ความหมายของจิตคือพุทธะเสมอเหมือนกันที่วิมุติ (พระสูตร)

ยอมรับครับว่ากินรังแตนมาจริง ๆ

มันจะมี หรือ เคยมี มันก็ไม่ใช่สาระอะไร ที่จะมายึด
บอกเอาไว้เลยว่า เรื่อยงพวกนี้มันไม่เที่ยง
กำลังสมาธิสูง คุณก็มีได้ แล้วหลุดพ้นได้ไหม?

คนแอ๊บแบ้ว ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยรู้อะไรนะครับ

ปวดหัว ตอบแล้วก็ทิ้ง ๆ จะมานั่งเฝ้าอะไร
ขอตัวไปนอนต่อ

แต่ถ้าเกี่ยวกับสติทางธรรมผมมันอ่อนอันนี้ยอมรัย
เพรราะพรุ่งนี้ว่าจะไปกินกาแฟสตารบัคอยู่

 

คือ ไม่ได้กล้าอ่ะไรหรอกครับ

แต่เป็นคนชอบพิสูจน์สัจจะธรรม แบบพระอานนท์(ที่เพิ่งอ้าง)
ผมแนวท้าพิสูจน์ครับ ถ้าเจ๋ง ยอมรับ ถ้าไม่จริงก็จะได้รู้กันไป
ไม่กลัวเสียหน้าอะไรทั้งนั้น เขาทำได้จริง เราซูฮกให้
ความอยากรู้ มันนำหน้า ไม่เกี่ยวกับเรื่องเสียหน้า
ขอให้เข้าใจ
เหมือนเรื่องหมูป่า ไม่กลัวเสียหน้า

เพราะทุกอย่างมันคือความรู้....

ผมมีแวว แบบเดียวกับกับพระอานนท์ ที่ผมอ้างไหมครับ(ที่โดนด่า)?

 

คุณศิษย์โง่ V2
เด่วจะจัดให้นะ
ในฐานะที่ชอบเอาท่านมาอ้างนะครับ
และก็โทษฐานการเสนอหน้า
แบบไม่เจียมตัว แถมคุยฟุ้งไม่ได้
ดูไม่ได้เจียมความสามารถตัวเองเลย
และยังสำคัญตัวเองผิดๆ

ไม่คิดเลยว่าจะกล้าใช้คำพูดว่าผมมีแวว
แบบพระอานนท์ที่อ้างไหม
แสดงว่า มั่นใจตัวเองแบบ
ไม่ได้ย้อนดูพฤติกรรม
และความสามารถตัวเองเลย
ทั้งๆที่ก็รู้ว่า พระอานนท์เป็นเลิศด้านไหน
นี่หละวิบากกรรมของการชอบอ้าง



๑.คุณ ศิษย์โง่ V2
คุณไม่ได้เศษเสี้ยวพระอานนท์จริงๆ
และก็ยังไม่มีแววทางนั้นหรอกครับ

เอากำลังสติพื้นๆ
ในการอ่านแล้วทำความเข้าใจตัวอักษร
เพียงแค่ไม่กี่บรรทัด.
ยังต้องให้ผม ก๊อบปี้ ข้อความเดิมๆ
มาให้อ่านซ้ำอีกรอบ
ไม่น่าจะกล้ามาถามว่ามีแววไหมนะ
คิดว่าคงเป็นมุขฮาคุณแล้วกัน


เพราะท่านที่มาแบบพระอานนท์
ปกติถ้าอ่านหนังสือ ๑ เล่ม
หนาประมานซัก ๒๐๐ หน้า
จะมีความสามารถจดจำอักษรได้
เกือบทุกหน้า รู้ด้วยว่าเรื่องนี้
อยู่หน้าไหน บทอะไร
อย่าคิดว่าไม่มี เพราะส่วนตัว
เคยเจอมาแล้วตัวเป็นๆ
บุคคลประเภทนี้มีอยู่
และ จริงๆมีความสามารถ
มากกว่านี้เยอะ แต่พูดถึงท่านนี้
แบบถ่อมตัวเล็กน้อย
ตัวเองอ่านไม่กี่บรรทัด
นอกจากไม่รู้เรื่อง
ยังตีความผิด แถมยังฝอยไปเรื่อยเปื่อย
และแสดงความคิดเชิงอกุศลอีกต่างหาก
ยังกล้าถามว่ามีแววไหม


๒.จำไว้นะ คนเราทำอะไรได้
ตัวเราเองที่รู้ดีที่สุด. และไม่จำเป็นต้อง
ไปอวดหรือแสดงเพื่อพิสูจน์
ให้ใครยอมรับหรอกครับ
ยกเว้นว่าคุณจะเป็นพวก
อยากดี อยากเด่น อยากดัง

และการคุยว่าตัวเองไม่ใช่ว่า
จะไม่รู้เรื่องอะไรเลยนั้น
นี่ก็แสดงว่ามั่นใจตัวเองพอตัว
ถ้าเก่งจริงทำไมไม่รับคำท้า
แสดงความสามารถตัวเองหละ
จะมาให้ผมไปทำให้ดูเพื่อ??

เก่งไม่เก่ง
มันบอกได้จากการถ่ายทอด
และการแสดงให้ดูได้นะครับ
การฟุ้งคุยเฟ้อ เด็กที่ไหนก็พูดได้
เราไม่ได้ วัดกันที่ปากนะครับ

จะยกตัวอย่างให้พอเข้าใจ
เช่น คุยโม้เรื่องกสิณ พูดไปเรื่อย
อ้างรู้จักคนโน้น คนนี้ อ่านตำรานี้
เจอประสบการณ์แบบนี้ เคยทำแบบนี้ได้
กิริยาแบบนี้เค้าเรียกว่า ขี้โม้
กระโหลกกะลา.

คนทำได้
เค้าไม่พูดมากหรอก
เค้าทำให้ดูเลย. ดังนั้น
กรุณาอย่ามาคุยฟุ้ง ว่าตนรู้อะไร
ถ้าไม่มีความสามารถแสดงหรือทำให้ดูได้
ประเด็นนี้เข้าใจนะ




๓. ถ้าสมมุติ ว่าใครก็ตาม
มาบอกมะรึงกะจอก
นอกคอก ฝึกมาผิด และก็คุยบอกว่า
ตัวเองเก่งมาก ยกตนมาข่ม. ส่วนตัวก็พร้อมรับคำท้า. แต่ไม่ใช่ไปแสดง
ให้มันดูอย่างเดียวหรอกครับ
มุขนี้พวกเด็กเก่ง
แต่ปากมันชอบใช้กัน
เพราะถ้ามันบอกว่ามันเก่ง
มันต้องทำได้ดีกว่าเราซิ


รับคำท้าคือ
ต้องมั่นใจว่าเก่งกว่าคนที่ไปท้า
ไม่ใช่ไม่มีความสามารถ
ห๋าเหวอะไร
จะมาทำปากเก่งไปท้าหรือ
รับคำท้าเพื่อให้คนที่ตนเองท้า
มาแสดงให้ตนเองดูนะหรือว่า
เอ่อมึงเก่ง ตรูยอมรับ ก็เมื่อกล้าท้า
ก็ต้องมั่นใจว่าในสิ่งที่ท้าต้องเก่งกว่าเค้า
ไม่ใช่ไปบอกให้เค้ามาทำดูหน่อย
เพื่อ? ถามว่า มะรึงเป็นใคร?
คนที่ไปท้าเค้าต้องมาทำให้
ไอ้ซื่อบื่อ
อย่างมะรึงดูไหม
มะรึงต้องพอมีอะไรบ้าง
แล้วไปแสดงกัน มันจะได้รู้ว่า
ไอ้ที่ท้าเค้า ใครทำได้ดีหรือเก่งกว่ากัน

พูดง่ายๆ
ถ้าท้าเรื่องการปฎิบัติ
ก็ต้องไปทำกรรมฐานกองนั้นๆ
เช่นเดียวกันกับคนที่เราไปท้า
หรือรับคำท่าเข้ามา

ถึงได้บอกว่า
ถ้าคิดว่ามีดีจริง.
ไปแสดงต่อหน้าพระเกจิกัน
เข้าใจไหม

เช่น เรื่องระหว่างนาย ข กับ
นาย ก วันหนึ่ง นาย ก
โม้ว่าปั่นจักรยานเก่งมาก
ไม่ใช่ว่า นาย ข บอกว่า ตรูไม่เชื่อ
ถ้าแน่จริง ไหน นาย ก มาปั่นให้ดูหน่อย
ว่าปั่นเก่งแค่ไหน ถามว่า นาย ก
จะไปปั่นให้นาย ข ดูเพื่อ
และนาย ข ต้องหัดเจียมตัวเองบ้างว่า
นาย ก จะมาเสียเวลาปั่นให้ดูทำไม
ทำไปเพื่อ พิสูจน์ให้คนที่ขาดศรัทธา
มันเห็นว่านาย ก เก่งหรือ ??
ถามว่า นาย ข เป็นผู้ตรวจสอบว่า
ใครปั่นเก่งหรือ. มีความสามารถ
เป็นที่ยอมรับหรือ?
หัดเจียมตัวซะบ้าง


ยกเว้นว่า นาย ข จะบอกนาย ก ไปว่า
มะรึงมันมั่ว ปั่นแบบนั้นไม่ใช่
กะจอกวะ แต่เจือกโม้อยู่ได้

แน่จริงมาปั่นจักรยานแข่งกันเลย
ว่า ก กับ ข ใครจะเก่งกว่ากัน
พอเข้าใจไหมครับ ตรรกะแบบนี้

ที่บอกว่าต้องต่อหน้าพระเกจิ
ส่วนหนึ่งจะได้มีคนกลาง.
ถ้านาย ก โม้ว่าปั่นจักรยานเก่ง
ก็ต้องมีคนกลาง ที่ดูออกเรื่องการปั่นจักรยาน และเป็นที่ยอมรับ
ตรรกะนี้ พอเข้าใจได้นะ
ไม่ใช่นัดกันไป ๒ คนแล้วไปปั่น
ใครจะพูดอย่างไรก็หรอกครับ
นาย ก หรือ นาย ข อาจจะบอก
ตนเองเก่งกว่าก็ได้ หรือจะไปพูดโม้
กับคนอื่นๆอย่างไรก็ได้ให้ตนดูดี
พอจะเกทนะครับ


เอาทางปฎิบัติก็ได้
เช่น ถ้า นาน ก โม้ว่าเข้าออกฌานได้คล่อง
ก็ให้ นาย ก ไปทำให้ดูเลย หรือถ้ามันอีก
โม้ว่าคล่องในกสิณ
หรือวิชาพิเศษอะไรก็ตาม
ก็ให้ไปแสดงเลยต่อหน้าพระเกจิเลย
เพราะถ้าการแสดงแบบนี้
หากไม่ใช่พระเกจิ คงหาคน
ที่จะดูสภาวะต่างๆเหล่านี้ได้

แล้วไม่ใช่ว่า นาย ข จะไปยืนทำหน้า
ซื้อบื่อและมั่นใจคุยฟุ้งอยู่นั่นหละ
ว่าตนมีดีอะไร หรือบอกว่า นาย ก
ทำได้แค่นี้เหรอ เพราะ
การคุยฟุ้ง การฝอยว่าตนมีดีอะไร
มันสู้การทำให้ดูไม่ได้หรอกครับ
การจะท้าใคร ก็ต้องมั่นใจว่าตัวเอง

ปล บอกแต่แรกแล้วว่าไม่ได้หาเรื่อง
แต่เจือกเสนอหน้า เข้ามาหาเรื่องเอง
แสดงกล้ามรับคำท้า
ใช้ตัวอักษรใหญ่เท่าบ้าน
คงคิดว่าตรูเจ๋งมาก
จะรับคำท้าเค้า
ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอะไร
แถมยังไปคิดอกุศลอีก
ว่าเค้าจะไปทำอะไรตัวเอง
นี้หละมันคือกมลสันดาน
ความคิดตัวคุณเอง

อุตส่าห์ ก๊อบข้อความเดิมให้อ่านอีกรอบ
ก็นึกว่าจะอ่านแล้วเข้าใจและจบลงด้วยดี

แต่ก็ยังเจือก อ่านแล้วไม่เกทอีก
คุยฟุ้งอีก ว่ามีสมาธิสูงแล้วหลุดพ้นได้ไหม

มะรึงทำให้ได้ก่อนดีกว่าไหม ?
คิดบ้างไหมว่าทำไม
ตนเองถึงได้แต่ฝอยผ?
ได้แต่อ้าง ?
แล้วค่อยมาคุยเรื่องหลุดพ้น
ถ้าสมาธิสูง ยังทำไม่ได้
คิดว่า การอ้างแต่พระอานนท์
ตัวเองจะพ้นหรือ?
ภาษาไทยพื้นฐาน
ยังอ่านไม่รู้เรื่อง ?

คุยฟุ้งอยากพิสูจน์สัจธรรมถามว่า
มะรึงเป็นใคร? มีความสำคัญอะไร ?
อยู่บนโลกทุกวันนี้ มะรึงมีประโยชน์อะไร?
อย่าหลงตัวเองให้มาก
อยากรู้ทำเอง รู้เอง พิสูจน์ตัวเองซิ
ไม่ใช่เก่ง แต่คุยฟุ้ง ถอยหลังโม้อยู่นั้น
เก่งจริงๆ ก็มา แสดงออกมา
ตัวๆเรื่องกรรมฐาน ต่อหน้าพระเกจิ
ไม่ใช่ต้องให้ ไปแสดง
ให้ ไอ้ขี้อ้าง พระอานนท์ ไร้ความสามารถทำได้ แต่เจือกคุยว่าตนไม่ใช่ว่าจะไม่รู้อะไร
และกล้ามาถามอีกว่ามีแววไหม.

จะเอาคำว่า. บาทา ส้นตรีน
หรือ คำว่า ถุยยย ดีครับเลือกเอานะครับ
โทษฐาน สะเหร่อ โชว์พาว์ คุยฟุ้ง
แบบไม่รู้เรื่องอะไร. ^_^

ที่เขียนภาษาไทยทั้งหมดนะ
อ่านออกอยู่ใช่ไหม. ^_^

 

ผมคงไม่ต้องพูดไรเยอะ


ถ้าเก่งอย่างที่อ้างจริง เอาเป็นว่าผมรับคำท้าแล้วกัน

วันอาทิตย์นี้ละกัน วันเสาร์ลืมไปติดธุระช่วงเที่ยง



ผมก็อยากรู้เหมือนกันคุณเก่งแค่ไหน...
ไม่ต้องพูดเยอะ แสดงเลย...

เคยเห็นคลิป ลามะ เนปาล ไหม?
ที่อยู่ ๆ ไฟติด ผมคิดส่วนว่านั่นกสินไฟ
ไม่ต้องให้เกจิ อะไรมาเป็นคนกลาง
มันเห็นเป็นรูปธรรมได้

ผมไม่มีกสิน แต่คุณอ้างกสิน
ผมก็อยากรู้เหมือนกันคุณได้อย่างที่อ้างไหม
อย่าไปเดือดร้อนพระ ท่านไม่เกี่ยว

คุณอย่าตีกิน ด่าคนอื่นฟรี ๆ ชอบอ้าง
ก็โชว์ด้วย ผมเป็นคนยอมรับความจริง
ถ้าดีจริง ทำได้จริง เด๋วมาเล่าให้คนในนี้ฟังเอง
เออ เค้าเจ๋ง เค้าทำได้จริง เหมือนที่เขาอ้าง

เข้าใจเนอะ...

หลังไมค์บอกเวลาที่มา เด๋วผมตอบสถานที่ให้

 

อันนี้เล่าในฐานะเคยคุยกัน ละกัน

รายนี้เขาเคยมีเรื่องกับคุณนิวรณ์
ท้าแบบนี้หละ ด่าไปด่ามา
สุดท้าย
เขาไปแจ้งความที่ สน สายน้ำผึ้ง(ถ้าจำไม่ผิด)
ข้อหาหมิ่นประมาท และอื่นๆ
รู้สึกว่า ถึงกับจะให้โดนปรับสองสามแสน กับติดคุก
สมาชิกคนอื่นเขารู้จักกันดี ว่าคนฤทธิ์เยอะขนาดไหน

อย่าไปยุ่งเลย เสียเวลาเปล่าๆ

 

โห ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ
ผมสมาชิกใหม่ 1-2 ปี ไม่ทราบจริง ๆ
ถึงว่า ตานิวรณ์ บอกว่า สน สายน้ำผึ้งมะกี้

 

เฮ้ย อย่าไปฟังขาแจม ไม่รู้เอาอะไรมาพูด พั๊วะ พั๊วะ หน้าแปลก จีจี

เอา แค่ คุงศิษย์โง่ เคย อกหักมาสัดกับ ป๋ม แค่นั้นก็ แย่แว้ว

ยังงง อยู่นี่ ว่ากิน กาแฟ ไปกี่แก้ว ถึงได้ มากด อนุโมทนากัน

เลย หันกลับมา เตะตับ กันอีกสักรอบ สองรอบ รอบสามหากไม่ลืม
ก็ กราบเท้าลาตามระเบียบ


พระทิเบต ท่านว่า เวลาเจอใคร ส่วนใหญ่ เกิดมาเป็น พ่อเรา มาก่อน
เวลาเจอแรกๆ เลย ต้อง ทนุถนอมกันไว้สัก สาม คำรบ ...ค่อย นับวาสนา
หมดต่อกัน

ไว้ไปต่อ ชาติหน้า หากยังมี ลุงขันธ์ อยู่ในจายยยยย


ฮิวววววส์

 

ผมเป็นคนไม่โกรธใครนาน
ไม่ชอบเก็บพยาบาทไว้ในใจ มันรู้สึกอึดอัด
เพียงแต่ว่า ถ้าซึ่งหน้า พูดจาแมว ๆหมา ผมก็อัดกลับ
บางทีผมก็ผิด บางครั้งก็เคยเอ่ยวาจาขอโทษขอโพยผู้อื่น
หรือบางทีไม่มีโอกาสได้เอ่ย

แต่ถ้าพูดดี ๆต่อกัน เรื่องเก่า ๆ ผมไม่เอาพยาบาทอยู่แล้ว

หากผิดอะไรไป มีโอกาสตรงนี้แล้ว
ผมขอโทษด้วยแล้วกันฮับ

 

แป่ว

จะรีบ ขอโทษไปทำไม เดี๋ยวก้อ สิบสองนาฬิกาหนึ่งนาที

เสวนาธรรมเนี่ยะ จะแปลกหน่อยๆ ตรงที่ หากเป็น มิตรกัน
จะต้อง จิ้ม กัน.....แต่ถ้า ไม่เข้าใจ ลักษณะของ สหธรรมิก กัน
เวลา จิ้ม กันก็วิ่งกลับ โลกๆ อันนี้ ก็ค่อย ถอย อย่างหมดรูปรับสภาพ

ลวกเพ่ หากถอย ด้วย "จิตตั้งมั่น" "เหนี่ยวต้นหญ้าเข้ามา" แล้ว "ใช้ปัญญาตัด" !!

จะดีกว่า ไปขอโทษ ขอโพย .........จะล่วงส่วน โน้มเข้า โพชฌงค์ ลูกเดียว
ตัดแล้ว ไม่มีเรื่องชาติหน้าฉันใด อีว์ก

แต่ถ้า ตั้งมั่นไม่พอ ชาติหน้าเจออีก

ฮิววววววววส์

 

ของแบบนี้มันต้องซ่องเสพอานาปานสติ กายคตาสติให้มาก
ผมก็ว่า หมดจากกระทู้นี้ ก็ว่าจะหาเวลาทำเพิ่มอยู่
บางที ๆ มันรู้สึกเข้ามาแชตมาก ๆ มันไม่สงบ

ลวกเพ่ ก็ด้วย หวังปรารถนาอะไรเอาไว้ ให้ดูลามะเนปาลเป็นต้นแบบ
แชตเว็บนี้ที ไปเว็บนู้นที
เห็นแล้วโอ้ย เพลีย....

ฮี่ ฮี่ ฮี่

 

จะหายเพลีย ได้อยู่นะ

ถ้า แสร๋นแปล๋น เพิ่มอีกหนึ่งห้องย่อย แถวๆนี้.............

 

คืออะไร งง......

 

ผมบอกตรงไหนว่าผมเก่ง
มีอต่คนที่คิดว่าเก่งกว่าคนอื่นๆหละนะจะพูดแบบนี้ โดยที่ไม่อ่านภาษาไทยให้รู้เรื่อง

ครั้งที่ ๓ แล้วนะ ไอ้ ศิษย์โง่
อยากทำเรื่องเล็กเพราะความเสนอหน้า
อ่านไม่ได้ศัพท์จับไปกะเดียดก็ตามใจนะ
ผมไม่ด่าใครด่าคุณนั่นหละตอนนี้
สตงสติคงใกล้ไปแระ
คงคิดว่าตัวเองเก่งเนาะ
ไม่มีความสามารถทำอะไรได้
ยังกล้าคิดมาท้าเนาะ เรื่องปากอวดดีนี่เก่งจัง
อธิบายแล้วว่าเข้าใจกันผิดตอนแรก
อุสาห์ยกคำพูดมาให้อ่านอีกรอบ
ยังไม่เข้าใจ ยังไม่จบ
กลายเป็นโชว์โง่แบบเห็นๆ
มีปัญหาเรื่องการอ่านภาษาไทยใช่ไหม

เด่วจะเสียสติในอนาคตอันใกล้
อย่ามาโทษกันเด้อ
คำว่าท้า อ่านหรือยัง เป็นไง
เขียนและยกตัวอย่างไปหลาย
รอบแล้วนะ
และ


ถุยยยยยย ทำไม่ได้ก็เงียบไป
จริงๆทำไม่ได้ซักอย่าง
แต่ทำโม้ว่าตัวรู้อะไรๆ เก่งแต่ปากหละว๊า
ถามรู้จักพระเกจิที่จะให้ไปแสดงหรือยัง
คุยกับท่านหรือยัง.

เสนอหน้ามาท้า จะท้าคนอื่นตัวเอง
มีอะไรมาแสดงหรือเปล่า
เก่งแต่ปาก.เก่งแต่ขยายตัวอักษร
เวลารับคำท้า. ฟายยยยยย
ข้อความใน pm ส่งไปตั้งแต่เมื่อวาน
แต่คุณไม่จบเองนะ

อย่าสำคัญตัวเองมาก คุณเป็นใคร?
ส่วนตัวถึงคุณจะไม่เชื่อก็เรื่องของคุณ
คนเคยเจอผมในเวบนี้ตัวๆ หรือภายนอก
มีเยอะแล้ว และผมทำอะไรได้ก็รู้ตัวดี
ไม่จำเป็นต้อง
ให้ไอ้คนที่กำลังจะเสียสติ
ในอนาคตแบบคุณ
มาเป็นตัวบอกว่าผมทำอะไรได้หรอก
พูดยังกับเป็นเกจิ ฟายย
มีปัญญาดูผมออกหรือ
ไม่รู้จักสำเหนียกตัวเอง
สำคัญตัวเอง
มากไปเป่า ไอ้บื่อ

ทำไมผมจะต้องไปพิสูจน์ให้ดู
เอาไว้ให้คุณเก่งเท่า พวกหมอผี
หรือหมอธรรมก่อนนะ
แล้วจะจัดให้ดู ประเภท
. ทำไม่ได้ ไม่รู้เรื่อง อย่าเจือกปากดี
เสนอหน้ามาหาเรื่อง เจือกถามอีกว่ามีแวว
แบบพระอานนท์ เศษดินเกาะเท้า
ท่านยังไม่คู่ควรจะเปรียบ


และมาท้าแบบโชว์โง่อย่างนี้อีก ไม่จบ
แสดงว่า อ่านที่อธิบายก่อนหน้าไม่เข้าใจ
นี่ขนาดยกตัวตัวอย่างให้ดูแล้วนะ
ว่าการท้าเป็นอย่างไร

หลายรอบแล้วนะ งั้นขอให้มะรึงโง่
แบบนี้ตลอดไปแล้วกัน
ไอ้ปัญญาอ่อน

เห้ยยย ไอ้ขาจอน.มั่วจังเลย
ก๊อปปี้แต่คำสอนก็พอนะ
แต่สันดานใส่ความ ตอแหล สร้างเรื่อง
กล่าวหาคนอื่น
ลอยๆอย่าก๊อปมาเลย. ไอ้น้อง
เรื่องนี้จบไปนานแล้วนะ
ตอนนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคุณนิวรณ์นะ


แต่จะเล่าอะไรให้ฟังนะ อ่านแล้ว
อย่าเจือกมาโชว์โง่ อีกนะรู้อยู่ว่า Fc กัน
รู้ไหมต้นเหตุเพราะอะไร ฟังไว้นะ ขาจอน
คู่หูอเวจี คุณนิวรณ์


ที่เล่าเป็นอดีตนะ ปัจจุบันจบแล้วนะ
ใครก็ตามที่เข้าใหม่จะได้ตาสว่าง

๑ ลูกพี่คุณนะ ตอนนั้นมันบอกว่า
มันเป็น อาจารย์
สอนทางกสิณทางมหาภูตมา ๒๐ ปี
มันบอกว่า ผมสอนผิด ว่าผมนอกคอก กล่าวตู่ไปเรื่อยสุดท้ายก็ว่ามันเท่ห์
ก็เลยท้ามันแสดงความสามารถเรื่องกสิณ
แต่ลูกพี่คุณไม่กล้ารับไง
เพราะกะจอกเก่งแต่ปากไง
เรื่องนี้นานแล้วนะ หมายถึงจบไปแล้ว

ท้าแสดงนะ หมายถึง ลูกพี่คุณทำ
ผมก็ทำเข้าใจนะน้อง ขาจอน
ไม่ใช่เรียกให้ลูกพี่คุณ มาแสดงอะไร
ให้ผมดูหรอก. แล้วผมจะไปบอกว่าลูกพี่คุณเก่งไม่เก่ง เหมือนไอ้ศิษย์โง่ที่กำลังจะเสียสติ
ในเร็วๆนี้มันเข้าใจหรอก ทั้งๆที่ทั้งอธิบายทั้งยกตัวอย่างไปแล้วข้างบน


ส่วนนี้เล่าให้ฟัง ด่าไอ้ ศิษย์โง่ ด้วย
พวกที่เรียกคนอื่นๆมาทำให้มันดู
แล้วมันบอกว่าจะเป็นคนตัดสิน.
มันคือพวก สำคัญตนเองผิด
และ เก่งแต่ปาก คิดว่าตนเก่ง
แต่ทำไม่ได้หรอก
คิดว่าตัวเองเป็นอะไร ?
มีความสำคัญอะไร?
มีปัญญาไล่สภาวะ รู้หรือเค้าทำอะไรกัน?
ฟายยย
ถึงต้องไปทำให้มันดู
และฝากบอก ลูกพี่ด้วยนะที่กระดูกบริเวน
ที่เคยหักแถวแขน ไม่ใช่ผมเป็นคนทำ


๒ เรื่องแจ้งความ พอลูกพี่คุณเสียหน้า
เลยใช้วิชามาร เหมือนพวกอดีตนักการเมือง เล่าความเท็จ ใส่ความ ตลกขำขัน คุณก็ได้เชื้อมาด้วยนะ
กล่าวหา ล้วนเป็นการใส่ร้าย
รู้ไหม ลูกพี่อเวจี ด่าตรูฝ่ายเดียว
อยู่กี่เดือน. ก่อนจะฟ้องมัน
สันดานแบบนี้เนาะ
ที่มะรึงยกย่องเหลือเกิน
ใช้สมองคิด อย่าใช้หัวแม่ตรีนคิด

เกี่ยวกับเรื่องสร้างพระที่ระลึก
ซึ่งส่วนตัวมีหลักฐาน พยาน
เก็บไว้แล้ว. เป็นภาพถ่าย
และข้อมูลในเวบ ไม่งั้น เจ้าหน้าที่ท่านไม่รับ
แจ้งความหรอกถ้าคดี ไม่มีมูล
เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่รู้เรื่องอย่าอวดโง่อีก


๓ ลูกพี่คุณได้เล่าให้ฟังไหม ว่ามันคุยกับผมว่า มันมีหุ้นอยู่ มันบอกผมว่ามันจะขายหุ้น
จะได้เงินมาหลายแสน แล้วมันถามว่า
ผมว่า จะเอาเท่าไร่ เพื่อให้คดีนี้มันยุติ

ตรูบอกว่า ตรูไม่สนใจหรืออยากได้เงินของ
ลูกพี่มะรึงหรอก อย่าดัดจริตเอาเรื่องนี้ยกมาพูดอีก. สิ่งที่อยากได้คือ สามัญสำนึก
คือพวกอเวจีอย่างมะรึง เข้าใจไหมว่า
การกล่าวความเท็จ ใส่ร้าย ผู้อื่น
โดยไม่เป็นความจริง มันเป็นความชั่ว
ประเภทหนึ่ง มันนิสัยพวกตู๊ด
มึงดูหน้าลูกพี่มะรึงหน่อย ดู บุคคลิก
ลองไปยืนใกล้รถแท๊กซี่ดูชิ
ยังไงคนก็ถามเรียกใช้บริการ
ไม่ต่างอะไร กับตู๊ดมีปมด้อยหรอก
ก็รู้ๆกันอยู่ดันเชียร์ไม่ดูตาม้าตาเรือ

มาต่อ แบบชิวๆ ตรูเลยบอกถ้างั้น
ไม่ฟ้องดำเนินคดี เรื่องเงินตรู
ไม่เคยสนใจจะเอาอยู่แล้ว
เรื่องเงินลูกพี่มะรึงเป็นคนพูดเสนอเอง
จำไว้ อย่าเสนอหน้ามาพูดอีก
ตรูไม่ได้เอามาแม้แต่ ๑ สตางค์
แต่แลกกับการขอดูพฤติกรรม
ที่ลูกพี่มะรึงแสดงกับตรูก่อน
ว่าจะเลิกกล่าวหาใส่ความเท็จ
เป็นเหตุให้ลูกพี่ มะรึง เงียบๆ
พูดจาระมัดระวังขึ้น ไม่มาแซะตรู
เป็นปีนั่นหละ. ไอ้ฟายยย

ปล พูดอะไร พูดเอาแต่ดีเข้าตัว ฟายยย
ตรูเห็นชอบเอาเรื่องแจ้งความมาอ้างบ่อยนะ
ประหนึ่งว่า อยู่ดีๆตรูไปแจ้งความโดยไม่มีเหตุ. ความจริงตัวเองเป็นต้นเหตุเจือกไม่พูด
เรื่องเงินก็เสนอมาเอง ตรูเลยรู้ไงว่าจะขายหุ้นเปลี่ยนเป็นเงินเอามาให้ไง

เคลียร์ยัง เรื่องนี้ จบนะ
อย่าเสนอหน้าเอามาพูดอีก
แห๋มได้ทีหน่อย กะเล่นตรูเลยนะ
หน้าแหกหมอไม่รับเย็บเลยเป็นไง

ปล สำหรับคุณ นิวรณ์ ขออภัย
ที่ต้องอ้างถึง เอาเรื่องในอดีตมาพูด
ทั้งๆที่จบไปนานแล้ว ตรงนี้
หลังจากพูดเรื่องนี้ส่วนตัวคือจบ

.

 

สรุป คือไม่กล้า ทำให้ผมเห็น


เคยอ่านเรื่อง พระชื่ออะไรจำไม่ได้
ถือบาตรไม้เหาะไปทั่วเมือง ชาวบ้านเห็นทั้งเมือง
แตกตื่น วิ่งมาหาที่วัด
จนพระพุทธเจ้า ต้องตำหนิภิกษุ อรหันต์คนนั้น
ที่แสดงอภิญญา ให้ชาวบ้านเห็น โดยไม่มีเหตุ
จึงเป็นที่มาของการทำหนด ห้ามใช้บาตรไม้

เนี่ย เห็นเป็นรูปธรรม เขาเห็นกันทั้งเมือง คนธรรมดา ๆ เนี่ย


ถ้าไม่กล้าแสดงให้ผมดู เรื่องก็จบแค่นี้

ถ้าลืม งั้นทบทวนให้

ทำได้แบบชิว ๆ ก็ต้องกล้าแสดงมา
อย่าพูดอย่างเดียว ตีกินด่าคนอื่นฟรีๆ

 

แป่ว.....

ขอแก้แข่ว นิดหน่อย เนาะ

ตามที่ ฮู้กันมะวาน การภาวนาป๋มเริ่มจริงๆ
ปี 49 (เริ่มสนใจธรรมจีจัง บวก เข้ากระมู้ว์ )

ส่วน อานาปานสติ นี่ไม่เคยผลิกไปทางไหน
ยังคงที่เหมือนปัจจุบัน อันนี้ เริ่มรู้ตัวตอน 12ขวด
(ถ้า จะนับเวลา ก้ แช่แป้งมา 35 ปีอะฮับ)

เรื่อง กสิณมหาภูติ มะเคยรู้จัก รู้จักแต่ มหาภูต
รูปสี่ เยน ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว

เรื่องเงิน ไม่ได้พูดเปนการเสนอ พูดไปในทาง
หากเกิดการฟ้อง จะ พูดทุกอย่างเพื่อให้แพ้คดี
เสร็จแล้ว ก้กล่าวตาม ตัวบทกฏหมายว่า ติดคุก
และ มีค่าปรับสองแสน ....ซึ่ง ก้ปรารภว่าไม่ได้
ซีเรียส เพราะมี ทรัพย์ถืออยู่แค่หุ้นติดดอย บ้าน
รถ ที่ดิน ไม่มีชื่อถือครอง

แต่ เนาะ พูดแก้แข่ว ไปงั้นๆ พูดครั้งที่ร้อย
ก้ยังมี ........เหมือนเดิม เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ...

แหะแหะ ขอแก้แข่วนิดนุงเนาะ เดียว เพื่อน
จะเหนว่า ป๋ม รวย ชอบเอาเงินฟาด..... เกรง
ว่า ศิษย์โง่ จะ สบช่อง มาขอเงิงผมใช้
โดยแกล้งทะลาะ

 

เฮีย
พอเตอะ แค่นี้มู้ป๋มก็เสี่ยงปลิว มากพอละ

คดีคง คดีความอะไร ไม่ต้องพูดถึง
ถึงแม้ ขานั้น เขาจะด่าอะไรผมมา สารพัด สุ่มเสี่ยงแค่ไหน
ผมก็ไม่ถือสา ปล่อยเขาไป มันเป็นนิสัยเขา
ผมเห็นมา 2 ปีก่าแระ ชินแระ


ว่าแต่เฮีย ยังไม่ตอบป๋มเลยหมายถึงอะไร
หมายถึงฉุนป๋มอะป่าว ถ้าใช่ แปลว่า สหธรรมมิกอย่างผม
จิ้มถูกจุดแฮะ

ฮี่ ฮี่ ฮี่

 

อะระ

เรื่อง ห้องกระมู้ว์ ย่อย ก้ความหมายตรงๆ

อ้างว่า ผม ฉุน .....นี่เริ่ม หลอกผมเป่า

คัตลอส เล่นใหม่ ตอนนี้ ไม่เท่าเดิมแล้วนะ
เดี๋ยวจะผิดหวัง เกรงใจ

 

พึ่งเริ่มเองเหรอถ่อๆๆๆๆ

 

แซวกันเล่นได้ อย่าโกรธนะ

 

อารมณ์เกิดเลยฟุ้งซ่าน หรือฟุ้งซ่านจนเกิดอารมณ์กัน
แซวเล่น แมวพิมพ์