ใครมีประสบการณ์วัตถุมงคลหลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐีบ้างครับ

ชือ่ยันต์อะไรครับ พี่ลูกกรอก

 

ข้อมูลเพิ่มเติมครับ พี่น้องกับองค์จตุคาม ดูตามไฟร์ภาพครับ

 

เป็นการรวมตำราต่างๆ เช่น 9 ยอด สาริกา เทวดาหลงห้อง หงษ์คู่ สิงห์คู่ แก้วหนุนดวง จิ้งแบบต่างๆ เป็นต้น
เป็นแบบของสำนักฯ

โดยสักให้ออกมาเป็นรูป "พญาครุฑ"

 

ขอบคุณครับพี่ลูกกรอก ได้ทั้งพุทธคุณ พุทธศิลป์ ยอดๆๆ

 

อยากไปสัก จังคนเยอะไหมครับแล้วถ้าอยากได้รูปใหญ่ๆ ต้องจองล่วงหน้าไหมครับ
แล้ววิธีจองทำไง

 

สัก อ พฤ ส (ที่ไม่ตรงกับวันพระ) ต้องรีบมาจองคิว - ส กับ อ ที่ผ่านมา คิวเต็มตั้งแต่ ตีห้า

ส่วนวันอื่น (ที่ไม่ตรงกับวันพระ) ต้องจองคิวกับ อ.เล็ก เอาเอง แต่ต้องจองล่วงหน้านาน (อยู่ที่มีคนจองเวลาหรือยัง)

หมายเหตุ อย่างรูปครุฑ ที่เห็น ต้องมาสัก 4 ครั้ง รวม 2 เดือน เพราะฉะนั้น สักที่วัดทุ่งฯ ต้องอดทน

 

ในลานโพธิ์ที่ลง ข้อมูต่างๆได้จากหลวงพ่อและพี่ และพี่ได้ตรวจก่อนแล้วและรูปที่ใช้พี่อนุญาตให้เอาไปลง ดังนั้น...ข้อมูลจึงถูกต้อง

ดีแล้วที่เอามาลงให้เพื่อนๆได้อ่าน

 

จตุคามเนื้อผง มีข้าวสารหิน สองร้อย อันนี้สุดยอดมากข้าวสารหิน
เนื้อผงผสมผงนเรสวรปราบหงศา สามร้อย เนื้อออกแดงๆๆ
เนื้อผงฝังพระธาตุสี่ร้อย
ยิ่งนำฤกษ์แพงหน่อยจำไม่ได้ หาดูกันที่วัดนะครับ สุดยอดทั้งนั้น

 

งามๆ

 

ลายสักสวยงามมากๆครับ

 

เรียนพี่Lukkrok ขุนแผนไก่แก่แม่ปลาช่อน มีกี่เนื้อครับผม

 

ขออณุญาติ ตอบแทนให้ครับ มีเนื้อเดียว ราคาเดียว ทำบุญ 300 บาทครับ

 

กลับมาถึงที่ลำดับขั้นตอนของการศึกษาเล่าเรียนสรรพมนตราคมกันต่อ เมื่อท่องจำคาถาได้ครบแล้ว หลวงปู่คำมีจึงจะสอนเคล็ดวิชาบางอย่างที่ซ่อนอยู่เปรียบเสมือนดั่งกุญแจที่ปลดล๊อควิชานั้นๆให้เปล่งอณุภาพได้สูงสุด......จนเมื่อถึงขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นการสอบวิชาว่าผ่านหรือไม่ โดยหลวงปู่คำมีจะเป็นผู้ที่ทำการตรวจสอบด้วยตนเอง ง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน แต่ทำยากมาก ในความคิดของปุถุชนธรรมดาสามัญชนเฉกเช่นผู้เขียน "หลวงปู่คำมีให้ผ้าแดงมาหนึ่งผืน ให้ผู้ที่จะสอบลงอักขระเลขยันต์ปลุกเสกจนพอใจ จากนั้นมอบคืนแก่หลวงปู่ ท่านก็จะจุดไฟเผาโยนเข้ากองไฟกองฟืน ถ้าผ้าแดงไม่ไหม้จึงถือว่า"สอบผ่าน"แต่ถ้าผ้าแดงไหม้ก็ต้องไปเริ่มเรียนไหม่ทีเดียว" หลวงพ่อเณรกล่าวถึงวิชาการสอบวิชาให้ผู้เขียนได้ทราบ เมื่อได้ฟังได้แต่อ้าปากหวอ "การตั้งกรรมฐานและการตั้งธาตุนั้นสำคัญตาม เพราะถ้าฐานไม่แน่นก็เปรียบเสมือนบ้านไม่มีเสาเข็มและฐานจะปลุกเสกจากสร้างวัตถุมงคลอย่างไรก็ไม่ขลัง" ท่านกล่าวสืบต่อ ผู้เขียนจึงขออนุญาตบอกกล่าวว่า วิชากรรมฐานและวิชาตั้งธาตุนั้นเป็นวิชาหลักที่หลวงปู่คำมีได้ถ่ายทอดให้หลวงพ่อเณร โดยท่านจะเน้นย้ำในจุดนี้มากที่สุด แต่พระเวทด้านอื่นๆนั้นท่านก็ได้ร่ำเรียนมาเฉกเช่นเดียวกัน หลวงพ่อเณรกล่าวกับผู้เขียนในคราหนึ่งว่า"เวลาเราไปศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมจากใครก็ตาม เราจะขอเรียนแค่วิชาเดียวที่ครูบาอาจารยืท่านถือว่าเป็นสุดยอดแล้ว เราขอแค่วิชาเดียวต่อหนึ่งครุบาอาจารย์เท่านั้นแล้วค่อยนำมารวมๆกันมันก็เยอะเองแหละ เราคิดอย่างนั้นนะ" ผู้เขียนจึงแอบที่จะอดคิดคนเดียวไม่ได้ว่า"แล้วครูบาอาจารย์กี่รูปหละ ที่หลวงพ่อเณรท่านได้ไปเล่าเรียนศึกษามา" ถ้าผู้ที่ไกล้ชิดกับหลวงพ่อเรรนั้นก็สามารถที่จะเดาได้ไม่ยากผู้เขียนทราบแต่ขอไม่เอ่ยปากจะเป็นการดีกว่ามิเช่นนั้นจะกลายเป็นการโอ้อวดมากเกินไปเอาเป็นว่าค่อยละเลียดประวัติของหลวงพ่อเณรไปเรื่อยๆ และนับหรือจดไว้ เมื่อข้าพระเจ้าได้เขียนลงจะประเสริทกว่า.....ปาฏิหาร เหนือธรรมชาติของหลวงปู่คำมี แหงวัดถ้ำคูหาสววค์ ยังมีอีกมากมายที่สมควรนำมาบันทึกไว้ ผู้เขียนได้นำมาจากการบอกของหลวงพ่อเณรโดยตรง กล่าวคือเชื่อกันว่าหลวงปู่คำมีท่านสำเร็จฌาณสมาบัติอันสูงแล้ว สามารถล่วงรู้วาระจิต และสมารถล่วงรู้อนาคตได้อย่างแม่นยำ ดังเหตุการณ์คราหนึ่ง เมื่อหลวงพ่อเณรได้มาร่ำเรียนวิชาอาคมจากท่าน จวบถึงเวลากำหนดกลับ หลวงพ่เณรจึงไปลาหลวงปู่คำมี ท่านกลับบอกว่าให้รออีกซักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยกลับ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดีก็ได้ยินเสียงระเบิดกึกก้องดังกัมปนาทมาจากเขาลูกหนึ่ง ซึ่งเป็นสัมปทานในการระเบิดภูเขาเพื่อเาหิน ในสมัยก่อนจะยังไม่มีหวูดหวอเตือนในการระเบิดภูเขา และก็เป็นครั้งนี้อีกเช่นเดียวกันที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เกิดมีข้ิอผิดพลาดเกิดขึ้น เมื่อการระเบิดภูเขามีการคำนวนผิด ทำให้เศษหินเกือบทั้งหมดได้ตกลงมาปิดทับเส้นทางสัญจรหรือถนนนั่นเอง และที่สำคัญถนนเส้นนี้เป็นถนนเส้นทางที่หลวงพ่อเณรใช้เดินทางกลับสู่กรุงเทพ เพราะถ้าไม่เชื่อหลวงปู่คำมี หรือหลวงปู่ไม่ได้กล่าวทักไว้ เกรงว่าอุบัติเหตุไม่คาดฝันอาจจะเกิดกับคณะของหลวงพ่อเณรก็เป็นไปได้"โอ๊ยรอดตายเลยเรา หวุดหวิดจวนเจียนแท้" หลวงพ่อเณรกล่าวอย่างติดตลกให้ผู้เขียนฟัง ท่านยังบอกอีกว่า หลวงปู่คำมีก็มิได้พูดอะไร ทั้งยังไม่โอ้อวดอะไรทั้งสิ้น ได้แต่หัวเราะ "หึหึ" อย่างอารมณ์ดี "แล้วการสอบของหลวงพ่อเณรหละผ่านหรือ่เปล่า" อาจจะมีผู้ที่อยากรู้ถามขึ้นมา เพราะผู้เขียนยังมิได้ประกาศผลเอาไว้ จึงขออณุญาตนำคำตอบที่หลวงพ่อเณรได้ตอบผู้เขียนมากล่าวไว้ดังนี้....."เมื่อเราจารอักขระลงไปในผ้าแดงและปลุกแล้วก็ยื่นให้หลวงปู่คำมี ท่านก็จัดการโยนลงในกองไฟ อัศจรรย์ ไฟไม่ไหม้จริงเอ๊ะ....แต่เป็นเพราะผ้ายันต์ไปผ่านมือหลวงปู่คำมีก่อนหรือเปล่านะ" อ่อนน้อมถ่อมตนไม่โอ้อวดเป็นอุปนิสัยที่ดีของท่านที่เราควรเอาแบบอย่างเป็นอย่างยิ่ง ท่านไม่ตอบว่าท่านเรียนสำเร็จหรือเปล่า แต่คำถามผู้เขียนขอตอบแบบมั่นใจเลยว่า ท่านสำเร็จสรรพวิชาอาคมหลวงปู่คำมีแน่นอน เนื่องจากวัตถุมงคลที่ท่านสร้างล้วนก่อเกิดประสบการ์ณเป็นที่ประจักทั้งสิ้น และทุกครั้งก่อนที่ท่านจะเริ่มอธิษฐานจิตปลุกเสก หลวงพ่อเณรก็ต้องตั้งธาตุทุกครั้งคราไป............
โปรดติดตามตอนต่อไป..
บทความนี้นำมาจาก นิตยสารลานโพธิ์

 

ขอบคุณครับพี่ลูกกรอก ถ้าผมเข้าไปดุ่มๆวันพฤหัส หรือวันธรรมดา ที่ไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ คนเยอะใหมครับ

 

ขอบคุณครับพี่................................................................

 

วันสักปกติ อ พฤ ส คนเยอะแน่ๆ ต้องเป็น จ พ ศ คนน้อยหน่อย เพราะเป็นวันที่นัดสักรูปที่ใช้เวลานานได้ ซึ่งได้ วันละไม่กี่รูป

อย่าลืม ต้องไม่ใช่วันพระ

 

มีพี่ท่านหนึ่งตรวจพลังจากวัตถุมงคลได้ ท่านจับวัตถุมงคลของหลวงพ่อเณร ขนจะลุกทั้งตัวแล้วบอกว่าแก้วหนุนดวง ขุนแผนไก่แก่แรงมากสามารถคุ้มครองคนได้ ที่แรงมากๆคือหนุมานปราบลงกา (ไม่ได้เชียร์แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง)

 

ตอนนี้ห้อยแก้วหนุนดวง
ส่วนขุนแผนไก่แก่..กำลังจะมาครับ ค่อยๆเก็บครับ
ประสบการณ์ยังไม่ชัดเจนครับ เพิ่งห้อยได้ 3 วัน อิอิ

 

ตอนนี้ห้อยแก้วหนุนดวง
ส่วนขุนแผนไก่แก่..กำลังจะมาครับ ค่อยๆเก็บครับ
ประสบการณ์ยังไม่ชัดเจนครับ เพิ่งห้อยได้ 3 วัน อิอิ

 

ยืนยันแก้วหนุนดวงครับ แรงจริง