เหตุที่ พระพุทธเจ้า มีพระชนมายุ 80 พระวสา

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย มหาหินทร์, 22 ธันวาคม 2005.

  1. rosey

    rosey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +1,345
    อิ่มในธรรม .. อนุโมทนา สาธุ อนุโมทนา สาธุ

    [b-wai] [b-wai] [b-wai]
     
  2. atom16@chaiyo.com

    atom16@chaiyo.com Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +26
    แน่นอนที่สุด กราบงามๆเลย สาธุ สาธุ สาธุ
     
  3. ab

    ab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2004
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +185
    (ขอตอบอีกแง่) เป็นไปได้ไหมว่า (ถ้าจำไม่ผิดหลวงเคยพ่อบอก) คนสมัยพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆจะมีอายุขัยเป็นหมื่นๆปีกัน(คนมีบุญมาเกิดกันมาก) และอายุขัยของคนบนโลกมนุษย์จะสั้นลดหลั่นลงมาเรื่อยๆตามยุค(และตามบุญ) ดังเช่น สมัยนี้จากสถิติคนยุคเรามีอายุขัยอยู่ที่ประมาณ 60 ปีโดยเฉลี่ย เมื่อเทียบกะคนรุ่นปู่-ย่าก็ประมาณ 80-100 ปี ถ้าต่อไปรุ่นลูกหลานเราอาจมีอายุขัยอยู่ที่ประมาณ 40 ก็ได้นะ(อันนี้เราคิดเอง)
     
  4. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,444
    ผมก็เพิ่งจะรู้ความเป็นมาก็วันนี้ล่ะครับ ขอบคุณมากครับ สาธุ
    ขอเป็นกำลังใจให้คุณมหาหินและทุกคนสร้างสรรค์สิ่งที่มีประโยชน์แบบนี้ตลอดไปครับ
    _______________________________________
    ลำดับอานิสงส์ของทาน (ทานํ=การให้)
    ให้แก่สัตว์เดรัจฉาน 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับให้มนุษย์ 1 ครั้ง
    ให้แก่มนุษย์ 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับให้สมมติสงฆ์ 1 ครั้ง
    ให้กับสมมติสงฆ์ 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับให้พระโสดาบัน 1 ครั้ง
    ให้กับพระโสดาบัน 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับให้พระสกิทาคามี 1 ครั้ง
    ให้กับพระสกิทาคามี 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับให้พระอนาคามี 1 ครั้ง
    ให้กับพระอนาคามี 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับให้พระอรหันต์ 1 ครั้ง
    ให้กับพระอรหันต์ 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับให้พระปัจเจกพุทธเจ้า 1 ครั้ง
    ให้กับพระปัจเจกพุทธเจ้า 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับให้พระพุทธเจ้า 1 ครั้ง
    ให้กับพระพุทธเจ้า 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับให้สังฆทาน 1 ครั้ง
    ให้สังฆทาน 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับให้อภัยทาน 1 ครั้ง
    ให้อภัยทาน 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับให้ธรรมทาน 1 ครั้ง
    ดังนั้น การให้ธรรมะย่อมชนะการให้ทั้งปวง ดังพุทธภาษิตที่ว่า “สพฺพทานํ ธมมทานํ ชินาติ”
     
  5. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    อายุขัย ของคนเรา มีขึ้น มีลง เป็นปกติ ....
    กล่าวคือ ทุก ๆ 100 ปี จะลดลง 1 ปี ในขาลง....
    และทุก ๆ 100 ปี จะเพิ่มขึ้น 1 ปี ในขาขึ้น....

    ยกตัวอย่าง เมื่อสมัยพุทธกาล องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนมาชีพอยู่นั้น
    อายุขัยเฉลี่ยของคนเรา คือ 100 ปี....
    ทุก 100 ปี อายุขัยเฉลี่ยลดลง 1 ปี(ขณะนี้ เป็นขาลง)
    เมื่อผ่านไป 2,550 ปี(พ.ศ.2550) อายุขัยเฉลี่ยลดลง 25.50 ปี
    ดังนั้น ปัจจุบัน อายุขัยเฉลี่ยของคนเรา จะเหลือเพียง 74.50 ปี

    เมื่อถึง พ.ศ. 5000 อายุขัยของคนก็จะเหลือเพียง 50 ปี เท่านั้น
    และจะลดลงไปเรื่อย ๆ จนอายุขัยเฉลี่ยเหลือ 10 ปี
    (อายุ 2-3 ปี สามารถเจริญพันธ์ได้ และร่างกายก็จะยิ่งเล็กลง วิทยาศาสตร์ก้าวหน้า)

    เมื่อถึง 10 ปี ก็จะเริ่มเป็น ขาขึ้น อีก กล่าวคือ....
    ทุก 100 ปี อายุขัยจะเพิ่มขึ้น 1 ปี ....
    เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงอายุขัย 1 แสนปี
    แล้วก็เริ่มลดลงมาอีก....
    มีขึ้น มีลง อยู่เช่นนี้ ตลอดไป....

    เท่าที่ค้นจากพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าหลาย ๆ พระองค์ ที่ต่อเนื่องกันมา....
    จะพบว่า พระพุทธองค์ จะเริ่มตรัสรู้ ในเที่ยวขาลง เช่น....
    พระพุทธเจ้า 4 พระองค์ ในกัปนี้ คือ....
    1. พระกกุกสันโท อายุของพระองค์ 40,000 ปี
    2. พระโกนาคมโน อายุของพระองค์ 30,000 ปี
    3. พระพุทธกัสสป อายุของพระองค์ 20,000 ปี
    4. สมเด็จองค์ปัจจุบัน 80 ปี
    5. พระศรีอาริยเมตไตรย์(ปิด ครึ่งกัป นี้) ต้องรอจนอายุขัย ไหลขึ้นไปก่อน
    จนถึงห้วงเวลาอายุขัยเฉลี่ย 40,000 ปี จึงจะลงมาตรัสรู้ธรรม

    6. สมเด็จพระราม(เริ่มครึ่งกัปหลัง)
    7. สมเด็จพระสุ.....
    8. สมเด็จพระเท.....(รวมคำสอน เล่ม 10 หน้าที่ 500)
    9. สมเด็จพระติ......
    10. สมเด็จพระเลไลยกะ (ปิดกัป นี้)

    คนที่จะลงมาเกิด ในช่วงอายุขัย เท่าไรนั้น....
    ก็เป็นช่วงบุญ บารมี ของแต่ละคน....

    เรื่องอายุของพระพุทธองค์ ก็ดูได้ที่....
    ความแตกต่างขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บางประการ....
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=19999


    ใครที่ยังไม่ถึงพระนิพพาน หากเกิดใหม่อยากอายุมาก ๆ ต้องไม่ผิดศีลข้อ 1 นะครับ
    ต้องปฏิบัติให้มีความเมตตา กรุณา ที่สูงอย่างยิ่ง....

    บ้างช่วงเวลาที่อายุขัย 80,000 ปี ก็ต้องเกิดเป็นเด็ก เสีย 20,000 ปี
    ก็ไม่รู้ว่า จะสุข หรือทุกข์ ที่ต้องเป็นเด็ก 20,000 ปี
    ในห้วงเวลานั้น คนมีบุญดีมาเกิด ก็คงจะสุขอย่างทางโลกธรรมได้ดี....

    ใครเบื่อการเกิด ก็พิจารณาเอาเอง นะครับ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2005
  6. sketchdesign

    sketchdesign Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +32
    ขออนุโมทนา
     
  7. tassanai_k

    tassanai_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,518
    โมทนาด้วยครับ สาธุๆๆ
     
  8. นิรมิต

    นิรมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +171
    อนุโมทนา สาธุ
     
  9. chatsiri

    chatsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +195
    อนุโมทนา....เจริญธรรม
     
  10. ab

    ab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2004
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +185
    โมทนากับคุณมหาหินด้วยค่ะ ได้ความรู้ละเอียดเพิ่มขึ้นมาอีก
     
  11. varanyo

    varanyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    925
    ค่าพลัง:
    +3,373
    ขออนุโมทนาครับ

    ศึกษาวิธีสร้างบุญบารมี...ของสมเด็จพระญาณสังวร...ได้ที่

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=19673

    เว็บไซต์ประวัติและธรรมเทศนาหลวงปู่หลวง กตตฺปุญฺโญพระสุปฏิปันโนสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

    http://members.thai.net/varanyo/pooluang.asp
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ลักษณะพุทธศาสนา...สมเด็จพระญาณสังวร<O:p</O:p<O:p</O:p


    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=168173
     
  12. เช่นนั้นเอง

    เช่นนั้นเอง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2006
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +22
    แล้วบุญบารมีที่ท่านช่วยเหลือคนทั้งหลายให้พ้นจากรากษส และการดูแลมารดาล่ะ ไม่ช่วยค้ำจุนท่านบ้างเหรอ น่าจะบอกหน่อยนา ผลบุญตรงนี้
     
  13. PCO

    PCO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +3,626
    กราบอนุโมทนาระลึกนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จท่าน
    ที่ต้องเสียสละทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในวิถีของการบำเพ็ญพระโพธิ
    ญาณ ได้ยินคราวใด หรือนึกถึงเรื่องแบบนี้คราวใด มันสะท้อนใจ
    ผลที่ผู้กล้าลูกผู้ชายชาตรีได้รับนั้น มันบรรยายไม่ได้จริงๆ
    สำหรับผมแล้วเรื่องนี้อยู่ในใจอยู่ในความทรงจำเสมอมา
    และจะไม่มีวันจางหายไปจากใจกับพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
    ท่าน


    โมทนาสาธุกับคุณมหาหินครับที่นำเรื่องนี้มาให้สาธารณะชนได้รับรู้กัน
     
  14. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    ..................................................................................

    จาก.. อจินไตย 4

    อจินติตสูตร
    เล่มที่ ๒๑
    [๗๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ ประการนี้ อันบุคคลไม่ควรคิด เมื่อบุคคลคิด พึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน
    อจินไตย ๔ ประการ เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    พุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ๑
    ฌานวิสัยของผู้ได้ฌาน ๑
    วิบากแห่งกรรม ๑
    ความคิดเรื่องโลก ๑
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ ประการนี้แล ไม่ควรคิด
    เมื่อบุคคลคิด พึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน ฯ
    จบสูตรที่ ๗
    <O:p...................................................................................

    พอที่จะจำได้ว่า องค์หลวงพ่อฯ เคยกล่าวสอนไว้....

    ในเรื่องของพุทธวิสัย เป็นเรื่อง 1 ใน 4 ของอจินไตย ที่ไม่พึงคิด

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่า..
    ต่อให้ เนรมิต พระพุทธเจ้า ขึ้นมา 2 พระองค์
    แล้วให้ทรงตรัสถาม และตรัสตอบ
    เฉพาะในเรื่องของพระโพธิสัตว์พระองค์หนึง
    ที่บำเพ็ญบารมี สร้างคุณความดี ไว้มากมาย
    เพื่อให้บรรลุถึงพระโพธิญาณ นั้น
    ต้องสร้างบุญบารมี อะไรบ้าง....

    พระพุทธองค์ ทรงตรัสว่า....
    ต่อให้ถาม และตอบ จนสิ้นระยะเวลา 1 กัป
    ก็ไม่สามารถธิบาย บรรยาย คุณความดี ได้หมดสิ้น

    .................................................................................

    ดังนั้น..

    บุญที่ท่านช่วยเหลือผู้คน ให้พ้นภัยจากรากษส
    บุญแห่งความกตัญญู
    บุญแห่งสัจจบารมี
    และ บุญอื่น ๆ

    ที่พระโพธิสัตว์ ท่านบำเพ็ญเพียรสร้าง ในชาตินั้น

    ก็คือ บุญ 1 เม็ดทราย ที่เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละชาติ
    จนกว่าจะเป็น ชายหาด ได้ ก็เข้าถึง พระโพธิญาณ ได้

    ...................................................................................

    เราพึงระลึกว่า....

    พระพุทธองค์ ท่านทรงบำเพ็ญพระบารมี
    มายาวนาน เพียงใด เพียงเพื่อให้บรรลุถึง พระโพธิญาณ
    แล้วนำพระธรรม คำตรัสสอน มาแนะนำพวกเรา

    ให้พวกเรา สามารถบรรลุถึงซึ่ง พระนิพพาน แดนอันบรมสุข

    อย่างนี้..
    พวกเรา จะพอมองเห็นพระมหากรุณาธิคุณ ของ
    สมเด็จพระประทีปแก้วสัมมาสัมพุทธองค์

    กันได้ดี ใช่ไหม....

    ....................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2007
  15. กองทัพเทพ

    กองทัพเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +2,629
    จำได้ตอนอ่านพุทธประวัติ ที่พระพุทธเจ้า ทรงปลงอายุสังขาร ว่า
    ที่ ทรงมีพระชนมายุเพียง ๘๐ พรรษา เพราะ พญามารมาทูลเชิญ
    เพราะตรัสเป็นสัญลักษณ์ ให้ พระอานนท์ทราบ ถึง ๓ ครั้ง
    พระอานนท์ก็ ไม่เข้าใจ
    จนแผ่นดินไหว จึงทูลถาม
    แต่นั่น แม้พระอานนท์ จะอาราธนาถึง ๓ ครั้ง
    ก็สายเสียแล้ว

    [​IMG]

    มีอ้างอิงด้วย
    http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/001752.htm


    เลยได้ข้อคิดว่า ใครพูดอะไรฟังให้ดีนะ เผื่อมีความหมายแฝง
    เวลา ง้อ คนก็ ง้อ ให้ถึง ๓ ครั้งนะ
    [​IMG]
     
  16. ri_thai13

    ri_thai13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +2,253
    กราบอนุโมทนาอย่างยิ่งกับท่านพี่มหาหินผู้มีจิตคุณธรรมสูง ที่นำพระพุทธประวัติของพระพุทธองค์นำมาให้ได้ทราบ ท่านที่ทราบแล้วก็คงโมทนา ที่ยังไม่ทราบก็ยิ่งโมทนาอย่างยิ่ง ขอให้พี่เจริญในทางโลกและทางธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปนะคะ จะเก็บภาพสวยๆ อันเป็นมงคลนี้ไปฝากแม่ดูในวันแม่นี้ด้วยจ๊ะ
     
  17. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ร่วม [​IMG] อนุโมทนาบุญด้วยครับ.^./|\.^. [​IMG]
     
  18. dap!

    dap! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +442
    เรื่องดีๆ มีประโยชน์อย่างนี้ ก็ขอร่วมอนุโมทนาด้วยนะคร๊าบ สา..ธุ สา..ธุ สา..ธุ
     
  19. wuttichai0329

    wuttichai0329 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,015
    ค่าพลัง:
    +741
    ขออนุโมทนาครับคุณ

    ยินดีด้วยครับ
    ที่มีคนสนเรื่องพระพุทธศาสนาของเรา
     
  20. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786

    ...................................................................................

    องค์หลวงพ่อฯ ได้กล่าวไว้ในลักษณะที่ว่า....
    เป็นกฏแห่งกรรม ทำให้ "บัง" พระอานนท์ไว้ ทำให้ คิดไม่ได้ นึกไม่ออก....

    และการตรัสของพระพุทธองค์ ตรัสอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น
    ไม่มีการผิดไปจาก ข้อความเดิม ดังนั้น จึงไม่มีการตรัสซ้ำในวาระเดียวกัน

    ยกเว้น สิ่งที่อันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เช่น
    การปลงสังขารของพระพุทธเจ้า เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ แผ่นดินสะเทือน

    จนกระทั่งพระพุทธองค์ ทรงตรัสปลงสังขาร
    พระอานนท์ นึกได้ ก็สายไปแล้ว....

    นี่แหละ.. กรรม

    องค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ท่านสอนสั่ง ให้เรายอมรับ ในกฏแห่งกรรม
    แม้พระพุทธองค์ ท่านก็ยอมรับใน กฏแห่งกรรม

    ..................................................................................

    ตัวอย่าง ที่พระพุทธองค์ ทรงยอมรับในกฏแห่งกรรม ได้ชัดเจน

    1. พระพุทธองค์ ทรงสัพพัญญู ย่อมรู้แจ้งเห็นจริงในทุกประการ
    พระองค์ท่าน ย่อมรู้ถึง วิสัยของพระเทวทัต ตั้งแต่ก่อนจะบวชให้ ว่า....
    พระเทวทัต ย่อมปองร้าย มุ่งชีพต่อพระองค์

    แต่พระพุทธองค์ ท่านก็ทรงยอมรับ และบวชให้....

    2. องคุลีมาลย์ ฆ่าคน 999 คน
    คนที่ 1-999 คน ที่ตายไป ก็เป็นกรรมที่เนื่องกันมา กับองคุลีมาลย์
    ที่เคยเกิดเป็น ควาย และชาวบ้าน 1,000 คน รุมฆ่า
    ควาย ได้ตั้งความพยาบาท มุ่งหมายจะเกิดมาฆ่า บุคคลเหล่านั้น

    แม้แต่ แม่ ในชาติที่เป็นแม่ขององคุลีมาลย์
    ก็อยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นด้วย แต่ไม่ได้ร่วมฆ่า เพียงอยู่ร่วมด้วย

    กรรมของเขา ก็ต้องรับไป ทั้งชาวบ้าน และองคุลีมาลย์
    ส่วนกรรมดีขององคุลีมาลย์ ก็เข้าถึง หลังจาก ฆ่าสำเร็จ ตามแรงอาฆาต
    ตรงนี้ พระพุทธองค์ ก็ทราบได้ว่า.. จึงจะสอนสั่งได้.. ก็ต้องไปในเวลานี้

    พระพุทธองค์ ก็ไม่ได้ไปห้าม หรือไปสอนองคุลีมาลย์ ตั้งแต่ยังไม่ฆ่าคน
    หรือเพิ่งฆ่า ไปได้ ไม่กี่คน....

    นี่ ไม่ใช่พระองค์ ไม่ทรงเมตตา....

    แต่ทว่า.. นี่ แหละ กรรม

    เรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายในธรรม ก็เนื่องด้วย กรรม ทั้งนั้น

    ..................................................................................

    ดังนั้น...

    เราจะคิด เราจะกระทำสิ่งใด ไม่ว่าดี หรือเลว มันก็เนื่องในกฏแห่งกรรมทั้งสิ้น
    เราอยากให้กรรมดี หรือกรรมเลว ส่งผลต่อเรา ในวันข้างหน้า ก็ขึ้นอยู่กับ ว่า..
    เราจะตัดสินใจทำกรรมดี หรือกรรมเลว ในปัจจุบัน

    กรรมดี กรรมเลว ก็เนื่องด้วย การปฏิบัติใน ทาน ศีล ภาวนา....
    การปฏิบัติตน ระวังคำพูด และรักษาอารมณ์ ให้ได้ ใน....

    กายกรรม ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ผิดกาเม
    วจีกรรม ไม่พูดปด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล
    มโนกรรม ไม่คิดอยากได้ทรัพย์ผู้อื่นโดยมิชอบ ไม่ผูกพยาบาทอาฆาตต่อผู้ใด
    ........... และ มีความเห็นตรงต่อคำตรัสสอน โดยไม่มีคำคัดค้าน

    หากเราทำได้ อย่างนี้ ก็เข้าสู่กระแสแห่งแดนอนันตบรมสุข คือพระนิพพาน

    ได้แล้ว.

    จึงขอน้อมโมทนา มา ณที่นี้ เป็นอย่างสูง

    ...................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...