ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พายุฝนกระหน่ำไห่หนันไม่หยุด อพยพแล้ว 440,000 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>12 ตุลาคม 2553 11:57 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>หน่วยกู้ภัยจีนกำลังทำการอพยพชาวบ้านหลังจากเกิดพายุฝนกระหน่ำอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักในเมืองไหโข่ว มณฑลไห่หนัน (ภาพเอเอฟพี)

เอเยนซี - สื่อทางการจีนรายงานวันจันทร์(11ต.ค.) เหตุพายุฝนโหมกระหน่ำไห่หนันตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ และมีผู้อพยพมากกว่า 440,000 คน

สำนักข่าวซินหัวอ้างคำกล่าวของนายหลัว เป่าหมิน ผู้ว่าการมณฑลไห่หนัน ว่า อุทกภัยครั้งนี้ส่งผลให้ชาวบ้านใน 16 เมือง ได้รับความเดือดร้อนถึง 2.7 ล้านคน โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดการสอน บ้านเรือนเสียหายมากกว่า 3,000 หลัง ถนนหนทางพังยับมากกว่า 1,400 สาย อ่างเก็บน้ำเสียหาย 43 แห่ง นอกจากนี้ พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วประมาณ 1 ล้านไร่

นายหลัว กล่าวเสริมว่า พยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาไห่หนัน ระบุ พายุซึ่งกระหน่ำมณฑลไห่หนันมาเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ นับเป็นพายุฝนครั้งรุนแรงสุดในรอบ 50 ปี และจะยังกระหน่ำต่อเนื่องไปจนถึงวันพุธ(13 ต.ค.) ซึ่งจะส่งผลให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจบรรเทาภัยได้ยากลำบากยิ่งขึ้น

ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000143360

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

======================================


12 ต.ค. 53

สภากาแฟกับเวลาที่เหลือน้อย

ในภาพ บอกว่า เวลาเริ่มเหลือน้อย คนเราจะต้องเร่งทำความดี ให้สังเกตุจาก
พรรคการเมืองหนึ่งจะถูกยุบเพราะจำนนต่อหลักฐาน

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน




องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน


======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>"สายลับสาวอื้อฉาวรัสเซีย"เริ่มชีวิตใหม่ ธนาคารรัสเซียรับเข้าทำงานเป็นที่ปรึกษา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>น.ส.แอนนา แชปแมน</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ว่า น.ส.แอนนา แชปแมน สายลับสาวผมแดงผู้อื้อฉาวของรัสเซีย ซึ่งถูกสหรัฐจับได้พร้อมกลุ่มสายลับรัสเซีย และถูกส่งกลับประเทศในโครงการแลกเปลี่ยนสายลับ ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว

โดยล่าสุด ธนาคาร"ปอนเซอร์วิส"ของรัสเซียเปิดเผยว่า ได้จ้างสายลับรัสเซียผู้นี้ ในฐานะที่ปรึกษาธนาคาร โดยธนาคารต้องการใช้ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ของเธอช่วยพัฒนางานด้านเทคโนโลยีด้านข่าวสารของธนาคาร อย่างไรก็ตาม "ปอนเซอร์วิส"มีแผนจะแถลงถึงเหตุการณ์ที่น.ส.แอนนาไปปรากฎตัวที่หน่วยงานด้านอวกาศของรัสเซีย ซึ่งนับเป็นการปรากฎตัวครั้งแรกของเธอต่อสาธารณชน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ธนาคารปอนเซอร์วิสระบุว่า ธนาคารฯต้องการเป็นหุ้นส่วนที่สามารถให้การพึ่งพาอาศัยแก่น.ส.แอนนาได้ เพื่อช่วยเหลือให้ตระหนักถึงโครงการต่างๆ ของเธอเอง รวมทั้งงานเขียนที่ถูกเสนอทางอินเตอร์เนท อย่างไรก็ตาม การรับเธอเข้าทำงานของธนาคารปอนเซอร์วิส ก็ยังทำให้หลายคนสงสัยถึงจุดประสงค์แท้จริงของทางการรัสเซีย เนื่องจากธนาคารแห่งนี้ในอดีตเคยเป็นหน่วยงานสาขาของหน่วยงานด้านความมั่นคงรัฐบาลกลาง หรือหน่วยงานด้านสายลับของทางการรัสเซีย


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ไข้หวัดคร่า 3 ศพก่อนพิธีฮัจญ์ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ตายแล้ว 3 ผู้แสวงบุญพิธีฮัจญ์ หลังถูกไข้หวัด 2009 เล่นงาน โฆษกสาธารณสุขระบุไม่น่าเป็นห่วง

รายงานจากนครริยาดห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในวันที่ 12 ต.ค. แจ้งว่า มีผู้เสียชีวิต 3 รายแล้ว ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากเชื้อไวรัส เอช1 เอ็น1 หรือโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ซาอุดิอาระเบีย แต่นายคาหลิด มาร์กลานี โฆษกกระทรวงสาธารณสุขซาอุดิฯ กล่าวว่า สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วง และทางการไม่ได้มีการเตรียมการรับมือใดๆ เป็นพิเศษ แม้ว่าการประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปี จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีชาวมุสลิมจากทั่วโลก กว่า 2 ล้านคน เดินทางไปแสวงบุญที่ซาอุดิอาระเบียในปีนี้

นายคาหลิด เผยอีกว่า ปีที่แล้วซาอุดิอาระเบียมีผู้เสียชีวิต จากเชื้อไวรัส เอช1 เอ็น1 จำนวน 124 ราย

และติดเชื้อหลักหมื่นคนต้นๆ น้อยกว่าที่วิตกก่อนหน้านั้นมาก อย่างไรก็ตาม ปีนี้ ทางการได้เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีน และจับตาตรวจสอบ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ไว้แล้ว.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
โดย :หมูอ้วน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันพุธ ที่ 13 ตุลาคม 2553 เวลา 08:04 น.] </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันนี้มีข่าวใหญ่ เห็นเค้ารายงานทั้งวันเลย
ที่ช่วยคนงานเหมืองที่ชิลีน่ะค่ะ มีใครติดตามบ้างเอ่ย

เกาะติดภารกิจช่วยคนงานเหมืองชิลี

​

​

​

​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com , สำนักข่าว Rede Globo

หลังจากคนงานเหมืองชาวชิลี 33 คน ต้องติดอยู่ภายในเหมืองที่ลึกลงไปเกือบ 700 เมตร นานกว่า 69 วันแล้ว โดยกองทัพเรือชิลีได้เร่งออกแบบ และจัดสร้างแคปซูลโลหะที่ผลิตขึ้นมาพิเศษ เพื่อจะใช้หย่อนลงไปช่วยนำคนตัวคนงานออกมาทีละคน

ล่าสุดในวันนี้ (13 ตุลาคม) ทางการชิลีเตรียมช่วยคนงานชิลีขึ้นมายังพื้นดินแล้ว หากภารกิจราบรื่นไม่ติดขัดปัญหาอะไรคาดว่า จะสามารถช่วยคนงานทั้งหมดออกมาได้ภายในวันศุกร์ ที่ 15 ตุลาคมนี้

สำหรับขั้นตอนการช่วยเหลือคนงานเหมืองนั้น จะมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ลงไปในเหมือง เพื่อตรวจสุขภาพคนงาน จากนั้นจะแบ่งกลุ่มคนงานออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มคนที่มีความพร้อมที่สุดเป็นกลุ่มที่ 1, กลุ่มคนที่อ่อนแอที่สุด คือกลุ่มที่ 2 และสุดท้ายคือคนที่แข็งแรงที่สุด จากนั้นก็จะดึงคนงานเหมืองขึ้นมาทางแคปซูล ทันทีที่ออกมาจากแคปซูลเจ้าหน้าที่จะให้สวมแว่นกันแดดทันที เนื่องจากไม่ได้พบแสงสว่างมานาน อาจส่งผลต่อการปรับแสงของดวงตา

ทั้งนี้ ภารกิจช่วยคนงานเหมืองที่ติดอยู่ใต้ดินที่ชิลี มีเจ้าหน้าที่เทคนิคคนไทยไปช่วยด้วย 2 คน คือ นายวชิรพงศ์ นาคสารีย์ อายุ 30 ปี และนายสมพงษ์ พงกันยา อายุ 32 ปี โดยเหตุที่ 2 คนไทยได้ไปปฏิบัติภารกิจครั้งนี้เนื่องจากว่า ทางการชิลีขอให้บริษัทเม็ตตาโลจิก อินสเป็คชั่น เซอวิสเซส จำกัด ส่งช่างเทคนิคพร้อมอุปกรณ์จากบริษัทในเครือไปยังชิลี สำหรับเหตุผลที่ 2 คนงานดังกล่าวได้คัดเลือก เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ขยัน สู้งาน และมีทัศนคติที่ดีในการทำงาน

​

คนงานคนแรกที่ได้รับการช่วยเหลือ​

​

คนงานคนแรกที่ได้รับการช่วยเหลือ​

​

คนงานคนแรกที่ได้รับการช่วยเหลือ​

ทางด้านครอบครัวคนงานเหมืองชิลี ต่างเตรียมตัวรอรับสามีกลับบ้านอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากคนที่เขารักต้องติดอยู่ใต้เหมืองตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา

สำหรับการปฏิบัติการช่วยเหลือคนงานนั้น หลังจากได้ส่งแพทย์คนที่ 1 ลงไปในเหมือง เพื่อประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของคนงาน ก่อนจะนำตัวคนงานคนแรกขึ้นมา ปรากฎว่า ขณะนี้ นายฟลอเรนซิโอ อวาลอส คุณพ่อลูกสอง วัย 31 ปี ได้ขึ้นแคปซูลกลับขึ้นมาสู่พื้นดินแล้ว หลังใช้เวลาอยู่ในแคปซูลราว 16 นาที โดยเมื่อนายฟลอเรนซิโอ อวาลอส ขึ้นมาถึงพื้นดิน ก็ได้โผกอดลูกด้วยความดีใจ พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ให้การช่วยเหลือ จากนั้นมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพานายฟลอเรนซิโอไปตรวจร่างกายโดยละเอียด ก่อนที่ทีมงานจะได้ส่งแพทย์คนที่ 2 ลงไปช่วยเหลือ และนำตัวคนงานคนที่ 2 คือ นายมาริโอ เซปุลเวดา ขึ้นมาได้สำเร็จ โดยเจ้าตัวอารมณ์ดีอย่างมาก นำของขึ้นมาแจกเจ้าหน้าที่ด้วย

ขณะที่มีรายงานว่า นายคาร์ลอส มามานี ชาวโบลิเวียเพียงคนเดียวที่ติดอยู่ในเหมืองใต้ดิน ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาแล้วเป็นคนที่ 4 โดยมีประธานาธิบดีโบลิเวียมารอรับถึงหน้าเหมือง

<EMBED src=http://www.youtube.com/v/J1XfBFlS_OU?fs=1&hl=en_US%22%20type=%22application/x-shockwave-flash%22%20allowscriptaccess=%22always%22%20allowfullscreen=%22true%22%20width=%22480%22%20height=%22385%22 width=450 height=300 type=application/x-shockwave-flash alt="ปฏิบัติการช่วยชีวิต คนงานเหมืองชิลี"></EMBED>​

ปฏิบัติการช่วยชีวิต คนงานเหมืองชิลี คนแรก​

เกาะติดภารกิจช่วยชีวิตคนงานเหมืองชิลี (เวลาตามประเทศไทย เร็วกว่าที่ชิลี 10 ชั่วโมง)

18.01 น. มาริโอ โกเมซ วัย 63 ปี ซึ่งเป็นคนงานที่อายุมากที่สุด และเป็นผู้ส่งจดหมายระบายความในใจถึงภรรยา กลับขึ้นมาบนเหมืองได้แล้วเป็นคนที่ 9 ญาติรอรับเพียบ

17.04 น. เคลาดิโอ ยานเยซ วัย 34 ปี ถูกช่วยขึ้นมาจากเหมืองได้สำเร็จเป็นคนที่ 8 โผกอดภรรยา และลูกสาว 2 คน

16.22 น. โฮเซ่ โอเฮด้า วัย 47 ปี ผู้ที่ทำอาชีพคนงานเหมืองมานานกว่า 30 ปี ถูกนำขึ้นมาจากเหมืองเป็นคนที่ 7 พร้อมกับโบกธงชาติชิลีแสดงความดีใจ

15.34 น. ออสมัน อรายา ออกมาจากแคปซูลเป็นคนที่ 6 หลังปฏิบัติการช่วยเหลือผ่านไปกว่า 5 ชั่วโมง

14.52 น. คนงานเหมือง 4 คนแรกที่ได้ขึ้นมา ถูกนำตัวส่งถึงโรงพยาบาล Copiapo แล้วโดยเฮลิคอปเตอร์

14.31 น. ทีมกู้ภัยเร่งซ่อมแซมล้อหมุนด้านข้างของแคปซูลฟีนิกซ์ หลังมีปัญหา

14.15 น. จิมมี่ ซานเชส คนงานวัย 19 ปี ขึ้นมาจากเหมืองได้เป็นคนที่ 5

13.55 น. จิมมี่ ซานเชซ คนงานวัย 19 ปี ซึ่งอายุน้อยที่สุดในบรรดาคนงานทั้งหมด และเพิ่งทำงานเพียงแค่ 5 เดือน กำลังถูกดึงขึ้นมาด้านบน เจ้าตัวมีอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด

13.09 น. คาร์ลอส มามานี วัย 23 ปี ชายชาวโบลิเวียเพียงคนเดียวที่ติดอยู่ในเหมือง ขึ้นมาสู่พื้นดินแล้ว โดยมีประธานาธิบดีโบลิเวียไปรอรับถึงหน้าเหมือง

12.01 น. ฮวน อิลาเนส วัย 51 ปี อดีตนายทหารเก่า ขึ้นมาสู่โลกภายนอกเป็นคนที่สาม

11.08 น. มาริโอ เซปุลเวดา เป็นคนงานคนที่ 2 ที่ขึ้นมาได้สำเร็จ โดยเจ้าตัวอารมณ์ดีอย่างมาก นำของขึ้นมาแจกเจ้าหน้าที่ด้วย

10.11 น. ฟลอเรนซิโอ อวาลอส คุณพ่อลูกสอง วัย 31 ปี ขึ้นแคปซูลถึงพื้นดินเป็นคนแรก ท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับ สื่อมวลชนแห่ถ่ายรูปแน่นขนัดจนเต๊นท์พัง


ที่มา :

 

ดูข่าวแล้วจะร้องไห้เลยค่ะ

รู้สึกดีใจมากๆเลยค่ะ


ติดอยู่ในเหมืองตั้ง 2 เดือนแหนะ

 

รูปปั้นยักษ์แห่งเกาะอีสเตอร์, ชิลี

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>วาตภัยถล่มพิจิตร 4 อำเภอ ชาวบ้านไร้ที่อยู่นับพัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 ตุลาคม 2553 18:04 น</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>ฝนตก-พายุหมุน ถล่มพิจิตรเสียหายหนัก 4 อำเภอ ชาวบ้านนับพันไร้ที่อยู่หลังบ้านพังยับ เคราะห์ซ้ำสวนมะนาว-ลำไย ช่วงติดผลหักโค่นเรียบ ผู้ว่าฯ เร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกช่วยเหลือ

วันนี้ (13 ต.ค.) นายสัลเลข คำใจ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า 2 วันที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกและมีพายุหมุนอย่างรุนแรง ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรในเขต อ.ตะพานหิน อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.บึงนาราง ถูกพายุพัดพังเสียหายมากถึง 407 หลังคาเรือน ราษฎรเดือดร้อนไร้ที่พักพิง 1,409 คน เบื้องต้น นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนราษฎร และได้สั่งการให้ อบต.และเทศบาลที่ได้รับผลกระทบเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือโดยด่วน

ในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยละเอียดนั้น พบว่า อ.ตะพานหิน บ้านพัง 14 หลัง เดือดร้อน 50 คน ได้แก่ ต.ทับหมัน หมู่ 1, 3, 4, 5, 6 ลมพัดบ้านเรือนเสียหาย 9 หลัง ต.วังสำโรงหมู่ 4 ลมพัดบ้านเรือนเสียหาย 5 หลัง อ.สามง่าม ลมพัดบ้านเรือนเสียหาย 19 หลัง เดือดร้อน 57 คน ต.หนองโสน หมู่ 1, 4, 11, 13, 15, 18 ได้รับความเสียหายกนักว่าใครพวก ส่วน อ.โพธิ์ประทับช้าง ลมพัดบ้านเรือนเสียหาย มากที่สุดถึง 350 หลังเดือดร้อง 1,251 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย

ตำบลที่ได้รับความเสียหายได้แก่ ต.ทุ่งใหญ่ หมู่ 1, 2, 6, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 15, 16, 17, 18 ต.ไผ่ท่าโพธิ์ หมู่ 1, 12, 18 ต.ดงเสือเหลือง หมู่ 1-6 ละ 7-9-10-13-14-15 ต.เนินสว่างหมู่ 4, 7, 8, 9, 12, 13, 14 อ.บึงนาราง ลมพัดบ้านเรือนเสียหาย 24 หลัง เดือดร้อน 51 คน ใน ต.บางลายหมู่ 1, 2, 6 รวมประชาชนที่ได้รับความเสียหาย บ้านเรือนถูกพายุพัดพังทั้งสิ้น 407 หลังคาเรือน ราษฎรไร้ที่พักพิง 1,409 คน

ขณะเดียวกัน ยังพบว่าสวนมะนาวของชาวบ้านเขต ต.ทับหมัน อ.ตะพานหิน นับพันต้นถูกพายุหมุนพัดเสียหายหักโค่นแบบราบพนาสูญ รวมทั้งสวนลำไยของชาวบ้าน ต.หนองโสน อ.สามง่ามที่กำลังออกดอกออกผลก็เสียหายเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังพบต้นไม้และเสาไฟฟ้าบนทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 66-70 ก็มีความเสียหายด้วยเช่นกัน แต่สามารถใช้การจราจรได้เป็นปกติแล้ว

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000144297

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เว็บพลังจิต กระทู้ภัยพิบัติ ก็ติดตามอยู่ตลอด สื่ออื่นๆด้วย


ภัยธรรมชาติ เกิดก็หลายที่่ แต่พอมาดูในเว็บ ไม่เห็นมีสักอัน นานๆก็เห็น แต่เห็นหลังสื่ออื่นๆ

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ไทยยังฝนตกชุกหนาแน่น พื้นที่เสี่ยงภัยระวังน้ำท่วม-น้ำป่า-น้ำล้นตลิ่ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 14 ตุลาคม 2553 ดังนี้

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ในช่วงวันที่ 14-18 ต.ค. นี้ ร่องมรสุมกำลังแรงจะพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในระยะนี้

สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 33 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 31 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 32 องศา
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

<!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>

กลับสู่หน้าแรก ​

-->
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ผงะ!ตัวประหลาดในน้ำประปา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>คนพะเยาผวาตัวประหลาดในน้ำประปา คาดอาจพลัดเข้าระหว่างซ่อมท่อ


วันนี้ (13 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านอาหารไม่มีชื่อ ตรงข้ามท่าเรือวัดติโลกอาราม ริมกว๊านพะเยา อ.เมืองพะเยา หลังได้รับแจ้งจากนางรัศมี แม่นหมาย อายุ 53 ปี เจ้าของร้าน ที่พบตัวประหลาดลักษณะคล้ายหนอนหรือปลิง แต่ลำตัวใสเหมือนวุ้นยาว 2 เซนติเมตร ไหลปนออกมากับน้ำประปา

โดย นางรัศมี กล่าวว่า เคยเจอมาหลายครั้ง บอกใครก็ไม่เชื่อ มาวันนี้ใช้ขันรองน้ำจากก๊อกในบ้าน

ปรากฏว่ามีตัวประหลาดปะปนออกมาด้วย จึงนำมาให้เพื่อนบ้านดู แล้ววิจารณ์ว่าน่าจะเป็นปลิงจากกว๊านพะเยา เนื่องจากการประปาส่วนภูมิภาคสูบน้ำจากกว๊านพะเยาขึ้นมาผลิตประปา ต่อมาจึงนำตัวประหลาดไปให้ นายนาวิน มหาวงศ์ นักวิชาการประมงชำนาญการ สำนักงานประมง จ.พะเยา ส่องกล้องจุลทัศน์เพื่อตรวจสอบ ทั้งนี้นายนาวิน กล่าวว่า ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นสัตว์พวกไหน อาจเป็นปรสิตในปลาหรือเป็นปลิงชนิดหนึ่งที่ไม่ดูดเลือดคน แต่ไปเกาะอยู่กับพวกหอย

ทางด้านนายประดิษฐ์ วรรณสอน ผู้จัดการ การประปาส่วนภูมิภาค จ.พะเยา กล่าวว่า ตามระบบการผลิตประปา

แม้แต่สิ่งเล็ก ๆ ก็ไม่สามารถผ่านชั้นทรายที่ใช้กรองน้ำเข้าไปได้ ถ้าผ่านชั้นทรายจะเจอคลอรีนฆ่าเชื้อโรค ถ้าตัวประหลาดอยู่ในท่อประปาคงไม่มีแน่ แต่กรณีนี้สันนิษฐานว่าอาจมีการซ่อมท่อประปาในละแวกนั้น และตัวประหลาดเข้าไปในท่อระหว่างที่กำลังตัดซ่อมหรือชาวบ้านผู้ใช้น้ำอาจต่อสายยางจากก๊อกชั้นล่างแล้ววางสายยางทิ้งไว้กับดิน ซึ่งช่วงนี้เป็นหน้าฝน พื้นอาจเฉอะแฉะเจ้าตัวประหลาดอาจเข้าไปทางสายยางก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามจะส่งทีมงานไปพบกับผู้ใช้น้ำ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ ตนขอยืนยันว่าระบบการผลิตประปาปลอดภัย 100%.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>วิศวกรไทยภูมิใจเป็นตัวแทนคนไทย ช่วยเหลือคนงานเหมืองชิลี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจาก อินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
นายวชิรพงศ์ นาสารีย์ วิศวกรไทย ที่ร่วมในทีมช่วยเหลือ 33 คนงานเหมืองที่ชิลี ซึ่งติดอยู่ในเหมืองใต้ดิน ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ได้ช่วยเหลือคนงานได้ 3 คน

ซึ่งล่าสุดคนที่ 3 เพิ่งขึ้นมามาจากปากทาง การช่วยเหลือไม่มีปัญหาและอุปสรรคใดๆ การดำเนินการเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ การช่วยเหลือแต่ละคนใช้เวลาประมาณ 1 ชม.กว่า 33 คนประมาณน่าจะใช้เวลาประมาณ 30 กว่าชม. และคงให้การช่วยเหลือไปเรื่อย ๆ ไม่มีกำหนดหยุดพัก

นายวชิรพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับทีมงานที่เข้ามาช่วยเหลือและดูสถานการณ์ ขณะนี้มีประมาณ 500 คนงาน จากเหตุการณ์นี้คนชิลีให้ความสำคัญทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อคนแรกที่ขึ้นมาจะสั่นระฆังที่อยู่บริเวณใกล้เคียง พร้อมโบกธงชาติและโห่ร้องคำว่าชิลี สำหรับตนรู้ภูมิใจที่เป็นตัวแทนคนไทยที่ได้เข้าไปมีส่วนรวม

"เป็นเหตุการณ์ที่คนของเขาให้ความสำคัญ มีแผนสำรองมากมายแต่ยอมจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือคนของประเทศเขา สำหรับตนยังไม่ทราบว่าจะกลับประเทศเมื่อไหร่ รอให้คนสุดท้ายขึ้นมาก่อน" นายวชิรพงศ์ กล่าว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผมคนนึงละครับ
ที่ตามอ่านจากเวบนี้
ต้องขอบคุณทุกท่านที่ช่วยนำข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆมารวมไว้
จะได้สะดวกในการติดตาม
ขอบคุณมากๆครับ

 

อนุโมทนาบุญค่ะ ติดตามอ่านอยู่ทุกวัน ต้องขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่เสียสละเวลาเพื่องานส่วนรวมค่ะ ^^

 

ต้องขออภัยเพื่อนสมาชิกนะครับ ไม่ได้มีเจนตนาเสียดสีท่านใด เผอญผมติดตามเว็บนี้อยู่ตลอด และบางครั้งก็เอาข้อมูลไปคุยกับเื่พื่อนๆ ปรากฏว่าส่วนใหญ่คนที่ดูทีวีจะรู้เร็วกว่าเรา ก็เลยเอะใจ

แต่ก็เข้าใจคนในเว็บเรานะครับ ก็มีภาระกิจทั้งนั้น ที่หาข้อมูลมาลงก็หา ที่อ่านก็อ่านไม่ได้หาก็มาก บางทีไม่สมดุลย์กัน แต่ก็มีหลายท่านที่เสียสละเวลา หาข้อมูลมานำเสนอในเว็บ เช่นคุณเกษม คุณ Falk คุณวรเดช ท่านหนุมาน และอีกหลายคน ที่มีบุญคุณกับพวกเรา เข้าใจครับ ผมไม่ได้ตำหนิใครเลย

อีกอย่างพออยู่กับเว็บนานๆ บางทีก็อยากคลายบ้าง มีกระทู้มีโพสเรื่องข้างคียงก็ลงความเห็น ลองแหย่สังคมดูสนุกๆ ไม่ซีเรียด เพื่อนสมาชิกบางท่านก็เตือน ว่าเว็บภัยพิบัตินะ อย่าไปเรื่องอื่นมาก ก็น้อมรับคำเตือนครับ

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติงครับ

 

พายุ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ของเวบน่าจะเร็วนะ เพราะข้อมูลค่อนข้าง real time.

แต่ส่วนมากลงไปไม่ค่อยมีคนอ่านเท่าไหร่ ก็ลงๆ ไปงั้น ใครอ่านก็อ่านไม่อ่านก็ไม่อ่าน (k).
.
.
.

อ่านจ้า อ่าน
โปรดทราบ ..อ่าน จิง จิง น้า
ขอบคุณจัง ที่เอาข่าวสารมาลงให้

อย่าน้อยใจน้า falkman
<!-- google_ad_section_end -->

 

คนอื่นไม่รู้ รู้แต่ว่าผมอ่าน มีอะไรอ่านหมด ยกเว้นอ่านไม่ออกครับ

 

ให้กำลังใจครับ

โดยคุณ Falkman
ผมเป็นคนหนึ่งติดตามอ่านข้อมูลที่คุณนำมาเสนอ ทุกๆกระทู้
โดยส่วนตัวผม คิดว่าผมได้สาระประโยชน์มากครับ
ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้นำเสนอต่อไปอย่าได้น้อยใจ
อิอิ (f)

 

ผมก็อ่านในนี้เหมือนกันครับ (ขี้เกียจหาอ่านจากที่อื่น) ก็รู้สึกว่าข่าวเร็วดีนะครับ

 

ไม่เป็นไรครับ บางครั้งข่าวสารก็เร็วบ้าง ช้าบ้างเป็นธรรมดา เพราะทุกท่านล้วนแต่มีภาระกิจมีงานประจำ แต่ทุกท่านเสียสละเวลาของตนมาให้ข่าวสารข้อมูลต่อส่วนรวมครับ

บางครั้งก็อาจอยากปรับอารมณ์ผู้อ่านให้ ไม่เครียดไปบ้าง ไม่เป็นไรครับ

อยู่ร่วมกันด้วยน้ำใจ และมีกำลังใจให้กันเสมอครับ

 

ผมอ่านทุ้กวันเลยครับ
ขอบคุณทุกๆท่านที่นำข้อมูลข่าวมาโพส
เป็นกำลังใจให้สมอครับ ดีแล้วครับ