"เมืองหลวงใหม่ของไทยควรตั้งอยู่ที่ไหน"ขอเชิญร่วมแสดงความเห็น

ขอก๊อบภาพจากคุณหนุมานมานะครับ

ต่อไปเมื่องหลวงจะอยู่ที่ลพบุรีครับ


ศูนย์กลาง เมื่องใหม่้จะติดน้ำ

ระดับน้ำจะดันสูง ไปถึงเขือนป่าสักฯ

เมืองหลวงใหม่ก็ยังคงติดน้ำ ติดทางออกสู่ทะเล แบบกทม. เดิม

 

แถวรอยต่อของสุพรรณบุรีกับกาญจนบุรี มีที่ราบกว้างมากเหมาะกับการวางผังเมืองใหม่ และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 40-70 เมตร(น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลายหมดก็ไม่ท่วม) มีแหล่งน้ำเพียงพอ และไม่มีรอยเลื่อนแผ่นดินไหว แค่เสนอความคิดเล่นๆนะครับ

 

เตรียมแล้ว ปรับตัว พยายามลดการใช้เงิน มีความต้องการน้อยลง
ปลูกผักสวนครัว ประกอบอาชีพ หาเลี้ยงชีพแบบพอเพียง
จะไปสร้างบ้านกระต็อบหลังน้อย อยู่สุโขทัย
ผู้คนใจงาม การอยู่อาศัยไม่ฟุ้งเฟ้อ เรียบง่าย ติดดิน
ไม่โอ้อวด ไม่แย่งแข่งเด่นดี อยุ่แล้วรวยความสุข

 

แหม......ประโยคที่ว่านี้....โดน จริงๆ ครับ อิอิอิอิอิ

จริงๆก็เป็นอย่างที่ท่านกล่าวไว้นั่นแหละครับ
แต่พูดไปอาจจะไม่สบอารมณ์ของใครบางคน ทั้งๆที่เป็นเรื่องจริง

ไม่มีอะไรที่ยั่งยืนชั่วกัปชั่วกัลล์ ยกตัวอย่างกรุงศรีอยุธยา เป็นต้น

 

คาดว่าในปี 2555 ทุกอย่างคงเป็นไปตามคำทำนายของหลายสำนัก

โลกนี้คงโกลาหลสุดๆในยุคนั้น ใครดีมีบุญก็อยู่รอดปลอดภัย
ใครบุญน้อยถอยบารมีก็เสวยกรรมกันไปตามระเบียบ โทษใครไม่ได้

ส่วน Nirvana เองเชื่อว่า องค์พระแก้วมรกตจะเสด็จไปประดิษฐานที่

***** จังหวัดนครพนม นครแห่งพญานาค *****

เพราะอีกไม่นานทางวงในของประเทศจะได้รู้จักคำว่า "นครพนม คอนเนกชั่น"
ว่ามีความเกี่ยวพันและยิ่งใหญ่ขนาดไหน ในเรื่องที่ว่านี้

ท่านสมาชิกโปรดติดตามว่าในปีหน้าจะได้ยินตามที่บอกมานี้หรือไม่.....

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คนกรุงเตรียมใจรับเมืองใต้บาดาล ทาง 2 แพร่งอนาคตกรุงเทพฯย้ายเมืองหลวง - สร้างเขื่อนยักษ์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>28 ตุลาคม 2553 08:19 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9530000151750&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=341><TBODY><TR><TD vAlign=top width=341 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>- กทม.รับไม่ถึง 10 ปีมหานครกรุงเทพฯจมน้ำ
- บางขุนเทียนรูโหว่ใหญ่น้ำทะเลทะลักท่วมทุกเขต
- เผยเบื้องลึกไทยยังไร้โรดแมปแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
- ภัยน้ำจะรุนแรงขึ้นทุกปีเดือดร้อนทั้งประเทศ

คำทำนายทั้งจากหมอดูและนักวิชาการ ที่ออกมาระบุว่า กรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศไทยจะจมน้ำภายใน 10 ปี กำลังจะเป็นความจริงแล้ว ล่าสุด “นายพรเทพ เตชะไพบูลย์” รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์”และยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นความจริง!

อ่านรายละเอียด ที่...

http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9530000151750
</TR></TBODY></TABLE></TR></TBODY>

 

ท่านตอบอย่างผู้รู้จริงๆ ครับ
ขอโมทนา ผมจะได้เจอคุณในวันที่จะมาถึงไหมนะ

 

ถ้าจะกล่าวถึงการย้ายเมืองหลวง กับการย้ายส่วนราชการอันเดียวกันหรือไม่ ครับ
ตามความคิดเห็น คือ เมืองกรุงเทพฯ และรอบถึงรอบ ๆ กรุงเทพฯ หรือที่เรียกว่า ปริมณฑล ในอดีต ตามประวัติศาสตร์ถือว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ พูดภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นสถานที่ที่ทำนา ทำไร่ เพราะอยู่ในที่ล่ม เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม มีแม่น้ำไหลผ่านรอบทิศทาง จะทำอะไรก็สะดวก
ที่นี้หากอดีตย้อนไปเมื่อ 200 กว่าปี สมัยพระเจ้าตาก สมมุติว่า ถ้าพระเจ้าตาก ไม่สามารถรบชนะได้ แน่ใจหรือครับว่า เมืองหลวงจะเป็นกรุงธนบุรี ในขณเดียวกัน ถ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (หรือ ร.1) ไม่สามารถรบชนะได้ แน่ใจหรือว่า เมืองหลวงจะเป็นกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ ....... อะไรต่อก็ว่าไป......... เข้าใจว่า สังคมในยุคนั้น ถ้าใครมีกำลังวังชาดี มีสติปัญญาสามารถ หรือมีบริวารมาก ก็ย่อมที่จะได้เปรียบ เพราะในช่วงนั้น สงครามกลางเมือง ทั้งเก้าทัพ ย่อมที่อยากจะเป็นจ่าฝูงในกองทับ เพราะในแต่ละกองทัพ ก็มีหัวหน้า เป็นแม่ทัพ และแต่ละแม่ทัพ ก็มีบริวารมากมายเช่นเดียวกัน ทั้งทางเหนือ ทางใต้ ทางตะวันออกไปถึงเขมร ที่นี้อยู่ที่ว่า ใครจะล้มใคร (เซียนปราบเซียน) ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้ คือ เมื่อพระเจ้าตาก ทำการรบชนะ (คนเดียวไม่ชนะแน่นอน อาศัยบริวารด้วย) เมืองหลวงก็อยู่ที่นี้ เพราะเติบโตจากที่นี้ แม้แต่ ร.1 ก็ใช่ใครอื่นไกล ก็สมุนมือขวาของพระเจ้าตาก ดีๆ นี้เอง (ขอพูดแบบภาษาชาวบ้าน ฟังง่าย เข้าใจง่ายครับ) แต่ถ้าแพ้สงครามคราวนั้นขึ้นมา มีหรือว่า เมืองหลวงจะอยู่ธนบุรี หรือแม้กระทั่งกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน จนทอดมาถึงทุกวันนี้ อาณาจักรกรุงเทพฯ (กรุงรัตนโกสินทร์) ในสมัยนั้น ใช่ว่าจะใหญ่โต ไปทางเหนือก็อีกอาณาจักรหนึ่ง ไปทางใต้ก็อีกอาณาจักรหนึ่ง ไปทางอีสานก็อีกอาณาจักรหนึ่ง แต่ประวัติศาสตร์ไทยชอบบิดเบียนข้อมูลความจริง ไม่กล้าเปิดเผยประวัติศาสตร์ชุมชนของแต่ละท้องถิ่น หรือแต่ละภูมิภาค เอาไปเอามา ลูกหลานที่เกิดมาในระยะหลังๆ จึงได้เรียนรู้รูปแบบการปกครอง ของระบบภาคกลาง หรือวิถีชีวิตชาวกรุงเทพฯ มากกว่า แต่ภาคอื่นๆ เทียบไม่หลงเหลืออยู่ในระบบการศึกษาเลย เพราะอะไร ....... หลายท่านก็รู้

 

........................

 

ไม่ว่าเมืองหลวงจะอยู่ที่ใหน..ความเจริญสูงสุดของมวลมนุษยชาติคือการอยู่อย่างพอเพียง..ตามปรัชญาความพอเพียงของ "ในหลวง" ขอบคุณ.คุณฐาปานีย์ ครับ!

 

ย้ายไปที่ไหนก็ได้ครับ แล้วแต่ ตามใจคนมีอำนาจสูงสุด

 

ปลูกจิตสำนึกนักการเมือง และผู้มีอำนาจบริหารประเทศก่อนครับ...อยากให้นำแผนบริหารประเทศสมัยจอมพล ป. มาใช้ครับ...

 

เคยได้ยินครูบาอาจารย์บอกมาว่า
เมืองหลวงใหม่ของไทยจะไปอยู่ที่ จังหวัดขอนแก่นครับ
ตอนได้ยินครั้งแรกยังคิดเลยว่าทำไมต้องย้ายด้วย
เดี๋ยวนี้ชักไม่มั่นใจแล้ว เพราะกรุงเทพน้ำมากเหลือเกิน

 

ใครๆก็อยากให้ไปอยู่จังหวัดตัวเอง กระทั่งผมเอง
แต่ผมก็มีเหตุผลที่จะฟังผู้อื่นเสมอ ที่ไหนก็ได้ครับที่มีภูมิประเทศสมกับคำว่าเมือง
หลวงแท้ๆ ไม่ใช่เมืองจับฉ่ายที่มีอะไรๆดูวุ่นวาย ยุ่งเหยิง รกรุงรังไปหมด
เมืองหลวงควรจะเป็นเมืองที่มีความสง่างาม เป็นเมืองแห่งความเป็นประมุขของประเทศ แสดงให้เห็นถึงความเป็นพี่น้อง วงค์ชาติเผ่าพันธุ์ของประเทศทั้งประเทศ
ก็อยากให้เอาการวางแบบแปลนการสร้างเมืองหลวงของกรุงวอร์ชิงตัน ดี ซี มาเป็นพื้นฐานการสร้างเมืองหลวงใหม่
ที่ไหนก็ได้ครับ แต่ต้องวางรูปแบบๆแผนใหม่

 

ลองดูโหรท่านนี้ เพิ่มเติมก่อนนะว่าที่เราบอกท่านทั้งหลายมา....มันเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน


<object width="480" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/IhAvY4w1iTc?fs=1&amp;hl=en_US"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/IhAvY4w1iTc?fs=1&amp;hl=en_US" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="385"></embed></object>

 

พูดโดนใจซะจริงๆ ให้10คะแนนเต็มๆ...

 

แหม ใจตรงกันเลย ไม่ต้องคิดอะไรมากมายเป็นประโยคที่ทุกๆท่านทราบกันดี เหล้าเก่าในขวดใหม่ - -*

 

ขณะนี้ทางไทยทีวีช่อง 3 เองก็มีการให้แสดงความคิดเห็นลองโหวตกัน แต่เป็นระหว่างย้ายเมืองหลวง (คือ กทม.) หรือโดยการสร้างเขื่อน ซึ่งถ้าจำไม่ผิดแล้ว ส่วนมากก็ให้สร้างเขื่อน ดูอย่างประเทศฮอลล์แลนด์ ประเทศเขาต่ำกว่าระดับท้องทะเลด้วยซ้ำ แต่ด้วยความชาญฉลาด เขาก็ใช้วิธีสร้างเขื่อนล้อมรอบ ซึ่งก็สามารถป้องกันน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี ของเราเป็นที่ราบลุ่ม ก่อนอื่นเราต้องใช้วิธีที่ประเทศจีนใช้ได้ผลแล้วกับแม่น้ำฮวงโห ซึ่งในอดีตเรียกว่าแม่น้ำวิปโยค เพราะแต่ละปีเวลาเกิดอุทกภัยน้ำท่วมจะร้ายแรง จนฆ่าผู้คนเป็นแสนแสนคนแล้ว เขาใช้วิธีตัดตอนพร่องน้ำตามจุดที่สำคัญที่แม่น้ำใหญ่น้อยจะมาบรรจบกันมาเป็นฮวงโห โดยทำการแยกน้ำออกเป็นช่วงๆตลอดทาง เข้าไปเก็บยังที่ได้เตรียมไว้ (ก็คือแก้มลิงนั่นเอง) บางครั้งเขาก็ทำเป็นเขื่อนดินเก็บกักน้ำไว้ใช้ทำกระแสไฟฟ้าแบบโรงไฟฟ้าย่อย แต่เขามีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งแม้ในขณะนี้แม่น้ำโขงที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศจีนเอง ก็ยังถูกตัดตอนทำเป็นเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเลย เขาป้องกันไว้ก่อนแล้วยังนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ในหลวงของเรามีพระราชดำริในเรื่องทั้งสองคือเขื่อนเก็บกักน้ำ (แต่ถูกทางเอ็นจีโอคัดค้าน) และบึงเก็บกักน้ำแก้มลิงกระจายเป็นรากฝอยทั่วไปตามทางที่แม่น้ำรากแก้วต่างๆไหลผ่าน เท่านี้ก็พอที่จะมองเห็นพระอัจฉริยะของพระองค์ท่าน แม้แต่ทางประเทศจีนเองก็ยอมรับว่าได้แนวทางจากพระราชดำริของพระองค์ท่าน แต่สำหรับประเทศไทยเรานั้นเหมือนใกล้เกลือกินด่าง

 

ขอเดานะครับ เมื่อเกิดเหตุการณ์ (ที่มันจะต้องเกิดมานานแล้ว แต่ผัดผ่อนมาได้ถึงตอนนี้) ภัยพิบัติ (ซึ่งอาจหมายถึง ภัยธรรมชาติ หรือ ภัยสงคราม นั้น) คาดว่าจะทำให้คนมีเหลือ ไม่เกิน 4 ล้านคน ระบบประเทศที่เป็นอยู่จะหยุดชะงักทั้งหมด ไม่มีเมืองหลวง ไม่มีจังหวัด ไม่มีประเทศ ทุกสิ่งต้องจัดสรรใหม่ทั้งหมด ฉะนั้น ไม่ต้องไปกลัวว่าเมืองหลวงจะไปอยู่ท่ไหน ใครจะได้ประโยชน์ เพราะที่ดินทุกตารางนิ้ว จะกลายเป็นของประชาชาติที่รอดชีวิต แม้แผ่นดิน จะต่ำลง แต่ผมเชื่อว่า จิตใจของคนจะสูงขึ้น เมื่อยามยากครับ

กรุงเทพมหานครจะอยู่ถึง 1550 ปี แม้ว่าจะมีเมืองใหม่ ก็จะยังชื่อว่า "กรุงเทพมหานคร" ครับ

น้ำท่วมจังหวัดต่าง ๆ เหนือกรุงเทพฯ ในตอนนี้ เพราะต้องผันน้ำเข้าทุ่ง ลดปริมาณน้ำ ก่อนน้ำทั้งหมดจะลงเมืองหลวง ฉะนั้น หากปีไหนที่มีน้ำมาก จังหวัดตอนบนที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา และปิงวังยมย่าน ต้องผันน้ำเข้าทุ่ง = รัฐบาลจะไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้เลย ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ตาม

สถานที่ที่จะได้เป็นเมืองหลวงใหม่ จะเกิดขึ้นหลังภัยพิบัติจบลง ผู้มีบุญจะปิดทางให้ และพระแก้วมรกตจะประดิษฐานอยู่ ณ ที่นั้น

(ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)

 

จับตามองในเดือนพฤศจิกายน 2553ให้ดี
ภัยพิบัติที่พบในขณะนี้ เพียงไตเติ้ลเท่านั้น