รู้โดยไม่ต้องคิด

...................อ้าว พี่ .......เคลื่อนใหว อย่างสันติ อหิงสา ครับผม....แถมได้กิน ข้าวไข่ต้มฟรีอีก....อายุ เป็นเพียงตัวเลขครับ..

 

อืมมม นานาเริ่มเข้าใจอะไร ๆ มากขึ้นแล้ว
มีโอกาสก็สังเกตอาการที่มันแปรตัวไป เวลาใจที่เคยตั้งมั่นมันกระเพื่อม มันไหวไปตามความอยากบ้าง ตามกิเลสบ้าง ให้เห็นอาการนั้น ๆ ชัดเจนบ่อย ๆ ให้เห็นตามความเป็นจริงนะ ชัด ๆ เอาให้ชัด ๆ ชัดเจน

ดีแล้ว ๆ (สาธุ แปลว่า ดีแล้ว)

กิเลสนี่มันร้ายนะ มันจะหลบซ่อนอยู่ในจิตเรา ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก รอเวลา ถ้ามีสิ่งไปกระทบกระทั่งมันเข้า มันก็จะเผยตัวออกมาทีหนึ่ง เหมือนมดแตกรัง มดนี่ ถ้าเราไม่ไปถูกรังของมันเข้า มันจะอยู่ของมันไปตามเรื่อง แต่พอไปสะกิดถูกรังมันเข้า มันแตกรังออกมากัดเราเลย หรือถ้าเราเอาของหวานหรือของที่มันชอบไปวางไว้ทิ้งไว้ ประเดี๋ยวเดียวมดก็ขึ้นแล้ว นี่ก็เพราะไปกระทุ้งมันบ้าง ไปเผลอให้อาหารมันบ้าง กิเลสมันก็คล้าย ๆ กัน คนที่มีเขาเริ่มมีปัญญาบ้างแล้ว พอโดนกระทุ้งจนกิเลสในใจมันกำเริบ เขาจะจัดการกับกิเลสตัวนั้นก่อนทันที เพราะเขาเห็นโทษของมันมาก กิเลสถ้ามันยังมีมันจะทำให้เราหวั่นไหว ทำให้จิตใจเกิดความร้อนรนกระวนกระวายเป็นทุกข์ได้เสมอ เขาสังเกตเขาปฏิบัติกันตรงนั้น

ลองดูพระอรหันต์ท่านเป็นตัวอย่างก็ได้ ท่านไม่หวั่นไหวไม่ว่าใด ๆ ทั้งนั้น จิตท่านไม่กระเพื่อมแม้แต่น้อย บางคนไปเห็นตุ๊กแกตัวใหญ่ ตาแดง ตัวเขียว แถมตามตัวมีลายเป็นจุดสีส้ม ๆ มันชอบร้องเสียงดัง ๆ "ตั๊ก..แก ๆ" หน่อยเดียว ก็หวาด ๆ ซะแล้ว แอบใจหายนิดนึง เพราะตัวมันใหญ่ ยิ่งถ้าได้เห็นตอนมันกำลังตกใจนะ มันจะไต่ผนังคลานหนีเร็วซวบ ๆ เลย บางทีมันสู้ด้วย ตุ๊กแกนี่มันกัดเป็นเหมือนกันนะ ถ้าไปโดนมันเข้าบางทีมันแว้งกัดเลย เอาเรื่องไม่ใช่เล่น บางทีพอมันคลานหนีเรา พรวด ๆ เราก็กระโดดหนีมันพรวด ๆ เหมือนกัน ต่างคนต่างหนี ต่างคนต่างตกใจ ดูมันสิ..เหอะๆๆ

สมัยพุทธกาลมีภิกษุกลุ่มหนึ่งเข้าใจว่าตนเองบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้วต้องการไปกราบเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงทราบแล้ว จึงให้คนไปบอกให้ภิกษุกลุ่มนั้นเดินผ่านป่าช้ามาก่อน ที่ป่าช้ามันมีซากศพเน่าเหม็นขึ้นอืดน่ารังเกียจมากมาย พอภิกษุกลุ่มนั้นเดินผ่านก็พากันเบือนหน้าหนีด้วยความสะอิดสะเอียน พระอรหันต์อะไรยังมีการเบือนหน้าหนี จึงทำให้รู้ว่าตนเองยังไม่บรรลุธรรมดังที่เข้าใจ ทีนี้ก็เลยเร่งปฏิบัติกันจนบรรลุธรรมชั้นสูงสุดได้ และได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ในเวลาต่อมา

ก็ขออนุโมทนา..สู้ต่อไปนะ ระวังใจเอาไว้เสมอ ๆ

สาธุจ้า

 

มอนิ๊ง มอนิ๊ง กาแฟตอนเช้าครับ

หากไม่มีเราคิด จิตมันก็คิดของมันได้
แม้แต่ตัวที่จิตคิดขึ้นมา ก็ยังต้องเอามาฝึกสร้างสติ
เพื่อจะแทงไปถึงในความละเอียดลงเรื่อยๆอีก
นี่เป็นความคิดความเห็นท่าน เป็นสิ่งที่ท่านเข้าใจในมุมของท่านเท่านั้น แต่ไม่ใช่อย่างที่เราเข้าใจ

ป้าตาโตคิ้วยาว ลองอธิบายอย่างที่ป้าตาโตคิ้วยาวเข้าใจได้อ๊ะป่าว

 

การก้าวย่างเข้าสู่วิปัสสนา ถ้าจะบอกว่าไม่ใช้ความคิด เห็นรูปนามตามจริงที่เกิดดับตลอดเวลาแล้ว ก็คงไม่มีใครแย้ง เพราะแค่เห็นรูปนามเกิดดับเท่านั้นเอง

แต่ในลำดับที่วิปัสสนาดำเนินต่อไป ในขั้นที่เห็นว่าเป็นภัย รู้สึกว่าเห็นโทษ เบื่อหน่่าย ใคร่จะหนีให้พ้น หาทางจะทำให้พ้น รู้ความจริงว่าหนีไม่พ้น ไม่มีทางไป แม้เบื่อหน่อย ก็ปล่อยวางได้ ในลำดับนี่ถ้าจะบอกว่าไม่คิด คงไม่ใช่แล้ว

สัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา ... สัมมาสมาธิ สัมมาญาณ สัมมาวิมุตติ หากบอกว่าไม่คิด ก็ถูกแย้งแน่ เริ่มจากสัมมาทิฐิ ความเห็นชอบ ความคิดที่ถูกต้อง เลยทีเดียว

 

ต้องอาศัยคิดบ้างเพื่อนำทาง แต่เป็นส่วนน้อย

ที่เห็นการเกิดดับไม่ใช่อาการที่เห็นแล้วกลับมาคิดว่าเกิดดับอย่างไร

แต่เป็นสติที่ระลึกได้ในสัจจะที่ปรากฏอยู่ในขณะนั้น

ก็ลองพิจารณาดูว่า ธรรมเกิดปัจจุบัน มีการกระทบอารมณ์ ขณะนั้นสติที่รู้

แต่ไปหลงความคิด โดยไม่รู้ว่าสัญญาขันธ์เกิดแล้ว นี้ก็รู้ไม่ตรงสภาวะ

ตาเห็นอยู่ รู้อยู่ แต่ไปรู้ความคิด นี้มันตรงสภาวะไหม นี่ต้องมีสติรู้ และเป็นผู้ฉลาดในสร้างกุศล

ส่วนเรื่อง เบื่อ คลาย หลุด พวกนี้ไม่ใช่ความคิดเลย เป็นแต่สภาวะที่อารมณ์กระทบล้วนๆ

 

ก็ชัดเจนนะครับ และ ไม่ได้บอกกล่าวว่าอยู่สูงเสียด้วยครับ

คุณคือคนเดียวกันกับ คุณขันธ์ ผมเป็นคนที่บริสุทธ์ใจในการพูดคุย

ไม่มีการปกปิดแต่อย่างใด แค่คุณขันธ์ตอบมา ว่าอายุ 28 ก็จบ

หรือ มากกว่าไม่ใช่มาเรียกคนอื่นว่าเด็ก แต่ตนเองอายุน้อยกว่า

ผมถามอายุนี้ จะได้เรียกกันถูกต้อง ไม่ข้ามหัวซึ่งกันและกันครับ

ผมไม่คิดในเรื่องที่ไร้สาระหลอกครับ เพราะจะทำให้จิตใจยึดในสิ่งที่ไม่ดี

แค่การด่าทอผู้อื่นตามใจปาก ที่คุณขันธ์ทำอยู่บ่อยๆ ก็เป็นการผิดศีลข้อ 4 แล้ว

แล้วถ้ายังมาโกหกอีก ก็เป็นการผิดศีลข้อ 4 อีก ยังกล้าบอกกล่าวว่าเป็นพระอริยะอีก

ไม่กลัวบาปกรรมหรือครับ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัวนะครับ ไม่ใช่คิดว่าตนสูงก็จะสูงได้

ในเว็บนี้มีหลายคน ที่ใช้ชื่อหลายชื่อ ขนาดตนเองยังโกหกตนเองเลย

จะไม่โกหกคนอื่นได้อย่างไร ผมไม่เข้าใจเหตุผลที่ทำกันแบบนี้ครับ

เพื่อส่งเสริมเว็บหรือครับ ถ้าเพื่อส่งเสริมเว็บน่าจะแสดงสิ่งที่ดีกว่านี้นะครับ

ผู้ที่เข้ามาจะได้ ได้ประโยชน์กันทุกคน ไม่ใช่เข้ามาก็ด่าคนนั้นที ด่าคนนี้ที

ผู้คนสมัยก่อน เขาโกรธเขายังไม่กล้าด่าคำหยาบเลย เพราะกล้วบาปกรรม

แต่สมัยนี้ดูทำสิครับ ช่างไม่กลัวบาป กลัวกรรมกันเลย

สาธุครับ

 

เห็นแก้โพส งั้นขออนุญาติขยายใหม่

ไม่มีใครหลุดพ้นเพราะความคิด ไม่งั้นก็นั่งคิด นั่งทำตรรกะเดี๋ยวมันเบื่อ มันคลาย มันหลุดเอง

พวกนี้ปัญญาเทียม เพราะหลงเงา หลงความคิด หลงสภาวะ ไม่ตรงเหตุเกิดเหตุดับ

ปัญญาในระดับ อนุปัสสนานั้น จะมีไตรลักษณัเป็นอารมณ์ คือ

เห็นรูปนาม เห็นความเสื่อม เห็นความไม่เที่ยง บังคับไม่ได้ ไม่ใช่เรา เสมอ

ไม่ใช่เห็นรูปนามเกิดดับ เดี๋ยวมันเบื่อเอง หรือไปคิดให้มันเบื่อ

แต่เป็นสภาวะความไม่มีสาระ ไม่มีแก่นสาร เป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น แปรปวน เป็นทุกข์ไปตามเหตุปัจจัย

เหตุเพราะติดข้องอยู่ซ้ำๆ สลัดออกได้ยาก ตรงนี้ปัญญาที่เห็นแจ้งในภัย ในโทษ

เป็นผลจากการรู้ จากประจักษ์ ไม่ใช่นึกเอา คิดเอา

 

ทึกทักมั่ว ผมกับคุณขันธ์คนละคนกัน ใครๆหลายคนในนี้รู้ดี

ไม่รู้จักเป็นส่วนตัว ไม่เคยเห็นหหน้า

 

หากอ่านกรุณาอ่านให้จบด้วยครับ

ผมได้อธิบายเกี่ยวกับการนึกคิด และ การคบคิดไปแล้วครับ

เมื่อการเบื่อหน่ายเกิดขึ้นมาแล้ว ให้ผู้นั้นกลับไปทำในสิ่งที่เบื่อหน่าย

ก็จะเข้าใจว่าเป็นอย่างไร การเพิกเฉยจะมีผลในขณะนั้นครับ

การเห็นโทษไม่ต้องนึกคิดก็เห็นได้ครับ เพราะการนึกคิด ไม่มีใครคิดว่าตนผิดหลอกครับ

การเฝ้าดูที่ผมบอกกล่าวนี้ สามารถเห็นในสิ่งที่ไม่ต้องนึกคิด เพราะการนึกคิด

ผู้ที่นึกคิดก็จะเห็นแต่ที่ตนนึกคิดเท่านั้น ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นมานั้นจะไม่เห็นครับ

การคบคิดจะมีผลในช่วงแรก เมื่อคบคิดเสร็จสิ้นลง ก็ต้องวางการคบคิดนั้นลง

และเริ่มทดลองปฎิบัติอย่างตั้งอก ตั้งใจ ผลจึงเกิดขึ้นมาให้เห็นเป็นรูปธรรม

ถ้ามัวแต่มานึกคิดอยู่ นักเพาะกาย เล่นกล้าม คงไม่ต้องบากบั่นในการออกกำลังกาย

ก็จะมีกล้ามด้วยการนึกคิดเอาเอง หรือ ผู้ที่นำผลไม้มาขาย แค่นึกคิดเอาเอง

จะมีผลไม้นำมาขายได้เหรอครับ และ ในการกระทำในสิ่งนั้นๆ ย่อมให้เกิดความเข้าใจ

ในวิธีการทำสิ่งนั้นๆ จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนนั้นมีความถนัดตามทางของตน

สิ่งที่ผมบอกกล่าวนี้ มีให้เห็นอยู่บนโลกครับ ไม่ต้องไปมองหาที่ไหนเลย

จะไปมองที่สวรรค์ หรือ นรก ก็ไม่มีสิ่งที่ผมบอกกล่าว ความเป็นอยู่ของแต่ละบุคคล

เป็นสิ่งที่นำพาความคิดให้เกิดมีขึ้นมา นี่คือสาเหตุที่มนุษย์นั้นมีความคิดไม่เหมือนกัน

บนโลกนี้มีมนุษย์อยู่มากมาย มีความแตกต่างกันอย่างมากมาย

สาธุครับ

 

เช่นนั้นก็ไม่ควรเข้ามายุ่งในสิ่งที่ผมและคุณขันธ์โต้แย้งกันครับ

เมื่อไม่รู้จักเป็นส่วนตัว หรือ คุณต้องการสิ่งใดจึงเข้ามาโต้แย้งครับ

สาธุครับ

 

การไปสอบถามอายุผู้อื่น เป็นเรื่องไม่สมควร โดยเฉพาะเป็นเรื่องส่วนบุคคล

ถ้าสมมุติ คุณไปทำบุญที่วัดฯ คุณไปเจอคนแปลกหน้า ไม่รู้จักสนิทเป็นการส่วนตัว

อยู่ๆ คุณแนะนำตัวเอง บอกชื่อ-นามสกุลจริง และอายุ

คนที่อยู่ต่อหน้าคุณ เขาไม่ตอบ ผิดด้วยหรือ หรือคุณจะไปตามเซ้าซี้ตอแยถามไม่เลิก

คนที่ไม่ตอบ กลายเป็นคนเลว ปกปิด

มองดูเป็นเรื่องตลกของคนที่ไม่รู้จักเคารพสิทธิส่วนตัวผู้อื่น

การทำอะไร เอาตัวเองเป็นเกณฑ์

เสมือนเราเป็นศูนย์กลาง ทุกคนต้องคิดแบบเดียวกับที่เราคิด

เป็นการเห็นแก่ตัวในด้านความคิด ไม่เคารพในความคิดเห็นผู้อื่น

 

ผมเห็นคุณขันธ์ กำลังโต้แย้งกับคุณkenny2 คุณเข้าไปแทรกกลาง

ทำไมไม่รู้ตัวเองบ้างหรือ เห็นแต่ความผิดคนอื่น ไม่เห็นการกระทำของตัวเอง

 

หากผมไปวัด หรือ สถานที่อื่นๆ และมีคนเข้ามาถามชื่อ นามสกุล และ อายุ

ผมก็ตอบครับ เพราะไม่เสียหายอะไร และ เพราะยึดติดในความคิดนี่ละครับ

ที่ทำให้เป็นทุกข์อยู่แบบนี้ มีคนไหนที่คิดแล้ว ไม่ยึดติดความคิดของตนเองครับ

จะเห็นมีก็แต่ พระอริยะบุคคลเท่านั้นครับ ที่เป็นปุถุชน ผมยังไม่เคยเห็นครับ

แค่ถามถึงอายุนี่ ถามแล้วจะอายุสั้นลงหรือครับ หากเป็นเช่นนั้นถามผมสิครับ

ผมจะได้อายุสั้นลง เพราะหากผมฆ่าตัวตาย ผมก็ต้องกลับมาเกิดอีก

เกิดมาฆ่าตัวตายอีก จนกว่าจะมีพระอริยะบุคคลมาบอกกล่าวตักเตือน

ผมบอกโทษที่ลบหลู่ไปแล้ว คุณก็ไม่ควรเข้ามายุ่ง เพราะไม่ใช่เรื่องของคุณ

คุณไม่ได้รู้จักคุณขันธ์เป็นการส่วนตัว ไม่เคยเห็นหน้า แต่คุณเดือดร้อนแทน

ไม่แปลกไปหน่อยหรือครับ ควรใตร่ตรองให้ดีครับ

สาธุครับ

 

วิธีของคุณ มีเฉพาะคุณเท่านั้น คนที่มีมรรยาทเขาไม่ทำกันหรอก

ผมไม่ได้เดือดร้อนแทน แต่เห็นว่าไปก้าวก่ายสอบถามเรื่องส่วนตัว

 

คุณไม่รู้หรือครับ ว่าคุณขันธ์ตามรังควานผมมาตั้งนานแล้ว

เขาหาเรื่องชวนผมถกเถียงมาตั้งนานแล้ว ผมไม่ไปถกเถียงกับเขา

เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร ซ้ำยังมาว่ากล่าวว่าผมเป็นพระเทวทัต

ผมก็ไม่ไปโต้เถียง เพราะไม่ใช่เรื่องจริง แต่ที่ผมถามเรื่องอายุนั้น

เพราะคุณขันธ์ต่อว่าผมว่าเป็นเด็ก ผมจึงถามว่าคุณขันธ์อายุเท่าไร

เพราะจะเป็นบาปกรรมที่ไปต่อว่าคนที่มีอายุมากกว่าครับ

หากคุณขันธ์อายุมากกว่าผม คุณขันธ์จะได้ไม่บาปครับ

แต่หากอายุน้อยกว่าผม จะเป็นบาปกรรมครับ คราวนี้คงเข้าใจนะครับ

และ ผมก็ถามมาตั้งนานแล้วครับ พอถามทีไร คุณขันธ์ก็จะเงียบหายไปทุกที

สาธุครับ

 

สวัสดีครับ เซียนโศ ^^

ทักซะหน่อย วันนี้ราศีจับ

 

สวัสดีครับ คุณโชแปง

สายๆ ไปวัดฯ นัดช่างตีราคางานซ่อมกุฏิฯ

สาธุครับ

 

ขอตัวก่อน ไปวัดฯ นัดช่างฯเอาไว้ ทำธุระส่วนตัว