กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

มันมีพิธีนะรายละเอียดไม่ทราบ
แล้วรู้ว่าจะยกเป็นลูกท่านใด ๕๕๕
เดาว่า หลวงปู่. ท

 

มีบุญมาฝากครับ ทริปถวายเทียน 21-22/7/61 บุรีรัมย์

 

..
..
พี่ก็เพิ่งได้ไปวัดสรพงษ์ค่ะ ใจนึกอยากกราบหลวงปู่โต มาตลอด
เหตุเพราะช่วงเเรกๆ ที่ฟังชินบัญชรเเล้วน้ำตามักจะไหล
มันตื้นตันในอก ปลื้มปิติ เเบบพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ><
เเต่เด๋วนี้สวดทุกวัน จิตมันคงชิน น้ำตาก็เลยไม่ไหลเเล้วค่ะ 5555
เเล้วก็มีเหตุให้ได้ไปวัดสรพงษ์ เเบบงงๆ (อีกเเล้ว)
เเล้วเพิ่งมารู้ทีหลังว่าที่จริงแล้วนี่คือ มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี ที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ใหญ่โตสวยงามประดุจสรวงสวรรค์ซึ่งคุณสรพงษ์ ชาตรี เเละภรรยา ร่วมกันสร้างขึ้นด้วยพลังแห่งศรัทธา
..
ก็ต้องขออนุโมทนาบุญกับคุณสรพงษ์ที่มีจิตศรัทธาสร้างสถานที่สวยงามร่มรื่นนี้ไว้ให้คนได้ไปเข้าชมและกราบสักการะหลวงปู่โต สาธุค่ะ
..
“บุญไม่เคยสร้าง..ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า”
คำเทศนาของ..สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

 

ถูกใจสาวน้อยคนนี้ก็เลยชวนกลับบ้านมาด้วย

 

ยุคพระเจ้าวรมันที่ ๗

 

..
..

โอ้..อัปสรา ช่างงดงาม ><

 

อย่าแซวว่า ยุคพระเจ้าวรมันที่ ๒ นะ
นั่นคือเริ่มสร้างตามตำรา ๕๕๕๕

 

ข้อสงสัยมากมาย
ไม่อยากกองไว้
เดี๋ยวเป็นมะเร็งในจิต

จึงอยากทราบครับท่านอ.นพ...
"...อ่านปฏิปทา ของ
ลพ ทางอุทัยให้เข้าใจเด้อ..."

ไม่ทราบว่า ลพทางอุทัยเป็นท่านใด
...งงข้ามคืนมาแร้วว์ ครับ

อาจารย์นพ...ทายทักไม่ผิดแน่

หยุดภาระกิจสักวันสองวัน
เพื่อปลดภาระจิตอันสำคัญกว่า
ความสุขของครอบครัวรออยู่ครับ

 

Supernatural ระดับ Marvell
ผมนี่ตัวเอ้ แบบ Super like เลย

สรุปคือ "มากไปก็ไม่ดีครับ"
**เอาแบบวันละนิดจิตแจ่มใส**
พอเป็นกับแกล้มทางอารมณ์ระหว่างวัน

ผมสนใจประโยคข้างล่างครับ...
"...เพื่อปล่อยให้จิตมันคลายตัวได้ในระหว่างวัน
เริ่มจากระดับวินาที......
ประมาณนี้ป่าวคะ อ.เฮียนภ"

จึงใคร่รบกวนท่านอจ.นพ
ช่วยชี้แนะรายละเอียดให้หน่อยครับ
ตั้งแต่เริ่มต้น-จนจบครับ
คงเป็นประโยชน์สำหรับ...
ท่านที่เครียคจากหน้าที่การงาน..ด้วยครับ

ขอบคุณครับ

 

หลวงพ่อทางอุทัย คือ ท่านนี้คร้าา



..
..
เมื่อไม่นานมานี้ หนูเคยติดสภาวะค่ะ
จึงเกิดคำถามขึ้นในใจกับตัวเองในขณะกำลังภาวนา
ว่า..ชาตินี้จะสำเร็จกับเค้าไหมหนอ?
เเล้วก็หลับสมาธิไปค่ะ
เกิดนิมิต คือ ท่านมาโปรดเเล้วสื่อในจิตว่า
"เพียรปฎิบัติไปเถิดลูก..เดี๋ยวก็สำเร็จ"
เเต่ก่อนเคยฟังยูทูปยังรู้สึกว่าท่านสอนไป ดุไป ก็เคยกลัวท่านนิดนึงค่ะ
ขนาดในนิมิต ยังไม่กล้าถามอะไรท่านสักคำเลยค่ะ
เพราะเกรงว่าท่านจะดุเอา 555
เเต่ผิดคาด เพราะท่านใจดีเเละมีเมตตาสูงมาก
ปลื้มปิติมากค่ะ เหมือนท่านมาโปรดเพื่อให้กำลังใจ
ตื่นมานี่หนูยิ้มเเฉ่งเลย 555

 

ใช่หลวงปู่ที่ท่านมีพระเครื่องรุ่นเหยียบน้ำทะเลจืด มั้ยคะ

 

..
..
สาธุๆๆ เจ้าค่ะ

 

ได้เปิดคลังสมบัติพ่อ เจอพระองค์นี้
กรอบพัง เลยนำไปอัดกรอบให้พ่อใหม่คะ
อาจารย์นพคะ หนูมีความรู้สึกคุ้นองค์นี้มากเลย
อาจารย์นพ พอรู้จักมั้ยคะ
จะใช่องค์ที่มาโปรด ในฝันมั้ยน้อ

 

ยกตัวอย่างเปรียบง่ายๆ
สมมุติว่า เราจะทำงานบางอย่าง
ที่เป็นยูนิกซ์ ไม่ใช่แบบโครงการใหม่นะครับ
แรกๆเราก็จำเป็นต้องที่จะเรียนรู้งานก่อน
อาจจะจากการลองผิดลองถูก. การอ่าน
การอบรม การดูการสังเกตุ
หรือมีคนคอยแนะนำดูแล
ในช่วงแรกๆ เรียกว่าช่วงเริ่มต้น
เอาทุกวิธียำรวมกันนั่นหละ
ขอให้เราทำงานเป็นก่อน

เอ๊าต่อมาพอเริ่มทำงานเป็น
เราก็จะทำงานนั่นๆไปเรื่อยๆ
เรียกว่าเป็นการทำซ้ำ
และก็จะเกิดความชำนาญขึ้นมา
ที่นี้หละไอ้การทำซ้ำนี้
ก็จะมีคนทำงานนี้อยู่หลายแบบ
เช่น พี่ฟิต พี่เรื่อยเปื่อย พี่แล้วแต่อารมณ์
พี่ตามหน้าที่. พี่จำยอมทำ พี่ทำแบบชิว
พี่ทำตามธรรมชาติเหมือนไม่ใช่งาน
พี่ทำแล้วทุกข์ พี่ทำแล้วสุข พี่ทำแล้วจบ
พี่ทำแล้วไม่จบ พี่ทำไปบ่นไป พี่ทำไปอู้ไป
ถามว่าทุกๆ พี่นี่ งานที่ทำออกมาได้ผลลัพท์
เหมือนๆกันนั่นหละครับ

แล้วมันต่างกันตรงไหน
ต่างกันตรงที่พี่คนไหน
ที่ทำงานเหมือนเป็นธรรมชาติ
เป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อดูแลรับผิดชอบ
ตามหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด
และที่สำคัญพอทำแล้วก็จบเป็น
คืองานส่วนงาน ทิ้งไว้ที่ทำงาน
ไม่เก็บมาคิด มานินทาเพื่อนร่วมงาน
ถึงบ้านคือครอบครัวคือครอบครัวครับ
เห็นอะไรไหม. เห็นการอยู่ร่วมกับสังคม
และการดำเนินชีวิตตรงนี้ไหม
แค่เพียงทำงานที่ตนเองรับผิดชอบ
ให้เต็มที่ ทำแบบมันเป็นธรรมชาติของตน
และทำแล้วรู้จักจบเป็น จิตจะมาทำหน้าที่ส่วนอื่นๆต่อไปตามธรรมชาติของมัน
ไม่มีครอบครัว ก็มาดูแลสุขภาพ
ทำความสะอาด ใช้ชีวิตตามวีถีของตนเองต่อไป

เมื่อจิตไม่ยึดไม่ไปเกาะกับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว
มันก็เลยไม่ได้ไปสร้างไปตั้งกฏเกณฑ์อะไร
หรือเอาเรื่องที่ผ่านมาย้อนมาคิดสร้าง
เรื่องบดบังตัวจิตอะไรให้มันเครียด
มันก็้หมือนอุบาย
ให้กับจิตค่อยๆผ่อนคลาย เป็นแนวทางเดิน
ให้จิตกระทำอะไร ในวันต่อไปแบบธรรมชาติ
แบบอัตโนมัติของมันเอง ว่าวันนี้ ช่วงนี้ตอนนี้เราจะต้องทำอะไรบ้าง

พอผ่านช่วงที่รู้ว่า จะต้องทำอะไร
แบบอัตโนมัติแล้ว จากการที่จบเป็นทิ้งเป็น
ไม่ว่าเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวแล้ว

นั่นหละเมื่อช่วงที่เวลาที่เราว่างเว้น
จากการทำงาน เรื่องส่วนตัว หรือเฉยๆนิ่งๆ
จิตมันก็เริ่มเข้าสู่กิริยาการคลายตัวเองได้
ตามธรรมชาติของมันได้เองในเวลาปกติ
ของมันเองนั้นหละครับ

เพราะมันถูกฝึก จากการที่
เริ่มจากการทำอะไรจบเป็น
มันเลยรู้จักทิ้งเป็น และจบเป็น
และก็ส่งผลให้ทำอะไรแบบอัตโนมัติ
ตามธรรมชาติของมัน เมื่อมันทิ้งเป็นจบเป็น
เมื่อทำทำทุกอย่างไปตามธรรมชาติของมัน
มันก็เลยรู้จักที่จะแล้วๆไปเป็น
ไม่ว่าหน้าที่การงานหรือเรื่องส่วนตัว
เมื่ออัตโนมัติเป็น ทำแล้วแล้วไปเป็น
มันก็ค่อยๆส่งตัวจิตให้ค่อยๆกลับคืนสู่
ธรรมชาติเดิมด้วยการเริ่มคล่อยๆคลายตัวเองในเวลาปกติ. เมื่อมันคลายตัวได้แล้ว
หากการประพฤติยังเหมือนเดิม
ด้วยที่จิตเคยคุ้นการคลายตัวแล้ว
มันก็จะพัฒนาเพิ่มระยะเวลาตรงนี้
ได้ของมันเองตามลำดับนั่นแลครับ ^_^

ปล ติด สมาธิ ตบะ ฌาน ญาน กำลังจิต
มันก็เหมือนเราทำงานแล้วจบไม่เป็น
แล้วเก็บเอางานมาคิดอีกนั่นหละครับ
งานเราจะทำเต็มที่เฉพาะเวลางาน
เลิกงานแล้วคือจบ. ที่ติดกัน
เพราะจบไม่เป็นมั่วแต่เอางาน
มาทำต่อ อยู่กับงานตลอดเวลาไม่จบ
เราจบงานทิ้งเป็น แม้เราอยู่ที่ไหน
งานนั้นเราก็ทำได้เหมือนเดิมไม่ลืม
ไม่เสื่อมหรอกครับ. เกทเนาะ. ^_^
แห๋มๆ คิดได้ไง เท่ห์ๆ ชมตัวเอง ๕๕๕

 

555 แกะคำนี้ไม่ออก *ลพ* ทางอุทัย
เส้นผมบางภูเขาแท้ๆ
เพราะคำย่อหลวงพ่อ
ผมมักนิยมเขียนว่า ลพ.

ลพทางอุทัย ทีแรกผมจึงคิดไปไกล
...จากนั่นคิดมา*ใกล้ๆ*
นึกว่า*ลพ* คือ *ลภ* ท่านไหนหนอ
เออ...เสียงคล้ายๆ *นพ*
ตอนแรกคิดไปเช่นนี้จริงๆ

...เคยไปกราบสรีระท่านลพ.ฤาษี
...วิหารแก้ว วัดท่าซุง สวยตระการตา

ขอบคุณครับที่ทำให้ตาสว่าง

--------------------------------



**ภาพนี้เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม**

*ธรรมคติ* โดนใจ

"มีความอภัยเป็นจิตใจ"
ขอนำวรรคนี้ไปหลอมรวมกับ...
ที่ท่านอจ.นพชี้แนะไว้ข้างล่าง

 

nopphakan said
"...ต่อมาพอเริ่มทำงานเป็น
เราก็จะทำงานนั่นๆไปเรื่อยๆ
เรียกว่าเป็นการทำซ้ำ
และก็จะเกิดความชำนาญขึ้นมา..."

ผมขออนุญาตเปลี่ยนจาก...
*กายที่ทำงาน*
มาเป็น*จิตที่ทำงาน* ดังนี้

*พอจิตเราเริ่มคิด
เราก็จะคิดไปเรื่อยๆ
เรียกว่าเป็นการคิดซ้ำๆ
และก็จะเกิดความชำนาญขึ้นมา
คือคิดไม่รู้จักจบ...วนไปวนมา
...นานๆเข้าจิตย่อมรับไม่ไหว*
กลายเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง

(ต่อ)nopphakan said
"...เมื่อจิตไม่ยึดไม่ไปเกาะกับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว
มันก็เลยไม่ได้ไปสร้างไปตั้งกฏเกณฑ์อะไร
หรือเอาเรื่องที่ผ่านมาย้อนมาคิดสร้าง
เรื่องบดบังตัวจิตอะไรให้มันเครียด
มันก็เหมือนอุบาย
ให้กับจิตค่อยๆผ่อนคลาย เป็นแนวทางเดิน
ให้จิตกระทำอะไร ในวันต่อไปแบบธรรมชาติ
แบบอัตโนมัติของมันเองว่าวันนี้
ช่วงนี้ตอนนี้เราจะต้องทำอะไรบ้าง"
"...ติด สมาธิ ตบะ ฌาน ญาน กำลังจิต
มันก็เหมือนเราทำงานแล้วจบไม่เป็น
แล้วเก็บเอางานมาคิดอีกนั่นหละครับ
งานเราจะทำเต็มที่เฉพาะเวลางาน
เลิกงานแล้วคือจบ. ที่ติดกัน
เพราะจบไม่เป็นมั่วแต่เอางาน
มาทำต่อ อยู่กับงานตลอดเวลาไม่จบ
เราจบงานทิ้งเป็น แม้เราอยู่ที่ไหน
งานนั้นเราก็ทำได้เหมือนเดิมไม่ลืม
ไม่เสื่อมหรอกครับ. เกทเนาะ"


*****หมายเหตุ*****
(จากธรรมคติ ภาพลป.ทวด)ข้างบน
"มีความอภัยเป็นจิตใจ"
ขอนำวรรคนี้มาหลอมรวมกับ...
ที่ท่านอจ.นพชี้แนะไว้ข้างบน

...บางครั้งมีเรื่อง*ร้ายแรง*ที่ใครคนหนึ่ง
ทำให้ไม่อาจให้อภัยได้...แต่เราก็ให้อภัย
กาลต่อมากลับลับหลังให้ร้าย
..เพื่อหวังกอบกู้ตนเองให้ดูดีขึ้น
จึงกลายเป็นความผิดร้ายแรงถึง 2 เด้ง

*ถ้าจิตยังติดกับเรื่องราวร้ายแรงที่เกิดขึ้น*
ย่อมบั่นทอนภาวะจิตให้เสื่อมถอยลง

ดังนั่น...
คำชี้แนะของท่านอจ.นพ
ประมาณว่า "ไม่ยึดเกาะสิ่งที่ผ่านไปแล้ว"
ถ้านำมาหลอมรวมกับ....
ธรรมคติ "มีความอภัยเป็นจิตใจ"

*ผมมั่นใจว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด*

 

Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า 7 ลำดับที่ # 126
nopphakan post ,

ภูมิที่อาศัยระดับความสูงเดียวกันกับเรา
ขึ้นไปสามารถทำให้เราเห็นได้หมด
ได้ด้วยตาเปล่าๆ
แต่จะปรับคลื่นตรงกับเค้า
...ได้ไม่ได้เป็นอีกเรื่อง

และไม่เกี่ยวกับระดับฌานสูงอะไร
เพราะมันอาศัยกำลังที่ต่ำกว่าปฐมฌาน
เรียกว่าอุปจารสมาธิหรือช่วง
ที่จิตเป็นทิพย์ คล้ายครึ่งหลับ
ครึ่งตื่น เพียงแต่ซ้อมเข้าออกบ่อยๆ
คือพอจะกลับเห็นภาพก็ระลึกทิ้งภาพซะ
แต่อย่าลืมตา เห็นอีกก็ทำอีก(ทริคๆ)

ที่พลาดกันคือ ไปพยายามรักษาภาพให้นาน
ในเวลาปกติจิตเลยขาดความเคยชิน
เท่านั้นเองครับ ยิ่งไปสงสัยว่าเห็นอะไร
ทำไมถึงเห็น ยิ่งห่างไกล

ปกติสภาวะจิตทำงานได้จะเป็นช่วง
ที่เราไม่คิดอะไร เบาๆ นิ่มๆ
สมาธิมันจะหนักเวลาฝึก
เวลาใช้งานมันจะชิวๆ เบาๆ
ไม่ต้องเกร็งกล้าม หรืออาศัยลีลา
ท่าทางประกอบอะไรมาก
เรียกว่า ชิวๆ

วิธีลัด คือ ตัด ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
เอาให้เด็ดขาด คืออย่ายึด
ประมานว่า ออกจากบ้านลืมล็อค
กุญแจ แต่ไม่สนว่าของจะหายช่างมัน
(ลืมนะ ไม่ใช่ตั้งใจ ๕๕๕)

ก่อนลืมตาตื่นนอน
และหลับตานอน ให้พิจารณาว่า
เราพลาดอะไรในวันนี้ ทำบ่อยๆ
ประมาณ ๒ เดือนนะครับ ความสามารถ
ที่จิตเราเคยมีมา มันจะค่อยๆ
ขึ้นมาได้เอง ทีละเล็กละน้อย
โดยไม่ต้องไปนั่งฝึกสมาธิ
ให้เมื่อยก้น หรือไปฟังคนโม้โน้นนี่นั่น
ให้รำคาญหู

ทริคนี้ ได้มาจากท่านผู้พลิก
นามธรรมเป็นรูปธรรมได้แบบตาเห็นๆ
ท่านเอาไว้สอนระดับผู้อาวุโส ๕๕๕

 

Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า 7 ลำดับที่ # 128
nopphakan post ,

ปกติถ้าจิตเราเคยทำบุญอะไรมาบ้าง
บรรดาแฟนคลับผี จะแวะมาเยี่ยมเยียนเราปกติอยู่แล้วหละครับ
เปิดโอกาสให้เราได้สร้างบุญกุศลกับภาคส่วนภพภูมิเรื่อยๆครับ
การไปยึด ดวงใดดวงหนึ่งจะปิดโอกาสเราตรงนี้
อย่างคาดไม่ถึงครับ...ที่พูดรวมถึงการไปยึดครูบาร์
อาจารย์ที่เราเห็นในนิมิต หรือที่ท่านแวะมาหาเราด้วยนะครับ
เพราะเราจะเจอได้ปกติ หากว่าเคยสัมพันธ์กันมา
แต่อยายึด เพราะว่า อาจจะโดนวิญญานมีฤทธิ์
หลอกเอาได้อย่างไม่รู้ตัวครับ

แต่การที่ดวงวิญญานยังคงอยู่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด
มันฟ้องว่า ตัวจิตยึดติดอะไรบางอย่างครับ
เช่น เจ้ข้างบ้านยึดกำไรอันเดียว อยู่มาจะร้อยเก้าสิบปีแระ
และอย่างกรณีตัวอย่างข้างบน ดันไปยึดสัจจะวาจา
อะไรบางอย่าง คงไปพลาดตรงที่ว่า จะรออะไรมาซักอย่าง
โดยที่จะไม่ยอมไปผุดไปเกิดนั่นหละครับ
ไหนๆก็บอกประมาณนี้แล้ว
ถ้ายายทวดของทวด
ผู้ที่ยังดูสวยงามเค้ามาคุยอีก
ก็บอกเค้าซะว่า อย่าไปถือคำมั่นสัญญาอะไรเลย
รับบุญกุศล แล้วไปผุดไปเกิดซะ...
เราก็จะได้บุญด้วย อย่าไปผูกจิตผูกใจอะไรเลย....
และดูจากลักษณะเส้นเสียงที่เข้ามาให้เราได้ยิน
เค้าคงเคยเห็นเรามาก่อนในอดีตนะ และก็ยังต้องการกำลังบุญ
อยู่นะครับ แต่มีวิบากอย่างที่บอกนั่นหละครับ

 

องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช
องค์พญานาคที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินไทย!

18 มิ.ย. 61 (14:08 น.)

บทความโดย Peeranut P.
เวป sanook.com/travel
ข้อมูล :เที่ยวอีสาน
ภาพ :เที่ยวอีสาน

กลายเป็นที่ฮือฮาในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างมากสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งจะเปิดให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะ

องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช รูปปั้นพญานาคใหญ่ยักษ์ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดมุกดาหาร

องค์พญานาคตั้งอยู่ที่บริเวณบนภูเขาสูงในพื้นที่ของวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ตำบลนาสีนวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร

ซึ่งลักษณะของพญานาคนั้นจะนอนขดตัวไปมาและชูลำคอสูงสง่าหันไปทางแม่น้ำโขงเบื้องล่าง ลำตัวยาว 122 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร มีสีเขียวอมฟ้า สะท้อนแสงสวยงาม

พร้อมกับมีลวดลายที่ละเอียดอ่อน วิจิตรบรรจง แต่ก็แฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม

นอกจากนี้ที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ รออยู่อีกมากมาย อาทิ พระธาตุภูมโนรมย์, พระอังคารเพ็ญ, รอยพระพุทธบาทจำลอง

และที่พลาดไม่ได้ก็คือ "พระพุทธรูปเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9" เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งเด่นสง่าบนเขาภูมโนรมย์

รูปทรงเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 39.99 เมตร สูง 59.99 เมตร ความสูงจากฐานถึงยอดเศียร 84 เมตร

ใครที่อยากจะไปเที่ยวชมความยิ่งใหญ่อลังการขององค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช แนะนำว่าให้พกกล้องถ่ายภาพไปถ่ายเก็บภาพความยิ่งใหญ่อลังการกันด้วยนะครับ

รับรองว่าได้ภาพสวยๆ กลับไปบ้านแน่นอน และที่สำคัญ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองมุกดาหารแห่งนี้ยังสามารถเข้าไปเยี่ยมชมและสักการะได้แบบฟรีๆ ไม่เสียค่าบริการด้วย ชาวมุกดาหารอย่าลืมไปชมกันนะครับ






ที่ตั้งวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ :
หมู่ที่ 5 ตำบลศรีบุญเรือง
อำเภอเมืองมุกดาหาร
จังหวัดมุกดาหาร

 

สีออกทางฟ้าๆนะถูกแล้วครับ สำหรับองค์นี้
ประมาณว่า เหมือนพลิกสมบัติเก่าที่เราเคยมี
ที่มีอะไรคอยเฝ้าไว้
มาก่อนแล้วเปลี่ยนเป็นอะไรก็ตามแล้วเอามาใช้
ณ ชาติปัจจุบันนี้ครับ พูดแล้วอาจจะยัง งงๆ

สมมุติ นาย ก ชาติก่อน มีทอง ๑ หีบ เทียบสมัยนี้อาจจะซัก ๑๐ ล้านบาท
แล้วนาย ก ชาติก่อนเปลี่ยนภพภูมิ มาเกิด ณ ชาติปัจจุบัน ชื่อ นาย กก
สมมุติว่า ชาตินี้ นาย กก ศรัทธา ไปขอท่านในเรื่องโชค เรื่อง ค้าขาย ฯลฯ
นาย กก ก็มีสิทธิจะได้ในเรื่องที่ไปขอ ในมูลค่า ที่รวมเป็นทรัพย์
ได้สูงสุดเทียบกับปัจจุบันคือ ๑๐ ล้านบาทไม่เกินนี้

นี่คือ บารมีท่านที่เด่นทางด้านสีฟ้า ครับ
อย่ามาถามว่า ตัวเองมีเท่าไร
ตอบได้อย่างเดียวว่า ทุกคนที่มาตอบในกระทู้นี้ ไม่รวมข้าพเจ้า
ไม่มีใคร ไม่เคยมีสมบัติเก่ามาก่อน คือมีทุกคน มากน้อย บ่ ฮู้นำเด้อ...
นิทาน พอขำๆ