พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

มีครับ ถ้าจำไม่ผิด ผมมีทั้งสองแบบ แต่ไม่ทราบว่า นำไปไว้ที่ไหนเหมือนเดิมครับ

 

หากเป็นผู้ที่ได้มาในช่วงแรกๆราวๆ ๕-๑๐ ปีที่ผ่านมา อาจะพบบ้าง ปัจจุบันไม่น่าจะหาพบแล้วนะครับ ใช่ไม๊ครับคุณหนุ่ม

 

๑ องค์หมายถึงหลวงปู่องค์ใด และ ๓ องค์หมายถึงหลวงปู่องค์ใด การจัดสร้างน่าจะต้องมีความนัยบ้าง

 

ทำใกล้ๆที่พักนี่แหล่ะครับ ไม่ได้ไปไกลหรอกครับพี่ตั้งจิตครับ เน้นจิตเน้นใจเราเองครับ

 

เท่าที่ทราบ จะเป็นหลวงปู่โสณะเถระเจ้าครับ

ส่วนการสร้าง 1 องค์หรือ 3 องค์ ผมว่าเป็นเรื่องของการนำไปใช้มากกว่าครับ
.

 

คนส่วนใหญ่ จะไม่ทราบ แต่ต่อไปน่าจะรู้จักกัน
แต่ต้องระวัง อย่างที่บอก หากนำไปในที่ๆไม่ควร ก็เรียบร้อยครับ

.

 

สมัยก่อน ผมได้มายังเข้าใจว่าเป็นของหลวงพ่อโอภาสี
ต้องขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้ที่เกี่ยวกับคณะหลวงปู่โลกอุดร

เดิมเก็บไว้เป็นชุด ๆ ครับ
เท่าที่ค้นจากรูปที่ถ่ายไว้มีอยู่อย่างน้อย 2 ชุด

 

สวยมากๆ พิมพ์โป๊ยข่วยนี่น่าสนนะ อีกทั้งพิมพ์พระประจำวันก็สวยงามไม่แพ้กัน

 

เรื่องเครื่องหอมในพระเครื่องวังหน้า คิดว่าน่าจะมีว่านกระแจะจันทน์ ผสมด้วยหรือไม่ครับ นอกจากเครื่องหอมจำพวกชะมดเชียงจากประเทศจีน..

ใน ตำราสมุดข่อยบ่งไว้ว่า

 

เท่าที่ผมดู ไม่เกี่ยวกับตะกรุด สำหรับองค์อื่นๆ คงต้องเช็คองค์ผู้อธิษฐานจิตอีกครั้ง แต่ในความเห็นผม น่าจะเป็นช่วงรัชกาลที่ 5 ตอนปลายๆ ไม่ทันหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรอธิษฐานจิตครับ

 

ผมจะบอกว่า ขนาดพระ เนื้อเดียวกัน พิมพ์เดียวกัน ผมเจอมาแล้วองค์ผู้อธิษฐานจิต คนละองค์ ซึ่งผมจะบอกว่า เป็นเรื่องที่ดูด้วยตาเปล่าได้ยากมากๆๆๆๆ

ผมถึงไม่กล้าดูให้ใครในเว็บ เพราะผมตรวจพลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิตไม่เป็น

.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หล่อเทียน หลอมใจ
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000084371
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 กรกฎาคม 2551 09:04 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>จากเศษขี้ผึ้งและน้ำตาเทียนชิ้นน้อย หลอมรวมกลายเป็นเทียนพรรษา...ที่พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาจัดทำขึ้น เพื่อถวายแด่ภิกษุสำหรับจุดในโบสถ์ในช่วงระยะเวลานับตั้งแต่ต้นกล้าเริ่มแตกกอ ไปจนถึงช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นเวลาที่พระสงฆ์ประจำอยู่ที่วัดเป็นเวลา 3 เดือน ไม่ออกแสวงบุญจาริกไปยังที่ใด

ในอดีตชาวพุทธจะทำเทียนเพื่อจุดบูชาพระรัตนตรัย โดยการเอารังผึ้งร้างมาต้มเอาขี้ผึ้ง แล้วฟั่นเป็นเทียนเล่มเล็ก ๆ มีความยาวตามต้องการ เช่น ยาวเป็นคืบ หรือเป็นศอกแล้วใช้จุดบูชาพระ ซึ่งหากเป็นเทียนพรรษา ก็จะมีขนาดใหญ่และยาวเป็นพิเศษกว่าเทียนชนิดอื่น แต่ในปัจจุบัน การหล่อเทียนพรรษากลายเป็นเพียงความทรงจำในอดีต หลายชุมชนเลือกซื้อเทียนพรรษาที่จัดทำสำเร็จรูป แทนการหลอมเทียนถวายวัดในช่วงเข้าพรรษา ภาพความสามัคคีในชุมชนและแก่นแท้ของวันสำคัญทางศาสนาเริ่มห่างหายไป เหลือแต่เพียงเปลือกนอกของพิธีกรรม การแห่แหนเฉลิมฉลองที่กลายเป็นอีกเทศกาลหนึ่งเท่านั้น

แสงเทียนส่องธรรม

เทียนพรรษา เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ชาวพุทธจะยึดถือเป็นประเพณีนำเทียนไปถวายพระภิกษุในเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อปรารถนาให้ตนเองเป็นผู้เฉลียวฉลาด มีไหวพริบ ประดุจแสงสว่างของดวงเทียน

การทำเทียนพรรษา มีวิวัฒนาการมาเป็นลำดับ จากการนำรังผึ้งมาต้มเอาขี้ผึ้งไปฟั่นเป็นเทียนนำไปถวายพระภิกษุ เอาเทียนเล่มเล็กๆ หลายๆ เล่ม มามัดรวมกันเป็นลำต้นคล้ายกับ ต้นกล้วย หรือลำไม้ไผ่ แล้วนำไปติดกับฐาน ซึ่งการมัดรวมกันแบบนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่นิยมเรียกว่า ต้นเทียน หรือต้นเทียนพรรษา

ในทางพระพุทธศาสนา กล่าวถึงการทำบุญเข้าพรรษาว่า เป็นเรื่องของการ “หยุด” เพื่อจะได้พักทบทวนตัวเองเกี่ยวกับเรื่องการประพฤติปฏิบัติ ซึ่งในหลักของชาวพุทธนั้น มีหลักของการทำบุญอยู่สามประการ คือ หนึ่ง เพื่อทำให้ได้ใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนา สอง เพื่อศึกษาหลักธรรม และสาม เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งนั่น พระมหาสง่า ธีรสังวโร แห่งวัดผาลาด จังหวัดเชียงใหม่บอกว่า นับเป็นอานิสงส์ของการทำบุญเข้าพรรษา

“ถ้าเรานึกถึงกรอบสังคมในอดีต ช่วงนอกพรรษาจะเป็นฤดูของการทำไร่ทำนา เป็นช่วงเวลาของการลงไร่ พอเสร็จแล้วถึงช่วงของการเข้าพรรษาส่วนใหญ่จะปลูกข้าวเสร็จแล้ว รอแต่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวหลังจากออกพรรษาเสร็จ ในระหว่างนี้ก็จะเป็นช่วงที่พระสงฆ์เองหยุดการเดินธุดงค์ จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่ชาวบ้านจะได้ถือโอกาสนี้เข้าวัดในวันพระ จะได้ฟังเทศน์ฟังธรรม ขณะที่พระสงฆ์เองก็จะได้มีเวลาหยุดเพื่อทบทวนศึกษาหลักธรรมในพระไตรปิฎก และก็เมื่อถึงวันพระจะได้นำหลักธรรมต่างๆ ในพระไตรปิฎก เอาความรู้ที่ได้จากการจาริกธุดงค์มาเล่าและเทศน์ให้บรรดาญาติโยมได้ฟัง” พระมหาสง่าอธิบายให้เห็นถึงหัวใจสำคัญของช่วงเวลาเข้าพรรษาของพุทธศาสนิกชนในอดีตให้ฟัง

ซึ่งแตกต่างจากในปัจจุบันนี้ชาวบ้านจะยึดติดกับประเพณีมากกว่า พอถึงฤดูกาลเข้าพรรษาก็นำเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝนไปถวายพระสงฆ์ เพราะความเข้าใจว่าเทียนพรรษา พระสงฆ์จะนำไปส่องธรรมเข้าศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย อานิสงส์ก็คือจะทำให้ได้สติปัญญา แล้วในขณะเดียวกันพระสงฆ์ไม่มีผ้าสำหรับเปลี่ยนในการสรงน้ำ การถวายผ้าอาบน้ำจึงเพื่อไม่ให้พระสงฆ์มีปัญหาในเรื่องเกี่ยวกับของผ้านุ่ง ซึ่งจริงๆ แล้วกรอบสังคมของอดีตที่ผ่านมากับปัจจุบัน เรื่องของการถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝนก็ยังคงมีอยู่ ถือว่าในส่วนของประเพณีชาวพุทธในปัจจุบันยังได้ยึดถือเอาไว้

“แต่ในส่วนของการปฏิบัติเป็นส่วนที่เราต้องทำความเข้าใจว่า การจุดเทียนเพื่อส่องธรรม ชาวพุทธควรจะถือโอกาสนี้จุดเทียนส่องชีวิต หยุดในเรื่องของบาปกรรมทั้งหลายในช่วงของการเข้าพรรษา ตลอดระยะเวลาที่เราได้ทำไร่ไถนา เราอาจจะได้ไปล่วงเกินชีวิตสรรพสัตว์ หรือดื่มเหล้าสรวลเสเฮฮา พอถึงฤดูกาลเข้าพรรษาอย่างน้อยที่สุดก็สามเดือน หยุดในเรื่องของเหล้า การตกปลาล่าสัตว์ ทุกอย่างจะหยุดหมดในช่วงสามเดือน โดยประเพณีนี้เราไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ในเมืองไทยชาวพุทธแม้คนที่ดื่มเหล้าจัดๆ พอถึงฤดูกาลเข้าพรรษาก็หยุดกันได้”

วันเข้าพรรษา วันแห่งการบำเพ็ญตน

วันเข้าพรรษา นอกจากมีขึ้นเพื่อให้พระสงฆ์ได้ศึกษาธรรมพัฒนาจิตแล้ว ชาวบ้าน ญาติโยมก็จะได้พัฒนาจิตใจ ได้ร่วมกันเลิกเหล้าในช่วงเข้าพรรษา ดังนั้นการโครงการลดเหล้าเข้าพรรษา จึงเป็นโครงการเริ่มต้น ที่จะตั้งใจร่วมกันที่จะบำเพ็ญตน ถือศีล และลดละเลิกอบายมุขในช่วงบำเพ็ญภาวนานี้ ดังนั้นก่อนที่จะส่งเสริมพุทธศาสนาหรือสิ่งอื่นใด เราชาวพุทธควรต้องส่งเสริมตนเองเสียก่อน ดังที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนให้คนละเว้นซึ่งสิ่งที่ไม่ดีก่อน แล้วถึงจะแนะวิธีการว่าควรทำอย่างไร

พระมหา ดร. ดวงจันทร์ คุตตฺสีโล มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ บอกถึงหลักที่พุทธศาสนิกชนควรยึดถือปฏิบัติในวันเข้าพรรษา คือ การยึดถือใน ทาน ศีล ภาวนา ส่วนพระภิกษุสงฆ์ก็จะยึดถือใน ศีล สมาธิ ปัญญา เช่นเดียวกัน ตามที่พระพุทธเจ้าได้กล่าวถึงเส้นทางสู่การประสบความสำเร็จของภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชน 3 ประการข้างต้น

“การทำทานทำอย่างไรถึงจะร่ำรวย เหตุปัจจัยประกอบด้วย 3 อย่าง คือ ผู้ให้ ผู้รับ มีศีล และวัตถุที่ให้ทานนั้นเป็นสิ่งบริสุทธิ์ ดังนั้นเมื่อเราให้ทานทำบุญ ก็เสมือนการกินยา เพราะเราเชื่อมั่นในยา ก็ทำทานก็เพราะเชื่อว่าทานนั้นเปรียบดังยาวิเศษ”

ส่วนอานิสงส์ในการถวายเทียนก็เพื่อให้หมดสิ้นแก่เวรกรรม พระสงฆ์จุดเทียนเพื่ออ่านพระธรรมเพื่อให้ก่อเกิดซึ่งปัญญา ดังนั้นพุทธศาสนิกชนที่ถวายเทียนแก่พระสงฆ์ก็เปรียบเสมือน เป็นผู้ให้ซึ่งปัญญาแก่พระภิกษุสงฆ์เช่นเดียวกัน

ทางด้านพระมหาสง่าสรุปว่า ประเพณีเข้าพรรษามีส่วนดีที่คนโบราณได้วางแนวทางไว้ว่า เราต้องหยุดการเข่นฆ่า หยุดการเสพสุรายาเสพติดและอบายมุขทุกชนิดในตลอดระยะเวลาช่วงสามเดือนนี้ ซึ่งการงดดื่มสุราในพิธีกรรมช่วงวันเข้าพรรษานี้ ก็เป็นการนำเอาประเพณีวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม มาประยุกต์ใช้กับแนวคิดใหม่ของสังคมชาวพุทธ

“ปัจจุบันศีลธรรมของคนหายไป เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่ลืมวันสำคัญทางพุทธศาสนา ไม่ทราบคุณค่าหรือความหมายของประเพณีเข้าพรรษา เด็กรุ่นใหม่บางคนไม่รู้จักคำสวดมนต์ในพุทธศาสนา อาราธนาศีล อาราธรรม ซึ่งเป็นธรรมพื้นฐานไม่เป็น เราจะส่งเสริมศีลธรรมในชุมชนของตนเองได้อย่างไร พิธีวันนี้เราเห็นถึงธรรมะ แม่พิมพ์คือศีล บรรดาศีล 5 ข้อ ศีลข้อ 5 สำคัญที่สุด ดังนั้นคนเราหากไม่มีสติ ทุกอย่างก็หมด”

การเริ่มต้นที่ศีลข้อ 5 คือ ลด ละ เลิกอบายมุข โดยเฉพาะเหล้าได้ จะทำให้ศีลข้ออื่นๆ ที่เหลือปฏิบัติได้ง่ายขึ้น นั่นคือ ศีลข้อ 5 ชาวพุทธต้องเอาไปปฏิบัติอย่าแค่ท่องอย่างเดียว

หล่อเทียน หลอมใจ ไร้แอลกอฮอล์

เสียงกลองดังก้องนำมาแต่ไกลบนเส้นทางมุ่งหน้าสู่วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ ขบวนแห่ขี้ผึ้งที่ประกอบไปด้วยโคม ตุง อันเป็นสิ่งมงคลตามความเชื่อของชาวล้านนา ค่อยๆ เคลื่อนมาตามถนนอย่างสงบ ชุดขาวแบบพื้นเมืองที่ทุกคนพร้อมใจสวมใส่สะท้อนแสงแดดยามเช้าเป็นประกายขรึมขลัง ป้ายผ้าผืนใหญ่เขียนข้อความโครงการ “ลด ละเหล้าเข้าพรรษา” ประกาศการปวารณาตัวของพุทธศาสนิกชนเหล่านี้ว่า พวกเขาขอถือศีลข้อ 5 ตลอดช่วงระยะเวลาของการเข้าพรรษานี้

จากความสำเร็จของการทำงานในโครงการ “ม่วนงัน สันเล้า ปลอดเหล้า ปลอดภัย ม่วนใจ๋ปี๋ใหม่เมือง” เพื่อรณรงค์สงกรานต์ไร้แอลกอฮอล์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โครงการสื่อพื้นบ้านเพื่อการลดละเลิกเหล้า (สพล.) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ต่างเห็นควรให้มีการทำงานต่อเนื่องในเรื่องการรื้อฟื้น คุณค่า ความหมาย และสืบทอดประเพณีเข้าพรรษา พร้อมทั้งให้มีการรณรงค์ลด ละเลิกเหล้า ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาอันเป็นช่วงแห่งการถือศีล ทำบุญกุศล และถือเป็นโอกาสอันดีที่จะมีการลด ละเลิกเหล้ากันมาก ร้านค้าในชุมชนต่างให้ความร่วมมือที่จะงดขายเหล้าอย่างเด็ดขาดในช่วงวันเข้าพรรษาที่ 18 กรกฎาคม

“โครงการหล่อเทียน หลอมใจ ไร้แอลกอฮอล์” มีตัวแทนของชุมชนและวัดในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่จำนวนทั้งหมด 21 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ ทุกชุมชนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า นอกจากการปฏิบัติตนในการร่วมกันทำบุญถือศีลลด ละเลิกเหล้าแล้ว การถวายเทียนในช่วงเข้าพรรษาเพื่อใช้จุดเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา ในระหว่างพรรษาแก่พระสงฆ์ นับเป็นสิ่งสำคัญที่ถือปฏิบัติสืบเนื่องกันมา จึงเห็นควรให้มีการจัดพิธีกรรมเพื่อหล่อเทียนและร่วมถวายเทียนที่หลอมจิตใจทุกคนในชุมชน

อดุลย์ ดวงดีทวีรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานโครงการฯ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานโครงการนี้ขึ้นว่า เกิดจากการตั้งคำถามถึงคุณค่าของประเพณีชาวพุทธต่างๆ และพบว่าชาวบ้านส่วนมากไม่รู้คุณค่า รู้แต่รูปแบบ จึงทำการรื้อฟื้นสืบทอดประเพณีการหล่อเทียนและถวายเทียนเข้าพรรษา เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ ความเข้าใจในคุณค่า ความหมาย อานิสงส์ผลบุญในช่วงเข้าพรรษา อันจะเป็นแรงบันดาลใจให้มีความศรัทธา และมีความเชื่อมั่นในการทำงานมากยิ่งขึ้น

“ในอดีตมีการเอาดอกไม้และน้ำตาเทียนที่เหลือแต่ละบ้านมารวมกัน เพื่อหลอมทำเทียนพรรษาง่ายๆ ถวายวัด เรื่องของความสวยงามไม่คิด คิดอย่างเดียวคือความสามัคคี เพราะในอดีตประเพณีการหลอมเทียนพรรษาเป็นเวทีให้คนที่มีความขัดแย้งในชุมชนให้เลิกแล้วต่อกัน เรื่องเก่าๆ ก็ให้จบไป เข้าพรรษาแล้วทุกคนก็อยู่กันแบบสมานฉันท์ แต่ปัจจุบันเมื่อวิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงไป จากการหลอมเทียนก็เปลี่ยนมาซื้อเทียนเอา เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ชี้ให้เห็นว่าคนเดี๋ยวนี้ไม่เห็นคุณค่าของประเพณีเก่าๆ ต่างคนต่างซื้อเทียนแล้วก็เอามาถวาย คุณค่าที่หายไปในประเพณีทำให้เราเห็นภาพของคนในชุมชนที่มีความแตกแยก เพราะประเพณีเข้าพรรษาและพิธีหลอมเทียนไม่ได้ทำหน้าที่ของมัน”

เช่นเดียวกับ ประทีป บุญมั่น ประธานชุมชนหัวฝาย จ.เชียงใหม่ ที่บอกว่าในสมัยก่อนแต่ละชุมชนจะไปเก็บขี้เทียนจากบ้านของชาวบ้านทุกหลังคาเรือนมาหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน แต่ในปัจจุบันแต่ละชุมชนจะได้รับแจกเทียนพรรษาจากหน่วยงานท้องถิ่นของรัฐ ทำให้การสืบทอดประเพณีหลอมเทียนพรรษาหายไป เหลือแต่พิธีกรรมการแห่เทียนไปถวายวัดเท่านั้น

“งานหล่อเทียนครั้งนี้ทั้ง 21 ชุมชนร่วมกันเป็นเจ้าของ จะเน้นที่กระบวนการให้ชุมชนมีส่วนร่วมเพื่อความสามัคคี ซึ่งแตกต่างจากที่เทศบาลทำเพราะเทศบาลจะซื้อเทียนมาแล้วนัดให้ประธานชุมชนไปรับ หลังจากที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมรื้อฟื้นพิธีหลอมเทียนร่วมกับทางชุมชน ทุกวันนี้มีเด็กรุ่นใหม่ไปวัดช่วยกันหลอมเทียนพรรษา เอาทั้งกายและใจทำ”

การมีส่วนร่วมของชุมชน เช่น ขี้ผึ้งและเทียนที่จะนำมาหล่อ ชุมชนจะรวบรวมจากชาวบ้านในชุมชนแล้วเอามารวมกันที่วัดโดยเขาใช้คำว่า “เพื่อสร้างความสามัคคี” ทั้งกับคนในชุมชนและทั้ง 21 ชุมชนที่ร่วมกัน นั่นคือชุมชนได้นำความรู้ที่ได้รับจากช่วงเช้า คือรูปแบบคุณค่าของการหล่อเทียนเอามาปรับใช้ หรือแต่ละชุมชนมีของดีอะไรจะนำมาสบทบร่วมทำบุญ เช่นบางชุมชนที่มีโคมเขาจะเอาโคมมาร่วม บางชุมชนจะเอาตุงมาร่วม บางชุมชนเอากลองมาร่วมให้สนุกสนานโดยไม่มีเหล้า และบางชุมชนจะเอาการแสดงมาร่วม เป็นต้น

งานนี้สนุกด้วยแต่ไม่มีแอลกอฮอล์นั่นคือ ผู้เข้าร่วมเสนอว่ามีการแห่ขบวนเทียนจากหน้าประตูวัดเข้ามาในวัดเป็นการสนุกแต่ไม่มีเหล้า ประธานชุมชนหัวฝายบอกว่างานนี้ไม่มีเรื่องการเมืองหรือนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เกี่ยวกับเทศบาลซึ่งทุกครั้งยากที่จะหลีกเลี่ยงการเลี้ยงเหล้าในงานพิธีต่างๆ ได้ ทำให้ทุกชุมชนสามารถเข้ามาร่วมโดยไม่ต้องมีเรื่องการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รวมทั้งไร้สิ่งมึนเมา

“การหลอมเทียนต้องมีจุดสำคัญจุดหนึ่ง ไม่ใช่ใครอยากจะทำก็ทำได้ อย่างน้อยต้องมีวัดเป็นศูนย์กลาง เพราะไม่ใช่แค่การหลอมเทียนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ปีนี้เราได้เอาคนทั้งหมดในชุมชนมาหลอมใจร่วมกัน” ประทีปกล่าว
ทิ้งท้ายด้วยคำสอนของพระมหาสง่าที่ฝากถึงพุทธศาสนิกชนในวันเข้าพรรษา ที่นับเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติอีกวันหนึ่งด้วย ว่าแท้จริงแล้วแก่นสำคัญของการถวายเทียนในประเพณีนี้ของชาวพุทธนั้น อยู่ที่ใด...

“เทียนพรรษาที่พุทธศาสนิกชนถวายจะนำไปจุดเพื่อเป็นพุทธบูชา ในเมืองที่มีไฟฟ้าใช้อาจจะดูว่าไม่ค่อยมีความจำเป็น แต่ก็จะมีการจุดในตอนทำวัตรเช้าทำวัตรเย็นในการสวดมนต์ ในส่วนท้องถิ่นที่อยู่ห่างไกลที่ไฟฟ้าไปไม่ถึงอันนี้จำเป็น แม้ในบางจุดที่ไฟฟ้าไปถึงแต่ยังไม่สะดวก มีการดับไฟ เทียนก็เป็นสิ่งจำเป็น ฉะนั้น การถวายเทียนนอกจากที่มองว่าพระท่านจะได้นำไปใช้แล้ว อาจจะเป็นสิ่งที่ดีอันหนึ่ง ที่จะบอกว่าจริงๆ แล้ว การย้อนกลับไปสู่วิถีชีวิตที่ดั้งเดิม อาจจะเป็นความสุขที่แท้จริง”

“อยากให้ชาวพุทธเราได้ถือโอกาสนี้ในการศึกษาหลักธรรมของพุทธศาสนา ในการนำสิ่งที่ดีงามเข้ามาสู่ในชีวิต สิ่งที่อยากจะให้เกิดขึ้นกับชาวพุทธเรามากๆ ก็คือ อยากให้เรานำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาพิจารณาทบทวนว่า ทำอย่างไรคนในสังคมไทยจะปฏิบัติต่อกันด้วยจิตที่มีเมตตาและรักสามัคคี พร้อมทั้งทำความดี ถือศีลภาวนาในช่วงเข้าพรรษานี้เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายอานิสงส์ของการทำความดีในครั้งนี้เป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ และสมเด็จพระพี่นางเธอฯ”
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ตัดตอนมาเล็กน้อยพอให้ชื่นชม

พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุในประเทศไทย
เราสามารถสืบค้นความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุในประเทศ
ไทยจากตำนานต่าง ๆ เช่น ใน ตำนานพระธาตุลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ได้กล่าวถึงการ
เข้ามาของคณะสมณฑูตของพระเจ้าอโศกมหาราช นำโดยพระโสณะและพระอุตระเพื่อเผยแผ่
พระพุทธศาสนานั้น ว่า ​

 

หนังสือวิเคราะห์พระวังหน้าของ อ.ประถมพอหาซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ เห็นมีแต่ของ อ.ระฆังกับเจิดศักดิ์ พลจันทร์(เนื้อหาน้อยทั้งเล่ม ๑ เล่ม ๒ มีเนื้อหาเหมือนกันต่างกันเพียงรูปที่ลงเท่านั้น)

 

ผมเคยนึกนะครับว่า ก็ในเมื่อหลวงปู่เทพโลกอุดร(พระโสณะ-อุตระ)คือบุคคลสำคัญในพุทธศาสนา ที่นำพระพุทธศาสนามาเผยแผ่ยังดินแดนสุวรรณภูมิทำให้เราได้อยู่ใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนามากระทั่งปัจจุบัน แล้วไฉนกระทรวงศึกษาหรือกรมศาสนาจึงไม่ค่อยจะได้ให้ความสำคัญในหลวงปู่กันบ้าง เช่นประกาศให้พุทธศาสนิกชนคนไทยได้รับรู้รับทราบถึงบุญคุณของหลวงปู่ท่าน กำหนดหลักสูตรเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องของท่านให้นักเรียนได้เรียนรู้ (จริงๆแล้วก็ควรรวมไปถึงพระเจ้าอโศกมหาราชที่เป็นต้นธารในเรื่องนี้ด้วย)

มาวันนี้นับเป็นโอกาสดีในช่วงวันเข้าพรรษาผมก็ได้ไปเจอสิ่งดีๆเข้าแล้วครับ
ก่อนอื่นตอบคำถามกันก่อนครับ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" background=images/background1.jpg border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=7>จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุด (10 คะแนน)</TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD height=30></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD height=1999></TD><TD></TD><TD vAlign=top colSpan=7><INTERACTION name="MultCh_ImageRadios01" object="G01" template="010_Multiple Choice/030_MultCh_ImageRadios_04.agt" includesrc="interactionClass.js,elemIbtnClass.js">1. พระเจ้าอโศกมหาราชมีความสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่เด่นชัดที่สุดอย่างไร
ก. สร้างวิหารจำนวน 84,000 หลังตามจำนวนพระสงฆ์
ข. อนุญาตให้พระโอรสพระธิดาบวชในพระพุทธศาสนา
ค. ส่งคณะทูตไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังแคว้นต่างๆ 9 สาย
ง. ร่วมมือกับพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ และคณะสงฆ์ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา
<SCRIPT language=JavaScript><!-- // Copyright 1998,1999 Macromedia, Inc. All rights reserved. function newG01() { G01 = new MM_interaction('G01',1,0,0,null,0,0,0,'','','c','',0); G01.add('ibtn','choice1',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G01.add('ibtn','choice2',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G01.add('ibtn','choice3',0,1,1,1,1,'sdhSDH'); G01.add('ibtn','choice4',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G01.init(); G01.am('segm','Segment: Check Time_',1,1); G01.am('cond','Time At Limit_','G01.timeAtLimit == true',0); G01.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of time\')','pm'); G01.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G01.setDisabled(true);\')','sp'); G01.am('end'); G01.am('segm','Segment: Correctness_',1,0); G01.am('cond','Correct_01','G01.correct == true',0); G01.am('end'); G01.am('cond','Incorrect_','G01.correct == (false)',0); G01.am('end'); G01.am('cond','Unknown Response_','G01.knownResponse == false',0); G01.am('end'); G01.am('segm','Segment: Check Tries_',1,1); G01.am('cond','Tries At Limit_','G01.triesAtLimit == true',0); G01.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of tries\')','pm'); G01.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G01.setDisabled(true);\')','sp'); G01.am('end'); } if (window.newG01 == null) window.newG01 = newG01; if (!window.MM_initIntFns) window.MM_initIntFns = ''; window.MM_initIntFns += 'newG01();';//--> </SCRIPT><CBI-SELECT object="G01"></INTERACTION>
<INTERACTION name="MultCh_ImageRadios02" object="G02" template="010_Multiple Choice/030_MultCh_ImageRadios_04.agt" includesrc="interactionClass.js,elemIbtnClass.js">2. ผู้ใดมีส่วนสำคัญที่ทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชปฏิญาณตนเป็นพุทธศาสนิกชน
ก. สามเณรนิโครธ
ข. พระมหากัสสปะ
ค. พระอานนท์
ง. สามเณรราหุล
<SCRIPT language=JavaScript><!-- // Copyright 1998,1999 Macromedia, Inc. All rights reserved. function newG02() { G02 = new MM_interaction('G02',1,0,0,null,0,0,0,'','','c','',0); G02.add('ibtn','choice1',0,1,1,1,1,'sdhSDH'); G02.add('ibtn','choice2',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G02.add('ibtn','choice3',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G02.add('ibtn','choice4',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G02.init(); G02.am('segm','Segment: Check Time_',1,1); G02.am('cond','Time At Limit_','G02.timeAtLimit == true',0); G02.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of time\')','pm'); G02.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G02.setDisabled(true);\')','sp'); G02.am('end'); G02.am('segm','Segment: Correctness_',1,0); G02.am('cond','Correct_01','G02.correct == true',0); G02.am('end'); G02.am('cond','Incorrect_','G02.correct == (false)',0); G02.am('end'); G02.am('cond','Unknown Response_','G02.knownResponse == false',0); G02.am('end'); G02.am('segm','Segment: Check Tries_',1,1); G02.am('cond','Tries At Limit_','G02.triesAtLimit == true',0); G02.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of tries\')','pm'); G02.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G02.setDisabled(true);\')','sp'); G02.am('end'); } if (window.newG02 == null) window.newG02 = newG02; if (!window.MM_initIntFns) window.MM_initIntFns = ''; window.MM_initIntFns += 'newG02();';//--> </SCRIPT><CBI-SELECT object="G02"></INTERACTION>
<INTERACTION name="MultCh_ImageRadios03" object="G03" template="010_Multiple Choice/030_MultCh_ImageRadios_04.agt" includesrc="interactionClass.js,elemIbtnClass.js">3. เหตุใดพระเจ้าอโศกมหาราชจึงได้รับสมญานามว่า “จัณฑาโศก”
ก. เป็นผู้ยกทัพไปรบกับแคว้นกลิงคะมีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก
ข. เป็นผู้ส่งคณะสงฆ์ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาถึง 9 สาย
ค. เป็นผู้สำเร็จโทษพระภาดาต่างชนนีถึง 99 พระองค์
ง. เป็นผู้ มั่นคงในคำสอนของพระพุทธศาสนา
<SCRIPT language=JavaScript><!-- // Copyright 1998,1999 Macromedia, Inc. All rights reserved. function newG03() { G03 = new MM_interaction('G03',1,0,0,null,0,0,0,'','','c','',0); G03.add('ibtn','choice1',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G03.add('ibtn','choice2',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G03.add('ibtn','choice3',0,1,1,1,1,'sdhSDH'); G03.add('ibtn','choice4',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G03.init(); G03.am('segm','Segment: Check Time_',1,1); G03.am('cond','Time At Limit_','G03.timeAtLimit == true',0); G03.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of time\')','pm'); G03.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G03.setDisabled(true);\')','sp'); G03.am('end'); G03.am('segm','Segment: Correctness_',1,0); G03.am('cond','Correct_01','G03.correct == true',0); G03.am('end'); G03.am('cond','Incorrect_','G03.correct == (false)',0); G03.am('end'); G03.am('cond','Unknown Response_','G03.knownResponse == false',0); G03.am('end'); G03.am('segm','Segment: Check Tries_',1,1); G03.am('cond','Tries At Limit_','G03.triesAtLimit == true',0); G03.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of tries\')','pm'); G03.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G03.setDisabled(true);\')','sp'); G03.am('end'); } if (window.newG03 == null) window.newG03 = newG03; if (!window.MM_initIntFns) window.MM_initIntFns = ''; window.MM_initIntFns += 'newG03();';//--> </SCRIPT><CBI-SELECT object="G03"></INTERACTION>
<INTERACTION name="MultCh_ImageRadios04" object="G04" template="010_Multiple Choice/030_MultCh_ImageRadios_04.agt" includesrc="interactionClass.js,elemIbtnClass.js">4. ข้อใดต่อไปนี้ที่พระเจ้าอโศกไม่ได้ปฏิบัติเพื่อพระพุทธศาสนา
ก. สร้างมหาวิหาร 84,000 แห่ง
ข. ทรงอุปถัมภ์การสังคายนา ครั้งที่ 3
ค. ทรงส่งศาสนทูตออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ง. ทรงสั่งให้อำมาตย์ปราบพระอลัชชี ที่ปลอมมาบวช
<SCRIPT language=JavaScript><!-- // Copyright 1998,1999 Macromedia, Inc. All rights reserved. function newG04() { G04 = new MM_interaction('G04',1,0,0,null,0,0,0,'','','c','',0); G04.add('ibtn','choice1',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G04.add('ibtn','choice2',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G04.add('ibtn','choice3',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G04.add('ibtn','choice4',0,1,1,1,1,'sdhSDH'); G04.init(); G04.am('segm','Segment: Check Time_',1,1); G04.am('cond','Time At Limit_','G04.timeAtLimit == true',0); G04.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of time\')','pm'); G04.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G04.setDisabled(true);\')','sp'); G04.am('end'); G04.am('segm','Segment: Correctness_',1,0); G04.am('cond','Correct_01','G04.correct == true',0); G04.am('end'); G04.am('cond','Incorrect_','G04.correct == (false)',0); G04.am('end'); G04.am('cond','Unknown Response_','G04.knownResponse == false',0); G04.am('end'); G04.am('segm','Segment: Check Tries_',1,1); G04.am('cond','Tries At Limit_','G04.triesAtLimit == true',0); G04.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of tries\')','pm'); G04.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G04.setDisabled(true);\')','sp'); G04.am('end'); } if (window.newG04 == null) window.newG04 = newG04; if (!window.MM_initIntFns) window.MM_initIntFns = ''; window.MM_initIntFns += 'newG04();';//--> </SCRIPT><CBI-SELECT object="G04"></INTERACTION><INTERACTION name="MultCh_ImageRadios05" object="G05" template="010_Multiple Choice/030_MultCh_ImageRadios_04.agt" includesrc="interactionClass.js,elemIbtnClass.js">5. ศาสนทูตคณะใดที่เข้าเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ
ก. พระโสณะและพระอุตตระ
ข. พระมหารักขิตเถระ
ค. พระมัชฌันติกะเถระ
ง. พระมหาเทวเถระ
<SCRIPT language=JavaScript><!-- // Copyright 1998,1999 Macromedia, Inc. All rights reserved. function newG05() { G05 = new MM_interaction('G05',1,0,0,null,0,0,0,'','','c','',0); G05.add('ibtn','choice1',0,1,1,1,1,'sdhSDH'); G05.add('ibtn','choice2',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G05.add('ibtn','choice3',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G05.add('ibtn','choice4',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G05.init(); G05.am('segm','Segment: Check Time_',1,1); G05.am('cond','Time At Limit_','G05.timeAtLimit == true',0); G05.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of time\')','pm'); G05.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G05.setDisabled(true);\')','sp'); G05.am('end'); G05.am('segm','Segment: Correctness_',1,0); G05.am('cond','Correct_01','G05.correct == true',0); G05.am('end'); G05.am('cond','Incorrect_','G05.correct == (false)',0); G05.am('end'); G05.am('cond','Unknown Response_','G05.knownResponse == false',0); G05.am('end'); G05.am('segm','Segment: Check Tries_',1,1); G05.am('cond','Tries At Limit_','G05.triesAtLimit == true',0); G05.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of tries\')','pm'); G05.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G05.setDisabled(true);\')','sp'); G05.am('end'); } if (window.newG05 == null) window.newG05 = newG05; if (!window.MM_initIntFns) window.MM_initIntFns = ''; window.MM_initIntFns += 'newG05();';//--> </SCRIPT><CBI-SELECT object="G05"></INTERACTION>
<INTERACTION name="MultCh_ImageRadios06" object="G06" template="010_Multiple Choice/030_MultCh_ImageRadios_04.agt" includesrc="interactionClass.js,elemIbtnClass.js">6. พระโสณะและพระอุตตระ มีส่วนสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในแถบใด
ก. แถบแม่น้ำโคธาวารี
ข. ดินแดนสุวรรณภูมิ
ค. โยนกประเทศ
ง. ลังกา
<SCRIPT language=JavaScript><!-- // Copyright 1998,1999 Macromedia, Inc. All rights reserved. function newG06() { G06 = new MM_interaction('G06',1,0,0,null,0,0,0,'','','c','',0); G06.add('ibtn','choice1',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G06.add('ibtn','choice2',0,1,1,1,1,'sdhSDH'); G06.add('ibtn','choice3',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G06.add('ibtn','choice4',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G06.init(); G06.am('segm','Segment: Check Time_',1,1); G06.am('cond','Time At Limit_','G06.timeAtLimit == true',0); G06.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of time\')','pm'); G06.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G06.setDisabled(true);\')','sp'); G06.am('end'); G06.am('segm','Segment: Correctness_',1,0); G06.am('cond','Correct_01','G06.correct == true',0); G06.am('end'); G06.am('cond','Incorrect_','G06.correct == (false)',0); G06.am('end'); G06.am('cond','Unknown Response_','G06.knownResponse == false',0); G06.am('end'); G06.am('segm','Segment: Check Tries_',1,1); G06.am('cond','Tries At Limit_','G06.triesAtLimit == true',0); G06.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of tries\')','pm'); G06.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G06.setDisabled(true);\')','sp'); G06.am('end'); } if (window.newG06 == null) window.newG06 = newG06; if (!window.MM_initIntFns) window.MM_initIntFns = ''; window.MM_initIntFns += 'newG06();';//--> </SCRIPT><CBI-SELECT object="G06"></INTERACTION>
<INTERACTION name="MultCh_ImageRadios07" object="G07" template="010_Multiple Choice/030_MultCh_ImageRadios_04.agt" includesrc="interactionClass.js,elemIbtnClass.js">7. คุณธรรมของพระโสณะ และพระอุตตระที่ควรถือเป็นแบบอย่างคือข้อใด
ก. เป็นผู้มีความกตัญญู
ข. เป็นผู้มีจริตเรียบง่าย
ค. เป็นผู้ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
ง. เป็นผู้มีความสามารถในการถ่ายทอดพระธรรม
<SCRIPT language=JavaScript><!-- // Copyright 1998,1999 Macromedia, Inc. All rights reserved. function newG07() { G07 = new MM_interaction('G07',1,0,0,null,0,0,0,'','','c','',0); G07.add('ibtn','choice1',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G07.add('ibtn','choice2',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G07.add('ibtn','choice3',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G07.add('ibtn','choice4',0,1,1,1,1,'sdhSDH'); G07.init(); G07.am('segm','Segment: Check Time_',1,1); G07.am('cond','Time At Limit_','G07.timeAtLimit == true',0); G07.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of time\')','pm'); G07.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G07.setDisabled(true);\')','sp'); G07.am('end'); G07.am('segm','Segment: Correctness_',1,0); G07.am('cond','Correct_01','G07.correct == true',0); G07.am('end'); G07.am('cond','Incorrect_','G07.correct == (false)',0); G07.am('end'); G07.am('cond','Unknown Response_','G07.knownResponse == false',0); G07.am('end'); G07.am('segm','Segment: Check Tries_',1,1); G07.am('cond','Tries At Limit_','G07.triesAtLimit == true',0); G07.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of tries\')','pm'); G07.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G07.setDisabled(true);\')','sp'); G07.am('end'); } if (window.newG07 == null) window.newG07 = newG07; if (!window.MM_initIntFns) window.MM_initIntFns = ''; window.MM_initIntFns += 'newG07();';//--> </SCRIPT><CBI-SELECT object="G07"></INTERACTION>
<INTERACTION name="MultCh_ImageRadios08" object="G08" template="010_Multiple Choice/030_MultCh_ImageRadios_04.agt" includesrc="interactionClass.js,elemIbtnClass.js">8. พระโสณเถระและพระอุตตระทรงแสดงธรรมใดแก่ชาวสุวรรณภูมิ
ก. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
ข. หลักอริยสัจ 4
ค. พรหมชาลสูตร
ง. โอวาทปาติโมกข์
<SCRIPT language=JavaScript><!-- // Copyright 1998,1999 Macromedia, Inc. All rights reserved. function newG08() { G08 = new MM_interaction('G08',1,0,0,null,0,0,0,'','','c','',0); G08.add('ibtn','choice1',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G08.add('ibtn','choice2',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G08.add('ibtn','choice3',0,1,1,1,1,'sdhSDH'); G08.add('ibtn','choice4',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G08.init(); G08.am('segm','Segment: Check Time_',1,1); G08.am('cond','Time At Limit_','G08.timeAtLimit == true',0); G08.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of time\')','pm'); G08.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G08.setDisabled(true);\')','sp'); G08.am('end'); G08.am('segm','Segment: Correctness_',1,0); G08.am('cond','Correct_01','G08.correct == true',0); G08.am('end'); G08.am('cond','Incorrect_','G08.correct == (false)',0); G08.am('end'); G08.am('cond','Unknown Response_','G08.knownResponse == false',0); G08.am('end'); G08.am('segm','Segment: Check Tries_',1,1); G08.am('cond','Tries At Limit_','G08.triesAtLimit == true',0); G08.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of tries\')','pm'); G08.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G08.setDisabled(true);\')','sp'); G08.am('end'); } if (window.newG08 == null) window.newG08 = newG08; if (!window.MM_initIntFns) window.MM_initIntFns = ''; window.MM_initIntFns += 'newG08();';//--> </SCRIPT><CBI-SELECT object="G08"></INTERACTION>
<INTERACTION name="MultCh_ImageRadios09" object="G09" template="010_Multiple Choice/030_MultCh_ImageRadios_04.agt" includesrc="interactionClass.js,elemIbtnClass.js">9. ดินแดนสุวรรณภูมิคือดินแดนส่วนใด
ก. ดินแดนแถบทวีปเอเชียทั้งหมด
ข. ดินแดนของอินเดียตอนใต้
ค. ดินแดนอิหร่านในปัจจุบัน
ง. ดินแดนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
<SCRIPT language=JavaScript><!-- // Copyright 1998,1999 Macromedia, Inc. All rights reserved. function newG09() { G09 = new MM_interaction('G09',1,0,0,null,0,0,0,'','','c','',0); G09.add('ibtn','choice1',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G09.add('ibtn','choice2',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G09.add('ibtn','choice3',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G09.add('ibtn','choice4',0,1,1,1,1,'sdhSDH'); G09.init(); G09.am('segm','Segment: Check Time_',1,1); G09.am('cond','Time At Limit_','G09.timeAtLimit == true',0); G09.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of time\')','pm'); G09.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G09.setDisabled(true);\')','sp'); G09.am('end'); G09.am('segm','Segment: Correctness_',1,0); G09.am('cond','Incorrect_','G09.correct == (false)',0); G09.am('end'); G09.am('cond','Unknown Response_','G09.knownResponse == false',0); G09.am('end'); G09.am('segm','Segment: Check Tries_',1,1); G09.am('cond','Tries At Limit_','G09.triesAtLimit == true',0); G09.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of tries\')','pm'); G09.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G09.setDisabled(true);\')','sp'); G09.am('end'); } if (window.newG09 == null) window.newG09 = newG09; if (!window.MM_initIntFns) window.MM_initIntFns = ''; window.MM_initIntFns += 'newG09();';//--> </SCRIPT><CBI-SELECT object="G09"></INTERACTION>
<INTERACTION name="MultCh_ImageRadios10" object="G10" template="010_Multiple Choice/030_MultCh_ImageRadios_04.agt" includesrc="interactionClass.js,elemIbtnClass.js">10. พระโสณะและพระอุตตระเป็นผู้มีขันติธรรมสูงยิ่ง
ผู้ใดต่อไปนี้ที่ไม่ได้ปฏิบัติตนตามคุณธรรมของพระโสณะและพระอุตตระ
ก. แบงค์ใช้เวลาว่างศึกษาหลักธรรมของพระพุทธเจ้า
ข. เบนซ์อธิบายหลักธรรมที่ศึกษามาให้แก่เพื่อน ๆในห้อง
ค. บอลนับถือศาสนาพุทธแต่ไม่เคยตำหนิศาสนาอื่น
ง. บอยมีความอดทนต่อการศึกษาหลักธรรมถึงแม้นจะเข้าใจยากก็ตาม
<SCRIPT language=JavaScript><!-- // Copyright 1998,1999 Macromedia, Inc. All rights reserved. function newG10() { G10 = new MM_interaction('G10',1,0,0,null,0,0,0,'','','c','',0); G10.add('ibtn','choice1',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G10.add('ibtn','choice2',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G10.add('ibtn','choice3',0,1,1,1,1,'sdhSDH'); G10.add('ibtn','choice4',0,1,0,0,1,'sdhSDH'); G10.init(); G10.am('segm','Segment: Check Time_',1,1); G10.am('cond','Time At Limit_','G10.timeAtLimit == true',0); G10.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of time\')','pm'); G10.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G10.setDisabled(true);\')','sp'); G10.am('end'); G10.am('segm','Segment: Correctness_',1,0); G10.am('cond','Correct_01','G10.correct == true',0); G10.am('end'); G10.am('cond','Incorrect_','G10.correct == (false)',0); G10.am('end'); G10.am('cond','Unknown Response_','G10.knownResponse == false',0); G10.am('end'); G10.am('segm','Segment: Check Tries_',1,1); G10.am('cond','Tries At Limit_','G10.triesAtLimit == true',0); G10.am('actn','Popup Message','MM_popupMsg(\'You are out of tries\')','pm'); G10.am('actn','Set Interaction Properties: Disable Interaction','MM_setIntProps(\'G10.setDisabled(true);\')','sp'); G10.am('end'); } if (window.newG10 == null) window.newG10 = newG10; if (!window.MM_initIntFns) window.MM_initIntFns = ''; window.MM_initIntFns += 'newG10();';//--> </SCRIPT><CBI-SELECT object="G10"></INTERACTION>

หมายเหตุคำถามชุดนี้นำมาจากhttp://www.sansaischool.ac.th/the lesson/Chawpoodtuayang/before.htm
<INTERACTION name="Button_Push11" object="G11" template="040_Button/020_Button_Push_04.agt" includesrc="interactionClass.js,elemIbtnClass.js">

</TD></TR></TBODY></TABLE></B>

 

และนี่คือเนื้อหาส่วนหนึ่ง

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" background=images/background1.jpg border=0><TBODY><TR><TD height=50></TD><TD vAlign=top colSpan=7></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD height=20></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD height=124></TD><TD></TD><TD vAlign=top background=images/bg12.jpg bgColor=#ff0033 colSpan=12>พระโสณะเถระและพระอุตตรเป็นชาวชมพูทวีป มีชีวิตอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 3 รัชสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนก่อนบวช แต่หลังจากบวชแล้วแตกฉานในพระไตรปิฎก จึงได้ร่วมทำสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 3 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระธรรมทูตไปประกาศพระศาสนายังดินแดนสุวรรณภูมิ </TD><TD></TD></TR><TR><TD height=341></TD><TD></TD><TD vAlign=top background=images/bg12.jpg colSpan=3>

​

</TD><TD vAlign=top background=images/bg12.jpg colSpan=9>สุวรรณภูมิ คือ ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา สันนิษฐานว่ามีเมืองนครปฐมในปัจจุบันเป็นศูนย์กลาง</B>
ประกอบด้วยประเทศกัมพูชา ไทย พม่า ลาว และเวียตนาม พระโสณะเถระและพระอุตตรแสดงธรรมเทศนาเรื่อง “ พรหมชาลสูตร ” และเปล่งวาจาถึงไตรสรณคมน์ รวมถึงสมาทานศีล 5 กระทำให้หมู่ชนซึ่งประชุมพร้อมกันในสมัยนั้นให้เลื่อมใส ทั้งให้ตั้งอยู่ในสรณคมน์และศีล แล้วประชาชน 60,000 คนได้บรรลุธรรม กุลบุตร กุลธิดา 5,000 คนได้บวช พระเถระได้ประดิษฐานพระพุทธศาสนา ในแคว้นสุวรรณภูมินับแต่นั้นมา”


</TD></TR></TBODY></TABLE>
จากhttp://www.sansaischool.ac.th/the lesson/Chawpoodtuayang/page5.htm
</B>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" background=images/background1.jpg border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top bgColor=#666666 colSpan=9 height=41>

แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน​

</TD></TR><TR><TD height=13></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD height=85></TD><TD></TD><TD></TD><TD vAlign=top colSpan=5>

แบบฝึกหัดท้ายบทเรียนคอมพิวเตอร์บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต( E​

 

ขอขอบคุณคุณครู(http://www.sansaischool.ac.th/the%20lesson/Chawpoodtuayang/index.htm)เจ้าของบทเรียน E-learning ชาวพุทธตัวอย่าง
ที่มาของข้อมูลความรู้และคำถามเกี่ยวกับพระเจ้าอโศกมหาราชและพระโสณะ พระอุตระในโพสต์ข้างบนนี้ครับ ท่านที่สนใจเข้าไปดูได้ครับ
ขอโมทนาบุญด้วยครับ

 

น่าสนใจยิ่ง

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE height=70 width=350 align=center background=banner350.gif border=0 tppabs="http://www.dhammathai.org/pics/banner350.gif"><TBODY><TR><TD>ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในอินเดีย

The History of Buddhism in India ​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE cellPadding=10 width=550 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>๔. สังคายนาครั้งที่ ๓ (The third Buddhist Synod)

พ.ศ.๒๘๗ พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ได้ถวายเทศนาแก่พระเจ้าอโศกมหาราช จนพระองค์ทรงมีความเลื่อมใส และซาบซึ้งในหลักธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธองค์ ได้ประทับอยู่ที่อุทยานนับเป็นเวลา ๗ วัน เพื่อชำพระศาสนาให้บริสุทธิ์จากเดียรถีย์เข้าปลอมบวช ในวันที่ ๗ พระองค์ได้ประกาศบอกนัดให้พระภิกษุที่อยู่ในชมพูทวีปทั้งสิ้นให้มาประชุมที่อโศการามเพื่อชำระความบริสุทธิ์ของตน ภายใน ๗ วัน พระองค์ประทับนั่งภายในม่านกับท่านโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ได้สั่งให้ภิกษุผู้สังกัดอยู่ในนิกายนั้น ๆ นั่งรวมกันเป็นนิกาย ๆ แล้วตรัสถามให้พระอธิบายคำสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งพระสงฆ์เหล่านั้นได้อธิบายผิดไปตามลัทธิของตน ๆ พระเจ้าอโศกมหาราชจึงได้ตรัสให้สึกพระอลัชชีเหล่านั้นทั้งหมด ซึ่งเป็นจำนวนหกหมื่นรูป ครั้นกำจัดพระภิกษุพวกอลัชชีให้หมดไปจากพุทธศาสนาแล้ว พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ จึงได้จัดให้มีการทำสังคายนาครั้งที่ ๓ ขึ้นที่อโศการามเมืองปาฏลีบุตร โดยได้รับราชูปถัมภ์จากพระเจ้าอโศกมหาราชอย่างเต็มที่

<TABLE width=175 align=left border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD>พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระเป็นประธานสังคายนาครั้งที่ ๓ ที่อโศการาม นครปาฏลีบุตร</TD></TR></TBODY></TABLE>ในการทำสังคายนาครั้งนี้ มีพระภิกษุเข้าร่วม ๑,๐๐๐ รูป ล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญแตกฉานในพระไตรปิฎก ได้อภิญญา ๖ และปฏิสัมภิปทา ๔ สังคายนาครั้งนี้ได้ทำเช่นเดียวกับสังคายนาครั้งที่ ๑ ได้มีการปุจฉาวิสัชนาพระวินัยปิฎกก่อน เริ่มตั้งแต่ปฐมปาราชิก สังคายนาวัตถุ นิทาน บุคคลบัญญัติ อนุบัญญัติ อาบัติ และอนาบัติ แล้วสังคายนาในทุติยปาราชิกไปตามลำดับ จนครบ ปาราชิกทั้ง ๔ แล้วยกปาราชิกทั้ง ๔ ขึ้นตั้งไว้เป็น ปาราชิกกัณฑ์ ยกสังฆาทิเสส ๑๓ สิกขาบทเป็นเตรสกัณฑ์ เป็นต้น เมื่อสังคายนาพระวินัยปิฎก เสร็จแล้วได้สังคายนาพระสุดตันตปิฎกต่อไป เริ่มตั้งแต่ทีฆนิกายจนถึงขุททกนิกายในการทำสังคายนาครั้งนี้ได้จัดทำสังคายนาพระอภิธรรมปิฎกอีก คือ ในสังคายนาพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์เริ่มต้งแต่ธรรมสังคณีจนถึงมหาปัฎฐาน

เรื่องที่สำคัญในการทำสังคายนาครั้งนี้ ก็คือพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระได้ร้อยกรองคัมภีร์กถาวัตถุขึ้น เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่ยังคลุมเครือให้แจ่มแจ้ง โดยได้ตั้งคำถาม และคำตอบไปในตัวกถาวัตถุ (เรื่อง)กล่าวถึงธรรมหมวดใด ก็เรีกตามชื่อของธรรมหมวดนั้น เช่น กล่าวถึงบุคคลก็เรียกชื่อว่าบุคคลากถา กล่าวถึงความเสื่อมก็เรียกว่า ปริหานิยกถา รวมทั้งหมดมี ๒๑๙ กถา และกถาวัตถุ เป็นคัมภีร์หนึ่งในอภิธรรม ๗ คัมภีร์ คือ ๑. ธรรมสังคณี ๒.วิภังคะ ๓.ธาตุกถา ๔.บุคคลบัญญัติ ๕. กถาวัตถุ ๖ยมกะ ๗.ปัฏฐานะนักปราชญ์หลายท่านให้ความเห็นว่า กถาวัตถุมิใช่หนังสือที่บรรจุไว้ซึ่งพระพุทธน์อันดั้งเดิม พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระพึ่งจะรจนาขึ้นเมื่อคราวทำสังคายนาครั้งที่ ๓ ในรัชสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ๒๓๖ ปี

เรื่องที่สำคัญที่สุดในการทำสังคายนาครั้งที่ ๓ นี้ก็คือ พระเจ้าอโศกมหาราชได้ทรงส่งสมณทูตไปประกาศพุทธศาสนาในแคว้นและประเทศต่าง ๆ รวมทั้งหมดมี ๙ สายด้วยกันคือ

๑. พระมัชณันติกเถระ ไปแคว้นกัศมีร์และคันธาระ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย ซึ่งได้แก่แคว้น แคชเมียร์ในปัจจุบันนี้

๒. พระมหาเทวะเถระ ไปมหิสสกมณฑล อยู่ทางทิศใต้ของแม่น้ำโคธาวารี ซึ่งได้แก่ไมซอร์ ในปัจจุบัน (อยู่ ทางทิศใต้ของอินเดียติดกับเมืองมัทราส)

๓. พระรักขิตเถระ ไปวนวาสีประเทศ อยู่ในเขตกนราเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงใต้

๔. พระโยนกธัมมรักขิตเถระ ไปปรันตชนบทอยู่ริมฝั่งทะเลอาระเบียนทิศเหนือของบอมเบย์

๕. พระมหาธัมมรักขิตเถระ ไปที่แคว้นมหาราษฎร์ ภาคตะวันตกไม่ห่างจากบอมเบย์ในปัจจุบัน

๖. พระมหารักขิตเถระ ไปโยนกประเทศได้แก่ เขตแดนบากเตรียในเปอร์เซียปัจจุบัน

๗. พระมัชฌิมเถระ ไปหิมวันประเทศได้แก่เนปาล ซึ่งอยู่ตอนเหนือของอินเดีย

๘. พระโสณเถระ และพระอุตตรเถระ ไปสุวรรณภูมิ ได้แก่ ไทย พม่า และมอญทุกวันนี้

๙. พระมหินทเถระ ไปประเทศเกาะสิงหล หรือประเทศศรีลังกา

<TABLE width=175 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเห็นการเผยแผ่ไปของพุทธศาสนาทั้ง ๙ สายนี้แล้ว ก็พอจะทราบได้ว่า ในรัชสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราชนี้ พุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรืองแพร่หลายไปไกลที่สุดยิ่งกว่าสมัยใด ๆ นับตั้งแต่พุทธศาสนาอุบัติขึ้นมา ในสมัยเมื่อพระองค์ยังทรงพระชนมายุอยู่นั้น พุทธศาสนาได้เจริญอยู่ในแคว้น มคธ โกศล วัชชี อังคะ วังสะ กาสี และอุชเชนี คือได้เจริญอยู่ทางทิศเหนือทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตอนกลางบางส่วน พระพุทธองค์ได้เสร็จไปประกาศพุทธศาสนาใน ๗ รัฐเท่านั้น ส่วนทางทิศใต้สุด ตะวันออกสุด และตะวันตกสุด พุทธศาสนายังไปไม่ถึงศาสนาพราหมณ์ ยังมั่นคงแข็งแรงอยู่แม้แต่ในที่พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ก็ยังมีศาสนาพราหมณ์ และศาสนาเชนแทรกซึมอยู่ทุกแห่ง ในยุคของพระองค์ได้ติดต่อกับราชอาณาจักรของกษัตริย์ที่อยู่ห่างไกล เช่น
กษัตริย์โยนะ นามว่า อันติโยคะ คือ พระเจ้าอันติโอโคส (Antiochos) แห่งซีเรีย
พระเจ้าตุระมายะ คือพระเจ้าปโตเลมี (Ptolemy) แห่งอีหยิปต์
พระเจ้าอันเตกินะ คือพระเจ้าอันติโคโนส (Antgonos) แห่งมาเซโดเนีย
พระเจ้ามคะ หรือพระเจ้ามคัส(Magas) อาณาจักรไกรีนถัดจากอียิปต์
พระเจ้าอลิกกสุนทระหรือ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ (Alexander) แห่งเอปิรุสหรือประเทศกรีก

จากหลักฐานที่เราได้พบและได้รู้จากหลักศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งปักไว้ตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ เกือบทั่วประเทศอินเดียนั้นแสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงมีความเลื่อมใสในพุทธศาสนาอย่างมาก พวกเรารุ่นหลังจึงได้อาศัยสิ่งก่อสร้างเหล่านี้เป็นหลักฐานในทางประวัติศาสตร์ ไม่อย่างนั้นเราอาจไม่รู้ว่า สถานที่สำคัญของพุทธศาสนาในสมัยนั้นอยู่ที่ไหนบ้าง



<HR>สรุปการทำสังคายนาครั้งที่ ๓
๑. ทำที่อโศการาม เมืองปาฏลีบุตร แคว้นมคธ
๒. พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระเป็นประธาน
๓. พระเจ้าอโศกมหาราชเป็นองค์อุปถัมภ์
๔. พระอรหันต์ ๑,๐๐๐ องค์ เข้าร่วมประชุม
๕. พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระได้รจนากถาวัตถุขึ้น
๖. ส่งสมณทูตไปประกาศพุทธสาสนารวม ๙ สาย
๗. การทำสังคายนาครั้งนี้เพื่อกำจัดภิกษุอลัชชีหกหมื่นที่ปลอมบวช
๘. ทำอยู่ ๙ เดือนจึงสำเร็จ พุทธศาสนาแผ่ไพศาลมากยิ่งขึ้น
๙. พระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระเป็นผู้ถาม
๑๐. พระมัชฌันติกเถระ และพระมหาเทวเถระเป็นผู้วิสัชนา
๑๑. เมื่อพระพุทธองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว ๒๓๖ ปี

ผลดีของการสังคายนา

สังคายนาครั้งนี้ ในตำราพุทธศาสนาฝ่ายมหายานของฝ่ายจีน หรือธิเบต และท่านเฮี้ยนจังก็มิได้กล่าวไว้ในรายงานของท่านแต่อย่างใด หลังสิ้นสุดสังคายนาแล้วได้มีผลดีเกิดขึ้นหลายอย่างคือ
๑. กำจัดภิกษุผู้ปลอมบวชได้ ทำให้สังฆมณฑลบริสุทธิ์ขึ้น
๒. รวบรวมพระไตรปิฎกเป็น ๓ หมวดอย่างสมบูรณ์ คือ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอริธรรมปิฎก
๓. พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระแต่งกถาวัตถุ ไว้ในพระอภิธรรมปิฏกด้วย สังคายนาครั้งที่ ๓ นี้ได้มีพระเถระที่มีบทบาทสำคัญที่ควรจะได้กล่าวถึงหลายท่านคือ

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellPadding=10 width=550 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>

หมายเหตุ

พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ (Mokkalliputratissathera)
ท่านเป็นชาวเมืองปาฏลีบุตร เป็นบุตรของพราหมณ์ผู้คงแก่เรียน เมื่อสมัยเด็กได้ศึกษาไตรเพทอย่างช่ำชอง ต่อมาพระสิคควะได้มาเยี่ยมพราหมณ์ผู้เป็นบิดาที่บ้าน และเมื่อกุมารได้ถามคำถามเกี่ยวกับพระเวท พระเถระได้ตอบปัญหาในพระเวทได้อย่างแจ่มแจ้ง แต่เมื่อถูกถามเรื่องพุทธศาสนา โมคคัลลีบุตร ติสสกุมารไม่อาจให้คำตอบได้ เพราะความอยากรู้ในพุทธศาสนา พระเถระจึงจัดการบรรพชาให้ศึกษากัมมัฏฐานอย่างจริงจังก็บรรลุโสดาปัตติผล แล้วไปศึกษาต่อกับพระจันทวัชชี ต่อมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วเจริญวิปัสสนาญาณจนบรระลุพระอรหันต์ เมื่อพระเจ้าอโศก มหาราชหันมานับถือพุทธศาสนา ท่านได้รับการเคารพอย่างสูงจากพระเจ้าอโศก เจ้าชายมหินทะและเจ้าหญิงฆมิตตา พระโอรสและพระธิดาก็ได้รับการอุปสมบทจากท่าน ต่อมาท่านได้รับการไว้วางใจให้เป็นประธานทำสังคายนาครั้งที่ ๓
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=550 align=center border=0><TBODY><TR><TD>ที่มา : หนังสือประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในอินเดีย โดย พระมหาดาวสยาม วชิรปัญโญ

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

จากhttp://ecurriculum.mv.ac.th/ebhuddismmusiem/religion/dhammathai/chapter04_2.php.htm

 

พระอุปคุตกับการสังคายนาครั้งที่ ๓ ตามความเชื่อของชาวมอญในประวัติประเพณีลอยกระทง

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=592 align=center border=0><TBODY><TR><TD>ประวัติประเพณีการลอยกระทงของชาวมอญ

</TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD>เกิดขึ้นหลังพุทธกาลประมาณ พ.ศ. ๒๑๘ ปี ในสมัยสังคายนาครั้งที่สาม ในสมัยนั้นมอญตั้งเมืองหลวงว่าเมืองสะเทิมหรือเมืองสุธรรมวดี เมืองสะเทิมสร้างก่อนพุทธกาล ๒๔๑ ปี ชาวมอญนับถือพระพุทธศาสนาตั้งแต่อยู่ที่เมืองสะเทิม


</TD></TR><TR><TD>ชาวมอญมีความเชื่อว่า มีพระมหาเถระองค์หนึ่งชื่อว่า พระอุปคุตสำเร็จมรรคผล ท่านได้จำพรรษาอยู่ ณ ท่ามกลางของสะดือมหาสมุทรสถานที่ท่านจำพรรษาอยู่นั้นน้ำจะไม่ท่วม ท่านอยู่ที่โลหะปราสาท ท่านจำพรรษาอยู่ที่นั้นท่านนั่งฌานสมาบัติบำเพ็ญสมณะธรรมอยู่ตลอดสิ้นพุทธศาสนา เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เช่น สมัยสังคายนาครั้งที่ ๓ ซึ่งมีพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นผู้อุปถัมภ์ในการทำสังคายนา และสร้างพุทธเจดีย์วิหารเป็นจำนวนมาก ขณะนั้นมีพญามารยกพลมาทำลายกิจการนั้น พระเจ้าอโศกมหาราชจึงนิมนต์พระอรหันต์ทั้งหลายเหล่านั้นช่วยปกป้องเหตุเภทภัย พระอรหันต์เหล่านั้นได้ถวายพระพรว่า ไม่มีความสามารถที่จะทรมานพญามารได้ พระอรหันต์เหล่านั้นจึงอธิษฐานจิตให้พระอุปคุตขึ้นมาเพื่อทรมานพญามารให้หมดฤทธิ์ พระอุปคุตจึงขึ้นมาสู่โลกมนุษย์ เป็นพระเถระในรูปร่างเล็กแต่มีบุญบารมีมาก พญามารจึงไม่กลัวพระอรหันต์เหล่านั้น จึงพูดว่าท่านพระอุปคุตต้องรับภาระต่อสู้พญามารระหว่างการทำสังคายนา พระอรหันต์ทั้งหลายจึงพูดกับพญามารว่า พญามารมีอายุยืนสามารถเห็นพุทธลักษณะอย่างไรจึงให้พญามารเนรมิต รูปพระพุทธเจ้าให้ดู พญามารจึงพูดว่าเนรมิตให้ดูได้แต่ท่านเป็นพระอรหันต์ไม่สมควรกราบไหว้พระปุถุชน เกิดความศรัทธาเสื่อมใสจึงกราบไหว้ ทำให้พญามารต้องออกนอกเขตจักรวาลไป ภายหลังพญามารจึงกลับมาสู่มนุษย์โลก ในขณะจะทำสังคายนาครั้งที่ ๓ พระเถระอุปคุตจึงเสกมนต์คาถา เอาประคตเอวเหวี่ยงไปคล้องคอพญามารกลายเป็นศพสุนัขเน่าติดคอพญามาร พญามารเกิดความละอายจึงให้เทวดาต่างๆ ตลอดถึงพระอินทร์ให้ช่วยแก้ให้ เทวดาและพระอินทร์จึงกล่าวว่า เราไม่มีปัญญาจะแก้ได้ ให้พญามารไปอ้อนวอนขอขมาพระมหาอุปคุตให้แก้พระมหาอุปคุตเถระจึงเสกมนต์คาถาแก้ได้ พญามารจึงเกิดความสังเวชสลดใจ จึงกลับไปสู่ที่พิภพของตน จึงทำให้สังคายนาครั้งที่ ๓ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พระเถระอุปคุตจึงลงจำพรรษาใต้สะดือมหาสมุทรดังเดิม พระอุปคุดเถระก็เข้านิโรธสมาบัติในโลหะปราสาท ขณะนั้นมอญมีเมืองหลวงชื่อว่าเมืองสะเทิม หรือเมืองสุธรรมวดี เมืองนี้ตั้งอยู่ใกล้มหาสมุทร ประชาชนชาวมอญก็อยู่ใกล้มหาสมุทรก็มองเห็นรัศมีของพระอรหันต์อุปคุต ตั้งแต่นั้นมาชาวมอญตกทุกข์ยากก็อาศัยบารมีของพระอุปคุตเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ อันตรายทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อบูชาพระอุปคุตแล้วก็อันตรายหายไป สิ่งที่ต้องการก็สำเร็จ อันตรายที่เกิดขึ้นทั้ง ๘ ทิศ หรือ ๑๐ ทิศ ปกป้องคุ้มครองตลอดไป


</TD></TR><TR><TD>บรรดาชาวมอญจึงนิยมนับถือพระมหาเถระอุปคุตตั้งแต่นั้นมา สมัยที่ชาวมอญตั้งเรือนอยู่ที่เมืองสะเทิม เมืองหงสาวดี และเมืองเมาะตะมะหรือในราชสำนักของกษัตริย์มอญก็ดี ประชาชนชาวมอญทั้งหลายที่อาบน้ำอาบท่าลงในแม่น้ำลำคลอง น้ำที่สกปรกเหล่านั้นก็หลั่งไหลลงสู่มหาสมุทรเพื่อเป็นการขอขมาลาโทษต่อพระมหาเถระอุปตุค เมื่อถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุกๆ ปี ชาวมอญทั้งหลายจึงจัดทำเป็นแพไม้ไผ่ (กระทงใหญ่) ดังนี้ ในหมู่บ้านใหญ่ๆ หรือตำบลหนึ่ง อำเภอหนึ่ง ก็จะทำแพด้วยไม้ไผ่อย่างแข็งแรงที่สามารถบรรจุคนได้ประมาณ ๑๐๐ คน ในแพนั้นสร้างแบบกุฏิมุงด้วยใบจาก ในกุฏินั้นมีอาหารคาวหวาน อาหารสด และอาหารแห้ง มีดอกไม้ธูปเทียน น้ำมัน ข้าวสาร อาหารแห้ง มีรูปพระอุปคุตและมีห้องพระพุทธรูปองค์เล็กสำหรับบูชา มีอัฏฐบริกขารและเสื้อผ้าหญิงชายอยู่ในแพนั้น พอถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุกๆ ปี ชาวมอญที่อาศัยอยู่เมืองสะเทิม เมืองหงสาวดี เมืองเมาะตะมะก็จะทำแพหนึ่งแพ ชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นจะร่วมกันบริจาคเพื่อสร้างแพลอยกระทงวัตถุประสงค์เพื่อบูชาพระอุปคุตเถระ เมื่อรวบรวมข้าวของทุกอย่างเรียบร้อยแล้วผู้นำหมู่บ้านนิมนต์พระสงฆ์มาขอศีลและทำบุญอุทิศให้อุปคุตเถระ และตอนเย็นก็เลี้ยงคนที่มาในงานลอยกระทง พอถึงเที่ยงคืนน้ำเต็มตลิ่งพอน้ำไหลลงนิดเดียวผู้ที่มาร่วมงานทั้งผู้ชายผู้หญิงอธิษฐานตามที่ต้องการ แล้วจึงดึงแพไปปล่อยที่แม่น้ำเพื่อให้ไหลไปสู่พระมหาสมุทร เมื่อผู้ใดผู้หนึ่งพบเห็นเรืออัปปางหรือผู้ตกทุกข์ได้ยากผ่านมาช่วยทำบุญต่อ ส่วนที่เหลือนั้นจะบริโภคใช้สอยได้ตามอัธยาศัย เพื่อเป็นการสร้างทาน

บารมีชนิดหนึ่ง ของชาวมอญในแพนั้น (กระทง) จะมีหนังสือเขียนไว้ว่า แพนี้ชาวบ้านหมู่นี้ ตำบลนี้ อำเภอนี้ ทำบุญลอยไปสู่มหาสมุทรผู้ใดผู้หนึ่งพบเข้าโปรดบริโภคใช้สอยตามสบายเถิด


</TD></TR><TR><TD>อนึ่งมอญเสียเอกราชแก่พม่า ณ วันศุกร์ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ เวลา ๒ ยามเศษ ตรงกับ พ.ศ. ๒๓๐๐ และตรงกับ จ.ศ. ๑๑๑๙ ตั้งแต่นั้นมามอญก็ยังรักษาประเพณีวัฒนธรรมของตนไว้ได้ เช่น ภาษา หนังสือ ประเพณี ๑๒ เดือน ตลอดจนเครื่องแต่งกายต่างๆ วัฒนธรรมของมอญทุกประเภท ตั้งแต่สมัยสังคายนาครั้งที่ ๓ เป็นต้นมา ชาวมอญทั้งหลายที่อยู่ในประเทศใดก็ตาม พอถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุก ๆ ปี ก็จะทำพิธีลอยกระทงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้


</TD></TR><TR><TD height=108>อนึ่งชาวมอญอพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในแผ่นดินไทย ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยกรุงธนบุรี และสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ก็รักษาประเพณีการลอยกระทงจะเป็นกระทงเล็ก มีดอกไม้ธูปเทียน เพราะชาวบ้านต่างคนต่างทำกัน จุดมุ่งหมายของการลอยกระทงของมอญเพื่อบูชาขอขมาพระอุปคุตเถระ การแต่งกายของชาวมอญในวันลอยกระทงนี้ก็จะแต่งแบบมอญทั้งหญิงและชาย

จากhttp://www.geocities.com/sirintra_chong/custom_03.htm


</TD></TR></TBODY></TABLE>​