เรื่องเด่น สืบสานปณิธาน "ณรงค์ เพ็งลาภ" ผ่าน ۩۞۩ สโมสรบุญ ☀★☀ เพื่อพระพุทธศาสนา

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย Nar, 8 ธันวาคม 2009.

  1. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    หากคุณ ดิเรก หมายถึงพระสุปฏิปัณโณ ที่เห็นข้างบนนี้ ผมให้ร่วมบุญแบบแบ่งปันของดีกันครับ
    ผมบูชามาไว้หลายปีแล้ว ปัจจุบันน่าจะหมดจากวัดไปแล้วก็เป็นได้ เพราะจำนวนสร้างไม่มาก
    และมีผู้มาเหมาไปครั้งละหลายสิบองค์ แม้แต่คนต่างชาติก็มาบูชาไปครับหากผมจำไม่ผิด
    แบ่งปัน ทำบุญร่วมกัน กฐินวัดชนบทใกล้ชายแดน ร่วมบุญ 300 บาท/องค์ ครับ
     
  2. direkk

    direkk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +3,372
    ผมขอร่วมบุญ 4 องค์นะครับ โอนแล้วจะแจ้งให้ทราบครับพี่

    ขออนุโมทนาบุญกับพี่ด้วยครับ สาธุ
     
  3. direkk

    direkk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +3,372
    เมื่อสักครู่ได้โอนเงินร่วมบุญกฐินแล้วครับ 1,200 บาท + ค่าจัดส่ง 50 บาท เป็น 1,250 บาท ตามเอกสารแนบด้านบนครับ

    รบกวนพี่จัดส่งมาที่

    ดิเรก ขจรศักดิ์สุเมธ
    180/393 ชั้น 18 อาคารสุขสวัสดิ์โมเดิร์นคอนโดวิวย์
    ถ.สุขสวัสดิ์ เขตราษฏร์บูรณะ กทม 10140

    ขออนุโมทนาบุญกับพี่ณรงค์ และทุกๆท่านที่ร่วมบุญกฐินในครั้งนี้ด้วยครับ สาธุ
     
  4. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    กราบโมทนาสาธุในมหากุศลจิตกับคุณ ดิเรก ขจรศักดิ์สุเมธ ด้วยอย่างยิ่งครับ
    รวดเร็วทันทีทันควัน ตุลิฏะ ตุลิฏัง สีฆะ สีฆัง ขึ้นชื่อว่า “ความดี” ต้องรีบทำเร็ว ๆ ไว ๆ อย่าให้เนิ่นช้า
    วันนี้ได้จัดส่งไปให้ทันทีเช่นกันครับ ทั้ง 4 องค์ เหมาหมดทีเดียว สาธุด้วยครับ
    รับของดีที่อาจหาได้ยาก ในช่วงเวลานี้ ขอยินดีด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 พฤษภาคม 2011
  5. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    แม้เรื่องมันยาวแต่ก็น่าอ่านนะครับ

    ท่านเมณฑกเศรษฐี
    โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    <O:p</O:p

    ในสมัยเมื่อองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ยังทรงพระชนม์อยู่ สมัยนั้นปรากฎว่า สาวกขององค์สมเด็าจพระบรมครูตระกูลหนึ่งที่เราทราบกันว่า ตระกูลของนางวิสาขา แต่ความจริงนางวิสาขานี้เป็นหลาน ต้นตระกูลจริง ๆ ก็คือ ท่านเมณฑกเศรษฐี ผู้เป็นปู่ และดูเหมือนว่าในตระกูลนี้ ท่านกล่าวว่ามีคนที่มีบุญจริง ๆ อยู่ 5 คน ด้วยกัน คือ<O:p</O:p
    1. ท่านเมณฑกเศรษฐี<O:p</O:p
    2. ภรรยาท่านเมณฑกเศรษฐี
    <O:p</O:p3. พ่อของนางวิสาขา<O:p</O:p
    4. นางวิสาขา <O:p</O:p
    5. นายบุญ ผู้เป็นทาสอยู่เดิม<O:p</O:p
    นายบุญเป็นทาสอยู่เดิมนี่ ความจริงเธอเป็นทาสในตระกูลนี้มานาน แต่ทว่าในสมัยที่องค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงอุบัติขึ้นมาแล้วในโลก ปรากฎว่าวันหนึ่ง นายบุญเธอไปไถนา นายใช้ไปไถนา ตอนสายภรรยาก็เอาข้าวไปส่งให้ ขณะที่จะกินข้าวนั่นเอง ก็ปรากฎว่า พระมหากัสสปออกจากนิโรธสมาบัติ เธอก็คิดว่า<O:p</O:p
    การที่เราจะกินข้าวเข้าไป ความจริงมันก็หิว เหนื่อยก็เหนื่อย แต่คนอย่างเราเป็นทาสเขา โอกาสที่จะทำบุญไม่มี วันนี้ปรากฎว่าสาวกขององค์สมเด็จพระชินสีห์มาโปรด (ไม่รู้ว่าท่านออกจากสมาบัติหรือเปล่า ออกจากนิโรธสมาบัติหรือเปล่านี่แกไม่ทราบ) ก็นึกในใจว่า<O:p</O:p
    ชีวิตเราโอกาสที่จะทำบุญมันไม่มี แต่วันนี้เขาเอาข้าวมาส่งให้กับเรา ข้าวนี้เป็นสิทธิ์ของเรา เราจะกินเข้าไปมันก็อิ่ม ถ้าเราจะไม่กิน เราจะทำบุญเสียวันนี้มันก็คงจะยังไม่ตาย จะหิวหน่อยก็ไม่เป็นไร ขอให้ภรรยาไปหุงมาใหม่ จึงได้ตัดสินใจถวายข้าวกับพระมหากัสสป ในเวลาที่พระออกจากนิโรธสมาบัติ ย่อมมีผลปัจจัยไปในปัจจุบัน<O:p</O:p
    ฉะนั้น เมื่อแกถวายข้าวกับพระมหากัสสปเสร็จ เวลานั้นมันก็สาย หิวก็หิว พระมหากัสสปรับบาตรแล้วก็ให้พรว่า เอวํ โหตุ แกตั้งมโนปณิธานปรารถนาว่า “ธรรมใดที่พระผู้เป็นเจ้าเห็นแล้ว ขอให้เห็นธรรมนั้นด้วยเถิด” พระมหากัสสปก็ให้พรว่า เอวํ โหตุ ซึ่งแปลว่า เจ้าปรารถนาสิ่งใดขอให้ได้สิ่งนั้นสมปรารถนา แล้วท่านก็หลีกไป<O:p</O:p
    ภรรยาเห็นเขาไม่ได้กินข้าว จึงได้บอกว่า ประเดี๋ยวฉันจะกลับไปนำข้าวมาจากบ้านมาใหม่ เมื่อเธอกลับเข้าไปในบ้านมหาเศรษฐีเป็นเวลาที่คนอื่นเขากินหมด ข้าวมันก็หมด ต้องหุงใหม่ นายบุญก็นอนคอยข้าว ความเหนื่อยก็เหนื่อย หิวก็หิว สายก็สาย ก็เลยม่อยหลับไป<O:p</O:p
    เวลาตื่นขึ้นมา ต่อเมื่อภรรยานำข้าวมาให้ในตอนนั้นเอง เมื่อลืมตาขึ้นมามองกราดไปดูขี้ไถที่ไถไว้แล้ว นาตั้งหลายสิบไร่ ปรากฎว่าเห็นก้อนดินทั้งหมดที่ไถขึ้นมาแล้ว มันกลายเป็นทองคำไปทั้งหมด จึงได้ไปถามภรรยาว่า “เธอ ไอ้ขี้ไถที่ฉันไถเมื่อกี้ เมื่อตอนเช้าหรือหลายวันมาแล้ว สีมันเหลืองผิดปกติ มันเป็นทองหรืออะไรกันแน่” สองตายายจึงเข้าไปดู เนื้อแท้จริง ๆ มันเป็นทองจริง ๆ เป็นอันว่าทั้งสองคนสามีและภรรยา หรือชายกับหญิง เลยไม่ต้องกินข้าว อีตอนนี้เกิดอิ่มเพราะทองคำ ก็กลับไปบอกท่านมหาเศรษฐีว่า ทรัพย์ใหญ่ของท่านเกิดขึ้นแล้ว คือที่นาที่ข้าพเจ้าไปไถได้กลายเป็นทองคำไปแล้ว ท่านมหาเศรษฐีว่า “ไอ้ที่นาของฉันมันเป็นดิน (นี่พ่อของนางวิสาขานะ ว่าที่นาของฉันมันเป็นดิน) ถ้ามันเป็นทองคำก็เป็นเรื่องของเธอ ไม่ใช่เรื่องของฉัน มันต้องเป็นบุญของเธอ” ก็พากันไปดูนา เห็นขี้ไถทั้งหมดกลายเป็นทองคำเต็มนาไปหมด<O:p</O:p
    ท่านเศรษฐีจึงเข้าไปเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศล บรมกษัตริย์ กราบทูลว่า “เวลานี้ ทรัพย์ของหลวงเกิดขึ้นแล้วพระเจ้าข้า” พระราชาจึงถามว่า “ทรัพย์ของหลวงคืออะไร” ท่านเมณฑกเศรษฐีจึงกราบทูลว่า “ทรัพย์ของหลวงคือไอ้ขี้ไถในนาของข้าพระพุทธเจ้า มันกลายเป็นทอง” พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงถามว่า “ต้องการภาชนะเท่าไรจึงจะพอ” ท่านมหาเศรษฐีจึงกราบทูลว่า “ต้องใช้เกวียนประมาณ 500 เล่ม เพราะทองคำมันหนัก”<O:p</O:p
    พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงส่งเกวียน 500 เล่ม ไปรับทอง ขนทองทั้งหมดใส่เกวียนได้ 5000 เล่ม แล้วก็ให้มาเทที่พระลานหลวง จึงได้ป่าวประกาศว่า “ใครบ้านไหนมีทองคำขนาดนี้บ้าง” ก็เป็นอันว่ามหาเศรษฐีต่างมาประชุมกัน ก็ไม่มีใครมีทองคำเหมือนท่าน จึงได้บอกว่า “ถ้าอย่างนั้นทองคำนี้จะต้องเป็นของเจ้าของเดิม คือของท่านมหาเศรษฐี” ท่านมหาเศรษฐีก็บอก่วา “ไม่ใช่ของข้าพระพุทธเจ้า เป็นของนายบุญทาสาที่เป็นทาส”<O:p</O:p
    พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงประกาศแต่งตั้งให้นายบุญเป็นมหาเศรษฐี มอบฉัตร 3 ชั้น ให้ ให้บ้านสวย 100 หลัง ให้บ้านสำหรับเก็บส่วย 100 หมู่บ้าน (ไม่ใช่ 100 หลัง) และข้าทาสหญิงชายอย่างละ 100, ช้าง 100, ม้า 100, โค 100, กระบือ 100 เป็นต้น เป็นอันว่า นายบุญ จากความเป็นทาสกลายเป็นมหาเศรษฐี แต่เธอก็คิดว่าความเป็นมหาเศรษฐีของเราได้อาศัยบิดาของนางวิสาขาเป็นเหตุ ฉะนั้น ท่านผู้นี้จึงไม่ยอมย้ายไปจากบ้านของนางวิสาขา ขอย้อนกล่าวไปว่า ตระกูลนี้เป็นตระกูลที่มีความร่ำรวยมากที่สุด ไม่มีตระกูลไหนจะรวยเท่า เรื่องคนมีบุญ 5 คน เข้ามาร่วมกัน ขณะที่นางวิสาขาแต่งงาน พ่อให้ของไปใช้ชั่วคราว คือ<O:p</O:p
    1. ทองคำ 500 เล่มเกวียน<O:p</O:p
    2. เงิน 500 เล่มเกวียน<O:p</O:p
    3. ภาชนะใส่ของกินของใช้เป็นทองคำ 500 เล่มเกวียน<O:p</O:p
    4. เป็นนาค 500 เล่มเกวียน<O:p</O:p
    5. เป็นเงิน 500 เล่มเกวียน<O:p</O:p
    6. เป็นทองแดง 500 เล่มเกวียน เป็นต้น<O:p</O:p
    แกบอกว่า ถ้าของเหล่านี้ไม่พอ ลูกเอาไปใช้ชั่วคราวก่อนนะลูกนะ เอาไปเล็กน้อย ถ้าไม่พอมาเอาที่บ้านได้ ต้องการเท่าไรได้เลย นี่ของชั่วคราวนะ แต่เนื้อแท้จริง ๆ ต้นตระกูลนี้ก็คือ ท่านเมณฑกเศรษฐี<O:p</O:p
    ต้องย้อนถอยหลังไปสมัยพระพุทธกัสสปทศพล ตอนนั้นสมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้วในโลก แต่ว่ายังมีตระกูล ๆ หนึ่ง ความจริงตระกูลนี้ต้องถอยหลังอีกจุดจึงจะถูกต้อง สำหรับตระกูลนี้เกิดขึ้นมาในภายหลัง ในสมัยนั้นเขาบอกว่าเป็นคนร่ำรวย ถอยหลังจากชาตินั้นไปอีกชาติหนึ่ง ตระกูลนี้เป็นคนยากจนมาก ปรากฎว่ามีพระพุทธศาสนา แต่ท่านไม่ได้บอกว่าพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าอะไร เวลานั้นเธอจนแสนจน แต่ทว่าเป็นคนที่มีจิตศรัทธา<O:p</O:p
    วันหนึ่ง ปรากฎว่าเขาสร้างส้วมถวายพระ ตามนี้เธอก็ไม่มีปัจจัยจะเข้าไปทำบุญกับเขา มีทองคำบาง ๆ ที่เราเรียกกันว่าทองคำเปลว เขาว่าบางเท่าปีกลิ้น มีอยู่ชิ้นหนึ่ง เธอถามว่า “จะทำบุญสร้างส้วมได้ไหม”<O:p</O:p
    ชาวบ้านเขาก็บอกว่า “เขาทำกันด้วยแรงงาน เธอทำไมไม่มาช่วย” เธอก็บอกว่า “ฉันเป็นคนจน ออกไปป่าแต่เช้ากลับมามันก็เย็น ทำด้วยแรงงานไม่มีโอกาส”<O:p</O:p
    เวลานั้นเขาขุดหลุมสำหรับถ่ายอุจจาระ ชาวบ้านก็บอกว่า “ไอ้ทองคำนี้จะไปซื้อไปหาอะไรมันก็ไม่เหมาะสม เธอจะทำยังไงก็ได้” เธอจึงได้วางไว้ก้นหลุม ยกให้เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ก็เป็นอันว่าหลังจากนั้น ตายจากคราวนั้นมา อาศัยเจตนาที่เป็นกุศล ก็ไปเกิดเป็นเทวดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก พอสมัยพระพุทธกัสสปเธอก็มาเกิดใหม่<O:p</O:p
    ตอนนั้นก็เป็นคหบดี ไม่ใช่อนุเศรษฐี มีฐานะเป็นคหบดี ก็บังเอิญเป็นการบังเอิญอย่างยิ่ง อาศัยความแห้งแล้งปรากฎขึ้นกับชาติ ข้าวยาก หมากแพง ฝนมันแล้งไม่ตกต้องตามฤดูกาล สำหรับท่านคหบดีคนนี้ ในสมัยก่อนหน้านั้นท่านทำข้าวได้ดีมาก เอาข้าวมาขนใส่ยุ้ง ยุ้งมันก็เต็ม ไม่มีที่เก็บ นี่เพราะอาศัยทองนิดเดียว ตายไปเป็นเทวดา เกิดมาเป็นคหบดี ทำข้าวมันก็แสนดีทุกปีไม่เคยเสีย ปีนั้นก็ดีเป็นพิเศษ ใส่ยุ้งไม่พอเก็บ<O:p</O:p
    ทีนี้ก็เอาใส่พ้อมใส่ที่ต่าง ๆ มันก็ไม่พอเก็บ ข้าวมันมีมากมีเยอะ ท่านคหบดีเมื่อคนใช้มาบอกว่า ที่เก็บมันไม่พอขอรับ มีเท่าไรมันก็ไม่พอ ท่านก็บอกว่า “ไอ้ส่วนที่เหลือเอายังงี้ก็แล้วกันนะ ไปขุดดินเหนียวมา เอาข้าวที่เหลือขยำกับดินเหนียวเข้า ทานอกยุ้ง ทาในยุ้ง ทาฝาบ้าน ทาฝาเรือน ทาให้มันหมดให้ได้” เป็นวิธีเก็บข้าวประเภทหนึ่ง ทำให้ข้าวไม่เสีย ผลที่สุดข้าวก็หมด<O:p</O:p
    เมื่อระยปลายปีต่อมา ปรากฎวาฝนแล้งจัด ชาวบ้านไม่มีข้าวจะกินกัน ไอ้ข้าวเก่ามันหมดไป ข้าวใหม่มันก็ไม่ได้ ทำยังไง ท่านคหบดีผู้นี้ก็เป็นคนใจบุญ จึงได้นำข้าวในพ้อมในกระบุงในกระสอบต่าง ๆ ที่มีอยู่ภายนอกฉาง แบ่งปันส่วนให้แก่คนเอาไปกิน เมื่อชาวบ้านกินข้าวหมดแล้วไม่มีใหม่ ก็มาขอใหม่ ท่านก็แบ่งข้าวในฉางให้ไป ต่อมาข้าวในฉางมันก็ใกล้จะหมดนี่ ชาวบ้านก็บอกว่า มันใกล้จะหมด ผมก็ต้องขอนะขอรับ ท่านก็เลยให้ ให้ไปจนหมดยุ้งหมดฉาง ก็กล่าวว่า<O:p</O:p
    “ต่อไปนี้ไม่มีจะให้อีกแล้วนะ ข้าวชุดนี้หมด แกตายฉันก็ตาย” ก็เป็นการพอดีที่ข้าวเอาไปชุดหลังนี้ ชาวบ้านได้ข้าวใหม่พอดี แต่ว่าอีตอนที่เขาเอาข้าวไปหมดแล้วนี่ ท่านคหบดีทำยังไง ข้าวในบ้านจะกินมันไม่มี จึงได้บอกให้คนใช้ไปเคาะเอาที่ฉาบทาฝายุ้งฉาง ฝาในที่ต่าง ๆ เข้าไว้ เอาลงมาขยำกับน้ำ ดินมันก็ละลายไปหมด เหลือแต่เม็ดข้าว ก็เอาข้าวมาซ้อมมาตำพอประทังชีวิตไป ได้รับข้าวใหม่พอดี<O:p</O:p
    เป็นอันว่าอันดับแรก ผลของการบำเพ็ญกุศลแค่ทองคำไปฝังไว้ก้นส้วมพระ มาชาตินี้ท่านได้เป็นคหบดี เมื่อตายจากชาตินี้ไปแล้ว ด้วยอาศัยจิตที่เป็นกุศล ท่านก็ไปเกิดเป็นเทวดาใหม่ กลับลงมาจากความเป็นเทวดาคราวนี้รวยใหญ่ ไอ้บ้านเมืองที่เขามีความเจริญแล้วไม่ไปเกิด เป็นคนรวยคนมีบุญมาก ดันไปเกิดเป็นลูกชาวป่าในป่าลึกที่มันจนแสนจน<O:p</O:p
    อานิสงส์ผลที่เอาทองไปวางก้นส้วมพระ กับให้ข้าวแม้แต่ตัวก็จะไม่มีกิน อานิสงส์นี้ ลงจากเทวดาไปเกิดเป็นลูกคนจนแสนจน เป็นชาวป่า ซึ่งหาเช้าไม่พอจะกินค่ำ แล้วปรากฎเป็นกรณีพิเศษ พอเวลาที่เด็กเข้าสู่ปฏิสนธิในครรภ์มารดาเป็นวันแรก ในวันแรกขณะที่เด็กจะเข้าสู่ครรภ์มารดา ตอนกลางคืนมารดาก็ฝัน<O:p</O:p
    ฝันว่ามีเด็กน้อยลอยลงมาจากอากาศ มีรูปร่างหน้าตาสวยสดงดงาม เครื่องประดับแพรวพราวไปทั้งตัว เข้ามาขออาศัยอยู่ด้วย แกก็ตื่นขึ้นมา ตื่นขึ้นมาก็เป็นการแสดงสัญญลักษณ์ว่า เด็กคนนี้มาขอเกิดเข้าไปอยู่ในครรภ์ม่ ไม่รู้เข้าไปเมื่อไร แต่ว่าสิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็คือ<O:p</O:p
    ตอนเช้า ท่านแม่ตื่นขึ้นมาก็เข้าครัวหุงข้าว เวลาที่จะเข้าครัวนี่ คนจนนี่เป็นเรื่องธรรมดา ๆ ก็ลงไปเก็บฟืน ชาวป่าชาวเขาไม่ค่อยจะสะสมฟืนกันนัก เพราะฟืนมันมาก ต้องการเท่าไรมันก็ได้ ประเภทไหนมันก็ได้ เพราะอยู่ในป่าลึก บ้านก็เป็นกระท่อมไม่คุ้มฝน ลงไปจะเก็บฟืน<O:p</O:p
    ไอ้รอบ ๆ บ้านก็เป็นป่าไผ่ มองลงไปในป่าแต่เช้าตรู่ เห็นหน่อไม้มันขึ้นสะพรั่งผิดปกติ ไอ้วันก่อนมันก็มีหน่อ แต่หน่อมันไม่ดกขนาดนี้ แต่วันนั้นปรากฎไอ้ไผ่รอบบ้านมันเป็นดงใหญ่ หน่อมันขึ้นสะพรั่งท่วมศีรษะ หน่อสูงมาก แต่สีของหน่อมันเป็นสีเหลือง แปลกใจจึงเข้าไปดู ปรากฎว่า ไอ้หน่อไม้ทั้งหมดมันกลายเป็นทองคำ จึงเข้ามาบอกพ่อบ้าน พ่อบ้านก็เข้ามาดู<O:p</O:p
    วันนั้น ทั้งสองตายายเลยไม่ต้องกินข้าว เห็นหน่อไม้กลายเป็นทองคำนับไม่ได้ จึงเข้าไปเฝ้าพระราชา กราบทูลให้ทรงทราบว่า ทรัพย์สมบัติอันเป็นของหลวงได้เกิดขึ้นแล้ว พระราชาก็ทำตามเดิมว่าเกิดในบ้านของเธอ ก็ต้องเป็นของของเธอ มีเหตุอัศจรรย์ได้หน่อไม้ทองคำ ถ้าเจ้าของเขาจะต้องการเท่าไรหักมันก็ง่าย เด็ดมันก็ง่าย แต่ว่าคนอื่นต้องการเท่าไร เอาช้างไปลากมันยังไม่ขึ้นเลย เพราะอาศัยบุญของเด็กที่อยู่ในครรภ์<O:p</O:p
    ต่อมาเมื่อเด็กคนนั้นคลอดออกมาแล้ว ก็ปรากฎว่ามีแพะทองคำเกิดขึ้นรอบๆ บ้าน หลายสิบตัว เป็นแพะทองคำน่ะ มันเดินไม่ได้ แต่ว่าในปากของแพะทองคำมีสายไหมห้อยออกมา ตัวเป็นทองคำทั้งหมด ท่านพ่อบ้านแม่บ้านก็สงสัย ไปดึงเชือกเล่น เงินมันก็ไหลพรวดออกมา แกก็ลอง ๆ เล่น ๆ ต้องการทองคำรึ จิตนึกต้องการทองคำ ไอ้ทองคำก็ไหลออกมา ต้องการเพชรนิลจินดาของมีค่าอย่างแก้วมณี เป็นต้น ดึงเอา ต้องการอะไรดึงอย่างนั้นก็ไหล ต้องการผ้าผ่อนท่อนสไบดึงออกมา ผ้ามันก็ไหล<O:p</O:p
    รวมความว่า ตัวแพะเป็นทองคำ สายไหมเป็นสายสารพัดนึก นึกอะไรได้อย่างนั้นสมความปรารถนา ก็ปรากฎว่าในตระกูลนี้เป็นมหาเศรษฐีใหญ่ มันก็ใหญ่จริง ๆ ต้องการเท่าไรก็ได้ ต่อมาเมื่อลูกโตขึ้นมา ลูกก็คงจะดึง แล้วต่อมาภายหลังหลานโต หลานก็คงจะดึง คนอดคนยากจนที่ไหปรากฎเข้ามา ต้องการผ้า เธอก็ดึงสายในปากแพะเอาผ้ามาให้ ต้องการเงินให้เงิน ต้องการทองให้ทอง เป็นอันว่ายาจกสมัยนั้นกลายเป็นเศรษฐี และก็เป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญใจกุศล ทั้งนี้เพราะว่าสองคนสามีภรรยาคงจะสร้างบำเพ็ญกุศลและบารมีร่วมกันกับ ท่านเมณฑกเศรษฐี ผู้เป็นลูก<O:p</O:p
    ต่อมา ท่านเมษฑกเศรษฐีแต่งงานแล้วก็มีลูก ซึ่งเป็นบิดาของนางวิสาขา บิดาของนางวิสาขาก็เป็นคนมีบุญมาก เป็นเศรษฐีเดิม มาผสมกันเข้ากับนายบุญผู้เป็นทาสก็เป็นเศรษฐี นางวิสาขาก็บำเพ็ญบารมีในทานกองการกุศลมาก รวมความว่าตระกูลนี้เป็นคนที่ร่ำรวยนับไม่ได้<O:p</O:p
    ในสมัยนั้น คนที่จะเป็นอนุเศรษฐี ต้องมีทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 40 โกฏิ เขาตั้งให้เป็นอนุเศรษฐี เขาตั้งกันนะ ถ้ามีทรัพย์ตั้งแต่ 40 โกฏิขึ้นไป ไม่ถึง 80 โกฏิ ให้เป็นอนุเศรษฐี ต่ำกว่า 40 โกฏิ เป็นคหบดี ตั้งแต่ 40 โกฏิขึ้นไปไม่ถึง 80 โกฏิ แค่อนุเศรษฐี ถ้า 80 โกฏิขึ้นไปก็เป็นมหาเศรษฐี<O:p</O:p
    แต่ว่าตระกูลนี้มีทรัพย์นับไม่ได้ จะนับเป็นโกฏิก็นับไม่ไหว เขาจะนับของแกยังไง ถ้าแกไม่มีแกก็ดึงปากแพะ และการให้ทานของตระกูลนี้ไม่มีจำกัด ใครอดอยากเท่าไรไปแบ่งกัน<O:p</O:p
    รวมความว่าท่านเมณฑกเศรษฐี ต้นตระกูลของนางวิสาขามหาอุบาสิกา นี่แกร่ำรวยขึ้นมาและมีความดีได้ เพราะอาศัยจากการบำเพ็ญกุศลจากความเป็นคนจน คือมีทองคำเปลวอยู่แค่แผ่นเดียว เอาไปลองก้นหลุมของพระที่จะถ่าย เกิดมาอีกชาติอานิสงส์นี้บันดาลให้ท่านเป็นคหบดี กำลังใจที่บำเพ็ญกุศลบุญราสีของท่านก็ไม่ถอย ให้ทานคนกระทั่งหมดตัว จนต้องเอาข้าวที่ผสมกับดินมาล้าง ล้างดินเอาข้าวมาซ้อมกันกัน ภายหลังในชาตินี้นั้น ปรากฎว่าท่านเป็นมหาเศรษฐีใหญ่ แล้วทุกคนไปนิพพานหมด<O:p</O:p
    นี่แหละบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ในฐานะที่ท่านทั้งหลายเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระบรมสุคต วันนี้ท่านมาทำบุญกัน มันเป็นแรม 8 ค่ำของเดือน 11 แต่ว่าทุกคนที่มานี่ก็มาคิดว่า มาด้วยความยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายก็เหมือนท่านเมณฑกเศรษฐีชาติที่สอง หรือว่าชาติที่หนึ่ง ทำด้วยแผ่นทองคำเปลว ชาติที่สองแจกเสียจนตัวจะไม่มีกิน<O:p</O:p
    เวลานี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานในชาตินี้ ถ้าสิ้นชีวิตตินทรีย์ ด้วยกำลังความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัท อย่างน้อยที่สุดก็เป็นเหมือนกับท่านเมณฑกเศรษฐี<O:p</O:p
    ตายจากคนไปเป็นเทวดา และถ้าจำจะต้องลงมา ถ้ายังจะไม่ไปนิพพาน ทรัพย์สมบัติทั้งหลายเหล่านั้น ก็จะปรากฎว่าเป็นคนร่ำรวยคล้ายท่านเมณฑกเศรษฐี แต่ว่า ชาตินั้น การบำเพ็ญกุศลราศี ไม่ห่วงต่อชีวิตของตัวประเภทนี้ องค์สมเด็จพระมหามุนีกล่าวว่า เป็นปรมัตถทาน และกล่าวว่าเป็นปรมัตถบารมี ถ้าจิตใจของบรรดาท่านทั้งหลายเป็นปรมัตถบารมี ก็ดูตระกูลของท่านเมณฑกเศรษฐี เกิดมาในชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ทุกคนไปนิพพานหมด ฉะนั้น บรรดาสาวกขององค์สมเด็จพระบรมสุคตที่ตั้งใจบำเพ็ญกุศลขนาดใหญ่ในคราวนี้ ก็คงจะมีความดีเช่นเดียวกับท่านเมณฑกเศรษฐี ขอแต่เพียงว่า ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เมื่อตั้งใจทำความดี เมื่อกลับไปถึงบ้านนั่งอยู่ ยืนอยู่ เดินอยู่ ทำงานอยู่ จงนึกถึงความดีทั้งหลายเหล่านี้ไว้เพื่อเป็นอนุสสติ ที่จะทำให้ท่านทั้งหลายไม่ถอยหลังลงอบายภูมิ คือ<O:p</O:p
    เราทำบุญด้วยดีเข้ามาในวัดเข้าถึงพระรัตนตรัย และยังมีความเคารพในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม ในพระอริยสงฆ์ ใจก็นึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เราชอบใจไว้ แล้วใจก็คิดว่าพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระจอมไตร เราเคยฟัง เราเคารพ และบรรดาพระอริยสงฆ์สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีคุณใหญ่ จรรโลงพระพุทธศาสนาไว้ เราก็เคารพ และก็ประการต่อไป<O:p</O:p
    ศีลที่เคยรักษาสมาทานไว้ เราเคยสมาทานแล้ว เราคารพในศีล บางวันจะบกพร่องบ้างก็เป็นของธรรมดา แต่ใจของเรานี่เคารพในศีลเข้าไว้ ประการต่อไป ทานใดที่เคยถวายในศาสนาขององค์สมเด็จพระจอบไตร ด้วยความเหนื่อยยากด้วยความลำบาก และข้าวยากหมากแพง ฝนไม่แล้ง มันตกมาก มันไม่เป็นตามฤดูกาล ทำให้จิตใจของเรานี้นั้นขาดแคลนจากวัตถุที่จะพึงเลี้ยงตน<O:p</O:p
    แต่ก็ยังมีความเลื่อมในในองค์สมเด็จพระทศพล หามาเท่าที่มันจะพึงหามาได้ ใจนึกถึงเรื่องนี้ไว้ ถ้ากำลังใจของบรรพาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย นึกถึงเรื่องนี้ไว้จะเป็นอนุสสติ คือนึกถึงพระพุทธเจ้าก็ดี พระธรรมก็ดี พระอริยสงฆ์ก็ดี นึกถึงศีลที่เคยรักษาก็ดี นึกถึงทานที่ในการให้ก็ดี และนึกไม่ได้ทั้งหมด นึกได้อย่างใดอย่างหนึ่ง อานิสงส์คุณบุญราศีที่ท่านทำไว้ นึกไว้อย่างน้อยที่สุดกันนรกได้<O:p</O:p
    ตายจากความเป็นคนเมื่อไร เป็นเทวดาเมื่อนั้น แล้วอาศัยที่บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน มีบารมีครบถ้วนบริบูรณ์ มีกำลังใจสูง ถ้าพบพระพุทธเจ้าหรือพบพระอรหันต์เมื่อไร สดับพระธรรมเทศนานี้จบเดียวก็ได้เป็นพระอริยเจ้า หลังจากนั้นก็ได้บรรลุพระอรหันต์ไปพระนิพพาน <O:p</O:p
    อาตมาภาพในฐานะพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตน และพระสังฆรัตนะ ทั้ง 3 ประการ ขอจงอภิบาลบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายทุกท่าน ให้มีแต่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผล และจงเจริญไปด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง 4 ประการ มีอายุ วรรณะ สุขะ และปฏิภาณ หากทุกท่านมีความประสงค์ใด ก็ขอให้ได้สิ่งนั้นสมความปรารถนาจงทุกประการ<O:p</O:p
    อาตมาภาพรับประทานวิสัชนามาใน ปุญญาภิกถา ก็ขอยุติพระสัทธรรมเทศนาลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้<O:p</O:p
    เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ***************<O:p</O:p
     
  6. ดอกแก้ว

    ดอกแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,345
    ค่าพลัง:
    +7,482
    ได้รับซองกฐินเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ ที่ให้โอกาสได้ร่วมบุญกฐินในครั้งแรกของสำนักสงฆ์ถ้ำเขาเลื่อมค่ะ (smile)
     
  7. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    38 อานิสงส์ถวายสัพพทาน
    ...... ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทานของสัปบุรุษเหล่านี้ ๘ อย่าง คือ ๑. ให้ของที่สะอาด
    ๒. ให้ของประณีต ๓. ให้ถูกกาล ๔. ให้ของที่สมควร ๕. เลือกให้ ๖. ให้เสมอ ๆ
    ๗. กำลังให้ยังจิตให้เลื่อมใส ๘. ครั้นให้แล้วปลื้มใจ สัปปุริสทาน ๘ อย่างนี้ประเสริฐยิ่งนักหนา
    ในกาลครั้งนั้น องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าก็สถิตสำราญอยู่ในป่าเชตวันอันเป็นอารามของนาย
    อนาถปิณฑิกมหาเศรษฐีอยู่ในที่ใกล้ ๆ นครสาวัตถี
    ในกาลครั้งนั้นมีพระยาองค์หนึ่ง ชื่อ มหานามะ ก็เอา ประธูปประทีปคันธรสของหอม
    แล้วพาหมู่บริวารทั้งหลายเข้าไปสู่ที่เฝ้าพระสัพพัญญูเจ้า แล้วก็นั่งในที่
    ควรแห่งหนึ่ง จึงทูลถามพระสัพพัญญูเจ้าว่า “ภนฺเต ภควา” ข้าแต่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าบุคคลผู้ใด
    เลื่อมใสศรัทธา มาก่อสร้างสัพพาทานหลาย ๆ ชนิด ก็จักมีอานิสงส์ดังรือพระเจ้าข้า “ภควา” อันว่าองค์

    ... สมเด็จพระศาสดาจารย์เจ้าจึงเทศนาว่า ดูกรมหาบพิตร นรชนหญิงชายทั้งหลายมีใจเลื่อมใสศรัทธา
    มาก่อสร้างสัพพาทานหลาย ๆ ชนิดเป็นต้นว่า
    สร้างพระพุทธรูปก็จักได้อานิสงส์ ๙ กัลป
    สร้างพระไตรปิฏกธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็ได้อานิสงส์ ๑๐ กัลป
    ผู้ใดได้บวชตนเป็นสามเณร ก็จักได้อานิสงส์ ๑๒ กัลป
    ผู้ไดได้บวชตนเป็นพระภิกษุ ก็จักได้ อานิสงส์ ๒๔ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระธาตุเจดีย์ก็จักได้อานิสงส์ ๘๐ กัลป
    ผู้ใดได้ปลูกไม้ศรีมหาโพธิ์ ก็จักได้อานิสงส์ ๙ กัลป
    ผู้ใดให้โภชะนังยังข้าวน้ำ โภชนะอาหารให้เป็นทานแก่ภิกษุสามเณร ก็จักได้บริวารแสนหนึ่ง
    ผู้ใดได้สร้างเจดีย์ทรายก็จักได้อานิสงส์ ๖๐ กัลป
    ผู้ใดสร้างกุฏีให้เป็นทานก็จักได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดสร้างอุโบสถให้เป็น ทานก็จักได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดสร้างกฐินให้เป็นทานก็จักได้อานิสงส์ ๘๐ กัลป
    ผู้ใดสร้างอารามให้เป็นทานก็จักได้อานิสงส์ ๔๐กัลป
    ผู้ใดสร้างพัทธสีมาให้เป็นทานก็จักได้อานิสงส์ ๑๐๐ กัลป
    ผู้ใดได้บวชบุรุษผู้อื่นให้เป็นพระภิกษุก็จักได้อานิสงส์ ๘ กัลป
    บวชบุตรตนเองให้เป็นภิกษุ ก็จะได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ภรรยาบวชสามีของตนให้เป็นสามเณร ก็จักได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ภรรยาบวชสามีของตนให้เป็นพระภิกษุ ก็จักได้อานิสงส์ ๓๒ กัลป
    สามีบวชภรรยาให้เป็นภิกษุณี ก็จักได้อานิสงส์ ๖๔ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระเจดีย์ธาตุข้าวเปลือกให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ ๓๑ กัลป
    ผู้ใดสร้างพระเจดีย์ธาตุข้าวสารให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๔๒ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างพระเจดีย์ธาตุเหลือให้เป็นทาน ก็จักได้อานิสงส์ ๖๔ กัลป
    ผู้ใดสร้างรั้วล้อมอาราม ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดปัดกวาดขยะมูลฝอยถอนเสียจากเขตอารามได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดสร้างศาลาสะพานบ่อน้ำให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๓๐ กัลป
    ผู้ใดได้ถวายดอกไม้ธูปเทียนได้อานิสงส์ ๘ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างอัฏฐให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๓๖ กัลป
    ผู้ใดได้ถวายจีวรเถราภิเษก ได้อานิสงส์ ๓๒ กัลป
    ผู้ใดถวายผ้าป่าได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดให้ฝาผนังและเพดานเป็นทานได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดสร้างธงฝ้าย ธงผึ้ง ธงชัย ธงชาย ธงเหล็ก บูชาพระรัตนตรัย ได้อานิสงส์ ๖๔ กัลป
    ผู้ใดสร้างขันหมากเบ็งบูชาระรัตนตรัย ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดถวายซึ่งข้าวพันก้อนบูชาพระรัตนตรัยได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดถวายผ้าอาบน้ำฝน และผ้าจำนำพรรษา ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดสร้างปราสาทดอกผึ้งให้เป็นทาน ได้อานิสงส์ ๓ กัลป
    ผู้ใดสร้างต้นกัลปพฤกษ์ให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป์
    ผู้ใดสร้าง ฆ้อง กลอง แคน ซอ หอยสังข์ ปี่ แตร แตรวง ดนตรีให้เป็นทานได้อานิสงส์ ๖๐ กัลป
    ผู้ใดได้ถวายเสื่อสาดอาสนะได้อานิสงส์ ๔ กัลป
    ผู้ใดถวายเตียงเก้าอี้ฟูกเบาะให้เป็นทาน ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดได้ปลูกกุฏีกรรมให้พระภิกษุเข้าปริวาสกรรม และมานัตตกรรม ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างบั้งไฟจุดบูชาพระรัตนตรัย ได้อานิสงส์ ๔ กัลป ผู้ได้สร้างพัทธสีมาน้ำได้อานิสงส์ ๖๗ กัลป
    ผู้ใดได้สร้างธรรมาสน์ ได้อานิสงส์ ๓๒ กัลป ผู้ใดได้สร้างเวจกุฏี ได้อานิสงส์ ๔๐ กัลป
    ผู้ใดได้เผาซากศพที่ตกเรี่ยราดอยู่ตามป่าตามดง ได้บริวารหมื่นหนึ่ง
    ผู้ใดได้เผาศพญาติมิตรสหาย ได้บริวาร ๓ หมื่น
    ผู้ใดได้เผาศพบิดามารดาได้บริวารหนึ่งแสน
    ผู้ใดได้เผาศพอุปัชฌาย์อาจารย์ ได้บริวารโกฏิหนึ่ง
    ผู้ใดได้ถวายโอ่งน้ำ และส้วมอาบน้ำ และครุตักน้ำก็ได้อานิสงส์ ๑๖ กัลป
    สัพพทานทั้งหลายชนิดเหล่านี้บุคคลผู้ใดมีศรัทธากล้าหาญอาจสละสมบัติออกสร้างวัตถุประสงค์
    ดังแสดงมานี้ ก็มีอานิสงส์ผลบุญพูนสุขในชั่วนี้และชั่วหน้า
    อานิสงส์ที่ได้ปัจจุบันนี้คือ จะไปมาทางใดก็มีคนนับหน้า
    ถือตาไม่ได้เป็นที่รังเกียจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง มีแต่ผู้อยากให้ร่วมกินร่วมอยู่ทั้งนั้น เราจะเข้าไปสู่
    สมาคมใด ๆ ก็ไม่ครั้นคร้ามสยดสยองเกรงกลัวต่ออำนาจผู้ใด การทำมาหากินก็สมความมุ่งมาตร
    ปรารถนาสมประสงค์ ครั้นสิ้นบุพพกรรมมนุษย์ในโลกนี้แล้ว ก็จะถือเอาตนเมื่ออุบัติขึ้นบนสวรรค์ชั้น
    ดาวดึงสายามาตุสิตาโดยลำดับ จนถึงพรหมโลก ครั้นจุติจากพรหมโลกลงมาเกิดในมนุษย์โลก ก็ไม่ได้
    ไปเกิดในหิเนกุลชั่วร้าย และจักได้ไปเกิดในตระกูลท้าวพระยามหากษัตริย์ หรือตระกูลพราหมณ์ผู้มั่ง
    ครั่งมั่งมีเศรษฐีกฎุมพีแล้วก็จักได้ทัวระวัดไปมาบารมีแก่กล้า ก็จะได้บ่ายหน้าเข้าสู่เมืองแก้วนิรพาน พอ
    จบธรรมเทศนาแห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าลง สมเด็จพระเจ้ามหานามะ ก็ได้ตั้งอยู่ในไตรสรณคมณ์
    สามส่วนบริษัททั้งหลาย ก็ได้ถึงโสดาสกิทาคา อนาคา อรหันต์
     
  8. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    อนุโมทนาบุญ ในความเมตตาเเละจิตที่เป็นบุญกุศล ของคุณโยม ณรงค์ เพ็งลาภ ที่อุทิศเพื่อพุทธศาสนาโดยเเท้ ขออนุโมทนาสาธุ
     
  9. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ
    ที่พึ่งอันประเสริฐสูงสุดของสัตว์โลกไม่มีอะไรเหนือไปกว่า พระรัตนะตรัย
    การทำความดีในขอบเขตพระพุทธพระศาสนา มีอานิสงส์ยิ่งใหญ่
    ร่วมด้วยช่วยกันไปแม้เพียงเล็กน้อย หากเรามีพลังศรัทธาที่เต็มเปี่ยมพร้อมด้วยปัญญา บุญของเราก็จะเต็มบริบูรณ์ได้เช่นกัน
    ช่วยกันไปเนาะ ตามกำลังที่มี สั่งสมบุญกุศลไว้เรามีโอกาสแล้วต้องรีบทำ
    อย่าไปรอวันนั้น วันนี้ เดี๋ยวจะไม่มีโอกาส

    หลังจากนี้ผมอาจจะไม่ได้เข้ามาดูแลกระทู้อีกหลายวัน ต้องเดินทางอีกแล้ว
    หากมีอะไรเร่งด่วน ติดต่อได้ที่เบอร์โทร 0852487360 นะครับ
     
  10. shompoo

    shompoo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +17
    สวัสดีค่ะคุณอาณรงค์ แวะมาส่งข่าวค่ะว่าได้รับพระที่คุณอาส่งมาให้แล้วนะคะ ได้วันที่ 10 ค่ะ แต่พอเปิดกล่องมาคุณอาก็เมตตามาก ส่งพระองค์อื่นมาให้ด้วย ขอบพระคุณ คุณอามาก ๆ เลยค่ะที่เมตตาส้มปู พระทุกองค์อยู่ในสภาพดีไม่แตกหักค่ะ โดยเฉพาะพระคำข้าว สวยมากค่ะ ตอนนี้ทุกองค์บูชาไว้บนหิ้งหมดแล้วค่ะ แต่พระที่เป็นองค์สีเงิน ยืนถือบาตรองค์เล็กนี่คือพระอะไรหรอคะคุณอา อีกเรื่องนึงที่หนูขอบูชาพระรอดองค์เล็กสีดำให้คุณแม่นะคะและอยากขอบูชาพระหางหมากด้วยค่ะ(พระหางหมากนี่หนูอยากบูชาไว้เองค่ะ) พระสุปฏิปันโนคุณอาไม่มีให้บูชาแล้วหรอคะ หนูอยากรบกวนคุณอาน่ะค่ะ เพราะคุณอาเดินทางไปทำบุญบ่อย ๆ คือหนูอยากบูชาสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี องค์สำหรับบูชาบนหิ้งพระน่ะค่ะ ถ้าคุณอามีโอกาสพบเห็นที่วัดไหน หนูรบกวนคุณอาช่วยบูชาให้หนูหน่อยได้ไหมคะ แล้วช่วยรบกวนส่งข่าวบอกด้วยก็ได้ค่ะ แล้วหนูจะโอนเงินค่าบูชาไปให้ค่ะ เดี่ยวหนู PM เมลของหนูไปให้คุณอานะคะ ถ้าไม่เป็นการรบกวน ช่วงนี้หนูยุ่งมากค่ะ สำหรับพระรอดองค์เล็กและพระหางหมากหนูจะโอนเงินร่วมทำบุญในครั้งนี้ช่วงประมาณสิ้นเดือนนะคะ ขอบคุณคุณอาอีกครั้งค่ะ และขออนุโมทนาบุญร่วมกับคุณอาในทุกบุญด้วยนะคะ สาธุ...
     
  11. KRITA

    KRITA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    2,060
    ค่าพลัง:
    +7,264
    สวัสดีครับพี่ณรงค์
    ยังมีให้บูชาอีกไหมครับ ถ้ามีผมขอบูชา 3 องค์นะครับ
    ขอโมทนากับบุญกุศลที่พี่ได้กระทำทุกประการครับ
     
  12. direkk

    direkk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +3,372
    มาแจ้งว่าได้รับพระแล้วครับ

    ขออนุโมทนาบุญกับพี่ณรงค์และทุกท่่านที่ร่วมบุญด้วยครับ สาธุ
     
  13. wirotp

    wirotp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +3,909
    คุณอาณรงค์ครับ ผมและครอบครัวขอร่วมบุญกับทางสโมสรอีก 2,000 บาทนะครับ โดยขอรับวัตถุมงคลตามข้างบน โอนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับ
     
  14. wirotp

    wirotp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +3,909
    วันนี้โอนปัจจัยร่วมบุญเพิ่มเติม 2,000 บาท แล้วนะครับ

    วิโรจน์ ผาณิตพจมาน
    75(64/42) ถ.เพชรเกษม54 บางหว้า ภาษีเจริญ กทม.10160
    ---------

    <TABLE id=Main border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=SectionR border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD>โอนเงินต่างธนาคาร

    </TD><TD align=right>
    • พิมพ์
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    รายการของท่านได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
    ท่านสามารถจัดพิมพ์เป็นเอกสารเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานอ้างอิงได้
    </TD></TR><TR><TD><TABLE class=MainTb border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR class=SubIntroR><TD class=BorderA colSpan=3>รายการเสร็จสมบูรณ์</TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL width=200>โอนจากบัญชี</TD><TD class=RightCL width=250 colSpan=2>aaa01 </TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>ชื่อบัญชีผู้โอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>นาย วิโรจน์ ผาณิตพจมาน </TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>ธนาคารผู้รับโอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>ธ.กสิกรไทย - KBANK </TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>เลขที่บัญชีผู้รับโอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>273-2-62070-5 </TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>ชื่อบัญชีผู้รับโอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>MR. NARONG PENGLAB FOR NG </TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>จำนวนเงิน (บาท)</TD><TD class=RightCL colSpan=2>2,000.00 </TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>ค่าธรรมเนียม </TD><TD class=RightCL colSpan=2>0.00</TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>กำหนดวันโอน</TD><TD class=RightCL colSpan=2>14/05/2011 04:12:44 PM </TD></TR><TR class=SwapR><TD class=LeftCL>หมายเลขอ้างอิงรายการ</TD><TD class=RightCL colSpan=2>tmbi8713586 </TD></TR><TR class=SwapBR><TD class=LeftCL>หมายเลขอ้างอิงระหว่างธนาคาร</TD><TD class=RightCL colSpan=2>305364298748 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ขอกราบโมทนาสาธุการในบุญกุศลของทุกท่านเป็นอย่างยิ่งครับ
    ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามมาเยี่ยมชมและร่วมบุญ
    ตอนนี้รายงานจากต่างจังหวัด น่าจะอีกหลายวันถึงจะได้กลับบ้าน
    เดี๋ยวจะมาเคลียกับทุกท่านนะครับ

    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มิถุนายน 2011
  16. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    พึ่งเดินทางมาถึงบ้าน บ่าย 3 โมงของวันที่ 21/5/2554
    ตอบหลาน ส้มปู ก่อน ก็แล้วกัน
    ก็ยินดีที่ได้รับพระที่ส่งไปให้แล้ว และไม่มีองค์ใดแตกหัก เป็นนุสติระลึกถึงคุณความดีที่เราได้ทำไว้กับพระศาสนา
    เป็นความดีที่พระพุทธเจ้าทรงให้ตามนึกถึง คือ จาคานุสติ เป็น 1 ในพระกรรมฐาน 40 กอง
    นอกจากนั้นเรายังได้ พุทธานุสติ ด้วย ก็พระที่เราบูชาไปนั่นแหละ
    พระที่เป็นองค์สีเงิน ยืนถือบาตรองค์เล็กนี่คือพระ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม อีกนัยยะหนึ่งก็คือ องค์หลวงพ่อเงินทองไหลมาเทมา ทางลาภและคล่องตัว
    ส่วนพระรอดจะเก็บไว้ให้นะ พร้อมพระหางหมาก จะจัดส่งไปให้ขอให้แจ้งที่อยู่มาว่าจะให้ส่งไปที่ไหน

    ส่วนเรื่องอยากบูชา สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ยินดีนะจะบูชาจากวัดมาให้
    หากมีโอกาสไปที่วัดระฆังอีกหรือวัดที่มีการจัดสร้าง จะบูชามาให้
    แต่ อา มีเรื่องเล่าและเรื่องราว เกี่ยวกับองค์หลวงปู่โตจะเล่าให้ฟัง อาจมีคนอื่นสนใจด้วยก็ได้ ขอเวลาอีกสักนิด
    เอาแค่นี้ก่อนสำหรับ หลานส้มปู ขอให้ได้ซึ่งความสำเร็จในสิ่งที่ดีๆที่พึงปรารถนาทุกประการ ขอให้คุณความดีและคุณพระศรีรัตนะตรัยคุ้มครอง
     
  17. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยมเยียนสโมสร งานบุญ และขออนุโมทนาในบุญกุศลเช่นกันครับ
    พระขององค์หลวงปู่ครูบาวงศ์ ผมมีเก็บไว้ไม่มาก มีรุ่นละไม่กี่องค์ เป็นความศรัทธาที่อยากเก็บสะสมไว้บ้าง
    จะมีแบ่งปันมาให้ผู้ที่ศรัทธา ในองค์หลวงปู่ท่าน บ้างเป็นบางรายและเป็นบางครั้งเท่านั้น
    หากคุณ KRITA ต้องการเก็บไว้บูชา ผมยินดีครับ เพียงแต่ว่าในครั้งนี้จะมีออกมาให้ร่วมบุญเพียง 4 องค์เท่านั้น
    ซึ่งใน 4 องค์นี้ ผมอยากให้ท่านอื่นๆได้มีโอกาสได้เก็บไว้บูชาบ้าง เป็นการแบ่งปันของดีให้กับหลายๆคน
    เดี๋ยวผมจะ ถ่ายภาพ 4 องค์ที่ว่านี้ลง อีกครั้งหนึ่ง แล้วให้เลือกได้คนละองค์เท่านั้นครับ
    ด้วยความเคารพทุกท่านครับ
     
  18. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ขอกราบอนุโมทนาสาธุการในกุศลเมตตาจิตของคุณ วิโรจน์และครอบครับเป็นอย่างยิ่งอีกครั้งครับ
    คราวที่แล้วรีบตอบโดยไม่ดูรายละเอียดต้องขอโทษด้วยครับ เนื่องจากมีเวลาจำกัด
    ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับกับการได้มาช่วยกองกฐินน้อยๆให้เติบใหญ่ขึ้นเป็นลำดับ
    ผมเองทุนทรัพย์น้อยแต่มากด้วยศรัทธา ที่มีต่อพระพุทธศาสนา อยากบูชาคุณพระรัตนะตรัย
    ก็ได้พยามมุ่งมั่นด้วยใจก่อนเป็นการเริ่มต้น ดั้นด้นหากำลังปัจจัยไปตามกำลังความสามารถที่มี
    หวังว่าบุญครั้งนี้จะช่วย ยืดอายุผมให้อยู่ร่วมสร้างบุญกุศลกับทุกท่านได้ต่อไป

    ช่วงนี้ต้องเดินทางสร้างกุศลอยู่เนืองนิจ ด้วยบุญจัดสรร จำต้องได้เดินทาง
    อีกประการต้องเดินทางไปรักษาเยียวยาร่างกายสังขาร ที่โดนเคราะห์กรรมกระหน่ำอยู่ในเวลานี้
    ผมต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมบุญ ขอกราบโมทนายิ่งครับ
     
  19. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    มาสวัสดีกับทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนและร่วมบุญครับ
    ผมพึ่งเดินทางกลับจากการไป จังหวัดลำพูน วันนี้เอง
    กระทู้เงียบเหงาไปสักหน่อย เนื่องจากเว็บพลังจิต ปิดซ่อมไปหลายวัน
    และผมก็ไม่ได้อยู่บ้านหลายวัน ก็ไม่ได้เอาอะไรมานำเสนอ นับแต่นี้ก็จะพอมีเวลาอยู่บ้าง
    ก็จะเติมแต่ง ใส่สีสันให้กระทู้อยู่คู่งานบุญต่อไป

    มีเรื่องมากมายคั่งค้าง จะได้สะสางตามลำดับ ส่วนใหญ่เนื่องด้วยบุญกุศลทั้งนั้น
    เอามาให้ทัศนาและโมทนาบุญร่วมกัน ด้วยผมได้มีโอกาสไปเก็บเกี่ยวสะสมบุญบารมี
    เป็นการสร้างความดี ตอนแทนคุณพระรัตนะตรัย กับพระพุทธศาสนาของพวกเราครับ

    เดี๋ยวพรุ่งนี้จะจัดส่งพระไปให้คุณวิโรจน์ครับ
     
  20. Nar

    Nar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,154
    ค่าพลัง:
    +37,385
    ผ้าป่าสร้างสถานปฏิบัติธรรม ที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

    DSCF6445_resize.JPG DSCF6448_resize.JPG DSCF6449_resize.JPG

    ย้อนไปเมื่อวันที่อาทิตย์ 15 พฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา
    ได้เดินทางไปร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดแห่งหนึ่ง ที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
    ผมจำชื่อวัดไม่ได้ซะแล้วงานนี้ ต้องขออภัยหากได้ข้อมูลเพิ่มจะได้เอามาเพิ่มเติมใหม่
    เนื่องจากมีคณะปฏิบัติธรรมกลุ่มหนึ่งที่กรุงเทพฯ ได้พากันไปซื้อที่จำนวน 26 ไร่ ติดกับวัดที่ผมจำชื่อไม่ได้นี่แหละ
    จัดตั้งให้เป็นที่ใช้เพื่อการปฏิบัติธรรม โดยใช้ชื่อว่า "ธรรมจักรสถานปฏิบัติธรรม" น่าจะทำนองนี้
    เนื่องจากงานนี้ผมมีเวลาจำกัด และเป็นครั้งแรกกับกลุ่มนี้ จึงได้มีข้อมูลจำกัดไปด้วย

    สถานที่แห่งนี้จะทำแบบผสมผสาน ระหว่างสมถะแบบสมัยเก่า กับ ใช้ความรู้ใหม่เข้ามาใช้ด้วย
    เช่นพลังงานจากเศษอาหาร การกำจัดขยะมูลฝอย ใช้ธรรมชาติปรับสมดุลในความเป็นอยู่ และอีกหลายอย่าง
    ก็นำเอามาฝากให้ได้โมทนาบุญร่วมกัน บุญอันเนื่องการสร้างสถานปฏิบัติธรรมเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ครับ
    ผู้มาใช้ล้วนเป็นผู้มีจิตใจค่อนข้างสูง ถึงขั้นเป็นอริยะบุคคลก็เป็นได้ เราผู้มีส่วนร่วมย่อมได้รับอานิสงส์อย่างต่อเนื่องเป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 มิถุนายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...