ใครก็ได้ช่วยตอบคำถาม เกี่ยวกับจิตสังขาร หรือการคิดของจิตหน่อยครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy5, 2 สิงหาคม 2023.

  1. ballbeamboy5

    ballbeamboy5 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอยกตัวอย่างชัด ๆ จะได้เข้าใจที่ผมจะสื่อ เพราะผมไม่รู้จะอธิบายตรงๆ ไง ๆ

    1. สมมุติมีหมาอยู่ตรงหน้า เราก็สามารถคิดดี เช่นเอาข้าวให้หมากินได้ หรือคิดชั่วอยากจะเตะหมาได้ แต่เรารู้ว่า การที่คิดจะเตะหมามันไม่ดี เลยไม่ทำ เลยเลือกทำความคิดดีเป็นต้น

    สรุปคือเราก็รู้ว่าจิตสามารถคิดดี และชั่วได้ แต่เราเลือกที่จะคิดดี แต่ถ้าถามว่าจะคิดชั่วได้ไหม ก็คิดได้แต่ไม่เอา คำถามคือในการใช้ชีวิตจริง เราจะคิดดีอย่างเดียวไม่ได้ ก็มีคิดชั่วเช่น มีใครมาทำให้เราโกรธ เราก็นึกอยากจะสวนกลับ หรือหาทางแก้แค้น แต่ว่าสติเรารู้ทันว่าไม่ดีเลยหยุดคิดชั่ว และให้อภัย

    เลยสงสัยถ้าเราฝึกสมาธิแล้ว สติสัมปัญชัญญะเราดีขึ้น สามารถรู้ตัวว่าตอนนี้เรากำลังคิดอะไร ไม่ใช่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วมารู้ตัวทีหลัง เลยอยากรู้ว่าทำไงดีต่อครับ
     
  2. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ที่คิดดีคิดชั่วนั้นไม่ใข่ตัวเราครับ เป็นสังขารที่เกิดขึ้น วิธีทดสอบง่ายๆครับ ลองตั้งใจจะไม่คิดอะไรเลยครับ กำหนดจิตว่าเรานี้จะไม่คิดถึงสิ่งใดเลย แต่ความคิดก้จะปรากดขึ้นอยุ่ดีครับ คิดดี กุศล คิดชั่ว อกุศล ต่างก้เป็นของเกิดขึ้นเองและบังคับบันชาไม่ได้ว่าอย่าเกิดขึ้น
    ความสำคัญของสติที่ไปรับรู้สังขาร คือท่ายึดในดีที่เกิดอย่างน้อยก้ยังเป็นสิ่งที่ดี ไม่ทำอัตรายแก่เรามากแต่ก้มีผลนะครับ อุปาทานปัจจยา ภะโว เมื่อยึดถึงจะเป็นสิ่งที่ดีก้ยังมีภพเกิดขึ้นอีก สติที่รู้ว่าสังขารเกิดขึ้นเองและสังขารนั้นไม่ใช่ที่เราบังคับบันชาได้ แต่มีส่วนที่เราปรุงแต่งต่อไปได้ทั้งดีเละไม่ดีครับ เราวางสังขารนั้นลงที่เราไปรู้ ทั้งดุเละไม่ดี ก้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อไปครับ อุปาทานนิโรธา ภพนิโรโธ ความยึดในสังขารดับภพก้ดับครับ การฝึกสมาธิให้มากแค่ไหน สังขารวิญญาน สัญญา เวทนาก้ไม่ใช่เราครับ ไม่มีรู้ไปตลอด เละไม่จำเป็นต้องไปรู้ แต่ไม่ยึดได้เมื่อไหร่ก้ปล่อยขันทั้งหมดไม่ต้องไปตามดูตามรู้อีกครบ ทางออกไปจากภพมีเมื่ออุปทานดับ ภพดับครับ อนุโมทนาครับ
     
  3. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    มีสติรับรู้วิญานที่ตั้งลงในสังขาร สังขารเปลี่ยนไป สังขารเก่าดับเกิดสังขารใหม่ๆ วิญญานเก่าที่ตั้งในสังขารเดิมก้ดับไปแล้วครับ เกิดวิญานดวงใหม่ไปตั้งในสังขารใหม่ สติตามรู้ ทันในวิญานที่ตั้งในสังขารปัจจุบัน เละสัมปชันญะละลึกถึงสังขารที่ผ่านไปได้ วิญานตั้งในสัญญา วิญานที่ตั้งในสังขารก้ดับ สังขารก้ดับ วิญานตั้งในสัญญาใหม่สติตามรู้ทัน ก้ต้องเข้าใจครับว่าเหล่า วิญาน สังขาร สัญา เหล่านั้น เกิดขึ้นเองเละดับไปตลอดเวลา ที่เราไปยึดเอาไว้ว่าเราเป็นอย่างไรคืออุปาทาน หากเรารู้ชัดตรงนี้ว่าทั้งหมดไม่ใช่เราเลยมันเกิดเละดับไปนับไม่ถ้วน รู้แล้ววางสิ่งที่รู้ครับ
     
  4. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    การพยามกำหนดสติเพื่อรู้ร้อยครั้งพันครั้งล้านครั้ง ก้เพื่อรู้ให้เห็นความไม่เป็นตัวตนไม่เป็นของเราเพื่อการวางขันนั้นลงครับ ท่าวางได้แล้วก้ไม่ต้องไปรู้ไปเห็นอีกไม่จำเป็นต้องมีขันอีกต่อไปครับ
     
  5. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อาสวะอันภิกษุพึงละด้วยการบรรเทา ที่เป็นอันภิกษุ
    ละได้แล้วด้วยการบรรเทาเป็นไฉน คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาโดยแยบ
    คายแล้ว ย่อมไม่รับไว้ ย่อมละ ย่อมบรรเทา ย่อมทำให้สิ้นไป ย่อมทำให้
    หมดไป ซึ่งกามวิตกที่เกิดขึ้นแล้ว ภิกษุพิจารณาโดยแยบคายแล้ว ย่อมไม่รับไว้
    ย่อมละ ย่อมบรรเทา ย่อมทำให้สิ้นไป ย่อมทำให้หมดไป ซึ่งพยาบาทวิตกที่
    เกิดขึ้นแล้ว ... ซึ่งวิหิงสาวิตกที่เกิดขึ้นแล้ว ... ซึ่งธรรมที่เป็นบาป อกุศลที่เกิด
    ขึ้นแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเธอไม่บรรเทาอยู่ อาสวะที่ทำความคับแค้นและ
    ความเร่าร้อน พึงเกิดขึ้น เมื่อเธอบรรเทาอยู่ อาสวะเหล่านั้นที่ทำความคับแค้น
    และความเร่าร้อนย่อมไม่มีแก่เธอ ด้วยประการอย่างนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อาสวะ
    เหล่านี้ เรากล่าวว่า อันภิกษุพึงละด้วยการบรรเทา ที่เป็นอันภิกษุละได้แล้วด้วย
    การบรรเทา ฯ
     
  6. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อาสวะอันภิกษุพึงละได้ด้วยภาวนา ที่เป็นอันภิกษุ
    ละได้แล้วด้วยภาวนาเป็นไฉน คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาโดยแยบคาย
    แล้ว ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ
    น้อมไปเพื่อความสละ ภิกษุพิจารณาโดยแยบคายแล้ว ย่อมเจริญธรรมวิจย-
    *สัมโพชฌงค์ ... วิริยสัมโพชฌงค์ ... ปีติสัมโพชฌงค์ ... ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์
    ... สมาธิสัมโพชฌงค์ ... อุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ
    อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุไม่เจริญโพชฌงค์
    อยู่ อาสวะที่ทำความคับแค้นและความเร่าร้อนพึงเกิดขึ้น เมื่อเธอเจริญโพชฌงค์
    อยู่ อาสวะที่ทำความคับแค้นและความเร่าร้อน ย่อมไม่มีแก่เธอ ด้วยประการ
    อย่างนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อาสวะเหล่านี้ เรากล่าวว่า อันภิกษุพึงละด้วยภาวนา
    ที่เป็นอันภิกษุละได้แล้วด้วยภาวนา
     
  7. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    สา. ดูกรท่านอานนท์ผู้มีอายุ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเป็นผู้มีสัญญา
    อย่างนี้ว่า ธรรมชาตินั่นสงบ ธรรมชาตินั่นประณีต คือ ความสงบสังขารทั้งปวง
    ความสละคืนอุปธิทั้งปวง ความสิ้นตัณหา ความสิ้นกำหนัด ความดับ นิพพาน
     
  8. ballbeamboy5

    ballbeamboy5 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    สาธุครับผม ขอบคุณครับที่ช่วยเหลือผม
     

แชร์หน้านี้

Loading...