้วยตาตนเอง
**เรื่องนี้สยองครับ**


(ส่วนเรื่องล่าตัวเลขจากความฝันแปลกๆ
ยังเคยเกิดขึ้นกับผมหลายครั้งครับ
...แต่เอาแค่นี้ก่อนนะครับ


5555 อย่าเชื่อผม
(แต่...เชื่อไม่เชื่อ อย่าลบหลู่)