ศูนย์รวมลูกหลานพญานาคศรีสัตตนาคราช

ไม่รอช้าล่ะ...พี่ครูขอคำแนะนำด้วย งูๆปลาๆกบๆเขียดๆมานาน

พอปฏิบัติ (วิปัสสนาในชีวิตประจำวัน คงเรียกว่าสติปัฏฐานแบบฆราวาสฝึกเอง ไรงี้ค่ะ)

พอปฏิบัติไปถึงจุดนึง มองบ้าน(หมู่บ้านตัวเอง)ไม่เห็นบ้าน(งงมั้ยคะ)

แม้แต่รูปหลวงปู่ดู่ที่เคยทรงภาพไว้ตลอด ก็ไม่มีเห็นอีกต่อไป แต่กลับรู้ว่ามีอยู่จริง (งงมั้ยคะ)

มีแต่ท้องฟ้า สายลมแสงแดดต้นไม้ใบหญ้า สายน้ำ ที่รู้สึกว่าสีสันมันสดสวยขึ้นและมีพลังแห่งชีวิต+ความรักให้เราอย่างแท้จริง (เข้าใจที่จะสื่อไหมคะ)


เหมือนหลุดไปอีกโลก เหมือนเห็นโลกใหม่ซ้อนอยู่บนโลกใบเก่า ประมาณนี้ แต่ก็ไม่ได้ติดใจว่ามันเรียกว่าอะไร แต่ก็ดีใจที่สัมผัสถึงพลังงานของทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวได้


จะทางไหนต่อ รบกวนแนะนำด้วยนะคะ ขอบพระคุณมากมาย ^^

 

ประมาณว่า เหมือนเราลืมตา แต่เราไม่ได้ใช้เพียงแค่ดวงตาในการมองโลก เหมือนเรามองและสัมผัสโลกนี้ด้วยอายตนะทั้งหมดที่เรามี อธิบายยังไงก็ไม่สามารถบอกได้ค่ะ ^^"

 

กระทู้โน้นไปไวมาก พี่ครูเริ่มแก่แล้ว ตาลายมาก อ่านไม่ทันจริงๆ อิอิ

 

โคมหลวงเอาพระขรรค์หลวงพี่เล็กมายั่วต่อมกิเลสซะแล้ว พี่ครูไม่ได้ไปที่บ้านสาวรีย์ชัยเป็นปีแล้ว จึงไม่ได้ร่วมบูชาเลย อิอิ

 

สวัสดีครับพี่ครู

กระทู้นู้นไปเร็วมาก อย่าว่าแต่พี่ครูเลยครับผมก็อ่านไม่ทัน 555

ไม่รู้จะถามอะไรดี พี่ครูมีอะไรจะบอกน้องไหมครับผม อิอิ

โมทนาบุญนะครับ

 

หลับตาสวดมนต์แล้วเห็นดาว ---ก็ถือว่าเห็นแสงสว่าง ให้ดาวนั้นส่องสว่างน้องลองกำหนดจิตพุ่งเข้าหาแสงสว่างดูนะ จะเจออะไรบ้าง อิอิ

ลืมตาแล้วคัน เพราะเราอาจจะเห็นบรรยากาศ บางครั้งความกังวลเกิดทันที เมื่อเห็นอะไรดำๆ บินมา อ้าวยุงจะกัดฉันไหมเนี่ย หรือเวลาคันก็คิดว่าสงสัยยุงกัดฉันเสียแล้ว--- เป็นไปได้ทีเดียว ให้อดทน ลองไม่สนใจอาการคัน พอรู้ว่าคัน ก็ไม่สนใจ หรือถ้ามันคันมากๆก็เกาได้ ไม่ผิดอะไร อิอิ

สวดมนต์ในที่แจ้งกับที่มืดนั้นต่างกัน เพราะแสงมีปัจจัยในการทำสมาธิ ก็ให้ดูว่าเรานั่งในที่มืดหรือที่สว่าง แล้วรู้สึกแจ่มใสกว่ากัน อิอิ

 

หนีมาเปิดกระทู้เดิม ไม่บอกกันมั่งเลยน๊า
แต่ก็ตามมาจนได้.....อิ อิ

 

อ้างอิง:
<table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ peerakul
เวลานั่งสมาธิพี่จะใช้คำว่ายุบหนอ พองหนอ ไม่ทราบว่าจะถูกจริตกับพี่หรือไม่
อยากให้ท่านพยาเดโชแนะนำหน่อยค่ะ
</td> </tr> </tbody></table>
----ได้ ตามครูอาจารย์ที่เราเคารพ ตามหลวงพ่อจรัญก็ได้ เพราะเคยเป็นลูกหลานท่าน ก็ทำตามท่าน พอท่านส่งต่อ เดี๊ยวก็จะไปตามวาระเอง อิอิ
________________

คำว่า พอท่านส่งต่อหมายความว่าอย่างไรคะ
แล้วพี่เคยเป็นลูกหลานพระจรัญ โอ้โฮ ดีใจจัง

 

อิอิอิ ได้มาสองเดือนแล้วครับ ของหลวงพี่เล็ก พกติดกระเป๋าเอาครับ
ท่านพิทธ กระทู้นู้นแค่เมื่อวาน วันเดียว 8หน้า ฮา สวัสดีพี่เอ1ด้วยครับ อิอิ

ช่วงนี้รักษาสุขภาพนะครับ คุณตุ้ม คุณโต้งทานแตงโมไปปวดท้องอย่างแรก อีกคนเป็นลม


เปิดกระทู้แล้ว สมาชิกยังต้องร่วมทำบุญให้หลวงตาม้าก่อนถามอีกไหมครับท่าน

 

---- ครูอาจารย์ให้เห็นว่า ทุกอย่างล้วนแต่เป็นสิ่งสมมุติ จริงๆมันไม่มีอะไรเลย มีแต่ความว่าง แต่จิตเรารู้ว่าหลวงปู่มีพลังงานจริง ดังนั้นจิตเริ่มสามารถพิจารณาแยกแยะได้แล้ว อะไรที่เป็นขยะในใจ อะไรที่เป็นธรรมชาติ สิ่งที่เป็นธรรมชาติ จิตเราจะรู้สึกว่าล้วนเป็นสิ่งที่จะนำพาให้เราสามารถอยู่ได้อย่างปกติ มีความสบายใจ และ สิ่งหลายอย่างที่มีพลังงาน คือพลังงานที่ธรรมชาติให้แก่เรา พลังงานที่เป็นดินน้ำลมไฟ ที่สามารถทำให้ร่างกายของเรามีกำลัง เราได้สัมผัสถึงพลังงานนั้นเพราะเราสามารถทำให้จิตเป็นธรรมชาติ ให้นึกถึงบารมีแห่งพระแม่ทั้ง5 พระแม่คงคา คือพลังงานรูปน้ำ แม่พระพายคือลม แม่พระเพลิงคือไฟ ความร้อน แม่พระโพสพ พืชพรรณธรรมชาติ แม่พระธรณี คือดิน เราเป็นลูกท่าน เพราะท่านคือแม่ของเรา เราต้องมีความเคารพและหมั่นขอพรท่าน คำว่าขอพร ก็คือขอบารมี ขอกำลังจากท่าน คิดว่าน้องทำเป็น พี่พิมพ์มากเดี๊ยวจะตาลายเอง อิอิ ขอสรุปว่า ระลึกถึงท่านทั้ง5 คือแม่ และให้ระลึกถึงพ่อ คือพระพุทธ พระอินทร์ เป็นต้น เมื่อเรานำจิตไปกราบท่านจะเข้าใจและสัมผัสถึงพลังความรักของพ่อแม่ ที่เล่านี้ เป็นนิมิตที่ดีของน้องคือ น้องกำลังได้รับกระแส จากท่านที่พี่กล่าวมานั่นเอง บทเรียนนี้จึงให้ชื่อว่า การสัมผัสรักแท้จากพ่อและแม่สู่ลูก อิอิ และก้าวต่อไป คือการเข้าถึงแหล่งพลังงาน วิธีฝึกคือระลึกถึงพระศรีอาริยเมตรไตรย ถ้าเห็นท่านมาปางพระพุทธเจ้าให้นึกถึงความรักของพ่อ ถ้าท่านมาในปางพระแม่กวนอิม ให้นึกถึงแม่

 

พี่ครู ได้สัมผัสพลังงาน ของแม่ จากการที่เวลานึกถึงท่านแม่ (ท่านย่า มเหสีของพระอินทร์) มีความรู้สึกว่าท่านแม่เข้ามากอดและจะร้องไห้ ท่านจะรู้ว่าเรานั้นทุกข์ใจมากแค่ไหน จนทำให้เราสามารถรู้ถึงพลังงานจากท่านได้ ล่าสุดประโยคหนึ่งที่ผุดมาจากใจพี่ครู
พี่ครูบอกว่า แม้นแต่ชีวิตลูกนั้นลูกก็สามารถให้ท่านพ่อท่านแม่ได้
ประโยคนี้ ทำให้ท่านแม่ร้องไห้อีกแล้ว ความรักระหว่างเรา ย่อมสะเทือนไปถึงสามโลก เห็นจะเป็นจริงแน่นอน เพราะวิญญาณรอบข้างทั้งเทพพรหมนาคแม้นแต่ผีชั้นล่าง ก็ร้องไห้ และดีใจ ที่ความรักเกิดขึ้น
อานุภาพแห่งความรัก ....กับ ภพภูมิ

 

----

ท่านพญานาคและพญาครุฑ ท่านวนเวียนอยูนะ จะได้อะไรจากท่าน ไปแล้วมั๊ง ช่วงนี้ก็ใกล้เข้าพรรษา จำศีลด้วย อิอิ

 

---

เอางี้ดีกว่า ใครชอบถามให้เอากระปุกมาไว้คนละใบ เก็บไว้ที่ตัวเอง กระปุกขนาดกระป๋องโค๊ก ไม่มีกระปุกก็เอากระป๋องโค๊กมาเจาะรู อิอิ ถามคำถามละ 5 บาท ตอบให้แล้วก็หยอดกระปุกไป พอเต็มเมื่อไหร่ ก็เอาไปทำบุญต่อยอดในทางธรรม ดีป่ะ

 

แต่ก็ไม่ต้องซีเรียสกันมากนะ ช่วงนี้เป็นแบบสะสมบุญไปเรื่อยๆ
ตามกติกา แบบไม่ซีเรียส

เตรียมกระปุกเท่าขนาดกระป๋องโค๊ก ใครที่ชอบถาม คำถามละ 5 บาท สำหรับผู้ที่มีงานทำแล้วหรือนิสิต คำถามละบาทสำหรับเด็กๆผู้มาเยือน อิอิ พอสิ้นเดือน หรือครบรอบไปทำบุญ เช่นซอยสายลม หรือบ้านสาวรีย์ชัย หรือ ที่เพชรเกษม หรือที่วัดที่เราไปทำบุญ ให้นำกระป๋องหรือกระปุก นำเงินที่เก็บไว้ไปถวาย เพื่อประโยชน์กับพระศาสนา

 

ดีจ้า ดีจ้า;hi2

 

----

คือถ้าหลวงพ่อจรัญท่านไปนิพพานแล้ว แต่คุณพี่ยังต้องมาเกิดอีกเพื่อสร้างสมบารมีต่อไป ท่านก็จะส่งต่อให้พี่ ไปอยู่กับครูอาจารย์ที่เป็นสหธรรมิก เช่นกรณีหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ส่งลูกศิษย์ที่ยังไม่ลาพุทธภูมิ ให้หลวงปู่ดู่ เป็นต้น
คนเราถ้าศรัทธาคำสอนของท่านใดอย่างจริงใจ ย่อมเคยได้เกิดเป็นลูกหลานท่านมาแน่นอน

 

พี่ครูมีอะไรจะบอกผมอีกไหมครับ อิอิ
ตามมาจากกระทู้โน้น

 

---

ซี 5 ขึ้นไป คำถามละ 20 ดีกว่าป่ะ

 

แต่อาจจะตอบช้านะ คือผมจะไม่เอามาเป็นภาระทางใจ มีเวลาก็จะแวะมา อย่างไม่วิตก จริตหรือกลัวว่าจะมีใครมารอคำตอบไหม เพื่อความผ่องใสของจิตใจ อิอิ

 

---

เวลาทำสมาธิ ลองหัดท่าปางไสยาส คือนอนตะแครง