หมดแล้ว ***$$$สมบัติหลวงพ่อฤาษีลิงดำและพระเกจิอาจารย์ครับ บูชาเบาๆ$$$****

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Loungpor, 11 สิงหาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019
    เริ่มลงให้บูชาเลยครับผม

    10373. เศียรท้าวจตุโลกบาล หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน เนื้อกะไหล่เงิน หมายเลขสวย ( เลข 5 )

    พร้อมกล่องวัดเดิมๆ บูชาเบา ๆ 350 บาท


    **** จองแล้วครับ ****


    12.jpg

    333878433_1339796716877131_6540658295736693999_n.jpg

    333869726_229497219422170_8846333804477103998_n.jpg

    332994477_759632311983013_6973823347126596333_n.jpg

    333661152_527811082792352_7998319094788422198_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2023
  2. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019

    10374.พระปิดตารุ่นเสาร์ห้ายันต์กลับ หลวงปู่นาค วัดระฆัง ปี ๒๕๐๐

    พระปิดตารุ่นเสาร์ห้ายันต์กลับ หลวงปู่นาค วัดระฆัง ปี ๒๕๐๐ เนื้อผงพุทธคุณสีขาว พระรุ่นนี้ที่หลายเนื้อที่พบเห็นคือ เนื้อแดง ดำ เขียว เหลือง เทาและเนื้อขาว หลวงปู่นาค โสภโณ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ ท่านผสมผงพุทธคุณผสมผงสมเด็จวัดระฆัง มวลสารพระสมเด็จวัดระฆังเข้าไปเพียบ ผิวเหนอะเล็กๆ ผงสมเด็จเก่าเกาะเป็นก้อนเล็กๆให้เห็น และผิวเก่าพอสวย เนื้อหาจัดจ้านพระบ้านเก่าเก็บ พิมพ์ทรงเป็นเอกลักษณ์,เนื้อมวลสาร สายวัดระฆังต่างรู้กันดี ซึ่งถ้าหากหาสมเด็จวัดระฆังองค์เป็นแสน เป็นล้านๆ ไม่ไหว ก็สามารถใช้พระชุดนี้แขวนทดแทนได้เช่นกัน เพราะผสมมวลสารวัดระฆังชัดเจน นานๆจะพบสักองค์ ที่สำคัญด้านหลังยันต์กลับ เปรียบเสมือนกลับร้ายกลายเป็นดี หายากน่าเก็บน่าใช้ อีกละครับ

    องค์นี้สภาพน่ารัก เปิดบูชาเบาๆครับ ประมาณครึ่งของสภาพสวยๆ 390 บาท


    **** จองแล้วครับ ****


    329251465_145266995080916_1895431275570525602_n.jpg


    329290250_907373497181268_6623085440340045568_n.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2023
  3. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019


    10375. ลูกอมผงผงพุทธคุณ หลวงปู่ทิม อิสริโก ปลุกเสก ปี 2513 ออกวัดไผ่ล้อม จ.ระยอง


    ลูกอมผงพุทธคุณ สร้างปี พ.ศ.2513 วัดไผ่ล้อม จ.ระยอง ซึ่งขณะนั้นทางวัดไผ่ล้อมได้รวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อาทิเช่นผงพุทธคุณจากพระเกจิอาจารย์ต่างๆ ทั่วประเทศ และได้นำไปให้หลวงปู่ทิมปลุกเสก 7 วัน และภายหลังจากที่หลวงปู่ทิมปลุกเสกแล้วยังได้มอบผงจินดามณีของท่านให้เพื่อนำไปสร้างพระชุดนี้อีกด้วย และหลังจากนั้นทางวัดไผ่ล้อมก็นำผงพุทธคุณดังกล่าวไปกดพิมพ์พระซึ่งมีหลายพิมพ์ด้วยกัน หลังจากนั้นทำพิธีพุทธาภิเศกในวันเสาร์ ๕ ซึ่งได้นิมนต์หลวงปู่ทิม ไปปลุกเสกให้ด้วย หลังจากปลุกเสกเสร็จหลวงปู่ทิมท่านบอกว่าขณะปลุกเสกท่านนิมิตเห็นแสงสว่างไปทั่ววัตถุมงคลที่ปลุกเสก วัตถุมงคลชุดนี้จึงเป็นหนึ่งในวัตถุมงคลที่นิยมเช่าหากันในหมู่ผู้ที่ศรัทธาหลวงปู่ทิม

    ประวัติการสร้าง (พอสังเขป)


    อาจารย์ปี ( พระอาจารย์จำปี วิมุโล ) เริ่มเสาะหามวลสารตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 - 2512 จึงยุติการหาและเริ่มดำเนินการสร้างพระในโอกาสต่อมา การสร้างพระในสมัยก่อนต้องละเอียดอ่อน และพิถีพิถันกันมาก ไม่สร้างแบบสมัยใหม่ คนกดพิมพ์พระต้องถือศีล นุ่งขาว ห่มขาว จึงจะเข้ามากดพระและพิมพ์พระได้ พระเครื่องที่สร้างมีจำนวนมากพอสมควร หลวงพ่อพูน ผู้สร้างอยากให้ผู้ที่นำไปบูชาแล้วเห็นผล ท่านจึงต้องสร้างแบบพิถีพิถันมาก เพราะฉะนั้นพิธีปลุกเสกต้องดี มวลสารต้องเด่น พุทธคุณต้องยอดเยี่ยม พิธีพุทธาภิเษก และการปลุกเสกอันเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ที่บางคนยังไม่รู้หรือรู้แบบไม่ละเอียด เมื้อประมาณ ปี 2513 พระอุโบสถที่สร้างใกล้แล้วเสร็จ โดยจะมีงานฝังลูกนิมิตใน ปี พ.ศ. 2514 และมีพิธีปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยนั้น เพราะพระเถราจารย์ที่มาปลุกเสกให้วัดไผ่ล้อมใน ปี พ.ศ. 2514 ล้วนเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทะลุฟ้ากันทุก ๆ องค์ ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ หลวงพ่อพูนได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงแก่กล้าวิทยาคมจำนวน 9 รูป ดังมีรายนามดังต่อไปนี้

    1. หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง ประธานจุดเทียนชัยและนั่งปรก 2. หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า จ.ระยอง 3. หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก จ.ระยอง 4. หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ จ.ระยอง 5. หลวงพ่อโต่ง วัดเภตราสุขารมย์ จ.ระยอง 6. พระอาจารย์จำปี วัดไผ่ล้อม จ.ระยอง 7. หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี 8. หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม จ.อยุธยา 9. หลวงพ่อชาย วัดแม่นางปลื้ม จ.อยุธยา พระเครื่องชนิดต่างๆของวัดไผ่ล้อมนี้ มีหลายสีด้วยกัน ได้จัดสร้างขึ้นโดย พระอาจารย์จำปี วิปุโล ด้วยหวังความเป็นสิริมงคลแด่ผู้นำไปบูชาเพื่อจะได้สืบอายุพระพุทธศาสนาให้ถาวรสืบไปในอนาคต และเพื่อจะได้เป็นอนุสรณ์ สำหรับวัดไผ่ล้อมไว้ ณ ครั้งนี้ด้วย\\nมวลสารที่ใช้สร้างพระเครื่องด้วยผงวิเศษประกอบด้วย ว่าน ๑๐๘ เกสร ๑๐๘ แร่ธาตุต่างๆเช่น แร่บังขะนิฎ สีเขียว สีดำ สีมันปู นิล ชิน ปรอท สังฆวานร เหล็กทรหด เพ็ชรน้ำค้าง โมราท้องรุ้ง ข้าวตอกพระร่วง ผงปฐมอักขระ ผงไตรสรณาคม ผงพระพุทธคุณ ผงพระธรรมคุณ ผงพระสังฆคุณ ผงพระเจ้า ๕ พระองค์ ผงพระเจ้า ๑๖ พระองค์ ผงตรีนิสิงเห ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงมหาอุด ผงพระเครื่องต่างๆ ทุกยุค ทุกสมัย และยังมีสิ่งของที่เป็นมงคลแก่ผู้สักการะอีกมาก สุดที่จะ พรรณา ๆลๆ พระเครื่องและวัตถุมงคลวัดไผ่ล้อม ถ้าผู้ไดมีติดตัวไว้สักการะบูชาเป็นมงคลบุญลาภอันประเสริฐของผู้นั้นเป็นอย่างยิ่ง สามารถคุ้มครองป้องกันภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง และทั้งเป็นเมตตามหานิยมแก่ผู้พบเห็นอย่างดียิ่งอีกด้วย จะทำมาค้าขายก็เกิดผลกำไร สมความปรารถนาทุกประการดีนักแล ๆลๆ พระเครื่องและวัตถุมงคลวัดไผ่ล้อม นอกจากจะมีเอกลักษณ์การสร้างที่สวยงามโดดเด่นแล้ว เจตนาในการสร้างยังเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์เพื่อสมนาคุณแก่ผู้มาร่วมทำบุญสร้างพระอุโบสถวัดไผ่ล้อม เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้พระเครื่องวัดไผ่ล้อม เนื้อหามวลสารยังประกอบด้วย ว่าน ๑๐๘ เกสรไม้มงคล ๑๐๘ ของอาถรรพณ์ และผงจินดามณีของหลวงปู่ทิม อิสริโก ที่ท่านได้มอบให้หลวงพ่อพูนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นพิเศษ อีกทั้งได้รับการอธิฐานจิตปลุกเสกจากพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมระดับประเทศ ย่อมส่งผลให้พระเครื่อง และวัตุมงคลของวัดไผ่ล้อม เพียบพร้อมด้วย พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ อิทธิคุณ อย่างเต็มเปี่ยม สำหรับผู้ที่ศรัทธาหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ พระเครื่องและวัตุมงคลของวัดไผ่ล้อม เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ท่านจะแสวงหามาบูชาได้


    ลูกอมผงผงพุทธคุณ เป็นหนึ่งในวัตถุมงคลชุดนี้ และเป็นที่นิยมเช่าหากัน เพราะราคาไม่แพง ซึ่งถ้าหากเทียบกับลูกอมผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมแล้ว ราคาสูงหลายๆพันบาทและ มีของปลอมออกมามาก ใครอยากได้ลูกอมที่ทันหลวงปู่ทิมปลุกเสก แนะนำรุ่นนี้ครับ รับประกันแท้ที่มาดีสุดๆครับ

    บูชา 950 บาท


    **** จองแล้วครับ ****


    16050245530075_view_resizing_images_1_320x200.jpg

    2017-05-13_38333.jpg


    333045114_5380118638755235_3292267829867520705_n.jpg

    333060119_581828640647134_7303394445163986350_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2023
  4. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019

    10376. เหรียญพระปางจักรพรรดิ พ.ศ. ๒๕๕๗
    (ราชันพญามังกรประทานทรัพย์)
    หลวงพ่อเป็น โฆสกาโม พระอริยสงฆ์ผู้เรืองกฤตยาคมแห่งแดนอีสานใต้ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๔๗-พ.ศ. ๒๕๒๑ แห่งวัดเจริญนิมิต บ้านยายคำ ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ท่านได้บวชเรียนพระธรรมวินัย พุทธาคม และพระเวท ที่วัดแจง จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา จนมีความรู้แตกฉานทั้งบาลี สันสฤต และภาษามคธ หลวงพ่อเป็น ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา สำเร็จสมถกรรมฐานและกสิณไฟขั้นสูงสุด ท่านมีความปรารถนา และปฏิปทาเป็นที่สุด ที่จะสืบทอดพระพุทธศาสนาจากกึ่งพุทธกาลไปจนครบ ๕๐๐๐ ปีพระปางจักรพรรดิ
    พระปางจักรพรรดิ เป็นพระพุทธรูปปางสูงสุดเป็นองค์แทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรง ซึ่งแสดงถึงที่สุดแห่งความเป็นเลิศทั้งทางโลกและทางธรรม ทางโลกหมายถึงเป็นพระมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ มีโภคทรัพย์สมบัติเหนือกว่าพระจักรพรรดิและกษัตริย์ทั้งปวง ทางธรรมหมายถึงเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระมหาศาสดาเอกชองโลก พระปางจักรพรรดิ เป็นปางโปรดโลกที่ศักดิ์สิทธิ์และมีอานุภาพมากที่สุดในสากลจักรวาล ในโลกทิพย์มีพระปางจักรพรรดิปรากฏอยู่เพียงหนึ่งองค์เท่านั้นซึ่ง ประดิษฐานอยู่ ณ จุดศูนย์กลางของไตรโลกธาตุ
    การจะสร้างพระปางจักรพรรดิประดิษฐานไว้ในโลกมนุษย์จะต้องได้รับอนุญาตจากพระอินทร์เสียก่อน ในโลกมนุษย์ได้สร้างพระปางจักรพรรดิครั้งแรกราวปี พ.ศ. ๒๐๔๖ โดยพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีปุโรหิตเป็นผู้กราบทูลขออนุญาตจากพระอินทร์ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ วัดหน้าพระเมรุ จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างครั้งที่สองเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๕ โดยคณะศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อเป็น โฆสกาโม นำโดยธรรมทายาทของหลวงพ่อเป็น ที่ปรารถนาจะสืบทอดพระพุทธศาสนา จึงได้กราบทูลขออนุญาตขอสร้างพระปางจักรพรรดิจากพระอินทร์ ท่านได้อนุญาตและประทานรหัสสัดส่วนในการสร้างองค์พระมาให้ หลังจากสร้างสำเร็จแล้วได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ วัดเจริญนิมิต จ.บุรีรัมย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาจากกึ่งพุทธกาลไปจนครบ ๕๐๐๐ ปี
    เหรียญพระปางจักรพรรดิ (ราชันพญามังกรประทานทรัพย์) ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ หลวงพ่อเป็น โฆสกาโม ท่านได้มาเข้านิมิตธรรมทายาทของท่าน ว่าได้มีราชันพญามังกรแห่งทะเลจีนใต้ เป็นผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้ปกครองเหนือพญามังกรทั้งปวง และเป็นผู้ดูแลขุมทรัพย์ของโลก ท่านมีความปรารถนาที่จะได้มาร่วมงานบุญสร้างพระปางจักรพรรดิในครั้งนี้ ด้วยเหตุที่มีสิ่งสำคัญสี่ประการปรากฏขึ้นได้แก่ ๑.พระปางจักรพรรดิสร้างตามรหัสสัดส่วนจักรวาลเป็นองค์แทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรง ๒.เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุครบทั้ง ๓๒ ประการ ๓.เจดีย์พุทธเมตตาพระปางจักรพรรดิที่ประดิษฐาน สร้างตามรหัสสัดส่วนจักรวาลที่พ่อปู่พรหมฤๅษีประทานมาให้ ๔.เสาค้ำฟ้าซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางขององค์เจดีย์เป็นจุดเชื่อมต่อไปสู่โลกทิพย์แดนสวรรค์ทำให้มนุษย์และเหล่าทวยเทพเทวาใกล้ชิดกัน ท่านจึงได้ประทานสัญลักษณ์ของท่านมาให้กำกับไว้อีกด้านหนึ่งของเหรียญพระปางจักรพรรดิ เป็นรูปราชันพญามังกรหกขาห้าเล็บขนดตัวเป็นเลขแปดล้อมรอบลูกแก้วพลัง เพื่อโปรดมนุษย์ที่มีบุญวาสนา เมื่อสร้างเหรียญเสร็จแล้วได้ทำการปลุกเสกอธิฐานจิตโดยพระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา และได้มีพญามังกรเผ่าพันธุ์สีทองและสีเขียวได้มาอธิฐานจิตไว้ให้ด้วย
    พุทธคุณทางด้าน โชคลาภวาสนา เมตตามหานิยม ทำมาค้าขึ้น คุ้มครองป้องกันภัย ป้องกันคุณไสยเสนียดจัญไร และด้วยอานุภาพแห่งราชันพญามังกรจะหนุนเสริมวาสนาบารมีให้เป็นใหญ่เป็นโตปกครองบริวารได้ เปลี่ยนดวงชะตาราศีจากร้ายกลายเป็นดี จากยากจนเป็นมั่งมี ทรัพย์สินเงินทองเหลือกินเหลือใช้ เป็นที่พึ่งของบุคคลทั่วไป
    ปัจจุบันเรียกขาน หลวงพ่อเป็น ว่า หลวงปู่เป็น ด้วยเหตุถ้านับอายุของท่านจนถึงปัจจุบันนี้
    คาถาบูชา เหรียญพระปางจักรพรรดิ (ราชันพญามังกรประทานทรัพย์)
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ (กล่าว ๓ จบ)
    พุทธะยะคิ – มะอะอุ – อุอะมะ – ยุตุตุยุ – มะปะชะยะงะ – นะชาลิติ – เงินทองไหลมาเทมา
    (กล่าว ๓,๕,๗,๙ หรือ ๑๐๘ จบ)


    บูชา 200 บาท

    **** จองแล้วครับ ****



    nFQMMYpGpES8O_ej1ez3I_tuWgLvrXzl1FEij2-rWLd&_nc_ohc=a_bAQ6C63qQAX_3Kuvk&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg


    329044005_761686181988519_6921346080636266166_n.jpg

    329223582_1176988326310957_8376574623120973651_n.jpg

    Em36MoqMs7mSQFrdb72LH9arx9GsQ7n-5-cF-2Ih05D&_nc_ohc=_LfCZAVqpcsAX-IWomW&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg
    weJWjQ_2E1eEsnGAo3TKWLh8Q7b0Ojdae6CHq_t1oPC&_nc_ohc=FvOu5CgbKs0AX-MoLX6&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2023
  5. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019

    10377. พระรูปหล่อหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย ลำปาง รุ่น ๑


    พระรูปหล่อหลวงปู่แว่น ธนปาโล วัด ถ้ำพระสบายอุดกริ่ง รุ่น ๑ ท่านเป็นศิษย์ ของ หลวงปู่มั่น องค์หนึ่งจริยานิสัยอันงดงามมีความเชื่อมั่นกตัญญูรู้คุณของครูบาอาจารย์ และท่านยังมีความอ่อน น้อมเจียมตนอยู่เป็นนิจ

    สภายสวยเดิมๆ เก่าเก็บไม่ผ่านการใช้บูชา

    บูชา 550 บาท

    +++++++ ปิดรายการ +++++++


    329243689_576043967785500_8270510456199480403_n.jpg

    329700192_735910327874196_847271669387332639_n.jpg

    329169226_531299349137907_7593908195334650394_n.jpg



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2024
  6. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019

    10378.พระผงดวงเศรษฐี หมานเงินหมานทอง เนื้อรวมมวลสารน้ำตาล หลวงปู่สอ ขนฺติโก วัดโพธิ์ศรี จ.นครพนม เดิมพร้อมกล่อง
    เพระสวยคมไม่ผ่านการใช้ เดิมๆพร้อมกล่อง เหมาะแก่การนำไปสะสมหรือใช้ติดตัวเป็นศิริมงคลร่ำรวยพูนสุข

    แบ่งไปใช้..บูชาดี เงินทองคล่องตัวดีนักแล" พระผงไข่ มหาเศรษฐี หมานเงิน หมานทอง หลวงปู่สอ ขันติโก วาจาสิทธิ์ บูรพาจารย์สายสำเร็จลุน อมตะเถระ6แผ่นดิน อายุ113ปี 93พรรษา วัดโพธิ์ศรี จ.นครพนม สวยคม เต็มพิมพ์ เนื้อแกร่ง มวลสารเข้มข้น

    หลวงปู่สอ มีนามเดิมว่า สอ แก้วดี เกิดในตระกูลชาวนา เมื่อวันจันทร์ที่ 20 พ.ค.2448 ปีมะเส็ง ตรงกับปลายรัชกาลที่ 5 เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้องร่วมอุทร 6 คน เมื่อแรกเกิด มารดาหลวงปู่บอกว่า บุตรชายมีสายรกพันคอ จะได้บวช ขระที่ชีวิตในวัยเด็ก มีนิสียเป็นคนเรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน นิสัยชอบเข้าวัดฟังธรรม ผิดแผกกับเด็กอื่นในวัยเดียวกัน บิดามารดาจึงได้พาเข้ากราบหลวงปู่สีทัตถ์ จึงเกิดความเลื่อมในศรัทธา จึงขอติดตามไปยังภูเขาควายฝั่งลาว และได้บวชเป็นสามเณรรับใช้อุปัฏฐากเล่าเรียนสรรพวิชา และวิทยาคมต่างๆจนช่ำชอง กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเข้าสู่ร่มกาวสาวพัสตร์อุปสมบท มีหลวงปู่สีทัตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่รับใช้อุปัฏฐากผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ระยะหนึ่ง จึงได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขา ถ้าและภูผา จนกระทั่งได้รับทราบข่าวอาการป่วยของมารดา ในขณะที่หลวงปู่มีอายุ 32 ปี พรรษา 12 จึงลาสิกขามาดูแลบุพการีจนวาระสุดท้าย ต่อมาจึงเข้าอุปสมบทอีกครั้ง และได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะตามป่าเขาในพื้นที่ภาคอีสาน ก่อนจะข้ามไปฝั่งลาวที่บ้านบุ่ง อยู่จำพรรษา พัฒนานาวัดบ้านบุ่งนานหลายปี ก่อนออกเดินธุดงค์ไปพบหลวงปู่สีทัตถ์ จนท่านมรณภาพ ภายหลังผู้เป็นอาจารย์ละสังขาร จึงเดินทางกลับมาที่ฝั่งไทย จำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรี บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน ในช่วงนั้นยังมีครูบาอาจารย์ที่เป็นสหธรรมิก และศิษย์ผู้พี่หลายท่าน อาทิ หลวงปู่สนธิ์ วัดท่าดอกแก้วเหนือ ซึ่งเป็นศิษย์ผู้ใหญ่ในหลวงปู่สีทัตถ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่ , หลวงปู่คาน คันธิโย, และยังไปศึกษาข้อวัตรกับหลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม อยู่บ่อยครั้ง จนเคร่งครัดในพระธรรมวินัย อย่างไรก็ตาม ก่อนที่หลวงปู่ท่านจะมรณภาพลงอย่างสงบ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน ดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย สายตายังมองเห็นชัด หูได้ยินเป็นปกติ ที่ทำให้อายุยืน เหงือกและฟันยังอยู่ครบเต็มปาก ฉันภัตตาหารเนื้อปลา ยอดผักสด กล้วยน้ำหว้าวันละ 1 ลูก ส่วนเคล็ดลับที่ท่านอายุยืน หลวงปู่สอเคยเล่าให้ฟังว่า ใช้วิชาปั่นธาตุ ซึ่งหมายถึงการนั่งจิตภาวนา สลับธาตุดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ในร่างกาย เชื่อว่าจะสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้


    บูชา 250 บาท


    302444276_1455310838268520_6128403094761239283_n-jpg.jpg

    304802605_1130583620875813_3092449901600815929_n-jpg.jpg

    304941090_610488637184418_855584404214059538_n-jpg.jpg
     
  7. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019


    10379.พระนางพญา เสน่ห์จันทร์ จ.สุโขทัย จัดสร้างปี 2511

    พระดี พิธีใหญ่ ครับ...

    รายละเอียด ตามใบฝอยที่แนบ ครับ

    (ใบฝอยขออนุญาตยืมภาพ จาก กูเกิ้ลครับ)

    สำหรับองค์ในรูป ได้รับแจกโดย ท่านพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ในสมัยที่เป็น รมต. ว่าการกระทรวงกลาโหมเมื่อปี 2545 ครับ

    บูชาเบาๆ 350 บาท


    **** จองแล้วครับ ****


    1352652-3fc01-jpg.jpg

    1352652-47cf3-jpg.jpg

    304246620_1181959082380060_6835562216144365179_n-jpg.jpg

    304030078_397643189181199_890473555870220624_n-jpg.jpg

    304812232_803590860770218_4321221332020891407_n-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2023
  8. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019


    10380.ลูกอมชานหมาก หลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์

    ลูกอมชานหมาก "หลวงปู่ขุ้ย" ไม่เคยพบคนตายโดยมีลูกอมชานหมากคาที่คอเลย!!

    ลูกอมชานหมากหลวงปู่ขุ้ย ฐิตธัมโม วัดซับตะเคียน อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เหมาะจะห้อยคอทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ป้องกันภัยอันตรายแคล้วคลาด มหาอุดหยุดปืน กันเขี้ยวงาสารพัด ชานหมากของหลวงปู่เป็นของดีหายาก น่าเก็บน่าใช้ สุดยอดวัตถุมงคล หลวงปู่ขุ้ย เป็นศิษย์สายหลวงพ่อทบ วัดชนแดน พระของท่านมีประสบการณ์สูง

    ชานหมากนี้มีข้อห้ามเพียงอย่างเดียว คือ ห้ามลอง ห้อยหรือพกติดตัวไว้ถึงเวลามีอันตรายเกิดขึ้นจะรู้ จะเห็นเอง เคยมีคนลองมาแล้วปืนแตกได้รับบาดเจ็บกัน เลย ถือว่าเป็นการลบหลู่ครูบาอาจารย์ ชานหมากหลวงปู่ดังมาก ใครๆก็ต้องการ
    เป็นเครื่องราง ชิ้นแรกที่สร้างชื่อให้ท่าน ข้างๆ หลวงปู่จะมีกระป๋องหมากที่ตำแล้ว พร้อมที่จะควักเอามาเคี้ยวได้ตลอดเวลา เพื่อแจกคน ท่านจะฉันหมากและคายชานหมากยื่นให้

    ในเขตเพชรบูรณ์ ไม่เคยพบชานหมากหลวงปู่ตายคาคอใคร ดังที่บอกว่า หญิงไทยในอเมริกาหมอฉีดยาไม่เข้า นายอำเภอย้ายมาใหม่ ประมาทหลวงปู่ว่าไม่จริง ไปขอชานหมากมายิง แต่ยิงไม่ออก และปืนแตกด้วย ข่าวฟ้าผ่าคนที่หนองปลาไหลลงหน้าหนึ่งว่าตายยกครัว แต่ความจริงไม่ตาย คนเดียวที่มีชานหมากหลวงปู่ติดคอแค่สลบไปเท่านั้น เด็กหนองไผ่โดนน้ำป่าพัดลอยน้ำรอดตายปาฏิหาริย์ ทหารค่ายเสนาณรงค์โดยยิงไม่เข้า และอีกมากกับประสบการณ์ของหลวงปู่

    อ้างอิง http://www.tnews.co.th/contents/319202


    เปิดประสบการณ์!!!ชานหมาก"หลวงปู่ขุ้ย" ศักดิ์สิทธิ์มาก!!ลองจนปืนแตก ก็ยิงไม่ออก!!

    ประสบการณ์ชานหมากหลวงปู่ขุ้ย

    สมัยก่อนตอนที่หลวงปู่มาอยู่ท่าด้วงใหม่ๆ วัตถุมงคลที่หลวงปู่ทำแจกลูกศิษย์คือ "ชานหมาก" ใครๆ ที่พกชานหมากของหลวงปู่ไปไหนมาไหนปลอดภัยตลอด ทำมาค้าขายดี ผีสางนางไม้คุณไสย์ไม่มีได้กิน ขึ้นรถลงเรือปืนผาหน้าไม่หยุดอยู่หมด ตำรวจดวนปืนกับผู้ร้าย โดนผู้ร้ายยิงใส่แต่ปืนยิงไม่ออกรอดชีวิตมาได้ ตำรวจนายนี้คิดว่าจริงหรือเปล่าที่เค้าพกชานหมากหลวงปู่ไว้ทำให้ปืนผู้ร้ายยิงไม่ออก จึงนำเอาชานหมากดังกล่าวไปผูกคอไก่แล้วทดลองยิง ปืนก็ยิงไม่ออกอีก พอหันกระบอกปืนยิงขึ้นฟ้า ปืนยิงออก ทดลองทำแบบนี้อยู่หลายครั้งจนแน่ใจว่าชานหมากของหลวงปู่ดีจริงๆ ตำรวจ ทหาร จึงแห่มาขอชานหมากของหลวงปู่กันอย่างจ้าละหวั่น

    "ชานหมาก" หลวงปู่ขุ้ย ดังมากใครๆ ก็ต้องการ เป็นเครื่องรางชิ้นแรกที่สร้างชื่อให้ท่าน ข้างๆ หลวงปู่จะมีกระป๋องหมากที่ตำแล้ว พร้อมที่จะควักเอามาเคี้ยวได้ตลอดเวลาเพื่อแจกคน ท่านจะฉันหมากและคายชานหมากยื่นให้ ในเขตเพชรบูรณ์ไม่เคยพบคนที่พกชานหมากหลวงปู่ตายคาคอใคร ดังที่บอกว่าหญิงไทยในอเมริกาหมอฉีดยาไม่เข้า, นายอำเภอย้ายมาใหม่ ประมาทหลวงปู่ว่าไม่จริง ไปขอชานหมากมายิงเลย แต่ยิงไม่ออกและปืนแตกด้วย, ข่าวฟ้าผ่าคนที่หนองปลาไหลลงหน้าหนึ่งว่าตายยกครัว แต่ความจริงไม่ตาย คนเดียวที่มีชานหมากหลวงปู่ติดคอแค่สลบไปเท่านั้น, เด็กหนองไผ่โดนน้ำป่าพัดลอยน้ำรอดตายปาฏิหาริย์, ทหารค่ายเสนาณรงค์โดยยิงไม่เข้า และอีกมากกับประสบการณ์ของหลวงปู่

    "ลูกอมชานหมาก" หลวงปู่เอาชานหมากที่เคี้ยวขณะบูชาครูและปลุกเสกพระ เก็บไว้ปั้นเป็นก้อนเสกอีกหลายเดือนจึงมอบให้พระอาจารย์ลอยไปถักเชือก หลวงปู่บอกว่า เอาไปติดตัว ใครมีชานหมากหลวงปู่ ยมบาลเขาไม่สนใจหรอก เขาว่าพระเฒ่ามันเพี้ยน แล้วท่านก็หัวเราะ ชานหมากถักเชือกอย่างดีแบบโบราณติดตัวง่าย ยังกับลูกอม พกไว้ที่ไหนก็ได้ห้ามหาย มีหลวงปู่และครูบาอาจารย์คุ้มอยู่ตลอดเวลา

    หลวงปู่วิชัยรัตน์ (ขุ้ย) ฐิตธัมโม เจ้าอาวาสวัดซับตะเคีียน "อริยะสงฆ์แห่งลุ่มลำน้ำกงเทพเจ้าแห่งขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ท่าด้วง ณ วัดซับตะเคียน" ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อทบและได้รับการถ่ายทอดวิชาทุกอย่างจากหลวงพ่อทบ ในบรรดานักปฎิบัติธรรมแล้วท่านเป็นพระยอดนักปฎิบัติ ชอบสันโดษ เป็นพระนักปฎิบัติวิปัสสนาชั้นเยี่ยม จนได้รับการขนานนามว่า "อริยะสงฆ์แห่งลุ่มลำน้ำกงเทพเจ้าแห่งขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ท่าด้วง ณ วัดซับตะเคียน"

    นับตั้งแต่หลวงปู่เข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์ หลวงปู่ท่านก็ออกธุดงค์มาโดยตลอด จาริกไปยังสถานที่ต่างๆ มากมาย ชาติภูมิของหลวงปู่นั้น ชื่อเดิมนายวิชัยรัตน์ นามสกุล ท่อนทอง มีพี่น้องหลายคน วิทยฐานะจบการศึกษา ป.4 ในสมัยที่เป็นนักเรียนมีความเพียรในการศึกษาเล่าเรียนและได้คะแนนสูงที่สุดในชั้นเรียนสมัยที่โรงเรียนยังเป็นโรงเรียนวัด บิดาชื่อนายทองดี ท่อนทอง มารดาชื่อนางทองสุข ท่อนทอง ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่ มีฐานะยากจน หลวงปู่เกิดเมื่อวันพุธ ที่ 20 พฤษภาคม 2454 ปีระกา (บ้างก็ว่าท่านเกิดปีมะแม ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ อายุท่านก็จะเป็นพรรษา) ราวปลายสมัยรัชกาลที่ 7

    ซึ่งเป็นรัชสมัยที่มีการปลี่ยนแปลงอย่างมากในยุคนี้ ณ บ้านท่ามะทัน ต.ท่าอิบุญ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ในครอบครัวเกษตรกรที่ยากจนมาก หลวงปู่ท่านมีนิสัยเป็นคนเรียบร้อยถ่อมตนไม่โอ้อวด ขยันขันแข็งในการทำงาน ซื่อตรง สมถะ ไม่เคยคตโกงผู้ใด ไม่เลือกชั้นวรรณะ บวชสามเณรครั้งแรก พ.ศ.2466 เมื่ออายุได้ 12 ปี เพื่อจูงศพบิดาจากนั้นก็เล่าเรียนพระธรรมวินัย โดยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทบ หรือ พระครูวิชิตพัชราจารย์ ณ วัดชนแดน อีก 6 พรรษา หลังจากนั้นเมื่ออายุ 22 ปี วันที่ 4 มีนาคม 2476 ก็อุปสมบทเป็นพระ ณ วัดศรีมงคล ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยพระมหาหยวกเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการคำปันเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการวันดีเป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีฉายาใหม่ว่า ฐิตธัมโม หมายความว่า "ผู้มีธรรมอันมั่นคง" อุปสมบทเป็นพระอุปัฎฐาก (กระทำในสิ่งที่พระอาจารย์ทำ หรือหยิบจักไม่ได้) หลวงปู่ท่านเป็นคนหัวไว ฉลาด ศึกษาวิชาความรู้ต่างๆ กับหลวงพ่อทบ หรือพระครูวิชิตพัชราจารย์อีกครั้ง

    โดยการเล่าเรียนวิชาอาคม เวทย์มนต์คาถา จนแก่กล้าชำนาญ คาถาเสกข้าวเปลือก ข้าวสาร ให้ไก่กิน ยังไม่ดัง ฯลฯ จนหมดจากนั้นก็มาจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้างบุ่ง ต.ท่ามะทัน ซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้านของท่านเรียนวิชานะโมตาบอด (วิชาคงกระพันชาตรี ยิง ฟัน ไม่เข้า) วิชาเขาควายแล้วลองวิชาโดยเขาศีรษะของท่านไปโหม่งชนกับต้นมะม่วงแก่ เปลือกหนา ต้นใหญ่ขนาดหลายคนโอบปรากฎว่ามะม่วงต้นนั้นเปลือกแตกกระจาย แต่ศีรษะท่านไม่มีรอยถลอก ฟกซ้ำ หรือแตกแม้แต่นิดเดียว แต่ทำให้ศีรษะของหลวงปู่ท่านบุบ ยุบ บริเวณข้างขมับ ซ้าย-ขวา ด้านบน ทั้งสองข้างมาตราบจนถึงในปัจจุบันนี้ เรื่องเล่าของหลวงปู่ก็ยังไม่หมด

    มีอยู่ในครั้งหนึ่งปี 2487 ที่หลวงปู่ท่านฝึกกรรมฐานอย่างหนัก ท่านอดข้าว อดน้ำ 9 วัน 9 คืน เพราะอยากทดสอบกำลังใจกรรมของเวทนาที่เกิดขึ้น จนร่างกายท่านซูบผอม จนกระทั่งธาตุท่านเสีย (เจ็บป่วย) ถึงเกือบมรณภาพ ที่วัดบ้านบุ่ง ต.ท่ามะทัน สมัยตอนที่เรียนวิชากับหลวงพ่อทบ ช่วงอายุำได้ 23 พรรษา เพื่อจะให้บรรลุถึง แก่นแห่งพระธรรม แบบองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเวล่าต่อมาท่านก็บรรลุกฎแห่งธรรม สามารถนั่้งสมาธิถอดจิตไปไหนมาไหนได้ แต่ก็ยังใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายสอนธรรมแก่ชาวบ้านอยู่เช่นแต่ก่อนเดิมจากคำบอกเล่าของลูกศิษย์ท่านทราบว่่า นอกจากท่านจะเป็นผู้ทรงวิทยาคุณทางเวทย์มนต์ คาถา ไสยเวทย์ อย่างมากมายมหาศาลแล้วท่านยังมีความจำเป็นเลิศ สามารถอ่านเขียนได้ทั้งภาษาไทย เขมร บาลี อย่างช่ำชอง หาพระองค์ใดรุ่นท่านในสมัยนั้นเทียบเสมอได้ยาก มากระทั่งในปี 2507 อายุได้ 43 พรรษาหลวงปู่ได้เลื่อนสมณะศักดิ์เป็นเจ้าคณะตำบลท่าอิบุญ โดยจำพรรษา ณ วัดบ้านบุ่ง ต.ท่าอิบุญ อ.หล่่มสัก จ.เพชรบูรณ์ แต่ด้วยความที่หลวงปู่เป็นพระชอบสมถะ ชอบสันโดษไม่ชอบความวุ่นวายชอบการปฎิบัติภาวนามากกว่าการบริหารการจัดการ ไม่ยึดติดกับยศฐาบรรดาศักดิ์ มักน้อย ไม่นิยมสะสมเงินทอง หากมีก็จะเอามาสร้างวัดวาอารามทั้งหมด จวบจนกระทั่งปี พ. ศ. 2517 หลวงปู่ได้เดินธุดงค์มายัง ตำบลวังท่าดี และตำบลท่าด้วงฃ

    ในสมัยนั้นยังเป็นป่าดงดิบลึก ต้องข้ามภูเขา ผ่านแม่น้ำ ห้วย หนองคลองบึง แต่ป่าเขียวชอุ่มชุ่มชื้น อากาศเย็นสบาย ธารน้ำใส สวยงาม เต็มไปด้วยฝูงปลาผลไม้นานาพันธุ์หลวงปู่เมื่อท่านเห็นความสงบเงียบ ร่มรื่น อากาศสดชื่นบริสุทธิ์ จึงคิดว่าสถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นสถานที่ ปฎิบัติธรรมภาวนาได้เป็นอย่างดี เหมือนกับว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในป่านั้นดลบันดาลใจท่านมาแสวงบุญอยู่ที่นี้ หลวงปู่เมื่อคิดแล้ว ดำริว่า ท่านจะมาสร้างวัดที่นี่เพื่อสั่งสอนธรรมะให้แก่ชาวบ้านตำบลแห่งเทือกเขา ท่าด้วง หมู่ที่ 1 บ้านซับตะเคียนแห่งนี้ หลวงปู่จึงได้ปฎิบัติตามวาจาที่ดำริไว้ ท่านได้ลาออกจากการเป็นเจ้าคณะตำบลท่าิอิบุญทันที รวมอายุการเ็ป็นเจ้าคณะตำบลท่าอิบุญของท่านได้ 10 พรรษา แล้วย้ายมาสร้างวัดซับตะเคียน เมื่อปี พ.ศ. 2517 ท่านจำพรรษาอยู่ที่นี่นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เมื่อครั้นหลวงปู่มาอยู่แต่เดิมแรกนั้น พื้นที่บริเวณนั้นเป็นป่าสวยงามก็จริงอยู่แต่แอบแฝงไปด้วยมวลสิงสาลาสัตว์ โขลงพญาช้าง โขลงพญาเสือกินคนชุกชุม สัตว์ที่มีพิษดุร้ายพญางูใหญ่สูงเท่าต้นมะพร้าวมากมายไปด้วย โรคภัย ไข้เจ็บ อันตรายนานานับประการ โดยเฉพาะโรคไข้มาลาเรีย ไข้ป่า ที่มีการระบาดมากในสมัยครั้งกระนั้น อีกทั้งการเดินทางก็ต้องเดินด้วยเท้าอย่างเดียวเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปถึงสถานที่ได้ อาจคงจะเป็นเพราะหลวงปู่ท่านมีบุญบารมีสูงส่ง อีกทั้งต้วของท่านหลวงปู่มีอาคมแก่กล้า รู้เรื่องการปรุงยาสมุนไพรเป็นเลิศ และยาวิเศษ หลวงปู่ท่านกล่าวว่าเป็นยาวิเศษที่สุด ที่ดีที่สุดในโลก ทำให้ท่านแคล้วคลาดในสิ่งทุกข์ยากต่างๆ นานา ได้ทุกๆ กรณี คือ ธรรมะโอสถ นั้นเอง

    หลวงปู่ท่านใช้การดำรงชีวิตเหมือนแบบชาวป่า ชาวเขา ทั่วไป อีกทั้งชาวบ้านก็ยังเป็นชาวบ้านท้องถิ่นดั้งเดิมในพื้นที่ไม่รู้หนังสือ ไม่รู้สภาพบ้านเมือง อาศัยอยู่กันเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่มีน้ำใจต่อกันไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน ภาษาที่ใช้ยังคงใช้ภาษาท่าด้วง หรือภาษาชาวบ้านอยู่แบบเดิม พูดจากันไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าพระคืออะไร ทำบุญคืออะไร ศาสนาคืออะไร มีประโยชน์อย่างไรแต่เนื่องด้วยที่หลวงปู่ท่านมีความวิริยะ อุตสาหะ ตั้งใจจริง เป็นทุนเดิม ที่้ต้องการสืบทอดเจตนารมณ์ตามหลักพระพุทธศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จริยาวัตรประจำวันท่านก็ดูงดงามมีสง่า ท่านจึงสามารถลงมาโปรดสัตว์ สอนธรรมตามหลักของพระพุทธศาสนาให้แก่ชาวบ้านที่ไม่มีความรู้จักคำว่า ธรรมะคืออะไร เหล่านั้นได้ซึมซับแห่งพระธรรม ที่ละัเล็กที่ละน้อยจนกระทั่งชาวบ้านได้รับรู้ เข้าใจนำไปยึดถือปฎิบัติจนเป็นวัฒนธรรมประเพณีนิยมแห่งดินแดนลุ่มลำน้ำกงและขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ท่่าด้วง ตราบจนถึงปัจจุบัน

    ทุกวันนี้เคยมีผู้กล่าวไว้ว่า ถ้าหากผู้ใดที่มาเยี่ยมเยือนอำเภอหลองไผ่แล้วไม่ได้มากราบไหว้ หลวงปู่วิชัยรัตน์ (ขุ้ย) ฐิตธมฺโม" อริยะสงฆ์แห่งลุ่มลำน้ำกงเทพเจ้าแห่งขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ท่าด้วง ณ วัดซับตะเคียน" ละก็เหมือนจะมาไม่ถึงอำเภอหนองไผ่เลยทีเดียว วัดซับตะเคียนนั้น เป็นเพียงแค่วัดเล็กๆ วัดหนึ่งที่มีเกจิอาจารย์อย่างหลวงปู่ขุ้ย ฐิตธมฺโม อริยะสงฆ์แห่งลุ่มน้ำกงเทพเจ้าขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนท่าด้วง ใครๆ ต่างก็เรียกชื่อท่านติดปากว่า หลวงปู่ขุ้ย เพราะว่าท่านเป็นพระใจดีมีความเป็นกันเอง ไม่ถือตัวหรือโอ้อวดบุญญาบารมี

    ทำให้ท่านเป็นพระเกจิ ที่ชาวอำเภอหนองไผ่เคารพรักและศรัทธามากที่สุด ชาวอำเภอหนองไผ่ อำเภอใกล้เคียงต่างเลื่อมใสมาฝากตัวเป็นศิษย์ท่านก็มากมาย มีทั้งนัการเมืองชื่อดัง ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน บริษัทห้างร้าน ทั้งในและต่างจัีงหวัดทั่วประเทศเลย ตอนนี้ศิษย์ท่านมีเกือบทั่วโลกก็ว่าได้ แม้แต่ในกรุงเทพฯ ศิษย์ท่านก็มีมาก มาเยี่ยมท่านบ่อยครั้งเพื่อให้ท่านปลุกเสกวัตถุมงคลบ้าง รดน้ำมนต์บ้าง ปัดเป่าต่างๆ ในทุกวันนี้ที่วัดซับตะเคียนนั้นมีผู้เลื่อมใสศรััทธามากราบไหว้บูชาหลวงปู่ท่านวันหนึ่งประมาณ 300 - 500 คนต่อวัน หรือมากกว่านั้น หลายครั้งทำให้ท่านถึงกับอาพาธเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้นท่านก็ยังปฏิบัติอยู่อย่างนั้นไม่เคยว่างเว้นแม้แต่สักวันเดียว ด้วยเพราะท่านเป็นพระเกจินักบุญที่มีแต่ให้ นายนิธิภัทร เสนาะดนตรี นายอำเภอหนองไผ่ คนปัจจุบันท่านก็เป็นศิษย์หลวงปู่ท่าน เช่นกัน ประสบการณ์ที่หลวงปู่ออกเดินธุดงค์นั้นมีมากมายจะเล่าไปก็ไม่มีวันจะเล่าได้หมด เพราะท่านธุดงค์ไปหลายที่ เช่น พม่า ลาว เขมร ท กัมพูชา เอาเป็นว่ามาที่วัดแล้วเรียนถามท่านด้วยตนเองจะดีกว่าหลวงปู่ขุ้ยท่านเป็นคนหัวสมัยใหม่ทันสมัยใช้หลักวิทยาศาสตร์ในการตัดสินใจใช้เหตุและผลพิจารณาเสมอ ท่านจะไม่ส่งเสริมเรื่องที่ไม่มีเหตุผลแต่ท่านจะใช้กุศสโลบายและอุบายปัญญาในการสอนลูกศิษย์สม่ำเสมอ ต้องเรียนรู้กับท่านอย่างใกล้ชิดจึงจะเข้าถึงท่าน ก็คงจะมีแต่ลูกศิษย์ท่านเท่านั้นที่เข้าใจกุศสโลบายของท่านได้ดีกว่าใครๆ ด้านวัตถุมงคลนั้นท่านไม่ได้มีวัตถุมงคลสิ่งอื่นใดเลย นอกจากชานหมากอันวิเศษของท่านเท่านั้น อื่นๆ นั้นท่านไม่ได้สร้างขึ้นทั้งสิ้น แต่เรื่องประสบการณ์ชานหมากของท่านมีเรื่องเล่ามากมาย ขอยกมาเล่าให้รับทราบดังนี้ ในครั้งนั้นมีผ้าป่ามาจากกรุงเทพฯ กับจ.ชลบุรี มาถวายผ้าป่าที่วัดหลวงปู่ หลังจากที่หลวงปู่ให้ศีลให้พรเสร็จแล้วก็มีโยมท่านหนึ่งขอวัตถุมงคลจากท่าน แต่เนื่องจากวัดซับตะเคียนเป็นวัดเล็กๆ จึงไม่มีวัตถุมงคลที่ทำขึ้นสักชิ้นเดียวที่จะมอบให้ หลวงปู่ท่านเป็นเกจิที่ฉลาดหลักแหลมเช่นเดียวกับอาจารย์ของท่านคือ พระครูวิชิตพัชราจารย์ (หลวงพ่อทบ) จึงนำชานหมากที่ปั้นกลมๆ จำนวนหนึ่งกับผ้าจีวรเช็คน้ำหมากของหลวงปู่ให้ลูกศิษย์ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วปลุกเสกโดยหลวงปู่ จากนั้นก็บอกโยมให้นำไปแบ่งปันกันให้ทั่วถึง และนำไปอัดกรอบพระใส่สายสร้อยคล้องคอบูชา หรือฝากให้ญาติพี่น้องห้อยคอเป็นวัตถุมงคลก็ได้ จะแคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งหมดทั้งปวง

    หนึ่งในบรรดาคนที่ได้มาวันนั้นมีหญิงวัยกลางคนท่านหนึ่งซึ่งเดินทางไปทำงานยังประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วเกิดป่วยไข้ เพราะการปรับตัวเข้ากับอากาศที่นั่นยังไม่ได้ จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อจะทำการรักษาตัว ได้เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดมหัศจรรย์อย่างยิ่งเกิดขึ้น เมื่อหมอที่นั่นพยายามเท่าไรก็ฉีดยาไม่ได้เนื่องจากแทงเข็มไม่เข้า โดยหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมเกิดจากอะไร จึงพาไปยังห้องเอ็กซเรย์เพื่อตรวจเช็ค แต่ก็ำไม่พบอะไรนอกจากสร้อยคอที่เป็นลูกอมชานหมากหลวงปู่อยู่ในคอ ฝรั่งงงถามผู้หญิงวัยกลางคนชาวไทยที่ไม่สบายว่ามีอะไรดี ถึงฉีดยาไม่ได้ ผู้ป่วยที่เป็นหญิงวัยกลางคนชาวไทยก็งงเช่นกัน พอนึกขึ้นได้จึงลองสร้อยคอลูกอมชานหมากหลวงปู่ออกแล้วทดลองฉีดยาใหม่ คราวนี้ฉีดได้เป็นปกติ และนับจากวันนั้นมาก็ได้มีประสบการณ์ที่แคล้วคลาดหลายครั้ง จึงโทรศัพท์มาคุยบอกกับญาติที่เมืองไทยว่าได้เกิดเรื่องประหลาดอย่างนี้เกิดขึ้นกับตนอยากมานมัสการหลวงปู่ที่วัดอีกครั้ง หลังจากนี้นเมื่อกลับมาพักผ่อนในประเทศไทยช่วงฮอลิเดย์ จึงนำผ้าป่ามาถวายถึงวัดด้วยรถตู้ และรถทัวร์คันใหญ่หลายคันเพื่อกราบไหว้หลวงปู่ขุ้ย ก่อนกลับหญิงวัยกลางคนท่านนั้นก็ขอชานหมากที่หลวงปู่ปลุกเสกให้กลับไปแจญาติพี่น้องกันถ้วนหน้า จากนั้นต่อมาลูกศิษย์หลวงปู่เมื่อเห็นถึงบารมีและความศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ทำวัตถุมงคลแล้วให้หลวงปู่ปลุกเสกขึ้นหลายรุ่นด้วยกัน เป็นการแจกให้ฟรีแล้วแต่ญาติโยมจะบริจาค

    เมื่อปลุกเสกเสร็จได้มีลูกศิษย์เป็นวัยรุ่น หมู่ที่ 4 ต.กองทูล อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ได้ลองของทันทีโดยนำปืนลูกซองสั้น (อีโบ๊ะ) เล็งปากกะบอกปืนไปยังรูปหล่อรุ่นแรกเนื้อทองเหลืองและเนื้ออาปาก้า แค่ยิงครั้งแรกเท่่านั้นปากกระบอกปืนก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ท่ามกลางความงุนงงของแต่ละคนที่ได้ลองของในวันนั้น

    มีอีกหลายประสบการณ์ที่เกิดขึ้น แต่จะนำประสบการณ์ที่มีคนได้ทดลองเร็วๆ นี้คือ เมื่อวันพุธ 7 มีนาคา พ.ศ. 2550 พนักงานขับรถของหน่วยงานแห่งหนึ่งในอำเภอหนองไผ่ ได้ทดลองกับรูปหล่อหลวงปู่ขุ้ย เนื้ออาปาก้ารุ่นแรก โดยนำปืน .38 ลูกโม่ที่ได้ซื้อมาใหม่เอี่ยม มาทำการทดสอบโดยลั่นไกยิงจำนวน 4 นัดแต่ไม่แตก ลูกปืนไม่ออก ไม่มีเสียงดัง พอยิงขึ้นฟ้านัดที่ 5 เท่านั้น ดังเปรี้ยงท่านกลางความงงสงสัยกันแบบนำเอาหลักวิทยาศาสตร์มาคุยกันแต่ก็หาสาเหตุไม่พบ อีกทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอหนองไผ่ได้ประสบอุบัติเหตุรถตกเขา รถพังยับ แต่ร่างกายท่านผู้อำนวยการโรงเรียนท่านนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่รอยแมวข่วน...

    อ้างอิง http://www.tnews.co.th/contents/199790

    ลูกนี้ออก งานพิธีพุทธาภิเษก วัดป่าประชานิมิตร จ.เพชรบุรณ์ ปี 51 รับประกันแท้ 100 % ครับ


    บูชาเบาๆ 450 บาท

    ***** ปิดรายการ ******

    279458920_1642357832813048_8388063489611489688_n-jpg-jpg.jpg


    get_auc3_img-jpg-jpg-jpg.jpg

    get_auc3_img-jpg-jpg-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2023
  9. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019

    10381.พระกริ่งชินบัญชรเพรชกลับเหนือโลก(เนื้อปรอท) อุดผง หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน สำนักสวนป่าสมุนไพร จ.เพชรบูรณ์ อายุ 151 ปี

    หลวงปู่ละมัยท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญาแห่งวัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ โดยท่านได้ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลหลายๆรุ่นของหลวงปู่หมุน อาทิ รุ่นเสาร์ห้าบูชาครู รุ่นไตรมาสรวยทันใจ เป็นต้น หลวงปู่หมุนจะเรียกหลวงปู่ละมัยว่า "ท่านใหญ่" และทุกครั้งที่ทำพิธีเดียวกัน ท่านจะอาราธนาท่านใหญ่ก่อนเสมอ

    #หลวงปู่ละมัยฐิตมโน ผู้สำเร็จปรอทธาตุกายสิทธ์ พระปรอทของท่านขึ้นชื่อว่าอันดับหนึ่งของประเทศไทย ผู้ที่บูชายอมรับรู้รับทราบด้วยตนเอง จนเป็นที่กล่าวขานกัน จนถึงทุกวันนี้.....
    อนุภาพของปรอทที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้กล่าวขานกันมามีดังนี้.....ปรอทสำเร็จ....
    ตั้งแต่โบราณกาล ผู้มีภูมิความรู้ได้ศึกษาเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของปรอท จนได้รู้ว่าปรอท เป็นธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง ที่มีจิตดูแลอยู่ มีฤทธิ์ในตัวเอง อยู่ในรูปของเหลว ที่สามารถเคลื่อนตัวกลิ้งไปมาได้
    มีอานุภาพดังเช่นกายสิทธิ์ คือ การคุ้มครองป้องกัน การเตือนภัย การป้องกันภูตผีปีศาจ คุณไสย มนต์ดำ และที่สำคัญ ปรอท สามารถรักษาโรคได้
    ผู้ที่พกปรอทติดตัวจะได้รับการคุ้มครอง ให้แคล้วคลาดปลอดภัย จากภัยอันตรายทั้งหลาย แต่ด้วยปรอท เป็นธาตุอ่อน อยู่ในรูปของเหลว ดังนั้น เกจิอาจารย์ทั้งหลายจึงหาวิธีนำปรอทมาทำวัตถุมงคลเพื่อให้ผู้พกพาได้รับอานุภาพการป้องกันจากปรอท จึงได้ทำในรูปแบบเบี้ยแก้ หรือใส่ในปรอทกรอ
    ความมหัศจรรย์ของปรอท อีกอย่างคือ ปรอทจะไม่รวมตัวกับธาตุใดๆทั้งสิ้น ถือว่าเป็นธาตุที่บริสุทธิ์ แต่ลักษณะของปรอท จะดูดสารพิษเข้าตัว จะอยู่ในบริเวณที่มีสารพิษอยู่เสมอ ผู้มีภูมิรู้ในเรื่องปรอท เห็นในลักษณะเช่นนี้ จึงได้หาวิธีไล่โทษหรือฆ่าพิษปรอท ก็จะนำปรอทมาใช้ในการรักษาโรคได้ โดยให้ปรอทเข้าไปดูดเชื้อโรค วิธีหนึ่งของครูอาจารย์ผู้มีภูมิความรู้เรื่องปรอทนำมาใช้ คือ การจะนำปรอทเข้าตัว โดยใช้พลังจิตในการผลักปรอทที่ผ่านการฆ่าพิษแล้ว เข้าทางฝ่ามือ เพื่อให้เข้าไปในจุดที่ต้องการรักษา ปรอทก็จะไปดูดเชื้อโรคในตัว(เช่นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส) และจะถูกร่างกายขับถ่ายออกมาเอง
    ครูอาจารย์ผู้มีภูมิรู้ปรอท ยังหาวิธีเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อแปรให้ปรอทแข็งตัว เพื่อให้สามารถพกพาได้สะดวกขึ้น เพื่อผลทั้งในการรับอานุภาพคุ้มครองของปรอท และการรักษาโรค โดยปรอทที่ผ่านการเล่นแร่แปรธาตุจนเป็นธาตุแข็ง จะเรียก ปรอทหุง หรือปรอทสำเร็จ ปรอทที่นำมาเล่นแร่แปรธาตุนั้นจะผ่านการไล่โทษหรือฆ่าพิษก่อน แล้วจึงนำมาหุงขึ้นรูป ตามแต่ต้องการ
    การนำมาปรอทมาใช้รักษาโรค เช่นโรควัณโรค โดยใช้วิธีผลักปรอทเข้าตัว ได้ผลแน่นอน ผลการรักษาไม่แพ้การแพทย์ปัจจุบัน โรคเรื้อน โรคมะเร็ง ในตำราการแพทย์แผนโบราณ ได้นำปรอทมาเป็นยาถ่าย ยาขับน้ำดี ยาบำรุงกำลัง ยาแก้ปวด ยาขับปัสสาวะ ยาฆ่าเชื้อ แก้หนอง แก้แผล แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ไข้ แก้หวัด รักษาโรคผิวหนังทุกชนิด โรคเรื้อน แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ถูกของมีคมเป็นแผล ดับพิษไฟ อัมพฤกต์ อัมพาต
    ปรอทสามารถรักษาได้หลายโรค จึงขอสรุปวิธีการใช้หลักๆเพื่อสะดวกในการจดจำ ดังนี้
    หากเป็นไข้ ( หวัด, จับสั่น, มาลาเรีย ฯลฯ) แพ้อากาศ ให้นำปรอทหุงมาอมไว้ในปาก หรือจะแช่น้ำดื่ม เสมอๆก็ได้
    ปรอทเป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ในสมัยโบราณท่านกล่าวไว้ว่า ให้เอาแร่ปรอททาใช้ เป็นส่วนผสมสมของยารักษาโรคต่างๆ และบางส่วนก็นำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง
    ในอีกส่วนหนึ่งก็มีการทำให้แข็งตัว ตามตำราที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ ที่เรียกขานกันว่าเป็น การเล่นแร่แปรธาตุ ด้วยการ "หุงปรอท"
    ในวงการนักนิยมเครื่องราง ของขลังมีความเชื่อกันว่า ปรอทเป็นแร่ธาตุกายสิทธิ์ มีความศักสิทธิ์และมีอนุภาพอยู่ในตัวเอง แม้จะเก็บไว้นานก็คงสภาพไม่แปรเปลี่ยน เป็นสีอื่น ปรอทที่แท้จริงจะมีสีขาวเงาวาว จับดูจะลื่นมือเหมือนเปียกน้ำ ถ้าเอามาขัดถูจะมีสีสดใสขึ้นมาทันที จะดูใหม่อยู่เสมอ พิสูจน์ได้โดยเอาถูกับตะกั่วซองบุหรี่ จะร้อนไหม้ขึ้นมาทันที่ เอาถูที่มือจะเป็นสีดำติดมือ จึงจะเป็นของแท้ถูกต้องตามตำราโบราณ
    สรรพคุณของปรอทใช้ได้กว้างขวาง เหมาะกับท่านที่อยู่ชนบท ต่างๆเช่น ตามไร่ นา ป่า เขา ควรที่จะมีพระปรอทติดตัวไว้ ป้องกันอันตรายได้หลายอย่าง
    บรรพบุรุษนับถือพระปรอทกันอย่างจริงจัง มีการนำมาสร้างเป็นพระเครื่องเพราะ มีความเชื่อว่าจะช่วยให้ผู้มีไว้ใน ครอบครองคิดสิ่งใดจะได้ตามความปรารถนา
    ผู้ใดมีพระปรอทติดตัวเมื่อมีอันตรายเกิดขึ้นกับตัว จะนำพระที่ติดตัวนั้นมาใช้ได้ทันที อาทิ นำมาทำเป็นน้ำมนต์ หรือแช่เพื่อดื่มกินรักษาโรคต่างๆ
    อานุภาพของพระเนื้อปรอทตามตำนานท่เชื่อถือแต่โบราณมีดังนี้
    1. เมือถูกของมีคมให้นำพระปรอทถูที่ปากแผลเพื่อห้ามเลือด แผลจะปิดทันที
    2. กันไข้ป่า ไข้พิษต่างๆ
    3. ดูดพิษแมลงสัตว์ กัดต่อย ใช้น้ำสุราล้างพระปรอทแล้วเอาผ้ามาชุบน้ำสุรานั้นนำมาปิดปากแผ
    4. ดูดพิษงู
    5. ปวดฟันให้อมพระปรอทไว้
    6. ป้องกันยาพิษยาสั่ง
    7. ป้องกันคุณผี คุณคน ผีทุกชนิด
    8. ใช้พระปรอททารักษาโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน
    9. เป็นฝี ใช้พระเนื้อปรอทล้างน้ำสุราเอาผ้าชุบน้ำสุราแล้วปิดที่หัวฝี
    การเล่นแร่แปรธาตุผงปรอท ตามตำราโบราณนี้เป็นเรื่องที่หาพระคณาจารย์ในยุคสมัยนี้ทำได้ยากเย็นเต็มที่ จึงหาผู้ที่รู้จริงทำได้ยากยิ่ง ดังนั้นพระปรอทจึงเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ถ้าผู้ใดมีพระปรอทไว้ในครอบครอง ควรที่จะเก็บรักษาไว้ไห้ดี เพราะว่าพระปรอท มิใช่ว่าทุกคนจะมีไว้ในครอบครองได้ ต้องเป็นคนที่มีบุญบารมีพอสมควรเพราะ พระปรอทจะเลือกเจ้าของด้วยตัวเอง

    ปัจจุบันจะหา พ่อแม่ครูอาจารย์ที่ท่านทำ "ปรอทสำเร็จ" นั้นหายาก สว่นใหญ่จะเป็นเพียงปรอทธรรมดา ซึ่งอานุภาพ จะดอ้ยกว่า "ปรอทสำเร็จ" หลวงปู่ละมัย ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์ ที่เหนือกาลเวลา ประวัติของท่านยังเป็นปริศนา จนถึงทุกวันนี้ รู้แต่เพียงว่า ท่านมีความเกี่ยวพันเกี่ยวเนื่องกับ หลวงปู่โลกเทพอุดร และ สมเด็จลุน แห่งนครจำปาสัก ประเทศลาว วัตถุมงคลของท่าน ที่ท่านสร้างต่างเป็นที่ประจัก ในพุทธคุณ และ อนุภาพ ให้ผลแก่ผู้ครอบครอง ผู้ที่บูชาวัตถุมงคลของท่านยอ่มจะทราบกันดี โดยเฉพาะ วัตถุมงคล ที่สร้างจาก "ปรอทสำเร็จ"
    ปัจจุบันหายากแล้วครับ และ ยิ่งในสภาวะโลกปัจจุบัน โควิด 19 (โรคห่ากินคน) ระบาดหนัก อนุภาพของปรอทดูดสารพิษ และ สิ่งไม่ดี ควรจะมีพระ "ปรอทสำเร็จ" ติดตัวไว้นะครับ ชว่ยบรรเทาภัยอันตรายต่างๆ ปรับธาตุปรับขันธ์ กันไข้ กันพิษ เฉกเช่น พระธุดงค์สมัยกอ่น ท่านจะพกพระปรอท เพื่อปอ้งกันไข้ป่า ปอ้งกันพิษ และ สิ่งไม่ดีต่างๆ ที่มองไม่เห็น ตอนธุดงค์อยู่ในป่า ..
    .....................
    จบเรื่องอนุภาพของ "พระปรอทสำเร็จ" หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน..

    .................

    หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน ท่านมีอะไรมากกว่า.ที่เราคิด..ประสบการณ์เหนือโลก ที่เราเจอนั้น..
    เพียงแค่ 10 % ของบารมีท่านเท่านั้น...

    เหนือโลก เหนือกาลเวลา อจินไตยรวยทันตา...จำ 3 คำนี้เอาไว้...

    อิทธิฤทธิ์ปราฏิหาริย์ จะบังเกิด แก่ผู้ที่ศัทธาจริง เท่านั้น...แล้วจะรู้เอง..ใครมีวัตถุมงคลของท่านเก็บรักษาไว้ให้ดี นะครับ...

    "เมื่อถึงเวลาฟ้าดินก็ห้ามไม่อยู่ จำคำของพ่อไว้"

    กราบบารมี หลวงพอ่ละมัย และ คณะบรมครูโลกอุดร ทุกพระองค์ ครับ...

    ******************************************************************************


    สภาพสวย ไม่เคยผ่านการบูชา องค์นี้หมายเลข 1157

    บูชา 5,500 บาท

    **** จองแล้วครับ ****



    333028475_857219038913941_6405244092716868521_n.jpg

    332969966_921859922498823_6233764384091570516_n.jpg

    333089866_501647628803647_4804026069499857429_n.jpg

    get_auc3_img.jpg


    276140447_2171136066395988_6401861663446973573_n-jpg.jpg

    277368432_2174847182691543_6245092295685305658_n-jpg.jpg





     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2023
  10. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019


    10382. พระกริ่งชินบัญชรเพรชกลับเหนือโลก(เนื้อปรอท) อุดกริ่ง หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน สำนักสวนป่าสมุนไพร จ.เพชรบูรณ์ อายุ 151 ปี

    หลวงปู่ละมัยท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญาแห่งวัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ โดยท่านได้ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลหลายๆรุ่นของหลวงปู่หมุน อาทิ รุ่นเสาร์ห้าบูชาครู รุ่นไตรมาสรวยทันใจ เป็นต้น หลวงปู่หมุนจะเรียกหลวงปู่ละมัยว่า "ท่านใหญ่" และทุกครั้งที่ทำพิธีเดียวกัน ท่านจะอาราธนาท่านใหญ่ก่อนเสมอ

    #หลวงปู่ละมัยฐิตมโน ผู้สำเร็จปรอทธาตุกายสิทธ์ พระปรอทของท่านขึ้นชื่อว่าอันดับหนึ่งของประเทศไทย ผู้ที่บูชายอมรับรู้รับทราบด้วยตนเอง จนเป็นที่กล่าวขานกัน จนถึงทุกวันนี้.....
    อนุภาพของปรอทที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้กล่าวขานกันมามีดังนี้.....ปรอทสำเร็จ....
    ตั้งแต่โบราณกาล ผู้มีภูมิความรู้ได้ศึกษาเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของปรอท จนได้รู้ว่าปรอท เป็นธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง ที่มีจิตดูแลอยู่ มีฤทธิ์ในตัวเอง อยู่ในรูปของเหลว ที่สามารถเคลื่อนตัวกลิ้งไปมาได้
    มีอานุภาพดังเช่นกายสิทธิ์ คือ การคุ้มครองป้องกัน การเตือนภัย การป้องกันภูตผีปีศาจ คุณไสย มนต์ดำ และที่สำคัญ ปรอท สามารถรักษาโรคได้
    ผู้ที่พกปรอทติดตัวจะได้รับการคุ้มครอง ให้แคล้วคลาดปลอดภัย จากภัยอันตรายทั้งหลาย แต่ด้วยปรอท เป็นธาตุอ่อน อยู่ในรูปของเหลว ดังนั้น เกจิอาจารย์ทั้งหลายจึงหาวิธีนำปรอทมาทำวัตถุมงคลเพื่อให้ผู้พกพาได้รับอานุภาพการป้องกันจากปรอท จึงได้ทำในรูปแบบเบี้ยแก้ หรือใส่ในปรอทกรอ
    ความมหัศจรรย์ของปรอท อีกอย่างคือ ปรอทจะไม่รวมตัวกับธาตุใดๆทั้งสิ้น ถือว่าเป็นธาตุที่บริสุทธิ์ แต่ลักษณะของปรอท จะดูดสารพิษเข้าตัว จะอยู่ในบริเวณที่มีสารพิษอยู่เสมอ ผู้มีภูมิรู้ในเรื่องปรอท เห็นในลักษณะเช่นนี้ จึงได้หาวิธีไล่โทษหรือฆ่าพิษปรอท ก็จะนำปรอทมาใช้ในการรักษาโรคได้ โดยให้ปรอทเข้าไปดูดเชื้อโรค วิธีหนึ่งของครูอาจารย์ผู้มีภูมิความรู้เรื่องปรอทนำมาใช้ คือ การจะนำปรอทเข้าตัว โดยใช้พลังจิตในการผลักปรอทที่ผ่านการฆ่าพิษแล้ว เข้าทางฝ่ามือ เพื่อให้เข้าไปในจุดที่ต้องการรักษา ปรอทก็จะไปดูดเชื้อโรคในตัว(เช่นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส) และจะถูกร่างกายขับถ่ายออกมาเอง
    ครูอาจารย์ผู้มีภูมิรู้ปรอท ยังหาวิธีเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อแปรให้ปรอทแข็งตัว เพื่อให้สามารถพกพาได้สะดวกขึ้น เพื่อผลทั้งในการรับอานุภาพคุ้มครองของปรอท และการรักษาโรค โดยปรอทที่ผ่านการเล่นแร่แปรธาตุจนเป็นธาตุแข็ง จะเรียก ปรอทหุง หรือปรอทสำเร็จ ปรอทที่นำมาเล่นแร่แปรธาตุนั้นจะผ่านการไล่โทษหรือฆ่าพิษก่อน แล้วจึงนำมาหุงขึ้นรูป ตามแต่ต้องการ
    การนำมาปรอทมาใช้รักษาโรค เช่นโรควัณโรค โดยใช้วิธีผลักปรอทเข้าตัว ได้ผลแน่นอน ผลการรักษาไม่แพ้การแพทย์ปัจจุบัน โรคเรื้อน โรคมะเร็ง ในตำราการแพทย์แผนโบราณ ได้นำปรอทมาเป็นยาถ่าย ยาขับน้ำดี ยาบำรุงกำลัง ยาแก้ปวด ยาขับปัสสาวะ ยาฆ่าเชื้อ แก้หนอง แก้แผล แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ไข้ แก้หวัด รักษาโรคผิวหนังทุกชนิด โรคเรื้อน แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ถูกของมีคมเป็นแผล ดับพิษไฟ อัมพฤกต์ อัมพาต
    ปรอทสามารถรักษาได้หลายโรค จึงขอสรุปวิธีการใช้หลักๆเพื่อสะดวกในการจดจำ ดังนี้
    หากเป็นไข้ ( หวัด, จับสั่น, มาลาเรีย ฯลฯ) แพ้อากาศ ให้นำปรอทหุงมาอมไว้ในปาก หรือจะแช่น้ำดื่ม เสมอๆก็ได้
    ปรอทเป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ในสมัยโบราณท่านกล่าวไว้ว่า ให้เอาแร่ปรอททาใช้ เป็นส่วนผสมสมของยารักษาโรคต่างๆ และบางส่วนก็นำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง
    ในอีกส่วนหนึ่งก็มีการทำให้แข็งตัว ตามตำราที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ ที่เรียกขานกันว่าเป็น การเล่นแร่แปรธาตุ ด้วยการ "หุงปรอท"
    ในวงการนักนิยมเครื่องราง ของขลังมีความเชื่อกันว่า ปรอทเป็นแร่ธาตุกายสิทธิ์ มีความศักสิทธิ์และมีอนุภาพอยู่ในตัวเอง แม้จะเก็บไว้นานก็คงสภาพไม่แปรเปลี่ยน เป็นสีอื่น ปรอทที่แท้จริงจะมีสีขาวเงาวาว จับดูจะลื่นมือเหมือนเปียกน้ำ ถ้าเอามาขัดถูจะมีสีสดใสขึ้นมาทันที จะดูใหม่อยู่เสมอ พิสูจน์ได้โดยเอาถูกับตะกั่วซองบุหรี่ จะร้อนไหม้ขึ้นมาทันที่ เอาถูที่มือจะเป็นสีดำติดมือ จึงจะเป็นของแท้ถูกต้องตามตำราโบราณ
    สรรพคุณของปรอทใช้ได้กว้างขวาง เหมาะกับท่านที่อยู่ชนบท ต่างๆเช่น ตามไร่ นา ป่า เขา ควรที่จะมีพระปรอทติดตัวไว้ ป้องกันอันตรายได้หลายอย่าง
    บรรพบุรุษนับถือพระปรอทกันอย่างจริงจัง มีการนำมาสร้างเป็นพระเครื่องเพราะ มีความเชื่อว่าจะช่วยให้ผู้มีไว้ใน ครอบครองคิดสิ่งใดจะได้ตามความปรารถนา
    ผู้ใดมีพระปรอทติดตัวเมื่อมีอันตรายเกิดขึ้นกับตัว จะนำพระที่ติดตัวนั้นมาใช้ได้ทันที อาทิ นำมาทำเป็นน้ำมนต์ หรือแช่เพื่อดื่มกินรักษาโรคต่างๆ
    อานุภาพของพระเนื้อปรอทตามตำนานท่เชื่อถือแต่โบราณมีดังนี้
    1. เมือถูกของมีคมให้นำพระปรอทถูที่ปากแผลเพื่อห้ามเลือด แผลจะปิดทันที
    2. กันไข้ป่า ไข้พิษต่างๆ
    3. ดูดพิษแมลงสัตว์ กัดต่อย ใช้น้ำสุราล้างพระปรอทแล้วเอาผ้ามาชุบน้ำสุรานั้นนำมาปิดปากแผ
    4. ดูดพิษงู
    5. ปวดฟันให้อมพระปรอทไว้
    6. ป้องกันยาพิษยาสั่ง
    7. ป้องกันคุณผี คุณคน ผีทุกชนิด
    8. ใช้พระปรอททารักษาโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน
    9. เป็นฝี ใช้พระเนื้อปรอทล้างน้ำสุราเอาผ้าชุบน้ำสุราแล้วปิดที่หัวฝี
    การเล่นแร่แปรธาตุผงปรอท ตามตำราโบราณนี้เป็นเรื่องที่หาพระคณาจารย์ในยุคสมัยนี้ทำได้ยากเย็นเต็มที่ จึงหาผู้ที่รู้จริงทำได้ยากยิ่ง ดังนั้นพระปรอทจึงเป็นสิ่งที่หาได้ยาก ถ้าผู้ใดมีพระปรอทไว้ในครอบครอง ควรที่จะเก็บรักษาไว้ไห้ดี เพราะว่าพระปรอท มิใช่ว่าทุกคนจะมีไว้ในครอบครองได้ ต้องเป็นคนที่มีบุญบารมีพอสมควรเพราะ พระปรอทจะเลือกเจ้าของด้วยตัวเอง

    ปัจจุบันจะหา พ่อแม่ครูอาจารย์ที่ท่านทำ "ปรอทสำเร็จ" นั้นหายาก สว่นใหญ่จะเป็นเพียงปรอทธรรมดา ซึ่งอานุภาพ จะดอ้ยกว่า "ปรอทสำเร็จ" หลวงปู่ละมัย ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์ ที่เหนือกาลเวลา ประวัติของท่านยังเป็นปริศนา จนถึงทุกวันนี้ รู้แต่เพียงว่า ท่านมีความเกี่ยวพันเกี่ยวเนื่องกับ หลวงปู่โลกเทพอุดร และ สมเด็จลุน แห่งนครจำปาสัก ประเทศลาว วัตถุมงคลของท่าน ที่ท่านสร้างต่างเป็นที่ประจัก ในพุทธคุณ และ อนุภาพ ให้ผลแก่ผู้ครอบครอง ผู้ที่บูชาวัตถุมงคลของท่านยอ่มจะทราบกันดี โดยเฉพาะ วัตถุมงคล ที่สร้างจาก "ปรอทสำเร็จ"
    ปัจจุบันหายากแล้วครับ และ ยิ่งในสภาวะโลกปัจจุบัน โควิด 19 (โรคห่ากินคน) ระบาดหนัก อนุภาพของปรอทดูดสารพิษ และ สิ่งไม่ดี ควรจะมีพระ "ปรอทสำเร็จ" ติดตัวไว้นะครับ ชว่ยบรรเทาภัยอันตรายต่างๆ ปรับธาตุปรับขันธ์ กันไข้ กันพิษ เฉกเช่น พระธุดงค์สมัยกอ่น ท่านจะพกพระปรอท เพื่อปอ้งกันไข้ป่า ปอ้งกันพิษ และ สิ่งไม่ดีต่างๆ ที่มองไม่เห็น ตอนธุดงค์อยู่ในป่า ..
    .....................
    จบเรื่องอนุภาพของ "พระปรอทสำเร็จ" หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน..

    .................

    หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน ท่านมีอะไรมากกว่า.ที่เราคิด..ประสบการณ์เหนือโลก ที่เราเจอนั้น..
    เพียงแค่ 10 % ของบารมีท่านเท่านั้น...

    เหนือโลก เหนือกาลเวลา อจินไตยรวยทันตา...จำ 3 คำนี้เอาไว้...

    อิทธิฤทธิ์ปราฏิหาริย์ จะบังเกิด แก่ผู้ที่ศัทธาจริง เท่านั้น...แล้วจะรู้เอง..ใครมีวัตถุมงคลของท่านเก็บรักษาไว้ให้ดี นะครับ...

    "เมื่อถึงเวลาฟ้าดินก็ห้ามไม่อยู่ จำคำของพ่อไว้"

    กราบบารมี หลวงพอ่ละมัย และ คณะบรมครูโลกอุดร ทุกพระองค์ ครับ...

    ******************************************************************************


    สภาพสวย ไม่เคยผ่านการบูชา องค์นี้หมายเลข 1546ิ ใต้ฐานมีจาร

    บูชา 4,900 บาท



    ***ปิดรายการ***


    332860431_944719290222607_5267031451365222131_n.jpg

    333347374_911317350296312_1189120730214066565_n.jpg


    333210613_196306183080850_8389271552674777550_n.jpg

    get_auc3_img-jpg.jpg


    276140447_2171136066395988_6401861663446973573_n-jpg-jpg.jpg

    277368432_2174847182691543_6245092295685305658_n-jpg-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2023
  11. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019


    สรุปจำนวนจัดสร้างพระกริ่งปรอท รุ่นอจินตรัยรวยทันตาปี 2554 หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน

    ขอบคุณพี่ โหน่ง นำไทย มา ณ.ที่นี้ด้วยครับผม



     
  12. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019

    สำหรับวันนี้ก็ลงให้บูชาแค่นี้ก่อน ขอบพระคุณทุกๆท่านที่ได้เยี่ยมชมและเช่าบูชาด้วยครับ ทุกรายการจองได้ไม่เกิน 15 วัน ส่วนท่านที่โอนมาแล้วผมจะรีบจัดส่งให้โดยเร็วครับ..
    อีกประมาณ 3-5 วัน (อาทิตย์หน้า) จะมีลงรายการใหม่ให้บูชากันอีกครับ ท่านที่สนใจติดตามชมได้นะครับผม..:)

     
  13. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,905
    ค่าพลัง:
    +6,826
    ขอจองครับ
     
  14. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,905
    ค่าพลัง:
    +6,826
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  15. sumobaimon

    sumobaimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +1,495
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  16. ryuma9

    ryuma9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    1,261
    ค่าพลัง:
    +1,178
    จองครับ
     
  17. ryuma9

    ryuma9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    1,261
    ค่าพลัง:
    +1,178
    จองครับ
     
  18. ryuma9

    ryuma9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    1,261
    ค่าพลัง:
    +1,178
    จองครับ
     
  19. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019
    รับทราบการจองครับผม ขอบคุณมากครับ
     
  20. Loungpor

    Loungpor เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26,322
    ค่าพลัง:
    +9,019

    รับทราบการจองครับผม ขอบคุณมากครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...