คาถาเพื่อการยกระดับทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ_2

ได้โทร.หาอาจารย์กรแล้ว มีการซักถาม แนะนำตัวกันเล็กน้อย หลังจากนั้นอาจารย์บอกก็ได้บอกว่า จิต เปรียบเสมือนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว เราต้องการพืชพันธ์แบบไหนขึ้นอยู่กับเราเป็นผู้เลือกเมล็ดพันธ์ที่จะหว่านลงในผืนแผ่นดินนั้นให้มีความงอกงามและอุดมสมบูรณ์ “ทุกความคิดจะให้ผลตามมาในการดำเนินชีวิตเสมอ” เพราะฉะนั้น เราจึงเลือกที่จะ คิด รู้สึก กระทำ และพูด แต่สิ่งที่ดีเท่านั้น (คิดในทางบวก) อย่างที่ท่านอิสสระก็เน้นย้ำด้วยเช่นกัน ให้นึกคิดบ่อยๆ พื้นฐานที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการยกระดับจิตวิญญาณ เราต้องรู้จักรักตนเอง และรักผู้อื่นให้เป็นโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น ให้อภัยในสิ่งที่ผิดพลาด ล่วงเกินต่อกันที่ผ่านมา ให้มีความเมตตา และเกื้อกูลต่อเพื่อนมนุษย์ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใคร ในขณะที่การดำเนินชีวิตในทางโลก ซึ่งอยู่ในวัฏจักรของ ความรัก โลภ โกรธ หลง นั้นเราต้องปรับทัศนคติ ความเชื่อ ความคิด กรอบหรือมาตรฐานที่เรามีและเป็นผู้สร้างขึ้นมา ให้รู้จักปล่อยวางในทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามากระทบให้เป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ ยอมรับและเข้าใจในความแตกต่างของแต่ละบุคคล (นา นา จิต ตัง) ไม่ว่าจะเป็นสังคม ครอบครัว ที่ทำงาน เพื่อนฝูง เราเป็นเพียงผู้ดู ผู้รู้ ในสภาวะอารมณ์ต่างๆทิ่เกิดขึ้น โดยไม่ไปตัดสินในสิ่งนั้น นอกจากนี้ อาจารย์ยังกล่าวอีกว่า เราต้องขอบคุณทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็น “บ้านหลังนี้ รถคันนี้ เจ้านายคนนี้ พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ ฯลฯ ที่มีเราเป็นเราในวันนี้ ให้อภัย มีความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และทุกสรรพสิ่งโดยปราศจากเงื่อนไข และในระหว่างที่คุยทางโทรศัพท์กับอาจารย์อยู่นั้น ก็รู้สึกได้ว่า กายเบา ใจเบา และมีความเบิกบาน แต่ที่รู้สึกได้ชัดอย่างมากๆก็คือ รู้สึกขนลุกซู่ ตอนที่อาจารย์พูดว่า “ต้องให้อภัยผู้อื่นโดยปราศจากเงื่อนไข” สาระหลักๆประมาณนี้ ยังไม่ทันได้เปิดกรรมฐาน พอดีอาจารย์มีธุระก่อน อาจารย์อิสสระค่ะ พอจะประเมินสภาวะอารมณ์ สภาพจิตของนักเรียนคนนี้หน่อยได้มั้ยค่ะ และต้องปรับแก้ไขอะไร ขอบพระคุณในความเมตตาของอาจารย์ค่ะ<O</O

 

ครั้งที่ 4

***แผ่นดินชุ่มน้ำ รองรับ โอบอุ้ม ไม่แบ่งแยก****
ขอบคุณพระแม่ธรนี ในความรักอันมากมายไม่มีประมาณ

อนุโมทนาครับ

 

ทุกอย่างนั้น เต็มบริบูรณ์อยู่แล้ว มีทุกสิ่งอยู่แล้ว สิ่งที่ขิาดอยู่คือความกตัญญูต่อสิ่งทั้งหลายทั้งปวง แม้แต่ที่นอน แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สิ่งเล็กๆนอยๆที่เราใช้อยู่ทุกวันนั้นล้วนมีจิตวิญญาณ เราจึงต้องรู้จักขอบคุณเขา ไม่มีเขาเราก้อไม่มีประสบการต่าง ต้องขอบคุณหน้าที่การงาน เงินทุกบาท และอื่น
และนอกนั้นอธิฐานขอบ่อยๆนะ
รู้สึกว่าจะรักตัวเองน้อยนะครับ แผ่สิ่งต่างๆที่เราได้ทำมาให้ตัวเอง ขอบคุณตัวเองบ่อยๆ รู้สึกดีกับตัวเองเยอะๆ ปราถนาให้ตัวเองได้เจอกับสิ่งดีๆบ่อยๆ ก่อนที่จะรักใคร ต้องรักตัวเองให้เป็นเองก่อน ขอบคุณตัวเองให้เป็น รักทุกสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเอง เมื่อมันเติมเต็มแล้วเผื่อแผ่ไปให้บุคคลอื่น

 

ท่านพี่ครับ แล้วอาการของผมหละครับ

 

สำหรับน้อง เป็นคนพิเศษมาก ๆ
ขอบอกว่า No Comment
ยิ่งอยากรู้ ยิ่งไม่ได้รับคำตอบ เมื่อถึงเวลาเธอจักได้รับคำตอบด้วยใจอันบริสุทของตนเอง
เมื่อวางแล้วว่างเมื่อนั้นคำตอบและสิ่งที่เธอเป็นและต้องการจะรู้จะลอยมาหาเธอเอง

 

บทความนี้ ขอมอบให้แด่ผู้ที่ค้นหาคำตอบมาทั้งชีวิต ว่าฉันนี้เกิดมาทำไหม และ ฉันนี้ทำต้องเกิดมาในโลกใบนี้เพื่อมีในทุกสิ่ง และละทิ้งมันไป ขอให้เธอเจอหนทางที่เธอนั้นเฝ้าอธิฐาน และฉันนี้ขออวยพรให้เจอพบคำตอบนั้นภายในปีนี้ ปีนี้จะเป็นปีที่แสนวิเศษสำหรับเธอ เหล่าต้นกล้าแห่งแสงสว่าง เหล่าเด็กน้อยแห่งคุรุ ที่จะเติบโตเป็นคุรุอันยิ่งใหญ่ เป็นครูแห่งจักรวาลทุกแห่งหน เป็นผู้รู้แจ้งในทุกสรรพสิ่งและปล่อยวางในทุกสรรพสิ่ง ผู้ที่อดีตเคยเติบโตในดาวดวงอื่น และแสวงหาปัญญาแห่งดาวเคราห์โลกแห่งนี้ ผู้ดำเนินทางแห่งเรามาช้านาน ขออำนวยพรในสิ่งที่เคยอธิฐานตั้งแต่อดีต อนาคตและปัจจุบันจงเป็นจริง
ขอเธอจงเข้าถึงแก่นแห่งความรักในทุกสรรพสิ่งอย่างไม่มีเงื่อนไข
ขอเธอจงเข้าถึงโพธิปัญญา รู้จิตใจตนเอง และเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย

หมายเหตุ แต่งไปเรื่อยๆนะ อ่านแล้วก้อวางเสีย

 

<DD>-/\- วิถีจอมยุทธในโรงครัวก็ประจักษ์แก่กระผมแล้ว
</DD>

 

ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์มากครับ ท่านอาจารย์เปลี่ยนรูปนี่แสดงว่าได้อัพเกรดระดับขึ้นไปอีกแล้วใช่ไหมครับ พอดีรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงครับ เป็นพลังเย็น ความเมตตา เห็นสีขาว สีทองที่วงใหญ่กว่าสีขาว แล้วก็จักรวาล หรือว่าผมคิดไปเองหนอ (ผมก็ใช้รูปแทนการอัพเกรดตัวเองนะครับ 555)

 

แม่นแล้ว ได้รับการ Upgrade เหมือนกัน
และเห็นบางคน เปลี่ยนร่าง ดูเหมือนกัน เลยอยากเปลี่ยนร่างบ้างนะ
ทุกๆครั้งในการเปลี่ยนแปลง จะมีสิ่งใหม่ๆ เสมอ
ฝากทุกคนลองเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆรอบตัว ดูบ้างนะ และรู้สึกอย่างไร

 

เอามาเขียนไว้ตั้งนาน เพื่อสกิดลูกลิงบางตัวที่ชอบซุกซน จะเอาเร็วเข้าว่า อยากได้นั่น อยากได้นี้ จนความอยากบังตา ทำให้ไม่เห็นมณีที่ผูกคอตัวเองอยู่ เพราะมัวแต่ไปอยากได้มณีดางอื่น ที่ด้อยค่ามากนักกว่า แก้วสารพัดนึกที่แขวนคอตัวอยู่
ไปเรียนรู้ วิถีลูกลิงจอมซนก้าวสู่วิถึหนุมานชาญสมร

ไปเรียนรู้ เดือดทะลุจุดศูนย์นะ ปล่อยวางทุกสิ่ง เพื่อเปลี่ยนเปลวไฟ ให้กลายเป็นน้ำแข็งให้ได้ ตอนนี้น้องยังไม่ผ่านขั้นเดือดทะลุจุดศูนญ์ เพราะความรักตัวเอง และพวกพ้อง ยังไม่เต็มบริบูรณ์และเอ่อล้นออกมา
ตอนนี้สภาวะธรรมคือ Reborn นะ

</DD>

 

[FONT=&quot]กราบ อนุโมทนา ครับ[/FONT]

*** [FONT=&quot]วาง ให้ ว่าง[/FONT][FONT=&quot] .... ว่าง จาก วาง ***[/FONT]
................................................
[FONT=&quot]ส่วนอาการวันนี้[/FONT]
[FONT=&quot]นอนกระสับกระส่ายทั้งคืน เมื่อคืนจะหนักกว่าเก่า[/FONT]
[FONT=&quot]ตื่นเช้ามา จิตก็ยังจับภวนา[/FONT][FONT=&quot]โพชฌังคัง จิตตัง[/FONT]
[FONT=&quot]ลืมอีกอาการ ตอนนั่งสมาธิ จะรู้สึกหนัก เหมือนมีแรงอะไรสักอย่าง[/FONT]
[FONT=&quot]มาปะทะ ด้านหน้า บนฝ่ามือจะหนัก เหมือนโดนกด[/FONT]
[FONT=&quot]เริ่มมีอาการ ตั้งแต่ใช้คำภวนา[/FONT][FONT=&quot]โพชฌังคัง จิตตัง[/FONT]
[FONT=&quot]ความเบิกบาน มีเรื่อยๆ รัศมี รอบกาย บางๆ[/FONT]
[FONT=&quot]ส่วนตัวใจ จะคุยกันเข้าใจมากขึ้น ไม่ค่อยดื้อเหมือนเก่า[/FONT]
[FONT=&quot]ความคิด สงสัยจะเหนื่อย เลยวิ่งช้าลง[/FONT]
......
[FONT=&quot]สองสามวันนี้ รู้สึก จิต จะชอบ ให้ฟังบทสวด[/FONT][FONT=&quot]ปารมิตา หฤทัยสูตร[/FONT]
[FONT=&quot]กับ พิจารณา[/FONT][FONT=&quot]อสุภกรรมฐาน[/FONT][FONT=&quot]ให้ดูศพ ดูของเน่า ครับ[/FONT]
[FONT=&quot]สงสัย ช่วงนี้ดูพี่โดม กับน้องพลอย จนติดงอมแงม[/FONT][FONT=&quot]รักไม่มีวันตาย[/FONT]
......
[FONT=&quot]หลายท่าน คงได้คุย กับอาจารย์ใหญ่เรียบร้อยแล้ว[/FONT]
[FONT=&quot]ส่วนผม [/FONT]555 โทรไป
[FONT=&quot]ครั้งที่ [/FONT]4 [FONT=&quot]ผ่านไป ยังต่อไม่ติด[/FONT]
[FONT=&quot]วันนี้ ต้องมีครั้ง ที่ [/FONT]5 ...6....7[FONT=&quot]แน่นอน[/FONT]

[FONT=&quot]แล้วจะมารายงานความคืบหน้าครับ[/FONT]
....
[FONT=&quot]ปล. จังหวัดพัทลุง ฝนตกหนักมาก สงสัย น้ำจะท่วมอีก[/FONT]

 

ต่อไป
ให้จิตดำเนินตามธรรม เป็นไปเพื่อธรรม ในกรอบแห่งธรรม ภาวนา " มัคคัง วิหะระติ " 1 วัน
(บทสรุปของ ปารมิตา หฤทัยสูตร คือ จิตหนึ่ง คือสภาวะที่พวกเราจะต้องไปให้ถึง เมื่อถึงแล้วจะรู้เองว่าถึงแล้ว เพราะมีแต่ความเย็นใจ)

 

อนุโมทนาครับ
ผมจูนสัญญาณ กับอาจารย์ใหญ่ไม่ติดครับ
สงสัย... .... ... .... ตู๊ด...ตู๊ด....
เมื่อกี้ก็อธิษฐานไปแล้ว ขอแล้ว ...
ก็ยัง.....ตู๊ด....ตู๊ด...
ทำไงดีครับ

 

สาธุ สาธุ ขอจงสำเร็จดั่งคำอวยพรของครูบาอาจารย์ สาธุ

 

โอ้โห อ่านแล้วอึ้ง เจอคำว่าเดือดทะลุจุดศูนย์ และ Reborn ฮ่าๆๆ

 

ลืมบอกไป พี่คือ Reborn ส่วนเหล่าผู้กล้าคือผู้ที่กำลังเรียนกับ Reborn อยู่

 

รายงานครับ
ได้คุยกับ อาจารย์ใหญ่แล้ว
ได้รายงาน ผล ของการ ภวนา ทั้ง ทางกาย ใจ จิต
อาจารย์กร ท่านบอกให้ ดู ความเปลี่ยนแปลงของเรากับรอบข้าง
ให้ดูตัวนี้ตัวเดียว
ดูจิต ดูอารมณ์
แค่นี้ครับ
ท่านบอกให้ ภวนา พุทโธ โหมิ
กลางหน้าอก ให้ เสียงดังก้องกังวาล
...
แล้วก็คุยกันเรื่องทั่วไปครับ
...
อนุโมทนาครับ

เกือบลืม อาจารย์ ทิ้งท้าย มีอะไรก็โทร ปรึกษาได้ครับ
......
ผมเลย ยังค้างข้อสงสัย อยู่ครับ
อย่างตอนเรา เห็นตัวความคิดที่ มันวิ่งอยู่
เห็นอารมณ์ที่มันเกิดขึ้น

เรารู้ในสภาวะที่ว่า จะโกรธ จะไม่พอใจ จะ...เป็นแบบนั้น แบบนี้
เราเห็นความคิดที่วิ่งไป ...แต่ก็ไม่ตาม แล้วมันก็กลับมา ถึงรู้ว่า ไปไหนมา
แต่ เกิดคำถามว่า
สิ่งเหล่านี้ เรา จะตัด ละ ทิ้ง มันได้อย่างไร

1. จะคงให้เป็นความรู้
2. จะให้วาง ลง เพื่อ ว่าง

มันก็ยัง คงอยู่ รับรู้ว่ามันอยู่
ถ้า ทำให้เป็น ข้อ 1 หรือ ข้อ 2
จะรู้สึกว่า ฝืน ว่า ไปบังคับ

เลย สงสัยอยู่ว่า
ต้อง จัดการ ยังไง

เรียนถามอาจารย์จิตครับ ผม

 

ปรัชญาปารามิตาหฤทัยสูตร (พระสูตรว่าด้วย แก่นแท้แห่งมหาปัญญาสู่ความรู้แจ้ง)
แปลโดย Astro Neemo
หมายเหตุผู้แปล เนื่องจากพระสูตรนี้นับเป็นหัวใจและแก่แท้ของปรมัตถ์ธรรมขั้นสูงยิ่ง เป็นปัญญาญาณขั้นปรัมัตถ์เข้ากันได้ทั้งฝ่ายมหายานและเถรวาท และมีหลายๆสำนวนแปลที่เคยแปลมาก่อนหน้านี้ แต่สำนวนของผมเป็นสำนวนแปลตามความเข้าใจและความรู้สึกของผมเอง โดยเน้นแปลที่อรรถะตามความหมายที่เข้าใจ และบางครั้งไม่แปลตามพยัญชนะ ตัวอักษรทั้งหมด ดังนั้นมิควรนำสำนวนแปลนี้ไปเปรียบเทียบกับท่านอื่นๆที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ ที่แปลได้ดีกว่า อย่างไรก็ตามสามารถนำไปเผยแพร่ได้ตามความเหมาะสมและไม่สงวนสิทธิ์ใดใด ขอแต่เพียงแจ้งว่า สำนวนที่แปลนี้ เป็นการแปลตามความเข้าใจและความต้องการอยากแปลให้เข้าใจง่ายเท่านั้น ทั้งนี้ย่อมมีข้อผิดพลาดมากอยู่
อริยาวโลกิเตศวาโร โพธิสัตตโว คัมภีรํ ปรัชญาปารมิตา จารยํ จารมโน วยาวโลกยาติ สมา ปัญจะ สกันธัส (ขันธะ) ตัมส จะ สว ภว ศุนยํ
观自在菩萨行深般若波罗蜜多时, 照见五蕴皆空度一切苦厄ในสมัยหนึ่งพระพุทธองค์ประทานเทศนาแด่พระสารีบุตร กล่าวถึงการบำเพ็ญธรรมของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ดังนี้ว่า
“ พระอวโลติเกศวรโพธิสัตว์(กวนอิม) ขณะบำเพ็ญวิปัสนาญาณแล้วบังเกิดปัญญาญาณอันยิ่ง เพ่งพิจารณาในขันธ์ ๕ ทั้งปวงแล้วรู้ชัดด้วยปัญญาญาณว่า ขันธ์ ๕ ทั้งหลายล้วนคือความว่าง คืออนัตตา คือความเป็นศูนย์ หากสรรพสัตว์ทั้งหลายมีปัญญาเห็นตามดังนี้ ย่อมข้ามพ้นซึ่งทุกข์ทั้งปวง”
ปัศยาติ สมา อิหา ศารีปุตระ รูปํ ศุนยตา วะ รูปํ รูปํ นะ ปฤถักศุนยตา ศุนยตายะ นะ ปฤทัก รูปํ ยัท รูปํ สะ ศุนยตา ยะ ศูนยตายะ สะ รูปํเอวัม เอวะ เวทนท สังชญา (สัญญา) สังสการา (สังขาร) วิชญานัม (วิญญาณ)舍利子,色不异空空不异色,色即是空空即是色,受想行识亦复如是ดูกร! สารีบุตร รูปไม่ต่างจากความว่าง ความว่างไม่ต่างจากรูป รูปคือความว่าง ความว่างคือรูป แม้ที่สุด เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณก็ล้วนว่างเปล่า
อิหา ศารีปุตระ สารวะ ธารมะ ศุนยตา ลักษณะ อนุตปัณณะ อนิรุทธะ อวิมาละ อนูนะ อปาฤปูฤณะ ตัสมา ศารีปุตร ศุนยตายํ
舍利子,是诸法空相不生不灭,不垢不净不增不减,
ดูกร สารีบุตร ธรรมทั้งปวงล้วนว่างเปล่า ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว ไม่มีเพิ่ม ไม่มีลด
นะ รูปํ นะ เวทานา นะ สังชญา นะ สังสการ นะ วิญญาณนะ จักษุ โสรตัม นะ ฆราน ชิว กาย มนนะ รูป ศัพท คันธ รส ศปิสตาวยา ธารมานะ จักษุ ธาตุ ยะ วัน นะ มโน วิชญาณัม ธาตุ
是故空中无色无受想行识,无眼耳鼻舌身意，无色声香味触法无眼界乃至无意识界ดัง นั้นด้วยเหตุนี้ ในความว่างย่อมไม่มีรูป ไม่มีเวทนา ไม่มีสัญญา ไม่มีสังขาร ไม่มีวิญญาณ และย่อมไม่มีการสัมผัสรับรู้ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จึงไม่มีรูป ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีเสียง ไม่มีการรับรู้ทางสัมผัสและธรรมารมณ์ ย่อมไม่เกิดจักษุวิญญาณ ฯลฯ จนกระทั่งที่สุดย่อมไม่มีมโนวิญญาณ (เกิดขึ้น)
นะ วิทยา นะ วิทยา กศโยยะ วัน ชรามรณัม นะ ชรามรณัม กศโยนะ ทุกข สมุทย นิโรธ มฤคาชณ นะ ชญานัม นะ ปราปติ นะ ภิศมายะ ตัสมา นะ ปราปติ无无明亦无无明尽乃至无老死亦无老死尽无苦集灭道无智亦无得以无所得故
ไร้ซึ่งอวิชชา และไร้ซึ่งที่สุดแห่งอวิชชา (วิชชา) ไร้แม้กระทั่ง ชาติ ชรา มรณะ และที่สุดแห่งชาติ ชรา มรณะ ไร้ความทุกข์ (ทุกข์) ไร้เหตุแห่งทุกข์(สมุทัย) ไร้การดับทุกข์(นิโรธะ) ไร้หนทางที่ดำเนินไปสู่ทางดับทุกข์ (มรรค) ไร้ปัญญา ไร้การบรรลุ เพราะไม่มีอะไร(จะ)ให้บรรลุ
ตวัท โพธิสัตตวะ ปรัชญาปารมิตา อศฤตยา วิหาระ ตยา จิตตา วรโนนะ สิทธิตวัท อตรัสโต วิปา ฤยส ติ กรานโตนิ สถา นิรวานะ ตยา ธยา วยาว สถิตาสาระ พุทธา ปรัชญาปารมิตัม อศฤตยาอนุตตรํ สัมยักสัมโพธิง อภิสัมพุทธา
菩提萨陲依般若波罗蜜多故,心无罣碍，无罣碍故，无有恐怖，远离颠倒梦想究竟涅盘，三世诸佛依般若波罗蜜多故得阿耨多罗三藐三菩提
พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเหตุที่ได้ดำเนินตามมหาปัญญาอันเป็นปรมัตถ์นี้(ปรัชญาปารามิตา) จิตย่อมไม่วิตก(กังวล) เพราะจิตไม่วิตกกังวล(สับสนมืดมัว) จิตจึงมี(ความตั้งมั่น)ไม่หวาดหวั่น (ย่อมเป็นผู้)ห่างไกลจากมิจฉาทิฐิทั้งปวง มีพระนิพพานเป็นที่สุด
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายแม้ในอดีต ปัจจุบัน และจักมีในอนาคต ล้วนอาศัยเหตุของการดำเนินตามและพิจารณาด้วยปัญญาอันยิ่งนี้ (ปรัชญาปารามิตา) ด้วยความเห็นตรงเยี่ยงนี้ (สัมมาทิฐิ ) (ตามข้างต้นนี้แล้ว) จึงได้บรรลุสู่ญาณแห่งความรู้แจ้งอันสูงสุด ซึ่งไม่มีสิ่งใดยิ่งกว่า (อนุตรสัมมาสัมโพธิญาน)
ตา สมา ชญตา วยัม ปรัชญาปารมิตา มหามันตรัม มหาวิทยามันตรัมอนุตตรมันตรัม อสมสมา มันตรัมสารว ทุกขา ปรสามานัม สัตยํ อมิตยัทวัทปรัชญาปารมิตายัม อุทโท มันตรา ตัทยาถา
故知般若波罗蜜多 ,是大神咒是大明咒是无上咒 ,是无等等咒能除一切苦真实不虚, 故说般若波罗蜜多咒,即说咒曰 :
(ด้วย เหตุนี้ๆ) จงทราบไว้ว่า “ปรัชญาปารามิตา”เป็นมหาศักดาธารณี(มนต์) เป็นมหาวิทยาธารณี(มนต์) เป็นอนุตรธารณี (มนต์)เป็นอสมธารณี(มนต์) สามารถดับสรรพทุกข์ทั้งหลายให้หมดสิ้นไปได้ ด้วยสัตยาทิษฐาน(สัจจะอันไม่เป็นเท็จ)นี้ ฉะนั้นจึงได้ประกาศ “ปรัชญาปารามิตามหาธารณีมนต์”ดังนี้
คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โพธิ สวาหา
揭谛揭谛波罗揭谛,波罗僧揭谛，菩提娑婆诃(ไป ไป ไปสู่ฝั่งโน้น ฝั่งแห่งพุทธะ ฝั่งพระนิพพาน สวาหา)
………………………จบปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร…………….๑๘ เมษา ๒๕๕๒ เวลา๑๐.๑๘ น. Astro Neemo


อนุโมทนา สาธุ

ขอขอบคุณ คุณ Astro Neemo ที่แปลมาให้อ่านนะครับ

 

วันนี้ได้คุยกับอาจารย์กร ต่อจากเมื่อวาน (23 มี.ค.54) ที่คุยค้างไว้ โดยสรุปสาระหลักๆคือ ต้องปรับทัศนคติ มุมมอง ความเชื่อ ความเห็นในการดำเนินชีวิตต่อเรื่องต่างๆอย่างเป็นกลางๆ และให้มีความเกื้อกูลต่อเพื่อนมนุษย์และทุกสรรพสิ่ง ต่อจากนี้ไปอาจารย์ให้ภาวนา “สุ ขิ โต โห มิ” ให้ดังอย่างกึกก้องลงในอก ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันที่ภาวนาคำว่า ชาลิตเต มหาชาลิตเต ครบ 3 วันพอดี โดยให้ภาวนา “สุ ขิ โต โห มิ” ไปเรื่อยจนกว่าตุ่มนั้นจะเปี่ยมล้นจนคนรอบข้างสามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นจากเรา (แอบคิดในใจว่าสงสัยชาตินี้ทั้งชาติเลยมั้งอาจารย์) และอาจารย์เน้นว่า อย่าใส่ความอยากนะ ต้องทำด้วยความรู้สึกเป็นกลางๆ และปล่อยวาง มีอะไรติดขัดก็ให้โทร.มาสอบถามได้ แล้วสุดท้ายอาจารย์อวยพรว่า ขอให้สำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา ข้าน้อยฯต้องรีบสาธุ โดยทันที <O</O
ท่านอาจารย์อิสสระมีความเป็นประการใด โปรดชี้แนะต่อไป ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์กรท่านอาจารย์จิตอิสระ ครูบาอาจารย์ทุกท่านไว้ณที่นี้

 

เป็นไปตามนั้นครับ อาจารย์ใหญ่ท่านเป็นบรมครู ย่อมต้องเห็นชัดเจนกว่าอยู่แล้ว และท่านปั้นคนเป็นคุรุ หรือเป็นครู ดังนั้นจึงต้องผ่านครูใหญ่ ต่อไปคำบริกรรม ส่งอารมหรือส่งการบ้าน ภวนาไปเรื่อยๆ ถ้าท่านไม่โทรมาภายใน 3 วัน เราก้อต้องโทรไปส่งการบ้าน หรือส่งสภาวะอารม
ตอนนี้ท่านคงสัมผัสได้ว่าอารมและจิตของท่านได้ยกระดับไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว
ต่อไปต้องเปลี่ยนฐานะเป็นศิษน้องแล้วนะครับ
ขอให้ศิษน้องจงเสริมเรื่องการขอบคุณ และตระหนักรู้บุญคนของสิ่งต่างๆรอบๆตัว รวมทั้งหมั่นอธิฐานจิต วันละ 3 รอบ จะทำให้น้ำเอื่อล้นตุ่มเร็วขึ้น
ขอให้ศิษน้องจงพบสภาวะธรรมน้ำเอ่อล้น และแจกจ่ายออกไปในเร็ววัน
ปูทาง ปูพื้นฐานมาเยอะแล้วครับ ตอนนี้ต้องภวนาแล้วสัมผัสอารมด้วยตนเอง ศิษพี่จะเป็นกำลังใจให้
555