โดนขังวิญญาณ

ฮ่า ๆ

 

สวัสดีครับ
มี ม.ม้าคึกคัก
มาด้วยช่วยดูให้หน่อยครับ.....

 

อิอิ ไม่ทำแบบนี้จะได้คุยกันเหรอคะ แขกที่มาเยี่ยมบ้านเขาคิดถึงเจ้าของกระทู้น่ะ พี่ก็ออกมาทักทายเขาบ้างสิคะ แก้วสบายบ้างไม่สบายบ้างตามอัตภาพน่ะค่ะ พี่ล่ะสบายดีไหม

 

เก่งจิงค่ะคุณปราชลี ทำให้จขกท ที่จำศีลออกมาคุยได้ อิอิออิอื

 

วันนี้ ขอนำ เสนอ นิทาน ที่ พี่จิ-โป เล่าให้ฟังเมื่อคืนนะครับ

อะแฮ้ม เอาๆหน้านี้ก่อน
ปกติคนเรามักจะคิดว่าฌาณ1หรือปฐมฌาณนี่ต้องหลับตาปี๊ใช่ใหม<O</O
ไม่ก็เดินย่างหนอก้าวหนอกินหนอ (สาวเสื้อแดงสวยหนอ)<O</O
ตานี้มาดูเหตุแห่งการไม่ลงนรกของนักรบกัน<O</O
ในกาลนั้นครั้งที่ปราศจากผู้ครองแคว้นที่ปราชเปรื่อง จึงเกิดศึกสงครามกันเป็นหย่อมๆ<O</O
บ้านเรือนหลังเล็กๆทำจากใม้ที่พอจะหาได้ การก่อสร้างหยาบๆด้วยเร่งรีบเพราะกรำศึกสวคราม<O</O
หมู่บ้านเล็กๆกระจุกกันอยู่ริมชายป่ามีขุนเขาห้อมล้อม นับว่าชัยภูมิเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะหลบเร้นและตั้งรับ<O</O
เหล่าผู้ชายที่พอจะหาได้ต่างก็ถูกเจ้าเมืองที่เป็นหญิงเกณท์กำลังไปเพื่อออกป้องกันข้าศึก<O</O
สตรีผู้เฒ่าจึงสร้างม่านอาคมขึ้นเพื่อป้องกันคนอื่นๆพบเห็นด้วยมังกรและตราหยก<O</O
ด้วยการทิ้งลงหลุมอันเป็นตาน้ำ จึงเกิดบ่อน้ำที่ผุดขึ้นมาไม่มีวันแห้งเหือด<O</O
สตรีที่ครองแคว้นนั้นเล่าต่างใช้กำลังทหารหนุ่มจนหมดสิ้น<O</O
หมู่บ้านนั้นบัดนี้กลายสภาพเป็นเมืองลับแล<O</O
ส่วนทหารผู้ชายนั้นเล่า ในการรบที่เข่นฆ่ากันนั้น ระลึกถึงเมียแลลูกที่หมู่บ้าน<O</O
ยามที่ความตายมาเยือน เมื่อความหนาวเย็นที่สุดทนทานย่างกรายเข้าสู่หัวใจนักรบ<O</O
ใบหน้าสตรีอันเป็นที่รักลอยมาในห้วงสำนึก<O</O
แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยบาดแผล เลือดหลั่งดังประหนึ่งว่าเป็นน้ำจากลำธาร<O</O
ใบหน้านั้นก็มิจางไปจากสำนึก<O</O
ความรู้สึกห่วงใย รู้สึกเสียดายทั้งหลายประดังเข้ามาดังเสียงเร่งแห่งกองรบ<O</O
ครานั้นน้ำตาแห้งความภูมิใจที่ปกป้องดินแดนก็หลั่งออกมา รอยยิ้มอันมิอาจบรรยายได้ปรากฏขึ้น<O</O
สมรภูมินั้นดังว่าจะหยุดนิ่งสงบ ทั้งๆที่เพื่อนร่สมชะตากรรมกำลังล้มตายดังใบใม้ร่วง<O</O
ความว่างนั้นเป็นเหมือนช่องว่างระหว่างความเป็นตาย ความสุข ปิติ <O</O
และใบหน้านางอันเป็นที่รักยังมคลายหายไป<O</O
กาลเวลาที่หยุดนี้เอง ก่อนที่จะดับไปด้วยทนพิษบาดแผลไม่ไหวนั้น <O</O
ความว่างชั่วแวปเดียวอันมีอารมณ์เจือด้วยความสุขนี่เอง<O</O
คือปฐมฌาณ นักรบนี้จึงมิต้องไปชดใช้กรรมการฆ่า จิตที่กอปด้วยสุขจึงสร้างภพใหม่ <O</O
อันเหมาะสมที่จะ"วาง"จิตดวงนี้ลงไป จิตดวงนี้ยังไปไม่ถึงภพพญานาคเลย<O</O
จิตที่เข้าปฐมฌาณ อันมีวิตกถึงใบหน้าคนรัก วิจารณ์ถึงลักญณะสัญญาปรุงแต่งจนใบหน้าชัดเจน<O</O
ปิติอยู่กับสุขที่ได้เห็น เอกคตาที่ว่างด้วยกำลังจะตาย จึงทำให้จิตดวงนี้ไปจุติเป็นพญานาคในบาดาลด้วย<O</O
กรรมเก่าบันดาล เมื่อเกิดมาในภพพญานาคแล้ว ก็บำเพ็ญปฏิบัติตามแบบพญานาค<O</O
เมื่ออำนาจฌาณแรงกล้า เขาผู้นี้ได้ระลึกได้ถึงลูกเมียในสมัยภพเก่า<O</O
จึงแปลงกายเข้าไปในหมู่บ้าน<O</O
เมื่อเขาหวนกลับสู่หมู่บ้านนั้น อาคมที่กำบังมิอาจปิดกั้นพญานาคราชหนุ่มได้ จึงเข้าไปพบกับ<O</O
ไม่เจือราคะจะเรียกฌาณโลกีย์รึ<O</O
เมื่อเขาไปพบกับกระท่อมร้างผุพังตามกาลเวลา ผู้คนล้มหายตายจาก<O</O
อนิจจาเมืองลับแลที่สะกดใว้ด้วยอาคม แม้วิญญาณก็มิอาจออกไปจากหมู่บ้านนี้ได้<O</O
เพราะเหตุว่าการจุตินานไปหน่อยนั่นเอง ภพก่อนที่เหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานกลับกลายเป็นหลายพันปี<O</O
พญานาคราชหนุ่มนี้จึงบำเพ็ยอยู่ในเมืองลับแลนี้<O</O
เพื่อหวังจะปลดปล่อยวิญญาณทั้งหลายให้หลุดพ้น<O</O
ความห่วงของคนในหมู่บ้านนี้เองคือสิ่งที่ฉุดรั้งมิให้คนในหมู่บ้านนี้ไปเกิดใหม่ได้<O</O
สถานที่แห่งนี้จึงเปี่ยมด้วยความรัก ความห่วงใยของพญานาคราชหนุ่มที่เพียรพยายามแผ่ออกมามากที่สุด<O</O
แต่ยังคงมิอาจทำให้วิญญาณเหล่านี้ไปเกิดใหม่ได้<O</O
กาลนั้นเองยังมีภิกษุธุดงค์หมู่หนึ่งเดินผ่านมาใกล้กับหมู่บ้าน<O</O
พญานาคราชจึงแสดงตนเข้าไปอาราธณาเข้ามาหมู่บ้านนี้<O</O
ภิกษุผู้เฒ่าผูเห็นพญานาคก่อนด้วยท่านสำเร็จอริยะแล้ว จึงรับอาราธณา<O</O
ท่านจึงถามว่าท่านมาเฝ้าด้วยเรื่องใด เหตุใดจึงไม่ไปบำเพ็ญที่อื่น<O</O
พญานาคจึงเล่าเรื่องราวให้ฟัง ภิกษุนั้นจึงกล่าวว่า<O</O
ท่านบอกว่า สิ่งที่จะทำให้วิญาณทั้งหลายหลุดพ้นไปเกิดได้นั้น ต้องอาศัยจิตที่มีกำลัง<O</O
สายลมมิอาจพัดหินให้กิล้งได้ฉันท์ใดจิตที่ไม่เข้มแข็งย่อมมิอาจส่งได้ฉันท์นั้น<O</O
พญานาคราชจึงกล่าวว่า ทำอย่างไรจึงจะทำยังงั้นได้<O</O
ท่านจึงบอกว่า เป็นภาษาบาลี เฮ้อสุดๆ<O</O
พญานาคราชจึงได้อารมณ์จากที่ท่านบอกด้วยบาลี<O</O
อารมณ์นั้นมันเหมือนละอองแสงสว่างแห่งดวงจันทร์ เป็นเม็ดๆละเอียดแผ่ออกมา<O</O
คล้ายจะสัมผัสได้ ค้ลายมีคล้ายไม่มี<O</O
พญานาคราชจึงลงแช่ร่างบำเพ็ญในต้นน้ำตกนี้ กำหนดจิตแผ่ออกมา<O</O
อารมณ์ประมาณฌาณสี่ คือรูปฌาณ มี2 องค์ สุขอย่างเดียว เอกคตามันมาเอง<O</O
ฝ่ายวิญญาณนั้นที่ล่องลอยอยู่ในภพของตัวเองสร้างขึ้น จะเหมือนดังมีแสงสว่างปรากฏ<O</O
ความสุขจะเกิดขึ้นเมื่อเห็นสิ่งที่สวยงาม<O</O
วิญญาณเหล่านั้นจึงมีที่จับยึด มีที่ปรุงเพิ่ม<O</O
จิตจึงหลุดจากสภาวะนั้นด้วยสุขแห่งละอองแสง จิตที่สงสัยว่าแสงนี้มาจากที่ใด สุขนี้มาจากที่ใด
เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยการปรุงจากจิตใต้สำนึก เหล่าใดที่บุญมาก เปรียบกับการปฏิบัติของตัวเอง
แล้วจิตละเอียดขึ้นก็ไปเกิดเป็นเทวดา เหล่าใดที่เสพเพียงสุขก็ไปเกิดเป็นมนุษย์<O</O
แต่ยังมีหลายพวกที่หลับตาบำเพ็ญต่อในภพแห่งวิญญาณนั้นเอง จนบัดนี้เมืองนี้ยังอยู่ <O</O
แต่พญานาคไม่มีแล้ว มีเพียงกระแสแห่งความหวังดี ความอบอุ่นใจ <O</O
ปราถนาดีที่อบอวนอยู่ในสถานที่นั้นเสมอ<O</O

 

ขอบคุณครับ

 

ง่า พี่จิโปมาตอนไหนอ่า อดเจอเลย

 

ขอบคุณค่าที่เอานิทานมาอ่านให้ฟัง แล้วถามพี่จิโปป่าวค่าว่าพญานาคไปเล่นน้ำอยู่แถวไหน จะได้ไม่เจอกัน อิอิอิอิ กลัวลอยไปกับน้ำอะ(smile)(smile)

 

มาปูเสื่อรอฟังนิทานต่อครับ....

 

ปลาดุก ย่าง น่ากิน นะครับ เหงแล้วน้ำลายไหล

 

เช็ดน้ำลายด้วย หกเต็มทู้แย้ว (deejai) เอื้อก แอบกลืนน้ำลาย (ping-love ผักน่ากินอ่า

 

วันนี้ ไปทำบุญมา 4 วัดด้วยกัน ทั้งหมดอยู่ที่ ฉะเชิงเทรา
1.วัดโสธร พอขับรถถึงจอดรถเสร็จ ลงรถปุ๊บ เจออาการปวดหัวด้านขวา เลยทันที
แต่ปวดไม่มาก พอออกจากวัด ก็หาย ไม่รู้มีอะไรหรือเปล่า หุหุ

2.วัดสมาน วัดนี้ มี พระพิฆเนตร องค์ใหญ่ที่สุด คนเยอะมาก

3.วัดหัวสวน วันนี้ ไม่ค่อยมีคน เพราะไม่ดัง น่าจะเน้นการปฏิบัติธรรม จุดเด่นก็
เป็นวัดที่มีโบสถ์สแตนเลส ทั้งหลัง และมีรายชื่อ พระอรหันต์ 80 องค์ อยู่รอบโบสถ์

4. วัดเสม็ดเหนือ วัดนี้ ก็ไม่มีคน เงียบมาก วัดนี้ มีพระสีวลี ที่ใหญ่ที่สุด (ว่ากัน)
และมี โบสถ์เก่าแก่ ที่มีอายุ 130 ปี เก่ามาก วังเวงใช่ได้เลยอ่ะ มีเสาแม่ตะเคียน
อยู่ในโบสถ์ ด้วย

 

โอ้ว อีก 2 คน จะครบ 2000 คน แล้วครับ เป็นความสำเร็จ อันใหญ่หลวง อิอิ

 

เพิ่มอีกคน มาทีหลังแต่นั่งอ่านตั้งแต่ต้น

 

อนุโมทนาด้วยครับ.....

 

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1666241/[/MUSIC]

 

[QUOTE=noinid0209;5099005]วันนี้ ไปทำบุญมา 4 วัดด้วยกัน ทั้งหมดอยู่ที่ ฉะเชิงเทรา
1.วัดโสธร พอขับรถถึงจอดรถเสร็จ ลงรถปุ๊บ เจออาการปวดหัวด้านขวา เลยทันที
แต่ปวดไม่มาก พอออกจากวัด ก็หาย ไม่รู้มีอะไรหรือเปล่า หุหุ

2.วัดสมาน วัดนี้ มี พระพิฆเนตร องค์ใหญ่ที่สุด คนเยอะมาก

3.วัดหัวสวน วันนี้ ไม่ค่อยมีคน เพราะไม่ดัง น่าจะเน้นการปฏิบัติธรรม จุดเด่นก็
เป็นวัดที่มีโบสถ์สแตนเลส ทั้งหลัง และมีรายชื่อ พระอรหันต์ 80 องค์ อยู่รอบโบสถ์

4. วัดเสม็ดเหนือ วัดนี้ ก็ไม่มีคน เงียบมาก วัดนี้ มีพระสีวลี ที่ใหญ่ที่สุด (ว่ากัน)
และมี โบสถ์เก่าแก่ ที่มีอายุ 130 ปี เก่ามาก วังเวงใช่ได้เลยอ่ะ มีเสาแม่ตะเคียน
อยู่ในโบสถ์ ด้วย[/QUOTE]


ขออนุโมทนาด้วยค่ะ.....(good):VO

 

เจ้าพระยาธรรมา (บุญรอด) และเจ้าพระยาอภัยภูธร (น้อย)
อยากทราบเกี่ยวกับเรื่องของท่านค่ะ ท่านเจ้าของกระทู้หรือท่านใด
พอจะทราบไหมค่ะ
ถ้าทราบขอรบกวนเล่าให้ฟังบ้างได้ไหมคะ :z2

 

เย้ๆๆๆๆๆๆ ครบสองพันแย้ว เอ้าฉลอง;k07 ;aa56;aa56;aa56;aa56oishi_

 

อนุโทนาด้วยนะครับ......
ถือโอกาสฉลอง ครบ 2000 ซะเลย (deejai)(deejai)(deejai)