พระไม่สามารถสำเร็จความใคร่ได้แต่...

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย เล่นกรรม, 21 กรกฎาคม 2011.

  1. เล่นกรรม

    เล่นกรรม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +6
    พระไม่สามารถสำเร็จความใคร่ได้ เพราะถ้ามีอสุจิเคลื่อนถือว่าผิดศีล แล้วถ้าฝันเปียกจะทำยังงัย จะบาปกว่าคนทั่วไปหรือเปล่า จะแก้ไขยังงัย โทษของพระจะเป็นอย่างไร ผู้รู้ตอบด้วยคร้าบ
     
  2. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    ฝันเปียกไม่เป็นสังฆาทิเสสครับ แต่พระปฏิบัติจริงๆ ท่านควบคุมจิตใจได้จะไม่ฝันเปียกแล้วครับ
     
  3. บัวเกี๋ยง

    บัวเกี๋ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    549
    ค่าพลัง:
    +431
    ฝันเปียกเป็นเรื่องธรรมชาติเกิดจากร่างกายทำหน้าที่ของมันเองเป็นคำถามที่ดีครับผมว่าไม่ผิดนะครับ
     
  4. tumsokpho

    tumsokpho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +469
    ถ้าฝันไม่ผิดครับ
    ถ้าพระที่มีสติตลอดเวลาท่านจะไม่ฝันเปียก
     
  5. tumsokpho

    tumsokpho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +469
    ถ้าฝันไม่ผิดครับ
    ถ้าพระที่มีสติตลอดเวลาท่านจะไม่ฝันเปียก
     
  6. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ถ้าเห็นว่าน้ำกามก็คือน้ำประเภทหนึ่งตามที่ธรรมชาติสร้างมา พอมันถึงจุดๆหนึ่งก็มีกระบวนการหลั่งออกมาตามปกติของความเป็นมนุษย์ โดยขณะหลั่งเราก็ไม่ได้เพลิดเพลินไปตามกามอารมณ์ ก็คงไม่ผิดนะครับ
     
  7. ตายแน่!

    ตายแน่! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +509
    ผมเคยอ่านผ่านๆมา ไม่ผิดครับ
     
  8. ดินหอม

    ดินหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +187
    ถามเรื่องกะปู๋ไม่อยากคิดถึงมัน มังกรร้าย จ้องจะคายพิษท่าเดียว อุปสรรคชิ้นโตที่นักบวชทั้งหลายไปไหนไม่ค่อยรอดก็เรื่องนี้แหละ หลบสังฆาทิเสสกันเดือนหนึ่งไม่รู้จักสักกี่ครั้ง ยิ่งยุคนี้มีโน็ตบุ็คwifiกระจายทุกวัด จะไปเหลือไร เขาไปเวปที่ไหนก็มีแต่วอบๆแว่มๆ ขาวสวยหมวยอึ้ม แหล่มออกมาเต็มหน้าเวป กระดิดนิ้วคริกเม้านิดเดียว สติก็แตกกระเจิดกระเจิงหาผ้าภาชนะรองแทบไม่ทัน ก็เออนะ ตอนนี้เราเป็นขาลงมา54ปีแล้ว ...
    พุทธทำนาย หลังกึ่งพุทธกาล จะหาผู้สำเร็จธรรมย่างเข้าประตูนิพพาน ยากเต็มที
    โอม มะนะสิกา.
     
  9. ธงสามสี

    ธงสามสี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +72
    จริงอย่างว่า ใครมีลูกมีหลานจะไปบวช ก็สั่งสอนกันเลย เผื่อว่าจะบวชไม่วึก จะได้ไม่ติดโทษไปอบาย
     
  10. s3515941

    s3515941 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,193
    ฟันธง ! ฝันเปียกไม่ผิดครับ เพราะเราไม่ได้ไปทำให้อสุจิเคลื่อนออกจากร่างกาย

    แต่อสุจิเคลื่อนออกมาเองตามกระบวนการของร่างกายขณะขาดสติครับ

    พระท่านไม่ปรับโทษครับ ..
     
  11. เล่นกรรม

    เล่นกรรม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +6
    แล้วถ้าพระทนไม่ไหว สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง จะมีโทษอย่างไร และแก้ได้วิธีไหน บาปหนักกว่าคนทั่วไปไหม
     
  12. aun1971

    aun1971 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +273

    จัดเป็นอาบัติสังฆาทิเสส วิธีที่จะล้างอาบัติสังฆาทเสสก็คืออยู่ปริวาสกรรม ยกเว้นฝันเปียกครับ
     
  13. เล่นกรรม

    เล่นกรรม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +6
    แล้วถ้าพระทนไม่ไหว แล้วไปสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง จะทำอย่างไร แก้ไขอย่างไรในเมื่อทำไปแล้ว บาปแค่ไหน บาปมากกว่าคนทั่วไปหรือเปล่า แล้วตอนที่ฝันเปียก มันก็ต้องฝ้นว่าเสพสังวาสกันนี่ ไม่ผิดเหรอ งงอ่ะ
     
  14. aun1971

    aun1971 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +273
    แต่ตอนที่อยู่ปริวาสเพื่อล้างอาบัติสังฆาทิเสสห้ามต้องอาบัติเดิมนะครับจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ครับต้องขึ้นไปอีกระดับหนึ่งครับก็คืออยู๋แบบมูเลยะปฏิกัสสนาสำหรับพระภิกษุที่ต้องอาบัติระหว่างอยู่ปริวาสครับ
     
  15. เล่นกรรม

    เล่นกรรม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +6
    สังฆาทิเสส คืออะไรกันแน่ บอกที่บอกว่าเป็นการลงโทษโดยการไปบอกเพราะทั้งวัดว่าตนทำผิดอะไร ให้บอกไปเรื่อย ๆ จนครบจำนวนวันที่ตนปกปิด อย่างนี้ก็สามารถสำเร็จความใคร่ได้ตลอดนะซิครับ ทำปุ๊บบอกปั๊บก็สบายไปซิครับ
     
  16. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    สัญเจตนิกสิกขาบท

    สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ... อาบัติสังฆาทิเสส เพราะ เคลื่อนน้ำกามด้วยความกำหนัดตัณหา

    แต่ เมื่อเวลาหลับไม่มีโทษครับ จะฝันว่าเสพสังวาสกับใคร น้ำกามเคลื่อนก็ไม่ผิดครับ


    เมื่อภิกษุต้องอาบัตินี้แล้วจะทำตนให้บริสุทธิ์เป็นปกติได้ด้วยการอยู่ ปริวาสกรรม

    โดยให้สำแดงบอกเล่าให้แก้ภิกษุแล้วจึงขอปริวาสแก่พระภิกษุต่อไป

    ถ้าปกปิดไว้นานวัน นับด้วยวันเดือนปีเท่าไหร...เมื่อรู้สึกตนจะใคร่พ้นโทษ ก็ต้องอยู่ปริวาสกรรม นับเท่าวันเดือนปีที่ปกปิดไว้นั้น

    แล้วจึงขอ มานัต แต่องค์สงฆ์อีก หกราตรี ...สงฆ์คณะ 20 รูป ให้ อัพภาน ชักออกจากโทษได้แล้วจึงเป็นผู้บริสุทธิ์ได้


    บาปมากไหม ?

    อาบัติสังฆาทิเสส ต้องเข้าแล้วไม่แก้ไข ทำให้ตกถึงมหาตาปนรก มีอายุยืนกึ่งกัป
     
  17. เล่นกรรม

    เล่นกรรม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +6
    แล้วหากเป็นพระทำผิดตามที่กล่าวข้างต้น ไม่ได้แก้แต่ครบกำหนดสึกก็สึกออกมาก่อน จะมีบาปติดตัวไหม (ถ้ามีบาปติดตัวจะแก้ด้วยการไปบวชใหม่เพื่อแก้ไขได้หรือเปล่า)
     
  18. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    บาปติดตัวไปแน่นอนครับ ... มีผลให้มีอุปสรรคในชีวิตหลังจากสึกออกมาครับ


    ใช่ครับ ต้องกลับไปบวชใหม่ครับ แล้วไปอยู่ปริวาสกรรม
     
  19. punpraya

    punpraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2006
    โพสต์:
    1,256
    ค่าพลัง:
    +2,228
    พระธรรมเทศนาและคำสอน ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ( พระมหาวีระ ถาวโร, หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ) ดูแลโด เข้าไปโหลดมาฟังได้ครับ ในหมวด ก. ชัดเจนหายสงสัยหลวงพ่อท่านอธิบายชัดเจนครับ เรื่องศีลและพระวินัย อาบัติ ต่างๆ มีประโยชน์มากครับ
    สำหรับคนที่จะบวชควรฟังหรือหาศึกษาเรื่องนี้ ให้เข้าใจก่อนครับ
     
  20. suriyanvajra

    suriyanvajra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +67
    ขออนุญาตแสดงความเห็นบ้าง จะเหมาะสมหรือไม่ประการใด ขอให้ท่านทั้งหลายโปรดพิจารณาตามอัธยาศัยเถิด

    ก่อนอื่นขอกล่าวถึงการ "รักษาศีล" ที่เป็น "ข้อวัตรปฏิบัติ" ดังนี้ว่า ผู้เขียนเห็นว่าควรรักษาทั้งกายวาจาใจให้ครบถ้วนเนื่องจาก "กรรม" นั้นเกิดได้ 3 ทางและส่งผลแก่ผู้ก่อทั้ง 3 ทาง แต่ปัจจุบันเป็นยุคที่คนเรามีวิบากมาก ถึงแม้ตั้งใจเพียงใดก็รักษาได้ด้วยใจเป็นหลัก สังเกตได้ว่ามีหลายครั้งที่เราไม่ตั้งใจเหยียบมดแต่เท้าเราก็ไปโดนเขาจนถึงแก่ความตายเข้าจนได้ มีหลายครั้งที่เราตั้งใจจะเตือนผู้อื่นว่าฝนจะตก แต่สุดท้ายมันก็ไม่ตก กลับกลายคล้ายกับว่าเรามุสาวาทโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นผู้เขียนจึงถือหลักว่าเมื่ออาราธนาศีล ตนขอรักษาโดยใช้ "อุปทาน" หรือ "ความยึดมั่นถือมั่นในใจ" เป็นประธาน ส่วนกายและวาจานั้นจะทำให้เต็มที่แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัยก็จำเป็นต้องปล่อยวาง ผลกรรมใดที่จะเกิดทางกายวาจาใจจากการรักษาศีลเช่นนี้ตนก็ยินดีรับมันด้วยความเต็มใจเพราะ "ทำได้ดีที่สุดแค่นี้"

    ต่อมา ขอกล่าวถึง "ความฝัน" ว่าเป็นสภาพที่ "อุปทานนอนหลับ" มีแต่ขันธ์ 5 เท่านั้นที่ปฏิบัติหน้าที่ ภาพเสพสังวาสที่เห็นความรู้สึกทางเพศที่มีคล้ายของจริงนั้นเป็นเพียง "รูปขันธ์+สัญญาขันธ์+เวทนาขันธ์" ที่ "วิญญาณขันธ์" วิ่งไปรับรู้ตามร่องของ "สังขารขันธ์" เท่านั้น สังเกตได้ว่าในฝันเราสามารถเสพสังวาสได้โดยไม่มีความละอายเลยว่าตนคือพระ หากอุปทานเราตื่นขณะฝันแล้วไซร้ เราต้องตระหนักอย่างแน่นอนว่าตนบวชอยู่ และต้องรู้สึกละอายใจบ้างไม่มากก็น้อยขณะเสพสังวาสในฝันนั้น ดังนั้นหลายท่านจึงกล่าวว่าฝันเปียกไม่ผิดศีลเพราะผู้ที่รักษาศีลคืออุปทานและอุปทานก็นอนหลับอยู่ไม่ได้กระทำการผิดศีลแต่อย่างใด

    สิ่งที่น่าใส่ใจมากกว่าฝันเปียกก็คือ "อุปทาน" ของเราขณะตื่นและหลังจากเราตระหนักรู้แล้วว่าตนฝันเปียก หากเมื่อตื่นขึ้นเรารู้สึกติดใจในความรู้สึกทางเพศที่เกิดขึ้นในฝันจนอยากจะสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองนั่นแสดงว่าอุปทานเรา "ผิดศีล" เสียแล้ว ผิดทางใจโดยยังไม่ได้แสดงออกทางกายและวาจาก็ถือว่าผิด และหากกระทำทางกายด้วยกล่าวคือสำเร็จความใคร่ไปเรียบร้อยแล้ว คงไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป ถือว่าเรา "ผิดศีล" อย่างแน่นอน จำเป็นต้องไปเรียนให้พระอุปปัชชาหรือพระท่านที่มีหน้าที่อบรมเราทราบและดำเนินการต่อไปตามครรลอง

    คำถามว่า "บาปมากกว่าคนทั่วไปหรือเปล่า" นี้จำเป็นต้องมีสัพพัญญูญาณหรือไม่ก็เป็นผู้มีหน้าที่ตัดสินคดีกรรมจึงจะตอบได้ ผู้เขียนเองก็ไม่สามารถฟันธงได้ แต่ขอแสดงความคิดเห็นว่า มนุษย์เราเกิดจากน้ำกามเป็นเรื่องปกติ การใช้ชีวิตของพวกเราบางครั้งจึงต้องเกี่ยวข้องกับน้ำกามบ้างเป็นเรื่องธรรมดาตามเหตุปัจจัยที่พวกเราแต่ละคนมี การที่เราจะสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองหรือสังวาสกับภรรยา/สามีตนเองนั้นก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องเสียหายแต่ประการใด เพียงแต่ว่าเมื่อใดที่เรา "อาราธนาศีลขอละเว้นจากการเสพสังวาส" เมื่อนั้นเราได้ก่อกรรมขึ้นแล้วทั้งกายวาจาใจ เป็นกรรมที่เพิ่มพูนเนกขัมมะบารมี ศีลบารมี ขันติบารมี และอธิษฐานบารมี กรรมนี้ให้วิบากเป็น "บารมี" หากเรากระทำได้ตามนั้นเราก็ได้บารมีเพิ่มพูน หากเรากระทำไม่ได้ตามนั้นเราก็ถือว่าทรยศต่อตนเอง บารมีต่างๆที่บำเพ็ญมาก็จะลดน้อยถอยลง...อันนี้ถือเป็นวิบากที่พิจารณาเฉพาะที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวเรา สำหรับฆราวาสนั้นพิจารณาเพียงนี้ก็อาจจะเหมาะสม แต่สำหรับพระนั้นท่านมิได้ดำรงอยู่แต่เพียงในนามของมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น เมื่อท่านห่มผ้าเหลืองรับบิณฑบาตรท่านก็อยู่ในนามของลูกศิษย์พระศรีศากยมุนีผู้มีหน้าที่ทำนุบำรุงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาโดยการบำเพ็ญเนกขัมมะบารมีของตนให้เป็นปรมัตถ์ หากท่านรักษาพรหมจรรย์ไว้ไม่ได้ก็จำเป็นต้องรับวิบากทั้งที่เกี่ยวข้องกับการทรยศตนเองโดยตรงและเกี่ยวข้องกับการทรยศพระพุทธศาสนาอีกกระทงหนึ่งด้วย ซึ่งจะหนักเบาประการใดนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากผู้เขียนไม่สามารถตอบได้

    ผู้ที่บวชคือผู้ที่ยอมตายเพื่อเนกขัมมะบารมี อย่าว่าแต่เรื่องเสพสังวาสเลย ความพึงใจในขบฉันของอร่อย ความเพลิดเพลินในการประดับประดาวัดวาอารามด้วยของสวยงาม ความเพลิดเพลินในการมีชีวิตอยู่ในสังสารวัฏ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่พึงระวังและควรพิจารณาให้ดี

    หากเราไม่มั่นใจในเรื่องการรักษาพรหมจรรย์ก็ไม่เห็นจะต้องบวชห่มผ้าเหลืองเลย อยู่ในเพศฆราวาสก็บรรลุธรรมได้ เมื่อถึงเวลาอันควรที่เราอิ่มตัวกับการมีชีวิตอยู่แล้วและพร้อมตายเพื่อพระรัตนตรัยได้ทุกเมื่อเราจึงค่อยห่มผ้าเหลืองเถิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...