ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.

  1. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ปกติรับสอนอยู่แล้ว มีสองแบบ
    ๑. พวกหมอนวด สอน ๕ วัน ผู้มาเรียนต้องมีพื้นฐนการนวดมาแล้ว มาเรียนต่อยอด
    ๒. พวกนวดด้วยพลังจิต ผู้เรียนต้องมีพื้นฐานทางจิตมาบ้าง ถ้าไม่มีพื้นฐานเลยจะเรียนยาก พวกนี้เรียน ๒ วัน

    ส่วนเรื่องการปรุงยาไม่ได้รับสอนเป็นเรื่องเป็นราว เพียงแต่บอกให้รู้เล่าให้ฟัง

    ส่วยยาทุกตัวที่บอกคุณไว้ สามารถผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนได้ แต่อย่าลืมกระสายยาด้วย จะทำให้ยาออกฤทธิ์ แรงและเร็วขึ้น

    คุณตรีผลา ลองศึกษา เรื่องของมานโลหิตดู
    อาการต่างๆของคุณมีส่วนนะ
    อาการของโรคผิวหนัง และภูมิแพ้ ก็มาจากโลหิตระดูตีกลับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2008
  2. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ในคัมภีร์มหาโชติรัต สุวิเขียนถึงโรคชนิดหนึ่งอันแปรมาจากโรคโลหิตระดูพิการ

    โรคนั้นคือมานโลหิต
    มานโลหิตเกิดจากโลหิตที่คั่งค้างเป็นพิษระคนด้วยโทษแห่งลมและไฟ ที่วิบัติไป
    ทำให้โลหิตพิษนั้น บ้างไหลย้อนกลับสู่กระแสโลหิต บ้างจับกันเป็นก้อนเป็นเถาเป็นดานให้โทษพิษต่างๆ ๔ ประการ

    วันนี้ สุวิจะมาเล่าให้ฟังถึงความรุนแรงของมานโลหิต และอาการแปลกๆ พร้อมวิธีรักษา

    ๑.มานโลหิตอันบังเกิดแต่โลหิตระดูร้าง
    เหตุเกิดจากระดูขัด มิได้มาตามเคย ครั้นนานเข้าโลหิตที่คั่งค้างก็เป็นพิษระคนด้วยลมอังคะมังคลานุสารีวาตา ก็พากันกำเริบขึ้น
    ทำให้เตโชธาตุเกิดวิบัติ ลมก็พัดโลหิตให้เป็นฟองแห้งเข้าเป็นก้อนตั้งเหนือสะดือทับกองลมอุทรวาต มิให้เดินได้ตามปกติ <O:p</O:p
    ลมนี้จึงพัดก้อนโลหิตให้กลิ้งขึ้นลงอยู่เสมอบางทีให้จุก ให้แน่น บางทีให้ร้อน บางทีให้หนาว ท้องนั้นก็ขยายออกให้ท้องขึ้นอยู่เป็นประจำ

    ๒.มานโลหิตอันบังเกิดเพื่อโลหิตตกหมกช้ำ<O:p</O:p
    ด้วยแพทย์วางยาไม่ถึงกำลังโรค (หรือคนไข้ หยุดยาก่อนกำหนด) โลหิตนั้นจึงตกค้างอยู่ ไม่ออกตามปกติ <O:p</O:p
    โลหิตนั้นก็เกรอะแห้งเป็นลิ่มเป็นก้อนอยู่ที่ต่อมแห่งโลหิต(มดลูก) นานเข้าก็เป็นพิษด้วยลมพิการ
    ก็พากันกำเริบกล้าพัดฟุ้งซ่านไปทั้งท้อง ทำให้ท้องนั้นใหญ่ขึ้น ให้กายซูบผอมซีดหาโลหิตมิได้
    ให้เหม็นอาหาร มักให้ไอ ให้อาเจียร บางทีให้ร้อน บางทีให้หนาว
    บางที ให้ร้อนให้หนาวให้เย็นเป็นบางส่วนของร่างกาย
    บางทีให้ร้อนไปทั้งกาย บางทีให้บวมมือบวมเท้าแลหน้าตะโพก ให้เจ็บ ให้ท้องขึ้น ให้แน่นอืดเฟ้อ

    ๓. มานโลหิต อันบังเกิดเพื่อโลหิตเน่า<O:p</O:p
    จะระคนไปด้วยโลหิตระดูร้าง โลหิตคลอดบุตร โลหิตต้องพิฆาต และโลหิตตกหมกช้ำ นั้นมาเจือเน่าอยู่ด้วย
    เมื่อแรกจะเกิดมานโลหิตนั้น ให้อาเจียร ให้เหงื่อออกที่หน้ามากดังเม็ดฝนหยดจากชายคา
    ให้คลื่นเหียนอาเจียร น้ำลายที่ออกมามีรสขม ให้มืดหน้าตามัว สวิงสวาย แล้วฟกบวมขึ้นที่หน้าตะโพก บางทีที่หัวเหน่า บางทีที่สะดือ ที่ปลีน่อง
    แล้วจึงบวมไปทั้งตัว ให้แน่นหน้าอกเป็นกำลัง ท้องนั้นก็ตึงใหญ่ขึ้น จะหายใจก็ให้เหนื่อย จะนอนก็ม้หลับ จะบริโภคอาหารก็ไม่ได้

    ๔. มานโลหิตอันบังเกิดเพื่อน้ำคาวปลาระคนด้วยโลหิตคลอดบุตร<O:p</O:p
    เมื่อจะเกิดเป็นมานโลหิต ให้เมื่อยมือเมื่อยเท้า เมื่อยสันหลัง และให้วิงเวียน ให้ตามัว ให้จุกเสียด ให้แน่นอกเป็นกำลัง ให้ท้องขึ้น
    ต่อนวดจึงคลาย ถึงเวลาบ่ายก็กลับเป็นอีกจนล่วงเข้ายามสามจึงทุเลา
    เป็นดังนี้อยู่ ๙ วัน ๑๐ วัน ท้องนั้นก็ใหญ่ขึ้น
    ถ้าแพทย์ให้ยาถ่ายที่มิได้แก้โรค(มานโลหิต)ด้วย เมื่อกำลังถ่ายท้องก็ยุบ ถ่ายแล้วท้องก็ใหญ่ขึ้นกว่าเก่า เป็นดังนี้หลายครั้ง
    แล้วให้บวมลงไปถึงหัวเข่า ถึงข้อเท้า หลังเท้า แล้วก็บวมกลับขึ้นไปที่หน้า ให้เหม็นอาหาร บริโภคอาหารมิได้ ให้หอบ หิวโหยเป็นกำลัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2008
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ยารักษา มานโลหิต

    มานโลหิตเกิดจากระดูโลหิตที่พิการ แทรกระคนด้วยโรค ลม(วาตะ),น้ำ(เสมหะ),โรคจากไฟ(ปิตะ)
    ในแต่ละคน โรคที่แทรกระคนแตกต่างกัน ตัวโรค ๔ แบบก็แตกต่างกัน
    ดังนั้นยาที่จะแก้อาการเฉพาะโรค จึงมีมากหลายตำหรับ
    ที่สุวินำมาให้นี้ เป็นสูตรใช้ทั่วไป กับทุกอาการโรค

    ยาแก้มานโลหิตอันบังเกิดแต่ โลหิตระดูร้าง แก้ทั้งโลหิตตกหมกช้ำ โลหิตคลอดบุตร โลหิตต้องพิฆาต และโลหิตระดูอันเดินมิได้สะดวก

    ส่วนประกอบ
    จตุผลาธิกะ อย่างละ ๑ ส่วน (สมอไทย สมอเทศ สมอพิเภก มะขามป้อม)
    ตรีกฏุก อย่างละ ๑ ส่วน (ดอกดีปลี พริกไทยร่อน ขิงแหง)
    รากส้มกุ้งทั้งสอง อย่างละ ๑ ส่วน (ส้มกุ้งใหญ่ ส้มกุ้งน้อย)
    รากเจตพังคี ๑ ส่วน
    รากปีบ ๑ ส่วน
    รากเลียน ๑ ส่วน
    รากมะงั้ว ๑ ส่วน
    เปลือกสุมลแว้ง ๑ ส่วน
    หัวกกลังกา ๑ ส่วน
    หัวหญ้าชันกาด ๑ ส่วน
    รากประคำดีควาย ๑ ส่วน
    เปลือกพิกุล ๒ ส่วน
    เปลือกกระดังงา ๒ ส่วน
    เปลือกนนทรี ๒๒ ส่วน

    วิธีทำกิน
    ต้ม ใสน้ำ ๓ ส่วน ต้มเหลือ ๑ ส่วน
    กินครั้ละ ๓-๕ ช้อนโต๊ะ( ๑/๒ - ๑ ถ้วยกาแฟ ) วันละ ๓ ครั้ง ก่อนอาหาร
     
  4. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ขออนุญาติ อ.สาที่สาม Copy ความรู้นี้ มาไว้ที่นี่<!-- status icon and date -->

    ผู้ที่ฝึกได้จะเป็ยผู้ที่มีสุขภาพดี และอายุยืน
    .
    <TABLE class=tborder id=post1416607 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">


    [​IMG] 09-08-2008, 09:07 PM <!-- / status icon and date -->



    </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#13 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>The Third Eyes<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1416607", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2005
    ข้อความ: 1,107
    ได้ให้อนุโมทนา: 236
    ได้รับอนุโมทนา 30,387 ครั้ง ใน 1,363 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 3395 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]






    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1416607 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->การกินแดด..มีรายละเอียดขั้นตอน ..มากมาย
    แต่สรุปสั้นๆๆ ว่า ต้องทำยังไง..โดยยังไม่ขยายความว่า ทำไม..
    มันเป็นยังไง..เพราะอะไร
    คนที่ จะกินแดดได้ ต้องมี จิตพิเศษ สัมผัสได้ พอสมควร..จนถึงการมีตาทิพย์/ มีหูทิพย์
    เพราะมันจะเป็นพลังในการดูด

    1.ให้ยืนกางขา มองพระอาทิตย์ ในตอน เช้า หรือ เย็น..ที่ตาพอมองได้ สะบายๆๆ เห็นดวงอาทิตย์ แดงกลม....ถ้าเป็นตอนสาย..แสงอาทิตย์ จะแรงมองตรงๆๆไม่ได้ ก็ให้มอง
    สะท้อนจากพื้นน้ำ ก็พอได้...หรือมองด้วยหางตา..ทำว่า เหมือนไม่มองก็ได้

    2. ขบกรามเบาๆๆ ลิ้นจะถูกดันขึ้นชนเพดานปาก..กดลิ้นให้แน่นชนเพดานปากไว้
    ผหมายความว่า ดันให้ จักระ 5 มาต่อชนกับ จักระ 6

    3 เลิกหน้าผาก หรือ เลิกคิ้ว ถี่ๆๆ ประมาณ 10-15 ครั้ง (โดยลืมตามองพระอาทิตย์ ตามข้อ 1)...จักระ 6 จะเข้าใกล้ จักระ 7

    4. ทำตัวให้ขนลุก ทั่วตัว ในหลักการที่เรียกว่า " นาคสะบัดหาง"..จะเกิด กระแสลมปราณ รอบตัวเรา เป็น ประจุลบ

    ทั้งหมดจะเกิด แรงดูด มหาศาล..พลังแสงแดด..ที่ มี สีรุ้ง 7 สี ตามสเปคตรัม..จะมาเข้าที่ รัศมีออร่า ที่ อยู่ รอบตัวเรา...แล้วออร่า ก็ จะส่งต่อมาที่กายหยาบ..เมื่อพลัเข้ามา..เราก็ จะอิ่ม และ สะบายตัว เหมือน กินข้าวไป อื่มใหญ่ๆๆ..เมื่อ กินแสงแดดเป็น..ต่อไปลองกินแสงจาก หลอดไฟ แบบใส้..หลอดนีออน...ไฟนวลจันทร์ ข้างถนนใหญ่..จะพบว่า มีรสชาต..แตกต่างกันไป




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2008
  5. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
    เคยอ่านเจอเรื่องท่าบริหารร่างกายเกี่ยวกับการกลืนกินแสงจันทร์ ของพวกนักพรต (ผมไม่เคยกินนะครับ เคยอ่านผ่านเฉยๆ) แต่ชุดนี้กินแดด ความรู้ใหม่ครับขอบคุณครับ มีอะไรแปลกๆเยอะดี
     
  6. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    มีโรคชนิดหนึ่ง มีอาการมากมาย แปรเปลี่ยนไปมา
    หากแพทย์แผนปัจจุบันไม่เชี่ยวชาญจริงๆ จะเข้าใจผิด และตามมาด้วยการวางยาผิด
    โรคนี้ แพทย์แผนปัจจุบันเรียกว่าโรค Hypoglycemia
    (ดูตามลิ้งนี้ http://palungjit.org/showthread.php?t=141935 )

    อาการของโรคดังกล่าวจะมีอาการที่พอสรุปได้ดังตัวอย่าง
    อาการโดยละเอียดคือ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=1><TBODY><TR><TD width="32%">1. อ่อนเพลีย ไม่มีแรง</TD><TD width="35%">2. รู้สึกเบื่อหน่าย -ซึมเศร้า</TD><TD width="33%">3. นอนไม่หลับ </TD></TR><TR><TD width="32%">4. มีอาการทางประสาท</TD><TD width="35%">5. เวียนหัว-ปวดหัว</TD><TD width="33%">6. เหงื่อแตกบ่อยๆ </TD></TR><TR><TD width="32%">7. มือสั่น </TD><TD width="35%">8. หัวใจเต้นผิดปรกติ</TD><TD width="33%">9. ปวดกล้ามเนื้อปวดหลัง </TD></TR><TR><TD width="32%">10. เบื่ออาหาร</TD><TD width="35%">11. จิตใจฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิ</TD><TD width="33%">12. เนื้อตัวชาเป็นบางครั้ง </TD></TR><TR><TD width="32%">13. ท้องอืด ท้องขึ้น </TD><TD width="35%">14. มือเย็น เท้าเย็น</TD><TD width="33%">15. รู้สึกสับสนปั่นป่วน </TD></TR><TR><TD width="32%">16. เป็นตะคริวบ่อย </TD><TD width="35%">17. เบื่อการพบปะผู้คน </TD><TD width="33%">18. อ้วน น้ำหนักเกิน </TD></TR><TR><TD width="32%">19. การทรงตัวไม่ดี</TD><TD width="35%">20. อยากฆ่าตัวตาย</TD><TD width="33%">21. เกิดการชักกระตุก </TD></TR><TR><TD width="32%">22. เป็นลมบ่อยๆ</TD><TD width="35%">23. ความจำเสื่อม</TD><TD width="33%">24. วิตกกังวลง่าย </TD></TR><TR><TD width="32%">25. หิวอย่างรุนแรง ก่อนถึงเวลา</TD><TD width="35%">26. ลังเลตัดสินใจไม่ได้ </TD><TD width="33%">27. อยากกินของหวานๆ </TD></TR><TR><TD width="32%" height=10>28. กามตายด้าน </TD><TD width="35%" height=10>29. มีอาการภูมิแพ้ </TD><TD width="33%" height=10>30. การประสานงาน ส่วนต่างๆ ของร่างกายเลวลง </TD></TR><TR><TD width="32%">31. คันตามผิวหนัง </TD><TD width="35%">32. หายใจไม่ออกบ่อยๆ </TD><TD width="33%">33. ฝันร้ายบ่อยๆ </TD></TR><TR><TD width="32%">34. ปากแห้ง-คอแห้ง</TD><TD width="35%">35. ลมหายใจ และปากมีกลิ่นแปลกๆ</TD><TD width="33%">36. โมโหร้าย </TD></TR><TR><TD width="32%">37. ถ่ายอุจจาระผิดปรกติ </TD><TD width="35%">38. ถ่ายปัสสาวะผิดปรกติ </TD><TD width="33%">39. หน้าร้อนผ่าวบ่อยๆ </TD></TR><TR><TD width="32%">40. ทนเสียงอึกทึก-แสงจ้าๆ ไม่ได้. </TD><TD width="35%">





    </TD><TD width="33%">





    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    โรคดังกล่าวทางแพทย์แผนไทย สรุปไว้ว่าเป็นโรคอันเกิดจาก ไฟธาตุไม่อยู่กัยร่องกัยรอย
    หรือไฟธาตุพิการนั่นเอง

    ยาที่ใช้ในการรักษา ยาหลักจะเป็นยาปรับไฟธาตุ ตามด้วยยาช่วยแก้อาการข้างเคียงเช่น ความจำเสื่อม ก็เพิ่มยาบำรุงสมอง
    สูตรยาพวกนี้ โบราณเรียกว่ายาอายุวัฒนะ ซึ่งมีหลายสูตร
    บางสูตรแต่งตำราเป็นโคลงกลอน บ้างเป็นนิทาน บ้างเขียนไว้เป็นปริศนา ต้องมานั่งตีความ
    แต่ละสูตรก็มีจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน (อยู่ที่อาการเด่นของคนไข้ ว่ามีแนวโน้มไปทางใด)

    โปรดติดตาม ยาอยุวัฒนะ
     
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ยาอายุวัฒนะ ๑.
    ตำราท่านว่าไว้ ประกอบด้วย

    ๑. หึ่งอากาศ
    ๒. พาดยอดไม้
    ๓.ไซ้ธรณี
    ๔.หนีสงสาร
    ๕.ไปนิพพานไม่รู้กลับ

    ใครรู้บ้างว่าเป็นอะไรบ้าง
     
  8. อารมณ์สุนทรีย์

    อารมณ์สุนทรีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +1,740
    วัณโรค ครับ

    มะวานไอ พ่นเลือดออกมาเยอะมากๆ เท่าก๋วยเตี่ยวน้ำตกเลยที่เดียว

    แต่ไม่ได้ไปหาหมอ

    เรื้อรังมาซักระยะแล้วครับ
     
  9. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ไทยโบราณเรามีวิธีทำยาอยู่วิธีหนึ่ง คือ ใช้เมล็ดพืชที่เป็นอาหาร นำมาเพาะเชื้อราชนิดหนึ่ง มีสีเหลือง
    พอได้ราดังกล่าวก็นำมาผสมยา แก้อาการฝีหนอง เรื้อรังต่างๆ
    วัณโรค ในพระคัมภีร์จัดไว้เป็นโรคฝีหนองอย่างหนึ่ง
    ยาจึงทำจากเชื้อราดังกล่าว

    อย่างไรก็ดียาที่ได้จากเชื้อราตามการแพทย์แผนไทย มีประสทธิภาพไม่แน่นอน ในเรื่องสายพันธฺที่ให้ฤทธิ์ยา ปริมาณการกินต่อโดสท์ยา และฯลฯ

    ปัจจุบัน วัณโรครักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันหายได้แน่นอน
    และใช้ยาไทยในการปรับดุลย์ภาพของร่างกายจะดีกว่า
     
  10. abball

    abball เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +122
    ขอรายการยารักษาโรคตัวนี้ด้วยครับคุณ suwi

    ผมเป็นมานานแล้วครับ

    ขอบคุณครับ
     
  11. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เฉลยครับ
    แก้พวกที่มีธาตุไฟแปรปรวนไม่อยู่กับร่องกับรอย ค่อนข้างจะมีธาตุไฟเกิน(กำเริบ)
    มีอาการ ร้อนในบ่อย เป็นสิวเป็นหนองบ่อย ระบบย่อยอาหารผิดปกติอันเกิดจากธาตุไฟเกิน

    วิธีกิน
    ยาทุกตัว อัตราส่วนเสมอภาค ตากแห้งบดผง
    ผสมน้ำผึ้งทีหลัง ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่า เมล็ดในพุทรา
    กินครั้งละ ๓-๕ เม็ด วันละ ๑-๒ครั้ง ก่อนอาหารเช้า และก่อนนอน

    พวกที่มีธาตุไฟหย่อน ไม่ควรกิน
    ถ้าจะกินต้องใส่พริกไทยร่อน ลงไปด้วยอีก ๑ ส่วน
     
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ suwi [​IMG]
    มีโรคชนิดหนึ่ง มีอาการมากมาย แปรเปลี่ยนไปมา
    หากแพทย์แผนปัจจุบันไม่เชี่ยวชาญจริงๆ จะเข้าใจผิด และตามมาด้วยการวางยาผิด
    โรคนี้ แพทย์แผนปัจจุบันเรียกว่าโรค Hypoglycemia
    (ดูตามลิ้งนี้ http://palungjit.org/showthread.php?t=141935 )

    อาการของโรคดังกล่าวจะมีอาการที่พอสรุปได้ดังตัวอย่าง
    อาการโดยละเอียดคือ
    <TABLE style="WIDTH: 463px; HEIGHT: 378px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=463 border=1><TBODY><TR><TD width="32%">1. อ่อนเพลีย ไม่มีแรง</TD><TD width="35%">2. รู้สึกเบื่อหน่าย -ซึมเศร้า</TD><TD width="33%">3. นอนไม่หลับ </TD></TR><TR><TD width="32%">4. มีอาการทางประสาท</TD><TD width="35%">5. เวียนหัว-ปวดหัว</TD><TD width="33%">6. เหงื่อแตกบ่อยๆ </TD></TR><TR><TD width="32%">7. มือสั่น </TD><TD width="35%">8. หัวใจเต้นผิดปรกติ</TD><TD width="33%">9. ปวดกล้ามเนื้อปวดหลัง </TD></TR><TR><TD width="32%">10. เบื่ออาหาร</TD><TD width="35%">11. จิตใจฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิ</TD><TD width="33%">12. เนื้อตัวชาเป็นบางครั้ง </TD></TR><TR><TD width="32%">13. ท้องอืด ท้องขึ้น </TD><TD width="35%">14. มือเย็น เท้าเย็น</TD><TD width="33%">15. รู้สึกสับสนปั่นป่วน </TD></TR><TR><TD width="32%">16. เป็นตะคริวบ่อย </TD><TD width="35%">17. เบื่อการพบปะผู้คน </TD><TD width="33%">18. อ้วน น้ำหนักเกิน </TD></TR><TR><TD width="32%">19. การทรงตัวไม่ดี</TD><TD width="35%">20. อยากฆ่าตัวตาย</TD><TD width="33%">21. เกิดการชักกระตุก </TD></TR><TR><TD width="32%">22. เป็นลมบ่อยๆ</TD><TD width="35%">23. ความจำเสื่อม</TD><TD width="33%">24. วิตกกังวลง่าย </TD></TR><TR><TD width="32%">25. หิวอย่างรุนแรง ก่อนถึงเวลา</TD><TD width="35%">26. ลังเลตัดสินใจไม่ได้ </TD><TD width="33%">27. อยากกินของหวานๆ </TD></TR><TR><TD width="32%" height=10>28. กามตายด้าน </TD><TD width="35%" height=10>29. มีอาการภูมิแพ้ </TD><TD width="33%" height=10>30. การประสานงาน ส่วนต่างๆ ของร่างกายเลวลง </TD></TR><TR><TD width="32%">31. คันตามผิวหนัง </TD><TD width="35%">32. หายใจไม่ออกบ่อยๆ </TD><TD width="33%">33. ฝันร้ายบ่อยๆ </TD></TR><TR><TD width="32%">34. ปากแห้ง-คอแห้ง</TD><TD width="35%">35. ลมหายใจ และปากมีกลิ่นแปลกๆ</TD><TD width="33%">36. โมโหร้าย </TD></TR><TR><TD width="32%">37. ถ่ายอุจจาระผิดปรกติ </TD><TD width="35%">38. ถ่ายปัสสาวะผิดปรกติ </TD><TD width="33%">39. หน้าร้อนผ่าวบ่อยๆ </TD></TR><TR><TD width="32%">40. ทนเสียงอึกทึก-แสงจ้าๆ ไม่ได้. </TD><TD width="35%">








    </TD><TD width="33%">








    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    โรคดังกล่าวทางแพทย์แผนไทย สรุปไว้ว่าเป็นโรคอันเกิดจาก ไฟธาตุไม่อยู่กัยร่องกัยรอย
    หรือไฟธาตุพิการนั่นเอง

    ยาที่ใช้ในการรักษา ยาหลักจะเป็นยาปรับไฟธาตุ ตามด้วยยาช่วยแก้อาการข้างเคียงเช่น ความจำเสื่อม ก็เพิ่มยาบำรุงสมอง
    สูตรยาพวกนี้ โบราณเรียกว่ายาอายุวัฒนะ ซึ่งมีหลายสูตร
    บางสูตรแต่งตำราเป็นโคลงกลอน บ้างเป็นนิทาน บ้างเขียนไว้เป็นปริศนา ต้องมานั่งตีความ
    แต่ละสูตรก็มีจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน (อยู่ที่อาการเด่นของคนไข้ ว่ามีแนวโน้มไปทางใด)



    คำว่าไฟธาตุพิการ หมายถึง ไฟธาตุไม่อยู่กับร่องกับรอย ในตัวคนเดียวกัน บ้างครั้งมากเกิน บางครั้งขาด ทำให้บนการสร้าง(เมตต้าโบริซึ่ม) ขาดๆเกินๆ
    ทำให้มีอาการดังกล่าวข้างบน

    ยาอายุวัฒนะที่น่าสนใจเพื่อแก้อาการดังกล่าวขอแนะนำไว้ สองสูตร
    สูตรที่ ๑ คือยาปลูกไฟธาตุ ที่ได้ให้ไว้แล้วในคัมภีร์มหาโชติรัต (อยู่หน้า ๘-๙)
    สูตรที่ ๒ เป็นสูตรที่ฮิตยอดนิยมมากว่า ๔๐๐ ปี มีบันทึกเล่าเป็นนิทานยาวเหยียด ถึงสรรพคุณดุจดังลอกคราบ จากคนแก่ กลายเป็นหนุ่ม
    และมีผู้พิสูจแล้ว ไม่ถึงกับกล่าวเกินเลยมากไป มันใช้ได้จริง

    ยาอายุวัฒนะพระนาราย์ (พงศาวดารกล่าวว่าตกทอดมาแต่ อยุทธยาสมัยพระนาราย์ครองราชย์)

    ๑. ทิ้งถ่อง
    ๒. ตะโกนา
    ๓. แห้วหมู
    ๔. บอรเพ็ด
    ๕. เมล็ดข่อย
    ๖. พริกไทยร่อน
    มาสมันรัตนโกสินทร์ ได้เพิ่มยาตัวที่เจ็ดอีก ๑ ตัว
    ๗. กระชาย (กระชายเหลืองที่ใช้ทำแกในครัว)

    ตัวยาทั้ง ๗ เสมอภาค ตากแห้งบดผง ผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดลูกพุทราไทย (ทั้งเนื้อทั้งเม็ด)
    กินครั้งละ ๑-๓ เม็ด วันละ ๑ ครั้งก่อนนอน (ระวังติดคอนะ เม็ดมันใหญ่น่าดูแบ่งเป็นเม็ดเล็กๆกิน)
    กินมากไป จะผอมเกร็งด้วยถูกไฟธาตุเผา
    ยาตัวนี้ถูกบังคับให้ใช้น้ำผึ้งเป็นกระสายยา ถ้าใส่แคปซูลกิน ต้องกินน้ำผึ้งด้วย

    ข้อควรระวัง
    ผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง ให้ระมัดระวังในการกิน ให้กินแต่น้อยก่อน
    เป็นเพราะ ยาปลูกไฟธาตุ ยาอายุวัฒนะพระนาราย์ จะเพิ่มความดันโลหิตขึ้นเล็กน้อย
    ให้กินยาลดความดันอย่างเดิม สักพัก พอร่างกายเริ่มปรับตัว ให้ค่อยๆลดยาความดันสูงลง ใช้เวลาประมาณ ๑/๒ - ๑ เดือน จึงเลิกกินยาลดความดัน
     
  13. ^winter

    ^winter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2006
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,216
    ขอคำแนะนำบ้างครับคุณหมอใจดี

    คือผมเป็นผิวหนังอักเสบ ที่หน้า หัว หลัง หน้าอกขึ้นมาที่รอบๆคอ จะเป็นผื่นแดงๆ
    คันยิบๆๆ บางวันก็คันมาก บางวันก็คันน้อย แต่คันทุกวัน
    และผมสูบบุหรี่ด้วย ยาอะไรจะช่วยได้บ้างครับ

    วิชากินแดด พออ่านก็ลองทำตามเลย มันเกินพลังวิ่งเข้ามาตามผิวหนัง อิอิ
    เวอร์ไปป่าวครับ อ่านไปทำไป
     
  14. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เข้าใจว่าคุณคงได้ไปหาแพทย์แผนปัจจุบันมาแล้ว ได้ยากินมาบ้างหรือเปล่า หรือได้ยามาทาอย่างเดียว
    ลองเล่า ลักษณะละเอียดของผิวที่อักเสบ มีสีแดงแล้วมีขุยหรือริ้วขาวๆอยู่บนปิ้นแดงหรือไม่ ฯลฯ
    คันเวลามีเหงื่อ เกาแล้วแผลแตกมีน้ำเหลืองหรือไม่ (มีปื้นหนาแข็งบ้างหรือไม่)
     
  15. Da_li

    Da_li เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +1,223
    ในงานสัมมนาพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 51
    ขอบพระคุณ อ.สุวิ (f) ที่ได้ให้คำแนะนำในการรักษาอาการเจ็บเข่าที่เกิดจากกระดูกงอก (ใช่มั้ยค่ะ) เป็นท่าบริหารง่าย ๆ dencee
    เดิมทียังกลัวว่าจะต้องผ่าตัด พอ อ.บอกให้บริหารหัวเข่าบ่อยๆ อาจหายได้โดยไม่ต้องผ่าตัด โอ้ย...ค่อยโล่งใจหน่อยค่ะ... เดิมทีเดียวกลุ้มจนกินไม่ค่อยได้ (น้อย) แต่ทำไมน้ำหนักขึ้นเอาๆ ;17
     
  16. ^winter

    ^winter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2006
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,216
    ผมเคยไปหาหมอแผนปัจจุบันมาแล้วครับ ได้ทั้งยากินและยาทา แต่ช่วงหลังไม่ได้ไปครับ
    ขอเริ่มจากที่หน้าก่อน ครึ่งแก้มลงมาจะเป็นปื้นแดงๆ บางทีก็บวมๆด้วยจะคัน และรู้สึกแห้ง ผมจะเอาครีมบำรุงทาเยอะๆ มันก็เหมือนจะบรรเทาอาการลงแดงๆ ลงมาบ้าง แต่เวลาเกาจะมีขุยขาวๆด้วย เรื่อยลงมาที่ใต้คาง รอบคอ จะเป็นปื้นไม่ใหญ่นะครับ หน้าอก หว่างอก
    ลามไปจนถึงหัวไหล่ และหลังแล้ว จะแดงเป็นปื้นๆไม่ใหญ่ คันตอนเกาจนเป็นแผลตกเสก็ด
    เวลาเหงือออกก็จะแสบๆ สรุปแล้วคันตลอดเวลา
    ส่วนหนังศรีษะก็จะคันมากๆๆ ตรงท้ายทอยจะคันเวลาเกาก็จะมีสะเก็ดขาวๆด้วยครับ

    ปื้นไม่หนา และไม่แข็งครับผม

    ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
     
  17. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    โรคผิวหนังที่คุณเป็น โบราณเรียก "เรื้อนวิมาลา<O:p</O:p
    อย่าตกใจกับคำว่าโรคเรื้อนเพราะโบราณเราเรียกโรคผิวหนังทุกชนิดที่เกิดขึ้นทั่วทั้งตัวประมาณ 30% ขึ้นไป<O:p</O:p
    เช่นโรคหิต ปกติเป็นที่ง่ามนิ้วมือ แต่พอเป็นไปทั่วตัวทั้ง นิ้วมือ รักแร้ขาหนีบ ซอกคอ โบราณก็เรียกว่า "โรคเรื้อนหิต" <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โรคนี้โบราณท่านบอกเป็นโรคมีตัว ท่านเรียก "กิมิชาติ" กัดกินอยู่ภายใน<O:p</O:p
    การรักษาต้องกินยา ฆ่า/ไล่ กิมิชาติ นั้นออกจากตัว จึงหาย<O:p</O:p
    การไล่ออก จะไล่ออกทางอุจาระ ปัสสาวะ และเหงื่อ<O:p</O:p
    ยากิน จึงถ่ายมาก ถ้ากินมากจะเพลียและที่ไล่ออกทางผิวหนัง ก็จะทำให้คันมากขึ้น ขอให้ทนสักพัก<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ตำรับยา<O:p</O:p
    ๑. รากชุมเห็ดเทศ หนัก ๕ บาท<O:p</O:p
    ๒. รากทองพันชั่ง หนัก ๕ บาท<O:p</O:p
    ๓. ขันทองพยาบาท หนัก ๕ บาท<O:p</O:p
    ๔. หัวหนอนตายอยาก หนัก ๕ บาท<O:p</O:p
    ๕. แก่นปรู หนัก ๕ บาท<O:p</O:p
    ๖. ข้าวเย็นเหนือ หนัก ๕ บาท<O:p</O:p
    ๗. ข้าวเย็นใต้ หนัก ๕ บาท<O:p</O:p
    ๘. กำมะถันเหลืองหนักบาท<O:p</O:p
    ๙. ผักเสี้ยนผีหนัก ๓ บาท<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    วิธีทำกิน(ยาที่ให้ไว้ต้มกินได้ประมาน ๒-๓วัน) ให้กินติดต่อกัน ๒ อาทิตย์<O:p</O:p
    ล้างฝุนผง ใส่น้ำท่วมตัวยา ต้ม ๓ เอา ๑ (ใส่น้ำ ๓ ส่วนต้มเหลือ ๑ ส่วน)<O:p</O:p
    กินครั้งละ ๑-๓ ถ้วย ตะไล(ถ้วยชาจีน) ถ่ายมากให้ลดยาลงไม่ถ่ายให้เพิ่มยา
    กินวันละ ๓-๔ ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ยาจะขับออกทางผิวหนังด้วยถ้าคันทนไม่ไหว ให้ทำยา พ่น/อาบ/ทา ผิวหนัง<O:p</O:p

    ยาพ่น /ยาอาบ สูตรที่ ๑.<O:p</O:p
    ใบมะขามเปรี้ยว(มะขามเปียก) ใบมะยม ใบย่านาง อย่างละกำมือ + ดินประสิว ขนาดหัวนิ้วโป้งมือ (บันทัดนี้ มีแก้ไข จากมะขามเทศ เป็นมะขามเปรี้ยว)<O:p</O:p
    วิธีทำ ต้มใบมะขามเทศ ใบมะยม ใบย่านาง สักพัก ยกลง เอาดินประสิวบดระเอียดโรยใส่ลงไป พอยาอุ่น ให้เอาไปอาบ ทา พ่น(ใช้กระป๋องสะเปรแบบที่ฉีดพรมผ้าเวลาจะรีดผ้า)

    ยาพ่น /ยาอาบ สูตรที่ ๒.<O:p</O:p
    ใบย่านาง ต้นเหงือกปลาหมอ ใบรางจืด + ดินประสิว<O:p</O:p
    วิธีทำเหมือนกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หมายเหตุ<O:p</O:p
    แก้อาการคันผิวที่ปรากฏ จะมีสองลักษณะ คือ<O:p</O:p
    ๑. ชอบกัยน้ำที่มีลักษณะเป็นกรด (สูตรที่๑) จึงจะหาคัน
    ๒. ชอบกับน้ำที่มีลักษณะเป็นด่าง (สูตรที่ ๒) จึงหายคัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ให้ลองดูว่าสูตรใหนจะทำให้หายคัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อ้อเวลากำลังจะหาย ให้คั้นน้ำใบบัวบก + น้ำมะนาว + น้ำตาลทรายแดง + เกลือนิดหน่อย<O:p</O:p
    กินแก้ผิวดำคล้ำ อาจเอากาก ใบบัวบกพอกที่รอยแผลเป็นที่เกาเอาไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2008
  18. ^winter

    ^winter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2006
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,216
    เพิ่มข้อมลูอีกนิดคือ มันจะเป็นเม็ดเล็กๆๆ บางอันก็ใหญ่ พอเกามากๆ มันก็แดง

    ขอบคุณคุณหมอมากครับ
     
  19. ^winter

    ^winter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2006
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +1,216
    รากเห็ดชุมเทศ ใช้ต้นมันแทนได้รึป่าวครับ
    ผมไปที่ร้าน เค้าไม่มีรากน่ะครับ
     
  20. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    อยู่ในการคาดการแล้ว
    ยาที่ให้ไว้แก้ได้ครับ

    ใช้ต้นได้ครับ เรียกชุมเห็ดเทศทั้งห้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...