ภัยพิบัติน้ำท่วมโลกของจริงเริ่มต้นเดือนนี้

อันนี้คล้ายๆกับที่เคยฝันเห็นเลยค่ะ ^^

แต่ที่มีอุกาบาตตกลงมา แล้วมีคนตายเยอะมากๆเนี่ย ในฝันของพี่มันเป็นอีก 100 กว่าปีเลยอ่ะค่ะ แต่ระหว่างนี้มันจะมีภัยพิบัติเล็กๆเกิดขึ้นเรื่อยๆ (แบบเรียกน้ำย่อย)

อันนี้ ธรรมชาติเหมือนเขาต้องการสื่อสารกับพี่ (จริงๆเขาคงจะสื่อสารกับทุกคนแหละ แต่พี่ถามเขา เขาก็เลยตอบมา)

เวลาเกิดน้ำท่วม แผ่นดินไหว สึนามิ ที่ไหนก็ตามบนโลกนี้ มักจะมีผู้คนจากทั่วโลกช่วยกันบริจาคเงินและสิ่งของ และมีอาสาสมัครเข้าไปช่วยเหลือ รัฐบาลต่างๆก็ส่งความช่วยเหลือมา

นี่คือ ธรรมชาติเขาต้องการสื่อให้รู้ว่า "ภัยพิบัติ คือการเรียกร้อง น้ำใจ จากมนุษย์โลก" คือการให้แบบไม่หวังผล ความมีเมตตาที่มนุษย์โลกมีน้อยลงเต็มที

ก่อนหน้านี้ เขาให้พี่เห็นอดีตชาติที่เคยตายจากน้ำท่วมมาก่อน.. พอตายแล้วเขาก็พากษ์ให้ฟังว่า นี่นะ คนเรา เกิดและตาย มาหลายภพชาติ ก่อนหน้านี้เราก็เคยตายเพราะภัยธรรมชาติมาแล้ว จะกลัวไปทำไม

เสร็จแล้วเขาก็ให้พี่ดูอนาคตชาติ (ความรู้สึกคือ อีก 100 ปีข้างหน้า อีกนานมาก) จะมีอุกาบาตหรืออะไรสักอย่าง แบบถล่มโลกเลย แล้วเกิดเป็นคลื่นสึนามิ มีไฟไหม้ น้ำท่วม โคลนถล่ม ทำให้คนตายเยอะมากกกกกกกกกก!!

พวกที่รอดชีวิตได้เนี่ย ก็จะตามๆๆหาญาติตัวเอง ว่าอยู่หรือรอด ตายหรือเปล่า

สุดท้าย เหลือคนที่รอดชีวิต "น้อยมาก!!" (พี่คิดว่าประมาณ 30% ของประชากรโลก หรืออาจจะน้อยกว่านั้นนะ เพราะมันดูน้อยมากจริงๆ)

แล้วคนที่รอดชีวิตมานี่ จะอยู่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัย มีแต่การช่วยเหลือกัน

ตอนกลางวัน พวกผู้ชายจะรวมตัวกัน ออกไปตามหาคนที่รอดชีวิตที่ติดอยู่ตามที่ต่างๆ

พวกผู้หญิงจะอยู่ที่แหล่งพักพิง ทำกับข้าว มีบ้าน เขาก็เลือกทำเลที่มีบ้านหลังใหญ่และยังไม่พังลงมา คนก็อยู่ด้วยกัน

แล้วคนที่มีความรู้ด้าน Technology เขาจะออกไปตามเก็บพวกอุปกรณ์สื่อสารที่อยู่ในห้างที่ยังไม่พังอ่ะ แล้วก็เอามาสื่อสารกับผู้คนที่รอดชีวิตที่อยู่ตามที่ต่างๆทั่วโลก

ตอนนี้ เงินไม่มีความหมายละ ซื้ออะไรไม่ได้ ห้างก็พัง ธนาคารก็พัง คนที่มีความรู้สมัยใหม่และรอดชีวิตมา จะเริ่มฟื้นฟูพวก Computer มือถือ โทรทัศน์

มีการซ่อมพวกบ้านเรือนที่ยังไม่พังมาก ที่ยังพออยู่ได้ แล้วทุกคนก็มีบ้านอยู่ แรกๆก็เต็มไปด้วยความโศรกเศร้า ผ่านไปสัก 4-5 ปีคนก็เริ่มชิน กลายเป็นสังคมที่ ไม่มีการซื้อขาย ไม่มีการใช้เงิน ใครอยากปลูกผักก็ทำ ใครอยากตัดเย็บเสื้อผ้าก็ทำ ใครชอบทำอาหารก็ทำ มีคนไปบูรณะร้านอาหารที่ยังไม่พังลงมามาก แล้วก็ทำอาหารแจกๆให้กับคนที่รอดชีวิต เขาก็แจกแบบนี้ตั้งแต่เกิดภัยพิบัติวันแรกๆ แล้วเขาก็แจกเรื่อยๆมา

ตอนหลังๆมา คนที่รอดชีวิตเริ่มฟื้นฟูโลกนี้ กลายเป็นโลกที่ไม่มีการซื้อขาย มีทีวี computer internet มือถือ มี Technology ใช้เหมือนเดิม!! แต่ไม่มีการซื้อขาย ผู้คนมีโทรศัพท์ไว้ติดต่อสื่อสารกันคนละเครื่อง แต่ไม่ต้องจ่ายตังค์ (เพราะไม่รู้จะไปจ่ายให้ใคร --' องค์กรอะไรก็พังหมด เจ้าของเครือข่ายก็ตายหมด)

ตอนหลังๆ คนที่รอดชีวิตมาก็เริ่มมีการสื่อสารกับผู้คนที่รอดชีวิตที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลก

โลกนี้ ไม่มีระบบเงิน กลายเป็นโลกที่มีประชากรเหลือน้อยๆ แต่ใช้ชีวิตกันอยู่แบบช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ใครใคร่ทำอะไรก็ทำ ใครใคร่อยากจะศึกษาอะไรก็ทำ

เล่าแค่นี้แหละ จริงๆก็ฝันเป็นเรื่องเป็นราวเลยแหละ ทำเป็นหนังได้เลย แต่เล่าแค่นี้ละกันนะ อิอิ ^^

 

ผมก็ไม่ได้อยากตอบโต้นะ และคงจะไม่มาอีกแล้วแหละ ตามสบายกันก็แล้วกัน แต่ให้ลองไปอ่านแต่ละคำที่เขาตอบโต้มาสิ ว่าคนอื่นเลวบ้าง สาปแช่งบ้าง หน้าด้านบ้าง ถ้อยคำส่อเสียดมากมาย ... แล้วนี่หรือถ้อยคำของผู้ที่อ้างว่าปฏิบัติธรรม มีธรรม?? ควบคุมอารมณ์ยังไม่ได้ แล้วมาบอกว่านั่งสมาธิ มีญาณ เห็นนิมิต จริงหรือ???

 

เห็นอยู่ค่ะ ><

ก็เพราะอย่างนี้แหละ ถึงไม่อยากให้น้องเขาตอบโต้ (พอดีตัวเองก็เคยเป็นเหมือนกันอ่ะค่ะ ฮ่าๆๆ ^_^)

ปกติก็เป็นคนไม่พูดคำหยาบ ไม่เคยด่าใครนะพูดจริงๆไม่เคยด่าใคร ไม่เคยโกรธเกลียดใคร แต่พอโดนคนมาว่าในกระทู้ เราก็ด่าแหลก(หลุดหมดเลย --')

ซึ่งเราคิดว่า น้อง amminnie พื้นฐานเธอคงไม่ใช่คนที่ด่าใครหรอกค่ะ แต่คนเรามักจะมีอารมณ์โมโห และทำในสิ่งที่เกิดมาไม่เคยทำเวลาที่โกรธๆใครสักคนอ่ะค่ะ

เราก็เลยเลือกที่จะมาเตือนน้องเขาอ่ะค่ะ ^^ อันที่จริงเราไม่ได้เตือนคุณ เพราะน้องเขาเป็น เจ้าของกระทู้อ่ะค่ะ ก็เลยคิดว่าเลือกเตือนน้องเขาดีกว่า

คนเราทะเลาะกันในเวบบอร์ด ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายหยุดก่อนอ่ะค่ะ ไม่งั้นจะตอบโต้กันแบบ Infinity ไม่มีหยุด..

แล้วเราคิดว่า ถ้าปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดได้เองนี่ก็ ทำได้ยาก (ที่รู้ว่ายาก เพราะเคยเป็นมาก่อนค่ะ) ก็เลยขอเป็นตัวกลางมาคั่นการตอบโต้ของทั้งสองสามท่าน ไว้ แค่นี้ดีกว่าค่ะ ^^ เหอๆๆ

 

ใจเย็นๆกันครับ...ผ่านมาแล้วไป ถ้าเราจับเราถือมันจะหนัก รับรู้แล้วปล่อยไปดีกว่าไหมครับ ไมหนักดีนะ

 

คนที่ปฏิบัติธรรมจริง ๆ น่าจะควบคุมอารมณ์ตนเองได้นะคะ

 

ผมว่าพื้นฐานเบื้องต้นของคนที่คิดว่ามีญาณพิเศษ ปฎิบัติธรรมได้ดี น่าจะควบคุมอารมณ์ที่มากระทบได้นะ ...เป็นกำลังใจให้ทั้งสองฝ่ายคับ ที่ต่างก็มีความคิดที่ปราถนาดีต่อกัน อยากช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกเหมือนกัน ,,,แตกต่างความคิดเสมอ แต่เราไม่แตกแยกกัน ,,,จะให้เราวิ่งตามความคิดคนอื่นๆเสมอ มันเป็นไปไม่ได้หรอกคับ ...เราอยู่ในที่กว้าง มองเห็นกันง่าย

 

ปฎิบัติธรรมจริง แต่ยังไม่ถึงขั้นอรหัน อารมณ์โกรธเรายังมีค่ะ
เขาเข้ากระทู้นี้ มาหาเรื่องเราก่อน จะไม่ให้เราปกป้องตัวเองหรอคะ
อยู่ๆก็เข้ากระทู้มาใส้ร้ายเรา จะไม่ให้เราพูดอะไรหรอ
เขาเข้ามาด่าเราก่อน จะให้เรานิ่ง ยอมให้เขาด่าเราเสียๆหายๆหรอ
แล้วเราเจอคนเลว มาปรักปรำ จะไม่ให้เราปกป้องตัวเอง หรอคะ
เราก็แค้ชี้แจงความจริง มีหลักฐานยืนยัน เขาไม่ฟัง
แต่เขาก็ยังเข้ามาใช้ถ้อยคำ เสียดสี มาว่า มาใส่ร้าย
มาดูถูกเราต่างๆนาๆ ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริง

เราถูกคนพาล มาว่าร้าย ให้ร้าย
พระพุทธเจ้าท่านว่าถ้าเพื่อปกป้องตน สมควรทำ
เพราะถ้าเราปล่อยให้พวกคนเลวทำร้ายเรา
ก็ถือว่าเราเลวกับตัวเอง
ถ้าเจอคนพาลมาใส่ร้ายแบบนี้ เราก็ต้องปกป้องตัวเองค้ะ
เป็นคุณจะยอมให้คนมาด่าว่า เสียๆหายๆ ทั้งที่ไม่เป็นความจริงหรอ
แต่ละคำที่เขาพูดมา ลบหลู่เรามากๆ ว่าเราต้างๆนาๆ ไม่ยอมเลิกรา
ชนาดไล่เขาอแกไป ก็ยังจะตามราวี
ไปย้อนอ่านดูก็รู้ค่ะ ว่าเราพูดจรืง

 

ใจเย็นๆคับ ถือซะว่ากำลังปฎิบัติธรรมอยู่ มารไม่มี บารมีไม่เกิด ....ยังไงคนที่อ่านกันหลายๆคนเขามองออกว่าไรเป็นไร ที่นี้มีแต่ปัญญาชนคับ >>>เป็นกำลังใจให้ต่างตน ต่างทำหน้าที่

 

ขอบคุณค่ะ ^^ (f)

 

อันนี้หนูขอตอบเท่าที่รู้นะคะ หนูชอบอ่านข่าวพวกวิทยาศาสตร์พวกเรื่องแผ่นดิน และรับน้ำทะเล ที่หนูอ่านมาคือประเทศที่มีความเสี่ยงจะจมทะเลจริงๆคือ ฟิลิปปินส์ กับญี่ปุ่น อย่างตอนนี้ฟิลิปปินส์เริ่มจมน้ำขึ้นเรื่อยๆ เพราะเปลือกโลกบริเวณนั้นมันเคลื่อนตัว ส่วนญี่ปุ่นนี่หนูจำสาเหตุไม่ได้ แต่เหมือนมันจะเกี่ยวเนื่องกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ที่ทำให้แผ่นดินของแถบนั้นมันทรุดลงเยอะมาก

หนูก้เห็นเหมือนพี่ตรงที่ว่า ภาพมันจะเหมือนในหนังภัยพิบัติเลย อันนี้หนูคิดว่าเป็นเพราะ ว่าหนังภัยพิบัติมันก็จำลองมาจากเหตุการณ์ จริง อย่างสึนามิหรือแผ่นดินไหว ของพี่มีเสียงพากษ์ด้วย ใหญ๋ๆกังวาลๆ ฟังแล้วขนลุกใช่มั้ยคะ แต่ระหว่างช่วงที่หนูเห็นมันก็ขนลุกมากเหมือนกัน เพราะมันรู้สึกเหมือนเราไปอยู่ที่นั่นจริงๆ เหมือนตื่นอยู่ด้วยซ้ำ อะไรๆมันก็จริงมาก หนูว่าที่พี่เห็นก็อาจเป็นการถอดจิตไปค่ะ เพราะปรกติเวลาคนเราหลับจิตเราจะล่องลอยอยู่แล้ว และบางทีจิตพี่ก็ไปจูนตรงกับอะไรบางอย่าง
พี่เป็นคนสบายๆป่ะคะ เพราะปรกติแล้วคนที่สบายๆ ไม่เก็บกดและไม่เครียด ไม่คิดมาก เป็นคนตรงๆ จิตจะไวและเห็นเรื่องพวกนี้ได้ง่ายกว่า

 

คนอ่านก็ควรจะทำใจเป็นกลาง เชื่อหรือไม่เชื่อเป็นอีกเรื่อง ไม่ควรมาคอยจับผิด
คิดอกุศล เขาอุตส่าห์เสี่ยงต่อคำด่าออกมาเตือน สามัคคีกันไว้เถิดดีกว่า ประเทศเราจะได้เจริญทางจิตใจขึ้นบ้าง

 

พื้นฐานหนูเป็นอย่างที่พี่พูดเลย ปรกติอยู่เฉยๆ ไม่หาเรื่องใคร
ใช้ชีวิตของเรา ไม่ยุ่ง ไม่ว่าใคร แต่พอมีคนด่าหนูก่อน หนูก็อดไม่ได้จริงๆค่ะ >< ก็ด่าสวน แต่คนอื่นเขาหยุดนะคะ พอหนูบอกเขาว่า เอ้ย เธอมาหาเรื่องเราก่อนนะ
แต่ผู้ชายคนนี้ konkhangram หนูก็อยู่ของหนูเฉยๆ อยู่ๆเขาก็มาหาเรื่องหนู
ตามราวีหนูไม่หยุด
หนูบอกเขา เออ คุณมาหาเรื่องเราก่อนนะ
เขาก็ยังตามราวีไม่เลิกรา ตามกัด ตามจิก
เกิดมาก็พึ่งเคยเจอคนพาล แบบนี้ค่ะ ทำอะไรไม่ถูกเลย

พี่น่ารักมากๆ ^^ ที่มาเป็นตัวคั่นกลาง
เพราะก็ขอให้เขาไปแล้วไปลับอย่ากลับมารังควานกันอีกเลย

 

มาเป็นกำลังใจให้กับคุณamminnie ขอให้เตือนต่อไป ใครจะว่ายังก็ช่าง อย่าไปสนใจและโต้ตอบ ภัยพิบัติใหญ่กำลังใกล้เข้ามา มีคนอีกหลายคนที่สื่อได้จากสิ่งศักดิ์สิทธ์แบบคุณ ขอให้ทำด้วยใจที่บริสุทธิ์ มารเหล่านั้นก็จะพ่ายแพ้ไปเอง ดิฉันขออนุโมทนาในจิตที่เป็นกุศลของคุณด้วย


ทฤษฎีวันสิ้นโลก2012 (1/4) [ame=http://www.youtube.com/watch?v=FavmZQoxSik&feature=plcp&context=C46d4185VDvjVQa1PpcFM7gZ68UMPQ3D9l79ST3n0NTVJE8_LU4zw=]ทฤษฎีวันสิ้นโลก2012 (1/4) - YouTube[/ame]

ทฤษฎีวันสิ้นโลก2012 (2/4)
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=xSM13VHyG3Q&feature=plcp&context=C4323258VDvjVQa1PpcFM7gZ68UMPQ3C9tK1LbXE0tUopBN5NiLcU=]ทฤษฎีวันสิ้นโลก2012 (2/4) - YouTube[/ame]

ทฤษฎีวันสิ้นโลก2012 (3/4)
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=amkZ2bYCgAk&feature=plcp&context=C4695004VDvjVQa1PpcFM7gZ68UMPQ3Hwu6C33ki3BK6kaWE3Xl14=]ทฤษฎีวันสิ้นโลก2012 (3/4) - YouTube[/ame]

ทฤษฎีวันสิ้นโลก2012 (4/4)
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=Sxqx-VUxhLg&feature=plcp&context=C442e45bVDvjVQa1PpcFM7gZ68UMPQ3NRrj53qPiNfhzoDGHWj2Ss=]ทฤษฎีวันสิ้นโลก2012 (4/4) - YouTube[/ame]

ประวัติ อาจารย์ปริญญา ตันสกุล
ประวัติ อาจารย์ปริญญา ตันสกุล

 

หนูอยากเจอคนแบบพี่มานานแล้วค่ะ ตอนนี้ก็รณรงค์ให้คนทำมรณานุสติกันเยอะๆ
เรื่องตายเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่คนเรารักร่างกาย ห่วงทรัพย์สิน รักชีวิตก็เลยมองภัยพิบัติเป็นเรื่องน่ากลัว อย่างที่พี่พูดเลย
หนูก็ชอบธรรมชาติ พี่ชอบไปเดินเล่นสวนมั้ยคะ
หนูมีกระถางต้นไม้เล็กๆในบ้าน ตอนนี้ในบ้านหนูจะเป็นป่าแล้วว ^^ หนูไปซื้อพวกของแต่งบ้าน ที่เป็นดอกไม้ กับต้นไม้ มาตกแต่งบ้านเต็มเลย รู้สึกมันร่มรื่นดี หนูไปวัดป่าธรรมชาติ สวยมาก สง้บสงบ ธรรมชาติที่นั้นสวยมากจริงๆ
เวลาเห็นข่าว ต้นไม้ใหญ่หลายร้อยปี ถูกตัด เคลียร์พื้นที่ตึก แล้วเศร้าจัง
ใจก็อยากให้โลกกลับไปเขียว ชอุ่มเหมือนเดิม แต่คงไม่มีทางเพราะตอนนี้เป็นป่าคอนกรีตไปซะแล้ว T T

ทุกวันนี้หนูไปวัด เวลาไปไหว้พระ ก็ไม่ได้ขอพรแล้วค่ะ แต่ก่อนเวลาไปจะขอทุกที เหมือนเป็นธรรมเนียม แต่หลังๆมานี้ไม่ได้ขอแล้ว เพราะกลับมารู้สึกพอใจสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ แล้วใจมันอื่มเลย พี่ทำดีแล้ววค่ะ อธิษฐานให้คนอื่น ^^หนูรู้มาว่า พวกที่เสียชีวิตจากภัยพิบัติ จะหวาดกลัวและหลงทางมากที่สุด
บทแผ่เมตตาปรกติก็ดีนะคะ ปรกติหนูก็ท่องอันนี้

 

พี่เห็นละเอียดมากๆเลยค่ะ (ปรกติเวลาหนูฝันตื่นมาก็ลืมหมด >< ถ้าไม่รีบตื่นมาจด) อ่านที่พี่เล่าแล้วเหมือนโลกในอุดมคติเลย น่าอยู่จัง มีแต่คนช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ไม่มีการแก่งแย่ง ไม่เร่งรีบ ไม่เคร่งเครียดหาเงิน
ผู้คนได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ หนูว่าดีจังนะคะ ไม่ต้องซื้อขายอะไร
ใครชอบเย็บผ้าก็ทำ ใครชอบทำอาหาร ก็รับหน้าที่นั้น
มีอิสระได้ทำงานอดิเรก โลกก็สะอาด ไม่มีพวกมลพิษ มันมีความสุขมากๆเลยนะ
พวกฝรั่งเขาก็มีโลกในอุดมคติแบบนี้ หนูว่าจริงๆก็คงทุกคนเลย
แต่ทุกวันนี้ ยิ่งโลกเจริญเท่าไหร่ ความเมตตาก็ยิ่งหายไปจากมนุษย์
เศร้า แต่จริง
ที่หนูเห็นถึงการชำระล้างโลก เหลือผู้ชีวิตจำนวนน้อยมากๆๆๆเหมือนกันค่ะ
เป็นการเริ่มต้นใหม่ ธรรมชาติจะถูกฟื้นฟูให้กลับมาสวยสะอาดอีกครั้ง คนที่เหลือก็จะอยู่กันแบบ ช่วยเหลือกัน มองไปทางไหนก็มีแต่ธรรมชาติที่สวยมากๆ เหมือนสวรรค์บนดินเลยค่ะ แต่ที่เห็นคือจะไม่มีการกินเนื้อสัตว์กันแล้ว มีแต่แปลงผักเต็มไปหมด มีแต่ความสุข ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสมาก
หนูกับพี่เห็นเหมือนๆกันเลย ^ ^ หนูลองไปอ่านพวกนิมิตกับฝันของคนอื่นๆ ที่โพสไว้ในหลายๆเว็บ หลายคนมากก็เห็นเหมือนพวกเรา
หนูว่าธรรมชาติคงอยากให้พวกเรามนุษย์เห็นว่า โลกที่มีความสุขเป็นยังไง(f)

 

แก้ข่าวหน่อย ไม่ได้โดนแบนอะไร ไม่ได้พูดหยาบคายอะไรสักนิด เพียงแต่ไม่อยากมาตอบโต้เท่านั้นเอง จะว่าอะไรก็ว่าต่อไปเถอะ ตามสบายครับ ตามวุฒิภาวะที่มีอยู่ก็แล้วกัน

 

แต่ของพี่มันเป็นแค่ความฝันล่ะค่ะ มันไม่ใช่ภาพนิมิตแบบของน้องอ่ะ อิอิ ^^ เลยไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆหรือเปล่า

แต่ในความฝันของพี่อ่ะ เหมือนเขาพยายามจะบอกอ่ะ.. ว่า.. ให้สังเกตุดู ทุกครั้งที่ภัยธรรมชาติมา มนุษย์ที่เหลือจะเริ่มแสดงออกถึงน้ำใจไมตรี การช่วยเหลือจุนเจือ

คล้ายๆกับว่า เขาให้สังเกตุ!!

ถ้าภัยพิบัติมาน้อยๆ คนก็แสดงน้ำใจออกมาน้อยๆ พอภัยพิบัติมาครั้งใหญ่ คนก็แสดงออกมากๆ

แล้วเขาก็พาไปดู อนาคต ที่แบบ.. โลกนี้.. ต้นไม้ล้ม น้ำไหลตามถนน มีไฟไหม้ด้วย เหมือนโลกเพิ่งโดนอะไรไม่รู้ชน มีไฟไหม้ น้ำท่วม สุดยอดของ "หายนะ" เลยแหละ เหอๆๆ ^^

แต่.. หลังจากเกิดหายนะครั้งร้ายแรงนี้ คนที่รอดชีวิตมาได้ กลับอยู่กันแบบ.. แบบช่วยเหลือกันอ่ะ ไม่มีรัฐบาล ไม่มีเงิน ไม่มีการแบ่งชนชั้น

แล้วที่พี่บอกว่า พี่ฝันละเอียดมากแต่ไม่ได้เล่าเนี่ย ก็เพราะว่า มันเหมือนในหนังเลย พี่ก็อยู่กับเพื่อนๆ(ก็คือผู้หญิงที่รอดชีวิตมาด้วยกันอ่ะแหละ) แล้วพวกผู้ชาย เขาตื่นเช้ามาทานข้าวทานปลาแล้ว เขาจะรวมตัวกัน ออกไปตามหาคนที่รอดชีวิตที่อยู่ตามที่ต่างๆให้มารวมตัวกัน มาอยู่ด้วยกัน

แล้วพี่ก็แบบ.. ปิ๊งๆ ผู้ชายคนหนึ่ง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ^^ (ซึ่งในความรู้สึกคือ เขาก็คือแฟนคนปัจจุบันของพี่นี่แหละ แต่ในภาพความฝันเนี่ย เหมือนเราเพิ่งได้รู้จักกันหลังภัยพิบัติล้างโลกอ่ะ เพราะได้มีโอกาสมาอยู่แหล่งพักพิงเดียวกัน)

ตอนนี้ ผู้หญิงจะอยู่ที่แหล่งพักพิง มีผู้ชาย 2-3 คนอยู่ด้วย(เขาก็ไม่ปล่อยให้ผู้หญิงอยู่กันเอง) แต่ผู้ชายส่วนมากจะออกไปตามหาคนที่รอดชีวิต

แรกๆเนี่ย พวกป้าๆที่เขาทำอาหารเป็นอ่ะ เขาจะไปตามเก็บวัตถุดิบจากห้างสรรพสินค้า แล้วก็เอามาทำๆแจก คล้ายๆตอนน้ำท่วมปี 54 อ่ะ เห็นป่าว?? ไม่มีการซื้อขาย เขาก็ทำแจกๆๆ

คือ.. ห้างมันก็พังแล้วอ่ะ เจ้าของห้างไม่รู้เป็นหรือตาย แล้วเราก็ไม่มีตังค์ แล้วจะไปจ่ายตังค์ให้ใคร ?? โลกมันพังหมดแล้วอ่ะ

เสร็จแล้วเขาก็ทำแจกไปเรื่อยๆ หลังๆเขาไม่อยากเดินไปห้างบ่อยๆ เขาก็ไปได้รถเข็นมา (คล้ายๆรถโตเกียว) แล้วเขาก็ทำขนมแจกเลย

ถ้าเป็นพวกแม่ๆ ป้าๆหลายๆคน ก็เข้าครัวทำอาหาร ใครอยากกินอะไรก็บอก ถ้าเป็นพวกผู้ชายนี่สั่งได้เลย ถ้าเป็นผู้หญิงบางทีเกรงใจป้าๆก็ไปทำเอง หรือถ้าป้าๆทำไว้แล้วก็ไปกิน

พวกผู้หญิงสาวๆ(รวมถึงพี่ด้วย) จะชอบไปตามห้าง ไปหาเสื้อผ้าสวยๆมาใส่ อิอิ ^^ แล้วก็เอามาให้คนอื่นๆที่แหล่งพักพิงด้วย

พวกสาวๆจะชอบใส่ชุด Dress ยาวๆ มองๆดูเหมือนคนโบราณ แต่ถ้าเป็นพวกป้าๆ ป้าๆเขาจะใส่ชุดธรรมดา พวกผู้ชายก็ใส่ชุดธรรมดา แต่พวกผู้สาวชอบใส่ชุดสวยๆ (เพราะมันไม่ได้ซื้อแล้วนี่ >< อยากแต่งอะไรก็แต่ง แต่งที่หาได้อ่ะ)

พวกผู้ชาย 2-3 คน แรกๆจะไปหาวิทยุ เสาอากาศ Computer ที่ยังใช้งานได้อ่ะ ก็เอามามาตั้งๆๆๆ เขาจะสื่อสารกับคนที่เหลืออยู่ตามที่ต่างๆทั่วโลกอ่ะ (ตอนนี้ยังไม่มีทีวี เพราะนี่มันหลังภัยพิบัติใหม่ๆ ไม่มีสถานีข่าวละ)

แรกๆก็ยังสื่อสารไม่ได้หรอก.. พวกที่เก่งเรื่องไฟฟ้าผู้ชายที่รอดชีวิตมา ก็จะมาต่อไฟฟ้า หาหม้อแปลง แบตเตอร์รี่ เขาทำยังไงไม่รู้ แต่จะเป็นผู้ชายทำ

ช่วงแรกๆจะเป็นแบบนี้ บ้านหลังใหญ่ๆอยู่กันหลายๆคน

พอผ่านไป 4-5 ปี พวกภัยพิบัติต่างๆ มันเริ่มนิ่งอ่ะ.. ป้าที่เคยทำขนมบนรถเข็น ก็เริ่มเดินหาบ้าน หาร้านอาหาร แล้วเขาก็บูรณะ ป้าเขาก็ทำอาหาร มีความสุขมาก ทำแจกฟรี มันไม่มีเงินซื้อขายกันแล้ว เงินก็ปลิวไปกับลมกับน้ำหมดแล้ว เจ้าของธนาคารก็ตายแล้ว --' เจ้าของห้างก็ไม่รู้เป็นหรือตาย หรืออยู่ที่ไหน

คนที่เหลือก็เดินหาบ้านกัน หลังไหนไม่พังก็อยู่ หลังไหนพังนิดหน่อยก็ช่วยกันบูรณะ แล้วทุกคนก็มีบ้านอยู่

แล้วพวกที่เก่งๆ พวกวิศวะกร พวกนักคอมฯ นักวิทยุ เขาเก่งๆกัน หลังๆเขาก็สามารถหาหนทางติดต่อกับคนที่รอดชีวิตจากมุมต่างๆของโลกได้

แล้วคนพวกนี้ล่ะ เขาก็รวมตัวกัน ฟื้นฟูบูรณะเทคโนโลยี

ภายหลังต่อมา 4-5 ปีนี่แหละ ก็เริ่มมีโทรศัพท์มือถือใช้เหมือนเดิม มีทีวี มีการถ่ายทอดสดออกทีวี

แต่.. ไม่มี"เงิน" O.O

ไม่มีการซื้อขายเลย.. ทุกอย่าง "ฟรี"

ใครชอบเย็บผ้าก็ทำ ใครชอบปลูกผักก็ทำ ปลูกผักแล้วก็เอาไปให้ร้านอาหาร หรือใครอยากได้ก็เดินมาเอา

ใครอยากเรียนรู้เรื่องวิทยุหรือคอมพิวเตอร์ก็ทำ

มันคล้ายๆกับเป็นช่วง ฟื้นฟูโลก แต่มันไม่มีการซื้อขาย

ใครถนัดทำอะไรก็ทำ

ทุกคนเสียใจมามากพอแล้วกับการสูญเสีย มันก็เลย มีแต่น้ำใจ การช่วยเหลือ การแบ่งปัน มีแต่รอยยิ้ม

จะว่าดีก็ดี จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี เพราะกว่าจะได้บรรยากาศแบบนี้มา.. ก็มีคนตายไปเยอะเหมือนกัน!!

 

ส่วนเรื่องที่เขาให้ดูอดีตที่เราเคยตายจากการโดนน้ำท่วมเนี่ย

มันเร็วมาก..

ตอนที่เราตาย เราก็แบบ "อ๊ะ ตายแล้วหรอเนี่ย ?? "

พอเรารู้ตัวว่าตายแล้ว เขาก็พากษ์ให้ฟังว่า

การตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัว คนเรา เกิด ตาย เกิด ตาย มาหลายภพหลายชาติ

ตัวเราเอง ก็เคยตายเพราะโดนภัยน้ำท่วมมาแล้ว มาชาติภพนี้เจอน้ำท่วมอีก ก็ไม่เห็นต้องกลัว เพราะเราก็เคยจากน้ำท่วมมาแล้ว (แต่เขาไม่ได้บอกว่าชาตินี้จะตายจากน้ำท่วมอีกนะ อิอิ ^^)

เขาแค่จะชี้ให้เห็นว่า เราเคยตายจากน้ำท่วมมาแล้ว ตอนที่วิญญาณหลุดออกจากร่าง(ของชาตินั้น) ก็ไม่เห็นเรากลัว เพราะมนุษย์คนหนึ่งผ่านการเกิดการตาย มาแล้วหลายภพหลายชาติ

คล้ายๆเขาจะบอกเราว่า ไม่ต้องกลัวตาย แต่ให้กลัวว่า"ตายไปแต่ยังไม่ได้ทำสิ่งดีๆเลย" ให้กลัวแบบนี้ดีกว่า

พึงระลึกไว้เถิด สำคัญมากๆ ตอบแทนพระคุณบิดามารดา นั่งสมาธิแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ ทำได้แบบนี้ ต่อให้ตายวันพรุ่งนี้ ก็ไม่เสียใจ(อันนี้คำพูดเราเอง ^^)

 

ความนิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหวนะค่ะ

 

น้อง amminnie ช่วงนี้เห็นนิมิตอะไรอีกไหมคะ ???

จริงๆอยากฟังน้องเล่าเรื่องนิมิตอ่ะ >< ไม่อยากให้โต้ตอบกับคนนั้นแล้วอ่ะค่ะ ^^

เรามาคุยเรื่องภัยพิบัติกันดีกว่า อิอิ ^^