illuminati อยู่เบื้องหลังยุให้ ไทย-กัมพูชา ฆ่ากันเอง เพื่อ... (หลายคนไม่รู้ความจริงนี้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Premsuda (May), 13 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. Premsuda (May)

    Premsuda (May) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +646
    illuminati อยู่เบื้องหลังยุให้ ไทย-กัมพูชา ฆ่ากันเอง เพื่อ... (หลายคนไม่รู้ความจริงนี้)


    ยูเนสโกเสี้ยม "ไทย-กัมพูชา" ให้ฆ่ากัน (คงรู้กันแล้วนะว่าใครอยู่เบื้องหลัง ยูเนสโก)
    ---http://www.thaipost.net/news/220609/6582
    22 มิถุนายน 2552 - 00:00


    ขอบคุณพี่ Jimmy Siri ผู้แปลและเรียบเรียง

    คณะ กรรมการมรดกโลก และยูเนสโกยึดหลักเกณฑ์อะไรในการอนุมัติ ทั้งที่ขัดกับมติตัวเองในการประชุมครั้งที่ ๓๑
    นี่แหละที่เห็นถึงความน่าเกลียดที่ไทยเราสมควรต้องประท้วงยูเนสโก เพราะคณะกรรมการมรดกโลกและยูเนสโก
    คล้ายรวมมือกันโดยมี "ผลประโยชน์ซ่อนเร้น" ทางธุรกิจในอนาคต ผ่านการอนุมัติให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร
    ครั้งนี้

    ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้ว กรอบพิจารณาขึ้นเป็นมรดกโลก สิ่งนั้นจะต้องเป็นสิ่งสร้างสรรค์ สร้างสันติภาพ
    เชิดชูวัฒนธรรม และเพียบพร้อมด้วยภูมิศาสตร์ ไม่เป็นสิ่งสร้างความขัดแย้งระหว่างกัน และเพื่อความสมบูรณ์
    ของการเป็นมรดกโลก จะต้องมีพื้นรอบตัวปราสาทด้วย

    ตรงนี้สรุปรวมเป็นรูปธรรม คือไทย-กัมพูชาจะต้องตกลงเห็นชอบร่วมกันในประเด็นพื้นที่ซึ่งเรียกว่า
    "บัฟเฟอร์โซน" ก่อน คือพื้นที่ของไทยซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ๒,๙๐๐ ไร่ โดยรอบตัวปราสาทนั้น
    ขณะนี้ยังไม่มีการตกลงอะไรกันให้เป็นที่เรียบร้อย

    แต่ยูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลก กลับทำลายหลักการ-หลักเกณฑ์นั้น โมเมรับขึ้นทะเบียนเฉพาะ
    ตัวปราสาทโด่ๆ ถ้าเป็นมรดกโลกแล้ว ใครจะไปชมก็ไปได้ทางเดียวคือ นั่งเฮลิคอปเตอร์แล้วโรยตัวลงมาทางอากาศ
    เท่านั้น!

    แล้วยูเนสโกยึดถือหลักเกณฑ์ข้อไหนในการอนุมัติ?

    ในหลักเกณฑ์พิจารณารับเป็นมรดกโลกของอิโคมอส "สภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ" มี ๖ ข้อ
    ถ้าพิจารณารวมกับไทยปราสาทพระวิหารจะเข้าเกณฑ์ ๓ ข้อคือ เป็นผลงานเอกอัจฉริยะในการสร้างสรรค์ของมนุษย์
    แสดงหลักฐานทางขนบธรรมเนียมได้ และเป็นตัวอย่างของการก่อสร้างที่โดดเด่น

    แต่ตามกฎบอกว่า ผ่านข้อใด-ข้อหนึ่งก็ใช้ได้ เมื่อกัมพูชาเสนอฝ่ายเดียวเฉพาะตัวปราสาทโด่ๆ จึงตัดข้ออื่นทิ้งหมด
    อ้างไปข้อเดียวคือเป็นผลงานอัจฉริยะในการสร้างสรรของมนุษย์ คณะกรรมการมรดกโลกที่ประชุม ณ ควิเบกก็
    อนุมัติโด่ๆเหมือนกัน โดยผนวกกับเอกสารที่รัฐบาลสมัครและนายนพดลไปตกลงกับยูเนสโกที่ฝรั่งเศสก่อน
    หน้านั้นเป็นเหตุผลประกอบ

    จึงรวบรัด-โมเม ทำลายกรอบเกณฑ์ตัวเอง และไม่ฟังข้อเท็จริงอื่นใด รับจดทะเบียนตัวปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา
    แทนที่จะเป็นการสร้างสันติภาพ กลับกลายเป็นการสร้างปัญหาให้กัมพูชากับไทยต้องขับขานประสานใจ
    เพื่อความเข้าใจกันไปอีกนาน!

    ความไม่ชอบมาพากลของยูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลกที่ไทยทนไม่ได้ ต้องส่งนายสุวิทย์
    คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ ในฐานะตัวแทนฝ่ายไทยไปประท้วงต่อคณะกรรมการมรดกโลกที่จะประชุม
    ครั้งที่ ๓๓ ณ เมืองเซบีญา ประเทศสเปน ระหว่าง ๒๒-๓๐ มิย.ขณะนี้ นอกจาก"ความไม่ถูกต้อง"ที่ผมลำดับ
    คร่าวๆเป็นการปูพื้นความเข้าใจในเรื่องราว แล้ว

    อีกอย่างคือ คณะกรรมการมรดกโลกก็รู้ว่า เฉพาะตัวปราสาทโด่ๆมันไม่สมบูรณ์ ต้องมีทางขึ้น มีพื้นที่อนุรักษ์
    พื้นที่ใช้สอยทางธุรกิจรอบๆ และองค์ประกอบทางโบราณสถานวัฒนธรรมอื่นๆซึ่งส่วนใหญ่อยู่ฝั่งไทย
    ทางคณะกรรรมการฯจึงใช้"อำนาจเถื่อน"ระบุให้มี ๗ ประเทศ สหรัฐ จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น กัมพูชา ไทย
    และอีกประเทศยังไม่รู้จะเอาใครระหว่าง อินเดีย-ลาว-เบลเยียม เข้ามาบริหารจัดการพื้นที่รอบๆตัวปราสาทพระวิหาร

    มันใช้อำนาจเถื่อน"หวังปล้น"พื้นที่ ๒,๙๐๐ ไร่ของไทยไปผนวกเป็นพื้นที่รอบตัวปราสาทชัดๆ!

    เห็นชื่อก็รู้เช่นเห็นชาติแล้วใช่ไหมว่า ลึกๆอันเป็นเบื้องหลังรวบรัดขึ้นทะเบียนปราสาทนั้น พวกมันเล็งการณ์ไกล
    หวังใช้กัมพูชาเป็นเครื่องมือยกโขยงเข้ามายึดจับจองพื้นที่ โดยใช้พวก ๖ ประเทศ และการอ้างพื้นที่ทับซ้อน
    ของกัมพูชาเข้าเป็นมติเห็นชอบหารแบ่งแผ่นดินไทย

    สุดท้าย ไทย-กัมพูชา ก็เป็นแค่ ตาอิน กับตานา ส่วน สหรัฐ จีน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น พวกนี้จะเป็น"ตาอยู่"รวยจาก
    มรดกโลกและพื้นที่รอบมรดกโลกกันพุงปลิ้น!

    ฝรั่งเศสน่ะตัวดีนัก ค่าทำผัง ค่าบูรณะซ่อมแซมปราสาทพระวิหาร มันก็จะแบ่งกันรวยจากงบส่วนนี้ไปเท่าไหร่แล้ว
    ฉะนั้น ไทยและกัมพูชาจะนิ่งเฉย หรือหลงกลทะเลาะกัน ปล่อยให้พวกมากลากโจรในคราบนักบุญโลกเข้ามา
    ฮุบทั้งปราสาทและพื้นที่โดยรอบ อันเป็นหัวพุง-หัวมันไปกินกันหมดได้อย่างไร?

    แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่า มันวางแผนเสี้ยมเขา"ไทย-กัมพูชา"ให้ตีกัน แล้วพวกมันจะเข้ามาเก็บเกี่ยว
    ฉะนั้น ไทยต้องรีบคุย รีบปรับความเข้าใจกับกัมพูชาให้ตรงกัน และตั้งด่านสะกัดกั้นโจรในคราบประเทศนักบุญ
    เสียแต่เนิ่นๆ ไม่เช่นนั้น มรดกโลกชิ้นนี้แทนที่พิ่ๆน้องๆไทย-กัมพูชาจะสุขร่วมเสพกัน ๒ ประเทศ ยูเนสโกมัน
    จะสมคบกับอีก ๕ ประเทศที่เรียกว่า"คณะกรรมการบริหารพื้นที่โดยรอบ"เข้ามาหารแบ่ง แต่ผมยังสงสัย
    ยูเนสโกบังอาจ และมีอำนาจอะไรจะให้"คณะกรรมการ ๗ ชาติ"ใช้อำนาจบาทใหญ่เข้ามาเป็นเจ้า
    เข้าครองพื้นที่ของไทย ๒,๙๐๐ ไร่ นั้น..หือ?



    อ้างถึง ลำดับเหตุการณ์

    * พ.ศ. 2442 พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ค้นพบปราสาทพระวิหาร
    * พ.ศ. 2447 ประเทศฝรั่งเศสเข้าครอบครองอินโดจีน ได้ทำสนธิสัญญาปักปันเขตแดน ระบุให้ใช้สันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งพรมแดน ซึ่งมีผลให้ปราสาทพระวิหารอยู่ในดินแดนไทย
    * พ.ศ. 2451 ฝรั่งเศสได้จัดทำแผนที่ฝ่ายเดียว ส่งมอบให้ไทย มีแผ่นหนึ่งคือ "แผ่นดงรัก" ที่ครอบคลุมพื้นที่ปราสาทพระวิหาร และไม่ได้ใช้แนวสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งพรมแดน ทำให้ปราสาทพระวิหารในแผนที่อยู่ในดินแดนของกัมพูชา โดยที่รัฐบาลไทยในขณะนั้นไม่ได้รับรองหรือทักท้วงความถูกต้อง
    * พ.ศ. 2472 สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จเยือนปราสาทพระวิหาร
    * พ.ศ. 2479 ไทยขอปรับปรุงเขตแดน แต่ฝรั่งเศสผัดผ่อน
    * พ.ศ. 2482 ไทยขอปรับปรุงเขตแดนกับฝรั่งเศสอีกครั้ง แต่ตกลงกันไม่ได้
    * พ.ศ. 2484 อนุสัญญาโตเกียว ทำให้ดินแดนที่เสียไปเมื่อ ร.ศ. 123 และ ร.ศ. 126 บางส่วน รวมถึงปราสาทพระวิหารกลับมาอยู่ในดินแดนไทย
    * พ.ศ. 2489 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการยกเลิกอนุสัญญาโตเกียวโดยสนธิสัญญาประนีประนอม โดยมีอเมริกา, อังกฤษ และเปรูเข้ามาไกล่เกลี่ย
    * พ.ศ. 2492 ประเทศไทยเข้าครอบครองปราสาทพระวิหาร โดยใช้หลักสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งพรมแดน ระหว่างนี้มีการประท้วงจากฝรั่งเศส 3 ครั้ง
    * พ.ศ. 2493 กัมพูชาเป็นเอกราชจากฝรั่งเศส
    * พ.ศ. 2501 กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยคืนปราสาทพระวิหาร
    * พ.ศ. 2502 กัมพูชาฟ้องร้องต่อศาลโลก
    * พ.ศ. 2505 ศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา ด้วยเสียง 9 ต่อ 3
    * พ.ศ. 2509 ไทย-กัมพูชาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอีกครั้ง หลังหยุดชะงักไป 3 ปี
    * พ.ศ. 2513 กัมพูชาเปิดเขาพระวิหารให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมจากฝรั่งไทย
    * พ.ศ. 2518 ปิดเขาพระวิหาร เนื่องจากเขมรแดงยึดอำนาจ และเกิดสงครามกลางเมือง
    * พ.ศ. 2535 เปิดเขาพระวิหารให้ขึ้นชมอีกครั้ง เมื่อพรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซนชนะการเลือกตั้ง
    * พ.ศ. 2536 ปิดเขาพระวิหาร เนื่องจากกำลังเขมรแดงยึดครองพื้นที่เขาพระวิหาร
    * พ.ศ. 2546 กัมพูชาก็ได้ตัดถนนเข้าไปจนสำเร็จสมบูรณ์หลังจากรอคอยเป็นเวลาช้านาน แต่ก็มีการห้ามเข้าอยู่เป็นระยะโดยมิได้กำหนดล่วงหน้า
    * พ.ศ. 2550 กัมพูชาเสนอองค์การยูเนสโก ให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่ยังไม่มีข้อสรุป
    * พ.ศ. 2551
    o 18 มิถุนายน นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศ ได้ลงนามยินยอมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่ฝ่ายเดียว ร่วมกับ นายอึง เซียน เอกอัครราชทูตกัมพูชา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
    o 24 มิถุนายน ทางการกัมพูชาปิดปราสาทพระวิหารชั่วคราว หวั่นผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าไปทำร้ายชาวกัมพูชาในบริเวณใกล้เคียง
    o 28 มิถุนายน ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้กระทรวงการต่างประเทศและคณะรัฐมนตรียุติ การดำเนินการตามมติ ครม.ที่รับรองการออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาสนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียน ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ไปจนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุด หรือ ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
    o 8 กรกฎาคม องค์การยูเนสโก ประกาศรับปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลกเฉพาะแต่เพียงตัวปราสาท


    แม้ ปัจจุบันจะไม่มีหลักฐานจับได้ว่า มรดกโลก “เขาพระวิหาร” เป็นการเซ็นเพื่อ “ทักษิณ” หรือไม่ก็ตาม
    แต่ปริศนานี้กำลังถูกเฉลยออกมาอย่างช้าๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการตั้งข้อสังเกตว่า เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้
    เพราะ“กัมพูชา” เป็นแหล่งพลังงานที่เหลือเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่ยังไม่ได้ถูกขุดเจาะ และพร้อมให้กลุ่มทุน
    เข้าไปดำเนินงาน ในพื้นที่แถบชายฝั่งและนอกชายฝั่ง ซึ่งจากการบรรยายของ TE DUONG TARA
    ผู้อำนวยการ Cambodian National Petroleum Authority เมื่อ 18 มกราคม 2006 ระหว่างการประชุม
    ว่าด้วยเรื่องเทคโนโลยีปิโตรเลียม ของอาเซียนครั้งที่ 4 ระบุว่า กัมพูชามีแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน
    และมีการผลิตจำนวนมากนอกชายฝั่ง โดยปัจจุบันมีเชฟรอน ได้รับสัมปทานอนุญาตขุดเจาะ
    และยังมีบริษัทจากไทยคือบริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (PTTEPI)
    ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ปตท. ได้ร่วมทุน 30% กับอีก 2 บริษัท คือ บริษัท Resourceful Petroleum Ltd.
    และ SPC Cambodia Ltd. อีก 10% เป็นของ CE Cambodia B Ltd.


    อเมริกามาแล้ว

    March 1, 2007 -- BUSH AND CHENEY, WHO AVOIDED THE VIETNAM WAR, ARE PREPARING FOR A NEW U.S. MILITARY PRESENCE IN SOUTHEAST ASIA - Wayne Madsen Report

    BUSH AND CHENEY, WHO AVOIDED THE VIETNAM WAR,
    ARE PREPARING FOR A NEW U.S. MILITARY PRESENCE IN SOUTHEAST ASIA:
    AFTER THE MIDDLE EAST DISASTER, GET READY FOR INDOCHINA WAR II.
    Fri, 02 Mar 2007 11:39:00

    Wayne Madsen Report

    While in Southeast Asia, this editor looked into rumors that the Bush/Cheney administration has initiated a major military move into Southeast Asia to secure for itself large oil deposits discovered in the waters of the Gulf of Thailand. The U.S. military push into the region is centered on the Cambodian coast, particularly around Sihanoukville.
    ขณะที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ผู้เขียนได้ฟังเสียงเล่าลือว่า ที่ปรึกษา บุชและเชนีย์
    ได้เริ่มเคลื่อนย้ายกองกำลังหลักเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    เพื่อปกป้องแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ที่ค้นพบในอ่าวไทย
    กองกำลังของอเมริกาได้ใช้ชายฝั่งของกัมพูชาเป็นศูนย์บัญชาการ, โดยเฉพาะรอบๆ สีหนุ วิลล์




    ที่มา
    ---http://www.goldhips.com/board/viewtopic.php?t=1753&postdays=0&postorder=asc&start=90
    ---http://jimmysiri.blogspot.com/2009_08_01_archive.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2010
  2. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    เมย์จ๋า... ปรับชื่อกระทู้ให้นุ่มนวลกว่านี้หน่อยนะจ๊ะ พี่พรานขอให้เห็นแก่ความรักที่มีให้น้องสักหน่อยเถิด

    พี่ไม่อยากให้กลิ่นอายแห่งความรักถูกเบียดบังด้วยคำพูดรุนแรงฆ่าแกงกัน

    นะจ๊ะ... ที่รัก
     
  3. Premsuda (May)

    Premsuda (May) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +646
    ต้นฉบับเค้ามาแบบนั้นอ่ะค่ะ อยากให้อ่านกันแบบเต็มๆ ไม่เซ็นเซอร์ นะคะ
     
  4. TeachMe

    TeachMe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +117
    เชื่อมาตลอดครับว่าพวกนี้ควบคุมคนไทยที่กิเลศหนาผ่าน คนที่คุณก้อรู้ว่าใคร และ สมเด็จฮวยเซง
    พวกองกรต่างๆอีแอบอ้างสันติภาพโลกก้อรู้ดีอยู่แล้วว่าอะไรเปนอะไร แต่ก้อปล่อยให้เจ้ากิ้งก่าเขมรโจมตีเราอยู่ตลอด
    พวกเราคงไม่ยอมนิ่งเฉยเสียนู่นนี่ให้พวกมันอีกแน่และในอนาคตสงครามคงเปนสิ่งที่หลีกเลี่ยงยากเพราะพวกที่อ้างสันติภาพโลกมันอยากให้เกิดสงครามจาตายจริงมั๊ย
    เราต้องสู้ด้วยการเอาธรรมนำหน้าก่อนครับ ถ้ายังหยามเราไม่เลิกก้อจงจำใว้ว่า 'ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด' คนไทยชาวบ้านธรรมดาๆนี่ละครับ ไม่ได้พูดถึงทหาร นักรบแห่งแสงสว่างมีอยู่มากมายครับ
     
  5. นักเดินธรรม

    นักเดินธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +2,393
    มานอนดู...แอบคิดเล่นๆ ทางขึ้นอยู่ฝั่งไทย แต่ทำไมศิลปะบนพระวิหารเป็นแบบเขมร...น่าจะมีอะไรที่เราไม่รู้อีกมาก...ไม่ยุ่งดีกว่า
     
  6. TeachMe

    TeachMe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +117
    คนไทยมีหลายเชื้อชาติงับ พม่า มอญ เขมร แขก ไทย จีน ฝรั่ง เดิมเขมรกะคือสยาม
    มาคิดเล่นๆนะ ทำไมในเมืองหลวงเราถึงมีแต่ศิลปวัฒนธรรมตะวันตก? หรือว่าจริงๆแล้วเราแอบตกเปนเมืองขึ้นของฝรั่งในใจไปแล้ว
     
  7. รพินทร์ไพรวัลย์

    รพินทร์ไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +1,122
    อ้างถึง ลำดับเหตุการณ์

    * พ.ศ. 2442 พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ค้นพบปราสาทพระวิหาร
    * พ.ศ. 2447 ประเทศฝรั่งเศสเข้าครอบครองอินโดจีน ได้ทำสนธิสัญญาปักปันเขตแดน ระบุให้ใช้สันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งพรมแดน ซึ่งมีผลให้ปราสาทพระวิหารอยู่ในดินแดนไทย
    * พ.ศ. 2451 ฝรั่งเศสได้จัดทำแผนที่ฝ่ายเดียว ส่งมอบให้ไทย มีแผ่นหนึ่งคือ "แผ่นดงรัก" ที่ครอบคลุมพื้นที่ปราสาทพระวิหาร และไม่ได้ใช้แนวสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งพรมแดน ทำให้ปราสาทพระวิหารในแผนที่อยู่ในดินแดนของกัมพูชา โดยที่รัฐบาลไทยในขณะนั้นไม่ได้รับรองหรือทักท้วงความถูกต้อง
    * พ.ศ. 2472 สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จเยือนปราสาทพระวิหาร
    * พ.ศ. 2479 ไทยขอปรับปรุงเขตแดน แต่ฝรั่งเศสผัดผ่อน
    * พ.ศ. 2482 ไทยขอปรับปรุงเขตแดนกับฝรั่งเศสอีกครั้ง แต่ตกลงกันไม่ได้
    * พ.ศ. 2484 อนุสัญญาโตเกียว ทำให้ดินแดนที่เสียไปเมื่อ ร.ศ. 123 และ ร.ศ. 126 บางส่วน รวมถึงปราสาทพระวิหารกลับมาอยู่ในดินแดนไทย
    * พ.ศ. 2489 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการยกเลิกอนุสัญญาโตเกียวโดยสนธิสัญญาประนีประนอม โดยมีอเมริกา, อังกฤษ และเปรูเข้ามาไกล่เกลี่ย
    * พ.ศ. 2492 ประเทศไทยเข้าครอบครองปราสาทพระวิหาร โดยใช้หลักสันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งพรมแดน ระหว่างนี้มีการประท้วงจากฝรั่งเศส 3 ครั้ง
    * พ.ศ. 2493 กัมพูชาเป็นเอกราชจากฝรั่งเศส
    * พ.ศ. 2501 กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยคืนปราสาทพระวิหาร
    * พ.ศ. 2502 กัมพูชาฟ้องร้องต่อศาลโลก
    * พ.ศ. 2505 ศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา ด้วยเสียง 9 ต่อ 3
    * พ.ศ. 2509 ไทย-กัมพูชาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอีกครั้ง หลังหยุดชะงักไป 3 ปี
    * พ.ศ. 2513 กัมพูชาเปิดเขาพระวิหารให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมจากฝรั่งไทย
    * พ.ศ. 2518 ปิดเขาพระวิหาร เนื่องจากเขมรแดงยึดอำนาจ และเกิดสงครามกลางเมือง
    * พ.ศ. 2535 เปิดเขาพระวิหารให้ขึ้นชมอีกครั้ง เมื่อพรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซนชนะการเลือกตั้ง
    * พ.ศ. 2536 ปิดเขาพระวิหาร เนื่องจากกำลังเขมรแดงยึดครองพื้นที่เขาพระวิหาร
    * พ.ศ. 2546 กัมพูชาก็ได้ตัดถนนเข้าไปจนสำเร็จสมบูรณ์หลังจากรอคอยเป็นเวลาช้านาน แต่ก็มีการห้ามเข้าอยู่เป็นระยะโดยมิได้กำหนดล่วงหน้า
    * พ.ศ. 2550 กัมพูชาเสนอองค์การยูเนสโก ให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่ยังไม่มีข้อสรุป
    * พ.ศ. 2551
    o 18 มิถุนายน นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศ ได้ลงนามยินยอมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่ฝ่ายเดียว ร่วมกับ นายอึง เซียน เอกอัครราชทูตกัมพูชา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
    o 24 มิถุนายน ทางการกัมพูชาปิดปราสาทพระวิหารชั่วคราว หวั่นผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าไปทำร้ายชาวกัมพูชาในบริเวณใกล้เคียง
    o 28 มิถุนายน ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้กระทรวงการต่างประเทศและคณะรัฐมนตรียุติ การดำเนินการตามมติ ครม.ที่รับรองการออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาสนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียน ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ไปจนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุด หรือ ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
    o 8 กรกฎาคม องค์การยูเนสโก ประกาศรับปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลกเฉพาะแต่เพียงตัวปราสาท


    ผมคนบ้านนอกคอกนา อยากถามความเห็นผู้รู้สักนิด เผื่อใครจะคิดออก
    พ.ศ. 2442 พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ค้นพบปราสาทพระวิหาร
    ทำมัยเราเริ่มนับจากจุดนี้ละครับ เค้าไม่ได้นับกันที่คนสร้างหรือ เราเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า
    รูปแบบก็ไม่ได้เหมือนปราสาทราชวังที่เราๆรู้จัก ผมคนไทย รักผืนแผ่นดินไทยเหมือนพี่น้องทุกคน
    แต่ถ้ามองกลับกันเป็นถ้าว่า สมัยก่อนพม่าเข้มแข็งกว่าไทย และจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นของพม่า
    และพระปฐมเจดีย์เกิดไปตั้งติดชายแดนขึ้นมา และพม่าอ้างในสิทธิ์ครอบครอง คุณคิดว่าหัวใจคนไทยจะเป็นอย่างไร คงเหมือนหัวอกคนกัมพูชาตอนนี้กระมัง เขาก็คนเราก็คน เอาใจเขาใส่ใจเรา
    ไหว้พระครบหรือยังทุกวัดในจังหวัดที่ท่านอยู่ ถ้าครบแล้ววัดยังไม่พอไหว้ค่อยไปคิดแย่งกับเขาอีกที
     
  8. brotherpray

    brotherpray เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +177
    มีข่าวลือว่า เกาหลี ขนนิวเคลียร์มา พม่าแล้ว จริงหรือเปล่า ไปสืบมาหน่อยจิ
    คุณเมย์
    คุณเมย์สู้ๆ:cool:
     
  9. mashima

    mashima เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +162
    เห็นด้วยกับคุณพรานใหญ่ค่ะ

    ผมคนบ้านนอกคอกนา อยากถามความเห็นผู้รู้สักนิด เผื่อใครจะคิดออก
    พ.ศ. 2442 พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ค้นพบปราสาทพระวิหาร
    ทำมัยเราเริ่มนับจากจุดนี้ละครับ เค้าไม่ได้นับกันที่คนสร้างหรือ เราเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า
    รูปแบบก็ไม่ได้เหมือนปราสาทราชวังที่เราๆรู้จัก ผมคนไทย รักผืนแผ่นดินไทยเหมือนพี่น้องทุกคน
    แต่ถ้ามองกลับกันเป็นถ้าว่า สมัยก่อนพม่าเข้มแข็งกว่าไทย และจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นของพม่า
    และพระปฐมเจดีย์เกิดไปตั้งติดชายแดนขึ้นมา และพม่าอ้างในสิทธิ์ครอบครอง คุณคิดว่าหัวใจคนไทยจะเป็นอย่างไร คงเหมือนหัวอกคนกัมพูชาตอนนี้กระมัง เขาก็คนเราก็คน เอาใจเขาใส่ใจเรา
    ไหว้พระครบหรือยังทุกวัดในจังหวัดที่ท่านอยู่ ถ้าครบแล้ววัดยังไม่พอไหว้ค่อยไปคิดแย่งกับเขาอีกที<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
    ตอนแรกก็เคือง ๆ เขมรอยู่ พอได้ไปชมปราสาทเขาพระวิหารถึงได้เข้าใจค่ะ
     
  10. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,001
    ค่าพลัง:
    +2,040
    .............................
     
  11. เอก999

    เอก999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +143
    ถูกแล้วครับ
    เสี้ยมให้เกิดสงคราม หลังจากนั้นก็เสนอตัวเข้ามาไกล่เกลี่ยเจราจา
    แล้วรัฐบาลเราซึ่งก็อยู่ใต้อำนาจของกลุ่มนี้ก็ยอมให้พวกนั้นเข้ามาเป็นตัวกลางเจรจา เอาคนของพวกมันเข้ามาแทรกแทรง เพราะมันมีผลประโยชน์อิงกันอยู่ครับ

    ตอนนี้คนเริ่มรู้มากขึ้น พวกนั้นถึงต้องเร่งให้เกิดเร็วขึ้น
    ผมทราบเรื่องพวกนี้มาเมื่อปรมาณสิบปีแล้ว แต่ไม่อยากจะเชื่อเท่านั้นเอง
    แต่ตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้ครับว่ามันเกิดขึ้นแล้ว

    คนไทยอย่ามัวแยกสีเหลือง สีแดงอยู่ครับ มองภาพใหญ่ๆให้ออก
    แล้วจะรู้ว่าเราถูกเสี้ยมให้ตีกันเอง
     
  12. เอก999

    เอก999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +143

    ก็ประวัติศาสตร์ที่เราเรียนกันมามันไม่ถูกต้องไงครับ
     
  13. รพินทร์ไพรวัลย์

    รพินทร์ไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ประวัติการก่อสร้าง
    ปราสาทพระวิหารประกอบด้วยหมู่เทวาลัยและปราสาทหินจำนวนมาก เทวาลัยหรือปราสาทหินแห่งแรกสร้างขึ้นเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 9 ซากปรักหักพังของเทวาลัยที่เหลืออยู่ มีอายุตั้งแต่สมัยเกาะแกร์ ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 10 ครั้นเมื่อนครหลวงของอาณาจักรขอมอยู่ใกล้ เมื่ออยู่ที่นครวัด นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบบางประการในรูปแบบศิลปะของปราสาทบันทายศรี ตามหลักจารึกที่ค้บพบ 3 หลักคือ จารึกศิวะศักติ จารึกหมายเลข K380 และ K381 เชื่อว่าเริ่มก่อสร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 (พ.ศ. 1432-1443) ในฐานะ "ภวาลัย" ที่ทรงมอบแก่เจ้าเมืองที่ครองพื้นที่ในแถบนั้น ซึ่งอยู่ในตระกูล"พระนางกัมพูชาลักษมี"พระมเหสีของพระองค์ และเป็นรูปร่างเมื่อในสมัยพระเจ้ายโศวรมัน ซึ่งสถาปนาศรีศิขเรศวร ในปี พ.ศ. 1436<SUP id=cite_ref-.E0.B8.AA.E0.B8.B2.E0.B8.A3.E0.B8.84.E0.B8.94.E0.B8.B5_7-1 class=reference>[8]</SUP> แต่โครงสร้างส่วนใหญ่ของปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 (มีพระนามจารึกที่กรอบประตูโคปุระชั้นที่ 2 ว่า "สูรยวรรมเทวะ" และปีที่สร้างแล้วเสร็จในสมัยของพระองค์ตามจารึกคือ พ.ศ. 1581<SUP id=cite_ref-.E0.B8.84.E0.B8.A7.E0.B8.B2.E0.B8.A1.E0.B9.80.E0.B8.A1.E0.B8.B7.E0.B8.AD.E0.B8.87.E0.B9.80.E0.B8.A3.E0.B8.B7.E0.B9.88.E0.B8.AD.E0.B8.87.E0.B9.80.E0.B8.82.E0.B8.B2.E0.B8.9E.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.A7.E0.B8.B4.E0.B8.AB.E0.B8.B2.E0.B8.A3_8-0 class=reference>[9]</SUP> ) และ สุริยวรมันที่ 2 ในครึ่งแรกของศตวรรษที่ 11 และศตวรรษที่ 12 ตามลำดับ ตามจารึกกล่าวไว้ว่าพระองค์ส่ง "ทิวากรบัณฑิต" มาบวงสรวงพระศิวะทุกปี นอกจากนี้ยังมีชุมชนโดยรอบที่กษัตย์อุทิศไว้ให้รับใช้เทวสถาน ชุมชนที่มีชื่อในจารึกอย่างเช่น กุรุเกษตร, พะนุรทะนง เป็นต้น<SUP id=cite_ref-.E0.B8.AA.E0.B8.B2.E0.B8.A3.E0.B8.84.E0.B8.94.E0.B8.B5_7-2 class=reference>[8]</SUP> ในปัจจุบันนี้ปราสาทหลงเหลือแต่เพียงซากปรักหักพัง แต่ทว่ายังมีอาคารปราสาทเหลืออยู่อีกหลายแห่ง<SUP id=cite_ref-.E0.B9.84.E0.B8.97.E0.B8.A2.E0.B9.80.E0.B8.AA.E0.B8.B5.E0.B8.A2.E0.B8.94.E0.B8.B4.E0.B8.99.E0.B9.81.E0.B8.94.E0.B8.99.E0.B9.83.E0.B8.AB.E0.B9.89.E0.B9.80.E0.B8.82.E0.B8.A1.E0.B8.A3_9-0 class=reference>[10]</SUP>
    <SUP></SUP>
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี



    <!-- start content -->พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 (เขมร: , อังกฤษ: Jayavarman II) คือผู้รวมอาณาจักรขะแมร์ทางใต้ให้เป็นปึกแผ่นขึ้นมา และประกาศให้เขมรเป็นเอกราชไม่อยู่ใต้อำนาจของชวาอีกต่อไป เป็นผู้วางรากฐานการปกครองที่มีกษัตริย์ อยู่ในฐานะอันสูงส่ง ที่เรียกว่า เทวราชา ในสมัยของ พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ระหว่าง ค.ศ. 770ค.ศ. 835 นั้น มีการโยกย้ายราชธานีถึง 4 ครั้ง

    <SUP></SUP>
    ....เชื่อว่าเริ่มก่อสร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2...
    กษัตริย์ไทยมีชื่อนี้ด้วยหรือ เช่นเดียวกับคนไทยอีกหลายๆๆๆๆๆคน ไม่พยามที่จะหาความจริง และปฏิเสธที่จะเชื่อความจริง
    คิดเอาแต่ใด้ คิดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตน ของกู ของกู ของกู ของเค้ามีเจ้าของ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เหตุเดียวกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กุมภาพันธ์ 2010
  14. Pelagia

    Pelagia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,198
    ปราสาทเขาพระวิหารก็เป็นสิ่งก่อสร้างของขอมแหล่ะ
    ถ้าถ้าจะนับว่าสิ่งก่อสร้างทั้งหมดของขอมควรจะเป็นของกัมพูชาอย่างชอบธรรมแล้วล่ะก็ แถบอีสานบางส่วน รวมมาถึงลพบุรีก็ควรจะต้องเป็นของกัมพูชาด้วยล่ะสิงี้

    แต่จริงๆ แล้วพอหลังจากขอมเสื่อมอำนาจลง ขอบเขตประเทศก็เปลี่ยนไปมีอาณาจักรโน้นนี้ก่อตัวขึ้นมาใหม่ในดินแดนที่เคยเป็นของขอม เส้นแบ่งก็เปลี่ยนไป อะไรที่เคยเป็นของขอมก็เปลี่ยนไปเป็นของผู้มีอำนาจใหม่ จนมาสมัยปัจจุบันที่มีการกำหนดกฏเกณฑ์ในการแบ่งเส้นขอบเขตประเทศ วัดจากภูมิประเทศไม่ได้วัดจากศิลปวัฒนธรรม ถ้าเป็นบนเขาก็ต้องวัดจากสันเขา ปราสาทเขาพระวิหารเนี่ยถ้าวัดจากสันเขาก็อยู่ในเขตไทยนะ แต่ว่าตั้งแต่สมัยก่อนที่มีปัญหา ถึงจะอ้างว่าไม่ยอมรับคำตัดสินจากศาลโลก แต่ก็ไม่ได้ประท้วงต่อ ก็เลยทำให้มองว่ายอมรับไปแล้ว

    ถ้านับเอาดินแดนขอบเขตสมัยก่อนถือว่าเป็นดินแดนขอบเขตของประเทศตัวเองในปัจจุบันโดยชอบธรรมได้เนี่ย มันคงวุ่นกันตายเลย ชาวมอญคงเรียกร้องขอดินแดนคืนจากพม่า

    ประเทศอิหร่านคงขอเรียกร้องดินแดนในสมัยอาณาจักรเปอร์เซียคืนบ้าง

    [​IMG]

    และอิตาลีคงเรียกร้องดินแดนตั้งแต่สมัยเป็นอาณาจักรโรมันคืนบ้างเหมือนกัน

    [​IMG]
     
  15. tamroy

    tamroy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +11
    ทำดีได้ดี ทำชั่วได่ชั่ว ธรรมะอยู่ที่ใจ จะเถียงกันไปทำไมให้เเตกเเยก
     
  16. yaring

    yaring เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2006
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +155
    ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าปราสาทเป็นของใคร!!!
    ย่อมรับว่าปราสาทเป็นของกัมพูชา และที่ดินเป็นไทย ตามที่ศาลโลกได้ตัดสินไว้แล้ว

    ประเด็นอยู่ที่ว่า ทำไมกัมพูชาถึงไม่ยอมขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกัน 2 ฝ่าย ไทย-กัมพูชา
    ในเมื่อศาลโลกตัดสินให้ปราสาทเป็นของกัมพูชา ที่ดินเป็นของไทย
    แต่ทำไมกัมพูชาจึงกับขึ้นทะะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว!!!

    เพื่อความเป็นมิตรเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน ก็ควรช่วยกันดูแลปราสาทร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย
    ฉนั้นเพื่อความเป็นธรรมจึงควรขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย คือ ไทย-กัมพูชา ใช่ไหม!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2010
  17. รพินทร์ไพรวัลย์

    รพินทร์ไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ครับๆแล้วแต่ท่าน อยากได้ก็ไปช่วยเค้าแย่งมาละกัน ผมไม่โลภอยากได้ของที่ไม่ใช่ของของตัว ขี้เกียจอธิบายให้ลูกหลานฟังว่าได้มาอย่างไร
    ท่านเล่นยกมาทั้งโลกคุยเหมือนนักกฎหมายผมก็งงตายสิท่าน เค้าขอแค่ที่ติดๆข้างบ้าน ให้คนอื่นมาดูแล้วคนอื่นเค้าก็บอกว่าของขอม โชคดีที่กำแพงเมืองจีนยาวมาไม่ถึงไทย ไม่งั้นได้รบแย่งกำแพงกับประเทศจีนละก็ดูไม่จืดเลยนาพี่น้อง แค่นี้เค้าก็ขำกันทั้งโลกแล้ว
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    คำทำนายโลกของคุณยายวานก้า (บางส่วน)

    [​IMG]

    2008 - ผู้นำ 4 ประเทศถูกลอบสังหาร กรณีพิพาทในอินโดสถาน เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3
    2010 - เริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3 ( พฤศจิกายน 2010 - ตุลาคม 2014 ) ตอนแรกก็ใช้อาวุธธรรมดา ต่อมาก็ตามด้วยนิวเคลียร์และอาวุธเคมี การนำอาวุธนิวเคลียร์มาใช้ ทำให้ซีกโลกเหนือ จะไม่เหลือทั้งพืชและสัตว์ จากนั้นพวกมุสลิม จะใช้อาวุธเคมีเข้าจัดการกับชาวยุโรปที่ยังหลงเหลืออยู่ ผู้คนจะป่วยเป็นฝีหนองและมะเร็งผิวหนังกันมากจากผลของอาวุธเคมี


    http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&cate_id=68&post_id=41048

    ก็ไม่ได้เชื่อคำทำนายทั้งหมด ไม่อยากคิดว่ามันจะเป็นจริง ได้แต่รอดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ไม่ได้อยากให้เกิดจริง
    ดูเหตุการณ์แล้ว ก็น่าหวั่นไหว มิใช่น้อย ขออย่าให้มันเป็นจริงเลยนะ

    ปล. ที่ไหนมีทรัพยากรมากเป็นที่ต้องการของประเทศมหาอำนาจ ก็จะมีการจุดชนวนสงครามเพื่อจะได้เข้าแทรกแซง
    กิจการภายใน หรือแสดงความหวังดีเข้ามาสร้างสันติภาพจอมปลอมด้วยกองกำลังทหาร ถ้าไม่ฉลาดไม่ทันเขา
    ก็จะโดนปั่นหัวเอาได้ ปัญหามันมีเพราะมีคนตั้งใจสร้างปมปัญหา ถ้าเขาเห็นว่าเราโง่ ปั่นหัวได้ สั่งหันซ้ายขวาได้
    ต่อไปเขาก็จะรุกเอาเรื่องอื่นไปเรื่อยๆ จนเขาจะได้สมปรารถนา อยู่ที่เรามีปัญญาจะเอาตัวรอดจากวิกฤติการล่าทรัยากร
    ของประเทศอื่นได้หรือไม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2010
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เขมรประท้วง"กูเกิล เอิร์ธ"แสดงผลพระวิหารอยู่ในเขตไทย
    โดย ผู้จัดการ วัน เสาร์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 14:03:43 น.


    <HR>

    [​IMG]


    ปราสาทเขาพระวิหารเป็นแกนกลางปัญหาบาดหมางระหว่างไทยและกัมพูชามาโดยตลอด เอเอฟพี - กัมพูชากล่าวหาว่ากูเกิล อิงค์ "ไม่มีความรับผิดชอบแบบมืออาชีพ" ในจดหมายร้องเรียนซึ่งเอเอฟพีได้รับมาด้วยวันนี้(6) หลังจากแผนที่กูเกิลเอิร์ธระบุว่า เขาพระวิหารอยู่ในเขตแดนของประเทศไทย ขณะที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติบาดหมางกันนานมนานแล้วเพราะปราสาทสมัยศตวรรษที่ 11 แห่งนี้ จดหมายของนายสวาย สิธา เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุว่า แผ่นที่ของกูเกิลระบุว่า ตัวปราสาทเขาพระวิหารเกือบครึ่งหนึ่งอยู่ในดินแดนของรัฐไทย ซึ่งเป็นแผนที่ที่ไม่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ ดังนั้น รัฐบาลกัมพูชาขอเรียกร้องให้กูเกิลนำแผนที่ดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ เพราะเป็นแผนที่ที่ไม่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติดังกล่าว และก่อให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงด้วย

    <SCRIPT type=text/javascript><!-- np_ad_client = 'AID09091802'; np_ad_width = '577'; np_ad_height = '100'; np_color_border = 'FFFFFF'; np_color_bg = 'FFFFFF'; np_color_link = '69be09'; np_color_url = '008000'; np_color_text = '000000'; np_advertise = 3; np_ad_amount = (np_advertise-1); np_slide = 0; /*0=noslide,1=slide*/ np_exclusion_link='administrator';/*for WYSIWYG*/ /*ถ้าเจอ link นี้จะยังไม่ทำงาน*/ //--></SCRIPT>
    การร้องเรียนของรัฐบาลกัมพูชามีขึ้นหลัง ขณะที่นายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซน กำลังจะเดินทางไปเยือนปราสาทเขาพระวิหารเป็นครั้งแรกในวันนี้ กัมพูชาและไทยขัดแย้งกันมาตลอดเรื่องเขาพระวิหาร ที่อยู่ระหว่างรอยต่อของพรมแดนของทั้งสองประเทศ ความตึงเครียดทางชาตินิยมก่อขึ้นจนกลายเป็นความรุนแรงในเดือนกรกฎาคม 2008 ที่ผ่านมา เมื่อองค์การยูเนสโกประกาศให้เขาพระวิหารมีสถานะเป็นมรดกโลกของกัมพูชา โดยมีทหาร 4 คนเสียชีวิตจากการปะทะตามพรมแดนแถบนี้ในปี 2008 และอีก3 คนจากการยิงปะทะในเดือนเมษายนปีที่แล้ว นอกจากนั้น ยังมีรายงานการเผชิญหน้ากันอยู่บ่อยครั้งระหว่างกองกำลังของทั้งสองฝ่ายออกมาเรื่อยๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่มีการปักปันกำหนดเขตแดนระหว่างกันตามพรมแดนแถบเลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพื้นที่ดังกล่าวยังมีกับระเบิดฝังใต้ดินหลงเหลืออยู่จากสมัยสงครามกัมพูชาตั้งแต่หลายสิบปีก่อน
    เขมรประท้วงแผนที่กูเกิลระบุ "เขาพระวิหาร" อยู่ในเขตไทย

    [​IMG]

    กูเกิลรับลูกกัมพูชา ย้ำจะตรวจสอบกูเกิลแม็พ ภาพพื้นที่พิพาทไทยกัมพูชา
    สำนักข่าวเอพีรายงานวานนี้ว่า กูเกิล บริษัทให้บริการเซิร์ชเอนจิ้นยักษ์ใหญ่แห่งโลกไซเบอร์ได้ส่งจดหมายตอบกลับไป ยังทางการกัมพูชาว่า ดำเนินการตรวจสอบภาพแสดงผลของกูเกิลแม็พ ในพื้นที่ของเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างไทย และกัมพูชา
    ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงราว 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาได้ส่งหนังสือร้องเรียกไปทางกูเกิลในกรณีดังกล่าวว่า โดบระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง อีกทั้งขาดความเป็นมืออาชีพ และไร้ความรับผิดชอบ เนื่องจากภาพแผนที่ดาวเทียมในบริการกูเกิล เอิร์ธ แสดงภาพให้เขาพระวิหารอยู่เขตพื้นที่ของไทยมากกว่าครึ่ง
    “เราเข้าใจว่าทางไทย และกัมพูชากำลังเจรจาตกลงในเรื่องดังกล่าว เรายินดีที่จะทบทวนอย่างละเอียดและระมัดระวังถึงข้อโต้แย้งของทางรัฐบาล กัมพูชาในกรณีของภาพพื้นที่ชายแดนที่แสดงบนกูเกิลเอิร์ธ” กูเกิลระบุในจดหมาย
    นอกจากนี้ ในจดหมายชี้แจงดังกล่าวยังระบุว่าข้อมูลแผนที่ดังกล่าวได้มาจากทาง บริษัท เทเล แอทลาส บริษัทจัดหาข้อมูลแผนที่ระบบดิจิตอลและเนื้อหาเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งชั้น นำ แต่ทว่ายังไม่มีความคิดเห็นใดๆ จากทางโฆษกของเทเล แอทลาส
    อย่างไรก็ตาม ทางกูเกิลไม่มีการระบุถึงรายละเอียดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงภาพดังกล่าว

    ข่าวทั่วไป - กูเกิลรับปากทบทวนแผนที่ พระวิหาร
     
  20. Jedi Master

    Jedi Master Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +75
    ระบบประเทศถูกสร้างขึ้นโดยชาวตะวันตก ในช่วงเวลาที่การล่าอาณานิคมเป็นกิจกรรมของผู้ครอบครองอาวุธที่มีการทำลายล้างสูง

    สังคมแต่เดิมที่เป็นมา เริ่มจาก ครอบครัว ชุมชน หมู่บ้าน เมือง(มีหลายระดับเมือง) อาณาจักร ราชอาณาจักร

    ราชอาณาจักร คือขอบเขตของพระราชอำนาจแห่งกษัตริย์ของกษัตริย์ทั้งหลาย
    ขอบเขตของอาณาจักรมักเปลี่ยนแปลงเสมอเมื่อ่ผลัดแผ่นดิน
    เพราะกษัตริย์แต่ละพระองค์มีความสามารถในทางพระเดชและพระคุณแตกต่างกัน
    และขึ้นอยู่กับวิถีทางการก้าวขึ้นสู่อำนาจสูงสุด อำนาจแห่งเจ้าชีวิต กษัตริย์ที่อยู่เหนือกษัตริย์ กษัตริย์ที่ปกครองกษัตริย์
    ถ้าสืบทอดโดยตำแหน่งก็อภิเษกขึ้นตามลำดับยศ กษัตริย์ อุปราช(อำนาจรองจากกษัตริย์มักเป็นพี่น้องและญาติสนิทใกล้ชิดของกษัตริย์) รัชทายาท(มักเป็นเชื้อสายของกษัตริย์กับมเหสีหรือเมียที่ยศใหญ่ที่สุด) ปัญหามักเกิดระหว่างอุปราชและราชบุตรเสมอ
    จึงมีการรบราแย่งบัลลังค์ระหว่างอุปราชและรัชทายาทเสมอๆ และชัยชนะก็มักจะตกอยู่กับอุปราชเสมอ เพราะอุปราชส่วนใหญ่ขึ้นเป็นเพราะความสามารถแต่รัชทายาทเป็นโดยสายเลือด
    การขึ้นสู่อำนาจด้วยการกระทำที่อยู่เหนือกฏมณเฑียรบาล(เพื่อปราบทุกข์เข็ญหลายครั้งจึงเป็นการกระทำที่ได้รับการยกย่อง แม้จะผิดต่อคำสาบานที่มีในพิธีโองการแช่งน้ำ) จึงเรียกว่าปราบดาภิเษก

    นานมากแล้ว สุวรรณภูมิได้เริ่มมีอาณาจักรที่เป็นรูปร่างใหญ่คือ
    เจนละ จามปา ทวารวดี ตามพรลิงค์ ศรีวิชัย
    เจนละ(ชนชาติขอมโบราณซึ่งก็เป็นเชื้อชนที่ถูกไล่ตีหนีสงครามมาจากชมพูทวีป)
    ยังแบ่งเป็นเจนละเหนือหรือเจนละบก และเจนละใต้หรือเจนละน้ำ ทั้งสองเจนละผลัดกันขึ้นมีอำนาจสูงสุด หลายครั้งก็รบกันระหว่างเจนละเหนือและใต้เอง อาณาจักรกว้างใหญ่ตะวันตกถึงกาญจนบุรี ทางใต้สุดเขตที่อาณาจักรตามพรลิงค์หรือตามพรลึงค์ ทางเหนือถึงสิบสองปันนา ตะวันออกสุดที่อาณาจักรจามปา
    พื้นที่ศูนย์กลางของอำนาจเจนละคือแผ่นดินกัมพูชาในปัจจุบัน แต่พระราชวังหลวงมีการย้ายไปย้ายมาหลายครั้ง
    แต่ปัญหาของเจนละบางพื้นที่คือเรื่องน้ำ จึงต้องมีการเกณฑ์ทาสและผู้คนในอาณัติบางส่วนเพื่อทำหน้าที่ขนส่งน้ำเข้าไปให้ชาวเมืองเจนละใช้อุปโภคและบริโภคกัน เป็นที่มาของส่วยน้ำ
    ภาษาของเจนละชนชั้นปกครองนั้นใช้เป็นภาษาขอมโบราณที่มีรากฐานจากภาษาสันสกฤตหรืออักษรเทวนาครีนั่นเอง เพราะศิลปวิทยาการต่างๆมากับพราหมณ์จากชมพูทวีปทั้งสิ้น แม้แต่การใช้ตะเกียบก็มากับพราหมณ์ไม่ใช่จีน แต่ภาษาที่ชาวบ้านใช้พูดกันเป็นบาลีไม่มีรูปตัวอักษร
    เมื่อการกดขี่ทาสเป็นอยู่อย่างรุนแรงและยาวนาน ทั้งเรื่องส่วยน้ำ การเกณฑ์คนไปก่อสร้างปราสาทราชวังและถาวรวัตถุต่างๆก็เริ่มมากจนเกินความอดทนของเหล่าผู้ถูกปกครอง จึงเริ่มตำนานพระร่วงส่วยน้ำ เมื่อเวลาเหมาะสม กองกำลังของผู้ถูกปกครองเริ่มเข้มแข็ง สถาบันกษัตริย์ของเจนละก็เริ่มอ่อนแอ เพราะมัวแต่ลุ่มหลงในการสร้างถาวรวัตถุเพื่อแสดงราชอำนาจของตน จึงไม่ได้บำรุงบำเรอความผาสุกของไพร่แผ่นดิน จุดเสื่อมตรงนี้เป็นเหตุให้ผู้ถูกปกครองบนแผ่นดินอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำโขงสบโอกาสก่อการแข็งข้อและแยกตนเองออกเป็นเมือง อาณาจักรสุโขทัยก็เริ่มต้นจากตรงนี้ รูปภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยปัจจุบันก็เกิดจากการรังเกียจขอมที่เคยกดขี่แล้วสร้างภาษาขึ้นใหม่ซึ่งก็มีรากมาจากบาลีและสันสกฤต และยังมีมีอาณาจักรละโว้ ซึ่งพระเจ้าอู่ทองก็มาจากละโว้สร้างเมืองอโยธยาแล้วภายหลังเรืองอำนาจด้วยชัยภูมิดี รบก็ได้ ค้าขายก็คล่องเพราะมีน้ำเป็นทางเข้าออกทะเล ติดต่อกับอาณาจักรทางใต้ได้สะดวกหรือแม้แต่จีนก็เป็นพันธมิตร จึงกลายเป็นอาณาจักรอโยธยาศรีรามเทพนครและเริ่มมีอำนาจเหนืออาณาจักรรายรอบด้วยทั้งพระเดชและพระคุณ สุดท้ายก็กลายเป็นราชอาณาจักรสยามหรือซียัมก๊ก

    ศิลปวิทยาการต่างๆที่เริ่มขึ้นมาบนแผ่นดินสยามก็มาจากขอมทั้งสิ้น ภาษา การก่อสร้าง วิชาช่าง แม้แต่ตัวช่างในแขนงต่างๆก็ถูกเกณฑ์มาตอนมีชัยเหนืออาณาจักรขอมโบราณ รบกันบ่อย ส่วนใหญ่กองทัพอโยธยาจะยกไปลุยกับเขามากกว่า มีชัยชนะก็ขนผู้คนและสมบัติกลับมามากมาย แต่พอเสียกรุงให้อาณาจักรพุกาม ก็โดนเขากระทำเหมือนกับที่เคยทำกับผู้อื่น คือก็โดนขนคนและสมบัติไปพุกามเช่นเดียวกัน
    สมบัติที่เคยอยู่ราชวังขอมถูกขนมาราชวังอโยธา(โยเดีย-โยดิยา ในสำเนียงพุกาม) แล้วก็ถูกขนต่อไปราชวังพุกาม และอีกมากที่ถูกอังกฤษขนไปจากพุกาม
    กษัตริย์โบราณยุคก่อร่างสร้างอาณาจักรอโยธยาศรีรามเทพนครไม่ได้พูดใช้ภาษาที่ท่านใช้กันในปัจจบันนี้นะ ภาษาที่ถนัดทั้งพูดและเขียนรวมถึงภาษาราชการใช้ภาษาขอม แม้การจารอักขระเพื่อบันทึกเรื่องราวในศิลาก็ใช้ภาษาขอม เพราะอาจารย์และสำนักต่างๆที่มีสรรพวิชาความรู้ท่านก็ถ่ายทอดสืบมาเป็นภาษาขอม
    ปรางค์กลีบมะเฟืองในยุคต้นของกรุงอโยธาศรีรามเทพนครก็เป็นศิลปะและฝีมือช่างขอมโบราณ ช่างทั้งหลายพร้อมครัวเรือนเป็นอันมากก็ถูกอพยพมาเมื่ออโยธยามีชัยเหนือขอม แล้วก็ฝังรกรากเป็นต้นตระกูลของคนมากมายบนแผ่นดินสยามนี้
    มันเป็นสูตรสำเร็จหน้าท้ายๆของตำราพิชัยสงคราม การตัดกำลังผู้คน หากอริผู้พ่ายศึกใคร่อยากจะทำศึกโต้ตอบก็ต้องรอเพาะผู้คนอีกรุ่นสองรุ่น ใช้เวลาฝึกฝนผู้คนอีก เพราะคนเก่งไม่ตายก็โดนโยกย้ายไปเสียเกือบหมดแล้ว เหมือนตองเจตอนกู้กรุงนั่นอย่างไร
    เมื่อครั้งกรุงสยามเรืองอำนาจก็รบราฆ่าฟันกดขี่อริเชลยไม่น้อยเหมือนกัน มันเป็นธรรมชาติของวัฏจักรแห่งอำนาจ
    ชนชาติที่เห็นจะเป็นมิตรผูกพันธ์กับชาวเรามากที่สุดก็เห็นจะเป็นมอญ ทั้งร่วมรบร่วมสร้างช่วยเหลือซึ่งกันและกันมานาน

    สุดท้ายนี้หวังว่าท่านทั้งหลายคงมีความเข้าใจและปลงใจในเรื่องเหล่านี้
    ว่ามันเป็นวัฏจักรของธรรมชาติมนุษย์
    พี่น้องกันทั้งนั้น เหล่าเชื้อราชนิกูลของชาวเขาเราก็เอามา เหล่าเชื้อราชนิกูลของเราเขาก็เอาไป แยกกันไม่ออกแล้ว แค่ชาวตะวันตกวางยาเอาไว้ ถ้ารู้เท่าทันก็อย่าเป็นเหยื่อ อย่าสร้างความเกลียดชังให้มีต่อกันเพื่อเป็นไปตามประสงค์ของชาวตะวันตกรุ่นล่าอาณานิคม เพราะบรรพกษัตริย์บางพระองค์รู้เท่าทันจึงไม่เต้นไปตามหมากที่ถูกวางเอาไว้ รบกันเองระหว่างสยามกับกัมโพช พออ่อนกำลังลงทั้งสองฝ่ายก็เสร็จโจร
    สงครามใหญ่ครั้งสุดท้ายระหว่างอาณาจักรสยามกับอาณาจักรกัมโพชเกิดขึ้นเมื่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ครั้งนั้นกองทัพสยามมีผู้นำทัพที่โง่เขลานัก เจอกลศึกลูกไม้ตื้นๆก็หลงกล ชาวกัมโพชแสร้งทิ้งเมืองปล่อยให้กองทัพสยามรุกคืบเข้าไป ได้ทีเหมาะก็โจมศึกใส่ กองทัพสยามด้วยประมาทมิทันตั้งตัว ถูกฆ่าตายอย่างทารุณโหดเหี้ยมและไม่มีนโยบายจับเชลย ตายเกือบทั้งหมดหรืออาจจะหมดเลยก็ได้ พื้นที่ในครั้งนั้นคือ"เสียมราฐ"ซึ่งมาจาก"เสียมเรียบ"ซึ่งมาจาก"สยามเรียบ"ซึ่งมาจาก"สยามตายเรียบ"

    สงครามก็อย่างนี้แหละท่านทั้งหลาย
    ความเจ็บปวดกับความตายเป็นเครื่องดื่มของนักรบอยู่แล้ว
    ฆ่าเขา เขาก็ฆ่าเรา สำหรับนักรบแล้วถือว่าความตายเป็นเกียรติยศสูงสุด เพราะถือว่าได้แสดงความกล้าหาญและเสียสละในการปกป้องแผ่นดินและผู้คนที่ตนรักและหวงแหน
    แต่บัดซบที่สุดก็ตรงที่บรรดาคนทั้งหลายที่เหล่าบรรพกษัตริย์และบรรพชนสู้เสียสละความสุขส่วนตน เลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องด้วยความรักและหวงแหน... กลับมล้างชีวิตกันเอง ไอ้ลูกหลานจัญไร

    หมดเวลาทำสงครามกับผู้คนหรือสิ่งอื่นที่อยู่ภายนอกแล้วท่านทั้งหลาย
    เวลาจากนี้ท่านจงรณรงค์สงครามกับฝ่ายต่ำภายในตนกันเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2010

แชร์หน้านี้

Loading...