ร่วมแลกเปลี่ยนเคล็ดลับในการประคองศีล 5 กันคะ่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ren, 22 กรกฎาคม 2009.

  1. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    แนนพยายามอธิบายประโยชน์ และวิธีการ อย่างเต็มที่แล้วค่ะ ถือว่าทำหน้าที่เต็มที่แล้ว
    แนนขอเก็บไว้ เผื่อใครเห็นประโยชน์จากมันบ้างไม่มากก็น้อย
     
  2. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,084
    หมูไม้ กับ ลุงแมว ไม่เข้าใจ แยกรูปนามอะไรหรอก เพราะความรู้มาจากการอ่าน ฟัง แต่ยังไม่เคยเกิด ญาน
    จึงไม่แน่ใจว่า จริงๆ แล้ว เค้าแยกกันแบบไหน ไม่เข้าใจว่า จิตต้องรู้จากการเห็น

    คุยกันทั้งชาติ ก็ไม่เข้าใจ ทั้งสองคนมีความสุขกับ อสัญญีพรหม เพราะคิดว่า นั่นคือ นิพพาน
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ลุงแมวไม่มีความสุขกับตรงนี้คับ
     
  4. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ยกกรณีของลุงแมวมาก็ได้....

    การอยู่กับอารมณ์ว่างๆ....
    เมื่อจิตเคยคุ้นกับอารมณ์ว่าง....
    .....อะไรก็ตามเข้ามาปรุงแต่งจิต
    ก็รู้ได้....
    แต่อารมณ์ว่าง....ที่ว่างอยู่นี้
    ไม่ใช่การเหม่อ....
    แต่มีสติ....อยู่กับความว่าง....
    เห็นสิ่งที่แทรก.....เข้ามาในจิต

    เมื่อจิตเคยคุ้นกับความว่างนั้น
    จะเห็นทันที...
    มีสิ่งไหนเป็นของปรุงแต่งแก่จิต
    แยกรูปนามออก....ภายในจิต
    ชนิดที่ไม่ต้อง...
    ตั้งท่าว่าเมื่อไหร่....จะแยกรูปนามได้ซักที

    แต่เป็นการแยกรูปนามโดยสภาวะ
    ....ที่จิตเห็นอยู่แล้ว
    ฝั่งนี้คือ....อารมณว่างที่ยึดอยู่.....
    อีกฝั่งคือ...อารมณ์แปลกปลอมที่มาปรุงแต่งจิต

    นี่ยังเป็นการเดินมรรค....
    ได้ตรงทางกว่าด้วยซ้ำ
    ....เพราะแม้จะยึด
    กับอารมณ์ว่างๆอยู่.....
    และยังเกิดอุปทานในอารมณ์ว่างๆนั้น
    .....แต่....
    ไม่ได้ก่ออุปทานใน"การรู้"
    เพราะการรู้....
    เป็นจุดสำคัญในการเห็นแจ้ง
    จึงต้องไม่สร้างอุปทานในรู้

    มันเป็นคำเฉลย....
    ....ว่าทำไม....
    การเดินมรรคต้องมีวิหารธรรม
    เพราะธรรมชาติของจิต....อยู่กับอะไร
    ....ก็ยึดสิ่งนั้น
    ในการภาวนา....
    ....ข้อสำคัญ
    เกาะอะไรก็ได้....ยึดอะไรก็ได้
    แต่ต้องไม่ยึดการรู้นั้น
    ย้ำว่าต้อง....ไม่ยึดการรู้นั้น

    ....อ่านถึงตรงนี้....
    จะเริ่มบอกตัวเองว่า....
    เรารู้...แต่ก็ไม่เคยยึดรู้นะ
    รู้เฉยๆมันแบบนั้น

    ความจริงคือมันยึดไปเรียบร้อย
    ....แบบเงียบๆ
    เพราะธรรมชาติจิตเมื่อไม่มีอะไรให้มันยึด
    ....มันจะไปยึดการรู้นั้น

    เพราะงั้นครูบาอาจาย์....ทั้งหลาย
    จึงอาศัยวิหารธรรมให้จิตเกาะทั้งสิ้น
    เพื่อ....
    หนึ่งเพื่อความเป็นกลาง ตั้งมั่น
    สองเพื่อไม่ให้มีอุปทานในการรู้นั้น
    วิญญานขันธ์.....จะสักแต่รู้ไปทันที
    ไม่ก่อตัวตนให้แก่ผู้รู้...หรือวิญญานขันธ์
    เพราะสิ่งที่รู้นั้น
    ...คือความจริง
    ....คือธรรมชาติ

    การเห็นนั้นตรงไปตรงมา..
    ....กับธรรมชาติจริงๆที่เกิดขึ้นภายใน
    ....จึงเกิดการเห็นแจ้งขึ้นมาได้
    เพราะไม่แอบสร้างอุปาทาน....ในการรู้เห็นนั้น

    สิ่งที่ผมต้องเน้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
    การกระโดดเข้าไปรู้....
    โดยไม่มีเครื่องอยู่ให้จิต....
    จิตไม่เคยตั้งมั่นจริง....
    ......มันจะเป็นแค่...คิดเอาว่าจิตตั้งมั่น
    ....แค่นั้นครับ
     
  5. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ทุกคนเขาก็มีเครื่องรู้เครื่องอยู่ทั้งนั้นแหล่ะ กาย เวทนา จิต ธรรม มันก็ พื้นฐานเจริญสติ คนเจริญสติที่ไหนเขาไม่มีเครื่องอยู่กัน…

    ถ้าคุณจะเอาแนนเป็นตัวอย่างมาบอกว่าคิดเอาเอง สร้างผู้รู้ขึ้นเอง ก็ขอออกตัวว่า แนนได้ทำหลายแนวทางลองดูแล้ว ทั้งการนั่งสมาธิดูการหายใจ ดูกายเคลื่อนไหวระหว่างวัน ดูจิตระหว่างวัน เดินจงกรม ล้วนแล้วแต่มาบรรจบที่จุดเดียวกัน คือแยกรูปนาม แนนถึงพยายามยืนยันมาตลอดว่ามันเจอได้เหมือนกันหมด เพียงแค่สติระลึกรู้

    ทีแรกไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าอะไรคือผู้รู้ รู้แต่ว่ามันเห็นกายแยก เจตสิคแยก จิตแยก ไปคนละทาง มันเป็นสภาวะที่มันทำของมันเอง เราก็แค่เห็น มันผิดตรงไหนที่ไปเห็น มันจะสร้างงผู้รู้รึเปล่าแนนไม่สนใจไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำ แต่ที่แน่ๆมันเห็นด้วยจิตตนเอง ไม่ใช่คิดขึ้นมา

    มารู้ว่าเขาเรียกว่า “ผู้รู้”ก็จากในเว็บบอร์ดนี้ล่ะค่ะ
     
  6. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ผมบอกหลายครั้งแล้ว...
    อย่ากระโดดเข้ามางับ....
    ....ถ้าคุณแนนไม่ได้ทำอย่างที่ผมกล่าวถึง
    ....กำลังพูด....นักภาวนาทั่วไป

    หรือมันไปจี้ใจคุณแนน
    ถ้าไม่ใช่แบบนี้...ก็ไม่ต้องร้อนตัว
    อ่านผ่านๆไป....เพราะคนที่ภาวนาอย่างนี้มี
    และอย่ามาพูดให้สวยหรู
    ...ว่าไม่มีใครซักคนที่ทำแบบนี้
    ....นั่นโลกจินตนาการ...สวยหรู
    ที่บอกนักภาวนาจะไม่ติดขัดตรงไหนเลย...
    ไม่เคยมีใครเกิดอุปทาน...ในรู้...ในผู้รู้
    และคุณแนน....ก็ยังยอมรับเอง...
    ....เคยร้องหาผู้รู้....

    ถ้าคุณแนนเคย....
    แน่นอนครับ
    ว่ามีคนติดอยู่ตรงนี้แน่....
    อาจจะครึ่งค่อนของนักภาวนาด้วยซ้ำ

    อีกอย่างการเวียนรู้ในฐานทั้ง4
    ไม่ใช่เครื่องอยู่ของจิต...
    เป็นมันคือสิ่งที่จิต...ไปรู้

    ต้องมีอันนึงเลย...
    ที่ตั้งไว้เป็นที่ให้จิตระลึก....

    และไม่ใช่การเอา....กิเลส
    รักโลภโกรธหลง....มาเป็นเครื่องอยู่
    เพราะมันทำไม่ได้
    ....กิเลส....เกิดมาจากเหตุปัจจัย
    ไม่ใช่จะนึกให้มาเป็นเครื่องอยู่....ตอนไหนก็ได้
    ....มันทำไม่ได้

    เครื่องอยู่ของจิต คือ
    ....อะไรก็ตามที่เราระลึกถึงอยู่บ่อยๆ
    ให้เป็นฐานที่มั่นของจิต....เป็นที่สแตนบาย

    ไม่ใช่อย่างที่คุณแนนเข้าใจผิดว่า...
    วิหารธรรม....กับ...สติปัฎฐาน
    เพราะสติปัฏฐาน....คือสิ่งที่จิตเข้าไปรู้
    ส่วนวิหารธรรม....คือที่สแตนบายของจิต

    อย่าเอามาปนกันครับ...คุณแนนจะงงเอง
     
  7. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    แล้วนี่หมายถึงใครคะ

    แต่จะหมายถึงใครก็ตาม คนในนี้พยายามอธิบายกันฝุ่นตลบแล้วว่า การดูจิต มันดูยาก จิตต้องสงบนิ่งเพือให้สติไวกว่าเจตสิค ไม่งั้นตามไม่ทันดูไม่ออก สำหรับผู้ที่ตามทันเห็นจิตไหวๆอยู่เสมอสามารถเอามาเป็นเครื่องอยู่ได้ ไม่แปลก เห็นมันเหมือนเห็นลมหายใจ ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าที่ไหวๆอยู่มันคืออารมณ์อะไร เพียรรู้อย่างเดียว

    ส่วนเรื่องเจตสิกแนนหายไป หยุดทำงานมันก็เป็นธรรมชาติที่จิตมันดำเนินไป ถึงจะไม่รู้ที่มาที่ไปในตอนแรก ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร ไม่ได้ไปแก้อะไรเพิ่มเติม เมื่อถึงเวลา มันจะกระจ่างใจเอง ถือเป็นการเรียนรู้ของจิตไปในตัว

    แนนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับสภาวะนั้นเลย แต่ดูเหมือนคุณหมูจะมีปัญหากับมันมากกว่าแนนอีกนะ
     
  8. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    คุณแนนครับ....โพสข้างบน
    ที่ยกเคสลุงแมว....
    ผมสื่อไปถึง.....คุณ hastin
    ยกตัวอย่างว่ามรรคแบบนี้ก็เดินได้
    ....ถึงบอกว่าคุณแนนเข้ามางับเองไง

    เว้นวรรคก็จบไปแล้ว....

    ส่วนอุปทานในรู้....เอาจริงๆไหม
    ผมพูดตั้งแต่7-8 ปีที่แล้วมั้งครับ
    แล้วก็พูดซ้ำอยู่แบบนี้....
    ลองไปอ่านดูก็ได้ครับ
    ถ้าอยากรู้ผมปฏิบัติมาแบบไหน

    อุปทานในรู้...ในผู้รู้...
    มันสำคัญ....แต่คุณแนนไม่เห็นมรรค
    ....เลยคิดว่ายังไงก็ได้
    เหตุที่จิตไม่ตั้งมั่น....เพราะตรงนี้
    เหตุที่ไม่เห็นแจ้ง...ก็เพราะตรงนี้
    เพราะอะไร?
    เพราะระหว่างเดินทาง....
    มันสร้างอุปทาน....เพื่อไปละอุปทาน
    ....มันทำไม่ได้ครับ

    ปัจจัยไม่พร้อม....จิตไม่ตั้งมั่นเป็นกลางพอ
    คุณแนนจะต้องดู...แบบนี้ถึงเมื่อไหร่

    ถ้าคนมีปัญญา...
    เมื่อมีคนมาชี้จุดบกพร่อง....
    ก็จะสำรวจตัวเอง....อย่างตรงไปตรงมา

    การยอมรับจุดบกพร่อง....
    นำไปแก้ไข....มันจะไปสู่การพัฒนา
    ...ถึงปลายทางที่สุด
     
  9. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    อุปทานในรู้
    อุปทานในผู้รู้...ถามไม้หมูว่า
    ใครคือผุ้อุปทาน
    ผู้รู้คือใคร.อะไรไปอุปทานในรู้ในผู้รู้
    ไม้หมูรู้ก็บอกมา
    ไม้หมูไม่รู้ก็บอกไม่รู้
    ไม้หมูไม่รู้แล้วบอกว่ารู้
    ไม้หมูก็ผิดศีลข้อมุสา
     
  10. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ธรรม จิต เวทนา กาย
    ถามหมูไม้ว่า.อะไรไปเห็น
     
  11. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    มันไม่มีผู้รู้....
    มันมีแต่สิ่งรู้....และสิ่งถูกรู้

    แต่เพราะความไม่รู้
    เลยหลงไปก่อ....ความรู้สึก
    ว่ามีผู้รู้.....

    เมื่อไหร่...จิตวิเวกเป็นอุเบกขาอยู่
    จะเกิดความตั้งมั่น....แล้วเห็นอยู่...
    การเห็นนั้น...
    จะกลายเป็นแค่กระบวนธรรมของจิต
    ...ไม่ยึดในรู้....
    ไม่ก่อความรู้สึกถึงตัวตนในผู้รู้
     
  12. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    จิตมันเวียนเห็นทุกฐานอยู่แล้ว
    ....ทั้งกาย ...ทั้งเวทนา ... ทั้งจิต... ทั้งธรรม
     
  13. Enzo Zen

    Enzo Zen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2021
    โพสต์:
    1,107
    ค่าพลัง:
    +675
    ขอเป็นผู้เข้ามางับด้วยนะ หนุกดี

    ประเด็นคือหมูไหม้ ไม่รู้จักคำว่าแยกรูปนามยังไง ถ้าคนแยกได้ เขาก้อเก็ต จบไปนานแระ ยังอุตส่าห์ไปคิดต่ออีกว่าจะมีอุปทานในการแยกออกนั้น หรือคิดว่าคิดไปเองว่าจิตตั้งมั่นอีก โอ๊ยน้อ

    แล้วคำถามที่ไม่น่าถามเร้ยย คือ ทำไปทำไม รู้ตามอายตนะ เพื่อรอแยกรูปนาม งั้นถามกลับว่า ก่อนเข้าชาน พุทโธรัวๆ ไปทำไม

    วิหารธรรมหมูไหม้แบบสมถะ คือต้องมีที่พัก
    วิปัสสนาไม่ต้องไปคิดแทนเขาหรอก ถ้าเขารู้อยู่ตรงไหนได้ แล้วจิตมันพัฒนาขึ้น ก้อเป็นอันว่าใช้ได้นั่นแหล่ะ

    คนที่แยกรูปนามได้ จิตอุเบกขามี จิตมีกำลังก้อมี เพราะถ้าไม่มี เห็นการแยกออกไม่ได้ ถ้าขั้นนี้ทำได้ดีแล้ว ครูจะให้เปลี่ยนการฝึกไปขั้น2 อยู่กับผู้รู้ ดูคิดในจิตได้เลย ไม่ต้องออกจากฐานแล้ว เพราะถ้ารู้ตามอายตนะจิตจะออกจากฐาน แล้วสิ่งที่ถูกรู้จะชัดกว่าผู้รู้ แต่ถึงไม่มีครูบอก จิตมันก้อเปลี่ยนเกียร์มาอยู่ที่จิตผู้รู้เองอยู่ดี << ขั้นนี้ละอนุสัยได้

    ฉะนั้นวิหารธรรมของวิปัสสนา ก้ออยู่กับผู้รู้นั่นแหล่ะ

    อ้างคำ ลต.บัวหน่อย ท่านบอกจิตจริงๆ บอกไม่ได้ว่ารู้ชัดที่จุดไหน บนล่าง ซ้ายขวา แต่พวกเรายังรู้ชัดเป็นจุดๆ ได้ ก้อต้องยอมรับว่า ผู้รู้ยังมี ไม่ได้จากไปไหน ไม่ว่าจะคิดว่าไม่ยึดมันก้อตาม
     
  14. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    การที่จิตมันเกิดการเห็นกายแยก จิตแยก นั่นคือจิตมันเริ่มเดินมรรคเองแล้วนะคะ มันไม่ใช่มรรคตรงไหน

    ในสมองเราน่ะรู้ว่าในตำราสอนเรื่องไตรลักษณ์ เราท่องได้ขึ้นใจเข้าใจดี แต่จิตมันไม่เคยเห็นมันไม่รู้ หน้าที่เราคือสร้างประสบการณ์ตรงให้จิตมันเห็นเอง ด้วยการใช้สติเป็นเครื่องมือพามันไปรู้บ่อยๆ ส่วนมันจะรู้แค่ไหน ลึกไม่ลึก มันเป็นเรื่องของจิต จังหว่ะมันจะละผู้รู้มันก็เป็นเรื่องของจิต เราก็ทำหน้าที่ ซ้ำๆไป ถ้าเห็นจิตล้า ก็พามันพักบ้าง มีแรงค่อยมาเรียนรู้ใหม่ ไม่ต้องไปคาดคั้นกับหมายมั้นว่ามันต้อง บรรลุขั้นไหน ถึงไหน จิตสร้างผู้รู้มั้ยน้อ อุ๊ยๆ ผู้รู้โผล่ไปดับมันเร็ว แบบนี้ น่าสงสารนักภาวนานะคะ เกร็งชะมัด ทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว เอาจิงๆ ไม่ต้องไปสนใจหรอกว่า มีผู้รู้รึไม่มี เอาแค่ว่าจิตมันเห็นและเข้าใจสิ่งที่ปรากฏในจิตชัดแจ้งมั้ย ป้อนมันเข้าไป ย้ำเข้าไป สักวันมันจะซึ้งเอง

    ตราบใดจิตยังไม่แจ้งถึงจิตถึงใจ หน้าที่คุณก็ยังไม่จบยังต้องเพียรเหมือนกับคนอื่นๆต่อไป
     
  15. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    เด็กเกิดมาเป็นนักเรียน
    เรียนวิชาหาความรู้
    พอเรียนจบแล้วมีความรู้แล้วบอกตนเองว่า
    ผู้รู้ไม่มีอย่างนั้นรึ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2021
  16. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    เขามีแต่สติปัฏฐาน
    ไม้หมูผู้หลงผิดกลายเป็น
    เอาฐานปัฏสติไปแล้ว
     
  17. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ลำดับไทม์ไลน์ผมซิ....ออเจ้า
    ...ฝึกสมาธิได้ฌาน(พุทโธ).....ตอนไหน
    ...ฝึกอานาปนสติ(แบบพระพุทธเจ้า)....ตอนไหน
    ...ฟังธรรม.....ตอนไหน
    ....มรรคจิตเกิด....ตอนไหน
    ...ฝึกกระจายผัสสะ....ตอนไหน

    ไล่ไทม์ไลน์ดูครับ
     
  18. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    ตอนที่ผมยกตัวอย่าง

    000000000000+6_0000000
    0000-2_000000000000000
    0000000000000000+1_000

    ทางนี้ไงครับ....
    ไม่เคยตรึกถึงผู้รู้.....
    ไม่เคยสำคัญ....ในการรู้ในการเห็น

    ผมจึงบอกว่า....ถ้าทำอย่างพระพุทธเจ้า
    เดินมรรคครบทุกองค์.....
    จิตมันจะเป็นแบบนี้.....
    ไม่สำคัญในการเห็น....แต่เห็นอยู่
    ไม่ตรึกถึงผู้รู้ขึ้นมาแม้แต่น้อย

    ...จะเอาความรู้สึกไหนไปก่อตัวตน...เป็นผู้รู้
    เมื่อไม่ก่อขึ้นมาตั้งแต่เเรก
    มันจะต้องไปทำลายผู้รู้.....ตรงไหนอีกไหม
    ในเมื่อจิตไม่เคยให้ค่า.....
    ....ไม่เคยสร้างมันขึ้นมา
     
  19. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ไม้หมูเห็นผิดทิฐิมิจฉามานะเห็นว่า
    เอากาย.เอาเวทนา.เอาจิต.เอาธรรม
    เข้าไปตั้งในสติได้
    อย่าว่าแต่ประคองศีลเลย
    แม้แต่ศีลก็ไม่มีให้ประคองแล้ว
    แต่ยังไม่รู้ตัว
     
  20. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ที่เขาพูดมาตลอด มีใครไปตรึกถึงผู้รู้บ้าง ที่พูดถึง ผู้รู้ เนี่ยแค่เป็นชื่อที่เอาไว้สนทนาให้เข้าใจง่ายๆ มันเป็นแค่สภาวะเบื่องต้นสภาวะนึง ที่จิตแยกออกมารู้อยู่ เห็นอยู่ห่างๆ ไม่มีความเกี่ยวถึงข้องกันและกันอีก

    ตรึกถึงผู้รู้เขาตรึกแบบไหนกัน ยัง นึกไม่ออก
    ผู้รู้หนอ ผู้รู้หนอ หรอ

    เขาให้กำหนดรู้ตามความเป็นจริง ไม่ใช่ไประลึกกำหนดถึงผู้รู้ สำคัญคือสิ่งที่จิตเห็นและพิจารณาสภาวะรอบตัวตามความเป็นจิงต่างหาก

    ไปจดจ่อรอดับผู้รู้ตั้งแต่แรก มันก้อไม่ได้เจอไม่เข้าใจถึงผู้รู้จิงๆสักทีหรอกค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...