วัตถุมงคลยอดขลัง พลังเวทสุดมหัศจรรย์"หลวงพ่อผินะ ปิยธโร"

เรื่อง ตามรอยหลวงพ่อผินะฯ ที่ท่าเกย

ถ้าคุณไม่เป็นผู้สร้างสรรค์ ก็ขอจงอย่าเป็นผู้ทำลาย​

<o>จากชั้นที่ ๓ ของตึกกายวิภาค ก็มีบันไดขึ้นไปชั้นที่ ๔ ซึ่งเป็นชั้นสุดท้าย จะประกอบด้วยเสากลางห้องรูป ๖ เหลี่ยม และมีเสารายอีก ๖ ต้น เทคานรอบเชื่อมกันเป็นรูป ๖ เหลี่ยม ได้ทั้งหมด ๖ ช่องใหญ่ แต่ละช่องมีลูกกรง ๕ ลูกด้วยกัน(เหมือนชั้นที่ ๓) แต่หลังคาจะเป็นรูปครึ่งวงกลมครอบไว้ และจะมีช่องเจาะออกด้านบนอีก ๑ ช่อง เรียก “ช่องออกจากอายะตะนะ”</o>​

 

เรื่อง ตามรอยหลวงพ่อผินะฯ ที่ท่าเกย

ถ้าคุณไม่เป็นผู้สร้างสรรค์ ก็ขอจงอย่าเป็นผู้ทำลาย​

แสดงให้เห็นว่าเป็นภูมิชั้นสุดท้าย โดยอายะตะนะเครื่องต่อเนื่องกัน จนมาถึงเวทนา ๖ หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสได้แก่..<o></o>​

๑.เมื่อตากระทบกับรูป เกิดความรู้สึกขึ้นเรียก จักขุวิญญาณ (คือ การรู้อารมณ์ทางตา) เมื่อตาและรูปและจักขุวิญญาณ ทั้ง ๓ นี้กระทบกันเรียก จักขุสัมผัส(ความกระทบทางตา) ต่อจากนั้นเกิดเสวยอารมณ์ ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง เป็นต้น เรียก จักขุสัมผัสสะชาเวทนา (การเสวยอารมณ์ทางตา) เรียกง่ายๆย่อๆ ว่า “เวทนา”<o></o>
๒.เมื่อหูกระทบกับเสียงเกิดความรู้สึก เรียก โสตวิญญาณ (การรู้อารมณ์ทางหู) เมื่อหูและเสียงและโสตวิญญาณ ทั้ง ๓ อย่างนี้กระทบกัน เรียกโสตสัมผัส (ความกระทบทางหู)ต่อจากนั้น เกิดการเสวยอารมณ์ ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง เป็นต้น เรียก โสตสัมผัสสะชาเวทนา (การเสวยอารมณ์ที่เกิดจากการสัมผัสทางหู เรียกง่ายๆย่อๆ ว่า “เวทนา”<o></o>
๓.เมื่อจมูกกระทบกับกลิ่น เกิดความรู้สึกเรียกว่า ฆานวิญญาณ (การรู้อารมณ์ทางจมูก) เมื่อจมูกและกลิ่นและฆานวิญญาณ ทั้ง ๓ นี้กระทบกันเรียกว่า ฆานสัมผัส (ความกระทบทางจมูก) ต่อจากนั้นเกิดการเสวยอารมณ์ ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง เป็นต้น เรียก ฆานสัมผัสสะชาเวทนา (คือการเสวยอารมณ์ที่เกิดการสัมผัสทางจมูก) เรียกง่ายๆย่อๆ ว่า “เวทนา”<o></o>
๔.เมื่อลิ้นกระทบกับรส เกิดความรู้สึกเรียก ชิวหาวิญญาณ (การรู้อารมณ์ทางลิ้น) เมื่อลิ้นและรสและชิวหาวิญญาณ ทั้ง ๓ นี้กระทบกัน เรียก ชิวหาสัมผัส (ความกระทบทางลิ้น) ต่อจากนั้นเกิดการเสวยอารมณ์ ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง เป็นต้น เรียก ชิวหาสัมผัสสะชาเวทนา (คือการเสวยอารมณ์ที่เกิดจากการสัมผัสทางลิ้น) เรียกง่ายๆ ย่อๆ ว่า “ เวทนา”<o></o>
๕.เมื่อกายกระทบกับโผฏฐัพพะ เกิดความรู้สึก เรียกว่า กายวิญญาณ (การรู้อารมณ์ทางกาย) ทั้ง ๓ นี้กระทบกันเรียกว่า กายสัมผัส (ความกระทบทางกาย) ต่อจากนั้นเกิดการเสวยอารมณ์ ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง เป็นต้น เรียกว่า กายสัมผัสสะชาเวทนา ( คือการเสวยอารมณ์ที่เกิดจากการสัมผัสทางกาย) เรียกง่ายๆย่อๆว่า “ เวทนา”<o></o>
๖. เมื่อใจกับธัมมารมณ์กระทบกัน เกิดความรู้สึกขึ้น เรียก มโนวิญญาณ (การรู้อารมณ์ทางใจ) เมื่อใจและอารมณ์และมโนวิญญาณ ทั้ง ๓ นี้กระทบกัน เรียกว่า มโนสัมผัส (คือความกระทบทางใจ) ต่อจากนั้นเกิดการเสวยอารมณ์ มีชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง เป็นต้น เรียก มโนสัมผัสสะชาเวทนา (คือการเสวยอารมณ์ทางใจ) เรียกง่ายๆย่อๆ ว่า “ เวทนา”<o></o>
ต่อเนื่องด้วยเรื่อง อริยสัจจ์ ๔.<o></o>
หลวงพ่อผินะฯ อธิบายไว้ว่า ภูมิธรรมชั้นนี้ เปรียบเสมือนหนึ่งการวินิจฉัยธรรม เป็นภูมิแห่งปัญญา ให้พิจารณาค้นหาในสัจจะธรรม (ความจริงอันประเสริฐ) โดยอาศัย อายะตะนะ เป็นเหตุแห่งวิจัย ว่า รูปนาม ขันธ์ ๕ ที่อาศัยอานยะตะนี้เป็นเครื่องสืบเนื่องกันมานั้น ไม่คงสภาพที่แน่นอนลงไปได้ ต้องเปลี่ยนแปลงปรุงแต่งเกิดดับไปเรื่อยๆ ไม่รู้สิ้นสุด และก็ทนอยู่ในสภาพเดิมก็ไม่ได้ เป็นเช่นนั้นตลอดเรียก “กองทุกข์” ซึ่งมีสภาพเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป ทีนี้เรามายึดเอาว่ารูปนามขันธ์ ๕ มาเป็นเรา มันก็เท่ากับแบกเอาทุกข์ไว้ไม่สิ้นสุด เพราะฉะนี้ รูปนามขันธ์ ๕ อายะตะนะ เรานี้แหละเป็นเหตุแห่งทุกข์โดยแท้ เรียก “สมุทัย” ซึ่งเป็นแดนเกิดต่างๆ เนื่องด้วยจากการกระทำ เพราะเหตุแห่งที่ว่า มีตัวกระทำกรรมจึงเกิดขึ้น เช่น เกิดเป็นเทือกเถาเหล่ากอ เรียก “ กรรมพันธุ์” เกิดเป็นสัตว์ต่างๆ เรียก “กรรมโยนิ” เป็นต้น. เมื่อพิจารณาตามความเป็นจริงว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวง เมื่อเกิดขึ้นแล้ว คงอยู่สักประเดี๋ยวก็ต้องแตกสลายดับไป คือมีเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปทั้งสิ้น ท่านชี้ให้เห็นส่วนดับและให้เลือกเอาส่วนดับเท่านั้น เรียก “นิโรธสัจจ์” เมื่อพิจารณามองเห็นรูปนาม ขันธ์ ๕ อายะตะนะ เชื่อมต่อเป็นของไม่จบสิ้นแล้ว ท่านก็อธิบายต่อไป ว่า ให้หาทางหลุดพ้นเสียที โดยชี้หนทางแห่งการหลุดพ้น เรียก “มรรคสัจจ์” ในมรรคสัจจ์นี้ จะมีทั้ง มรรค ๘ แหละ มรรคมีองค์ ๘ อยู่ด้วยกัน เรื่องมรรค๘ นั้น ท่านย่นย่อเหลือเพียง ๓ หมวด คือ สัมมาทิฏฐิ,และสัมมาสังกัปปะ. อยู่ในหมวดปัญญา( คือความรอบรู้) สัมมากัมมันตะ, สัมมาอาชีวะ,และสัมมาวายามะ. อยู่ในหมวดศีล) (ความปกติ) สัมมาวายามะ, สัมมาสติ,และสัมมาสมาธิ.อยู่ในหมวดสมาธิ(ความตั้งมั่น) ถ้าจะออกจากทุกข์ทั้งปวงได้ ต้องเดินตามทางอีก เรียกมรรคมีองค์ ๘ ต้องผ่าน โสดามรรค, โสดาผล, สกทาคามิมรรค, สกทาคามิผล, อนาคามิมรรค, อนาคามิผล, อรหัตตมรรค,และอรหัตตผล, ทางแปดทางหมายถึงขึ้นบันไดไป ๘ ขั้น ไปสู่บันไดขั้นสูงสุด ขั้นหลุดพ้นเหนือโลก ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก คือ เรียกย่อๆว่า อายะตะนะ ดับหรือ “นิพาน”<o></o>
ท่านให้ยกศัพท์ อธิบายว่า โรคะ หมายถึงเครื่องเสียดแทงทาง อายะตะนะ.<o></o>
โลกะ หมายถึง โลกคือดินน้ำลมไฟ ฯ.<o></o>
เรื่องปริศนาธรรม บันได ๑๐ ขั้นนั้นคือ มรรค ๔ ผล ๔ นิพาน ๑ พระสัทธรรมอีก ๑.<o></o>

 

เรื่อง ตามรอยหลวงพ่อผินะฯ ที่ท่าเกย

ถ้าคุณไม่เป็นผู้สร้างสรรค์ ก็ขอจงอย่าเป็นผู้ทำลาย​

หลวงพ่อผินะฯ ท่านเปรียบเทียบตึกกายวิภาคชั้นที่ ๔ นี้ว่า เป็นเสมือนหัวกะโหลก จะมีหลุมอยู่ในหัวกะโหลก คือ หลุมใส่มันสมอง หลุมเบ้าตา ๒ข้าง หลุมจมูก หลุมปาก และรูข้าง ๒ ข้าง หัวกะโหลกนั้นมีสมอง ๒ ซีกด้วยกันระหว่างช่องว่างของสมองนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยของจิตต์ลึกจากด้านหน้าตรงหัวคิ้วเข้าไปประมาณ ๔ องคุลี ส่วนสมองซีกซ้ายจะทำหน้าที่ระบบประสาทด้านขวาและสมองซีกขวาจะทำหน้าระบบประสาทด้านซ้ายและจะแบ่งออกเป็น ๒ ส่วนอีก คือส่วนหน้าและส่วนหลังภายในหัวกระโหลกนี้จะมี อายะตะนะ สัมผัส ได้ถึง ๕ ทางด้วยกันคือ ตา หู จมูก ลิ้น ใจ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของร่างกาย..จบ<o></o>​

 

"ถ้าคุณไม่เป็นผู้สร้างสรรค์ ก็ขอจงอย่าเป็นผู้ทำลาย"
ทราบซึ้งมากครับสำหรับคำคม คำนี้ และก็ขอบคุณ สำหรับลวดเส้นเล็กๆ ที่ได้เสียสละ เพื่อความปลอดภัย สำหรับผู้มีจิตศรัทธาในการเยี่ยมชมรุ่นต่อๆไป ขอบคุณครับ (หากมีโครงการอะไรดีๆ ช่วยส่งข่าวด้วยนะครับ)​

 

สวัสดี คุณ thao​

โอ้โห..หายไปนาน ขึ้นเขาไปถ้ำแสงจันทร์ด้วยหรือ ขอบใจนะที่คิดถึงเรา ขอส่งใจและความคิดดีๆมาถึงคุณด้วย..​

สวัสดีขอให้มีตังค์ใช้นะครับ.​

 

สวยแบบนี้มีอีกมั๊ย.....(k)(k)(k)(k)(k)

 

ทรงพระเจริญ


เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย
ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายพระพร ให้พระองค์มีสิริมายุยิ่งยืนนาน มีพระพลานามัยแข็งแรง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ของปวงประชา ตราบนานเท่านาน


ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

 

ศิษย์ใหม่อยากรู้

ขอความกรุณาศิษย์หลวงปู่และผู้ที่มีประสบการณ์ช่วยอธิบายวิธีการบูชาหลวงปู่
ด้วยครับว่าควรบูชาด้วยอะไรหรือมีคำบูชาวัตถุมงคลของท่านอย่างไรเช่นดาวมงคลใช้คำบูชาว่าอย่างไร พระสูตร พระสมเด็จของท่านใช้คำบูชาอย่างไร
ของที่บูชาแล้วเช่นกระทิงแดง ควรนำมาดื่มได้ไหมถือว่าเป็นยาได้ไหม ทั้งหมด
นี้ถามเพราะเคารพรักหลวงปู่อยากปฏิบัติให้ถูกต้อง เคยไปกราบหลวงปู่ที่วัดมา
2 ครั้งแล้วอยากช่วยวัดของท่านจัง ขอความกรุณาท่านผู้มีประสบการณ์ช่วย
ตอบด้วยนะครับ ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันก็ได้ แล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน อย่าให้กระทู้นี้ต้องเงียบเหงาเลย ผู้ที่ไม่รู้ยังมีอีกมาก และอยากได้ความรู้จากทุกๆท่านครับ ขอบคุณ

 

ผมไม่ได้เป็นศิษย์ของหลวงพ่อนะครับ แต่ก็ได้ศึกษาประวัติของท่านมาพอสมควร
ที่ผมใช้อธิฐานก็มีแต่ "นะเตสุตเต" เท่าอายุ และรอบสุดท้ายใช้ "มหาสุตเตนะชา"
ได้คาถานี้มาจาก ใบพลับของวัดนะครับ ความจริงมีอีกแต่ไม่ได้ใช้นะครับ เพราะว่า
พี่ที่รู้จักบอกว่าคาถานี้ดีที่สุดแล้ว ผมก็เชื่ออย่างนั้นครับ
ส่วนประสบการณ์นั้น ผมว่าถ้าใครมีของหลวงพ่อจะสัมผัสได้เองว่าเป็นอย่างไรนะครับ
ผมเห็นด้วยนะครับ อย่าให้กระทู้เงียบเลยครับ

 

ช่วงนี้พี่พรสวรรค์คงงานเยอะแน่เลย ถ้าอย่างไรก็ระวังสุขภาพบ้างนะครับ
ด้วยความหวังดีและนับถือครับ

 

พระมาใหม่

 

ต้องการคำตอบที่กระจ่างครับ ช่วยหน่อยครับ

เคยมีคนบอกว่าเครื่องรางดวงดาวของหลวงพ่อ ห้ามยืมถ้าให้ใครไปใช้เเล้วต้องให้ไปเลยห้ามเอากลับมาใช้อีก จริงเปล่าครับ

 

สวัสดีครับ พ่ี ๆๆทุกท่าน
พอดีเพ่ือนผมให้พระมาองค์นึงครับ
เห็นเค้าบอกว่าหลวงพ่อท่านสร้างบรรจุกรุไว้ ปี 11-13
พุทธลักษณะยืน ด้านหลัง เขียนว่า
แคล้ว
คลาด
ไม่ทราบว่าเป็นรุ่นไหนครับผม

 

รัก และ ศรัทธา หลวงพ่อ ครับ
ได้(เช่า) พระมาจากน้อง ในนี้ ครับ
ก็ ได้รับ สิ่งดีๆ ครับ
แต่
พอแขวนร่วมกับองค์อื่น เงียบๆ ครับ
ไม่ทราบเพราะอะไร
รบกวน
ใคร พอมีแนวคิดอย่างไร ช่วยอธิบายด้วย ครับ

ด้วยความเคารพ ในหลวงพ่อ ครับ
ไม่มีเจตนาอื่น

 

พระได้มาใหม่.....

 

(f)(f)(f)ในปีใหม่ 2553 นี้ขออำนาจคุณพระศรีรัตนมหาตรัย และอำนาจบุญบารมีอันศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อผินะ ปิยธโร แห่ง."วัดสนมลาว วรวิหาร"จงช่วยดลบันดาลให้ บรรดาลูกศิษย์และผู้มีจิตศรัทธาเคารพนับถือในองค์ท่าน ที่คิดดี ทำดี จงมีแต่ความสุข ความเจริญ คิดสิ่งใด สมความปรารถนา อย่าเจ็บ อย่าจน ตลอดปีนี้และปีต่อๆ ไปด้วยเทอญ.....(kiss)(kiss)(kiss)

 

สวัสดีปีใหม่ครับ ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ วันนี้มีเรื่องอยากนำมาเล่าให้บรรดาลูกศิษย์และผู้ที่เคารพหลวงพ่อได้ฟังครับ น่าภูมิใจมากครับ เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้ผมและครอบครัวได้
ไปกราบหลวงพ่อที่วัด (สนมลาว)เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่การเริ่มต้นปีใหม่
และก็ได้ พบเห็นชาวต่างชาติ (น่าจะมาจากอิตาลี)สองท่านผู้ชายกับผู้หญิง ทาแท็กซี่
มากราบหลวงพ่อเหมือนกัน และยังเช่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อกลับไปด้วยครับ
ผมเห็นแล้วก็ยังคิดอยู่ในใจว่า หลวงพ่อดังไกลไปถึงอิตาลี เชียวหรือนี่ ก็น่าภาคภูมิใจครับ
บรรดาลูกศิษย์ ของหลวงพ่ออย่าเพิ่งเงียบหายครับ ควรจะเผยแพร่กันต่อไป เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ

 

ชิงชัย พระสูตร

พระได้มาใหม่ครับ เอามาให้ชมกัน

 

รูปถ่ายหลวงพ่อครับ ด้านหลังเขียนที่พอจะอ่านออก วัดคีรีเมฆ สาริกาน้ำตก ปี 2498 พรรษาที่สิบเจ็ด อายุสามสิบสามปี

 

เงียบกันจังครับ ไม่มีใครเล่าประสบการณ์ให้ฟังบ้างเลย