น่าเป็นห่วง หลักสูตรพุทธศาสนา จากบางอาจารย์ สอนตายแล้วสูญ ( หลักสูตร ม.1- ม.6)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 24 มกราคม 2006.

?
  1. ไม่เห็นด้วย (คิดว่าสอนผิด)

    0 vote(s)
    0.0%
  2. เห็นด้วย (คิดว่าสอนถูก)

    0 vote(s)
    0.0%
  1. B5234T5

    B5234T5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +210
    เอามาฝากให้ดูเล่นๆ

    [​IMG]

    เรื่อง...ในโลกนี้มีพุทธศาสนาเพื่อเข่นฆ่าสิ่งเหล่านี้มิให้เหลือ

    ภาพนี้เป็นภาพแท่นวัชระอาสน์ ธรรมจักร และตรีรัตนะ ใต้ต้นโพธิ์ อันแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมีล้อธรรมจักร หมายถึงธรรมะของพระองค์ กำลังแล่นตัดหรือทำลาย ซึ่ง การเบียดเบียน พิธีรีตอง ความหลอกลวง โชคชะตาราศี ชั้นวรรณะ ไสยศาสตร์ ความเมาศาสนา เมาสวรรค์ เมาตำรา เมาอาจารย์ และเมาอัตตา ตัวตน.

    มีคำบรรยายประกอบภาพว่า ในโลกนี้มีพุทธศาสนา เพื่อเข่นฆ่าสิ่งเหล่านี้มิให้เหลือ นั่นคือทำลายสิ่งดังกล่าวนั่นเอง.

    สิ่งดังกล่าวมีขึ้นมาในโลกก็เพราะอำนาจความเห็นแก่ตัว ที่มีอยู่ในจิตใจของคนเราแต่ละคนๆนี่เอง. ดังนั้น หากทำลายความเห็นแก่ตัวลงไปด้วยเครื่องมือธรรมะของพระพุทธองค์ สิ่งดังกล่าวจะถูกทำลายพร้อมกันไปในตัว. สิ่งดังกล่าวหมดไปจากจิตใจของเราได้เพียงใด ความเป็น ชาวพุทธ ของเรา (ความไม่ทุกข์) จะสมบูรณ์ขึ้นเพียงนั้น ตรงกันข้าม หากสิ่งดังกล่าวยังเต็มอัดอยู่ในจิตใจ ก็พึงรู้ตัวเถิดว่า เราเป็นชาวพุทธแต่เพียงเปลือกนอกหรือเพียงทะเบียนเท่านั้น.
     
  2. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    จ้าาา ท่านจอมยุทธ์ ข้าน้อยยินดียิ่งนัก ^^
     
  3. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจ โดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    จะแจ่มแจ้งในโพธิปัญญาได้หรือ??? หลักการและเหตุผลที่เข้าข้างตนเอง ไม่ยอมฟังคนอื่น มันเถียงกันไปก็เท่านั้นแหละ เพราะท่านไม่ใช่นักตรรกศาสตร์ที่ดีเลย เข้าข้างตนเองอย่างเดียว ไม่มีความเป็นนักวิทยาศาสตร์เลย เพราะไม่เปิดใจรับอะไรทั้งนั้น นอกจากหลักการของตน นี่หรืออัจฉริยภาพของท่าน<!-- google_ad_section_end -->
    ----------------------------------
    กรุณาอย่าเอาแต่บ่นเพ้อ

    แต่ขอให้ชี้แจงมาว่าผิดตรงไหน? อย่างไร? จะดีกว่า

    ก็ไม่เห็นจะมีหลักการอะไรมาโต้แย้งเลย

    หรือไปศึกษามาใหม่ให้มากกว่านี้จะดีกว่า
     
  4. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    <table id="post2914170" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] วันนี้, 02:50 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #1856 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เตชปญฺโญ ภิกขุ<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2914170", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Oct 2006
    ข้อความ: 436
    พลังการให้คะแนน: 88 [​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2914170" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->ตอบข้อข้องใจ โดย เตชปญฺโญ ภิกขุ<!-- google_ad_section_end -->

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->จะแจ่ม แจ้งในโพธิปัญญาได้หรือ??? หลักการและเหตุผลที่เข้าข้างตนเอง ไม่ยอมฟังคนอื่น มันเถียงกันไปก็เท่านั้นแหละ เพราะท่านไม่ใช่นักตรรกศาสตร์ที่ดีเลย เข้าข้างตนเองอย่างเดียว ไม่มีความเป็นนักวิทยาศาสตร์เลย เพราะไม่เปิดใจรับอะไรทั้งนั้น นอกจากหลักการของตน นี่หรืออัจฉริยภาพของท่าน<!-- google_ad_section_end -->
    ----------------------------------
    กรุณาอย่าเอาแต่บ่นเพ้อ

    แต่ขอให้ชี้แจงมาว่าผิดตรงไหน? อย่างไร? จะดีกว่า

    ก็ไม่เห็นจะมีหลักการอะไรมาโต้แย้งเลย

    หรือไปศึกษามาใหม่ให้มากกว่านี้จะดีกว่า
    </td></tr></tbody></table>
    ตื่นมาทำอะไรเหรอครับ ท่านเตชปัญโญ???
     
  5. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    สิ่งที่ผมยอมรับไม่ได้ก็ที่ว่า ตายแล้วสูญ นั่นแหละท่าน
    เพราะนั่นจะหมายถึง ไม่มีคำว่าเวียนว่ายตายเกิดทางภพภูมิ
    เป็นปฏิบัติกับหลักอิทัปปัจจยตา คือ ทุกอย่างมีเหตุอิงอาศัยซึ่งกันและกัน

    จริงหรือไม่ ที่คนเราเกิดมาก็มีความไม่เท่าเทียมอยู่แล้ว
    ท่านจะบอกว่าเป็นเหตุบังเอิญหรืออย่างไร มันไม่ใช่เหตุผลเลย
    เราอาจจะพูดว่า เหตุนั้นมาจากกรรมพันธุ์ของพ่อแม่ และการเลี้ยงดู
    แล้วอะไรเล่า ที่เป็นเหตุในนั้นอีกที ที่ส่งผลให้เกิดแบบนั้น
    เพราะความบังเอิญหรือ?

    สิ่งที่เป็นเหตุเป็นผล เป็นอิทัปปจยตามันต้องมีปัจจัยสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่านี้ซิ
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CPeaceful%20Spirit%5CLocal%20Settings%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:UseFELayout/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:SimSun; panose-1:2 1 6 0 3 1 1 1 1 1; mso-font-alt:宋体; mso-font-charset:134; mso-generic-font-family:auto; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:3 135135232 16 0 262145 0;} @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"\@SimSun"; panose-1:2 1 6 0 3 1 1 1 1 1; mso-font-charset:134; mso-generic-font-family:auto; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:3 135135232 16 0 262145 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:SimSun; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->[FONT=&quot]กล่าวคือ เป็นลักษณะเช่นนี้ สันดานเช่นนี้ ตัวตนเช่นนี้ พลังเช่นนี้[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]การกระทำเช่นนี้ เหตุเช่นนี้ ปัจจัยสัมพันธ์เช่นนี้ ผลแฝงเช่นนี้ ผลสำแดงเช่นนี้[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]และต้นปลายสอดคล้องเข้ากันได้อย่างถี่ถ้วนเท่าเทียมกันเช่นนี้ของปรากฏการณ์ทั้งหลาย[/FONT][FONT=&quot] [/FONT]

    มันต้องกลมกลืนกันแบบนี้ ไม่ใช่แบบห้วนๆ
     
  6. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    สสารแปรเป็นพลังงาน พลังงานแปรเป็นสสาร
    มันไม่เห็นจะสูญไปเลย ถ้าท่านเปรียบจิตเป็นพลังงาน
    ก็สรุปได้แล้วว่าจิตไม่สูญ แต่ก็ไม่ยั่งยืน แปรเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ
    ท่านพูดถูกอย่างนึง ที่ว่าจิตนั้นไม่อมตะ มันแปรเปลี่ยนไปเรื่อย
     
  7. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    ง่ะ หดหู่อีกแว้ว โต้กันอีกแว้ว สงสัยจะเกิน100หน้ากระดาน
     
  8. โมฆะบุรุษ

    โมฆะบุรุษ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    ผมมีคำถามมาให้พิจารณาครับ

    1.เหตุใดดอกบัวถึงมี 4 เหล่า?

    2.เหตุใดกรรมฐานถึงมี 40 กอง?

    3.เหตุใดจึงต้องมีศีล5,8,10,227 ?

    พระพุทธเจ้าท่านต้องการให้เรารู้อะไร? (ผู้นำ,ผู้ตาม,กวี,ชาวบ้าน,นักปราชญ์)
    และตัวเราควรทำหน้าที่อะไร อย่างไร?

    4.เพราะเหตุใดพระพุทธศาสนาถึงต้องอยู่ครบ 5,000 ปี



    "เพราะความศรัทธาทำให้เกิดปัญญา และปัญญาทำให้รู้ว่าศรัทธาเพราะว่าอะไร"
    "พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ชีวิตตัง เม ปูเชมิ"
     
  9. ลัก...ยิ้ม

    ลัก...ยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    3,409
    ค่าพลัง:
    +15,762
    สำหรับยิ้มแล้ว

    ท่านห่มเหลืองผิดตรงที่ยังไม่ยอมปฏิบัติตนตามวิถีแห่งพุทธบุตร ปัญญาก็ยังไม่แตกฉาน เป็นแค่หนอนตำรา ยังบังอาจจะพลิกฟ้าลงต่ำ


    ชัดเจนพอสมควรไหมท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2010
  10. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ขอลองตอบดูนะครับ

    ๑. "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องมาจากเหตุปัจจัยเท่านั้น"?

    ตอบ = ยอมรับครับ เพราะพระพุทธองค์ทรงสอนไว้ว่า

    "ทำดีได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว" แต่ในบางเรื่องพระองค์ไม่ทรงสอน

    เช่น เรื่องที่เป็นใบไม้นอกกำมือ เพราะรู้แล้วก็ไม่เกิดประโยชน์

    ขออนุญาตถามท่านเตชปญฺโญ ภิกขุว่า
    ปัจจัยใดที่ทำให้เกิดพระนิพพาน (รบกวนตอบด้วยครับ)

    ๒. ยอมรับหรือไม่ว่า "แม้พระไตรปิฎก ก็อาจถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดเพี้ยนมาก่อนได้"?

    ตอบ = ยอมรับครับ เพราะปัจจุบันมีพระไตรปิฎกหลายเวอร์ชั่นมาก เพราะมีคนแอบไปตัดต่อ แต่ถ้าเลือกเวอร์ชั่นดั้งเดิม ผมว่า มีการแก้ไขไม่มากครับ
    เพราะการสังคายนาพระไตรปิฎกแต่ละครั้ง ต้องอาศัยพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเข้าร่วมสังคายนาครับ

    ที่ผมบอกว่า เชื่อว่าพระไตรปิฎกบางเวอร์ชั่นโดนดัดแปลง เพราะว่า ขนาด "พระพุทธเจ้า" สอนว่า นิพพานไม่สูญ ยังมี "คน" มาบอกว่านิพพานสูญเลยครับ

    ใช้หลักเหตุผล คือ พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า ธรรม คือ สิ่งที่มีอยู่แล้ว แต่ท่านเป็นผู้ไปพบ นั่นหมายความว่า "ธรรม" ไม่สูญ หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ถ้านิพพาน "สูญ" แล้วเราจะจำพระพุทธเจ้าได้อย่างไร

    ดังนั้นที่เรายังระลึกถึงพระองค์ท่านได้ แสดงว่า นิพพานไม่สูญจริงไหมครับ

    ขออนุญาตถามท่านเตชปญฺโญ ภิกขุว่า
    ถ้าตายแล้วสูญ แล้วการเกิดมาจากปัจจัยอะไร (รบกวนตอบด้วยครับ)

    วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ไว้ว่างๆจะมาแลกเปลี่ยนความเห็นกับท่านใหม่ครับ
     
  11. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    ตอนนี้ผมไม่มีความรู้ที่แท้จริงในคำตอบ

    แต่ถ้าท่านมีโอกาสได้สนทนาธรรม กับผู้รู้ที่แท้จริง ท่านจะได้แนวคำตอบ

    แต่ถ้าท่านจะยืนยันคำตอบของท่านเองว่าถูกต้องจริง

    ผมขอเสนอให้ท่านปฏิบัติให้รู้แท้จริงก่อน แล้วท่านค่อยออกมายืนยันคำตอบดีมั้ยครับ

    ส่วนตัวผม ยังมีสติรู้ตัวว่า ผมยังเลว ยังโง่อยู่ แต่ปรารถนาจะรู้จริง แต่ ณ ตอนนี้ผมยังไม่มีความรู้ที่แท้จริงที่จะตอบครับ

    และไม่กล้าออกมายืนยันคำตอบ เพราะผมยังไม่รู้จริง แค่จำ ๆ มาเท่านั้น ไม่ใช่ความรู้จากการปฏิบัติ

    สิ่งที่ผมต้องระวังอยู่เสมอ คือ การที่ผมมีมานะของตัวเองสูง อาจทำให้ตกนรกได้โดยง่ายครับ

    ขอขมาท่านหากผมได้เคยล่วงเกินต่อท่าน

    สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดผมมีเจตนาที่ดีต่อท่าน หากผมคิดไม่ดีกับท่าน ผมจะไม่กล่าวในสิ่งที่พูดไปครับ

    ด้วยความปรารถนาดี ............คนแวะมาอ่าน (ที่ยังมีสติรู้ว่าตัวเองเลว และยังโง่อยู่)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  12. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    ยังไม่จบอีกรึ
     
  13. prapang

    prapang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +956
    ที่ยังไม่จบก็เพราะ เราจะยอมก้มหัวให้กับผู้ที่เป็นสัมมาทิฐิเท่านั้น แต่เราจะไม่ยอมก้มหัวให้กับบุคคลที่ห่มผ้าเหลือง แต่เป็นมิจฉาทิฐิ หรือพวกเถรใบลานเปล่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  14. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    หน้าที่ของบุคคล ที่ได้รับเขาก็พยายามอย่างที่สุดเพื่อให้ลูกหลานได้มีความรู้
    เราจะว่ากล่าวเขาอย่างเดียวก็ไม่ได้ เนื่องด้วยหน้าที่ที่คนใหญ่กว่ามอบให้
    เขาก็สอนตามที่เขาร่ำเรียนมา ความผิดย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้ไร้ปัญญา ยุติการแสวงหาคำสอนที่ถูกที่ควร บุคคลผู้ไม่ยอมรับ จะเข้าไปแทรกแซงก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้รับมอบหมายจากทางการ นักธรรมส่วนน้อย ที่คิดว่าดับสูญ ความรู้จึงยุติที่๑๐๐ปี แต่พอได้ศึกษาเพิ่มก็พัฒนาไปเรื่อย เดี๋ยวเหตการณ์ก็เปลี่ยนแปลงไปเองแหละครับ
     
  15. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ทุกสิ่งเป็นไปตามธรรมดาของมัน ล่องลอยไปจนเกิดความสมบูรณ์พร้อม เมื่อตรงนี้พร้อม
    ที่อื่นพร้อม เมื่อพร้อมกันหมด จึงเกิดธาตุ น้ำคือน้ำ ดินคือดิน ลมคือลม ไฟคือไฟ (ผสมกันอยู่ ธาตุหมายถึงเนื้อเดียว)
    เมื่อเกิดธาตุสมบูรณ์ ความบริสุทธิ์คือความเข้มข้นของธาตุแตกตัวออกเป็นองค์ชีวิต กินและอาศัยองค์ธาตุทั้งสี่ในการกำเนิด รวมหมดนี้เรียกจักรวาลธาตุ คือมีความสมบูรณ์ครบพร้อมแล้วอาศัยซึ่งกันแล้วเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว
    ขอลัดนะแต่เดิมยังไม่มีวิญญาน เพราะวิญญาณคือธาตุดินน้ำลมไฟล่องลอยไปอย่างอิสระไร้ขอบเขตและไร้ผู้บงการเปรียบดั่ง ทุ่นลอยตามน้ำ นุ่นลอยตามลม เมื่อเกิดธาตุสมบูรณ์ เกิดองค์ชีวิต กินธาตุสี่เดียวกัน จึงเจริญด้วยอาหารธาตุ องค์ชีวิตที่ไร้เพศมีวาระแห่งการเกิด เนื่องด้วยการเจริญด้วย อายุ วรรณ สุข พลัง ขยายพันธุ์ เป็นรูปที่ใหญ่ขึ้น เมื่อใหญ่ขึ้น จึงเจริญด้วยความอยาก ต่างสรรหาอาหารมาเพื่อบำรุงตน จึงเบียดเบียน
    ยิ่งเบียดเบียนยิ่งตัวใหญ่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว นี่คือธรรมดาของธาตุพันธุ์ (หมายถึงธาตุรอง)
    ลัดเลยนะ วิญญาณเริ่มเกิดเมื่อธรรมชาติสมบูรณ์ ได้แก่ มหาธาตุ (จักรวาล) ธาตุหลัก (ดินน้ำไฟลม) ธาตุรอง (ไม้ทองหินทราย) ธาตุผสม (เชื้อโรค สัตว์เดรัจฉาน) เป็นต้น
    เอาแค่นี้ก่อน ดูการตอบรับก่อน เดี๋ยวหาว่าเราบ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2010
  16. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ๑. "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องมาจากเหตุปัจจัยเท่านั้น"?
    ตอบ = ยอมรับครับ เพราะพระพุทธองค์ทรงสอนไว้ว่า
    "ทำดีได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว" แต่ในบางเรื่องพระองค์ไม่ทรงสอน
    เช่น เรื่องที่เป็นใบไม้นอกกำมือ เพราะรู้แล้วก็ไม่เกิดประโยชน์
    ---------------------------------------------
    เมื่อยอมรับก็อยากจะถามต่อว่า แล้วจิตหรือวิญญาณมันจะอาศัยอะไรเพื่อเกิดขึ้นมาเมื่อไม่มีร่างกายที่ยังไม่ตาย?
    **************************************
    ขออนุญาตถามท่านเตชปญฺโญ ภิกขุว่า
    ปัจจัยใดที่ทำให้เกิดพระนิพพาน (รบกวนตอบด้วยครับ)

    -------------------------------------------------
    ขอย้อนถามกลับก่อนว่า นิพพาน ในความเห็นของคุณนั้นคืออะไร? (ถ้าเข้าใจนิพพานไม่ตรงกัน แล้วจะตอบให้เข้าใจได้อย่างไร)
    *********************************************************************
    ๒. ยอมรับหรือไม่ว่า "แม้พระไตรปิฎก ก็อาจถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดเพี้ยนมาก่อนได้"?
    ตอบ = ยอมรับครับ เพราะปัจจุบันมีพระไตรปิฎกหลายเวอร์ชั่นมาก เพราะมีคนแอบไปตัดต่อ แต่ถ้าเลือกเวอร์ชั่นดั้งเดิม ผมว่า มีการแก้ไขไม่มากครับ
    เพราะการสังคายนาพระไตรปิฎกแต่ละครั้ง ต้องอาศัยพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเข้าร่วมสังคายนาครับ
    ----------------------------------------------------

    แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระไตรปิฎกไม่ว่าจะเวอร์ชั่วใด เป็นของจริงแท้ไม่ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดเพี้ยนมาก่อน?
    *******************************************************
    ที่ผมบอกว่า เชื่อว่าพระไตรปิฎกบางเวอร์ชั่นโดนดัดแปลง เพราะว่า ขนาด "พระพุทธเจ้า" สอนว่า นิพพานไม่สูญ ยังมี "คน" มาบอกว่านิพพานสูญเลยครับ
    ---------------------------------------
    ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจคำว่า นิพพาน กันก่อน จึงค่อยไปว่าเรื่องสูญหรือไม่สูญกันอีกที??
    **********************************
    ใช้หลักเหตุผล คือ พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า ธรรม คือ สิ่งที่มีอยู่แล้ว แต่ท่านเป็นผู้ไปพบ นั่นหมายความว่า "ธรรม" ไม่สูญ หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ถ้านิพพาน "สูญ" แล้วเราจะจำพระพุทธเจ้าได้อย่างไร
    ดังนั้นที่เรายังระลึกถึงพระองค์ท่านได้ แสดงว่า นิพพานไม่สูญจริงไหมครับ
    ---------------------------------
    นี่คุณKomodoคงยังไม่เข้าใจหรือไม่ได้ศึกษาธรรมะมาอย่างลึกซึ้งเพียงพอ ถึงได้เข้าใจอะไรไม่เข้าร่องเข้ารอยแบบนี้
    **************************************
    ขออนุญาตถามท่านเตชปญฺโญ ภิกขุว่า
    ถ้าตายแล้วสูญ แล้วการเกิดมาจากปัจจัยอะไร (รบกวนตอบด้วยครับ)
    -------------------------------------------------
    อาตมาไม่ได้สอนว่าตายแล้วสูญ แต่สอนว่า มันสูญมาแล้วตั้งแต่ยังไม่ตาย (ไม่เหมือนกันนะ)
    การเห็นว่าตายแล้วเกิด ก็เป็นความเห็นผิด การเห็นว่าตายแล้วสูญก็เป็นความเห็นผิดเหมือนกัน
    แต่ถ้าสอนว่า ไม่มีใครมาเกิด ก็เท่ากับว่า ไม่มีใครตาย หรือไม่มีการสูญหาย(เพราะไม่มีใครหาย)
    คุณต้องไปศึกษาคำว่า อัตตา กับ อนัตตา มาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อน จึงค่อยมาศึกษาเรื่องสูญหรือไม่สูญอีกที
     
  17. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอนนี้ผมไม่มีความรู้ที่แท้จริงในคำตอบ
    แต่ถ้าท่านมีโอกาสได้สนทนาธรรม กับผู้รู้ที่แท้จริง ท่านจะได้แนวคำตอบ
    -----------------------------------------
    แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครรู้จริงหรือรู้ไม่จริง? (เอาอะไรเป็นเครื่องวัด?)

    *************************************************
    แต่ถ้าท่านจะยืนยันคำตอบของท่านเองว่าถูกต้องจริง
    ผมขอเสนอให้ท่านปฏิบัติให้รู้แท้จริงก่อน แล้วท่านค่อยออกมายืนยันคำตอบดีมั้ยครับ
    -------------------------------------------
    แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าใครปฏิบัติ? ใครไม่ปฏิบัติ? (หรือเดาเอาตามความรู้สึก?)
    สงสัยคุณTeetab คงยังไม่เคยศึกษาหลักกาลามสูตรมาก่อนเป็นแน่???

    www.whatami.net เว็บไซต์สำหรับบุคคลอัจฉริยะ​
     
  18. เตชปญฺโญ ภิกขุ

    เตชปญฺโญ ภิกขุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +117
    ตอบข้อข้องใจ โดย เตชปญฺโญ ภิกขุ

    แต่เดิมยังไม่มีวิญญาน เพราะวิญญาณคือธาตุดินน้ำลมไฟล่องลอยไปอย่างอิสระไร้ขอบเขตและไร้ผู้บงการเปรียบดั่ง ทุ่นลอยตามน้ำ นุ่นลอยตามลม เมื่อเกิดธาตุสมบูรณ์ เกิดองค์ชีวิต กินธาตุสี่เดียวกัน จึงเจริญด้วยอาหารธาตุ องค์ชีวิตที่ไร้เพศมีวาระแห่งการเกิด เนื่องด้วยการเจริญด้วย อายุ วรรณ สุข พลัง ขยายพันธุ์ เป็นรูปที่ใหญ่ขึ้น เมื่อใหญ่ขึ้น จึงเจริญด้วยความอยาก ต่างสรรหาอาหารมาเพื่อบำรุงตน จึงเบียดเบียน
    ยิ่งเบียดเบียนยิ่งตัวใหญ่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว นี่คือธรรมดาของธาตุพันธุ์

    ------------------------------------------------------------
    ถ้าแสดงตามกฎอิทัปปัจจยตาก็คือ "เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี"
    ก็สรุปว่า วิญญาณเป็นเพียง "สิ่งที่ถูกปรุงแต่งหรือสร้างขึ้นมาเท่านั้น" หาได้เป็นสิ่งอมตะนิรันดรไม่
    ซึ่งนี่ก็แสดงถึงลักษณะของ อนัตตา หรือภาวะที่ไม่ใช่ตัวตนที่เที่ยงแท้ถาวร หรือ อัตตา นั่นเอง
    ดังนั้นใครนำอัตตาเข้ามาในพุทธศาสนา คนนั้นจัดว่าทำลายหัวใจพุทธศาสนาอย่างยิ่ง
     
  19. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ใช่ครับ แต่ว่าการแสดงสิ่งที่ลึกให้ บุคคลที่ยังไม่ลึก อาจจะกลายเป็นอบายนะขอรับ
    ถ้าอย่างนั้นก็ควรจะใช้คำสอนเรื่องคุณธรรม ของขงจื๊อ เหลาจื๊อ จะเข้าใจง่ายกว่ามั้ยครับ
    คือเริ่มจากง่ายไปหายาก ดีกว่ายาก แล้วจะให้ย้อนกลับมาง่ายๆ ผมว่าจะยากนะครับ ถ้าเขาคิดว่าเกิดแล้วกอบโกย ตายแล้วจบ ใครดีใครได้ อย่างนี้อาจารย์คิดว่ายังไงครับ
     
  20. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ผมงงกับคำถามครับ เพราะผมถามท่าน แต่ท่านกลับมาถามผม

    ผมขอตอบแบบโง่ ๆ ดูนะครับ

    ตอบ = กรรมเป็นตัวกำหนดการเกิดครับ

    ตอบ = นิพพาน คือ แดนของผู้ปราศจากทุกข์ และกิเลส

    ถาม = แล้วนิพพานของท่านเตฯ คืออะไรครับ


    ตอบ = ใช้ปัญญาของเราพิจารณาครับ โดยเอาไปลองทำดู ถ้าทำได้ก็เชื่อ ทำไม่ได้ก็วางไว้

    ถาม = แล้วท่านเตฯ ศึกษาเวอร์ชั่นไหนครับ


    ตอบ = ผมตอบไปแล้วครับ ตอนนี้รอคำตอบของท่านอยู่ครับ

    ตอบ = ธรรม คือ ธรรมชาติ คงไม่ต้องลึกซึ้งอะไรมากครับ

    ถาม = ท่านเตฯ เป็น "พระ" หรือ "สมมติสงฆ์" ครับ

    ตอบ = ถ้าตายแล้วเกิด เป็นความเห็นผิด แสดงว่า ท่านเตฯ ปฏิเสธพระพุทธเจ้า เพราะท่านไม่เชื่อเรื่องทศชาติ
    ส่วน "สูญ" มาแล้วตั้งแต่ยังไม่ "ตาย" แล้วที่เรามาคุยกัน หมายความว่า อย่างไร

    ถาม = อธิบายหน่อยครับ "อัตตา" กับ "อนัตตา" ในความหมายของท่านเตฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2010

แชร์หน้านี้

Loading...