ร่วมแลกเปลี่ยนเคล็ดลับในการประคองศีล 5 กันคะ่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ren, 22 กรกฎาคม 2009.

  1. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ตรง ชัด สั้น และได้ใจความสำคัญครบถ้วน สำหรับศีลที่ไม่เป็น สีลพตปรามาส
     
  2. สุชีโว

    สุชีโว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    154
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +579
    ศีล 5 เป็นศีลของศาสนาพุทธเท่านั้นหรือไม่ ?
    ผู้ปฏิบัติตามเฉพาะศีล 5 จะไปสู่เป้าหมายสูงสุดขั้นใด ?
     
  3. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    การเสพกายสมาจารอันเป็นกุศล-------------พระัวจนะ" สารีบุตร เมื่อบุคคลเสพอยู่ซึ่งกายสมาจาร(การประพฤติทางกาย) ชนิดไร อกุศลธรรมเจริญ กุศลธรรมเสื่อม กายสมาจารชนิดนี้บุคคลไม่ควรเสพ สารีบุตร เมื่อบุคคลเสพอยู่วึ่งกายสมาจารชนิดไร อกุศลธรรมเสื่อม กุศลธรรมเจริญ กายสมาจารชนิดนี้บุคคลควรเสพ.....................สารีบุตร อกุศลธรรมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อมได้แก่บุคคลผู้เสพวึ่ีงกายสมาจารชนิดใหนเล่า สารีบุตร บุคคลบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้มีปาณาติบาต เป็นพรานมีมือเปื้อนเลือด วุ่นอยู่แต่การประหัตประหาร ไม่มีความเอ็นดูในสัตว์มีชีวิต และเป็นผู้ถือเอาสิ่งที่เจ้าของไม่ได้ให้ ถือเอาทรัพย์และอุปกรณ์แห่งทรัพย์อันเจ้าของไม่ได้ให้ ในบ้านก็ดี ในป่าก็ดี ด้วยอาการแห่งขโมย และเป้นผู้ประพฤติผิดในกามทั้งหลาย คือประพฤติผิดในหญิงทั้งหลายที่มี มารดารักษา บิดารักษา มารดาและบิดารักษา พี่น้องชายรักษา พี่น้องหญิงรักษา ญาติรักษา หญิงมีสามี หญิงมีสินใหม แม้ที่สุดแต่หญิงที่มีผู้สวมมาลาหมั้นใว้ สารีบุตร เมื่อเสพกายสมาจารชนิดนี้แล อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม...........สารีบุตร อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ แก่บุคคลผู้เสพอยู่ซึ่งกายสมาจารชนิดใหนเล่า สารีบุตร บุคคลบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้ละปาณาติบาต เว้นขาดจากปาณาติบาต วางท่อนไม้และศาสตราเสียแล้ว มีความละอาย ถึงความเอ็นดู กรุณาหวังประโยชน์เกื้อกูลในบรรดาสัตวืทั้งหลาย และเป็นผู้ละอทินนาทาน เว้นขาดจากอทินนาทาน ไม่ถือเอาทรัพย์และอุปกรณ์ แห่งทรัพย์ อันเจ้าของไม่ได้ให้ ในบ้านก็ดี ในป่าก้ดี ด้วยอาการแห่งขโมย และเป็นผู้ละ กาเมสุมิจฉาจาร คือไม่ประพฤติผิดในหยิงทั้งหลายที่มีมารดารักษา บิดารักษา มารดาและบิดารักษา พี่น้องชายรักษา พี่น้องหญิงรักษา ญาติรักษา หยิงมีสามี หยิงมีสินใหม แม้ที่สุดแต่หยิงที่มีผู้ สวมมาลาหมั้นไว้ สารีบุตร เมื่อเสพกายสมาจารชนิดนี้แล อกุสลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ-----------------(ยังมี การเสพวจีสมาจาร-----มโนสมาจาร และ อื่นอื่น อีกมากมาย---ลงท้ายด้วยอกุศลธรรมเสื่อม กุศลธรรมเจริญ):cool:
     
  4. ฟางฟืน

    ฟางฟืน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +48
    ประคองทำไมแค่เป็นคนที่ละอายต่อปาบ ก็พอ
     
  5. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    การถือศีล 5 ต้องสร้างกำลังใจขึ้นมาในการที่จะรักษาศีล รู้จักคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล
     
  6. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    ไม่สุดโต่งด้านใดด้านหนึ่ง ไม่หย่อนยานจนเกินสมควร ไม่เคร่งครัดจนเกินจำเป็นจนกลายเป็นคลั่งในกฏระเบียบ
     
  7. Broccocat

    Broccocat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    954
    ค่าพลัง:
    +4,094
    วิธีเราจะใช้ความรู้สึกแนวๆ ใจเค้าใจเรา เปรียบเทียบกัน เช่น

    ศีลข้อ 1. บนโต๊ะมีมดตัวนึงเดินผ่านมา(ถ้าเป็นเมื่อก่อน เห็นปุ๊บ บี้มดทันที) ตั้งแต่ตั้งใจว่าจะถือศีล 5 ให้ได้ (อาจจะมีศีลด่างศีลพร้อยบ้างแล้วแต่สถานการณ์ แต่ก็พยายามจะไม่ให้มีนะ) ก็จะนึกว่า...มดตัวนี้อาจจะมีลูกมดตัวน้อยตัวนิด รออยู่ที่รังมดก็ได้ อย่าไปทำเค้าเลย ก็มองเค้าเดินแบกเม็ดน้ำตาลกลับรังไป ทำแบบนี้บ่อยๆ ใช้ได้กับ ยุง แมลงตัวเล็กๆ ส่วนในกรณีของยุง ถ้าเห็นว่ายุงมีความพยายามเหลือเกินที่จะกัดเราให้ได้ ก็ให้พูดเชิงขู่แบบจริงจัง ทำหน้าดุๆ ใส่ยุงไปว่า "ถ้าเจ้าเบียดเบียนเรา...เราก็จะเบียดเบียนเจ้า" พอเราพูดแบบนี้ ปรากฏว่า ได้ผลแฮะ จากที่บินวนเวียนล่อให้ตบอยู่หลายนาที กลายเป็นบินหนีไปที่อื่นซะงั้น ให้คิดประมาณทุกชีวิตไม่ว่าน้อย กลาง หรือใหญ่มีค่า อย่าไปเบียดเบียนกัน

    ศีลข้อที่ 2 ยกตัวอย่างที่เคยทำเป็นนิสัย แต่พึ่งจะมาสำนึกได้เมื่อไม่นานมานี้เอง(อันนี้นิสัยไม่ดี อย่าทำเป็นแบบอย่างนะคะเด็กๆ) เพราะมันเข้าข่ายศีลด่างศีลพร้อย ก็คือว่า เวลาเราเข้าร้านกาแฟ เราจะหยิบหลอดมามากกว่า 1 หลอด(หลอดแบบมีกระดาษหรือพลาสติกห่อหลอด แบบก่อนใช้ก็ฉีกกระดาษออกอ่ะนะ แต่ถ้าเป็นหลอดแบบกดหยิบตามร้านฟาสฟู้ดอันนั้นเราไม่เอา 555) บางคนอาจจะคิดว่า เค้าให้หยิบฟรี หยิบไปเลย แต่ๆๆ ตามหลักของการดื่มแล้วเนี่ย มีแค่ 1 หลอดก็ดื่มได้แล้วอ่ะ แล้วอีกอย่าง ลองนึกถึงว่า เจ้าของร้านก็ต้องซื้อหลอดเพื่อมาให้บริการลูกค้า เหมือนเป็นค่าเบ็ดเตล็ดหรือค่าอุปกรณ์อย่างนึงอ่ะ ซึ่งเรามาคิดๆ ดู มันก็เข้าข่ายลักทรัพย์อยู่นะ ตั้งแต่นั้นมา ก็เลิกพฤติกรรมอย่างนี้ไปเลย เวลาไปทำบุญต่างๆ ถ้ามีโอกาสก็จะซื้อหลอดดูดแบบเยอะๆ ไปทำสังฆทานบ้าง หรือบริจาคเงินแล้วอธิฐานเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้เคยเอาหลอดดูดมาเยอะๆ ขอชำระหนี้ด้วยเงินจำนวนนี้นะ ไรแบบนี้

    ศีลข้อที่ 3 นี่ใช้ความรู้สึก ผิดชอบชั่วดี ล้วนๆ อาจจะใช้แนวเดียวกับศีลข้อ 1 ก็ได้

    ศีลข้อที่ 4 ใช้ใจ นึก วิเคราะห์ ผลของมันในภายหน้าภายหลัง ถ้าไวท์ไลน์ผลจะเป็นยังไง แต่ทางทีดี อย่าคิด พูด และทำในทางไม่ดีเลย ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็เงียบไว้แล้วพาตัวเองออกไปจากวงสนทนาตรงนั้นโดยเร็ว

    ศีลข้อที่ 5 ต้องนึกเวลาที่ดื่มของพวกนี้แล้วไม่มีสติ นึกสภาพตอนเมา..น่าเกลียดจริงๆ ไรงี้ แล้วผลที่ตามมาจะเป็นยังไง เอาสิ่งนี้เข้าร่างกายไปนี้มันดียังไง ลองหาสิ่งทดแทนที่มีประโยชน์กับร่างกาย เช่น เสพของพวกนี้แล้วรู้สึกสนุกสนาน ก็มีวิตตามินซีในผลไม้ไง เยอะแยะไป
     
  8. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ศีลเป็นเครื่องรักษา เป็นเครื่องประดับ ของปวงปราชญ์

    แต่ก็ยัง พบกับ ความบริสุทธิ์ที่เศร้าหมองได้อยู่ ด้วยว่า

    ถือศีล กันยังไม่ได้ เครื่องอยู่อาศัยจึงต่างกับ ผู้ถือศีลห้า

    บริสุทธิ์ ผู้มีจิตบริสุทธิ์ จึงระลึกถึงพระนิพพาน เป็นอารมณ์

    โดย ศีลกับมารักษาผู้ประพฤติธรรมเสียเองไม่ได้ยากลำบาก

    อย่างผู้ที่คอยรักษาศีล ไม่ให้ศีลขาด ไม่ให้ศีลทะลุ ไม่ให้ศีล

    ด่างพร้อย
     
  9. กายในกาย

    กายในกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +1,265
    ขออนุญาต แสดงความคิดเห็น ถ้าผิดถูกประการใด กรุณาชี้แนะด้วยครับ
    เกี่ยวกับการทำความไม่ดีของศีล 5 ที่ต้ององค์ประกอบของศีลนั้น กระผมศึกษาทางธรรมน้อย ถ้าคิดแต่ว่ากระทำความผิดครบองค์ศีลทุกข้อ ถึงเป็นการผิดศีล นั่นอาจเป็นข้ออ้างของคนทำผิดก็ได้นะครับ เพราะกรรมบถ10 แค่คิดก็ผิดแล้ว กายกรรม มโนกรรม วจีกรรม กระผมสรุปกับตัวเองว่า 1.การกระทำอะไรที่ทำแล้ว ทำให้คนอื่นต้องเป็นทุกข์ นั่นเป็นการผิดศีล 2. การคิดอะไร ที่เมื่อได้ทำตามที่คิดแล้ว จะทำให้คนอื่นต้องเป็นทุกข์ นั่นเป็นการผิดศีล ครับ ตัวอย่างเลยครับ ศีลข้อ 3 แค่การคิดจะไปจับของสงวนของคนอื่น แค่นี้ก็ผิดแล้วครับ
    ถ้าผิดพลาดประการใด รบกวนชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ
     
  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,204
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,438
    mN6dyZwgrhmPCc29SYHmjdE1yAy8Z91AdBrV1Sxn9KxE&_nc_ohc=EcAKnMnshgQAX9aONbb&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg
     
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,204
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,438
    _Okppex850UyQq9WsZL3Ffws&_nc_ohc=RmkpuxYVzPUAX_1EW9s&tn=32SMgKculfo9F24p&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg
     
  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,204
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,438
    nLCwb3hlx_Yetjlq6xX4DpWD7LxKnlaim6ZuJFJAZMNv&_nc_ohc=InWEouekbyEAX91NWxc&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  13. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    มีศีลให้เป็นปกติ
    มีปกติเป็นศีลนะครับ

    อย่าให้การถือศีล กลายเป็นความลำบากใจ ลำบากกาย

    ระลึกรู้ไว้ว่า ศีลบริสุทธิ์ได้ด้วยใจ ถ้าคิดดี พูดดี ทำดีเป็นปกติ
    เราจะมีศีลเป็นปกติ

    เพราะฉะนั้น ประพฤติชอบให้เป็นปกติ
    ศีลจะเป็นปกติครับ
    (คิดดี พูดดี ทำดี ก็คือทางของมรรค 8 นั่นหละครับ)
     
  14. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,084
    ช่วงนี้ผมอาราถนาศีลแทบทุกชั่วโมงเลย หลบไวรัสยังไงก็พ้นยาก

    เวลามีศีล ธาตุจะมีกำลัง ถ้าเจ็บป่วย น่าจะฟื้นตัวเร็วกว่าปกติ

    เจตนาคือกรรม เจตนาที่จะมีศีลตลอดเวลาไปเลย
     
  15. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    น้องชมพู...อยู่นี่เอง
    คิดว่าไม่ได้แวะเข้ามาในนี้แล้วครับ

    ลองกลับไปอ่านของน้องชมพู...
    จะถามว่าตอนเห็นข้างในนั้นแล้ว....
    ตอนนั้น....
    ทวนออกมาเห็นภายนอกด้วยไหมครับ



    Screenshot_20210804-124046.png
     
  16. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    ขอโทษที่ตอบช้านะครับ พอดีช่วงนี้งานเยอะ 555

    ที่ถามนี่หมายถึงเห็นเกิดดับภายใน เเละออกเห็นภายนอกด้วยรึป่าวใช่มั้ยครับ

    ...ใช่ครับ ที่มันเห็นคือ ทุกสรรพสิ่งในโลกเป็นเหมือนกันหมดเลยครับ มันเห็นอย่างนี้
    มันเห็นโลกว่ามีความเกิดดับ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตาครับ
    จะภายนอกภายใน เกิดดับไม่ต่างกัน ประมาณนี้ครับ
    สรุปสั้นๆคือ เห็นทุกสรรพสิ่งในโลกมีสภาพเดียวกันหมดครับ คือ อยู่ภายใต้ไตรลักษณ์

    ในเมื่อสิ่งที่เกิดย่อมต้องดับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ไม่ดับ ก็คือสิ่งที่ไม่เกิด
    ความเกิดดับมีอยู่ ความไม่เกิดดับจึงมีอยู่

    ...........................................................................................
    ย้อนกลับไปอ่านกระทู้ผมอีกหรอครับ ผมกลับไปอ่านเองรู้สึกอธิบายไม่ค่อยเคลียร์ ด้วยความที่
    ตอนนั้นยังศึกษาไม่เยอะเท่าตอนนี้ ยังไม่รู้จักว่าสิ่งนี้เรียกยังไง สภาวะนี้คืออะไร เล่นอธิบายตาม
    ความรู้สึกล้วนๆเลยคับ 555
     
  17. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    เเต่ก่อนหน้าที่มันจะ....เเจ้ง
    เวลาดูเกิดดับ ก็เห็นเกิดดับภายในนะครับ
    เเต่เวลามันสรุปรวบยอด มันเห็นทั้งโลกเป็นสภาพเดียวกัน
     
  18. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626

    Screenshot_20210804-124046_1.jpg


    พี่ชวนคุย ... คิดว่าช่วงนี้คงอยู่บ้านกันเยอะครับ
    ว่าจะถามหลายครั้งแล้ว....
    ...แต่ติดตีปิงปองประเด็นอื่นอยู่ครับ55

    กลับไปอ่านของน้องชมพู...ก็พอจับได้
    ว่าขั้นแตกหัก....
    เกิดจากการพยายาม....ให้จิตคงที่เป็นสมาธิอยู่
    แต่ก็ทำไม่ได้....เพราะเป็นสิ่งเหนือการควบคุม
    ....เป็นอนัตตา
    จนเกิดการเห็นแจ้ง....ขึ้นมา
    คงคล้ายกับพี่อยู่ครับ...
    เวลาภาวนารู้เห็นภายในไปเรื่อยๆ
    มันจะมีบางที...
    ....ที่พยายามฝืนให้อยู่กับลมหายใจ...ให้ได้
    แต่สุดท้าย...ทำไม่ได้....
    เพราะธรรมชาติมันเป็น....อย่างนั้น
    มันพร้อมจะแสดง...ให้เห็นธรรมดาของมัน
    อยู่ที่เราจะเข้าไปเห็นไหม....
    เพราะงั้น
    ...เวลาเราเห็นนามธรรมภายในเกิดดับ
    บางครั้ง....ต้องแตกหักกับมัน
    บางจังหวะ....ต้องเข้าไปเพ่งเฉพาะ
    ...ธรรมจะแตกออกมา...
    ธรรมชาติของมัน...จะแสดงให้เห็นแบบแจ่มชัด
    จิตมันเลย...ฟันธง

    สองคนเรามีอะไรคล้ายกันพอสมควรเลย
    แต่น้องชมพู....ได้รู้เห็นธรรมตั้งแต่อายุยังน้อย
    อายุเท่าน้อง
    ...พี่ยังไม่รู้จักพระพุทธเจ้าสอนอะไรไว้เลยครับ55
    และพี่ก็ไม่ค่อยมีความเพียร
    ...แต่รู้สึกเบาใจ
    มันไม่ขับเคลื่อนการภาวนา
    ....ด้วยตัณหาความอยากแล้ว
    เพียงแต่อยู่กับธรรมดา....
    เห็นธรรมชาติไหลไปเรื่อยของมัน..อยู่แบบนั้น
    จะมีแค่บางครั้ง...ตามเห็นผัสสะบ้าง
    เท่านั้นครับ
    ....เหมือนต่างกันอย่างไรครับ
     
  19. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    ไหนๆผมก็กลับมาเขียนเรื่องนี้เเล้ว
    รอบนี้จะขอเสริมเพิ่มจากกระทู้เดิมนะครับ

    อันนี้เล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ
    .
    .
    ในเวลาที่จิตมันจะเเจ้ง มันจะเห็นอารมณ์สภาวะใด สภาวะนึงที่ปรากฏให้เห็นไตรลักษณ์ เป็นจุดเเตกหักอย่างที่พี่ว่าครับ ที่จิตมัน.. เเจ้งขึ้นมาได้ ถึงความเป็นจริง ถึงความเป็นธรรมดาของมัน ว่ามันก็เป็นของมันอย่างนั้น

    จิตมันยอมรับความจริงได้ มันจะต้องคลายความยึดมั่น ความเห็นผิดลงครับ ผมยังคงจำได้ว่าในเวลาที่มันจะเเจ้ง มันจะมีในช่วงขณะที่มันเห็นเกิดดับ.. เห็นความเป็นอนัตตาของสภาวะอารมณ์ต่างๆ จนในที่สุดมันจะเห็นว่า ความเกิดดับมันเป็นก็ธรรมดา ความเป็นอนัตตามันก็เป็นธรรมดา
    ฝืนไม่ได้ หนีไม่ได้ มันเป็นเเค่ธรรมชาติปกติที่ดำเนินไปอย่างนั้น

    ตรงที่มันยอมรับความจริง เห็นความจริง มันจึงวาง จึงสิ้นความเห็นผิดลงได้.. ตรงนี้หละครับที่ผมมาขยายเพิ่ม คือ มันเเจ้งขึ้นได้ เพราะมันเห็นเเละยอมรับความจริง ว่าธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้น เป็นปกติ "ธรรมดา"

    เรื่องของการ "สรุปรวบยอด" ผมก็เขียนถึงบ่อย คือมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เวลาดูเกิดดับ จะดูจิต ดูกาย ดูอะไรก็เเล้วเเต่ เเต่เวลาเเจ้ง มัน"เห็นทั้งโลก" เเล้วเราจะเห็นเลยว่า โลกนี้ว่างเปล่า มีเเต่ความเกิดดับ ไม่มีสาระเเก่นสารอะไรเลย มองไปตรงไหนก็มีสภาพเดียวกันหมด

    เรื่องของความเพียร
    .. ผมไม่ได้รู้สึกว่าต้องเร่งรีบ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะเอามรรคผลอะไรเเบบนั้นเลยนะครับ เเต่เเค่ "เรื่อยๆ" มากกว่า

    เเต่ว่าในตอนหลังจากที่เห็นธรรม ในตอนนั้นจะเพียรพยายามมากครับ เหมือนเห็นปลายทางเเล้ว ก็จะรีบวิ่งไปให้ถึงเร็วที่สุด เเต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นเเบบนั้นครับ เเค่ "เรื่อยๆ"
    เหมือนคนค่อยๆเดินไปอะครับ รู้บ้าง หลงบ้าง
     
  20. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    อีกอย่างนึงคือ ทิฏฐิผมไม่มีทางเปลี่ยนไปได้อีกเลยครับ เเจ้งในตอนนั้นมีทิฏฐิอย่างไร ตอนนี้ก็ยังทิฏฐิเดิม เเล้วก็จะไม่มีใครมาเปลี่ยนได้ด้วยครับ เพราะสิ่งที่เห็นมา มันก็เเจ้งชัดความจริงในตัวมันอยู่เเล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...