เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีชวด
ใส่บาตร ๔ รูปในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

สวัสดีครับคุณอาวันวิและสมาชิกนักขุดกรุทุกท่าน
แจ้งโอนเงินร่วมทำบุญตะกรุดครับ

 

เรียนคุณอาวันวิส์และสวัสดีชาวคณะนักขุดกรุฯทุกท่าน
แจ้งโอนร่วมบุญ 3 เซียนจิ๋ว หลวงพ่อเกษม กฐินวัดเขาบันไดอิฐครับ
ขออนุโมทนาบุญกับคุณอาและชาวคณะนักขุดกรุฯทุกท่านด้วยนะครับ

 

สวัสดีครับพี่วันและทุกๆท่าน

 

ทำไมคนพม่าจึงยึดถือเรื่องการถอดร้องเท้าเข้าวัดอย่างเคร่งครัด

เป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมชาวพุทธของชาวพม่า ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติ โดยไม่เลือกชั้น วรรณะ ผู้ลากมากดี ยากจนเข็ญใจ หรือเผ่าพันธุ์ คือ ประเพณีการถอดรองเท้าเข้าวัด รวมถึงถุงเท้า และถุงน่องก็ห้ามใส่ชาวพม่าจะถือเคร่งครัดมาก ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ หากเป็นนักท่องเที่ยวเผลอสวมรองเท้าเดินเข้าเขตวัด เขาจะร้องทัก ตักเตือน ให้ถอดทันที โดยไม่ดูดาย เพราะถือว่า เป็นหน้าที่ของเขาที่จะรักษาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มิให้ผู้ใดล่วงละเมิดได้



มีเรื่องเล่าว่า...

เมื่อสมัยอังกฤษปกครองพม่า ข้าหลวงอังกฤษได้แวะเยี่ยมชมเจดีย์ชเวดากอง โดยไม่ยอมถอดรองเท้า ด้วยถืออำนาจว่าตนเป็นผู้ปกครอง แต่ชาวพม่าไม่ยอม ทางฝ่ายข้าหลวงก็ยังยืนยันความคิดเดิมของตัว เป็นเหตุให้ชาวพม่าจำนวนหมื่นกว่าคน พากันมานอนคว่ำอยู่ตามบันไดที่จะเดินขึ้นสู่องค์พระเจดีย์ ตลอดจนลานเจดีย์ชเวดากองเต็มไปหมดไม่เห็นพื้นเลยหากข้าหลวงอังกฤษจะขืนสวมรองเท้าขึ้นไปจริงๆ พื้นรองเท้าจะไม่มีโอกาสสัมผัสพื้นได้เลย ต้องเหยียบร่างของชาวพม่าไปก่อน ชาวพม่าถือว่า แม้ว่าประเทศของตนจะตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ



แต่สิ่งที่ชาวพม่ายอมไม่ได้ คือ การถูกย่ำยีพระพุทธศาสนา เพราะนั่นหมายถึงการย่ำยีหัวใจของชาวพุทธพม่า เรียกได้ว่า เหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของการรักษาพระพุทธศาสนา ด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ในแผ่นดินพม่า ทำให้ข้าหลวงและทหารอังกฤษยอมถอดรองเท้าเข้าวัดในประเทศพม่า และถือได้ว่า เป็นชัยชนะทางวัฒนธรรม ที่ชาวพม่าภูมิใจบอกเล่าเรื่องราวจากบรรพบุรุษ



ทุกๆ เช้า เริ่มต้นวันสว่างตั้งแต่เวลาตี 4 ทั้งพระภิกษุ สามเณร แม่ชี และชาวพม่า จะเดินทางออกจากบ้าน มาสวดมนต์ นั่งสมาธิ บูชาพระเจดีย์ และช่วยกันปัดกวาด ทำความสะอาดพระเจดีย์ ซึ่งคนจะมากันมาก ในช่วงเช้ามืดก่อนไปทำงาน กับช่วงเย็นเวลาหลังเลิกงานตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงเวลา 3 ทุ่ม ชาวพม่าจะมาสวดมนต์ นั่งสมาธิ เหมือนช่วงเช้ามืดพอเวลาประมาณ 1 ทุ่ม จะมีหนุ่มสาวชาวพม่าจำนวนมาก มาช่วยกันกวาดถู ทำความสะอาดพระเจดีย์ กวาดกันเป็นทิวแถว อย่างพร้อมเพรียงกัน เวลาของการทำความสะอาดพระเจดีย์จะเป็นเวลาแห่งความสนุกสนาน ที่ทุกคนรอคอยจะเก็บบุญสุดท้ายก่อนกลับเข้าบ้านเพื่อพักผ่อน โดยทุกคนจะเอาไม้กวาดและผ้ามาเอง ทำกันอย่างพร้อมเพรียง เมื่อถึงเวลานอน ชาวพม่าจะหันศีรษะไปทางทิศที่เจดีย์ชเวดากองตั้งอยู่ เพื่อทำความเคารพและบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

บอกตามตรงว่าน้องโต้ดจิ้มได้ถูกใจ เพราะตะกรุดชุดนี้ก็อยู่ในกล่องเดียวกับสิงหราชหลวงพ่อมุ่ย แต่ไม่ทราบเหตุผลกลใดผมจึงลืมบันทึกที่มาที่ไป จึงต้องลงเป็นไม่รู้ที่มิทราบวัดดังกล่าว แต่ถ้าดูให้ดี นี่เป็นเชือกร่มตั้งแต่ยุคผมแขวน "พ่อท่านคล้าย" สมัยเด็กปี 2505 นู่นแล้ว เชือกโบราณแบบเดียวกันเด๊ะ ส่วนตะกรุดนั้น ก็ม้วนผอมสไตล์หลวงพ่อมุ่ยที่ผมเคยเอาให้บูชา เป็น "ตะกรุดโทน" 2 ดอก ดอกเล็กเรียวแต่ม้วนแผ่นทองแดงตั้ง 5 ทบ ถือว่าตั้งใจทำมาก

จะเป็นหลวงพ่อหรือหลวงปู่ใดสร้างก็ตาม ตะกรุดชุด 4 ดอกนี้ เจ๋งแน่นอน จัดส่งให้น้องโต้ดเรียบร้อย พร้อมพระผงสมนาคุณชั้นดี ซึ่งจะเขียนบอกว่าเป็นอะไร และจัดให้สมาชิกที่เคาะพระทำบุญกฐินทุกท่าน ตั้งแต่วันนี้

 

กระพริบตาเพียง2-3ที
ก็เข้าพุธกลางสัปดาห์...

เส้นสู่สวน......อบอวลร่ำ
ร่ายเริงรำ.......เข้มขำเขียว
เกี่ยวเกาะกุม...กลุ่มกอดเกี้ยว
ล่อแลเหลียว...เลี้ยวเลยหลง!

 

เช้านี้มีความเย็นโชย
อาจเข้าหนาวแล้วก็ได้
ทักน้องปรายฯจึงเย็นชื่นใจ

 

หลวงตามารูปเดียว ไม่มีพระหนุ่มเดินตาม พระพิรุณไม่รบกวนชวนเปียก หลีกทางให้พุทธบุตรทำหน้าที่ คนใส่บาตรก็ทำหน้าที่พุทธศาสนิกที่ดีทุกวัน อนุโมทนาตามชื่นใจ

 

โมทนากับน้องโต้ด ลูกน้องส่งตะกรุดชุด+พระสมนาคุณเดินทางเรียบร้อย ยังไม่กลับมาให้ลงเลข อีกสักพักครับ

 

3เซียนจิ๋วแต่แจ๋ว กำลังเดินทางสู่แผ่นดินที่ราบสูงพร้อมพระผงสมนาคุณ อีกสักพักลงเลขให้ชม โมทนากับบุญ+ทานบารมีน้องศิวะ ปีนี้ทำกฐินหลายวัด แถมผ้าป่าอีกด้วย ตุนพลังบุญไว้สู้กับโควิดที่อาจมารอบ 2 หรืออย่างไรก็เป็นกำลังใจไว้ลุยงานหนักที่ต้องฝ่าฟันกันหนักข้อตามสภาวะบ้านเมือง เศรษฐกิจ สังคม ซึ่งเหนื่อยลิ้นห้อยกันทั้งโลก

ขอให้ 3 เซียน ช่วยเป็นพลังให้น้องศิวะรุ่งฉลุย ลุยพ้นอุปสรรคได้ทุกเรื่อง

 

น้องเมษฯมาพอดี ขอถือโอกาสแจ้งตรงนี้เสียเลยว่า...พระคำข้าว รุ่น2 หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง หาเจอแล้ว วันนี้จะถ่ายรูปนำลงให้น้องเมษฯทำบุญตามสัญญา มีพียงองค์เดียวครับ สวยงามเดิมๆไม่ผ่านการใช้ อีกสักพักค่อยว่ากัน ยกเป็น "บุญกฐินแสนกอง" ทั้งสิ้น!

ภาพครามเข้มข้น
ต้องเขียนข้มเข้ม...

ฟ้าเปลี่ยนสี....นทีทอนแสง
คลื่นลมแรง....แฝงใฝ่ฝัน
เหมันต์เหย้า...เคล้าคลอครัน
อัสดรมั่น........บากบั่นบุก!

 

พุทธเข้มข้น เคร่งครัดถึงพริกถึงขิงข่ากระเทียมพริกไทยครบเครื่อง ต้องยกให้ "พุทธแบบพม่า"นี่แหละคือ "พุทธที่แท้" ไม่แปรเป็นพุทธเพี้ยนตามใจฉันอย่างชาวไทย

ความเข้มแข็งชาวพุทธแผ่นดินพุกาม เป็นแบบอย่าง หลายอย่างที่เราควรเอาเยี่ยง รวมทั้ง การ"ปกป้องพระศาสนา" อย่าว่าแต่เรื่องถอดรองเท้าเข้าศาสนสถานเลย แม้กระทั่ง "มุสลิม"ก็ยังหัวหด เมื่อเจอระบบ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน "ของชาวพม่า

พุทธพม่า นำเอาบทเรียนที่ "มุสลิม" ทำลายพุทธทั่วเอเซียกลาง เอเซียตะวันออกเฉียงใต้มากมายมาเป็นครู ไม่ยอมลดราวาศอกให้มุสลิมทำตัว "ได้คืบเอาศอก ได้ศอกเอาโยชน์"(เลยวาเยอะ) ดังที่เป็นทั่วโลก ดังนั้น พุทธพม่าจึงไม่ยอมให้มุสลิมกระดิกสักแอะ ใช้วิธีควบคุมอยู่หมัดชนิดที่ว่า...

"อยู่ได้ก็อยู่ไป อยู่ไม่ได้ก็อพยพกลับเมืองแขกไป"!!!

กรณี "โรฮิงญา" เห็นชัดแจ้ง...เราไม่ขอก้าวล่วงว่า ฝ่ายไหนผิดหรือถูก? มนุษย์ธรรมอยู่ตรงไหน? เราแค่เป็น "ผู้เล่าเรื่อง" ให้เห็นวิธีปฏิบัติที่ต่างกันสุดขั้วกับ "ชาวพุทธไทย" ซึ่งไม่ช้าอาจต้องไป "ขึ้นศาลมุสลิม" ใช้กฏหมายอิสลาม" หากยังทำใจดี เอ้อระเหยลอยชายแบบ "ลุงตู่" เอา"ภาษีชาวพุทธ" ประเคนให้มุสลิมสร้างมัสยิดทั่วประเทศอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้

เฉพาะที่ นครศรีธรรมราช เพื่อนทางนั้นเล่าว่า มัสยิดที่น้่นใหญ่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้เงินหลายร้อยล้าน เงิน "ภาษีชาวพุทธ" ทั้งนั้น มันบ้าไปแล้ว รัฐบาลนี้

จงตื่นเถอะ ชาวพุทธไทย เราไม่ต้อง ต่อต้านอิสลามรุนแรงแข็งขันอย่างพม่า แต่ต้องบอกอิสลามว่า หยุดลามปามเดินหน้า ได้คืบเอาศอก ได้เมตรเอากิโลเมตร เสียที ที่ไหนมีมุสลิมเยอะอยากสร้างมัสยิดด้วยจำเป็นก็สร้างไป

ประเภทมีมุสลิมสิบคนหรือหยิบมือเดียว ดึงดันเอาภาษีชาวพุทธไปสร้างให้ได้ จงเลิกดันทุรัง ก่อนจะรับกันไม่ไหว ทนกันไม่ได้!

ที พระไทยสร้างวัด สร้างโบสถ์ หาเงินด้วยตัวเองแทบล้มประดาตายกว่าจะสร้างได้ ได้เงินจากหลวงมาก็ต้องระวัง ใช้ผิด พระก็ยังติดคุกอีก ส่วนพวกโต๊ะอิหม่ามมีเงินเดือนกินมากมาย

ก็ขอฝากไว้ให้ "ชาวพุทธ" ตระหนัก และตื่นรู้ อย่ามัวมุดหัวอยู่แต่ในรูกระบอก โดยเฉพาะวงการพระเครื่อง อย่ามัวเมากับการ "ขายพระกิน" อย่างเดียว...

จงเหลียวมอง " ดูแล "ศาสนาพุทธ" ที่แท้บ้าง ก่อนจะไม่มีศาสนาให้นับถือ และพระเครื่องสิ่งเคารพบูชาจะถูกทุบทิ้ง เผาทำลายหมด เหมือน " นาลันทา-ในอินเดีย" กับ "บามิยัน-ในอัฟกานิสถาน!!!

 

เลขจัดส่งวันนี้
--ED 2868 6582 9 TH จตุจักร
--ED 2868 6583 2 TH นางรอง

 

สมนาคุณ-บุญกฐิน
สมเด็จพระพุฒาจารย์โต
เนื้อผง-วัดเทพศิรินทร์ ปี53
===============

พระเนื้อผงพุทธคุณรูปเหมือน สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ปี 2553

--สร้างวาระเลื่อนสมณศักดิ์..."สมเด็จพระธีรญาณมุนี" วัดเทพศิรินทร์ฯ เมื่อ 5 ธันวาคม 2553

พระพรหมเมธี(สมชาย วรชาโย) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้า สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏที่ สมเด็จพระธีรญาณมุนี ซึ่งปีนั้นมีเพียง 1 ใน 2 รูปเท่านั้น

ในการนี้ มีการจัดสร้าง พระสมเด็จสามชั้นเนื้อโลหะ,เนื้อผง ด้านหลังอัญเชิญพระคาถา"ชินบัญชร"ประทับไว้หลายแบบ รวมทั้งพิมพ์รูปเหมือน-หลังเรียบที่นำมาสมนาคุณ

--พิธียิ่งใหญ่ตามแบบฉบับพิธีหลวง สมบูรณ์แบบด้วยเนื้อหาและมหาพุทธาภิเษก

เอามาแจกฟรีเป็นศิริมงคล แด่ผู้ร่วมบุญ "กฐินแสนกอง-พลังจิต" กับ "กฐินวัดเขาบันไดอิฐ-หลวงพ่อแดง" ทุกท่านตั้งแต่บัดนี้ จนกว่าจะสิ้นสุดช่วงบุญกฐิน!!!


สวยงามเข้มข้น เนื้อหาผงพุทธคุณ พระหนา ตั้งใจสร้างดีมากๆ
ซองเดิมๆจากวัด

 

รอลุ้นและชมความงามพระคำข้าวรุ่น ๒ ของคุณ April 29 ครับ

 

รูป"เพชรกลับ" 1 นิ้ว-"หลวงพ่อโม"
ยอดจอมยุทธวัดจันทาราม-ชัยนาท
===============
***ร่วมกฐิน"วัดเขาบันไดอิฐ"
~~~~~~~~~~~~~~~~

เจ้าแห่งเอกลักษณ์ "ตะกรุดโทน" ไร้ใดเทียมแห่งวัดจันทาราม ห้วยกรด สรรคบุรี ชัยนาท!

หลวงพ่อโม ธัมรักขิโต ศิษย์มีครูที่เดินตามรอยพยัคฆ์ไม่เพี้ยน

--เรียนกับ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ 5 ปี
--เรียนกับ หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง
--ก่อนนั้นเป็นศิษย์ ลพ.ม่วง,ลพ.เถื่อน,ลพ.คง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
--เรียนกับ ลพ.เทศ,ลพ.วัดพระปรางค์เหลือง
--หลวงพ่อรุ่ง วัดหนองศรีนวล

นั่นเป็นประวัติศิษย์มีครูคร่าวๆของ หลวงพ่อโม ผู้ซึ่งชาวบ้านในป่าดงไกลปืนเที่ยงรวบรวมเงินซื้อที่สร้างวัด "จันทาราม" ให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก

ประวัติพิศดาร มหัศจรรย์อีกมากมาย หลวงพ่อโม จึงหาอ่านได้ไม่ยากในวันนี้ สามารถเข้าไปเสาะอ่านเองได้ บางเรื่องก็เหลือเชื่อมาก ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม...เอ้ย การอ่าน ก็แล้วกัน!

มาดู ภาพถ่าย "เพชรกลับ" สูงขนาด 1 นิ้วเศษ คูณ 1 นิ้ว กระดาษสาโบราณ เป็นภาพถ่าย "กลับร้ายกลายดี" ที่สุดแสนหายาก พบเห็นน้อยนิดและส่วนใหญ่ล้วนทำเทียมเลียนแบบ ประเภท กรอบเก่า-พระใหม่ มีให้เห็นถมถืด

สำหรับ เพชรกลับ รูปนี้ "กรอบใหม่" เพราะกรอบโบราณแตกไปแล้ว ต้องเลี่ยมใหม่ ส่วน "ภาพเก่าถึงยุค" ไม่ต้องสงสัย เอาไปตรวจสอบเป็นวิทยาศาสตร์ที่ใดก็ได้ เนื้อกระดาษสาโบราณซึ่งปัจจุบันเลิกผลิตไม่มีในท้องตลาดนานเน

ทันท่านปลุกเสกแน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง ขนาดภาพไม่ทันก็ยังเล่ากันมาหมู่นักสะสมว่า หลวงพ่อโม เคยกล่าว..."รูปฉันไม่ต้องเสก ก็ใช้ได้" ความจริงท่านเอ่ยเข้มข้นแบบชาวบ้านกว่านี้ แต่เอากันพอทำเนาแค่นี้พอ...

มีภาพเดียวไม่มีภาพที่สอง ยกให้ร่วมบุญกฐินแด่บารมีอริยสงฆ์ "หลวงพ่อแดง-วัดเขาบันไดอิฐ" พร้อมพระสมณาคุณ พระผงพุทธคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต ปี 53 -วัดเทพศิรินทร์...

======= 2,000 =======

ท่านั่งอิริยาบท "เพชรกลับ-กลับร้ายกลายดี" คลี่คลายอุปสรรค หลวงพ่อโม วัดจันทาราม

กระดาษสาเก่ามาก ภาพขาว-ดำธรรมดา ไม่มีน้ำยาเคลือบ ไม่มีปรอทเหมือนภาพสีซีเปีย ทำให้เห็นความเก่าง่ายที่สุด!
เปรียบขนาด ดูง่ายสบายตา

 

ร่วมบุญภาพถ่ายครับ