รู้โดยไม่ต้องคิด

เอ็งจะให้จบอย่างไร ให้รู้ดำรู้แดงอะไร

 

นรกนะไหม้เท่าไรมันไม่มอดหรอก เอ็งจะไปจบได้อย่างไร
มันจะจบเอ็งต้องจบด้วยตนเอง จะไปให้คนอื่นเขาจบอะไร
ประสาท

 

คุณรู้อยู่แก่ใจ ตั้งแต่วันที่เข้ามาหาเรื่องผมแล้ว

หากคุณบอกกล่าวธรรมะดีดีแก่ผม ผมน้อมรับเสมอครับ

อย่าได้ใช้วาจาที่หยาบคลายเลยครับ ต่างคนต่างที่ ต่างคนต่างมา

ไม่ได้เกิดมาในสถานที่เหมือนๆกัน ความรู้สึกนึกคิดจึงไม่เหมือนกัน

จะบอกกล่าวธรรมะ ก็ควรใช้วาจาที่ฟังแล้วเข้าใจ ไม่ใช้คำที่หยาบคลาย

เพียงเท่านี้ ก็เป็นการจรรโลงพระศาสนาของพระศาสดาแล้วครับ

สาธุครับ

 

...ฉันว่า นิวรณ์แรงแล้ว นะ แต่เขาก็รู้จักเหตุผลนะ ถ้าถูกก็บอกถูก ถ้าผิดก็บอกผิด แต่นี่เหรอผู้ปฏิบัติ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ขอเตือนครั้งสุดท้ายนะ นี่หวังดี คุณติด ตัว ทิฏฐิอุปาทาน อยู่นะ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยติด ผมก็เคย จนครูบาอาจารย์ตำหนิเอาเลย ถึงจะรู้ กิเลสเหมือนน้ำเมานะ ถ้าเมาแล้ว มันรู้อะไรยากแล้ว ม้าพยศ ยังฝึกได้นะ นับประสาอะไรกับคน ถ้าได้รับการฝึกก็ดีได้...!

 

ถ้าเอ็งรับไม่ได้ ก็กลับไปปฏิบัติธรรมที่บ้าน จะมาคุยกับคนอื่นทำไม
เอ็งเคยเห็นเด็กที่มัน ร้องขอให้พ่อแม่ ซื้อของเล่น พอไม่ให้แล้วมันกระทืบเท้าไหม
นั่นแหละ สันดานของเอ็งนั่นถูกปลูกฝังมาแบบนั้น

 

เมื่อรู้ก็ดีแล้วครับ แต่ยังไม่วายที่จะด่าว่าอยู่

คุณคงเคยมีประสบการณ์ชีวิตมาแบบนี้กระมัง

จึงชื่นชอบที่จะด่าว่าผู้อื่น ไม่ด่าว่าชีวิตจะดีขึ้นอีกมากครับ

สาธุครับ

 

ที่กล่าวมานี่ ไม่แตกต่างจากที่คุณเป็นอยู่เลย

ผมไม่เคยเป็นแบบที่คุณพูดหลอก เพราะผมมีแต่ให้

ให้มาตั้งแต่ 10 กว่าขวบแล้ว ตั้งแต่13-14 จนตอนนี้ก็ยังให้อยู่

ผมเคยขอพ่อแม่จริง แต่แค่ครั้งเดียว และ ไม่เคยขออีกเลย

ไม่มีโวยวายด้วย คุณเองรึป่าวที่ทำแแบนั้นน่ะ

ผมอ่อนให้แล้ว คุณไม่อ่อนบ้างเหรอ หรือ ยังอยากทะเลาะอยู่

 

mini series เรื่องนี้ ใครมีจิตวิทยามากกว่า ก็ได้เปรียบ แต่ไม่มีใครเลยที่จะชนะ เพราะมีแต่ผู้แพ้

 

จะไปเล่นจิตวิทยาทำไมกันละคุณ ที่กล่าวไปนั่นเป็นความจริงทั้งหมดแหละ

 

ตอนนี้บังเกิดความสับสนแก่ผมเป็นอย่างยิ่ง หลังอ่านมาหลายหน้าแล้ว ไม่เข้าใจสักนิด มีแต่เรื่องยากๆ ทั้งนั้น อนุโมทนากับทุกท่านที่เข้าถึงพระธรรม สาธุ

 

แพ้ตั้งแต่เริ่มทะเลาะถกเถียงแล้วครับ ไม่ว่า คุณ ขันธ์ หรือ ผม

อันนี้ผมรู้ดีครับ "คนไม่ทะเลาะกันย่อมไม่รู้จักกัน" สุภาษิตจีนว่าไว้เช่นนั้น

แม้แต่คนที่เข้ามาข้องเกี่ยว ก็จะรู้จักกัน ไม่มากก็น้อย

และ ความรู้จักนี้ จะนำพาให้การพูดคุยที่เปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้น

ไม่ว่าจะพูดคุยกันอยู่ หรือ ไม่พูดคุยกันอีก ก็มาจากการทะเลาะถกเถียงกัน

สาธุครับ

 

หากกระทำบ่อยๆ เป็นการเสพคุ้น นำพาให้เป็นคนมีจิตใจที่เป็นโทสะ

ไม่เป็นสิ่งดีครับ การเสพสิ่งนี้บ่อยๆ นำพาความเป็นทุกข์มาสู่ตน

หากวันใดไม่ได้เสพในสิ่งเหล่านี้ จะรู้สึกทรมาน และ จะเข้ามาเสพสิ่งนี้อีก

เป็นสิ่งที่ทำให้ยึดติดโดยไม่รู้ตัว เป็นการนำเอาพระธรรมมาล้อเล่น

เพื่อความสนุก เพื่อความบันเทิง เป็นเหตุให้ไม่ก้าวหน้าไปสู่หนทางแห่งการหลุดพ้นครับ

สาธุครับ

 

สุดแท้แล้วแต่คุณครับ ผมเตือนเพราะเห็นโทษแล้วครับ

สาธุครับ

 

ผมเห็นโทษตั้งแต่ครั้งที่ผมทะเลาะถกเถียงกับ คุณ เอกวีร์ แล้วครับ

คุณ เอกวีร์ ทำให้ผมได้เห็นโทษของการทะเลาะถกเถียง

ผมจึงบอกกล่าวผู้ที่เข้ามาชวนผมทะเลาะถกเถียงว่าผมไม่ชื่นชอบครับ

สาธุครับ

 

อิ่มสบาย กล่าวได้ถูกต้องแล้ว
คนมาถกธรรม ก็ต้องมีโต้แย้งเป็นเรื่องธรรมดา
ถ้าเราไม่อยากโต้แย้งกับใคร เราต้องนั่งเทียน สถานเดียว

การโต้แย้งนั่นแหละ จะทำให้เรามีสติ มากขึ้น มีโยนิโสมนสิการที่ได้จาก การพิจารณาธรรมของทั้งผู้อื่นและตัวเรา

ส่วนคนที่ไม่ชอบโต้แย้ง ต้อง นั่งเทียน

 

คนที่เข้ามาโต้แย้งทางธรรม ยังได้ธรรม
แต่พวกที่มาถามอายุ ไม่ได้ห่าอะไรเลย

 

ผมก็ยังบอกตามเดิมครับ สุดแท้แต่คุณครับ ไม่ใช่เรื่องของผม

ผมไม่ชื่นชอบ ผมชื่นชอบแต่ประโยชน์แห่งการปฎิบัติภาวนาครับ

สาธุครับ

 

ยังไม่หยุดใช้คำหยาบคลายเลย คุณมีปัญหามากเหรอครับ

วิตกจริตมากเหรอครับ ถึงได้ชื่นชอบที่จะด่าว่าคนนั้น คนนี้

อายุมากแล้ว ยังไม่รู้เลยว่า อะไรควร ไม่ควร

วาจาหยาบคลาย ผิดศีลข้อ 4 ทำแล้วทำอีก จนเป็นนิสัยไปแล้ว

 

นี่ๆ ถามจริง ดูไม่ออกเลยเหรอว่า

เอกวีร์ กับ ขันธ์ เนี่ยะ

ยังกับแกะ ยังกับแกะ

อะไรกัน ขันธ์เอย เอกวีร์เอย เห็นต่างกันได้ยังไงเนี่ยะ

 

ขอบคุณครับ ที่มาบอกกล่าว

สาธุครับ