ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    อนุโมทนาบุญค่ะ ขอบคุณที่แนะนำค่ะคงต้องลองดูแล้วค่ะ ถ้ามีความคืบหน้ายังไงจะมาขอคำแนะนำอีกค่ะ
    แต่ยังไงก็ยังรออ่านของคุณ และท่านอื่นๆอีกนะค่ะ
    ที่สำคัญไม่รู้ว่าจะเล่าดีหรือเปล่า แต่ก็เล่า ดีกว่า อิ อิ เคยอธิษฐานจิตกับหลวงพ่อพุทธนิมิตรพิชิตมาร ในโบสถ์วัดหน้าพระเมรุว่าขอเป็นลูกของท่าน ขอให้ท่านเป็นครูบาอาจารย์(ก็อธิษฐานถึงพระพุทธเจ้านั่นแหละค่ะ ) ถ้ามีสิ่งใดก็ขอท่านให้มาบอก ขอให้มาเข้ามิ่งสิงขวัญ ก็เลยได้แต่ฝันบางทีก็บอกกับคนที่บ้านว่า หลับก็เหมือนไม่ได้หลับ หลับทุกทีก็มีอีกมิติที่ต้องไปตลอด แทบทุกคืนหรือทุกคืนเพราะบางคืนตื่นมาก็จำไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็จะจำได้ค่ะ เฮ้อ
     
  2. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    แสดงว่าไปตอนหลับ ยังไงลองพยายามฝึกจิตนะคะ บางทีจะได้ไปตอนตื่นๆนี่แหละค่ะ เอาใจช่วยค่ะ อนุโมทนาด้วยนะคะ
     
  3. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

    "เขียนมากเล่ามากคนที่ไม่รู้ ไม่ชอบจะหาว่าโม้เปล่าก็ไม่รู้ค่ะ "

    ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลจะพิจารณาครับ เราไม่อาจจะห้ามความคิดของละบุคคลครับ

    เป็นกำลังใจให้มาเล่าต่อเรื่อยๆครับ

    ผมถือว่าเป็นกุศลของผู้เล่า และเป็นบุญของผู้อ่าน ที่ได้อ่านเรื่องราวดีๆ เช่นนี้ครับ

    เรื่องราวที่ได้อ่านนี้ ถ้าไม่ได้อ่านจาก คุณ Me, Myself แล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะหาอ่านได้จากไหนครับ

    ผมว่าหลายท่านมีความคิดเหมือนผม คือให้กำลังใจคุณ Me, Myself มาเล่าเรื่องราวดีๆ ต่างๆ ซึ่งรวมทั้ง ธรรมะ คติ ข้อคิด รวมทั้งความสนุกด้วยครับ เวลาไปสถานที่ต่างๆ เพียงแต่ท่านอื่นๆ ไม่ได้ลงมาเขียน แสดงความคิดเห็น แสดงตนออกมา จริงๆแล้ว ผมคิดว่าคุณ Me, Myself มี fanclub พอสมควรครับ

    รออ่านอยู่ ทุกเรื่อง ทุกตอน ทุก Episode ครับ

    บุญรักษาครับ


     
  4. Pikzy

    Pikzy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +619
    แหม่.....ติดตามมานานครับ นานทีเดียว

    อ่านแล้วก็ รู้สึกสบายใจดีนะครับ ด้วยถ้อยคำตามธรรมชาติ

    บางกระทู้ อ่านข้อความแรกก็ธรรมดา พอข้อความต่อ ๆ มาเถียงกันซะแล้ว

    ยกอาจารย์นั้นบ้าง ยกครูนี้บ้าง ท่านว่าผิดบ้าง ท่านบิดเบือนบ้าง

    แล้วยกเอา "ถ้อยคำในตำรา" มาถกเถียงกัน ขั้นเอาเป็นเอาตาย

    ก็คิดไปว่านี้หรือ ที่จะทำให้หลุดพ้น

    สำหรับความคิดของผมนั้น คำง่าย ๆ ไม่ต้องพิศดาร ไม่ต้องอ้าง คัมภีร์ เล่มที่เท่าไหร่ หน้าที่เท่าไหร่

    แค่อ่านแล้วเข้าใจ และสามารถที่จะใช้ปัญญาตัวเองพิจารณา ตาม "จริง" ผมถือว่านั่นสิ มีประโยชน์

    อนุโมทนาจากใจจริงครับ ^^

    ปล. ในความไม่มีประโยชน์ ถ้าเป็นคนซึ่งมีปัญญา ก็มีประโยชน์ได้ร่ำไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2009
  5. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวไปทำบุญที่วัดก่อนนะค่ะ บ่ายๆจะกลับมาสนทนาอีกครั้ง
    และขอต้อนรับท่านที่แสดงตัวในกระทู้และท่านที่อ่านอย่างเงียบๆด้วยค่ะ
     
  6. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ไปใส่บาตรมาเมื่อเช้านี้ค่ะ เอาบุญมาฝากทุกท่านค่ะ
     
  7. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนาค่ะ
     
  8. ดับ

    ดับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +533
    อนุโมทนาครับ ผมก็เอาบุญมาฝากครับ เมื่อเช้าผมก็ได้ใส่บาตรและปล่อยปลาด้วย
     
  9. Jenny_Lee

    Jenny_Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +1,357
    อย่าหยุดเขียนนะคะ บทความของคุณ Me Myself มีประโยชน์และน่าสนใจมากๆค่ะ หาอ่านที่ไหนไม่ได้จริงๆ ดิฉันติดตามอ่านตั้งแต่แรกๆเลยนะค่ะ และทุกวันนี้ก็คอยเปิดอ่านอยู่บ่อยๆถ้ามีเวลา แอบอ่านอยู่เงียบๆค่ะ ตามประสาคนที่มีความรู้เรื่องนี้น้อยนิดนัก เขียนต่อไปนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
     
  10. เงินไหลมา

    เงินไหลมา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,412


    อนุโมทนาบุญครับ สาธุ.....................
     
  11. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    อยากจะเตือนท่านกัลยาณมิตรสักหน่อยนะคะ เรื่องการปฎิบัติ ทั้งผู้ทำได้แล้วและยังไม่ได้ ให้ระวังจิตของตัวให้ดีๆ เพราะจะมีมารมาผจญเรื่อยๆ มาได้หลายรูปแบบ อย่าลืมว่าจิตที่รู้ที่เห็น ให้เก่งยังไงก็ต้องมี "สติ" คอยควบคุมอีกที อย่าได้เผลอตัวไม่มีสติเด็ดขาด เพราะคุณจะไม่สามารถแยกแยะดีชั่วได้ ไม่รู้อะไรจริง อะไรหลอก ดิฉันก็ยังพบเจอเรื่อยๆนะคะพวกมารที่มาผจญเนี่ย แต่ว่ารู้ทันมันค่ะ ก็เลยยังไม่เป็นอะไร

    ที่มาเตือนกันนี่ไม่ใช่อะไรค่ะ พอดีมีน้องเขาส่งหลังไมค์มาเล่าปัญหาของคนที่บ้าน เรื่องฝึกๆไปกลายเป็นเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ดิฉันยังไม่ได้ขออนุญาตน้องเค้าว่าจะเอาเรื่องของเค้ามาเขียนเป็นอุทาหรณ์ ก็เลยจะยังไม่เล่ารายละเอียด แต่จากที่เขาเล่ามา ดิฉันรู้ปัญหาว่าเกิดจากการสติหลุดแน่นอน แล้วมารก็เข้าแทรก ตอนนี้เป็นปัญหาใหญ่มาก ดิฉันก็ยังไม่รู้ว่าจะช่วยเขาได้หรือเปล่า ต้องไปขอบารมีพระศาสดาช่วยดูให้ก่อน ดิฉันก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรก็เป็นแค่คนธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่อ่านเรื่องของน้องเขาแล้วก็รู้ว่าปัญหามันใหญ่จริงๆ ไอ้อยากช่วยก็อยากช่วย แต่ไม่รู้ว่ามันจะช่วยได้หรือเปล่านี่ซิ ก็จะลองพยายามดู

    อย่าลืมนะคะว่า ต้องมีสติรู้อยู่ตลอดเวลา เพราะคุณอาจหลงไปกับสิ่งที่คุณเห็นได้ ต้องยอมรับค่ะว่า ถ้าคุณได้ไปเห็นเหมือนอย่างที่ดิฉันเห็น บางสถานที่นี่มันสวยงามมากกกกกกกก แทบไม่อยากจะจากมาเลยแหละ ถ้าคุณหลงมัวเมาละก็ ระวังมารจะเข้าแทรก หรือไม่ก็หลงติดกับการอยากมี อยากได้ อยากเป็น อย่าได้หลงคิดเป็นเด็ดขาด ต้องผ่านมันไปให้ได้ มันก็แค่ทางผ่านนะคะ แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ การที่จะไปให้ได้ถึงสิ่งที่หวัง หนทางมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่งั้นคนคงจะไปกันได้ง่ายๆแล้วค่ะ หนทางที่คุณจะไปมันเต็มไปด้วยขวากหนามแล้วก็มารทั้งหลายแหล่ อย่าได้หลงไปเข้าทางมันเชียว แล้วคุณจะกู่ไม่กลับ ขอเตือนด้วยความหวังดีนะคะ

    ขอให้มี สติ รู้อยู่กับตัวตลอดเวลาที่ทำสมาธินะคะ อนุโมทนาค่ะ
     
  12. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ


     
  13. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ


     
  14. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ


     
  15. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ


     
  16. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ อีกครั้งครับ (ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว แต่จะโมทนาบุญไปเรื่อยๆครับ)

    ขอบคุณครับสำหรับข้อแนะนำ คติธรรม ดีๆ

    จะจำไว้ให้ดีเลยครับ "สติ" "สติ" "สติ"

    "สติมี สตางค์มา"

    เอะ เกี่ยวกันไหมนี่


    บุญรักษาครับ

     
  17. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    ขอสนับสนุนข้อความของคุณ Jenny_Lee ครับ

    คุณ Me, Myself มี fan club ทั้งแสดงตน และ ยังไม่แสดงตน พอสมควรแล้วน่ะครับ

    โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าทุกท่านมาให้กำลังใจ คุณ Me, Myself ให้มาเล่าเรื่องดีๆ ให้ทุกๆท่านได้อ่าน เพื่อที่ทุกท่านๆจะได้นำ ข้อแนะนำ คติธรรมไป เป็นแนวทางปฏิบัติในการ ดำเนินชีวิตครับ


    บุญรักษาครับ


     
  18. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ช่วงนี้จะยังไม่เล่าเรื่องไปท่องเที่ยวนรก-สวรรค์นะคะ เพราะว่ามีเรื่องเร่งด่วนเรื่องการช่วยเหลือคน ดังนั้นการทำสมาธิช่วงนี้เป็นการไปขอบารมีองค์พระศาสดากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จากกรณีของคนที่เล่าให้ฟังไว้ เมื่อคืนนี้พอขึ้นไปข้างบน โอ้โฮ...เทพมารอกันอยู่เต็มไปหมดเลย ทั้งพระศาสดา หลวงปู่โต หลวงปู่ทวด พระโพธิสัตว์กวนอิม ท่านเง็กเซียนฮ่องเต้ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ฯ

    ยังกับการประชุมอัศวินโต๊ะกลม เพราะดิฉันอยู่กลางวงของท่านทั้งหลายเลย เมื่อคืนนี้ดิฉันลองเรียกจิตของผู้ที่กำลังมีปัญหามาด้วย (ตอนนั้นกลับลงมาไปโบสถ์หลวงพ่อแล้ว) มาถึงก็โวยวายเลย พูดเป็นเสียงซ้อน มองเห็นมีวิญญานซ้อนอยู่ในตัว คาดว่าร้ายไม่ใช่เล่น เพราะเทพทั้งหลายมาเลย มายืนกั้นกลางระหว่างดิฉันกับวิญญานนั้น คือดิฉันอยู่ในโบสถ์นะคะ วิญญานน่ะอยู่นอกโบสถ์ ดิฉันก็ไม่ได้กลัวนะคะ ก็นิ่งๆ ก็นั่งฟังทั้งเทพและวิญญานเถียงกัน เทพจะเอาเรื่องแล้วค่ะ วิญญานเลยหนีกลับไปเลย ดิฉันเรียกมาอีกที ปิดกั้นไปเลยไม่ยอมมา องค์พระศาสดาบอกว่าให้ไปหาคนมาช่วยเขา เพราะดิฉันไม่ได้มีบารมีสูงพอที่จะต่อกรกับวิญญานร้าย ก็ว่าจะไปหาอาจารย์ที่ท่านมีฌาณขององค์พระโพธิสัตว์ พอดีดิฉันกำลังจะพาเพื่อนไปหาอาจารย์พอดีในวันอาทิตย์ ก็คิดว่าจะเอาเรื่องของเขาไปให้อาจารย์ตรวจดูด้วยเพื่อหาทางแก้ไข ก็หวังว่าจะช่วยเขาได้
     
  19. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    วันนี้จะมาเขียนเล่าประสบการณ์ตรงของตนเองให้กัลยาณมิตรไว้อ่านเพื่อศึกษาและใช้ปัญญาพิจารณานะคะ เกี่ยวกับเรื่องเทพ เรื่องตำหนักทรง ค่อยๆอ่านไปแล้วก็ใช้ปัญญาพิจารณาไปด้วย ดิฉันจะไม่เอ่ยชื่อสถานที่ และก็ไม่ได้ชักชวนให้เชื่อหรือไม่เชื่อ ดิฉันจะเขียนเล่าจากประสบการณ์ของตัวเองแล้วก็จากการพิจารณาของดิฉันเองนะคะ

    ดิฉันรู้จักเรื่องการทรงตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กเล็กๆ เพราะพ่อเคยพาไปที่บ้านป้าแล้วก็เห็นป้าทรงเสด็จพ่อ ร.5 ก็ไม่รู้หรอกว่าจริงเท็จแค่ไหนเพราะยังเป็นเด็ก รู้แค่ว่าพอป้าเข้าทรง จากที่ไม่เคยสูบบุหรี่ก็สูบได้ติดๆกันหลายมวน แล้วเสียงที่ออกจากปากป้าก็เป็นเสียงผู้ชายไม่ใช่เสียงป้า แต่ด้วยความที่เราเป็นเด็กก็ไม่ได้สนใจอะไร นั่นคือครั้งแรกที่รู้เห็นเรื่องการเข้าทรง

    ครั้งที่สองตอนเรียนอยู่มัธยม แล้วก็จะไปสอบเรียนต่อในที่ๆนึง ก็มีคนติดต่อให้แล้วก็เรียกเก็บเงินค่าสมัครอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อยๆ จนดิฉันแล้วก็เพื่อนอีกคนที่จะไปสอบด้วยกันสงสัย เพื่อนก็เลยแนะนำว่าไปหาคนทรงที่ทรงเสด็จพ่อ ร.5 กันเถอะให้ท่านช่วยดูให้ ดิฉันก็ตามเพื่อนไป ไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จอีกแหละเพราะเหมือนท่านก็ไม่ค่อยอยากคุยกับเรา บอกแค่ว่าไอ้ที่เราหวังอ่ะไม่ได้ แค่นั้นแหละ แล้วก็ว่ามีอะไรอีกไหม เพราะมีคนอื่นรออยู่ พูดง่ายๆก็คือไล่นั่นแหละ ก็เลยกลับออกมาแบบว่าไม่ได้ศรัทธาอะไร หลังจากนั้นก็ไม่เคยไปตำหนักทรงที่ไหนอีกเลยในระยะหลายสิบปี

    ประมาณปี2549 เพื่อนในออฟฟิสไปรู้จักคนๆหนึ่งที่เขายกย่องนับถือเทพฮินดูมาก เพราะเขาเคยตกอับแล้วมีคนแนะนำให้ไปที่เทวาลัยแล้วเขาก็ดีขึ้นๆ เพื่อนก็เลยอยากจะไปลองดู ก็มาชวนดิฉันซึ่งดิฉันไม่ได้อยากไปเพราะเป็นคนนับถือพระพุทธเจ้า ไม่เคยคิดถึงเรื่องเทพของฮินดูเลย แต่เพื่อนก็มาเซ้าซี้ทุกวันบอกว่าให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย เพราะไปคนเดียวไม่กล้าไม่รู้ว่าที่แห่งนั้นเป็นยังไง ด้วยความที่เป็นห่วงเพื่อนก็เลยตอบรับไป แต่ก็บอกว่าแค่ไปเป็นเพื่อน ดิฉันไม่ยุ่งเกี่ยวกับพิธีอะไรทั้งหมด ตกลงเลิกงานก็ไปกัน สถานที่ของเขาดิฉันยอมรับว่าจัดไว้ดีมาก มีสวนนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ดูไม่ได้น่ากลัว คนที่รับรองก็พูดจาดี เขาก็ถามว่ามาไหว้เทพเหรอ ก็ให้เข้าไปด้านใน ดิฉันก็เดินตามเพื่อนเข้าในไปตึก โดยที่ไม่รู้ว่าพอเข้าไปก็เป็นห้องพิธีเลย มีเทวรูปของเทพศิวะ องค์อุมาเทวี แล้วก็องค์พระพิฆเนศ ก็มีคนแนะนำวิธีไหว้องค์เทพให้ ดิฉันก็รับฟังเฉยๆ โดยที่ไม่ได้เดินเข้าไปไหว้เทวรูปนั้น ส่วนเพื่อนก็ไปไหว้แล้วก็มาบอกให้ดิฉันไปไหว้บ้าง ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้ทำ แล้วในช่วงเวลาต่อมาไม่กี่นาที เขาก็จะสวดมนต์กัน ดิฉันก็เลยอยู่ไม่ได้ ก็เลยบอกเพื่อนว่าขอไปรอข้างนอก แล้วดิฉันก็เดินออกไปเลย

    พอดิฉันออกมานั่งรอที่ข้างนอก อยู่ๆดิฉันก็เจ็บหลังตั้งแต่บั้นเอวจนขึ้นมาถึงกลางหลังเฉยๆ ตอนแรกนึกว่านั่งผิดท่า ก็เปลี่ยนท่านั่งท่าโน้นก็แล้วท่านี้ก็แล้ว มันก็ไม่หาย เจ็บร้าวไปหมด จนไม่นานเพื่อนก็ออกมาหา (เขาสวดมนต์กันไม่นาน) ดิฉันก็บอกเพื่อนว่าเจ็บหลังไม่รู้เป็นไร เพื่อนไปจองคิวดูดวงไว้ด้วยแต่ต้องไปรอในห้องเพราะเขาไม่ออกมาตาม ก็เลยชวนดิฉันให้เข้าไปรอในห้องด้วยกัน ดิฉันก็นึกว่าเขาคงจะเสร็จพิธีแล้วก็เลยกลับเข้าไปอีก ที่ไหนได้นั่งไปไม่กี่นาทีเขาจะสวดมนต์กันอีกแล้ว เอาไงละทีนี้ จะเดินออกไปอีกทีก็น่าเกลียด ก็เลยคิดว่าไหนๆก็ไหนๆ อีกอย่างดิฉันก็ยังเจ็บหลังอยู่ คิดว่าโดนลองดี การสวดมนต์ของที่นั่นจะมีคนนำสวดให้ เราแค่นั่งพนมมือหลวมๆ นั่งหลับตาแล้วก็ขอพรไป ขออะไรก็ได้ให้นั่งขอไประหว่างที่เขาสวดมนต์ ดิฉันก็เลยลองดูว่า ถ้าท่านแน่จริงก็ขอให้ไอ้ที่เจ็บหลังอยู่นี่มันหายซิ มันหายจริงๆค่ะ ก็รู้แล้วแหละว่าเขาลองดีเราเพราะเราดันเดินออกจากห้องไปครั้งแรก

    จริงๆดิฉันก็ไม่ได้ลบหลู่ เพราะเรื่องเหลือเชื่อมันมีจริง เพียงแต่ว่าดิฉันไม่ได้ต้องการมาศรัทธาเขาแค่มาเป็นเพื่อนเพื่อนเท่านั้น แต่เขาอาจจะมองว่าดิฉันลบหลู่ก็ได้ก็เลยทำให้เจ็บซะเลย ดิฉันก็เลยไปไหว้ขอขมาแล้วพอเพื่อนไปดูดวงก็เลยดูของดิฉันไปด้วย ดูตั้งแต่ชื่อดีไม่ดี เบอร์โทรศัพท์ถ้าเลขไม่ถูกกับเราใช้ไปก็มีแต่สิ่งไม่ดี (ส่วนใหญ่ไม่ดีทั้งนั้น ต้องเปลี่ยนทุกคน เขาจะคำนวนเลขมาให้ แล้วให้เราไปหาเบอร์ตามที่เขาให้มา) แล้วก็บอกว่าต้องมาสวดมนต์ขอพรให้ได้ 9 ครั้งภายในระยะเวลาที่กำหนด (อันนี้ระยะเวลาขึ้นอยู่กับดวงของแต่ละคน) จริงๆที่นี่เขาไม่ได้เรียกเก็บเงินอะไรเลย เขาบอกว่าต้องการเผยแพร่แล้วก็ต้องการลูกศิษย์ (สมาชิก) แต่จากที่ไปมาเรื่อยๆ มันก็จะมีการแนะนำว่าถ้าแค่มานั่งสวดมนต์เพื่อเสริมดวงตัวเองแล้วมันยังไม่ดีขึ้น ก็มีวิธีอื่นที่จะช่วยเร่งพรให้มันเกิดผลเร็วๆก็คือ ทำอัคนีบูชา ของที่ทำก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการขออะไร เพราะความหมายของธัญพืชทั้งหลายไม่เหมือนกัน (เขาใช้พวกธัญพืชในการทำพิธี อย่างเช่น ข้าวฟ่าง ถั่วเขียว พิมเสน การบูร อย่างนี้เป็นต้น) ซึ่งแน่ละงานนี้ต้องมีค่าใช้จ่าย ก็ขึ้นอยู่กับว่าของที่ต้องใช้มันมากน้อยแค่ไหน แต่เขาไม่ได้บังคับนะคะ แค่แนะวิธีให้ แต่ไม่ทำก็ได้แล้วแต่คุณ

    เพื่อนกับดิฉันก็ลองไปดูว่าถ้ามันครบเก้าครั้งแล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นเหมือนอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า แล้วยังมาชวนเพื่อนคนอื่นให้ไปลองดูกันด้วย แต่ตอนแรกเพื่อนเชื่อเอามากๆ ตอนที่เขาดูดวงให้ก็บอกว่าถ้ามีใครมาชวนทำธุรกิจอะไรช่วงนี้ให้ทำ ซึ่งเพื่อนก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง หลังๆสังเกตุเห็นว่าเพื่อนคนนี้ไม่ค่อยอยากไป ก็เลยถามว่าทำไมไม่ไปละ เห็นตอนแรกชวนให้ไป พอตอนนี้คนอื่นเขาไปกันเรื่อยๆแล้วตัวเองทำไมไม่ไป เพื่อนก็เลยเล่าให้ฟังว่า พอเขาทักเรื่องธุรกิจ หลังจากนั้นมีคนมาชวนไปลงทุนซื้อหุ้นเพื่อนก็เลยร่วมด้วย ผลปรากฎขาดทุนเป็นแสนๆ เสียเงิน เราก็ว่าทำไมไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่เคยเล่นจะไปเล่นสุ่มสี่สุ่มห้าได้ไง เขาก็บอกเพราะทางนั้นบอกไว้เขาก็เลยเชื่อ เวรกรรม

    ช่วงแรกๆที่ไป ดิฉันก็ยังไม่สนิทใจแต่ก็ไปเพราะเพื่อน ทีนี้เรานับถือพระ พอไปอย่างนี้มันเลยขัดแย้งแล้วดิฉันก็จะปวดหัวทุกที จนมาครั้งนึงเจอพี่คนหนึ่งท่าทางใจดีก็เลยได้คุยกัน พี่เขาก็ว่าแรกๆเขาก็เป็น สำหรับเขานะพระพุทธเจ้าอยู่เหนือสิ่งใดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเทพอยู่ใกล้มนุษย์มากกว่า ก็ช่วยได้ พุทธสอนให้ ลด ละ เลิก แต่ว่ามนุษย์มันยังทำไม่ได้หรอก ก็ต้องอาศัยเทพให้ช่วย ทำไมเราไหว้พระพรหมได้ละ ก็เหมือนกัน อย่าไปคิดมาก ดิฉันก็เลยพอจะทำใจได้หน่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 พฤษภาคม 2009
  20. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ช่วงนั้นเพื่อนอีกคนไปขอพรเรื่องงาน คือจะออกจากบริษัท ขอให้ได้งานใหม่ เขาก็ได้จริงๆ ส่วนดิฉันก็ขอพรเรื่องการเงิน แล้วก็ขอให้เพื่อนที่ยืมเงินไปให้เอามาคืน เพื่อนคนนี้ก็โทรมาจริงๆนะ แล้วก็บอกจะคืน ดิฉันก็เลยพยายามไปนั่งสวดมนต์เสริมดวง แล้วพอกลับมาบ้านมันก็ดึกมากแล้วทุกครั้ง ทำให้ดิฉันเหนื่อยแล้วก็ไม่อยากสวดมนต์เหมือนเคย ช่วงนั้นก็ยอมรับว่าหลงไปทางนี้พักนึง เพราะคิดว่าพุทธ ทำดีแล้วเห็นผลช้า ไปให้เทพช่วยดีกว่า แต่มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันแหละ คือคุณก็ต้องไปบ่อยๆ ไปขอพรให้เทพเห็นใจแล้วก็พอใจคุณ เขาบอกว่าเทพชอบให้ร้องขอ แล้วคนก็ไปร้องขอได้ทุกเรื่อง ยิ่งเรื่องความรักนี่อันดับแรก ไม่ว่าลูกเขาเมียใคร คุณจะเป็นน้อยเป็นหลวง โดนแย่งคนรัก หรืออยากได้คนรักมากจากคนอื่น ก็ไปขอได้ ดิฉันก็มานั่งคิด เออ..นี่มันขัดกับคำสอนของพระพุทธองค์ชัดๆ คนมันต้องมีเวรมีกรรมทำร่วมกันได้ มันถึงจะมาเป็นคู่กัน แล้วไอ้การไปแย่งของๆคนอื่น มันก็ไม่ถูกไม่ควร ตอนนี้เริ่มมีสติคิดได้อีกละ

    แต่จริงๆระดับอาจารย์ที่เก่งๆของเขา เขาก็จะตอบให้ความรู้ดีนะ คือดิฉันถามมาหลายคนมาก บางคนตอบแล้วดิฉันไม่เห็นว่าการนับถือเทพจะดีเลย (คิดว่าเขาคงยังไม่มีความรู้มากพอ) ส่วนคนที่ยังอิงกับธรรมะก็จะบอกว่า ก็ต้องมาดูกันก่อนว่าเขาเป็นคู่กันหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่เทพก็จะหาคนที่เหมาะสมให้ เออ..ตอบอย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย พอไปได้สักพักดิฉันเริ่มมาคิดว่า นี่มันไม่ใช่ดิฉัน ทำไมต้องลำบากลำบนเดินทางมาตั้งไกลเพื่อมาร้องขออ้อนวอนเทพ เพราะถ้าไม่ทำเทพก็ไม่เมตตา ดิฉันก็คิดว่าพระพุทธองค์ไม่เห็นต้องบังคับให้เราทำโน่นทำนี่เลย แล้วเรื่องที่ขอก็ไม่เห็นว่ามันจะเกิดผล ดิฉันก็เลยเลิกไปก็กลับมานับถือพระพุทธเจ้าเหมือนเดิม แต่ว่าติดขี้เกียจที่ไม่สวดมนต์มานานก็เลยยังไม่ได้สวดมนต์เหมือนเคย แต่ตอนที่ไปที่นั่นดิฉันเคยบูชาเหรียญพระพิฆเนศมาองค์นึงก็ยังห้อยคอไว้เหมือนเดิม
     

แชร์หน้านี้

Loading...