ปิดรับบริจาค รวมบันทึกการเดินทางตามรอยพระอาจารย์ ณ บึงลับแล ๒๕๕๒/ร่วมบุญใหญ่หน้า ๑๐๘

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย ญ.ผู้หญิง, 18 ธันวาคม 2008.

  1. Schmeichel

    Schmeichel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +350
    วันศุกร์จะอยู่ที่วัดเขาวง สระบุรี ของหลวงตาวัชรชัยช่วงเช้าค่ะ เพราะมีงานมุฑิตาจิตหลวงตาพร้อมๆกับงานสมโภชน์พระปัจเจกพุทธเจ้าด้วยค่ะ แล้วจึงจะเข้าไปบ้านเสาวรีย์ช่วงเย็นเพื่อไปกราบหลวงพ่อเล็กและนั่งกรรมฐานค่ะ
    ที่จริง ชไมเคิลจะเดินทางไปวัดเขาวงตั้งแต่เย็นวันพฤหัสค่ะ เพราะจะรีบไปช่วยเตรียมงานในวันศุกร์ค่ะ เพราะคนช่วยงานที่วัดมีน้อย ต้องการแรงงานที่เต็มใจจะมาช่วยวัดจัดเตรียมสถานที่พร้อมทั้งช่วยทำอาหารด้วยค่ะ เพราะว่าที่วัดมีงานทีไร ก็จะมีคนมาช่วยกันออกร้านแจกอาหารทุกทีค่ะ
    ใครที่จะไปบ้านเสาวรีย์เย็นวันศุกร์ก็พบกันได้เลยนะคะ ที่จริงวันศุกร์นี้ก็เป็นวันแรงงานแห่งชาติอยู่แล้ว คงมีคนว่างหลายคน พี่น้องคนไหนว่างๆ ก็เข้ามากราบหลวงพ่อเล็กกันนะคะ;welcome3
     
  2. LittleNon

    LittleNon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2006
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +662
    สวัสดีครับ ทุกท่าน

    ผมขอนำข่าวสารงานบุญมาให้ทุกท่านพิจารณาร่วมบุญกันครับ

    http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=417

    งานบุญกฐินปีนี้ คุณซันได้จัดทำพระขรรค์โสฬส (ปลุกเสกในพิธีโสฬสที่จะถึงนี้)
    โดยได้รับความเห็นชอบจากหลวงพ่อเล็กแล้วด้วยครับ

    สำหรับท่านใดที่ยังไม่มี หรือต้องการสะสมวัตถุมงคลของหลวงพ่อเล็ก ขอเชิญแวะเข้าไปร่วมบุญได้นะครับ

    แต่จะเป็นคนละส่วนกับตะกรุดมหาสะท้อน ที่สามารถร่วมบุญกับหลวงพ่อเล็กได้โดยตรง
    ที่บ้านอนุสาวรีย์ชัยครับ

    ขอโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านล่วงหน้า สาธุ

    ขออานิสงค์นี้ จงเป็นปัจจัยให้ทิพย์จักขุญาณของข้าพเจ้าแจ่มใส ชัดเจน ตั้งแต่บัดนี้
    ตลอดทุกชาติไปด้วยเทอญ...
     
  3. กาลกตา

    กาลกตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +424
    ของฝากจากบ้านอนุเสาวรีย์ครับ...
    คำสอนระหว่างฝึกพระกรรมฐาน 2/5/2552

    "... ลมหายใจเข้าออกเป็นพื้นฐานใหญ่ของกรรมฐานทุกกอง เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถ้าให้ความสำคัญก็ต้องบอกว่าลืมลมหายเมื่อไหร่ ก็แปลว่าเราลืมความดีเมื่อนั้น การภาวนากำหนดลมหายใจเข้าออก อย่างต่ำที่สุด ต้องให้มันรู้ลมอัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องบังคับใหัมันภาวนา พูดง่ายๆ ก็คือให้มันภาวนาของมันเอง เราแค่เอาสติไปกำกับไว้เท่านั้น ถ้าสามารถทำอย่างนี้ได้ กำลังของเราจะเริ่มแข็งแรงขึ้น สามารถต่อต้านกิเลสได้มากขึ้นไปตามลำดับ หลังจากนั้นก็ทำให้มันมากยิ่งกว่านี้ไปเรื่อยๆ

    ส่วนใหญ่แล้วพวกเราเมื่อปฏิบัติมาถึงระดับนี้ สิ่งที่ขาดมักจะเป็นวิริยะบารมี คือความเพียรพยายาม กับปัญญาบารมี การที่เราจะพลิกแพลงหาช่องทางต่างๆ ในการรักษาใจของเราไม่ให้เศร้าหมองไปตามรัก โลภ โกรธ หลง
    เรื่องของวิริยะบารมี เราเข้าใจได้ง่าย เพราะว่าทุกคนรู้อยู่ว่าตัวเองขยันหรือว่าขี้เกียจเพียงใด ก็ต้องพยายามกระตุ้นตัวเอง ให้มีความขยันมากขึ้น ปฏิบัติภาวนามากให้ขึ้น เพราะว่าการกระทำทั้งหลายเหล่านี้ ผลประโยชน์เกิดขึ้นที่ตัวเราเอง ไม่ใช่ว่าเราทำแล้วคนอื่นได้รับแทน หรือว่าคนอื่นทำแล้วเราได้รับแทน เมื่อตัวเราทำ ตัวเราได้ รู้ว่าทำน้อยไป ทำไม่เพียงพอ ก็ต้องเร่งรัดตัวเองให้มากขึ้น

    ส่วนในเรื่องของปัญญาบารมีนั้น ถ้าหากว่ากำลังของวิริยะบารมีเข้มแข็ง สมาธิทรงตัวได้ง่าย ปัญญาจะเกิดขึ้น จะเห็นช่องทางว่าเราจะพลิกแพลงอย่างไรถึงจะรักษากำลังใจของตนไม่ให้เศร้าหมอง ไปกับเหตุการณ์ต่างๆ เฉพาะหน้า ทำอย่างไรเราถึงจะรักษากำลังใจของเราเอาไว้ ให้ผ่องใสให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ เราจึงต้องมากำหนดลมหายใจเข้าออกทุกครั้ง ถ้าถามว่าเราทำแค่ไหนถึงจะพอ ต้องบอกว่าทำไปจนตายถึงจะพอ เนื่องเพราะจากว่าตราบใดที่มีชีวิตอยู่ ตราบใดที่ยังรู้ลมหายใจเข้าออกอยู่ ตราบใดที่ยังหายใจอยู่ ก็ต้องรู้ลมหายใจเข้าออกนั้น

    การกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก คือการอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับตอนนี้ อยู่กับเดี๋ยวนี้ ความทุกข์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเรานั้น มักจะเกิดจากจิตปรุงแต่ง ฟุ้งซ่านไปในอดีตบ้าง ไปในอนาคตบ้าง ถ้าฟุ้งซ่านไปในอดีตก็หวนหาอาลัยอยู่กับมัน มันควรจะเป็นอย่างนั้น มันควรจะเป็นอย่างนี้ มันไม่น่าจะทำอย่างนั้น มันไม่น่าจะทำอย่างนี้เป็นต้น ฟุ้งซ่านไปถึงอนาคตก็ไปคิดเผื่อเอาไว้ว่า มันน่าจะเป็นอย่างนั้น มันน่าจะเป็นอย่างนี้ ซึ่งทั้งสองอย่างนั้นเป็นเรื่องของการเสียเปล่า หาประโยชน์อะไรไม่ได้ ถ้าเปรียบก็เหมือนกับการขึ้นรถ รถที่เลยไปแล้ว เราไม่สามารถจะขึ้นมันได้ เพราะว่ามันออกจากท่าไปแล้ว รถที่ยังมาไม่ถึงคืออนาคต เราก็ขึ้นไม่ได้เพราะมันยังไม่เข้าท่ามา มันก็เหลือแต่รถที่จอดอยู่ในท่าปัจจุบันที่เราจะอาศัยขึ้นเพื่อโดยสารไปสู่จุดหมายปลายทางได้

    ดังนั้นการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก คือการทำให้กำลังใจของเราหยุดการปรุงแต่งเรื่องอื่นๆ ที่สร้างขึ้น เป็นการหยุดอยู่กับปัจจุบัน เมื่อเราอยู่กับปัจจุบัน ความทุกข์ต่างๆ ลดน้อยลง ความสุขกายสุขใจมีมากขึ้น ความปีติก็เกิดขึ้น เราต้องพยายามฝึกหัดทำให้ได้บ่อยๆ อยู่กับลมหายใจเข้าออกให้ได้มากที่สุดในแต่ละวัน ต้องทำย้ำแล้วย้ำอีกซ้ำแล้วซ้ำอีกจนมีความคล่องตัว นึกจะทรงกำลังสมาธิเมื่อไหร่ต้องได้ทันที เพื่อประโยชน์ตรงที่ว่าถ้ามีรักโลภโกรธหลงเข้ามา เราจะได้ป้องกันได้ทัน ถ้าเราไม่สามารถจะทรงสมาธิได้ทุกเวลาที่ต้องการ เมื่อรักโลภโกรธหลงเข้ามาเราก็ไม่สามารถจะป้องกันได้ทัน มันก็จะสร้างความเดือดร้อนให้เกิดขึ้นกับเรา

    ดังนั้นในการปฏิบัติทุกครั้งเราจะทิ้งลมหายใจเข้าออกไม่ได้ ต้องตามกำหนดรู้มันไปเรื่อย ตั้งแต่วิตก นึกอยู่ว่าจะภาวนา วิจาร ลมหายใจเข้าออกสั้นหรือยาว เบาหรือแรง คำภาวนาว่าอย่างไร กำหนดภาพพระอยู่ด้วยหรือไม่ ถ้าทำอย่างนี้ได้ทรงตัว จะเกิดอาการปีติต่างๆ ขึ้น เช่น ขนลุก น้ำตาไหล ร่างกายโยกโคลง หรือว่าร่างนี้ลอยขึ้น หรือไม่ก็สั่น หรือไม่ก็รู้สึกตัวพองตัวใหญ่ตัวแตกตัวระเบิดเป็นต้น ตลอดจนเห็นแสงสีต่างๆ อันนี้เป็นขั้นต้น

    ถ้าหากเราทำใจให้สงบ มีลมหายใจรู้ลมหายใจอยู่ มีคำภาวนารู้คำภาวนาอยู่ มันก็จะก้าวข้ามไปเป็นความสุขเยือกเย็นใจ อย่างที่อธิบายเป็นคำพูดได้ยาก เนื่องจากว่าปรกติแล้ว จิตใจของเราโดนไฟใหญ่ ๔ กอง ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ เผาอยู่ตลอดเวลา ทันทีที่กำลังใจก้าวเข้ามาถึงตรงจุดนี้ มันมีกำลังเพียงพอที่จะกดไฟทั้ง ๔ กองนี้ให้ดับลงชั่วคราว เราจะมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเรากำหนดใจต่อจากนี้อีกนิดเดียวเท่านั้น จิตก็เป็นอัปปนาสมาธิทรงตัวในระดับปฐมฌานขึ้นไป ซึ่งจะเป็นพื้นฐานเป็นกำลังให้เราสามารถตัดกิเลสในระดับโสดาบันได้

    ถ้าหากว่าเป็นปฐมฌานละเอียดก็สามารถตัดกิเลสในระดับสกิทาคามีได้ ถ้าถามว่าแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นปฐมฌานหยาบหรือละเอียด ก็ต้องไปกำหนดดูว่าเราสามารถรู้ลมหายใจเข้าออกผ่านจมูก อก ท้อง ท้อง อก จมูก ได้โดยสมบูรณ์บริบูรณ์หรือไม่ ถ้ารู้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ นั่นก็เป็นปฐมฌานอย่างหยาบ แต่ถ้าหากว่ารู้ลมหายใจอัตโนมัติ ไม่ต้องบังคับให้ภาวนา มันก็ภาวนาของมันเอง มีสติรู้รอบอยู่ตลอดเวลาว่าตอนนี้ลมหายใจเข้า ตอนนี้ลมหายใจออก ตอนนี้มันแรง ตอนนี้มันเบา ตอนนี้มันยาว ตอนนี้มันสั้น ตอนนี้มันภาวนาว่าอย่างไร มันรู้อัตโนมัติเป็นเองโดยไม่ต้องบังคับ ถ้าอย่างนั้นจะเป็นปฐมฌานละเอียด

    ถ้าทำได้ถึงตรงจุดนี้เราจะมีกำลังพอตัดกิเลสได้แล้ว ก็ให้มาดูในสิ่งที่จะช่วยให้เราหลุดพ้นได้ อันดับแรกของอารมณ์พระโสดาบัน ถ้าเราจับได้ก็จะหลุดพ้น จากการเวียนตายเวียนเกิดในอบายภูมิชั่วคราว มาเกิดอย่างแย่ที่สุดก็เกิดในโลกมนุษย์เท่านั้น กติกาของความเป็นพระโสดาบันได้แก่ ต้องมีความเคารพพระพุทธเจ้าจริงๆ เคารพพระธรรมจริงๆ เคารพพระสงฆ์จริงๆ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา หรือว่าด้วยใจ ทั้งต่อหน้าหรือลับหลัง ต้องเป็นผู้รักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์ตามสภาพของตนเอง ฆราวาสก็ศีล ๕ หรือศีล ๘ สามเณรก็ศีล ๑๐ พระภิกษุก็ศีล ๒๒๗ เป็นต้น จะไม่ล่วงศีลให้ขาดด้วยตนเอง จะไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นทำให้ศีลขาด จะไม่มีความยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นทำศีลให้ขาด

    และท้ายสุดรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย หายใจเข้าไม่หายใจออกมันก็ตายแล้ว หายใจออกไม่หายใจเข้ามันก็ตายแล้ว ถ้าหากว่ามันตายลงไปเมื่อไร เราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว จิตสุดท้ายจดจ่อตั้งมั่นอยู่ที่พระนิพพาน เมื่อวางกำลังใจอย่างนี้ได้ ก็ให้เอาใจจดจ่อแน่วแน่อยู่ที่พระนิพพาน ถ้าหากว่ายังรู้ลมหายใจอยู่ ยังมีคำภาวนาอยู่ ก็กำหนดรู้ลมหายใจรู้คำภาวนาไป ถ้าหากว่ามันไม่มีลมหายใจ ไม่มีคำภาวนา ก็กำหนดรู้อยู่ว่าขณะนี้ไม่มีลมหายใจ ขณะนี้ไม่มีคำภาวนา อย่าไปกลัว อย่าไปดิ้นรน อยากให้มันพ้นไปก็ไม่ได้ อยากหนีจากมันก็ไม่ได้ แค่มีหน้าที่รับรู้ไว้แค่นี้ มันจะเป็นอย่างไรก็ปล่อยไปตามสภาพของมัน

    เหมือนอย่างกับเราดูของสิ่งหนึ่ง ดูเฉยๆ ไม่ต้องไปแตะไปต้องไปยุ่งไปเกี่ยว เพราะถ้าแตะต้องเมื่อไหร่จะเป็นการที่เราไปตกแต่งแล้วกำลังใจจะถอยออกมา ก้าวไม่ถึงจุดที่ต้องการ ให้กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกพร้อมคำภาวนา ถ้ามีคำภาวนาและลมหายใจเข้าออก ให้กำหนดรู้ว่ามันไม่ภาวนามันไม่มีลมหายใจเข้าออก ถ้ามันไม่มีคำภาวนาและลมหายใจเข้าออก โดยเอาใจจดจ่อตั้งมั่นอยู่ที่พระนิพพาน จะกำหนดภาพพระก็ได้ หรือไม่กำหนดก็ได้ ให้รักษากำลังใจอย่างนี้เอาไว้จนกว่าจะบอกว่าเลิกได้..."
     
  4. Schmeichel

    Schmeichel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +350
    ไปเจอพี่ๆน้องๆที่บ้านเสาวรีย์ทีไร ไม่เคยได้พูดคุยกันยาวๆเลยสักครั้ง ต้องขออภัยด้วยนะคะ เพราะนั่งอยู่แต่ข้างหน้า เอาจะมองหลวงพ่อเล็กอย่างเดียว เลยไม่มีสายตาไปมองท่านใดได้อีก(smile)

    แต่ที่จริงแล้วก็คือตั้งใจนั่งรับฟังคำสอนของหลวงพ่อเล็กมากกว่าค่ะ ท่านเมตตาสอนพวกเราแบบนี้ ก็ต้องยิ่งตั้งใจมากขึ้นเป็นพิเศษให้สมกับที่ท่านต้องลำบากขันธ์ ๕ มาสอนเราทุกๆเดือนแบบนี้ค่ะ

    คราวหน้าถ้ามาแล้วเห็นชไมเคิลนั่งอยู่ข้างหน้า ก็เข้ามานั่งด้วยกันได้นะคะ (จะได้ใกล้ชิดหลวงพ่อเล็กด้วยค่ะ นั่งแบบชั้น ringside) ;36
     
  5. วรุณบุตร

    วรุณบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +1,018
    สุดยอดเลยท่าน
     
  6. วรุณบุตร

    วรุณบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +1,018
    วันวิสาขบูชา นี้มีใครไปที่ไหนกันบ้างครับ
     
  7. i-Anne

    i-Anne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +694
    ไปงานบวชพระที่วัดท่าขนุนจ๊ะ ไปด้วยกันมั้ย
     
  8. Schmeichel

    Schmeichel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +350
    ไปวัดท่าซุงค่ะ
    ไปฟังธรรมจากท่านจิตโตในวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยค่ะoishi_
     
  9. วรุณบุตร

    วรุณบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +1,018
    ไปวัดท่าขนุนมาครับ มีงานบวชพระ 21 รูป ครับ และได้สนทนากับหลวงพี่หน่อยด้วยครับ ท่านถามถึงชาวคณะบึงลับแลอยู่นะครับ ยังแนะนำให้รู้จักกับคนอื่นด้วย เดี๋ยวท่านจะนำเรื่องราวที่ไปพม่ามาลงในเว็ปวัดท่าขนุนนะครับ ตามอ่านกันนะครับ ท่านผอมลงไปเยอะครับ แต่ก็ดูสดใสเหมือนเดิมครับ
     
  10. cinderella2517

    cinderella2517 Mindset Coach และ นักพยากรณ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +1,404
    ไปสวดมนต์ตอนเย็น ฟังเทศ และเวียนเทียนที่วัดโคกสมานคุณ ใกล้ ๆ ที่พักที่หาดใหญ่จ้า เป็นวาระที่ดีมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่เวียนเทียนครบ 3 รอบแล้วเทียนไม่ดับเลย มาดับก็ตอนครบ 3 รอบแล้วกำลังจะปักลงกระถางพอดี อิอิ ตกกลางคืนก็สวดมนต์ นั่งสมาธิ ช่วงนี้เริ่มนั่งสมาธิแล้ว แต่จิตยังไม่นิ่ง ก็ต้องค่อย ๆ หมั่นฝึกฝนไปเรื่อย ๆค่ะ
     
  11. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ไปหลงทางย้อนอดีตมาเพิ่งถึงบ้านเมื่อตีสี่กว่าๆ

    เอ้า...ไปถึงไหนกันบ้างแล้วเรา

    ลืมคนแก่ขี้บ่นคนนี้ยังจ้ะ

    แจ้งให้ทราบว่า สิ้นเดือนนี้นะคะ ที่บ้านอาจารย์ศิวโมกข์ คุณ พรรณรายคงลงไว้ ไปตามสัญญากันเองนะคะ
     
  12. วรุณบุตร

    วรุณบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +1,018
    ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับพี่ยาย

    ไปงานบวชที่วัดท่าขนุน แม่เห็นพี่ยายเลย เสียดายจัง

     
  13. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    อนุโมทนาบุญกับผลบุญทั้งหลายที่กัลยาณมิตรทุกท่านได้พึงกระทำในวันหยุดนักขัตฤกษ์ประจำเดือน พ.ค. นี้

    และเอาบุญมาฝากทุกท่าน วันหยุดยาว ๑-๗ พ.ค. ล่องใต้หลายจังหวัดพาพระอรหันต์ในบ้านไปตะเวนทำบุญตามวัดต่าง ๆ และวันที่ ๘-๑๑ พ.ค.ไปร่วมกิจกรรมเดินป่าในเขตอนุรักษ์ฯ ของโครงการของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรีมา ขออนุโมทนาบุญร่วมกันค่ะ
     
  14. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ทริปธรรมทัศนาจร (๔) งานเป่ายันต์เกราะเพชรวัดท่าขนุน ,ย้อนรอยสงคราม ๙ ทัพ ,วัดพระแท่นดงรัง จ.กาญจนบุรี วันที่ ๒๗ มิ.ย.๕๒

    [​IMG]

    ภาพพระอาจารย์ในงานพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร

    *** มีทริปมาแจ้งล่วงหน้าประจำเดือน มิ.ย. คือหญิงกับคณะฯ มีโครงการจะไปร่วมงานเป่ายันต์เกราะเพชรของพระอาจารย์ที่วัดท่าขนุน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๒ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๘ โดยจะไปร่วมพิธีในรอบเช้า เสร็จจากพิธีจะเลยไปย้อนรอยชมอุทยานประวัติศาสตร์สงคราม ๙ ทัพ (
    เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกให้มีความตระหนักหวงแหนคุณค่าของความเป็นไทย ระลึกและเทิดทูนวีรกรรมของพระมหากษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ ที่ทรงพระปรีชาสามารถรักษาเอกราชของประเทศมาตราบเท่าทุกวันนี้) พร้อมทั้งไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชมโบราณสถานทางพุทธประวัติ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่วัดพระแท่นดงรัง โดยมีหมายกำหนดการที่แจ้งให้ทราบดังนี้

    กำหนดการเดินทาง โดยรถตู้ปรับอากาศ TOYOTA COMMUTER (ออกเดินทางคืนวันศุกร์)

    เวลา ๐๑.๓๐ น. จุดนัดพบปั๊มน้ำมัน ปตท.สนามเป้า

    ๐๒.๐๐ น. ล้อหมุน

    ๐๖.๐๐ น. เดินทางถึงวัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ทำธุระส่วนตัว ทานอาหารเช้าที่วัดท่าขนุน

    ๐๗.๓๐ น. ร่วมพิธีบวงสรวงและพุทธาภิเษกวัตถุมงคล

    ๑๐.๐๐ น. ร่วมพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร รอบแรก

    ๑๑.๐๐ น. รับประทานอาหารเที่ยง

    ๑๒.๐๐ น. เดินทางออกจากวัดท่าขนุนไปอุทยานประวัติศาสตร์สงคราม ๙ ทัพ รวมชมสถานที่สมรภูมิลาดหญ้า วีดีทัศน์และโต๊ะทรายจำลองเส้นทางการเดินทัพของพม่า

    ๑๔.๓๐ น. เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชมโบราณสถานเกี่ยวกับพุทธประวัติที่วัดพระแท่นดงรัง รับประทานอาหารเย็น

    ๒๐.๐๐ น. ถึง กทม.โดยสวัสดิภาพ

    ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ท่านละ ๕๐๐ บาท


    สำหรับท่านที่สนใจร่วมเดินทาง
    ขอให้ลงชื่อแจ้งความประสงค์พร้อมชำระเงินค่าเดินทางได้
    ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ ๒๐ มิ.ย.๕๒ หรือจนกว่าจะเต็ม
    โดยวิธีโอนชำระเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์
    เลขที่บัญชี ๑๒๑-๐-๑๐๕๔๕-๔ (121-0-10545-4)
    เมื่อโอนแล้วขอให้มาโพสหรือโทรแจ้งที่เบอร์ ๐๘๑-๗๓๕๙๒๖๑

    สำหรับสมาชิกใหม่ีที่่โอนชำระเงินแล้วทุกท่าน กรุณาแจ้งชื่อ-สกุล พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อกลับได้ที่ี่ PM ด้วยค่ะ สมาชิกเก่าไม่ต้องเพราะหญิงมีข้อมูลทุกท่านแล้ว



    รายชื่อกัลยาณมิตรผู้ร่วมเดินทางทริปธรรมทัศนาจร (๔) ทริปเล็ก ๆ ที่อบอุ่นจนร้อน...
    :z8

    ๑. ญ.ผู้หญิง (หญิง)
    ๒. คุณกร (่กร)
    ๓.-๕. คุณ datchanee (ป้อม) จำนวน ๓ ที่
    ๖. คุณ riderman (นะ)
    ๗. คุณวรุณบุตร (กฤศ)
    ๘. คุณกาลกตา (ศาล)
    ๙. คุณ ug_buddha (เม้ง)
    ๑๐. คุณเบญจขันธ์ (เบญ)
    ๑๑. คุณ LittleNon (นนท์)
    ๑๒. คุณกระบือน้อย (อู)
    ๑๓. คุณนู๋เจี๊ยบ (เจี๊ยบ)
    ๑๔. คุณ pollapuk (ชาดำ)

    รวมรายชื่อผู้ร่วมเดินทางประจำวันที่ ๒๐ พค.๕๒ จำนวน ๑๔ คน


    หมายเหตุ
    ไม่อยากจะบอกเลยว่า ทริปนี้น่าจะเป็นทริปที่เดินทางแบบสบายที่สุดของเหล่าชาวคณะ ฯ เพราะทริปอื่น ๆ ที่เคยจัดมาไม่เดินป่า มุดถ้ำ ก็ต้องปีนเขา ทริปนี้จัดเอาใจเหล่า สว.ทั้งหลาย ให้ได้ไปนั่งทำพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดแบบสบาย ๆ ก่อนที่จะไปย้อนรอยบุญเที่ยวที่อื่นต่อ ฮิิ ฮิ ฮิฺ..... อ้อ! ลืมบอกสโลแกนของทริปชาวคณะยังเหมือนเดิมนะ เงินไม่พอเก็บเพิ่ม เงินเหลือทำบุญ เพราะตอนนี้เงินกองกลางที่เหล่าชาวคณะสะสมเป็นเงินคงเหลือจากแต่ละทริป มียอดรวม ณ.วันที่ ๑๓ พ.ค. ๕๒ จำนวน ๒,๐๐๐ บาท รอสะสมไว้ร่วมถวายสร้างพระชำระหนี้สงฆ์องค์ที่ ๓๐ กันค่ะ

    อีกเรื่องกำลังคิดจะทำเสื้อทีมแล้วเพราะงานนี้พระอาจารย์จัดทีไร คนเยอะล้นศาลาทุกที จะได้มองหากันง่าย เดี๋ยวหญิงจะลองนำภาพหมู่ของชาวคณะ ฯ ที่ถ่ายกันที่หน้าบึงลับแล หรือไม่ก็ภาพบึงฯ ไปให้ร้านเขาดูว่าสามารถที่จะนำมาสกรีนลงเสื้อได้หรือเปล่า และจะสอบถามราคามาให้เสร็จสรรพว่าตกราคาตัวละเท่าไร กัลยาณมิตรท่านใดใส่เบอร์ไหนแจ้งมาได้ค่ะ แต่เท่าที่ดู ๆ ท่าทางจะเป็น XL กันเกือบทั้งนั้นสำหรับหนุ่ม ๆ เอ๊ะ! หรือหนุ่มบางท่านจะเป็น XXL หว่า
    <label for="rb_iconid_21">[​IMG]</label><label for="rb_iconid_21">[​IMG]</label><label for="rb_iconid_21">[​IMG]</label>


    ภาพประกอบ
    ลำดับที่ ๑ ภาพพระอาจารย์ในงานเป่ายันต์เกราะเพชร
    ลำดับที่ ๒ อนุสาวรีย์กรมพระราชวังบวร ฯ
    ลำดับที่ ๓-๑๑ พระอุโบสถ , แท่นนิพพาน , รอยพระพุทธบาท , วิหารบดยา ภายในวัดพระแท่นดงรัง
    ลำดับที่ ๑๒ ป้อมค่่ายในสมรภูมิิลาดหญ้า สงคราม ๙ ทัพ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2009
  15. วรุณบุตร

    วรุณบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +1,018
    ถ้ามีเวลาเหลือเราแวะไปกราบหลวงลุงที่ราชบุรีมั้ยครับ ขากลับแวะกินข้าวที่ศาลยากันมั้ยครับ
     
  16. Schmeichel

    Schmeichel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +350
    เป่ายันต์จะไปบ้านสบายใจค่ะ

    แต่รอพี่หญิงจัดรถไปงานพิธีโสฬสแทนค่ะ
    ใกล้ๆกัน;aa44
     
  17. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    เวลาไม่เหลือเลยค่ะกฤศ เพราะหญิงบริหารเวลาได้เท่านี้ เพราะที่วัดพระแท่นดงรังอยากให้พวกเราได้มีเวลาอยู่ชมโบราณสถานพุทธประวัติและนั่งสมาธิในสถานที่จริงกัน แล้วอีกอย่างเส้นทางที่จะไปวัดพระแท่นดงรังอยู่คนละทิศทางกับทางที่จะไปราชบุรี แต่เรื่องอาหารเย็นตั้งใจว่าจะพาพวกเราแวะทานกันที่ศาลายาเจ้าอร่อยเจ้าเดิมของพวกเรานั้นล่ะค่ะ อิ อิ อิ

    เรื่องที่จะไปกราบหลวงลุงกันที่ราชบุรี ไว้หญิงอาจจะจัดเป็นทริปเล็ก ๆ ไปสักการระรอยพระพุทธบาททางนั้น , กราบหลวงลุง และแวะเที่ยวสักการะพระปฐมเจดีย์กันด้วยค่ะ




    อนุโมทนาด้วยค่ะน้องชไม

    งานวันพิธีโสฬส พี่อาจจะจัดไปหลายวันนะคะ ขอดูเหตุการณ์ใกล้วันจริงก่อนว่าจะติดงานเข้าทางโลกหรือเปล่า ถ้าไม่ติดงานเข้าทางโลกและไม่ติดฝนอาจจะได้ไปเดินป่าบึงลับแลและพักค้างคืนปฎิบัติธรรมที่นั้นสักคืน ก่อนที่จะมามุดถ้ำพระธาตุใต้เขาพระพุทธบาทท่าขนุนกันต่อค่ะ
     
  18. raiderman

    raiderman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +109
    สวัสดีครับพี่หญิง
    นึกว่าไปงานเป่ายันต์ จะได้ไปมุดถ้าอีกแระ ^^
    จาไปด้วยนะครับ
    แต่ว่าเดี๋ยวสิ้นเดือนน้องนะ โอนเงินไปให้คุณพี่แล้วกันเด้อครับ
    ^^
     
  19. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932

    รับทราบค่ะน้องนะ ทริปนี้เกือบจะได้มุดถ้ำพระธาตุใต้เขาพระพุทธบาทแล้ว แต่่ต้องมีเวลาอย่างน้อย ๒ วัน ไม่อย่างนั้นไม่เพียงพอ แล้วอีกอย่างพี่เห็นว่าสัปดาห์ถัดมาก็จะมีงานพิธีพระขรรค์โสฬส แล้วมีวันหยุดยาวติดต่อกัน ๔ วันเต็ม ช่วงนั้นเวลาน่าจะเพียงพอมากกว่าค่ะ


    ส่วนรายชื่อกัลยาณมิตรที่ร่วมทริปนี้่จะนำไปลงไว้ในหน้าที่่ ๗๑ คคห.ที่ ๑๔๑๗ กัลยาณมิตรท่านไหนไปบ้างก็ไปร่วมตรวจสอบรายชื่อกันเองค่ะ แต่ถ้าใครเจาะจงจะไปเฉพาะงานเป่ายันต์ฯ อย่างเดียวขอให้รอไปกับทางพี่ตั้มได้ เพราะพี่ตั้มจัดไปเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว แต่ถ้าไปกับหญิง ๆ ลากยาวเฟื้อยทุกทีเพราะถือคติว่าถ้ามีโอกาสได้ไปแล้วต้องไปให้คุ้มทุกที่ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ไปค่ะ อิอิอิ
    :p

    :VO;aa8
     
  20. Schmeichel

    Schmeichel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +350
    อยากได้มั่งอ่ะ เสื้อทีมเนี่ย
    แต่ไม่อยากให้เป็นสีขาวเลยค่ะ
    เพราะพวกเราบุกตะลุยไปทุกที่
    ใส่สีขาวจะเป็นอุปสรรคมากๆเลยค่ะ
    อีกอย่าง เวลาไปวัด ใครๆก็ใส่แต่สีขาว ถ้าเราทำแหวก (ฉีกแนว) ใส่สีดำหรือกรมท่าล่ะก็ เท่อย่าบอกใครเลยเชียว
    :z8
     

แชร์หน้านี้

Loading...