คาถาเพื่อการยกระดับทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ_2

ขอบคุณมากค่ะที่ให้คำแนะนำ จะพยายามสู้ต่อไปค่ะ เผื่ออนาคตจะได้เป็นผู้หนึ่งที่ช่วยเหลือคนอื่นได้บ้าง อยากให้ทุกคนพ้นทุกข์ค่ะ

 

สวัสดีค่ะ วันนี้มาส่งการบ้านที่ได้ภาวนา "จิตตัง อภินิหารัง" ครบ 3 วันเต็มๆแล้วนั้น ในวันแรกๆที่เริ่มภาวนา มีความรู้สึกว่า ขนลุกค่ะ ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร แต่หลังจากนั้นก็ปกติดี รู้อารมณ์ ความรู้สึกต่างๆที่มากระทบ แต่มีข้อสังเกตว่าจะมีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวบ่อยๆแต่ก็จะหายไปได้โดยเร็วทุกครั้งค่ะ

 

อันนี้จากความรู้ที่ผ่านมาจากการที่ท่านจิตได้บอกธรรมให้แก่ลุกศิษย์ท่านหนึ่ง แล้วลูกศิษท่านนั้นส่งมา ( ไม่รู้ตอนนั้นพูดไปได้อย่างไร อ่านแล้วซึ้งเลย) จะมีประโยชน์ กับอีกหลายๆคนในอนาคต ครับ

จิต นี้ได้ปล่อยวางร่างกายแล้ว และปล่อยวางจิตเช่นกัน เมื่อจิตนี้ได้วางจิตแล้ว ก็ย่อมวางทุกสิ่ง วางโลก วางจักรวาล ทุกๆ จักรวาล ถึงแม้ อารมณ์ ความคิด ความอยากยังมีอยู่ เกิดขึ้นอยู่ แต่ไม่สามารถพันธนาการจิตไว้ได้ และนามสมมุติว่าฉันคนนี้ขออธิฐานปลดปล่อยเธอเป็นอิสระตลอดไป ไม่ยึดติดกับสิ่งใด ทั้งความคิด ความเชื่อ อารมณ์ อยาก ไม่อยาก หรืออื่นๆ ทุกสิ่งคือความรู้สำหรับจิต ขอให้เรียนรู้อย่างมีความสุขและเบิกบาน เรียนรู้ทุกสภาวะอย่างที่ต้องการโดยไม่มีข้อจำกัด ไม่มีรูปแบบว่าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และปล่อยวางวางแม้แต่คำว่า วาง คำว่าต้อง ไม่มีบาป บุญ ดี เลว ถูก ผิด จิตนี้ไม่ต้องไปไหนอีกแล้ว เพราะจิตนี้อยู่ทุกแห่งทุกที่ จิตนี้มีความว่าง ว่างจากการยึดมั่นถือมั่น ว่างจากการปรุงแต่ง แต่ในความว่างนั้นมี ความเบิกบาน เยือกเย็น ความเมตตากรุณา ปัญญา ความสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อยู่เต็มเปี่ยม และนามสมมุติว่าฉันคนนี้ด้วยความเชื่อมั่นในจิตนี้ ขอใช้จิตนี้ในทางสร้างสรรค์ เมตตา ในการพัฒนาจิตวิญญาณทั้งปวง
------------------------------------------------------------------------------------
ดวงวิญญาณท่านจิตนี้ได้วนเวียนมาตั้งแต่พระพุทธเจ้าองค์ปฐม พาเหล่าลูกศิษย์ตั้งแต่อเนกชาติ มาถึงชาติปัจจุบัน ผ่านยุค สมัย และกาลเวลามานานมากแล้ว เพื่อได้เรียนรู้สภาวะจิตเดิมแท้ บัดนี้ข้าพเจ้าขออธิฐานต่อจิตหนึ่ง อันมีองค์สูงสุดเป็นประธาน ขอเปิด บุญ บารมีทั้งหลายที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมา ขอถวายให้แก่ทุกดวงจิตจนหมดสิ้น และขอให้เหล่าลูกศิษย์ของข้าทุกคนตั้งแต่อดีต อนาคต และปัจจุบัน ให้ได้ ดวงตาเห็นธรรม ได้หูทิพย์ ตาทิพย์ ญาณหยังรู้วิปากกรรม ญาณหยั่งรู้จิตใจคน เหล่าสรรพสัตว์ เหล่าสรรพสิ้ง ได้อิทธิปาฎิหารดังที่ทุกดวงจิตได้บำเพ็ญมา แต่ข้านี้ได้อธิฐานปิดไว้เพื่อประโยชน์ของลุกศิษข้า บัดนี้ขออธิฐานเปิดทุกสิ่งทุกอย่าง อภิญา 6 , ปฎิสัมภทาญาณ 4 ที่เคยได้จงบังเกิดในเร็วพลัน แก่ลูกศิษย์ข้า รับธรรมจากข้า เทิอญ
โอม ....... นะโม รังสี มุนีนัง ปฐมโพธิญาณัง สวาฮายะ
โอม .......นะม่ะ ช่ะ ญ่ะ จา ภา เท , วา รา ดา ยา พา เท ,ยา ฮา สะ ระ วา พา เท เฮ ลา ,ยา พา ทา สะ วา ฮา
โอม จิตตัง อภินิหารัง ขอพระพุทธองค์ทั้งหลายทั้งปวง และเหล่าพระมหาโพธิสัตว์และเหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง เหล่าพระปัจเจกทั้งหลายทั้งปวง เหล่าพระอรหันทุกรูปในทุกๆสากลจักรวาล เหล่าคุณบิดาและอาจารย์และเหล่าพระกรรมฐานทุกรูปทุกนาม จงอำนวยพรดังที่ข้านี้ขอไป ณ บัดนี้ เพื่อเปิดยุคใหม่เทิอญ
สาธุ สาธุ สาธุ
--------------------------------------------------------------------------
ใครมารับธรรมแล้ว จงรับสิ่งที่ได้กลับคืนไปนะ อธิฐานเปิดให้แล้ว ปิดมานานเหนื่อย 555

จิตอิสสระ
(พระอากาศครรภ์มหาโพธิสัตว์)
ผู้มีจิตกว้างขวาง ดัง นภากาศ
ผู้มีจิตยิ้มแย้ม แจ่มใส่ อยู่เป็นนิจ
ผู้มีจิตอิสสระในสิ่งทั้งปวง
ผู้ช่วยเหลือเหล่าพระมหาโพธิสัตว์
ผู้เผ่ยแพร่ ธรรมแห่งพระพุทธะองค์และรักษาธรรมของพระพุทธะองค์ ทุกพระองค์ และจะทำหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น ตราบใดที่ยังมีสรรพสัตว์ ตราบนั้นก้อยังมีท่านจิต เพราะเป็นของคู่กัน
บัดนี้ ขอธรรมแห่งพระพุทธองค์ องค์พระศรีศากยมุนีผู้เป็นอาจารย์แห่งเราเมื่อ 2500 กว่าปีล่วงมาแล้ว จงแผ่ออกไปให้ไพศาล
ข้าพระองนี้ขอนอบบาทบูชาพระพุทะองค์ผู้เป็นอาจารย์ผู้ประกอปไปด้วยพระหฤท้ยที่มีเมตตาดุจดังห้วงมหรรณพ พระปัญญาอันสว่างสดใสแผ่ดออกไปทั้งจักรวาล ทัวทั้งจักวาล ทั่วทุกๆมิติ พระศีลคุณอันสว่างบริสุท ดุจดังมณีที่ไร้รอยบททิน

 

ผมคิดไปเองหรือเปล่าครับท่านพี่ เพราะผมจะรับธรรมจากข้อความข้างบนแต่ผมก็สัมผัสได้แต่ความว่างเปล่า : D

 

แม่นแล้ว ข้างบนมีความว่างเปล่า พี่เขียนตอนสภาวะว่างนะ อะไรก้อออกมาจากความว่าง ลองสังเกตุว่าในความว่างมีอะไรบ้าง
ต่อไปให้ภวนา พุทโธ เมตตา ปะชานาติ ซัก 3 วัน แล้วไปดูข้อความเดิมนะว่าเป็นอย่างไร

 

ต่อไปให้ภวนา ชาลิตเต มหาชาลิตเต 3 วันครับ แล้วหมั่นอธิฐานจิตบ่อย ต้องการได้อะไร ก้อธิฐานเอา

 

สีชมพู คงจะเป็นความรัก มาเยอะมาก ถัดมาก็สีฟ้า สีฟ้านี่ความเมตตา

ความรักความเมตตา ณ ตอนนี้ที่ผมเห็นนะครับ

แปลกใจครับ จู่ๆผมก็จับพลังงานในรูปแบบของ "สี" ได้ซะงั้น

 

ขอรบกวนอีกครั้งครับคุณ จิตอิสระ
ผมติดตรง รอยยิ้มที่กึ่งกลางหน้าอก และ ให้เสียงก้องออกมาจากกึ่งกลางหน้าอก
มันมีความรู้สึกมาคอยขวางว่า มาจากความคิดที่สร้างขึ้น ไม่ใช่รู้สึกจริง มันทำให้รู้สึกว่าย่ำอยู่ที่เดิม แต่ก็พยายามเรียนรู้ให้เป็นความรู้อีกแบบที่เราต้องเจอเป็นปกติของจิตที่ซนไปเรี่อยเปี่อยครับ

เลยมาขอคำแนะนำเพิ่มครับ

 

อันนี้ต้องโทรมาขอเคล็ดลับก่อน ถ้าเคล็ดลับไม่ได้ ต้องบอกกันทางโทรศัพและแก้สภาวะธรรมขณะนั้นด้วย ว่ารอยยิ้มที่กลางหน้าอกเกิดขึ้นหรือยัง โทรมาหารอยยิ้มที่หัวใจได้ที่ 082-1433013

 

โอ้ คุณลินดาส่งกระแสความคิดมาเต็มไปหมดเลยครับ อ่านแล้วปวดหัว
คุณลินดา กำลังติดเรื่องความคิดอย่างแรง จิตไม่โปร่ง โล่ง เบา สบาย นะครัย หนักๆ ทื่อ จงโปรดโทรมาหาเผื่อปรับเรื่องการแผ่ รอยยิ้ม พิมใจ และปุจฉา วิปัสสนาในเรื่องที่ข้องอยู่นะครับ จงอยุดภวนาเสียก่อน เพราะเดียวจะพาไปจม เพราะตัวเองตั้งผลลัพไว้ แล้วกำลังวิ่งพากระต่ายไปสู่จุดมุ่งหมายที่ไม่มีวันถึง จงให้กระต่ายหยุดพักนอนเอาแรง ให้เต่านำไปก่อน นะจะบอกให้
082-1433013
นิ่ง แล้วรู้ทุกสิ่งด้วยจิตรู้ แค่นั้นครับ ไม่ต้องไปตัดสินใจว่ามันเป็นอะไร ก่อนหรือหลัง รู้แค่ไหน แค่นั้น แต่ต้องรู้ด้วยใจที่เบาๆ สบาย
สภาวะทั่วไปของเรา ขอย้อนกลับมาหน่อย
1 จิตวิ่งไปตามความคิดนึกปรุงแต่งของสมอง ( ปล่อยใจไปตามกิเลส หรือความคิดที่ลากจูงเราไป)
2 มีฐานที่ตั้งของจิต จิตตามรู้ความคิดนึก รู้สึก ( เริ่มรู้ทันอารมได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่ถูกพาไปตามความคิด นึก รู้สึก )
3 มีฐานที่ตั้งของจิต จิตนิ่งรู้ความคิดนึก รู้สึก ( เริ่มทันกับความคิด นึก รู้สึก สติตัดสิ่งที่คิด นึก รู้สึกที่ออกมาจากความว่างได้ทัน ขั้นนี้จะเห็นความว่างมากขึ้น และที่ได้ที่มีความว่าง จะมีความเบิกบาร และ โล่ง )
4 จิตมีฐ่านที่ตั้งของจิต จิตดับก่อนรู้ คือ ไม่รุ้อะไร เพราะวางตัวรู้อยู่ตลอดเวลา (เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นความรู้ใหม่ เบิกบานอยู่เสมอ)
5 จิตไม่มีฐาน เป็นอิสรระในทุกสิง ตื่นรู้ เบิกบาน เต็มไปด้วยพลังอยู่ภายใน (ศีล สมาธิ ปัญญา บริบูรณ์ด้วยตนเอง)และเป็นจิตผุ้สร้างสรรค์ อย่างแท้จริง ไม่มีลักษณะใดๆมาบรรยายได้
(ใครอยุ่ในชั้นใน ก้อตามนั้นครับ ประเมินตนเอง ไม่บอก )

 

ขออนุโมทนาบุญและขอบคุณสำหรับความเมตตาและความมีน้ำใจครับ

 

แฮ่ะๆ ขอโทษ ที่ทําให้ปวดหัวค่ะ ตอนนี้ขอพักตามที่คุณว่ามา แต่ถ้าโทรมาช่วงนี้อาจพูดสับสน ขอเวลาสักพักค่ะ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ inkpan
ขอรบกวนอีกครั้งครับคุณ จิตอิสระ
ผมติดตรง รอยยิ้มที่กึ่งกลางหน้าอก และ ให้เสียงก้องออกมาจากกึ่งกลางหน้าอก
มันมีความรู้สึกมาคอยขวางว่า มาจากความคิดที่สร้างขึ้น ไม่ใช่รู้สึกจริง มันทำให้รู้สึกว่าย่ำอยู่ที่เดิม แต่ก็พยายามเรียนรู้ให้เป็นความรู้อีกแบบที่เราต้องเจอเป็นปกติของจิตที่ซนไปเรี่อยเปี่อยครับ

เลยมาขอคำแนะนำเพิ่มครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ได้เคล็ดลับที่ไม่ลับไปแล้ว ได้ผลอย่างไร ก้ออย่าลืมมาบอกกันนะ

 

ชมพู คือ ความรัก
เขียว คือ เมตตา
ฟ้า คือ กรุณา
เหลือง คือ ปัญญา
แดง คือ พลังแห่งการตื่นรู้ และการขับเคลื่อน
ม่วง คือ ญาณรู้
ขาว คือ การปล่อยวาง รวมทุกสีไว้ด้วยกัน

 

โมทนา สาธุ ศิษย์ผู้นี้ขอน้อมรับคำอำนวยพร สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ อย่างที่คุณบอกค่ะทุกอย่างอยู่ที่ใจ

 

ท่านอาจารย์คะ ขณะที่กำลังอ่านรู้สึกร่างกายและสมองว่างเปล่า โล่ง และรับรู้ได้ว่าร่างกายรู้สึกซ่าๆ สั่น มือชาเล็กน้อยค่ะ พออ่านจบรู้สึกขนลุกเลยค่ะ อันนี้เรียกว่ารับพลังรึเปล่าคะ ตอนนี้รู้สึกสดชื่นค่ะ พร้อมที่จะเรียนรู้ต่อไป ขอบคุณนะคะสำหรับสิ่งดีๆที่ให้กับเหล่าลูกศษย์ค่ะ

 

สวัสดีค่ะ พอจะแนะนำ ให้ได้ไหมคะว่า ดิฉันควรใช้ คำภาวนาใด ที่จะถูกกับจริต

ทุกวันนี้ ใช้ พุทโธ ค่ะ แต่ก็รู้สึกว่า จิตแกว่ง และ ฟุ้งซ่านพอสมควร แม้ในขณะที่ภาวนาค่ะ

 

...

สวัสดีครับ
เข้ามาส่งการบ้านครับผม
หลังจาก ภวนา 1 วันผ่านไป
อะไรๆ ที่ฟุ้งซ่าน จิตตก หายไปครับ
สรุป
จิตเห็น รู้ใจ ทันความคิด อารมณ์บางเบา
...
รับรู้ถึง ความเบิกบาน ที่แผ่ออกจากกาย
มันมากมายกว่าเดิมครับ
...
วันนี้ มีการบ้านใหม่ไหมครับ

ขอบคุณครับ