คุณคือ "ผู้พเนจรจากฟากฟ้า" (Wanderer) หรือ "เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว" (Star Seed) หรือไม่??

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 20 มีนาคม 2010.

แท็ก: แก้ไข
?
  1. คำตอบที่ "ใช่" รวมได้ < 12 คะแนน

    2 vote(s)
    66.7%
  2. คำตอบที่ "ใช่" รวมได้ 12 - 15 คะแนน

    1 vote(s)
    33.3%
  3. คำตอบที่ "ใช่" รวมได้ 1ุ6 - 19 คะแนน

    0 vote(s)
    0.0%
  4. คำตอบที่ "ใช่" รวมได้ 20 คะแนนขึ้นไป

    0 vote(s)
    0.0%
  1. Nakraksa

    Nakraksa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    3,481
    ค่าพลัง:
    +14,350
    มารอดูอีกคน
     
  2. รพินทร์ไพรวัลย์

    รพินทร์ไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +1,122
    555 โธ่ท่าน ก็เรียนกันมาตั้งแต่เล็กจนโต ว่าวิ่งแข่งกันเป็นล้านกว่าจะมาคุยกันอยู่นี่
    แล้วดันไปถามแม่อย่างนั้น ก็อุ้มท้องมาตั้ง 8-9 เดือนยังไปนึกถึงแม่บนฟ้าบนดวงดาวอะไรอีก แม่จริงๆก็น้อยใจตายดิ เป็นลูกผมเอาขี้เถ้ายัดปากแล้วนา ล้อเล่นนาท่าน
     
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    1). ดวงดาวอื่น => ไม่ได้หมายถึงสวรรค์หรอกนะครับ ความหมายที่ต้องการสื่อนี้ ง่ายๆตรงตัวครับ ไม่ต้องนำย้อนกลับมาเปรียบเทียบ กับทางไทยหรือทางพุทธแต่อย่างใด

    2). การตื่นขึ้น => อาจจะใช้คำว่าการระลึกได้ ซึ่งก็มีความหมายที่ทำให้เข้าใจได้ตรงกันครับ

    3). การมาช่วยโลก => นี่ก็ตรงตัวตามที่ผมโพสต์ไปตั้งเยอะแยะนั่นแหละนะครับ
    ไม่ได้ตั้งใจลงมาเพื่อประคับประคองศาสนาใดศาสนาหนึ่งแต่อย่างใด

    แต่การประคับประคองศาสนาก็อาจจะเป็นอีกวิธีการหนึ่งของการ
    ปลูกฝัง,ธำรงรักษา และ ทำให้เจริญงอกงามยิ่งๆขึ้นไปซึ่งคุณงามความดี อันจะนำมาซึ่งแรงสั่นสะเทือนในด้านบวกของกระแสความคิดจากมนุษย์โลก และจะส่งผลกระทบต่อสนามพลังงานของ "จิตสำนึกมวลรวม" ของทั้งโลกต่อด้วย

    กระทู้ที่ผมตั้งขึ้นพักหลังๆนี้ จะเกี่ยวกับเรื่องราวจากนอกโลก
    และหลุดออกนอกขอบเขตของความคิดและความเชื่อของศาสตร์ยุคเก่าๆทั้งหลาย

    รวมถึงหลุดออกนอกขอบเขตของศาสนาทุกศาสนาด้วย
    ไม่ยกเว้นแม้แต่ศาสนาคริสต์เองด้วยนะครับ อย่าเข้าใจผิดไปว่า พอมีการกล่าวถึงพระผู้สร้าง หรือพระผู้เป็นเจ้าแล้วจะต้องเป็นคริสต์นะครับ

    เพราะฉะนั้น ผู้อ่านจะต้องทำใจมาก-น้อยต่างกันไป ในการอ่านข้อความเหล่านี้
    เพื่อจะได้เก็บเอาสิ่งที่เป็นสาระสำคัญของข้อความไปใช้ประโยชน์ได้ และเพื่อที่ความคิด-ความเชื่อที่มีอยู่เดิม ไม่ออกมาตีกันหรือทำให้อึดอัดขัดเคืองจนมากเกินไป

    และก็ได้โปรดอย่าเข้าใจผิดไปว่า ผมกำลังชักนำให้คุณเปลี่ยนศาสนาอยู่นะครับ
    เพราะว่าความจริงแล้ว (ถ้าหากว่าจะพยายามโยงให้เข้ากับเรื่องศาสนาให้ได้หนะนะครับ)

    มันเป็นการ "เพิ่ม" (ความรู้-แนวความคิดใน) ศาสนาต่างหาก
    แต่ก็ไม่ได้ "เพิ่ม" เพียงแค่ศาสนาเดียวหรอกนะครับ เพราะคำว่า "ศาสนา" ในความหมายของผมนี่ ผมจะเติม "S" ให้เป็นคำพหุพจน์ด้วย

    สรุปสั้นๆคือ ไม่เกี่ยวกับศาสนาครับ ลืมไปได้เลย
    ................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2021
  4. dalink

    dalink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +2,436
    ต่อไปโลกของเรา จะมีเพียงศาสนาเดียว ที่เป็นศาสนาสากล คือ ศาสนาแห่งความรัก

    ดังคำพูดของไส บาบา

    เพราะความรัก จะเป็นพื้นฐาน เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง

    love all serve all
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 มีนาคม 2010
  5. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    หายไปหลายวัน ซุ่ม เตรียมข้อมูลใหม่ๆ นี่เอง ขอบคุณนะคะ
    คำตอบนี้ ทำให้นึกถึงขอความหนึ่งใน CWG
    “ จงลืมศาสนาเสียและเข้าหาจิตวิญญาณ ”
    เป็นข้อความที่หลายคนอาจโกรธ

    ติดตามกระทู้คุณชยุตมาตลอด และไม่คิดให้มันอยู่ในกรอบเดิมๆ ที่เคยรู้มา
    ทำใจเป็นดั่งแก้วเปล่าๆ ที่ไม่มีน้ำอยู่เลย(ข้อมูลเก่าๆ)
    ให้พร้อมรับน้ำ(ข้อมูลใหม่ๆ) ได้เต็มๆ
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,695
    ค่าพลัง:
    +51,932
    ทุกหนึ่งหมื่นปี...
    สิ่งศักดฺ์สิทธิ์โลกุตตระ ปรากฏเป็นมนุษย์เหนือโลก
    สมัยโบราณที่ประเทศอังกฤษ....เรียกกันว่า Highman
    อีกสมัยหนึ่ง....มีหน้าตามที่ปรากฏบน ประสาทหินในประเทศเขมร

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  7. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446

    จ้า เคลียร์จ้า ไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย :)(ปล.ไม่ได้คิดว่าให้เปลี่ยนเเปลงศาสนา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2010
  8. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ความเชื่อ ที่คล้ายคลึงกัน เป็นเหตุผลหลักและสนับสนุนให้เกิดการรวมตัวกันขึ้น
    ในแต่ละสังคม และในกลุ่มแต่ละกลุ่ม จึงทำให้เกิดกฎระเบียบ วินัย วิธีการ
    ประเพณีและวัฒนธรรมขึ้น ในกลุ่มสังคมนั้นๆ

    แต่ในแต่ละกลุ่ม ก็จะมีความเชื่อแยกย่อยลงไปอีกเป็นซับเซ็ท
    ยกตัวอย่างเช่น คนจำนวน 100 คน ในสำนักงานแห่งหนึ่ง
    อาจมีการแบ่งกลุ่มความเชื่อที่แตกต่างกัน ออกไปอีกเป็นกลุ่มย่อย 10 30 40 20

    สมมติว่า ในกลุ่มที่1 มีคนจำนวน 10 คน มีความเชื่อในเรื่องการไม่รับประทานเนื้อสัตว์
    กลุ่มสอง 30 คน เชื่อในเรื่องการนับถือเจ้าแม่กวนอิม กลุ่ม 3 และ 4 ...
    ซึ่งในแต่ละกลุ่มย่อยนี้ ก็แบ่งแยกความเชื่อลงไปอีก

    ใน 10 คนแรก มี 3 คนเชื่อว่ารับประทานแต่ผักและผลไม้ แม้จะมีเนื้อสัตว์ปะปนมาก็เขี่ยออกได้
    ในขณะที่ใน 3 คนนี้ มี 2 คน เชื่อว่า
    ต้องไม่รับประทานผลผลิตที่มาจากเนื้อสัตว์ด้วยและมีปะปนมาก็ไม่ได้
    และคนสุดท้ายเชื่อว่าต้องไม่มีอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์วางอยู่บนโต๊ะอาหารเลย

    เราจะเห็นได้ว่าความเชื่อหลักๆ แม้จะเป็นความเชื่อที่คล้องจองและคล้ายคลึงกัน
    แต่มันก็ไม่ได้เหมือนกันที่เดียวทั้งหมด
    สิ่งที่สำคํญที่สุดคือความเชื่อระดับย่อยและเล็กที่สุด
    คือในมุมมองของตัวเองที่เป็นปัจเจกบุคคล

    เมื่อเราเชื่อในสิ่งใดเราก็จะพบเจอแต่สิ่งที่มาสนับสนุนความเชื่อนั้นๆ
    เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง สิ่งที่เข้ามาสนับสนุนไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายนอก
    ซึ่งบางทีเราก็จะคิดเสมอว่า นี่ไง!!! มันเป็นแบบที่คิดไว้เลย
    ทำให้เราเผลอไปว่าความเชื่อของเราเป็นสากลที่ใครๆต้องเชื่อแบบเดียวกัน

    แต่เราหาได้เฉลียวใจไม่ว่า เราต่างดึงดูดโลกแห่งความเป็นจริงเข้ามาเองทั้งสิ้น
    จากความเชื่อที่ฝังรากอยู่ แล้วกลับมาคิดว่าสิ่งที่เราเชื่อนั้นถูกต้อง

    การตัดสินว่าความเชื่อใดเป็นสิ่งถูกหรือผิด ไม่สามารถเอาเหตุผลมาตัดสินชี้ชัดไปได้
    เพราะเหตุผลของความเชื่อหนึ่งๆนั้นๆใช้ได้ผลกับเราเพียงผู้เดียว เป็นเหตุผลของเราคนเดียว
    แต่อาจไม่ได้ผลกับผู้อื่น

    หากเราเพียรพยายามยึดความเชื่อของเราไว้ โดยไม่ตรวจสอบว่าความเชื่อนั้นว่าเป็นอย่างไร
    ความเชื่อนั้นๆจะยิ่งหยั่งรากแก้วลึกลงไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นการไปปิดช่องทางอื่นๆ
    เพราะเห็นว่ามันขัดแย้งกับความเชื่อของตัวเอง
    จิตวิญญาณจะหมดโอกาสได้รับการพัฒนา เราจะติดแหง่กอยู่กับสิ่งที่เราเชื่อ

    ความเชื่อของคนหนึ่งๆ ย่อมเป็นจริงเสมอ ไม่ว่าเราจะเชื่ออย่างไร
    สิ่งสำคัญไม่ใช่สิ่งที่ถูกเชื่อ แต่เป็น เราเชื่ออย่างไร
    และความเชื่อนั้นๆให้ประโยชน์ใดกับเราหรือไม่

    หากเราเชื่อว่าเราเห็นก้อนหิน มันจะเป็นก้อนหินให้เรารับรู้
    หากเราเชื่อว่ามันเป็นเพชร เราก็จะรับรู้ในความหมายที่ว่ามันคือเพชร
    ในความเชื่อของเรา ผู้อื่นจะมองเห็นว่ามันเป็นก้อนหินหรือเพชร
    ขึ้นอยู่กับว่า เขาเหล่านั้นมีความเชื่อที่คล้องจองกับเราหรือไม่

    ไม่มีความเชื่อใดที่เป็นจริงแท้แน่นอนและเป็นนิรันดริ์
    การเจาะจงเป็นการแค่แปะป้ายชื่อของสิ่งที่รับรู้และสัมผัส
    ในบางครั้งการยึดมั่นกับความเชื่อและความคิดในมุมมองของตนเองว่า

    มันต้องเป็นแบบนี้ มันต้องเป็นแบบนั้น และปฏิเสธสิ่งที่ขัดแย้งกับความเชื่อของตนเอง
    มองเห็นสิ่งอื่นที่ต่างไปว่าแตกต่าง มักเกิดจากเหตุผลที่เราอ้างกับตัวเองเป็นสำคัญ
    และมันเป็นการตัดสินแบบชี้ขาด เป็นการกระทำที่แบ่งแยก

    ความเชื่อที่ไม่สามารถหลอมรวมไปกับธรรมชาติแห่งความเป็นจริง
    จะมีความรู้สึกที่ขัดแย้งเกิดขึ้น
    เป็นการทำให้ช่องว่างระหว่างความเป็นทวิภาวะ ขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
    ยิ่งระยะห่างมีมากเท่าใด ความเป็นเอกภาพย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นได้

    ความเชื่อของแต่ละบุคคลเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่งยวด
    ไม่มีความเชื่อใดที่ซ้ำแบบกันและเหมือนกันเป๊ะ
    หากเราเชื่อมั่นในความเชื่อของเรา ผู้อื่นก็ย่อมมีความเชื่อมั่นในความเชื่อของเขาเช่นกัน

    สิ่งที่เราทำได้มีเพียง หมั่นตรวจสอบความเชื่อและความคิดของเรา
    แต่มิใช่การไปตรวจสอบและตีความความเชื่อของผู้อื่น
    และความเชื่อนั้นๆก่อให้เกิดผลประโยชน์ใดๆหรือไม่
    ผู้อื่นจะมีความเชื่อเช่นใดไม่มีความสำคัญใดๆเลย สำคัญอยู่ที่ว่าเราเชื่อในแบบใดมากกว่า

    และการเชื่อว่าผู้อื่นเชื่อเช่นใดยิ่งไม่ใช่วิถีทางแห่งการพัฒนาจิตวิญญาณ
    ความเชื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เสมอและไม่หยุดนิ่ง
    หากความเชื่อใดหยุดนิ่ง วิถีทางแห่งจิตวิญญาณย่อมจบลง
    เพราะคุณมาถึงทางตันของทางแยกเสียแล้ว

    ปล.1 ขออภัย บ่นเยอะไปนิดส์
    ปล.2 ขอขอบพระคุณ ท่านชยุต มากๆ
    สำหรับความอุตสาหะที่ไม่เคยลดน้อยถอยลง...สุดยอดอีกแล้ว

    รออ่านต่อจ้า...
     
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    **ภารกิจของเหล่า “เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว” (Star Seeds) คืออะไร?**

    ที่มา:The Starseed Community - Frequently Asked Questions


    เพราะว่าภารกิจของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นภารกิจที่ยากลำบากมากที่สุดภารกิจหนึ่ง เพราะต้องมาทำภารกิจในมิติที่หยาบและหนาทึบมากๆอย่างบนดาวเคราะห์โลกแห่งนี้

    เพราะฉะนั้นรูปธรรมชีวิตต่างมิติชั้นสูงส่วนใหญ่ จึงอาจจะไม่อาสาลงมาทำหน้าที่แบบนี้ ที่นี่ เพราะว่ามันมีความเสี่ยงต่อการหลงลืมว่าตนเองเคยเป็นใคร และสูญเสียความเชื่อมโยงกับ “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher Self) อันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองไป

    แม้ว่าจำนวนโดยรวมของเหล่า Star seeds ทั้งหมด จะเป็นสัดส่วนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับประชากรทั้งโลก แต่ว่าภารกิจของพวกเขาก็มีความสำคัญและหลากหลายมาก

    ขั้นแรก, พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในร่างกายเนื้อนี้ และในขณะเดียวกัน ก็ต้องพยายามจดจำให้ได้ว่าตนเองเป็นใครด้วย

    ตอนที่พวกเขาพยายามทำการเชื่อมต่ออยู่นั้น พวกเขาก็จะถูกดึงดูดให้ผ่านเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบ (Transformation process) เพื่อ รวมศูนย์ และเชื่อมต่อกับ “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher Self) ของตัวเองให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    เมื่อใดที่พวกเขาสามารถจดจำได้แล้วว่าพวกเขาเป็นใคร พวกเขาก็จะสามารถช่วยเหลือมนุษย์โลกผู้รู้แจ้งแล้วทั้งหลาย ในการผนึกและเปล่งประกายแสงสว่างให้แก่ดาวแม่ดวงนี้ได้

    มี Star seeds อีกจำนวนหนึ่ง ที่มาที่นี่ตามแผน “การยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือจากเบื้องบน” (Divine Intervention) ของมิติที่สูงๆกว่า

    เพราะว่าดาวเคราะห์ดวงนี้จะไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ หากปราศจากการช่วยเหลือจากเบื้อบน ตามพระบัญชาของพระผู้สร้าง

    Star seeds จะเป็นตัวประสานงานเชื่อมต่อระหว่าง “สหพันธ์ระหว่างกาแล็กซี่” (Galactic Federation) กับ “เหล่าคุรุผู้รู้แจ้งระดับสูง” (the Spiritual Hierarchies) เช่น เอลโลฮิม (Elohim) และเทพแห่งกาลเวลา เป็นต้น

    Star seeds ที่ตื่นแล้ว และพร้อมที่จะผนึกและเปล่งประกายแสงสว่างแล้ว จะสามารถทำพิธีกรรม หรือ ทำสมาธิ แล้วเพ่งกระแสจิตไปยังสถานการณ์ใดๆ เพื่อเปลี่ยนให้มันดีขึ้นได้

    **ภารกิจที่แตกต่างกัน**

    โดยทั่วไปแล้ว Star seeds จะมีภารกิจที่แตกต่างกัน
    ต่อไปนี้คือรายการภารกิจที่ฉันทำขึ้นมาเองเท่าที่ฉันพอจะรู้

    1). เป็นผู้ยึดเหนี่ยวและเปล่งพลังงาน (Anchors)


    a.jpg

    ตามความหมายของคำว่า “เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว” ก็บอกเป็นนัยอยู่แล้วว่า พวกเรามาที่นี่ ก็เพื่อที่จะ “ปลูกฝัง” พลังงานของดวงดาวบ้านเกิดของพวกเรา ลงมาไว้ที่ดาวเคราะห์โลกดวงนี้

    แต่นี่เป็นเรื่องที่เราไม่ได้ลงมือทำเองโดยตรง หรือบ่อยครั้งเราก็แทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เราได้ทำภารกิจของเราให้สมบูรณ์ไปแล้ว โดยการเพียงแค่มาอยู่ที่นี่และเปล่งกระแสพลังงานของเราออกมาใส่ใน “สนามพลังพันธุสัณฐาน” (Morphogenetic field) ของโลกเฉยๆ ซึ่งตามปกติแล้วระดับพลังงานที่พวกเราเปล่งออกมานั้น ก็จะสูงมากๆ เพราะว่าพวกเรามาจากดวงดาวที่มีวิวัฒนาการสูงมากกว่าโลกแล้วนั่นเอง

    ดังนั้น การมาอยู่ที่นี่ของพวกเรา จึงเป็นการช่วยยกระดับความถี่/พลังงานโดยรวมของดาวเคราะห์โลกขึ้น ซึ่งจะทำให้มนุษย์โลกสามารถวิวัฒน์เข้ามาสู่ระดับคลื่นความถี่นี้ได้ด้วยตนเองง่ายขึ้น

    2). เป็นผู้สร้าง (Builder)


    a.jpg

    Star seeds กลุ่มนี้คือผู้ที่ลงทำงานเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก โดยการสร้างระบบโครงสร้างอะไรใหม่ๆขึ้นในหลายๆพื้นที่ของสังคม

    ไม่ใช่การไปต่อต้านระบบเก่าๆที่มีอยู่แล้ว แต่จะเป็นการสร้างสรรค์ระบบใหม่ขึ้นมา หรือ สร้างระบบทางเลือกใหม่ขึ้นมา ซึ่งอาจจะเป็นองค์กร, กลุ่มคน, ระบบ, วิถีทาง, ที่ดียิ่งกว่า เป็นต้น

    พวกเขาจะมีวิสัยทัศน์ที่แจ่มชัด ว่าจะสามารถพัฒนาสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง หรือว่าจะต้องสร้างสรรค์อะไรขึ้นมาใหม่บ้าง แล้วพวกเขาก็เริ่มลงมือทำด้วยความมุ่งมั่นและเชื่อมั่น


    3). เป็นผู้ดูเฉยๆ (Watchers)

    มี Star seeds จำนวนไม่มากนักที่มาที่นี่เพื่อมาสังเกตการณ์สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญนี้เฉยๆ

    ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่า ดาวเคราะห์บ้านเดิมของพวกเขาต้องการข้อมูลที่กำลังเกิดขึ้นที่นี่เพิ่มเติมก็เป็นได้ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเพื่อมาบันทึกเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเอาไว้ใช้ในอนาคตก็เป็นได้

    4). เป็นผู้นำทาง (Guides)


    a.jpg


    Star seeds บางคน ก็เกิดมาเพื่อคอยให้ความช่วยเหลือใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ เพื่อให้บุคคลคนนั้นสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของเขาเองได้ โดยการทำหน้าที่เป็นผู้นำทางให้กับเขา Star seeds กลุ่มนี้ บางทีอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าตัวเองกำลังทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ โดยการให้ความช่วยเหลือบุคคลคนๆนั้น

    5). เป็นผู้ที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าควรจะเรียกว่าอะไรดี

    Star seeds บางคน ก็ไม่ได้มาเพื่อช่วยโลกนี้โดยตรง แต่พวกเขามาเพื่อประโยชน์ของดวงบ้านเกิดของพวกเขาเอง ซึ่งแนวคิดนี้ ส่วนใหญ่มาจากนาง Jelaila Starr ผู้ที่อ้างว่าสามารถติดต่อสื่อสารทางโทรจิตกับ “สภาแห่งดาวนิบิรุ” (Nibiruan Council) ได้

    เธอบอกว่า มีบางอารยธรรมบนดาวบางดวง ที่เกิดปัญหาติดขัดเกี่ยวกับวิวัฒนาการด้านจิตวิญญาณของพวกเขา เพราะว่าพวกเขาแบ่งแยกเป็นฝ่ายแสงสว่างกับฝ่ายมืดมากจนเกินไป หรือพวกเขากำลังมีปัญหาขัดแย้งกันเองภายใน หรือขัดแย้งกับเผ่าพันธุ์อื่น แต่หาทางออกไม่ได้

    พวกเขาก็จะส่งเหล่า Star seeds ลงมายังโลก ซึ่งเมื่อลงมาเกิดบนโลกแล้ว พวกเขาก็จะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง จากนั้น “ผู้นำทาง” ของพวกเขา ก็จะจัดฉากปัญหานั้นๆขึ้นมาให้พวกเขาแก้บนโลก

    เพราะว่ามันเป็นไปได้ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านั้นได้บนโลก และหากพวกเขาแก้ได้แล้ว พวกเขาก็จะนำเอารูปแบบวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ กลับไปใช้กับดาวเคราะห์บ้านเกิดของพวกเขาต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2021
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    อ่านแล้ว ใครเข้าข่ายไหน กี่้ข้อ

    ก็ลองโพสต์ให้ท่านอื่นรู้บ้างนะครับ

    แต่อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องตรงหมดทุกข้อหรอกนะครับ
    เพราะว่า มันขึ้นอยู่กับระดับขั้นของการ "ตื่น" ของคุณ ว่ามากน้อยแค่ไหนแล้ว

    ..................................................
     
  11. พชรพรรณ

    พชรพรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +106
    มีหมดเลยคะ ยกเว้น ข้อ 11

    ช่วงนี้ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังสับสน งงๆ เหมือนชีวิตมันไร้จุดหมาย สิ่งที่ใช่คืออะไร มันสับสน
    ไปหมดแล้วคะ แล้วก็เหมือนรออะไรบางอย่างด้วยคะ
    แล้วบางทีก็ร้องไห้ขึ้นมาเฉยๆเลยคะ เพื่อนบอกว่าเป็นบ้าไปแล้วคะ T^T
     
  12. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    เชื่อไหม 2วันก่อนฝันว่า พวกเขามาเยี่ยม บอกเราว่า อย่าไปสนใจเลยว่ามาจากไหน แต่ควรตระหนักให้ได้ว่ามาที่นี่เพื่ออะไร
     
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เดี๋ยวตอนต่อไปจะเจาะลงไปเฉพาะกลุ่มหละนะครับ

    คือจะเจาะลงไปเฉพาะคุณลักษณะเฉพาะตัว
    ของผู้ที่มาจาก "กลุ่มดาวลูกไก่"

    ซึ่งคาดว่า จะมีผู้คนอีกหลายร้อยหลายพันคน
    ได้ถึงบางอ้อก็คราวนี้แหละครับ...

    ...ว่า..เออ..มิน่าหละ..อะไรแบบนั้น..

    ......................................
     
  14. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป อยากให้คุณชยุต แปล

    หัวข้อ What Star System Are You From?

    ละเอียดหน่อยค่ะ เพราะมีมากกว่า 1 กลุ่มดาว

    มันน่าสนใจมาก

    และพลังงานส่วนผสมก็เป็นได้ด้วย อันนี้ตื่นตามากค่ะ เช่น เป็นจากซีริเอียน 90% และจากทอเซเทียน 10%

    รวมถึง How Do I Activate My Awakening? ด้วยค่ะ


     
  15. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    (ET Wanderer)


    [​IMG]



    1 - 12 ตามนั้นทุกข้อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2010
  16. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เดี๋ยวจะทยอยจัดให้นะครับ

    ตามคำขอของเหล่าผู้มาจากนอกโลกทั้งหลาย

    .................................
     
  17. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ชัด โดน ทั้ง 12 ข้อ :cool:
     
  18. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ตามมาเก็บข้อมูลและค้นหาสิ่งกระตุ้นความรู้สึกลึก ๆ ที่อยู่ภายในค่ะ
    แบบทดสอบของผู้ใหญ่มีหมดทุกข้อ แต่ข้อ 11 ยังติดต่อกะใครไม่ได้เลยค่ะ
    แต่มีบ้างบางส่วนก็เลยเหมาเอาเอง หุ หุ
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลกระตุ้นดีๆ อ่านทุกครั้งใจมันวาบๆ หวิวๆ ซ่านเบา อิ่มเอิบ เบิกบาน
    ขอส่งกำลังใจให้คุณชยุตมีแฮงฮึดต่อไปนะคะ
    จะติดตามข้อมูลไปจนกว่า...(จะไม่มีอะไรให้ต้องรู้เพิ่มอีก หรือตนเองตระหนักแจ้งในตนเองแล้ว)
    ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
     
  19. Aekkapat

    Aekkapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +318
    ความสามารถพิเศษไม่มีหรอก
    แต่ความรู้สึกที่ว่าไม่ได้อยากจะอยู่ในสังคมที่คนอื่นหลงกันอยู่ในทุกวันนี้ใช่เลยแบบเต็ม ๆ
    รู้สึกว่าทำไมจะต้องแก่งแย่ง สรรหาอะไรกันให้มากมาย
    ทั้งเรียน,ทำงานหรืออื่น ๆ
    ทั้ง ๆ ที่มนุษย์ไม่ได้ต้องการอะไรเลย นอกเสียจากปัจจัย 4 ตามที่พระพุทธองค์ตรัสไว้
     
  20. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    ขออนุโมทนากับกระทู้ดีๆมีสาระประโยชน์ของคุณชยุต ด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...