**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8968

    เหรียญ "หมดห่วง" ปี ๓๘ เนื้อทองแดง ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง

    เป็นเหรียญที่ออกแบบได้เหมือนหลวงปู่ครูบาอินมากๆ

    หลวงปู่เมตตาเสกเป็นอย่างดี ปลุกเสกพิธีใหญ่เสร็จ นำเหรียญรุ่นนี้ ไปเก็บไว้ที่ บนหัวนอนของหลวงปู่
    หลวงปู่ได้เมตตาปลุกเสกอีก 1 ไตรมาส หลังออกพรรษา ได้นำออกให้บูชา..หลวงปู่บอกว่า ปลุกเสกดีแล้ว เต็มพลังแล้ว ใช้ได้อย่างหมดห่วงครับ


    ราคา 550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    w98P8LaNcn98DFIQDx40g6fxZTb9dq0glCtjhKlOnPyg&_nc_ohc=_WMOIHTM2AMAX84RyVs&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    JrDveK8qNZT3LIQ7BGOvI7CO&_nc_ohc=Et16PMxGlFsAX_pgwzG&tn=ucmOMck6pOqwh9l6&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg

    ครูบาอิน.jpg

    ครูบาอิน99.jpg
     
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8969

    เหรียญสามัคคีมีสุข – กูผู้ชนะ รุ่น1 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง บล็อกวงเดือน

    เหรียญสามัคคีมีสุข – กูผู้ชนะ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง สร้างเมื่อปี2521 จำนวนการสร้างประมาณ 1ล้านเหรียญ จะมีอยู่ด้วยกัน 2แบบ คือ

    1. เหรียญโลหะรมดำ ปลุกเสกเมื่อวันวิสาขบูชา ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๒๑ ถือเป็นรุ่นแรก
    2. เหรียญโลหะชุบทอง ปลุกเสกเดือนเมษายน ๒๕๒๘ ถือเป็นรุ่นที่2

    เหรียญทั้งสองชนิด ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อครึ่งองค์ ส่วนด้านหลังเป็นรูปพระเจ้าตากสินมหาราช และมีข้อความด้านบนว่า กูผู้ชนะ

    เหรียญนี้ เด่นด้านแคล้วคลาดคงกระพันชาตรี คืออยู่ยงคงกระพันมาก ชนะข้าศึกศัตรูหมู่อมิตรที่คิดร้าย มีประสบการณ์มาก จากทหาร-ตำรวจตระเวณชายแดน

    หลวงพ่อได้ชี้แจงเรื่องการสร้างเหรียญนี้ไว้ดังนี้

    “อาตมาทำเหรียญพิเศษ ให้นามว่า “กูผู้ชนะ” แจกแด่ท่านที่ร่วมกุศลสาธารณประโยชน์ สงเคราะห์ผู้ยากจนในถิ่นทุรกันดาร โดยเอาเงินที่ได้จากการแจกเหรียญนี้ซื้ออุปกรณ์ในการแจกของ จำนวนที่ทำมีจำนวนจำกัดไม่มากนัก เริ่มทำการปลุกเสก วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๒๑ ตรงกับวันวิสาขบูชา จะเริ่มทำการแจกวันเข้าพรรษา คือ วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๒๑ เป็นต้นไป
    อัตราบำเพ็ญกุศล เดิมมิได้กำหนดไว้ อยากจะให้เป็นไปตามศรัทธาของท่านผู้รับ และตั้งใจทำบุญ มีหลายท่านแจ้งมาว่า คนจนที่มีเงินน้อย บางท่านอยากจะได้ไว้มาก เพื่อให้เพียงพอแก่คนในครอบครัว เห็นคนอื่นทำบุญมาก และได้รับเหรียญเดียว ตนเองยากจน ครั้นจะบริจาคมากก็ไม่มีพอ ขอให้กำหนดอัตราขั้นต่ำไว้ เพื่อความสบายใจของท่านผู้รับ อาตมาขอกำหนดอัตราสำหรับบริจาคสงเคราะห์ผู้ยากจนไว้ดังนี้ ท่านผู้รับจะรับเหรียญนี้ได้ โดยที่ท่านบริจาคทรัพย์ร่วมสาธารณกุศลตั้งแต่ ๑๐ บาท ขึ้นไป ถ้าไม่เกรงใจคนที่บอกว่ายากจน จะไม่กำหนดราคาเลย

    น่าใช้มากๆครับ


    ราคา 999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    u.jpg wq.jpg dfsp.jpg

    clip_18-jpg.jpg
     
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8970

    เหรียญครูบาศรีวิชัย ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง เนื้อทองแดง


    รุ่นนี้จัดสร้างปี พ.ศ. 2542 เพื่อนำปัจจัยสร้างศาลาการเปรียญที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จในเวลานั้น
    ปลุกเสกโดย
    1.ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง
    2.ครูบาอินตา วัดห้วยไซ
    3.หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย

    พระยุคแรกๆของครูบาท่านครับที่ท่านปลุดเสกร่วมกับอาจารยืของท่าน (ครูบาอินตา วัดห้วยไซ)น่าใช้มากๆครับ


    บูชาแล้วครับ

    IMG_9563.JPG IMG_9562.JPG

    ครูบากฤษดา.jpg



    ครูบากฤษดา เป็นชาวบ้านห้วยม่วง ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน เกิดเมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๑๙ บิดามารดาของท่านชื่อ “นายอุทัย-นางถิรนันท์ เอกกันทา”

    หลังจากจบการศึกษาชั้นประถม ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร และจำพรรษาอยู่ที่วัดห้วยยาบ ก่อนที่จะย้ายมาจำพรรษา ณ วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ในปีถัดมา
    ด้วยความชอบในเรื่องของไสยศาสตร์ ท่านจึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของพระครูถาวรวัยวุฒิ (ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ) วัดห้วยไซ ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ตลอดจนใช้เวลาว่างเดินทางไปศึกษาไสยศาสตร์เพิ่มเติมจากพ่อน้อย พ่อหนาน และอาจารย์ต่างๆ ที่พอมีอยู่ในสมัยนั้น

    ครูบากฤษดา อุปสมบทเมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๓๙ ณ อุโบสถวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ได้รับฉายาว่า “สุเมโธ” มีความหมายว่า “ผู้มีความรู้ดี”

    หลังจากที่ได้อุปสมบทไม่นาน เจ้าอาวาสวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ในสมัยนั้นได้ลาสิกขา ทำให้ท่านต้องรับภาระรักษาการแทนเจ้าอาวาสตั้งแต่พรรษาแรกที่บวช และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในปี ๒๕๓๙

    ในด้านคาถาอาคม ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่สามารถสร้างและเสกของได้ขลัง ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร ประสบการณ์ที่เกิดจากวัตถุมงคลของท่านมีมากมายหลายเรื่อง ทั้งแคล้วคลาด เมตตา ตลอดจนโชคลาภอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

    ในด้านการพัฒนา ท่านได้พลิกฟื้นวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ตลอดจนการเอื้อเฟื้อแก่วัดวาอารามใกล้เคียงที่ขอให้ท่านเป็นประธานในการก่อสร้างถาวรวัตถุมากมายหลายวัด

    วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน เป็นหนึ่งในวัดสำคัญที่มีอายุการสร้างมากกว่าร้อยปี มีบันทึกไว้ว่า เดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง ต่อมาเมื่อมีชาวบ้านเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่จึงได้มีการร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัดขึ้นมา โดยในขั้นแรกได้มีการสร้างวิหารขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงได้มีการอาราธนาพระพุทธรูปองค์หนึ่งซึ่งทาชาดสีแดง มาเป็นพระประธานในวิหาร และตั้งชื่อวัดว่า “วัดสันพระเจ้าแดง”
    ต่อมาเมื่อมีชาวบ้านย้ายเข้ามาอยู่เพิ่มมากขึ้น กอปรกับบริเวณหมู่บ้านแห่งนี้มีต้นยางขึ้นหนาแน่น จึงมีการเปลี่ยนชื่อวัดจากเดิมมาเป็นชื่อใหม่ว่า “วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง)”

    วัดแห่งนี้เริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างในยุคสมัยของ “พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้ว)” เป็นเจ้าอาวาส (๒๔๖๔-๒๕๒๖)
    ภายหลังจากสิ้นครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ได้ตกอยู่ในสภาพทรุดโทรม จวบจนครูบากฤษดา สุเมโธ เข้ามารักษาการแทนเจ้าอาวาสในปี ๒๕๓๙ ท่านจึงเริ่มปรับปรุงและพัฒนาวัดเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2021
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8971

    พระนาคปรกใบมะขามรุ่นแรก ครูบากฤษดา สุเมโธ เนื้อนวโลหะ ปี ๒๕๖๐
    พระนาคปรกเนื้อชนวนนวโลหะ เป็นชนวนที่จัดว่าเข้มข้นสุดๆ ที่ทางวัดนำชนวนต่างๆทั้งหมดที่เคยหล่อมาสะสมไว้ มวลสารส่วนผสมมากมาย เป็นทองชนวนเก่าที่ทางวัดสะสมเก็บทั้งหมด ตั้งแต่พระกริ่งโพธิสัตว์ทันใจ มาเรื่อยๆ จนถึงวาระการหล่อ

    ถือเป็นพระปรกใบมะขามรุ่นแรกและรุ่นเดียวของครูบาท่าน
    เพราะครูบาท่านห้ามสร้างปรกใบมะขามอีกแล้ว

    พระนาคปรกเปรียบเสมือนพญานาคได้แผ่พังพาน ปกป้องคุ้มครองเจ้าชะตาให้พ้นทุกข์และภัยพิบัติต่างๆ และยังมีความเชื่อว่าพระปางนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ทางเมตตา ซึ่งเป็นการสอนทางอ้อมให้เห็นอานิสงค์หรือผลดีของความเมตตา เพราะแม้แต่พญานาคยังขึ้นจากสระน้ำมาถวายอารักขาพระพุทธเจ้า ทั้งนี้ก็ด้วยพลานุภาพแห่งพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ การบูชา พระนาคปรก เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ เสริมดวงชะตา เมตตามหานิยม ทรัพย์ มหาอำนาจ ดีทุกด้านแก่ผู้บูชา จะคุ้มครองคุ้มภัยอันตรายทั้งหลาย เสมือนว่าท่านได้คุ้มครองอยู่ตลอดเวลา
    พุทธคุณของพระนาคปรก เด่นด้านป้องกันภัย ปกปักรักษา ปัดเป่าโรคภัย


    บูชาแล้วครับ

    q0HOem3HcqUde3o_lKKWJuiuZ8OyK03oHiVdcWlemObF&_nc_ohc=mA1hunqt4W0AX-cxbEN&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    0tS6Bpfys7g5VsyENIO9FHnpIVRDKRsbPu9OqXELu3Qo&_nc_ohc=Lr_74YJU8wEAX8x31cc&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
    1S3_E6gMsH9SKm6QJSQnDhowIFlW6WbVekDSQn2Q_iSt&_nc_ohc=evwj_FUrnJ0AX99wphK&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg

    ครูบากฤษดา.jpg



    ครูบากฤษดา เป็นชาวบ้านห้วยม่วง ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน เกิดเมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๑๙ บิดามารดาของท่านชื่อ “นายอุทัย-นางถิรนันท์ เอกกันทา”

    หลังจากจบการศึกษาชั้นประถม ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร และจำพรรษาอยู่ที่วัดห้วยยาบ ก่อนที่จะย้ายมาจำพรรษา ณ วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ในปีถัดมา
    ด้วยความชอบในเรื่องของไสยศาสตร์ ท่านจึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของพระครูถาวรวัยวุฒิ (ครูบาอินตา อินฺทปัญฺโญ) วัดห้วยไซ ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ตลอดจนใช้เวลาว่างเดินทางไปศึกษาไสยศาสตร์เพิ่มเติมจากพ่อน้อย พ่อหนาน และอาจารย์ต่างๆ ที่พอมีอยู่ในสมัยนั้น

    ครูบากฤษดา อุปสมบทเมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๓๙ ณ อุโบสถวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ได้รับฉายาว่า “สุเมโธ” มีความหมายว่า “ผู้มีความรู้ดี”

    หลังจากที่ได้อุปสมบทไม่นาน เจ้าอาวาสวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ในสมัยนั้นได้ลาสิกขา ทำให้ท่านต้องรับภาระรักษาการแทนเจ้าอาวาสตั้งแต่พรรษาแรกที่บวช และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในปี ๒๕๓๙

    ในด้านคาถาอาคม ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่สามารถสร้างและเสกของได้ขลัง ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร ประสบการณ์ที่เกิดจากวัตถุมงคลของท่านมีมากมายหลายเรื่อง ทั้งแคล้วคลาด เมตตา ตลอดจนโชคลาภอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

    ในด้านการพัฒนา ท่านได้พลิกฟื้นวัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ตลอดจนการเอื้อเฟื้อแก่วัดวาอารามใกล้เคียงที่ขอให้ท่านเป็นประธานในการก่อสร้างถาวรวัตถุมากมายหลายวัด

    วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน เป็นหนึ่งในวัดสำคัญที่มีอายุการสร้างมากกว่าร้อยปี มีบันทึกไว้ว่า เดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง ต่อมาเมื่อมีชาวบ้านเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่จึงได้มีการร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัดขึ้นมา โดยในขั้นแรกได้มีการสร้างวิหารขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงได้มีการอาราธนาพระพุทธรูปองค์หนึ่งซึ่งทาชาดสีแดง มาเป็นพระประธานในวิหาร และตั้งชื่อวัดว่า “วัดสันพระเจ้าแดง”
    ต่อมาเมื่อมีชาวบ้านย้ายเข้ามาอยู่เพิ่มมากขึ้น กอปรกับบริเวณหมู่บ้านแห่งนี้มีต้นยางขึ้นหนาแน่น จึงมีการเปลี่ยนชื่อวัดจากเดิมมาเป็นชื่อใหม่ว่า “วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง)”

    วัดแห่งนี้เริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างในยุคสมัยของ “พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้ว)” เป็นเจ้าอาวาส (๒๔๖๔-๒๕๒๖)
    ภายหลังจากสิ้นครูบาขันแก้ว วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) ได้ตกอยู่ในสภาพทรุดโทรม จวบจนครูบากฤษดา สุเมโธ เข้ามารักษาการแทนเจ้าอาวาสในปี ๒๕๓๙ ท่านจึงเริ่มปรับปรุงและพัฒนาวัดเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2022
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8972

    ปรอทกินทองครูบาศรีอ่อง วัดบรรพตสถิต จ.ลำปาง

    อันดับ 1 เครื่องรางแปรธาตุล้านนาไทย ขนาด 0.8 ซม

    ท่านเป็นชาวพม่า ท่านพำนักอยู่วัด บรรพตสถิตย์ ต.พระบาท จ.ลำปาง ...ท่านจะนำเอาปรอทไปแช่ในนพิษหลากชนิดแล้วเสกให้ปรอทฆ่าพิษตามตำรา จากนั้นนำปรอทที่ได้มาทำพิธีทางไสยเวทย์โบราณ โดยท่านใช้ทองคำล่อให้ปรอทกินทอง(ทองคำแท้) อิ่มตัว หากเป็นเงินบริสุทธิ์ก็จะออกมาเป็นปรอทกินเงิน จากนั้นนำไปเทในกองทราย แล้ว แล้วได้ในกองทราย แล้วจึงจะได้ปรอท กินเงิน-กินทอง
    พุทธคุณ
    1.ช่วยขับพิษในร่างกายได้
    2.กันสิ่งอัปมงคล
    3.เสริมธาตุในร่างกาย

    อนุภาพ
    1.แคล้วคลาด
    2.กันภูตผีปีศาจร้าย
    3.ป้องกันยาพิษเข้าต่างๆเข้าร่างกาย
    4.เสริมดวง ดวงขึ้นจะสุกใส ดวงตกจะหมองคล้ำ
    5.รักษาและปรับสมดุลธาตุในร่างกาย

    "คาถาบูชา จิเจรุนิ กัณหะเนหะ"และ มั่น ท่องนโม 3 จบ. และว่าด้วย สัมมาสัสพุทโธ 9จบ. และอธิฐานขอให้โรคทุเลาลง
    การสร้างเตามีอยู่ 2ยุคสมัย ด้วยกัน ยุคแรกๆหลวงพ่อจะไม่ตัดแต่งและขัดให้สวยงาม ยุคหลัง ตัดแต่งและขัดสวยงาม คนชอบใจกันเพราะเกิดความสวยงามน่าสวมใส่ จะยุคสมัยๆไหน ปรอทสำเร็จท่านไม่เป็นสองรองจากใคร เพราะว่าเกิดปาฎิหารหลายอย่าง ที่มองเห็นเด่นชัดมากที่สุดก็ คือ ทุกชิ้นงาน จะมีปรอทและยาพิษผุดออกมาด้านนอก ยาพิษมีสีคล้ำดำน้ำตาล ส่วนปรอทจะมีสีขาวเป็นลักษณไขออกมาชิ้นงาน

    ข้อมูลท้องถิ่น พื้นบ้านชาวไทยใหญ่ และชาวล้านนา

    ขนาดเล็กน่ารัก 0.8 ซม. สวยเดิม ๆ

    ราคา 1650 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    upload_2021-11-9_13-32-15.png
    upload_2021-11-9_13-32-23.png
    upload_2021-11-9_13-32-30.png
    upload_2021-11-9_13-32-37.png

    KURfCcl1xMEvfbpMbFbCrMHX&_nc_ohc=5mqVpJ_zjMwAX8F-sIU&tn=YcxhUIylRgXPjVUB&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg

    Up3Xtq4uwrhVs_kj8KKejHLbqYdnx-2AFOX65cJVeMeU&_nc_ohc=ToJQR1MuibAAX-Qcy8h&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8973

    รูปเหมือนบูชาครูบาอินถา วัดยั้งเมิน รุ่นร่ำรวย คุ้มภัย หน้าตัก ๙ นิ้ว 1ในจำนวนการสร้าง ๑๙ หมายเลข 17 สภาพสวยสมบูรณ์


    "พระครูถาวรมงคลวัตร" หรือ "ครูบาอินถา ฐิตธัมโม เป็นพระเกจิอาจารย์วัดยั้งเมิน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าล้านนา

    บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น
    ครูบาอินถาจัดสร้างวัตถุมงคลแต่ละรุ่นเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น หวังให้บูชาให้เป็นไปในการเตือนสติ เครื่องระลึกเตือนถึงคุณงามความดี มีเครื่องบูชาติดตัวให้นึกถึงคุณของครูบาอาจารย์ คุณของความดีและกุศล และคุณของพระพุทธศาสนา เพื่อให้คุ้มครองและรักษาให้อยู่สุขสวัสดีมงคล นำพาชีวิตให้เกิดสติ ระลึกนึกถึงกุศลเจตนา

    ด้วยความที่ครูบาอินถาเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เมื่อถูกนิมนต์ไปประกอบพิธีสงฆ์ยังที่ต่างๆ ท่านจะทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ตั้งจิตอธิษฐานด้วยบารมีพลังจิตอันแน่วแน่ เพื่อให้งานเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาหรือวัตถุมงคลสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

    แม้ด้วยอายุขัยที่ล่วงเลยเข้าสู่วัยชราภาพ แต่เมื่อถูกนิมนต์ไปร่วมประกอบพิธีพุทธา ภิเษกงานวัตถุมงคล ครูบาอินถาจะสวดมนต์คาถาและนั่งปรกใช้สมาธิพลังจิตอย่างเต็มที่ ใช้พลังจิตบารมีทุ่มเทให้กับงานที่รับกิจนิมนต์ จนบางครั้งลูกศิษย์ของท่านเองต้องขอร้องให้ท่านงดรับนิมนต์บ้าง เพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ แต่ท่านไม่เคยปฏิเสธ

    ครูบาอินถาจึงกลายเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านอำเภอสะเมิง และชาวจังหวัดเชียงใหม่

    อุปนิสัยของครูบาอินถาเป็นพระเถระที่สมถะ เรียบง่าย ไม่ถือตัว มีเมตตาสูงสุด พูดน้อย สูบยาเส้นพันธุ์พื้นเมือง (ขี้โย) จนเป็นเอกลักษณ์ และฉันอาหารพื้นบ้าน น้ำพริกผักนึ่ง ผักลวก และน้ำพริกปลาต่างๆ

    ครูบาอินถากล่าวเตือนสติลูกศิษย์และ ผู้ศรัทธาเสมอๆ ว่า "ให้ทำความดี อย่าดีแต่พูดแต่ใจไม่ดี ต้องดูที่ตัวเองก่อน หากทำดีต้องได้ดี ไม่โกหกใคร พูดตรงๆ ทุกคนต้องการเป็นใหญ่กันหมดไม่ได้ เพราะคนไทยทั้งประเทศจะให้มีความคิดเหมือนกันหมดนั้นทำไม่ได้ ดังนั้นความสามัคคีถือว่าสำคัญ"

    "การทำอะไรแล้วร่วมแรงร่วมใจกันทำทุกอย่างจะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว เช่น การทำนาในช่วงการดำนาปลูกข้าว หากลงแขกกันจำนวนคนมากๆ ดำนาสามารถเสร็จได้ในวันเดียว"


    พิธีปลุกเสก เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 ณ อุโบสถ วัดยั้งเมิน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ โดยครูบาอินถา ฐิตธัมโม เจ้าอาวาสวัดยั้งเมิน เป็นประธานจุดเทียนชัย และมีพระครูอรรถ กิจจาทร หรือครูบาอุ่น วัดโรงวัว ต.แม่ก๊า อ.สันป่าตอง พร้อมพระสงฆ์ ๙ รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระเถราจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ ร่วมอธิษฐานจิตเจริญภาวนาประจำทิศ ปลุกเสกวัตถุมงคล รูปเหมือนครูบาอินถา (ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นแรกของท่าน) ชื่อรุ่น “ร่ำรวย คุ้มภัย” มีรูปเหมือน หน้าตัก 9 นิ้ว จัดสร้าง 19 องค์, รูปเหมือนครูบาอินถา หน้าตัก 5 นิ้ว จำนวน 159 องค์, และรูปเหมือนชุดครูบาอินถาขนาดแขวนคอ เนื้อเงิน, เนื้อนะวะฯ, เนื้อทองทิพย์จำนวน 999 ชุด

    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างวัตถุมงคลรูปเหมือนครูบาอินถาครั้งนี้ เพื่อหารายได้สมทบทุนในการบูรณะฯ ซ่อมแซมอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และจัดซื้อที่ดิน 2 ไร่ มอบให้กับวัดพนัง ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง และส่วนหนึ่งมอบให้วัดยั้งเมินในการ บูรณะซ่อมแซมพระวิหารให้คงทนถาวรต่อไป

    เจตนาการสร้างดี พิธีเยี่ยม ออกแบบได้งดงามมากครับ
    หายากมากครับ


    ราคา 15000 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_227.jpg Clip_228.jpg Clip_229.jpg Clip_230.jpg Clip_231.jpg Clip_232.jpg Clip_233.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2021
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8974

    พระรูปเหมือนบูชาหลวงปู่ครูบาน้อย วัดบ้านปง ปี 2536 ขนาด 7 นิ้ว


    หลวงปู่ครูบาน้อย ชยวังโส วัดบ้านปง ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ท่านเกิดวันอังคาร ที่ ๓ เมษายน ๒๔๔๐ ตรงกับวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๗ เหนือ ปีจอ ท่านเป็นคนบ้านปง ต.อินทขิล อ.แม่แตง โดยกำเนิด โยมบิดาท่านชื่อ พ่อวงศ์ โยมมารดาชื่อ แม่ออน นามสกุล พงษ์คำ
    ท่านอายุได้ ๑๓ ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดบ้านปง โดยมีครูบามโนชัย วัดศรีภูมินทร์ ต. ช่อแล เป็นพระอุปัชฌายา และท่านได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาต่างๆ กับท่านครูบามโนชัย ซึ่งสมัยนั้นได้เรียนการปฏิบัติธรรมนั่งกรรมฐานเป็นส่วนมาก แล้วมักจะได้เรียน วิชาคาถาอาคมควบคู่กันไปด้วย ท่านเล่าเรียน จนท่านสามารถเข้าถึง และปฏิบัติได้ดี
    จนท่านอายุ ๒๓ ปี ท่านได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดบ้านปง โดยมีท่าน ครูบามโนชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระศรีวิชัย วัดป่าบง อินทขิล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสิทธิ วัดม่วงคำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านได้เรียนนักธรรมชั้นต่างๆ จนสอบนักธรรมตรีได้ ในพ.ศ .๒๔๘๔ และนักธรรมโทได้ในปี ๒๔๘๖ และ นักธรรมชั้นเอก ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ในสมัยที่ท่านเป็นหนุ่มท่านได้เดินธุดงค์จาก อ. แม่แตง ไปสู่ อ.ฝาง ไปตามป่าช้าต่างๆ ถึงสี่เดือน ท่านจึงกลับมาจำพรรษา ที่วัดอีกครั้งหนึ่ง
    ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านปง เมื่อ วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๔๗๘ และได้รับการแต่งตั้ง เป็นเจ้าคณะตำบลอินทขิล ในวันที่ ๑ กันยายน ๒๔๘๙ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นตรี ที่ "พระครู ชัยวงศ์ วิวัฒน์" ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๗ และ ชั้นโท วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๔ ชันเอกวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๖ และ หลวงปู่ท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่ได้มีโอกาสได้ร่วมเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ ล้านนา ซึ่งก็คือในตอนที่ท่าน ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้เป็น ประธานการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ในปี พ.ศ.๒๔๗๗ ท่านได้ร่วมกับโยมพ่อ วงษ์ และคณะศรัทธาญาติโยมวัดบ้านปง มาร่วมสร้างทางกับท่านครูบาเจ้าและท่านได้ฝากตัว และอุปัฏฐาก ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยและร่วมงานในการบูรณะวัดสวนดอก วัดพระสิงห์ และที่อื่นๆอีกมากมาย ครูบาน้อยท่านเป็นพระที่ใจดี มีเมตตาสูง ใครที่เคยไปกราบท่านมักจะประทับใจในรอยยิ้มของท่านอยู่เสมอครับ อีกทั้งท่านยังเป็นที่เคารพรักในบรรดา ลูกศิษย์ลูกหา และพระสงฆ์อีกจำนวนมากมายครับ หลวงปู่ครูบาน้อย
    ท่านได้มรณะภาพ เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๔๑ เวลา ๐๘ . ๓๐ น ด้วยโรคชรา สิริรวมอายุของท่านได้ ๑๐๑ ปี ปัจจุบันทางวัดได้เก็บรักษา สรีระร่างกายของท่านไว้ ในโลงแก้วที่วัดบ้านปง โดยสรีระของท่านยังคงเป็นปกติไม่เน่าไม่เปื่อยแต่อย่างใด
    พระรูปเหมือนบูชาหลวงปู่ครูบาน้อย วัดบ้านปง ปี 2536 ขนาด 7 นิ้ว ออกแบบได้งดงามเหมือนหลวงปู่มากๆครับ


    ราคา 8550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_234.jpg Clip_235.jpg Clip_236.jpg Clip_237.jpg Clip_238.jpg Clip_239.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2021
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8975

    ล็อกเก็ตพระปิดตารุ่นแรก ครูบาวงศ์ (ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา) วัดพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน หลายเลข 92

    หลวงปู่เมตตาลงอักขระธรรม ลายลิขิต
    เป็นภาษาล้านนา นะมะพะธะ กะจะภะสะ นะอุด นะอัด นะปิด นะมิด
    "นะมะพะธะ "คือหัวใจของ จตุธาตุวัฏฐาน ๔
    คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
    "จะ ภะ กะ สะ"หัวใจธาตุกรณี
    มีความหมายว่า
    จะ ย่อมาจาก จชทุชฺชนสงฺสคฺคํ แปลว่า จงละเว้นการคบคนชั่วเสีย
    ภะ ย่อมาจาก ภชสาธุสมาคตํ แปลว่า หมั่นคบหาสมาคมด้วบัณฑิต
    กะ ย่อมาจาก กรปุญฺญมโหรตฺตํ แปลว่า ให้สร้างบุญ(ให้ทาน) ทั้งกลางวันและกลางคืน
    สะ ย่อมาจาก สรนิจฺจมนิจฺจํ แปลว่า ให้ระลึกถึงความไม่เที่ยงของสังขารเป็นนิจ
    นะอุด นะอัด นะปิด นะมิด ถือเป็นสุดยอดพระคาถา พระคาถานี้ใช้ได้ทุกด้าน จะเมตตาก็ได้ คงกระพัน มหาอุด ล้วนได้หมด
    เพื่อนำมาบรรจุไว้ด้านหน้าของล็อกเก็ตพระปิดตา
    ตอกโค๊ดแผ่นเงินหมายหมายเลข ติดชนวนทองคำ เกศาจีวร อุดผงพุทธคุณ หายากมากครับสร้างน้อย มวลสารสุดยอดทั้งนั้น
    พุทธคุณสูงมากครับ.... มวลสารที่อุดด้านหลังล็อกเก็ต
    1.เกศา ชานหมาก จีวร ขมิ้นเสกครูบาชัยวงศ์ฯ
    2.เกศาพระเกจิอาจารย์15รูป อาทิ
    หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม ,พ่อท่านคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน,หลวงพ่อเพชร วัดบ้านกรับ,หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง ,หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ฯ
    3.ผงมงคลทั่วประเทศ
    4.ผงหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง
    5.ผงแร่บางไผ่วัดนครอินทร์
    6.ผงคะไบพระกริ่งยอดขุนพล หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม,พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์จันทร์ตรี หลวงพ่อเพชร,ผงตะไบพระบรมรูปรัชกาลที่5คณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    7.ผงแร่เขาพรหมชะแง้
    8.พลอยเสก และองค์นี้มีแผ่นทองคำด้วยครับ
    จัดสร้าง17 ตุลาคม2542

    จัดสร้าง 300 องค์ หมายเลข สวย ๆ 92
    สวยเดิม ๆ ครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_140.jpg Clip_141.jpg Clip_142.jpg Clip_143.jpg Clip_149.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2021
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8976

    ตะกรุดแคล้วคลาดรุ่น 1 ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพุทธบาห้วยต้ม สวยซองเดิม ตัวจริงเสียงจริง


    ท่านเป็นพระนักพัฒนา บำเพ็ญบุญ สร้างบารมีตามแบบอย่างครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ผู้เป็นอาจารย์ของท่าน

    ท่านได้เป็นกำลังสำคัญในการสร้างทางขึ้นพระธาตุ ดอยสุเทพ กับพระครูบาเจ้าศรีวิชัย

    และท่าน ได้สร้าง ศาสนสถาน วัดวาอาราม โรงเรียน ถนนหนทาง ไว้มากมาย หลายที่

    พระอริยะเจ้าผู้นำทางจิตวิญญาณ นำพาชาวกะเหรี่ยง มานับถือศีล กินเจ กันทั้งหมู่บ้าน
    สมกับ ผู้เปรียบดั่งเป็นเทพเจ้ามหาโพธิสัตว์ แห่งชาวกะเหรี่ยง

    #ตะกรุดรุ่นแรกและรุ่นเดียว ของหลวงปู๋ครูบาชัยวงค์ ที่ทางวัดได้จัดสรา้งออกให้บูชา

    #พุทธคุณ ให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวงทุกประการ ครับ

    #ตัวจริงเสียงจริงหายากมาก


    บูชาแล้วครับ

    Clip_95.jpg Clip_96.jpg Clip_154.jpg Clip_155.jpg Clip_156.jpg Clip_157.jpg Clip_158.jpg Clip_149.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2022
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รูปถ่ายอัดกระจกครูบาเจ้าศรีวิชัย คณะราษฎร์ วัดพระสิงห์
    พ.ศ. 2475 สวยสมบูรณ์ หายากมาก

    รูปครูบาศรีวิชัยนั่งบริกรรมลูกประคำ ถ่าย ณ.วัดพระสิงห์ ปี ๒๔๗๕ จังหวัดเชียงใหม่ บ้างก็เรียกรูปคณะราษฎร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดพระสิงห์ ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองปี ๒๔๗๕ ถ้าสังเกตุพัดรองจะมีคำว่าคณะราษฎรเป็นรูปที่บันทึกความทรงจำทางประวัติศาสตร์ของทางล้านนาภาคเหนือหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองใน ปี ๒๔๗๕ ในปีนั้นจากบันทึก ทางคณะราษฎรได้ส่งรัฐมนตรีผู้เป็นเพื่อนเก่าของเจ้าหลวง คือพระยาสุริยา-นุวัตร (เกิด บุนนาค) เป็นผู้แทนขึ้นไปเยี่ยมเยียนเมืองเชียงใหม่ วัตถุประสงค์สำคัญคือดูท่าทีของเจ้านายฝ่ายเหนือที่มีต่อรัฐบาลระบอบใหม่ พระยาสุริยานุวัตรมีรายงานมายังพระยามโนปกรณ์นิติธาดา ประธานคณะกรรมการราษฎร (คือตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามศัพท์สมัยหลังการอภิวัฒน์ใหม่ ๆ) เล่าความที่ได้ทราบมาระหว่างอยู่ที่เชียงใหม่ว่า “คนสำคัญที่มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าเจ้านายทั้งสิ้นในเมืองเชียงใหม่นั้น มีเถรรูปหนึ่งชื่อตุ๊เจ้าศรีวิไชย เป็นเจ้าคณะวัดสิงห์ เชื้อกะเหรี่ยง ตำบลบ้านปาง แขวงเมืองนครลำปาง ซึ่งคนนับถือทั้งเมือง ตลอดจนถึงเชียงตุง จะว่าอะไรหรือจะปรารถนาอะไรคงสำเร็จทั้งสิ้น เถรองค์นี้ถือพุทธศาสนาเคร่งครัดมาก มีฉันอาหารวันละมื้อ และไม่ฉันอาหารเนื้อสัตว์ เป็นต้น มีศรัทธาในทางปฏิสังขรวัดยิ่งกว่าทางอื่น ได้ซ่อมแซมวิหารและพระเจดีย์ที่สลักหักพังมามากแห่งแล้ว ถึงตัวจะไม่มีเงินทองเลย เมื่อตกลงทำการบุญที่ไหนแห่งใด ราษฎรไทย ลาว เงี้ยว พม่า คงจะนำเงินมาถวายเข้าด้วย ส่งเสบียงอาหารและช่วยออกแรง ออกเครื่องใช้ก่อสร้างให้โดยไม่คิดค่าจ้าง แม้แต่ฝรั่งในเมืองเชียงใหม่ที่เป็นมิจฉาธิถิก็ยังพลอยเลื่อมใสช่วยเหลือด้วย” เมื่อเป็นดังนั้นพระยาสุริยานุวัตรจึงแวะไปนมัสการ “ตุ๊เจ้าศรีวิชัย” ที่กำลังบูรณะวัดสวนดอก เชียงใหม่ และได้พบเห็นบรรยากาศการทำงานของท่าน“เวลานี้ตุ๊เจ้าศรีวิชัยกำลังปฏิสังขรวัดสวนดอกอยู่ ข้าพเจ้าได้ไปดูก็เว้นที่จะชมอภินิหารของเธอไม่ได้ สร้างวิหารยาวใหญ่เพียงที่ได้ทำมาถึงเพียงนี้ ยังไม่ทันถึง ๑๐ เดือนก็เกือบจะสำเร็จแล้ว ยังแต่จะปิดทอง ประดับกระจกที่ลวดลายตามเสาและผนัง ตุ๊เจ้าศรีวิชัยบอกว่า ชาวบ้านเรี่ยไรเงินไปให้ไม่ถึงหกหมื่นบาทเศษ แต่วิหารขนาดใหญ่เพียงที่ทำมาได้นี้ ถ้าเป็นในกรุงเทพฯ คงจะสิ้นเงินกว่าสองแสนบาท แล้วชาวบ้านหญิงชายอุตส่าห์ขนอิฐไปส่งคนละเก้าแผ่นสิบแผ่น ยังมีหญิงสาวแก่ ขนทราย หาบหรือกระเดียดกระจาดไปส่งต่อเนื่องกันเสมอ ยังมีพวกขนเข้าและเสบียงอาหารไปช่วยเลี้ยงคนทำงานอีกเป็นอันมาก ดูไปก็น่าเลื่อมไสได้จริง
    รูปถ่ายซีเปียอัดกระจก ครูบาเจ้าศรีวิชัย พ.ศ. 2475 (รุ่นคณะราษฎร) ถือว่าเป็นรูปถ่ายเก่าที่ถ่ายตอนครูบาเจ้าศรีวิชัยอายุประมาณ 54 ปี รูปนี้ถ่าย ณ วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ มีการนำมาอัดกระจกแบบโบราณ แล้วเลี่ยมอะลูมิเนียมเก่ากล่าวกันว่ารูปถ่ายนี้ได้ออกบูชาทำบุญ ณ วัดสวนดอก ครับ มีครูบาอาจารย์สายล้านนาร่วมกันปลุกเสกครับ
    สวยๆสมบูรณ์หายากมากครับ.


    Clip_167.jpg Clip_168.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2021
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8977

    ตะกรุดเก้ากุ่ม ครูบาวัง วัดบ้านเด่น เลี่ยมเดิม

    สุดยอดเกจิแห่งเมืองตาก วัตถุมงคลของท่านล้วนมีประสบการณ์ เลี่ยมเดิมตัวจริงเสียงจริงแท้ดูง่าย
    ยันต์เก้ากุ่ม เป็นยันต์ชนิดหนึ่งที่มีรูปแบบที่สวยงาม โดยจะนำตระกรูดเก้าดอกมาถักรวมกันเป็นหนึ่งกลุ่ม โดยเชื่อกันว่าหากมียันต์เก้ากลุ่มติดตัวบูชาจะประสบกับความโชคดี ก้าวหน้า
    กุ่ม หรือกลุ่มในที่นี้หมายถึงการรวมกัน เก้ากุ่มจึงหมายถึงการรวมกันของสิ่งอันเป็นมงคลต่าง ๆ มาไว้ด้วยกัน โดยยันต์เก้ากลุ่มดูภายนอกจะมีตระกรูดอยู่แปดดอก และดอกที่เก้าจะอยู่ข้างในเป็นหัวใจยันต์ ภายนอกแปดดอกนั้นเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งมงคลแปดอย่างของพราหมณ์
    คาถาที่นำมาจารลงในยันต์มีดังนี้
    1.ตะปะหะนะละ
    2. ขะนะหะนะตะ
    3.วะตะสะวะหะนะ
    4.คะมะหะนะทะ
    5.วะจะวะทะคะมะ
    6.กะมะขะนะนะตะตะระ
    7.ยะวะมะทะกะมะยะ
    8.ยะวะมะทะยะวะ
    9.นะวะกะยะวะ

    พุทธคุณครอบจักรวาล ใช้สะเดาะเคราะห์แก้ดวงตก หนุนดวง ป้องกันภูตผีปีศาจ สิ่งชั่วร้าย เสริมดวงให้ก้าวหน้า มีเมตตามหาเสน่ห์ และยังเสริมบารมีครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_177.jpg Clip_178.jpg Clip_179.jpg Clip_187.jpg Clip_188.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2021
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8978

    เหรียญพระนเรศวร ปี2533 หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน


    เป็นเหรียญทรงวงรี ด้านหน้าเป็นรูปพระนเรศวรครึ่งพระองค์ กำลังเทอุทกวารี ด้านหลังเป็นแผนที่ประเทศไทย มีธรรมจักรอยู่ตรงกลางและมีอักษร ฅนไเหรียญพระนเรศวร ปี2533 หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน เป็นเหรียญทรงวงรี ด้านหน้าเป็นรูปพระนเรศวรครึ่งพระองค์ กำลังเทอุทกวารี ด้านหลังเป็นแผนที่ประเทศไทย มีธรรมจักรอยู่ตรงกลางและมีอักษร ฅนไทยรักษาแผ่นดินด้วยพุทธธรรม จะมีสองเนื้อ เนื้อกะไหล่ทอง พิมพ์ตัวหนังสือแบนและกลม เนื้อทองแดงรมดำ(ดังรูป)พิมพ์ตัวหนังสือแบนและกลม ส่วนสององค์นี้เป็นแบบหลังหนังสือแบนครับ ที่สำคัญเหรียญรุ่นนี้มีอภินิหารไกลถึงอเมริกาเลยครับ “เหรียญหลักร้อยพุทธคุณหลักล้าน” ***ปาฏิหาริย์เหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช “หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี” ปี ๓๓ ***ประสบการณ์ปาฏิหาริย์ “สมเด็จพระนเรศวร” ปกป้องแผ่นดินไทย โดย นายประมวล รุจนเสรี สมัยนั้น นายประมวล รุจนเสรี ย้ายจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พวกพม่ากะเหรี่ยงมาปล้นคนไทย เอาของของคนไทยไป กำลังตำรวจไม่พอ นายประมวล รุจนเสรี จึงได้วิทยุให้กองทัพภาคที่สามมาช่วยด่วน! พอวิทยุเสร็จแล้ว ดันนึกขึ้นได้ว่าถ้าพวกทหารมาก็จะยิงพวกกะเหรี่ยง พม่าตาย เป็นบาป ใจจึงประหวัดถึงสมเด็จพระนเรศวร ขอพระนเรศวรทรงโปรดช่วยลูกช้าง ปกปักรักษาลูกให้อยู่เย็นเป็นสุขและปลอดภัย ณ บัดนี้ ก็ปรากฏว่าครึ้มฟ้าครึ้มฝน ฝนมาเป็นห่าใหญ่เลยทีเดียว พระนเรศวรลอยขึ้นมาปรากฏองค์บนนภากาศครึ่งองค์ เทอุทกวารี พวกที่เห็นก็สเก็ตซ์รูปเก็บไว้ เมื่อเครื่องบินมาถึงพร้อมอาวุธครบมือ ก็ลงไม่ได้เลย เกิดพายุร้าย เกิดเมฆหมอก เครื่องบินกองทัพภาคที่สามต้องกลับเชียงใหม่ พอกลับเชียงใหม่แล้ว ทางพวกพม่า กะเหรี่ยงหนีหมดเลย ไม่ได้เอาข้าวของไป เอาคืนหมด และหนีเข้าพม่าไป คนไทยเลยปลอดภัย พระนเรศวรก็หายวับไปกับตา พอพระนเรศวรหายไปแล้ว ดินฟ้าอากาศก็โล่งสว่างทันที เครื่องบินลงได้ แต่พม่าได้หนีไปหมดแล้ว เหตุการณ์เกิดขึ้นมาอย่างนี้ เลยดลบันดาลให้ นายประมวล รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัด สร้างเหรียญสมเด็จพระนเรศวรขึ้นมา ด้านหน้าเป็นรูปพระนเรศวรครึ่งพระองค์กำลังเทอุทกวารี ด้านหลังเป็นแผนที่ประเทศไทย มีธรรมจักรอยู่ตรงกลาง และมีอักษรเขียนไว้ว่า “คนไทยรักษาแผ่นดินด้วยพุทธธรรม” ซึ่งตรงกับพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ว่า “เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน” เมื่อนายประมวล รุจนเสรี ได้ย้ายมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ก็ได้จัดอบรมข้าราชการขึ้นที่วัดอัมพวันจำนวน ๑๒ รุ่นๆ ละ ๒๐๐ คน ตั้งแต่เจ้าเมืองไปจนถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และยังมาพิเศษอีก ท่านเจ้าเมืองบอกว่า ใครมาปฏิบัติธรรมจะแจกเหรียญสมเด็จพระนเรศวรคนละเหรียญ ในการปลุกเสกเหรียญนั้น ครั้งแรกทำพิธีที่วัดบวรนิเวศวิหาร โดยสมเด็จพระสังฆราช แล้วนำมาให้หลวงพ่อจรัญอธิษฐานจิตอีกครั้งหนึ่ง “เหรียญสมเด็จพระนเรศวร” ดังถึงสหรัฐอเมริกา พอเสร็จการอบรมรุ่นที่ ๑๐ ขณะนั้น ข้าราชการทหาร กรมแผนที่ทหารกองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม ยังอบรมอยู่ในตอนเช้าวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ อาตมาได้เดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ขอเหรียญสมเด็จพระนเรศวรจากผู้ว่าราชการจังหวัดไป ๑ กำ เอากลัดติดย่ามไว้ ๑ เหรียญ นอกนั้นใส่ห่อพลาสติกไว้ ไปถึงสนามบินดอนเมือง กงสุลและแขกผู้ใหญ่มาต้อนรับ ก็แจกเขาไปเหลืออยู่ไม่เท่าไหร่ เดินทางจากดอนเมืองสองโมงเช้า แวะเติมน้ำมันที่เมืองโซล ๔๕ นาที และบินข้ามมหาสมุทร ๑๑ ชั่วโมง ถึงลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันเดียวกันนั้นเอง คือ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ ที่เมืองไทยเป็นเวลากลางวัน แต่ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลากลางคืน มีลูกสาวของครอบครัวหนึ่งที่ลอสแองเจลิส พ่อเป็นชาวอเมริกัน เป็นนักประวัติศาสตร์ แม่เป็นคนจีนอยู่ในเมืองไทยที่เยาวราช ฐานะร่ำรวยมหาศาล เขาฝันว่ามีพระสงฆ์แห่งประเทศไทยมาที่บ้านเขา มีเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมา ๑ เหรียญ รูปร่างอย่างนั้นๆ ติดย่ามมาเพียงเหรียญเดียว และได้ให้แก่เขา เขาดีใจมาก ขณะฝันอาตมาขึ้นเครื่องบินแล้วนะ ไปดอนเมืองก็เหลือสัก ๑๐ เหรียญ พอไปผ่านกงสุลก็แจกหมดเลย เหลือติดย่ามเพียงอันเดียวเมื่ออาตมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เหลืออีก ๒ วัน ก็จะกลับแล้ว มีด็อกเตอร์คนหนึ่ง มีภรรยา ๓ คนมีชู้หมด เขาบอกว่าจะมีอีกคนหนึ่ง อาตมาบอกว่า อย่ามีนะ ถ้ามีก็มีชู้อีกนะ คุณมีกฎแห่งกรรมกาเมสุมิจฉาจารมา คุณเป็นด็อกเตอร์ก็จริงนะ คุณก็เป็นคนดีด้วย ทำไมภรรยามีชู้ เพราะกาเมสุมิจฉาจารติดมา ๖๐ เปอร์เซ็นต์ อย่าลืมนะ นั่งกรรมฐานจึงจะรู้ เขาอาสาขับรถพาอาตมาไปเที่ยว ตอนนั้นพวกที่ติดตามก็ไปกันคนละทาง โยมอำนาจ สุนีย์ วิบูลพร ดร.กิ่งแก้ว ก็ไปกันคนละทาง เขาบอกว่า หลวงพ่อไปเที่ยวกับผม อาตมาก็ไปด้วย รถผ่านขึ้นไปบนภูเขา มีบ้านที่อยู่อาศัยมากมาย จำไว้นะที่อเมริกาถ้าใครอยู่บนยอดเขาเป็นเศรษฐีนะ แต่ถ้าคนไทยอยู่บนยอดเขา ถือว่าไปแย่งลิงอยู่ คือจนที่สุด ไม่มีที่อยู่ ที่บนภูเขามีดอกไม้ปลูกไว้สวยงามมาก รถได้แล่นถึงหน้าบ้านใหญ่โตหลังหนึ่ง ด็อกเตอร์ที่เป็นคนขับรถก็บอกว่า หลวงพ่อแวะบ้านนี้ไหม หิวน้ำไหมครับหลวงพ่อ เดี๋ยวแวะบ้านนี้ เจ้าของบ้านใจดีจังเลย เขาชอบกับผม มีลูกสาวสวยด้วย นี่เทวดาเข้าดลบันดาลใจคนขับแล้ว อาตมาก็บอกว่า แวะเป็นแวะ ไม่มีลูกศิษย์ตามมาด้วย สบายมาก เขาก็แวะจอดหน้าบ้าน บีบแตรแป๊นๆ ลูกสาววิ่งออกมาเลย บอกว่า “นิมนต์เจ้าค่ะ” ด็อกเตอร์ก็แปลกใจถามว่า “หลวงพ่อรู้จักเขาเหรอ” อาตมานึกจะตู่เสียแล้ว ไม่รู้จักเลยนะ ทำไมมาเรียกถูกต้อง เขากล่าวว่า “หลวงพ่อคะ หนูดีใจมาก นิมนต์ค่ะหลวงพ่อ” เขาพูดจาทักทายกันเหมือนคนรู้จักกันมาตั้ง ๑๐ ปี อาตมาก็เข้าไปในบ้าน อันดับแรกพบรูป จอมพล ป.พิบูลสงครามก่อน รูปบานใหญ่มาก ในประเทศไทยตามสำนักงานต่างๆ อาตมาดูมาหลายแห่งแล้ว ไม่มีรูปจอมพล ป.พิบูลสงครามเลย พ่อของเขาเป็นนักประวัติศาสตร์ สะสมรูปบุคคลสำคัญไว้ มีรูปพระนเรศวร และพระเจ้าตากสินด้วย พออาตมาเห็นรูป จอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็นึกถึงบรรพบุรุษของไทย และพ่อของเขาส่งภาษาบอกกับอาตมาว่า “ผู้บริหาร ผู้บริการ และนักปกครองที่ดียิ่ง ไม่มีใครเกินจอมพล ป.พิบูลสงคราม” เขายกย่องจอมพล ป. มาก อาตมาเข้าไปนั่ง พ่อของเขาก็มานั่งสวัสดี เรียบร้อยแล้วก็นั่งเก้าอี้ แม่ของเขาก็มานั่งสวัสดีเรียบร้อยแล้วไปหาน้ำมาเลี้ยง ลูกสาวของเขาสวยน่ารัก จมูกโด่ง ผิวเหลืองเนื้อละเอียดเหมือนแม่ ไม่เหมือนผิวของฝรั่งทั่วไปซึ่งเหมือนควายเผือก ท่าทางเขาเหมือนกับว่าจะรู้จักกับอาตมาเป็นแรมปี พออาตมาฉันน้ำเรียบร้อยแล้ว เขาก็เข้ามากราบ ๓ หน พร้อมกับกล่าวว่า “ขอนมัสการเจ้าค่ะ ดิฉันขอเล่าเรื่องแปลกให้ท่านฟัง ไม่ทราบว่าจะจริงเท็จประการใด ถ้าจริงขอประทานนะเจ้าคะ” อาตมาก็ถามว่า “รูปร่างพระนเรศวรเป็นอย่างไรล่ะ” เขาก็บอกว่า “ครึ่งตัวค่ะ กำลังเทน้ำ ข้างหลังมีแผนที่ประเทศไทยและเขียนภาษาไทยว่า คนไทยรักษาแผ่นดินด้วยพุทธธรรม ถ้ามีจริงอยู่ในย่ามของหลวงพ่อ ขอประทานเจ้าค่ะ” และก็ถือพานมารอไว้ ด็อกเตอร์ก็บอกว่า “หลวงพ่อ มีเหรียญอะไรน่ะ ไม่เห็นให้ผมบ้าง” อาตมาก็บอกลูกสาวเขาไปว่า ยังไม่ทราบว่าจะมี หรือหลุดไปแล้วยังรับปากไม่ได้ ขอดูก่อน พอเอามือล้วงเข้าไปในย่ามก็แกะเหรียญนั้นออกมา พ่อของเขารีบลงจากเก้าอี้มารับ กราบใหญ่เลย มีเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น หมดย่ามแล้ว วันรุ่งขึ้น ครอบครัวนี้ก็นำขนมไปถวายอาตมาที่ลอสแองเจลิส ด็อกเตอร์ก็คุยใหญ่ หลายคนจะมาล้วงย่ามอาตมา อาตมาก็บอกว่า หมดแล้ว หมดตั้งแต่สนามบินแล้ว ไม่มีให้ นี่คือเหตุการณ์ของสมเด็จพระนเรศวรที่ผ่านมา เหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช “หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี” ปี ๓๓ สร้างเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๓ โดยนายประมวล รุจนเสรี ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย สร้างขึ้นเพื่อแจกให้กับผู้ที่อบรมปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ว่ากันว่า เหรียญรุ่นนี้ปลุกเสก ๒ ครั้ง คือ ครั้งแรกเข้าพิธีที่วัดบวรฯ แล้วนำไปให้หลวงพ่อจรัญปลุกเสกต่อที่วัดอัมพวันอีกที จะมี ๒ เนื้อ ๑.เนื้อกะไหล่ทอง ๒.เนื้อทองแดง สร้างรวมกันทั้งหมด ๑๐,๐๐๐ เหรียญทยรักษาแผ่นดินด้วยพุทธธรรม จะมีสองเนื้อ เนื้อกะไหล่ทอง พิมพ์ตัวหนังสือแบนและกลม เนื้อทองแดงรมดำ(ดังรูป)พิมพ์ตัวหนังสือแบนและกลม ส่วนสององค์นี้เป็นแบบหลังหนังสือแบนครับ ที่สำคัญเหรียญรุ่นนี้มีอภินิหารไกลถึงอเมริกาเลยครับ “เหรียญหลักร้อยพุทธคุณหลักล้าน” ***ปาฏิหาริย์เหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช “หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี” ปี ๓๓ ***ประสบการณ์ปาฏิหาริย์ “สมเด็จพระนเรศวร” ปกป้องแผ่นดินไทย โดย นายประมวล รุจนเสรี สมัยนั้น นายประมวล รุจนเสรี ย้ายจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พวกพม่ากะเหรี่ยงมาปล้นคนไทย เอาของของคนไทยไป กำลังตำรวจไม่พอ นายประมวล รุจนเสรี จึงได้วิทยุให้กองทัพภาคที่สามมาช่วยด่วน! พอวิทยุเสร็จแล้ว ดันนึกขึ้นได้ว่าถ้าพวกทหารมาก็จะยิงพวกกะเหรี่ยง พม่าตาย เป็นบาป ใจจึงประหวัดถึงสมเด็จพระนเรศวร ขอพระนเรศวรทรงโปรดช่วยลูกช้าง ปกปักรักษาลูกให้อยู่เย็นเป็นสุขและปลอดภัย ณ บัดนี้ ก็ปรากฏว่าครึ้มฟ้าครึ้มฝน ฝนมาเป็นห่าใหญ่เลยทีเดียว พระนเรศวรลอยขึ้นมาปรากฏองค์บนนภากาศครึ่งองค์ เทอุทกวารี พวกที่เห็นก็สเก็ตซ์รูปเก็บไว้ เมื่อเครื่องบินมาถึงพร้อมอาวุธครบมือ ก็ลงไม่ได้เลย เกิดพายุร้าย เกิดเมฆหมอก เครื่องบินกองทัพภาคที่สามต้องกลับเชียงใหม่ พอกลับเชียงใหม่แล้ว ทางพวกพม่า กะเหรี่ยงหนีหมดเลย ไม่ได้เอาข้าวของไป เอาคืนหมด และหนีเข้าพม่าไป คนไทยเลยปลอดภัย พระนเรศวรก็หายวับไปกับตา พอพระนเรศวรหายไปแล้ว ดินฟ้าอากาศก็โล่งสว่างทันที เครื่องบินลงได้ แต่พม่าได้หนีไปหมดแล้ว เหตุการณ์เกิดขึ้นมาอย่างนี้ เลยดลบันดาลให้ นายประมวล รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัด สร้างเหรียญสมเด็จพระนเรศวรขึ้นมา ด้านหน้าเป็นรูปพระนเรศวรครึ่งพระองค์กำลังเทอุทกวารี ด้านหลังเป็นแผนที่ประเทศไทย มีธรรมจักรอยู่ตรงกลาง และมีอักษรเขียนไว้ว่า “คนไทยรักษาแผ่นดินด้วยพุทธธรรม” ซึ่งตรงกับพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ว่า “เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน” เมื่อนายประมวล รุจนเสรี ได้ย้ายมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ก็ได้จัดอบรมข้าราชการขึ้นที่วัดอัมพวันจำนวน ๑๒ รุ่นๆ ละ ๒๐๐ คน ตั้งแต่เจ้าเมืองไปจนถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และยังมาพิเศษอีก ท่านเจ้าเมืองบอกว่า ใครมาปฏิบัติธรรมจะแจกเหรียญสมเด็จพระนเรศวรคนละเหรียญ ในการปลุกเสกเหรียญนั้น ครั้งแรกทำพิธีที่วัดบวรนิเวศวิหาร โดยสมเด็จพระสังฆราช แล้วนำมาให้หลวงพ่อจรัญอธิษฐานจิตอีกครั้งหนึ่ง “เหรียญสมเด็จพระนเรศวร” ดังถึงสหรัฐอเมริกา พอเสร็จการอบรมรุ่นที่ ๑๐ ขณะนั้น ข้าราชการทหาร กรมแผนที่ทหารกองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม ยังอบรมอยู่ในตอนเช้าวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ อาตมาได้เดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ขอเหรียญสมเด็จพระนเรศวรจากผู้ว่าราชการจังหวัดไป ๑ กำ เอากลัดติดย่ามไว้ ๑ เหรียญ นอกนั้นใส่ห่อพลาสติกไว้ ไปถึงสนามบินดอนเมือง กงสุลและแขกผู้ใหญ่มาต้อนรับ ก็แจกเขาไปเหลืออยู่ไม่เท่าไหร่ เดินทางจากดอนเมืองสองโมงเช้า แวะเติมน้ำมันที่เมืองโซล ๔๕ นาที และบินข้ามมหาสมุทร ๑๑ ชั่วโมง ถึงลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันเดียวกันนั้นเอง คือ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๓๔ ที่เมืองไทยเป็นเวลากลางวัน แต่ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเวลากลางคืน มีลูกสาวของครอบครัวหนึ่งที่ลอสแองเจลิส พ่อเป็นชาวอเมริกัน เป็นนักประวัติศาสตร์ แม่เป็นคนจีนอยู่ในเมืองไทยที่เยาวราช ฐานะร่ำรวยมหาศาล เขาฝันว่ามีพระสงฆ์แห่งประเทศไทยมาที่บ้านเขา มีเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมา ๑ เหรียญ รูปร่างอย่างนั้นๆ ติดย่ามมาเพียงเหรียญเดียว และได้ให้แก่เขา เขาดีใจมาก ขณะฝันอาตมาขึ้นเครื่องบินแล้วนะ ไปดอนเมืองก็เหลือสัก ๑๐ เหรียญ พอไปผ่านกงสุลก็แจกหมดเลย เหลือติดย่ามเพียงอันเดียวเมื่ออาตมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เหลืออีก ๒ วัน ก็จะกลับแล้ว มีด็อกเตอร์คนหนึ่ง มีภรรยา ๓ คนมีชู้หมด เขาบอกว่าจะมีอีกคนหนึ่ง อาตมาบอกว่า อย่ามีนะ ถ้ามีก็มีชู้อีกนะ คุณมีกฎแห่งกรรมกาเมสุมิจฉาจารมา คุณเป็นด็อกเตอร์ก็จริงนะ คุณก็เป็นคนดีด้วย ทำไมภรรยามีชู้ เพราะกาเมสุมิจฉาจารติดมา ๖๐ เปอร์เซ็นต์ อย่าลืมนะ นั่งกรรมฐานจึงจะรู้ เขาอาสาขับรถพาอาตมาไปเที่ยว ตอนนั้นพวกที่ติดตามก็ไปกันคนละทาง โยมอำนาจ สุนีย์ วิบูลพร ดร.กิ่งแก้ว ก็ไปกันคนละทาง เขาบอกว่า หลวงพ่อไปเที่ยวกับผม อาตมาก็ไปด้วย รถผ่านขึ้นไปบนภูเขา มีบ้านที่อยู่อาศัยมากมาย จำไว้นะที่อเมริกาถ้าใครอยู่บนยอดเขาเป็นเศรษฐีนะ แต่ถ้าคนไทยอยู่บนยอดเขา ถือว่าไปแย่งลิงอยู่ คือจนที่สุด ไม่มีที่อยู่ ที่บนภูเขามีดอกไม้ปลูกไว้สวยงามมาก รถได้แล่นถึงหน้าบ้านใหญ่โตหลังหนึ่ง ด็อกเตอร์ที่เป็นคนขับรถก็บอกว่า หลวงพ่อแวะบ้านนี้ไหม หิวน้ำไหมครับหลวงพ่อ เดี๋ยวแวะบ้านนี้ เจ้าของบ้านใจดีจังเลย เขาชอบกับผม มีลูกสาวสวยด้วย นี่เทวดาเข้าดลบันดาลใจคนขับแล้ว อาตมาก็บอกว่า แวะเป็นแวะ ไม่มีลูกศิษย์ตามมาด้วย สบายมาก เขาก็แวะจอดหน้าบ้าน บีบแตรแป๊นๆ ลูกสาววิ่งออกมาเลย บอกว่า “นิมนต์เจ้าค่ะ” ด็อกเตอร์ก็แปลกใจถามว่า “หลวงพ่อรู้จักเขาเหรอ” อาตมานึกจะตู่เสียแล้ว ไม่รู้จักเลยนะ ทำไมมาเรียกถูกต้อง เขากล่าวว่า “หลวงพ่อคะ หนูดีใจมาก นิมนต์ค่ะหลวงพ่อ” เขาพูดจาทักทายกันเหมือนคนรู้จักกันมาตั้ง ๑๐ ปี อาตมาก็เข้าไปในบ้าน อันดับแรกพบรูป จอมพล ป.พิบูลสงครามก่อน รูปบานใหญ่มาก ในประเทศไทยตามสำนักงานต่างๆ อาตมาดูมาหลายแห่งแล้ว ไม่มีรูปจอมพล ป.พิบูลสงครามเลย พ่อของเขาเป็นนักประวัติศาสตร์ สะสมรูปบุคคลสำคัญไว้ มีรูปพระนเรศวร และพระเจ้าตากสินด้วย พออาตมาเห็นรูป จอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็นึกถึงบรรพบุรุษของไทย และพ่อของเขาส่งภาษาบอกกับอาตมาว่า “ผู้บริหาร ผู้บริการ และนักปกครองที่ดียิ่ง ไม่มีใครเกินจอมพล ป.พิบูลสงคราม” เขายกย่องจอมพล ป. มาก อาตมาเข้าไปนั่ง พ่อของเขาก็มานั่งสวัสดี เรียบร้อยแล้วก็นั่งเก้าอี้ แม่ของเขาก็มานั่งสวัสดีเรียบร้อยแล้วไปหาน้ำมาเลี้ยง ลูกสาวของเขาสวยน่ารัก จมูกโด่ง ผิวเหลืองเนื้อละเอียดเหมือนแม่ ไม่เหมือนผิวของฝรั่งทั่วไปซึ่งเหมือนควายเผือก ท่าทางเขาเหมือนกับว่าจะรู้จักกับอาตมาเป็นแรมปี พออาตมาฉันน้ำเรียบร้อยแล้ว เขาก็เข้ามากราบ ๓ หน พร้อมกับกล่าวว่า “ขอนมัสการเจ้าค่ะ ดิฉันขอเล่าเรื่องแปลกให้ท่านฟัง ไม่ทราบว่าจะจริงเท็จประการใด ถ้าจริงขอประทานนะเจ้าคะ” อาตมาก็ถามว่า “รูปร่างพระนเรศวรเป็นอย่างไรล่ะ” เขาก็บอกว่า “ครึ่งตัวค่ะ กำลังเทน้ำ ข้างหลังมีแผนที่ประเทศไทยและเขียนภาษาไทยว่า คนไทยรักษาแผ่นดินด้วยพุทธธรรม ถ้ามีจริงอยู่ในย่ามของหลวงพ่อ ขอประทานเจ้าค่ะ” และก็ถือพานมารอไว้ ด็อกเตอร์ก็บอกว่า “หลวงพ่อ มีเหรียญอะไรน่ะ ไม่เห็นให้ผมบ้าง” อาตมาก็บอกลูกสาวเขาไปว่า ยังไม่ทราบว่าจะมี หรือหลุดไปแล้วยังรับปากไม่ได้ ขอดูก่อน พอเอามือล้วงเข้าไปในย่ามก็แกะเหรียญนั้นออกมา พ่อของเขารีบลงจากเก้าอี้มารับ กราบใหญ่เลย มีเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น หมดย่ามแล้ว วันรุ่งขึ้น ครอบครัวนี้ก็นำขนมไปถวายอาตมาที่ลอสแองเจลิส ด็อกเตอร์ก็คุยใหญ่ หลายคนจะมาล้วงย่ามอาตมา อาตมาก็บอกว่า หมดแล้ว หมดตั้งแต่สนามบินแล้ว ไม่มีให้ นี่คือเหตุการณ์ของสมเด็จพระนเรศวรที่ผ่านมา เหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช “หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี” ปี ๓๓ สร้างเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๓ โดยนายประมวล รุจนเสรี ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย สร้างขึ้นเพื่อแจกให้กับผู้ที่อบรมปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ว่ากันว่า เหรียญรุ่นนี้ปลุกเสก ๒ ครั้ง คือ ครั้งแรกเข้าพิธีที่วัดบวรฯ แล้วนำไปให้หลวงพ่อจรัญปลุกเสกต่อที่วัดอัมพวันอีกที จะมี ๒ เนื้อ ๑.เนื้อกะไหล่ทอง ๒.เนื้อทองแดง สร้างรวมกันทั้งหมด ๑๐,๐๐๐ เหรียญ

    เหรียญดีน่าใช้มากๆครับ


    ราคา 550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_189.jpg Clip_190.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2021
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8979

    เหรียญสมเด็จพระสังฆราช หลังพระแก้วมรกต หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ปี 2516 มีจาร


    เหรียญ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ปลุกเสกเมื่อปี 2516/2517 รุ่นแรกๆสมัยที่ยังเรียกว่า พระอาจารย์คูณ ปริสุทโธ /
    หลวงพ่อคูณได้บรรจงสร้างสรรค์ เหรียญด้านหน้าเป็นรูป สมเด็จพระอริยะวงศาคตญาณ ปุณณศิริมหาเถระ (ปุ่น) พระสังฆราช องค์ที่ 17 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ด้านหลังเป็นพระแก้วมรกต ด้านบนระบุชื่อ พระแก้วมรกต ด้านล่างองค์พระแก้วมรกต จารึกไว้ว่า “พระอาจารย์คูณ ปริสุทโธ ปลุกเสก 2516”
    หลวงพ่อคูณสร้างไว้ให้เป็นที่ระลึก แก่สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น) โดยเฉพาะ ในการเสด็จมายังวัดบ้านไร่ของหลวงพ่อคูณ ที่สำคัญที่สุดที่น้อยท่านนักจะทราบว่า จำนวนการสร้างไม่มากนัก ประมาณ 1 หมื่นเท่านั้น และทุกเหรียญ หลวงพ่อคูณบรรจงจารด้วยตัวเองทั้งสิ้น และนับเป็นวัตถุมงคลเพียงรุ่นเดียว ที่หลวงพ่อคูณได้ตั้งใจสร้างอย่างพิถีพิถัน พร้อมทั้งตั้งใจจารไว้อย่างแน่วแน่/
    *พระเก่าเป็นพระดีปีลึก วัดสร้างเอง เจตนาการสร้างสุดยอด สุดยอดแห่งสังฆราชา สุดยอดแห่งพระพุทธรูปบูชาที่ศักดิ์สิทธิ์ เพียงรุ่นเดียวของหลวงพ่อที่มีรอยจารด้วยตัวหลวงพ่อเอง ราคาไม่แพง ควรค่าแก่การบูชาและสะสมเพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง
    *สวยดำเดิม ไม่ผ่านการใช้


    ราคา 1100 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_218.jpg Clip_219.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2021
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8980

    เหรียญรุ่นแรก ครูบาเป็งยา (ปัญญา) มหานยกะ สวยผิวไฟเดิมๆ


    พนะ้กจอคณาจารย์ผู้ทรงวิยามคมสายไทยใหญ่ ท่านเป็นอาจารย์ ครูบาออ แห่งวัดดอยธาตุเมืองนะ อ.เชียงดาว เหรียญดังของคนไทยใหญ่ ประสบการณ์ เยอะมาก สุดยอดของความหายากครับ


    ราคา 550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_220.jpg Clip_221.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2021
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8981

    เหรียญรุ่นแรก ครูบาเจ้าภะคะวา


    พระเกจิผู้ทรงวิยาคมแห่งชาวกะเหรี่ยง พระผู้ทรงฤิทธิ์ ต๋นบุญในดงกระเหรี่ยงท่านเป๋นชาวหล่ายน้ำเมืองม่านเชื้อสายชาวกะเหรี่ยง เดินธุดงมาฝังไทย คนไทยรู้จักท่านในนามครูบาเจ้าราช ท่านเป็นพระผู้ทรงฤิทธิ์มีผู้เลื่อมใสศรัทธา ไปหาสู่ครูบาชัยวงษาพระบาทห้วยต้มครูบาวงค์ท่านเคารพนับถือท่านมาก

    ครูบาหยัดวัดแม่พริกเล่าว่าท่านสนิทกันกับครูบาก้อน พระใบระกาครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นอย่างดีครับ

    สหายกับคูบาเจ้าขาวปี๋ท่านจะเดินทางมาหาคูบาเจ้าขาวปีตลอดเขาว่าท่านมีลูกแก้ววิเสดสามารถส่องอดีตอนาคตได้

    กะเหรี่ยงบ้านเกาะหลวงดอยเต่าจะเรียกท่านว่า "พุ่งท่อง" แปลว่า "หลวงปู่ทอง" ท่านเคยมาพักที่หมู่บ้าน ชาวบ้านได้สร้างกระท่อมไม้ไผ่ให้ท่านพัก จากที่ฟังย่าเล่า ครูบามีฤทธิ์ย่นระยะทางได้ครับ

    เหรียญวัตถุมงคลของท่านมีประสบการมากมาย


    บูชาแล้วครับ

    Clip_218.jpg Clip_219.jpg Clip_222.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2021
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8982

    เล็บเสือเลี่ยมเงินชุบทองพร้อมใช้


    เขี้ยว เล็บ หนัง ของเสือนั้น ในสมัยโบราณมักจะนำมาทำเป็นเครื่องรางของขลังพกติดตัว เพราะเชื่อในอำนาจของเสือว่าจะปกป้องคุ้มภัยจากอันตรายได้ ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย เนื่องจากสัญชาตญาณของเสือที่มีความว่องไว ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด และความเป็นมหาอำนาจของเสือจึงทำให้เกิดอานุภาพในตัวของมันเองโดยไม่ผ่านการปลุกเสกก็มีความขลังอยู่แล้ว

    โดยอวัยวะต่างๆของเสือที่นำมาทำเป็นเครื่องรางนั้น อาจจะลงคาถาปลุกเสกหรือไม่ปลุกเสกก็ได้ แต่ถ้าได้ผ่านพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์จากผู้มีวิชา พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงพุทธาคม ยิ่งทำให้อำนาจแห่งเสือสถิตในเขี้ยว เล็บ และหนังได้มากขึ้น มีอานุภาพอันฉกาจด้านมหาอำนาจ แคล้วคลาด ป้องกันสิ่งชั่วร้าย อาถรรพ์มนต์ดำ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานเสี่ยงอันตราย ผู้ที่เดินทางไกล หรือชอบเข้าป่าเป็นประจำ

    เล็บเสือเลี่ยมเงินเครื่องรางชั้นเยี่ยม�บอกเล่าเรืองพุทธคุณกันดีกว่า....เล็บเสือนั้นดีในทุกๆด้าน...เสือนั้น ก่อนจะลงเขี้ยวปลิดชีพ ศัตรูหรือเหยื่อ ก้อต้องใช้ เล็บตะบบ ก่อนครับ ทำให้เหยื่อไม่สามารถหนีไปได้ และทำให้ เสือได้จมเขี้ยวดับลมหายใจของเหยื่อ ได้ในที่สุด...เล็บของเสือนั้น ถึงถือเป็นเครื่องรางชั้นเยี่ยม หาได้ยากครับ ทั้ง จังงัง มหาอำนาจ หรือจะคงกระพัน เรียกได้ว่าครบเลยทีเดียวครับ


    เลี่ยมเงินชุบทองพร้อมใช้ครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_223.jpg Clip_244.jpg Clip_245.jpg Clip_246.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2021
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 8983

    รูปครูบาศรีวิชัยครูบาขาวปีหลังบรรจุเส้นเกศา เลี่ยมเก่าเดิมๆจากวัด

    ของมงคลสูงสุดที่ควรค่าแก่บูชา แท้ดูง่าย

    รับประกันความแท้ตลอดชีพครับ ครับ


    ราคา 999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_191.jpg Clip_192.jpg Clip_193.jpg Clip_206.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2021
  19. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,078
    ค่าพลัง:
    +6,789
    ขอจองครับ
     
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,386
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รับทราบการจองขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...