ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Thongkerd

    Thongkerd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +152
    ถิ่นกาขาว =>> ชาวศิวิไลย์
    ยังไม่ถึงกาขาวหรือตาขาวจริง ๆ ตามที่ผมคิด อาจเป็นไปได้ปัญหาทางการเมืองที่เป็นอยู่ จำเป็นต้องดึงชนตาขาวเข้ามาดูแล และตอนนั้นอาจจะเป็นถิ่นของคนตาขาว หรือ กาขาวไปแล้ว
    จริง ๆ ก็เป็นได้ เพราะในคำพยากรณ์ไม่ได้บอกว่า ชาวศิวิไลย์นั้นต้องเป็นคนไทยร้อยเปอร์เซ็น อาจจะเป็นการผสม สายพันธุ์ไหม่ ตาขาวบวกกับชาวสยาม = ชาวศิวิไลย์
    แต่ยุคของคนตาขาวอาจจะยาวนานหน่อย ร้อยกว่าปีกำลังดี
    กาขาวคาบข่าว
     
  2. Pew Pew

    Pew Pew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,807
    ฟังจากข่าวเด่นประเด็นร้อน เย็นนี้ เขาเล่าว่ามีลูกเห็บตกที่ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเย็น ที่มีฝนตกทั่วกรุงเทพฯ

    แหมหมอดู ทายแม่นน่าดู ที่ว่าจะมีหิมะตกที่เมืองไทยปีนี้ ตอนนี้ระดับความเป็นจริงเกินครึ่งแล้วนะ ปลายปี น่าจะมีหิมะจริงๆมั้งเนี่ย น่าลุ้นนะ
     
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เหร๋อ มีลูกเห็บด้วยเหร๋อ
    [​IMG]
     
  4. SCJ

    SCJ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +122
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=661 border=0><TBODY><TR><TD class=textHeadBlue>พายุลูกเห็บถล่มเวทีเต็นท์พันธมิตรกระจาย</TD></TR><TR><TD height=25> </TD></TR><TR><TD><TABLE height=300 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=664 border=0><TBODY><TR><TD width=1></TD><TD vAlign=top width=660>
    <!-- [​IMG] -->
    <!-- Show Detail -->พายุลูกเห็บ ถล่มซัดเวทีเต๊นท์พันธมิตรฯกระจาย ผู้ชุมนุมต้องวิ่งหลบฝนจ้าละหวั่น


    บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯที่ทำเนียบรัฐบาลในขณะนี้นั้นมีพายุลูกเห็บตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลากว่า 30 นาที พร้อมกันนี้ยังมีลมกรรโชกแรงเป็นระยะ ๆ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่เริ่มจะมีมากขึ้นต่างวิ่งหลบฝนอยู่ตามเต็นท์ที่พักต่าง ๆ รอบทำเนียบรัฐบาลและช่วยกันประคองไม่ให้เต็นท์ถูกทำลายจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้านบรรยากาศบนเวทีปราศรัยภายในทำเนียบรัฐบาลนั้น ทางแกนนำได้ประกาศยุติการปราศรัยบนเวทีชั่วคราวโดยรอให้สถานการณ์ตรงนี้ผ่านไปก่อน อย่างไรก็ตามยังพบเห็นเต็นท์ที่พักอาศัยของกลุ่มผู้ชุมนุมถูกทำลายจากพายุลูกเห็บครั้งนี้จำนวนไม่น้อย

    http://www.innnews.co.th/politic.php?nid=131135
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. ทามปายได้

    ทามปายได้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +56
    ถื่นกาขาวก็ตอนนี้แหล่ะครับ - - ไปหาข้อมูลดูนะ มีหลายกระทู้

    ก็หมายถึงประมาณว่า ฝรั่งมาเดินเต็มบ้างเต็มเมือง หรือไม่ก็อีกอย่าง ลืมและ

    ชาวศิวิไลย์ นี่ คนไทยแหล่ะ หลังจากรอดสิ่งต่างๆน่ะ หมายถึงเป็น ยุคชาวศิวิไลย์ ยุคนะ ยุค ดีหมดทุกอย่างเลย อันนี้ก็ให้ไปหาข้อมูลเองล่ะกันเง้อ
     
  6. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ลูกเห็บ ผมว่าไม่แปลกนะครับ แต่ถ้า หิมะ ผมว่าน่าจะยาก ทุกวันนี้ ฤดูหนาว ของเรา แทบจะเป็นหน้าร้อนแล้วครับ เพราะสภาวะโลกร้อน อ่ะครับ หิมะ จะตกก็ต่อเมื่อ อุณหภูมิ 0 องศา
     
  7. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table width="96%" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="headnews" valign="top">อุตุฯแจงลูกเห็บถล่มพธม.เกิดจากอากาศร้อนปะทะลมมรสุม
    </td> </tr> <tr> <td valign="top" height="4">
    </td> </tr> <tr> <td class="dessubmmenu1"> <center>[​IMG]</center>

    นอก จากนี้ต้นไม้รอบทำเนียบรัฐบาลหักโค่นลงมาจำนวนมาก ลือเป็นลางบอกเหตุอะไรหรือไม่ อุตุฯชี้แจงลูกเห็บตกใน กทม.เกิดจากอากาศร้อนปะทะลมมรสุม ภูเก็ตฝนตกหนักประกอบดับน้ำทะเลหนุน
    ที่ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 5 ก.ย. ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก พร้อมกับมีลมกรรโชกแรง ทำให้ผู้ชุมนุมถึงกับแตกกระเจิง ต่างวิ่งหลบฝนกันจ้าละหวั่น โดยเข้าไปแอบอยู่ตามเต็นท์ และภายในอาคารต่างๆ พร้อมกับรีบเก็บข้าวของเครื่องใช้ ตลอดจนจอโปรเจคเตอร์ และโทรทัศน์ ที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง และมุมต่างๆ อย่างรีบด่วน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ซึ่งผู้ชุมนุมบางส่วนต้องช่วยกันยึดขาเต็นท์ไว้ไม่ให้ปลิวจากแรงลม
    หลังจากฝนตกลงมาได้ประมาณ 10 นาที ได้มีพายุลูกเห็บขนาดเท่าปลายนิ้วก้อยจำนวนมาก ตกลงมาพร้อมสายฝนที่บริเวณภายในทำเนียบรัฐบาล และสะพานมัฆวานฯ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของผู้พบเห็นว่า เป็นลางบอกเหตุอะไรหรือไม่ ซึ่งฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ท่อระบายน้ำภายในทำเนียบรัฐบาลที่มีเศษขยะเข้าไปอุดตัน ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ส่งผลให้น้ำเอ่อท่วมทำเนียบรัฐบาลภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยมีเศษขยะลอยมาตามน้ำที่เอ่อล้นขึ้นมา ซึ่งผู้ชุมนุมได้นำไม้มาพาดเป็นสะพานบริเวณที่มีน้ำท่วมทั้งหมด เพื่อให้ผู้ชุมนุมสามารถเดินได้อย่างสะดวก
    <center>[​IMG]</center>

    ส่วน การปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯก็ต้องยุติโดยทันที นอกจากนี้ต้นไม้รอบทำเนียบรัฐบาลก็หักโค่นลงมาจำนวนมาก โดยตำรวจที่อยู่รอบทำเนียบรัฐบาล ก็ได้รีบวิ่งหลบฝนไปอยู่ที่ป้ายรถเมล์ โดยยกโล่ขึ้นมาบังฝนไว้อีกชั้นหนึ่ง ฉากหลังเวทีล้มลง เครื่องปั่นไฟเสีย เพราะน้ำฝน ทำให้ม็อบพันธมิตร ฯ ต้องตีกลองระดมพล หลังจากที่ผู้ชุมนุมแตกกระเจิงเพราะพายุฝน
    อุตุฯชี้แจงเกิดจากอากาศร้อนปะทะลมมรสุม
    นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า การที่ลูกเห็บตกบริเวณทำเนียบฯ เกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด มาปะทะกับมวลอากาศเย็นที่แผ่เข้ามา รวมถึงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรง ทำให้มีฝนตกหนักลูกเห็บตกเป็นปรากฏการณ์ปกติที่เกิดขึ้นได้ และ มีการออกประกาศเตือนว่า ภาคใต้ที่บริเวณเกาะลันตา จ.กระบี่ และ ภูเก็ตบางพื้นที่จะมีฝนตกหนัก รวมถึงกรุงเทพมหานครจะมีฝนตกในช่วงบ่ายไปจนถึงค่ำวันนี้ อาจจะยังมีลูกเห็บตกได้อยู่
    <center>[​IMG]</center>

    ภูเก็ตฝนตกหนักประกอบดับน้ำทะเลหนุน
    ในช่วงบ่ายของวันที่ 5 กันยายน จังหวัดภูเก็ต ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ ภูเก็ต ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังบนผิวการจราจร รถเล็กไม่สามารถผ่านไปได้ โดยเฉพาะบริเวณ ถนนนาใน หน้ารพ.ป่าตอง บริเวณสามแยกกะหลิม ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงน้ำขึ้น ทำให้น้ำทะเลหนุนขึ้นมา น้ำที่จะไหลลงไปในทะเลไม่สามารถไหลลงไปได้ ทำให้น้ำท่วมขังผิวการจราจร ทำให้การจราจรติดขัด
    ในขณะเดียวกันนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง พร้อมด้วยทีมบริหารที่เข้ารับตำแหน่งและได้มีดารแถลงนโยบายเมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ก็ได้สั่งการณ์ให้หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองป่าตอง นำรถกู้ภัย พร้อมทั้งรถดับเพลิง ออกมาทำการช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ขนาดเล็ก ที่เครื่องยนต์ดับในบริเวณที่น้ำท่วมสูง นอกจากนี้รถดับเพลิงก็ได้รีบเร่งสูบน้ำที่ท่วมขังออกจากถนนเป็นการเร่งด่วน
    สำหรับน้ำท่วมขังภายใน รพ.ป่าตอง นั้น เนื่องจากด้านข้างของ รพ. ซึ่งทางเทศบาลเมืองป่าตองจ จะมีการก่อสร้างเป็นถนนผังเมือง สาย ก. ข้างถนนจะมีคลอง เมื่อเกิดฝนตกหนัก น้ำจะเอ่อล้นออกมา ประกอบกับพื้นที่ภายในบริเวณ รพ.ป่าตอง เป็นที่ลุ่ม นอกจากนี้ตัวอาคารฉุกเฉินมีชั้นใต้ดิน ทำให้น้ำที่ล้นมาจากคลอง ไหลเข้ามาท่วมบริเวณลานจอดรถ และชั้นใต้ดินของ รพ.ป่าตอง ทำให้สิ่งของที่อยู่ในชั้นใต้ดินได้รับความเสียหาย ซึ่งทาง รพ.ป่าตอง จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากเทศบาลเมืองป่าตอง เพื่อจะสร้างกำแพงกั้นน้ำ หรือให้ทางเทศบาลเมืองเร่งการก่อสร้างถนนสายดังกล่าว แต่เมื่อฝนหยุดตกและในช่วงน้ำลง น้ำที่ท่วมขังก็ลดระดับลง

    <table align="center"><tbody><tr></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>



    http://www.komchadluek.net/2008/09/05/x_main_a001_219551.php?news_id=219551
     
  8. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <TABLE class=tborder id=post1477785 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 09:41 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ปาฏิหาริย์<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1477785", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jan 2006
    ข้อความ: 664
    ได้ให้อนุโมทนา: 5,827
    ได้รับอนุโมทนา 10,378 ครั้ง ใน 661 โพส
    <IF condition="">
    </IF>พลังการให้คะแนน: 291 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1477785 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->[​IMG] โลกไม่ได้เป็นของมนุษย์
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->โลกไม่ได้เป็นของมนุษย์
    ...
    อีกหนึ่งความจริงที่ไม่มีใครอยากฟัง

    [​IMG]

    ภาพหัวใจแห่งเมืองโวห์ นิวคาลีโดเนีย”
    นอกจากจะเป็นภาพเปิดของการแสดงนิทรรศการภาพถ่ายทางอากาศของญานน์ อาร์ตุส-แบร์ทรองด์
    ยังเป็นภาพหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์สารคดีของเขาด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นสิ่งสวยงามที่ยังหลงเหลืออยู่บนโลกของเราท่ามกลางธรรมชาติที่กำลังเสื่อมโทรมลงทุกขณะ
    (ภาพจาก ญานน์ อาร์ตุส-แบร์ทรองด์)

    ...
    "โลกไม่ได้เป็นของมนุษย์ แต่มนุษย์ต่างหาก ที่เป็นส่วนหนึ่งของโลก" คำบรรยายที่ปรากฏ ตั้งแต่ช่วงต้นเรื่อง
    ก่อนนำผู้ชมเข้าสู่เนื้อหาทั้งหมด
    ในภาพยนตร์สารคดี 2 เรื่องเยี่ยม
    "ดิ เอิร์ธ ดาส นอต บีลอง ทู แมน" และ "ไวด์ แอนิมอล"
    ผลงานการถ่ายทำ ของ "ญานน์ อาร์ตุส แบร์ทรองด์" ช่างภาพนักอนุรักษ์ชื่อดัง ชาวฝรั่งเศส และทีมงาน
    ที่นำเสนอวิกฤติของธรรมชาติในมุมมองที่แตกต่าง

    เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของห้างสรรพสินค้าเซน ที่ขณะนี้กำลังจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายทางอากาศ : สาสน์สำรวจสภาวะโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผลงานของญานน์ อาร์ตุส แบร์ทรองด์ (Yann Arthus-Bertrand) ช่างภาพชื่อดังชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน เซน เอิร์ธ แคร์ โซไซตี (ZEN EARTH CARE SOCIETY) ห้างสรรพสินค้าเซนจึงได้ร่วมกับเอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า @ เซ็นทรัลเวิลด์ จัดฉายภาพยนตร์สารคดีเพื่อสิ่งแวดล้อมรอบพิเศษ เรื่อง "ดิ เอิร์ธ ดาส นอต บีลอง ทู แมน" (The Earth Does Not Belong to Man) และ "ไวด์ แอนิมอล" (Wild Animals) ความยาว 180 นาที เมื่อวันที่ 20 และ 25 ส.ค.51 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้มีโอกาสไปร่วมชมภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

    ญานน์ อาร์ตุส แบร์ทรองด์ เป็นช่างภาพที่เชี่ยวชาญ ทางด้านการถ่ายภาพทางอากาศ ระหว่างที่เขาและทีมงาน เดินทางไปรอบโลกเพื่อตระเวนบันทึกภาพสรรพชีวิต และทุกสิ่งที่มีอยู่บนผืนพิภพ พวกเขาก็เกิดแนวความคิด ที่จะถ่ายทอดความเป็นไปในวิถีชีวิตของชนชาติที่แตกต่าง และความเปลี่ยนแปลงในธรรมชาติ ที่กำลังถูกคุกคามจากมนุษย์ในรูปแบบภาพยนตร์สารคดี

    เพื่อสะท้อนให้ผู้ชมได้เห็นว่าขณะที่มนุษย์กำลังแข่งขันกันเองและแข่งกับเวลาที่เดินไปข้างหน้าตลอดนั้น มนุษย์เราหาได้แยแสกับธรรมชาติและเพื่อนร่วมโลกเลยสักนิด โดยคิดเพียงแค่ว่าโลกใบนี้เป็นของเรา และตั้งหน้าตั้งตากอบโกยเอาผลประโยชน์เข้าตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่านั้น

    ผลงานภาพยนต์ชุดนี้ ของญานน์ อาร์ตุส แบร์ทรองด์ มีทั้งหมด 6 ตอน โดยฉายเป็นรายการสารคดีทางโทรทัศน์ ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งญานน์ อาร์ตุส แบร์ทรองด์ ได้คัดเลือกตอนที่ 5 และ 6 คือ "ดิ เอิร์ธ ดาส นอต บีลอง ทู แมน" (The Earth Does Not Belong to Man) และ "ไวลด์ แอนิมอล" Wild Animals สำหรับนำมาฉายในโรงภาพยนตร์รอบพิเศษที่ประเทศไทย และยังเป็นครั้งแรกที่มีการนำออกมาฉายนอกประเทศฝรั่งเศสด้วย

    The Earth Does Not Belong to Man เป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนในวัฒนธรรมที่แตกต่างและมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นสังคมเมือง ชนบท โลกของอุตสาหกรรม และดินแดนแห่งเทคโนโลยีการทำเกษตรกรรมแบบเต็มรูปแบบ ที่ไม่ว่าจะมีวิถีต่างกันอย่างไร แต่มีบางสิ่งที่เหมือนกัน นั่นคือธรรมชาติ สัตว์ป่า และพืชพรรณ กำลังถูกคุกคามจากเพื่อนร่วมโลกที่ได้ชื่อมนุษย์ จนต้องตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ และมีบางชนิดที่ลดจำนวนลงจนอยู่ในขั้นวิกฤติ และอาจสูญพันธุ์ได้ในไม่ช้า

    ส่วน Wild Animals นั้นบอกเล่าเรื่องราวและสถานะของสัตว์โลกในท้องถิ่นต่างๆ ที่ถูกเบียดเบียนจากเหล่าอารยชนทั้งหลายให้ได้รับความทุกข์ทรมาน ทั้งจากการไล่ล่าโดยตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นลิง เสือ แมวน้ำ วาฬ และนานาสัตว์ป่าในดินแดนแอฟริกา และผลลัพธ์ที่เกิดจากความผิดพลาดของเทคโนโลยีโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

    อย่างกรณีหายนะของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดที่เมืองเชอร์โนบิล ประเทศยูเครน เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ที่ทำให้เมืองทั้งเมืองกลายสภาพเป็นเหมือนนรกในมโนภาพของผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้น แต่กลับกลายเป็นสวรรค์ของนานาสัตว์ที่เข้ามารับกรรมต่อจากมนุษย์โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่จากกัมมันตภาพรังสีที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมของเมืองนั้น

    อย่างไรก็ตาม แม้ภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่อง สะท้อนให้ผู้ชมเห็นว่าขณะนี้โลกถูกย่ำยีจากน้ำมือมนุษย์มามากจนบอบช้ำและอาจทนทานรับไม่ไหวในไม่ช้าไม่นาน แต่ขณะเดียวกันก็ได้ถ่ายทอดสิ่งดีๆ ที่ยังพอมีหลงเหลืออยู่ และยังมีคนบางกลุ่มมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะกระทำในสิ่งที่ต่างออกไปจากคนส่วนใหญ่ เพื่อหวังว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นจะช่วยเยียวยารักษาธรรมชาติและบรรเทาทุกข์ให้เพื่อนร่วมโลกได้บ้าง และยังเป็นการไถ่บาปแทนเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ ด้วย

    ก่อนหน้าที่จะได้ชมภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้ร่วมฟังการเสวนาของ 3 คนดังในวงการภาพยนตร์ไทย ได้แก่ นันทขว้าง สิรสุนทร นักวิจารณ์ภาพยนตร์ คอลัมนิสต์ประจำหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, อภิชนา ลีนานนท์ โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ และ ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้บุกเบิกสถานีโทรทัศน์ทางอินเทอร์เน็ต ที่มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้หลังจากที่ได้ชมกันมาก่อนแล้วในรูปแบบดีวีดี

    "หนังดำเนินไปตรงๆ ทื่อๆ แต่มีอิมแพคกับคนดู เพราะนำเสนอภาพจริง ไม่มีการตัดต่อ บอกต้นเหตุและปลายทางชัดเจน ให้คนดูได้ตัดสินข้อมูลได้เองว่าดีหรือไม่ดี ต่างจากหนังสารคดีหลายเรื่อง ที่ผู้สร้างเอามุมมองของตัวเองใส่เข้าไปมากเกิน ทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง" นันทขว้างกล่าว

    "แม้แต่สารคดีเนชันแนลจีโอกราฟฟิค (National Geographic) หรือดิสคัฟเวอรี (Discovery) ซึ่งนักวิชาการยุคใหม่ยังบอกว่า ไม่น่าเชื่อถือเหมือนสมัยก่อน เพราะมีธุรกิจแฝงอยู่"

    "นอกจากนี้ หนังของญานน์ยังมีการดำเนินเรื่องที่หลากหลาย อย่างเช่น การที่ตัวละครในหนัง ถามแหล่งข่าวตรงๆ ว่า รู้สึกอย่างไรที่ขายเนื้อลิง หรืออย่างภาพสีสันสดใสของผ้าใบ ในตลาดชาวแม็กซิกัน ตลาดนี้ไม่เคยทำให้ชาวแม็กซิกันรวยขึ้นสักที แต่ทำไมพวกเขายังต้องมาขายของที่ตลาดแห่งนี้อยู่อีก เพราะเขาทำแล้วมีความสุข สีสันของผ้าใบเป็นสิ่งสะท้อนความสุขออกมา เพราะญานน์เขาเป็นช่างภาพ จึงมองโลกว่าเป็นสิ่งสวยงาม ต่างจากมุมมองของคนทั่วไป" นันทขว้างแจง และบอกว่า หลังจากดูภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงรับรู้ได้ว่า ขณะนี้โลกของเราแย่มากแล้วจริงๆ แต่ก็นับว่าประเทศไทยยังโชคดีมากที่ยังไม่ต้องประสบกับภัยพิบัติรุนแรงเหมือนที่เกิดในหลายประเทศ

    นักวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดังยังบอกอีกว่า หนังของญานน์มีความลงตัวทั้งภาพและเสียง ขณะที่หนังสารคดีหลายเรื่องมีข้อบกพร่องในเรื่องของการบันทึกเสียงและดนตรีประกอบ หลายเรื่องหดหู่ แต่ใช้เพลงทำนองแบบเดียวกับของทาทา ยัง อย่างนี้ไม่ถูกต้อง ซึ่งหากไม่ใช่ญานน์ แต่เป็นคนอื่นที่สร้างหนังเรื่องนี้ เขาอาจใช้ดนตรีประกอบมากกว่านี้ เพื่อทำให้มีความเป็นดรามามากขึ้น และทำให้คนดูตื่นเต้น แต่นั่นก็จะทำให้ความจริงและความน่าเชื่อถือลดน้อยลงไปทันที

    ด้านอภิชนา หรือหนูเล็ก บอกว่า ภาพยนตร์ของญานน์ดีทั้งเทคนิคและเนื้อหา เมื่อถูกถ่ายทอดผ่านสายตาของศิลปินจึงได้ภาพที่สวยงามมาก และการที่เขาถ่ายภาพทางอากาศมากว่า 20 ปี ทำให้ญานน์มีมุมมองที่กว้างอย่างไม่มีขอบเขต และคงไม่มีใครได้เห็นโลกมากมายเท่าเขาอีกแล้ว ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะเห็นเพียงแค่สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา แต่ญานน์เขามองเห็นว่ามนุษย์ก็เหมือนสัตว์อื่นๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของโลก แต่กลับชอบทำเหมือนว่าตัวเองเป็นเจ้าของโลกใบนี้แต่เพียงผู้เดียว

    "ภาพนิ่งอาจบอกอะไรแก่ผู้ชมได้ไม่มาก แต่หนังสารคดีจะทำให้เห็นว่าระหว่างนั้นเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง ไม่ใช่ใครจะขึ้นไปถ่ายทำก็ได้ แต่เขามีพรสวรรค์ทางด้านนี้จริง เป็นหนังที่สื่อถึงมุมมองของเขาที่มีต่อโลก ญานน์เป็นช่างภาพ จึงให้มุมมองแบบศิลปะ มองว่าโลกสวยงาม ให้อะไรกับมนุษย์มาแล้วตั้งมากมาย ขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นถึงบทบาทของสัตว์ที่มีต่อโลก"หนูเล็กเล่า

    "แม้จะสะท้อนให้เห็นว่า โลกในขณะนี้ย่ำแย่มากเกินไปแล้ว แต่ก็ยังมีสิ่งที่ดีๆ เหลืออยู่บ้าง ยังพอมีวิธีแก้ไข ซึ่งยังไม่สายเกินไปที่มนุษย์จะกลับใจในตอนนี้ และในหนังก็ตอบโจทย์ให้แล้วว่าวิธีแก้ไขคือ ความพอเพียงของมนุษย์ ขณะที่ภาพยนตร์เรื่อง โลกร้อน ความจริงที่ไม่มีใครอยากฟัง ของอัล กอร์ นำเสนอผ่านมุมมองของคนเป็นผู้นำ หรือพ่อของลูก โดยการให้ข้อมูลที่ดีที่สุดเพื่อให้เห็นว่าผลกระทบรุนแรงมากแค่ไหน หรือให้เห็นมุมมองในด้านความโหดร้ายรุนแรงนั่นเอง" หนูเล็ก กล่าว

    ส่วน ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี กล่าวว่า การที่ได้ดูภาพยนตร์ของญานน์ ทำให้รู้สึกว่า เหมือนได้เห็นของจริง ในมุมมองที่แตกต่างของการทำลายล้างธรรมชาติ ซึ่งเขาได้เห็นอะไรในโลกมากมาย และนำสิ่งที่เห็นมาเชื่อมโยงกับสิ่งที่เป็นจริงได้อย่างลงตัว

    "การถ่ายภาพในมุมกว้างของญานน์ ทำให้เห็นว่า เราเป็นส่วนหนึ่งในสิ่งที่เขาเห็น และเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำลายโลกใบนี้ด้วย แล้วพวกเราจะแก้ไขกันอย่างไร หากเปรียบเทียบกับเรื่อง โลกร้อน ความจริงที่ไม่มีใครอยากฟัง เรื่องนั้น อัล กอร์ เขานำเสนอให้เห็นถึงความโหดร้าย ทารุน ของธรรมชาติ ขณะที่ญานน์พยายามแสดงให้เห็นถึงสิ่งดีๆ ในธรรมชาติที่ยังหลงเหลืออยู่ และรอการปกป้องจากพวกเรา" ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี แสดงความเห็น.

    ที่มา
    http://www.manager.co.th/Science/Vie...=9510000100918
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    สันโดษ เกลียดมนุษย์ที่เห็นแก่ได้เเละเห็นแก่ตัว

    เพื่อนๆ คงเข้าใจว่า สันโดษรู้สึกยังไง

    เพื่อนๆก็เหมือนกัน อย่าอยู่กับมนุษย์มากจนลืมตัวตนที่เเท้จริงนะคะ

    สันโดษ ก็คือ สันโดษ ส่วนรูปที่เห็น ก็เเค่ สังขารที่อาศัยดู จิต ทำงานเท่านั้น

    สันโดษ ดูงาน และ ให้ จิตบริหารงานกันเอง

    สันโดษไม่ใช่มนุษย์ เเต่ ดีที่มีร่างเพราะไม่อย่างนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ ในฐานะ จิต เราก็เป็น เเค่ สติ นะเอย นะเอย
     
  10. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791

    [​IMG]



    เมืองไทยก็มี ใครทายสิว่าที่ไหน ;aa17
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    อยากนอนกอดเเม่ เเต่มนุษย์ก็บอกว่า ดินสกปรก

    อยากดื่มน้ำจากแม่น้ำ มนุษยก็บอกว่าน้ำไม่สะอาด

    อยากพูดกับ ต้นไม้ มนุษย์ก็บอกว่าเสียสติ

    อยากร้องไห้สงสาร ธรรมชาติ มนุษย์ก็บอกว่า ไร้สาระ

    เเล้ว ตอนนี้ ภัยพิบัติมาเเล้ว ก็อย่าว่า ธรรมชาติโหดร้ายก็เเล้วกันคะ


    มนุษย์ว่า เท้าเป็นของต่ำ เเต่ก็เอา เท้าเหยียบหน้าแม่โลก ทุกวัน

    มนุษย์ สมควรเเล้วคะ ส่วนคนดีๆ ก็ สบายใจเถอะนะคะ

    ธรรมชาติมีระบบการทำลายด้วย จิต ไม่เหมือนมนุษย์ กำหนดจิตด้วยการกระทำ


    เเต่ท้ายที่สุดผลกรรมก็ยังคงจะสนองอยู่ดี ไม่เห็นจะต้องป้องกันอะไรเลย

    เพราะอยู่ที่ไหนหรือ มีเงินล้นฟ้า เป็นเจ้ามหาอำนาจอย่างไร ก็หนีไม่พ้นอยู่ดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2008
  12. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    เเล้วสันโดษ จะมาดู ภัยพิบัติ ต่อ วันพรุ่งนี้ ว่า เพื่อนๆ ทำอะไรกับ มนุษย์เพิ่มเติม

    สันโดษ ไม่ได้โหดร้าย เเต่ สันโดษ อยากอยู่บนโลก คนเดียว จะมีความสุขที่สุดซะที กับการพูดคนเดียว

    ใครจะว่าสันโดษไม่ปกติ เพราะ สงสารมนุษย์ สันโดษไม่สนใจ

    เพราะสันโดษ ไม่ใช่มนุษย์ สันโดษเป็น ลูกของเเม่โลก

    ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมมนุษย์ถึงบอกว่า เราเกิดจาก ดินน้ำลมไฟ

    เเละ ตายไปก็เอาดินกลบร่าง หรือ เผาเราให้เป็นจุล

    ก็เพราะเรา เป็น ลูกของ เเม่ยังไงละคะ ไปนอนก่อนนะคะ...เเม่โลก

    ขอให้ เพื่อนๆ มีความสุขกับการทำลายสิ่งที่มนุษย์สร้างเเละเบียดเบียนเพื่อนๆ

    เอาธรรมชาติกลับมานะคะ รักเพื่อนธรรมชาติมากมาย

    ไม่ว่าจะเป็น พี่ ดิน, น้ำ, ลม ไฟ นะเอย นะเอย
     
  13. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,151
    ค่าพลัง:
    +3,821
    โลกจ๋า...โลก...โลกเป็นอะไร...
    โลกจ๋า...ใคร....ทำกะโลกได้...
    โลก...โลกทนมานาน.......แล้ว
    โลกบอกว่า....โลกคิดผิด.......
    ที่โลกสร้างมนุษย์ขึ้นมา........
    โลกอุตส่าห์สร้างมันไว้.........
    เป็นผลงานชิ้นเอก..............
    มนุษย์มันฉลาดเกินไป..........
    แต่ว่า.........มนุษย์มันอกตัญญู
    มันคิดว่ามันทำได้ทุกอย่าง.....
    โลกให้ทุกสิ่งทุกอย่าง.....กับมัน
    แต่มนุษย์.....ไม่เคยขอบคุณโลกเลย
    ไม่เคยนึกถึงโลกด้วยซ้ำไป....
    โลกอุตส่าห์เก็บความน้อยใจไว้...
    เพราะนึกว่า....มนุษย์............
    มันจะรู้บุญคุณ........โลก...ซักวัน
    แต่ตรงกันข้าม...มันยิ่งฉวยโอกาส
    มันเอาทุกอย่าง....มันโลภ+หลง
    ตอนนี้โลกโดนปล้นจนหมดตูดแล้ว...T_T
    ถ้าโลกสร้างมนุษย์ขึ้นมา........
    แต่ไม่มีประโยชน์....คุณโลกคิดว่า...
    ถ้าสร้างมาแล้วเป็นปัญหา.......
    งั้นโลกก็ไม่อยากแบกปัญหาไว้.....
    โลกทำลายผลงานชิ้นนี้ดีกว่า.......
    เพราะคุณโลกเหนื่อยมากแล้ว.......
    เพราะคุณโลกยังมีผลงานดีๆอีกเยอะ.....
    โลกไม่ง้อหรอก..........(^.^)
    อยากไปไหนก็ไปไป้!...แกโดนตัดหางแล้ว....มนุษย์.....
    *และนี่คือสาเหตุที่มนุษย์ไม่มีหางค่ะ.....(^-^)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2008
  14. tape3

    tape3 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +32
    ผบ.ทร.ห่วงบ้านเมืองทบ.เกิดอาเพทธงชาติปลิวหาย <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#cccccc"><td valign="center"> </td></tr> <tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">
    </td></tr></tbody></table> ผบ.ทร. ยอมรับเป็นห่วงและจับตามดูสถานการณ์บ้านเมือง “เกิดอาเพท” ธงชาติปลิวหาย ท่ามกลาง “ฟ้าพิโรธ” และลูกเห็บตกหนักนานกว่า 45 นาที
    พล. ร อ สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ทุกฝ่ายเป็นห่วง โดยเฉพาะกองทัพกำลังจับตามองดูอยู่ ตนไม่อยากจะพูดอะไรมาก ทุกคนพูดไปหมดแล้ว อยากให้นึกถึงความรักความสามัคคีของชาติให้มาก คนไทยเราต้องมีความรักความสามัคคีถึงจะนำพาประเทศชาติให้รอดไปได้ ตอนนี้ ผบ. เหล่าทัพ เป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองกันทุกคน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทุกคนต้องช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุด แต่ทราบว่าทั้งสองฝ่ายยังไม่ยอมที่จะมาเจรจา ส่วนเรื่องการปฎิวัติ คงไม่มีทาง ยามนี้คนไทยต้องรักและสามัคคีกันให้มากที่สุด
    ผู้ สื่อข่าวรายงานจากกองทัพบกว่า เมื่อเวลา 15.30 น. เกิดฝนตกหนักทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะที่กองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งมีเม็ดฝนตกลงมาจำนวนมาก และมีลูกเห็บตกลงมาจำนวนมาก และเกิดลมกรรโชกแรงจนทำให้สิ่งของบริเวณดังกล่าวและใกล้เคียงปลิวว่อนกระจัด กระจาย รวมถึงต้นไม้บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์กองทัพบกถูกลงพัดเอนเอียงไปมา
    นอก จากนี้ เกิดเหตุที่ทำให้ข้าราชการทหารที่มามาดูเหตุการณ์ตกตะลึง เมื่อธงชาติผืนใหญ่บนยอดเสาธงประจำกองทัพบก ที่ตั้งอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์กองทัพบกปลิววอนข้ามตึกพิพิธภัณฑ์หายไปต่อหน้าต่อ ตาข้าราชการทหารที่ยืนดูเหตุการณ์
    ผู้สื่อ ข่าวแจ้งว่า สำหรับเสาธงชาตินี้เพิ่งสร้างใหม่ในสมัยที่ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน เป็น ผบ.ทบ.จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของข้าราชการทหารว่า ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีปรากฎการณ์เช่นนี้ ภายหลังจากย้ายกองบัญชาการกองทัพบกที่สวนรื่นฤดีมาอยู่ที่ถนนราชดำเนิน เมื่อปี 2535 สมัย พล.อ. วิมล วงศ์วานิช เป็น ผบ.ทบ. รวมถึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า อาจจะเกี่ยวโยงกับสถานการณ์การเมืองที่ครุกรุ่นอยู่ในขณะนี้
    จาก นั้น พ.ท. ยอด วิระยะธน นายทหารประจำสลก.ทบ.ที่เข้าเวรนายทหารชั้นผู้ใหญ่ กล่าวว่า ขณะที่ฝนตกพร้อมลูกเห็บตกลงมาอย่าง ตนได้มองไปที่ลานหน้าสนามกองบัญชาการกองทัพบก และเหลือบเห็นลางไม่ดีเกิดขึ้น เพราะทันใดนั้นลมที่พัดกระหน่ำอย่างแรง พัดนำเอาธงชาติปลิวไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เคยปรากฏในกองทัพบกมาก่อน เพราะเสาธงที่สร้างอย่างมั่นคงถาวร เมื่อเกิดลมแรงขนาดไหนธงชาติที่ปลิวไสวอย่างสวยงามของกองทัพบก ยังโบกสะบัดพัดอยู่ปกติ เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้น พ.ท.ยอด ได้โทรศัพท์รายงานไปยังสำนักงาน ผบ.ทบ. ซึ่ง พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้นั่งทำงานอยู่ภายในสำนักงานอยู่


    </td></tr></tbody></table></td></tr> <tr><td><center>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</center></td></tr></tbody></table>;aa17
     
  15. ทามปายได้

    ทามปายได้ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +56
    วันสองวันเกิดเหตุร้ายร้ายอะไรซักอย่างฟันธง แต่ไม่ฟันคุณหล่อ

    เถียงไปก็เท่านั้น ปล่อยวางเลยดีกว่า อิอิ จะนอนและ ดูสภาอยู่
     
  16. ปาฏิหาริย์

    ปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +3,516
    หัวใจแห่งชัยภูมิ มั้งครับ 555
     
  17. vijit_j

    vijit_j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +2,866
    จะอยู่ในเขต จ.เลยหรือเปล่า (ภาพจากคุณสนั่น)

    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"> <v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 675pt; HEIGHT: 435.75pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\user\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://palungjit.org/attachments/a.280600/"></v:imagedata></v:shape>
     
  18. vijit_j

    vijit_j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +2,866
  19. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    ภูกระดึง.....แม่นบ่
     
  20. tum399

    tum399 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    732
    ค่าพลัง:
    +2,908
    ภูกระดึง... แม่นบ่
     

แชร์หน้านี้

Loading...